**คู่ของพี่ชายจากเรื่องทฤษฎีร้าย สลักรัก**
เอริก้า ทริกซี่ อายุ 29 ปี
ชื่อเล่น คาริสม่า
อดีตคนรักของรัชทายาทลำดับที่ 1 แห่งจักรวรรดิ หญิงสาวผู้ถูกมองว่าเป็นนางฟ้าตกสวรรค์ ว่าที่ควีนที่กล้าโยนอำนาจและความสุขสบายทิ้ง ผู้หญิงที่กล้าบอกเลิกผู้ชายที่สถานะสูงกว่า ความน่ารักภายนอกที่ถูกฉาบปกปิดความแข็งภายใน ใบหน้าแสนหวานที่นิสัยไม่ได้หวานอย่างที่ทุกคนเข้าใจ
แต่แล้ววันหนึ่ง รักเก่าที่จากกันไปเกือบ 6 ปี ต้องวนกลับมาเจอกันอีกครั้งในฐานะ ‘คู่หมั้น’ เธอยอมทิ้งชีวิตตัวเองเพื่อครอบครัว วนกลับมาเจอ ‘รักเดียว’ ของตัวเอง แต่ในเมื่อเลิกรักได้แล้ว ก็จะไม่มีวันกลับมารักอีก เรื่องราวในอดีตยังวนเวียนในความทรงจำ ในเมื่อลบมันออกไปไม่ได้ ก็ทำให้ทรมานตายกันไปข้าง
“เพลงสวดศพไง...มันเหมาะกับคืนแรกของเราหลังจากแต่งงานกันมาก ให้ความรู้สึกว่าจะต้องอยู่ด้วยกันจนกว่าจะตายจากกันไปข้าง โรแมนติกที่สุด”
สเตนาท์ นูราซิส อายุ 29 ปี
ชื่อเล่น อีวาน
รัชทายาทลำดับที่ 1 แห่งจักรวรรดิ ว่าที่คิงคนต่อไปของประเทศ เรื่องราวในอดีตทำให้เขาสูญเสียรักเดียวของตัวเองไปอย่างไม่สามารถร้องขอให้เธอกลับมา เขาสุภาพ ใจดีและอ่อนโยนในสายตาทุกคน แต่ในสายตาเธอเขาคือ ‘ปีศาจ’
แต่แล้ววันหนึ่ง โอกาสที่พาตัวเธอกลับมาเป็นของเขาก็มาถึง กฎของราชวงศ์ ‘พี่ต้องแต่งงานก่อนน้อง’ และเขาไม่สามารถเลือกคู่ชีวิตของตัวเองได้ด้วยตัวเอง ต้องเป็นผู้หญิงที่ถูกพิจารณาว่าเหมาะสมแล้วเท่านั้น เพราะฉะนั้นเขาจึงกำหนดผู้หญิงที่เหมาะสมด้วยตัวเอง แต่การกลับมาครั้งนี้เธอไม่เหลือความรักต่อเขาอยู่เลย ในเมื่อต้องอยู่ด้วยกันอย่างทรมาน ก็ทำให้ทรมานตายกันไปข้าง
“จะตาย? ไหนลองตายต่อหน้าให้ดูหน่อยสิครับคาริสม่า...ถ้าทำไม่ได้ก็เงียบปาก แล้วอยู่กับฉันจนกว่าเราจะตายกันไปข้าง”
อารัมภาบท
เพี้ยะ!
ฝ่ามือเล็กเหวี่ยงกระทบแก้มเนียนของผู้ชายตัวสูง ใบหน้าหล่อหันสะบัดตามแรง ทุกสายตาของผู้ดูแลภายในห้องรับรองหันมองพร้อมกันเป็นตาเดียว
ถ้าเป็นปกติเธอจะต้องถูกจับตัวแล้วโดนข้อหาทำร้ายเชื้อพระวงศ์ แต่ตั้งวินาทีที่สวมแหวนแต่งงานสถานะก็ถูกเลื่อนขึ้นมาเท่าเทียมกันทันที ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งแม้แต่คนเดียว
"ฟู่ ~" เสียงพ่นลมออกทางริมฝีปากบางเคลือบลิปสติกสีสวย
"...." อีวานหันกลับมาสบตา เขาใช้ลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองชิมเลือดที่ซึมออกมา เพราะไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้เผลอกัดปากตัวเองจังหวะที่ถูกตบเมื่อกี้
"ฉันรอเวลานี้มาตลอดหกปีเลยล่ะค่ะเจ้าชายอีวาน อ่อ! ไม่สิ สามีต่างหาก" ในเมื่อสถานะของเราเท่าเทียมกัน ต่อจากนี้จะเป็นตาของฉันบ้าง
"...." เขายังคงเป็นคนที่ฉันคาดเดาความคิดทางสายตาไม่ได้เช่นเคย ไม่แสดงความรู้สึกโกรธหรือเจ็บที่ถูกตบ เอาแต่เงียบแล้วจ้องหน้าและใช้สายตามองมาเท่านั้น
"ถือว่าเป็นของขวัญวันแต่งงานของเราก็แล้วกันนะคะ" ริมฝีปากบางฉีกยิ้ม
"ของขวัญเหรอ...อือ" รับด้วยแฮะ
"ฉันจะไปงานเลี้ยงแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น แล้วหลังจากนั้นเราก็แยกกัน"
"...." เอาแต่เงียบอีกแล้ว อะไรที่เคยคุยกันไม่ได้เข้าหัวเลยใช่มั้ย
"เข้าใจนะคะคุณสามี ชุดเปลี่ยนสำหรับงานเลี้ยงอยู่ที่ไหนคะ" ฉันเลิกให้ความสนใจเขา แล้วหันไปถามผู้ดูแล
หมับ!
แขนแกร่งโอบกอดรอบคอจากข้างหลัง พร้อมกับออกแรงดึงร่างบางให้ชิดกับตัว
"เราจะไม่ไปงานเลี้ยง ฉันก็มีของขวัญสำหรับวันแต่งของเราให้เหมือนกัน...เข้าใจนะครับคุณภรรยา" เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู เมื่อพูดจบเขาก็ออกแรงดึงฉันไปทางห้องพักรับรอง
"ไม่อยากได้!" แค่พูดแบบนี้ก็รู้แล้วว่าไอ้ของขวัญนั่นมันคืออะไร
"แต่ฉันอยากให้ เปิดประตู" อีวานปล่อยแขนออกจากคอ แล้วเปลี่ยนมาเป็นกอดเอวบางออกแรงอุ้มคนตัวเล็กตรงไปยังจุดหมาย เพียงคำสั่งเดียวทุกคนก็ต่างรีบเปิดประตูให้เขา
ปึง! ประตูห้องปิดลงพร้อมกับร่างบางถูกปล่อยให้เป็นอิสระ
"เมื่อไหร่..." เสียงหวานพึมพำขึ้นมา ดวงตาแดงช้ำเหมือนกำลังจะร้องไห้หันไปสบตา
"...." สิ่งเดียวที่ทำได้คือ การยืนมองเท่านั้น
"ฉันจะตายไปจากนายสักที" เสียงสั่นเครือเอ่ยถาม คำภาวนาขอให้ไม่เจอเขาอีกตลอดหกปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้ผล คำขอพรสุดท้ายที่ให้ตัวเองตายไปซะคือความหวังเดียวของฉันแล้ว
"ไม่ให้ตาย..." พูดด้วยสีหน้าเฉยชาขนาดนั้นได้ยังไง
"...."
"ต่อให้ทรมานก็ห้ามตาย ฉันไม่อนุญาตให้ตายคาริสม่า" ต่อให้ใครตายเขาก็ยอมรับในกฎของธรรมชาติได้หมด แต่ต้องไม่ใช่เธอ...
"มันคงไม่มีอะไรทรมานไปมากกว่าการที่เราต้องกลับมาเจอกันแล้วล่ะ"
"คิดเหมือนกันเลย" อีวานน่ะใจดีกับทุกคน ยกเว้นฉัน....