“นั่นไงมานู้นแล้ว”
ลดาพูดขึ้นพร้อมกับหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมช่อดอกไม้ราคาแพง ที่ทุกคนเห็นต่างก็ต้องมองตามและอิจฉาคนที่ได้รับ
“พี่ให้หนูครับ”
“ขอบคุณนะคะ” พิพลอยรับช่อดอกไม้มาถือด้วยความรู้สึกที่หลากหลายจนไม่สามารถอธิบายออกมาได้
“ไปตอนนี้เลยไหมครับ” กวินถามอย่างใส่ใจ
“ค่ะ”
“ไปทานข้าวด้วยกันไหมครับ” ชายหนุ่มหันไปถามเพื่อนๆ ของแฟนสาวตามมารยาท
“พวกเราไม่อยากไปเป็นก้างขวางคอหรอกค่ะ” ควีนตอบไปตามมารยาทเช่นกัน ถึงแม้ว่าในใจจะไม่อยากให้เพื่อนไปก็ตาม
“อย่าลืมถามเรื่องนั้นล่ะ”
ก่อนที่กวินกับพิพลอยจะเดินออกไป ลดาก็ไม่ลืมที่จะกระซิบบอกเพื่อที่จะย้ำเพื่อนรักอีกครั้ง
ระหว่างทางไปร้านอาหารบรรยากาศบนรถก็ถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ เงียบจนผิดปกติ เงียบจนกวินสังเกตได้
เมื่อมาถึงร้านอาหารกวินก็ชวนพิพลอยคุยเพื่อไม่ให้บรรยากาศดูเงียบจนเกินไป
ร่างบางก็ถามคำตอบคำ ทำตัวไม่ถูก ในใจก็อยากจะรู้ อยากจะถามเรื่องเมื่อคืน แต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยถามออกมาตรงๆ สุดท้ายก็ได้แต่เก็บทุกอย่างเอาไว้ในใจ
หลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จกวินก็มาส่งพิพลอยที่มหาวิทยาลัย เพราะเธอมีเรียนต่อ ถึงแม้เขาจะอ้อนไม่ให้เธอมาเรียน แต่เธอก็ใจแข็งยืนยันที่จะมาเรียนเหมือนเดิม
“พี่ไปก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
เมื่อเดินเข้ามาในห้องยังไม่ทันที่เพื่อนจะได้ถามอะไร อาจารย์ก็เข้ามาสอนพอดี และวันนี้เป็นวันที่พิพลอยเรียนไม่รู้เรื่องเลย ในใจเอาแต่คิดมากเรื่องที่กวินพาผู้หญิงขึ้นคอนโด
ทว่าตอนอยู่ร้านอาหารเธอกลับไม่กล้าที่จะถาม แต่พอกลับมาเรียนก็มีคำถามมากมายเต็มหัวไปหมด
ในใจก็อยากจะเชื่อใจชายหนุ่ม ภาพที่เธอเห็นมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ แต่อีกใจก็อดที่จะคิดไม่ได้เลยจริงๆ
ในตอนที่พิพลอยออกไปทานข้าว เพื่อนๆ ต่างก็เป็นห่วงและช่วยกันสืบว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร จนได้คำตอบที่แน่ชัดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นรุ่นน้องในคณะที่กวินเคยคุยด้วย แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าทั้งสองคนอยู่สถานะไหนกัน
พิพลอยถึงกับคิดหนักไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอจะต้องทำตัวยังไงต่อไป เธอยังจะเชื่อใจและไว้ใจผู้ชายที่เธอรักได้อยู่หรือเปล่า หัวใจดวงน้อยจุกหน่วงไปหมด
ส่วนทางด้านกวินที่ไม่มีเรียนก็กลับมาที่ห้อง มือหนาเลื่อนโทรศัพท์ไปมาก่อนจะเห็นภาพที่ตัวเองพาผู้หญิงขึ้นคอนโด เสือร้ายถึงกับตกใจที่มีคนเห็นและแอบถ่ายภาพมาลงโซเชียล
“ใครแอบถ่ายวะ!”
กวินสบถออกมาด้วยท่าทางหัวเสีย และนี่คงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้พิพลอยไม่คุยกับเขาอย่างแน่นอน เธอคงโกรธที่เห็นภาพนี้แน่ แล้วเขาจะต้องคิดหาวิธีง้อยังไงดี
เมื่อคิดแผนได้เสือร้ายก็ใช้ไม้ตายด้วยการเลือกที่จะชวนพิพลอยไปทานข้าวที่ห้องเพื่อน มือหนารีบกดเข้าแชทไลน์ของหญิงสาวอย่างไม่รีรอ
GAVIN : หนูเรียนเสร็จกี่โมงครับ
PIPLOY : มีอะไรหรือเปล่าคะ
ข้อความที่ห่างเหินเพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเธอกำลังโกรธเขาอยู่อย่างแน่นอน
GAVIN : พี่ว่าจะชวนหนูไปทานข้าวที่คอนโดเพื่อนพี่ครับ หนูว่างหรือเปล่า
GAVIN : พี่อยากแนะนำหนูให้เพื่อนๆ รู้จัก
PIPLOY : หนูเรียนเสร็จประมาณห้าโมงเย็นค่ะ
GAVIN : เดี๋ยวพี่ไปรับนะครับ
ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มอย่างพอใจ การง้อผู้หญิงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาไปแล้ว ซึ่งเป็นการง้อที่ไม่ต้องอธิบายอะไร เพียงแค่เปลี่ยนเรื่องและพาไปแนะนำทำความรู้จักเพื่อนๆ แค่นี้ก็พอแล้ว
..
เมื่อถึงเวลากวินก็ไปรับพิพลอยตามนัดและพาเธอมาที่คอนโดของคริสตัล ซึ่งวันนี้เป็นวันที่เพื่อนๆ นัดทานข้าวและดื่มด้วยกันตามปกติ
พิพลอยเดินตามกวินด้วยอาการประหม่า เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอจะได้รู้จักเพื่อนๆ ของเขาอย่างเป็นทางการ
“กว่าจะมาได้นะมึง” ออสตินทักขึ้นมาเป็นคนแรก เพราะเพื่อนๆ มาครบกันหมดแล้ว
“มึงพาใครมาด้วยอะ” ตามด้วยเสียงของนาเดีย ทำเอาทุกคนต่างหันไปมองคนที่มาใหม่ทันที
“นี่พิพลอย แฟนกู” กวินแนะนำหญิงสาวข้างกายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ให้เพื่อนๆ ได้รู้จัก
“ส่วนนี่ออสติน ไทเกอร์ คริสตัล ไอริน นาเดีย แล้วก็ฮันน่า” กวินแนะนำเพื่อนๆ ให้พิพลอยรู้จัก
“สวัสดีค่ะ” พิพลอยเอ่ยทักทายทุกคนพร้อมรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร
ทุกคนต่างยิ้มให้ถึงแม้จะตกใจอยู่บ้างที่เสือร้ายแนะนำว่าเป็นแฟน เพราะคนอย่างกวินไม่เคยใช้คำว่าแฟนกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน
“ทำตัวสบายๆ เหมือนห้องตัวเองเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ” คริสตัลที่เป็นเจ้าของห้องบอกพร้อมรอยยิ้ม
“มึงทำอะไรผิดมาหรือเปล่า” นาเดียถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ ซึ่งเธอรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ
“น้องเขางอนกูอยู่ พวกมึงช่วยกูง้อหน่อย กูไม่เคยง้อผู้หญิง” กวินสารภาพมาตามตรง ตอนนี้เขาอยากให้เธอหายงอนแล้ว
พิพลอยเอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ
“กูว่าแล้วไง” เหมือนที่คิดไว้ไม่มีผิด นาเดียบ่นขึ้นมา
“หนีได้หนีไป อย่าใกล้ผู้ชายแบบนี้” นาเดียพูดขึ้นแบบนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าช่วยกวินหรือเปล่า
“รินไปทำอาหารก่อนนะ” ไอรินที่ไม่ค่อยถนัดเรื่องแบบนี้จึงขอตัวเข้าครัว
“หนูช่วยทำค่ะ”
..
ช่วยงอนนานๆ หน่อยนะพิพลอย
หนึ่งเดือนต่อมากวินเริ่มอาการดีขึ้นทุกวัน แผลที่เคยเจ็บก็เริ่มหายเหลือเพียงรอยแผลเป็นที่ยังคงอยู่วันนี้เป็นวันที่พิพลอยจะเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตอนแรกกวินตั้งใจที่จะไปพร้อมเธอ แต่เอกสารบางอย่างของเขายังไม่เรียบร้อย การเดินทางของเขาจึงต้องเลื่อนออกไปชายหนุ่มกับครอบครัวมายืนรอพิพลอยที่สนามบินเพื่อรอเวลาที่เธอและครอบครัวจะมาถึง ทุกคนตั้งใจที่จะมาส่งเธอในการเดินทางครั้งนี้“นั่นไง หนูพลอยมานู้นแล้ว” คุณแม่ของกวินทักขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวและครอบครัวกำลังเดินมากวินตั้งใจที่จะใช้โอกาสนี้ขอโทษและขอขมาครอบครัวของพิพลอยที่เขาเคยทำไม่ดีและคำเธอเสียใจมาก่อนทันทีที่ครอบครัวของพิพลอยเดินเข้ามา ร่างสูงก็นั่งคุกเข่าลงกลางสนามบินที่มีผู้คนมากมายต่างจ้องมองมาที่พวกเขามือหนาพนมมือขึ้นไหว้ก่อนจะก้มลงกราบขอโทษคุณพ่อกับคุณแม่ของหญิงสาวที่เขาเคยทำไม่ดีกับเธอจนทำให้ครอบครัวของเธอไม่ชอบเขา“ผมขอโทษสำหรับทุกอย่างนะครับ” กวินพูดเข้าเรื่องทันที“ผมขอโทษที่เคยทำให้พิพลอยต้องเสียใจและตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าผมรักพิพลอยมาก ผมอยากจะขอโอกาสดูแลพิพลอยครับ” มือหนายังคงไหว้เพื่อขอโอกาสจากครอบครัวของพิพลอย“มั่นใจ
สามวันต่อมาพิพลอยมาอยู่ดูแลกวินทุกวันถึงแม้ว่าจะมีพยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแลอยู่แล้วก็ตาม เธอก็ยังอยากจะดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาถึงสองวันแล้ว แต่กวินก็ยังคงนอนนิ่งและไม่มีท่าทีว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเลยสักนิดพิพลอยทำได้เพียงไหว้พระขอพรและภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้กวินฟื้นขึ้นมา โชคดีที่คุณพ่อกับคุณแม่อนุญาตให้เธออยู่ดูแลชายหนุ่มจนกว่าเขาจะฟื้นและอาการดีขึ้น โดยมีข้อแม้ว่าถ้าหากเขาฟื้นขึ้นมาเธอจะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศทันทีหญิงสาวจับมือชายหนุ่มมากุมเอาไว้อย่างอ่อนโยน ความรักและความเป็นห่วงที่เธอมีให้เขามันมากมายอย่างที่เธอไม่เคยมอบให้ใครมาก่อนแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้ามองชายหนุ่มที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง แต่เธอก็ยังมีความหวังว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาอาการของกวินตอนนี้ยังคงทรงตัวไม่ได้มีอาการอะไรแทรกซ้อน ร่างกายไม่ได้แย่ลงแต่ก็ยังไม่ดีขึ้นทางคุณหมอก็ยังให้คำตอบไม่ได้เลยว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาตอนไหน บางอย่างอาจจะต้องใช้เวลาและปาฏิหาริย์เข้าช่วย“ขอบใจหนูพลอยมากนะที่มาดูแลตาวินทุกวันเลย” คุณแม่ของกวินรักและเอ็นดูพิพลอยตั้งแค่ครั้งแรกที่เจอเธอ“ไม่เป็นไรค่ะ หนูเต
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่พิพลอยนอนอยู่บนเตียงกว้าง เพราะก่อนที่เพชรจะออกไปเขาได้อุ้มน้องสาวไปส่งที่ห้องนอนของเธอก่อนแล้วคุณแม่คอยดูแลพิพลอยอยู่ไม่ห่างด้วยความเป็นห่วงที่อยู่ๆ ลูกสาวก็เป็นลมไปแบบนี้ ทั้งที่เธอก็แข็งแรงและไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนผ่านไปสักพักมือบางก็ค่อยๆ ขยับและลืมตาตื่นขึ้นมามองเห็นคุณแม่นั่งอยู่ไม่ไกลพร้อมรอยยิ้มที่กำลังมองมาที่เธอ“หนูฟื้นแล้วเหรอลูก” คุณแม่ถามด้วยความเป็นห่วงปนดีใจที่ลูกสาวฟื้นขึ้นมาสักทีพิพลอยนั่งนิ่งและตั้งสติอยู่สักพัก ในหัวกำลังประมวลภาพเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าร่างบางไม่ตอบคุณแม่แต่อย่างใด ใบหน้าสวยแสดงออกถึงท่าทางตกใจ เธอรีบลุกขึ้นยืนและตั้งท่าจะเดินออกจากห้องไปทันที โชคดีที่คุณแม่คว้ามือลูกสาวเอาไว้ทัน“หนูจะไปไหน” คุณแม่ถามด้วยความสงสัยทันทีที่เห็นท่าทางของลูกสาว“หนูจะออกไปช่วยพี่วินค่ะ” พิพลอยตอบไปตามตรงและตอนนี้เธอก็เป็นห่วงเขามาก เธอไม่รู้เลยว่าเธอเป็นลมไปนานแค่ไหนและตอนนี้ชายหนุ่มจะเป็นยังไงบ้าง“คุณพ่อกับตาเพชรออกไปจัดการให้แล้ว หนูรอฟังข่าวอยู่ที่บ้านกับแม่นะ” คุณแม่จับมือลูกสาวเอาไว้แน่น“หนูขอออกไปได้ไหม
หลายวันต่อมาถึงกวินสัญญาว่าจะตามพิพลอยไป แต่เธอก็ยังคงเศร้าเพราะคุณพ่อกับคุณแม่ยืนยันว่าจะให้เธอเดินทางในเร็วๆ นี้เรื่องราวทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนเธอไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเอกสารต่างๆ ก็ดูเตรียมพร้อมไปหมดทุกอย่าง แต่มีอย่างเดียวที่ไม่พร้อมก็คือตัวเธอเองพิพลอยมักจะถือโทรศัพท์ติดตัวตลอดและมักจะค้างสายของกวินเอาไว้ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือพูดคุยกับใครกวินก็ได้ยินและรู้เรื่องไปกับเธอด้วย“ผมจัดการเรื่องที่เรียนให้เรียบร้อยแล้วนะครับ”หลังจากที่ทานอาหารเย็นด้วยกันเสร็จเพชรก็พูดเข้าประเด็นที่กำลังสำคัญที่สุดในตอนนี้กวินที่อยู่ในสายพอได้ยินก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที ตอนนี้เขาอยากจะรู้จริงๆ ว่าครอบครัวของพิพลอยกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เวลานี้เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วพิพลอยนั่งนิ่บมองหน้าพี่ชายด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยถูกบังคับหรือกดดันเท่านี้มาก่อนทั้งๆ ที่ทุกคนก็รู้ว่าเธอไม่อยากไป แต่ทำไมทุกคนถึงไม่ฟังความต้องการและความรู้สึกของเธอเลยสักนิด ทำไมทุกคนถึงอยากให้เธอไปอยู่ไกลขนาดนี้“หนูขอตัวก่อนนะคะ”พิพลอยไม่อยากรับรู้
หนึ่งเดือนต่อมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพิพลอยยังคงเรียนอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมไม่ได้ออกไปไหน และโทรคุยกับกวินแทบจะตลอดเวลาความสัมพันธ์ของพิพลอยกับกวินก็เริ่มพัฒนาในทางที่ดีขึ้นอีกครั้ง ดีจนพิพลอยอยากจะกลับไปใช้ชีวิตที่คอนโดเหมือนเดิมแต่เธอก็ยังไม่กล้าพอที่จะขอคุณพ่อกับคุณแม่ตั้งแต่ที่เธอสัญญาว่าจะขอไปเป็นกำลังใจที่ศาลวันนั้น เธอก็ไม่กล้าที่จะขออะไรอีกเลย ส่วนทางด้านกวินก็เข้าใจพิพลอยมากขึ้น ไม่บังคับและไม่เอาแต่ใจตัวเองเหมือนเมื่อก่อนกวินเฝ้ารอและอดทนเจอพิพลอยแค่สัปดาห์ละครั้งในตอนที่เธอออกไปร้านนวดกับคุณแม่ และเธอก็แอบออกมาเจอเขาทุกครั้งทว่าอาทิตย์นี้คุณแม่ของพิพลอยติดธุระกับญาติๆ เธอก็เลยไม่ได้ออกจากบ้านและไม่ได้ไปหากวินเหมือนทุกครั้งแค่เจอกันอาทิตย์ละครั้งก็นานพอแล้ว แต่อาทิตย์กลับไม่ได้เจอ ทำเอากวินคิดถึงพิพลอยจนแทบบ้า ชีวิตเขาเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากตั้งแต่รู้ใจตัวเองว่ารักพิพลอยจริงๆยิ่งตอนที่เขาสู้คดีก็ยิ่งทำให้เขารู้และมั่นใจว่าพิพลอยนั้นรักเขามากแค่ไหน“วันนี้มึงมีนัดกับพิพลอยไม่ใช่เหรอวะ” ไทเกอร์ถามขึ้นมาเพราะจำได้ว่าวันนี้กวินต้องไปหาพิพลอย“นั่นดิวะ แล้วมึงมานั่งเศร้าทำไม”
ช่วงค่ำของวันพิพลอยนั่งเขี่ยอาหารในจานของตัวเองไปมา ตอนนี้ในหัวของเธอมีคำถามมากมายเต็มไปหมด วันนี้ทั้งกวินก็ไม่โทรมาหาเธอและตอนนี้พี่ชายของเธอก็กำลังทานอาหารและคุยเรื่องงานกับคุณพ่อโดยไม่มีท่าทีว่าการสนทนาในครั้งนี้จะจบลงง่ายๆใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าพี่ชายของเธอจะเดินขึ้นห้องทำงาน พิพลอยใช้โอกาสนี้เดินตามพี่ชายไปทันที“พี่เพชร”“มีอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามน้ำเสียงนิ่งเรียบ สายตายังคงจ้องมองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า“เรื่องคดีเป็นยังไงบ้างคะ” หญิงสาวไม่รีรอรีบถามเข้าเรื่องที่อยากรู้ทันที“พี่เข้าไปดูให้แล้ว”“แล้วพี่วินมีโอกาสรอดกี่เปอร์เซ็นต์คะ” คำถามเดียวที่พิพลอยอยากจะรู้ในตอนนี้“เก้าสิบเปอร์เซ็นต์”คำตอบของเพชรทำเอาหญิงสาวยิ้มกว้างพร้อมกับวิ่งเข้าไปกอดพี่ชายเอาไว้แน่นด้วยความดีใจ“ถ้าพยานไม่กลับคำให้การในชั้นศาลนะ”ทว่าประโยคต่อมาทำให้พิพลอยถึงกับหุบยิ้มทันที“หมายความว่ายังไงคะ” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามพี่ชายด้วยความสงสัย“ถ้าไม่มีใครไปข่มขู่หรือทำอะไรพยายาน แล้วเล่าตามที่เล่าวันนี้ หมอนั่นรอดแน่นอน” เพชรอธิบายให้น้องสาวฟัง“พี่ช่วยให้คนของเราไปดูแลความปลอดภัยให้พยานได้ไหมคะ” พิพลอ