ร่างเย้ายวนในชุดเกาะอกสีแดงเพลิง ผมยาวถูกรวบเป็นหางม้าเปิดเปลือยลำคอระหง โชว์เนินอกอวบของวัยสาวที่เบียดกันจนชิดใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างสวยงาม เปิดประตูห้องนอนของตัวเองออกมาเมื่อถึงเวลานัดหมายกับเพื่อนรัก เธอปรายตามองประตูห้องที่ติดกันก็พบว่ามันปิดเงียบ จึงอมยิ้มอย่างผู้ชนะแล้วปิดงับประตูห้องนอนของตัวเองอย่างแผ่วเบาที่สุด
“หึ ไม่ทันฉันหรอก ไคเลอร์”
เท้าเล็กๆ ค่อยๆ ย่องลงมาอย่างเงียบเชียบที่สุด มือข้างหนึ่งถือกระเป๋าแบรนด์เนมใบเล็กส่วนอีกข้างก็หิ้วรองเท้าส้นสูงสีแดงสดคู่ใหม่ล่าสุด ดวงตากลมโตสอดส่ายมองหาพ่อและพี่ชาย เมื่อไม่พบใครสักคนแม้แต่แม่บ้านเพราะเวลานี้ก็ดึกมากแล้ว เป็นเวลาที่ทุกคนต่างแยกย้ายกันเข้าห้องส่วนตัวเพื่อพักผ่อนกันหมด ก็ต้องยกยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะอีกครั้ง
ร่างเย้ายวนถอนหายใจอย่างโล่งอก รู้สึกกระดี๊กระด๊ามีชีวิตชีวาอย่างบอกไม่ถูก นี่สินะ ความหอมหวานของอิสรภาพที่เธอรอคอยมานานแสนนาน
พลอยชมพูนั่งลงที่เก้าอี้ข้างประตูบ้านบานใหญ่เพื่อใส่รองเท้าส้นสูงปรี๊ด แล้วลุกขึ้นยืน เปิดประตูต้อนรับอิสรภาพด้วยใบหน้าที่ฉาบไปด้วยรอยยิ้ม เรียวขาขาวก้าวเดินอย่างมั่นใจ กำลังจะเดินเลี้ยวไปทางขวาเพื่อตรงไปยังโรงจอดรถของบ้าน ก็ต้องชะงักค้างหยุดยืนอยู่กับที่ เมื่อมีเสียงทุ้มต่ำดังมาจากด้านหลัง
“เสร็จแล้วหรอครับ คุณพลอย”
ร่างงามค่อยๆ หันหลังกลับไปมองยังต้นเสียง ก็พบกับชายหนุ่มรูปหล่อร่างสูงใหญ่ ในชุดสูทสากลแบรนด์ดังพอดีตัวสีดำสนิททั้งตัวนอกตัวใน ยืนกอดอกพิงประตูบ้านของเธออยู่ในมุมมืดทำให้เธอมองเขาไม่เห็นตั้งแต่ทีแรก
ดวงตาคมกริบสีเทาเข้มจับจ้องมายังเธอตาไม่กะพริบด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มมีเคราขึ้นตามแนวสันกราม ยิ่งทำให้เขาดูดุดันมีเสน่ห์จนใจสาวเต้นแรง
“ไคล์..”
ริมฝีปากจิ้มลิ้มสีแดงสด เอ่ยออกไปได้แค่นั้น เพราะยังตกอยู่ในมนต์สะกดของดวงตาคมกริบสีเทาเข้ม และใบหน้าที่หล่อเหลาราวเทพเจ้าปั้นแต่งของเขาอยู่
“ครับ ผมเอง”
เสียงทุ้มที่ดังขึ้น เรียกสติของเธอให้กลับคืนมาสู่ตัว จึงสูดหายใจแล้วเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยอย่างถือดี ตามสไตล์คุณหนูพลอยชมพูที่จะมีใครมาทำอะไรขัดใจไม่ได้
“คุณมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้”
คุณหนูคนงามแห่งตระกูลคลาร์กสะบัดเสียงใส่อย่างไม่สบอารมณ์ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้ว ว่าเขามายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ แต่มันรู้สึกขัดใจจนต้องขอระบายอารมณ์เล็กๆ น้อยๆ และเผื่อว่าความเอาแต่ใจของตัวเองจะทำให้เขาเบื่อหน่ายและรีบลาออกไปทำอย่างอื่น เธอจะได้ใช้ข้ออ้างขอไม่มีบอดี้การ์ดกับพ่อและพี่ชายอีกครั้ง
“ก็มายืนรอคุณไง คุณจะไปเที่ยวไม่ใช่หรือ”
บอดี้การ์ดหนุ่มลดแขนลงจากการกอดอก แล้วยืดตัวยืนเต็มความสูง ดวงตาคมกริบกวาดมองร่างเย้ายวนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า หัวคิ้วเข้มๆ ก็ต้องขมวดมุ่นแทบจะชนกันอยู่รอมร่อด้วยความไม่พอใจในเสื้อผ้าที่โชว์เนื้อหนังของเธอขนาดนี้
“อืม ใช่ ไปสิ”
เธอหมุนตัวอย่างรวดเร็วจนผมที่มัดเป็นหางม้าสะบัดแทบจะโดนใบหน้าหล่อเหลาของเขา แล้วก้าวเดินออกไปทันที ใบหน้าสวยงอง้ำราวเด็กถูกขัดใจก็ไม่ปาน
“เดี๋ยวครับคุณพลอย คุณจะไปเที่ยวกลางคืนด้วยชุดนี้หรอ”
ร่างงามหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง คราวนี้เธอก้าวเท้าเดินไปหาเขา ยกแขนขึ้นมากอดอก จ้องมองตาเขาเขม็ง แล้วเอียงคอเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยประโยคเด็ดถามเขาออกไป
“ทำไม ไม่สวยหรอ”
คนตัวโตกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ขบกรามเล็กน้อย แล้วตอบเธอกลับไป
“สวย แต่มันไม่โป๊ไปหรอกหรือครับ ไปสถานที่แบบนั้น แต่งตัวแบบนี้มันอันตราย”
“ทำอย่างกับไม่เคยเห็นผู้หญิงแต่งตัวแบบนี้ แล้วอีกอย่าง ฉันจะมีคุณไว้ทำอะไร ถ้าฉันจะออกไปเที่ยวแล้วมีอันตราย”
ไอ้เรื่องอันตรายต่อร่างกายของเธอ เขาไม่กลัวหรอก คนอย่างเขามั่นใจในฝีมือมากพอ ว่าเขาสามารถปกป้องเธอได้ แต่ความปลอดภัยจากสายตาโลมเลียของเหล่านักเที่ยวผู้หิวกระหาย เขาจะปกป้องเธอได้อย่างไร ถึงแม้ไอ้พวกนั้นจะทำได้แค่มอง เอาอะไรไปจากเธอไม่ได้ แต่เขาก็ไม่อยากให้ใครหน้าไหน ได้เห็นเรือนร่างสวยงาม และผิวพรรณขาวผ่องนวลเนียนของเธอทั้งนั้น
“ผมหมายถึง เรือนร่างของคุณจะถูกผู้ชายกลัดมันมองอย่างแทะโลมและเอาคุณไปจินตนาการต่อถึงไหนๆ คุณโตแล้ว ผมพูดแบบนี้คุณน่าจะเข้าใจนะครับ”
“เข้าใจ และใช่ ฉันโตแล้ว จะแต่งตัวแบบไหนก็ได้ ตราบใดที่ฉันยังไม่แก้ผ้าออกจากบ้าน ไม่ต้องมาวุ่นวายกับเรื่องการแต่งตัวของฉันอีกคนหรอก”
อีกคน อย่างนั้นหรือ แปลว่าเธอก็คงเคยโดนพ่อและพี่ชายทั้งสองบ่นมาแล้วในเรื่องนี้ แต่สุดท้าย เด็กดื้อก็ยังคงเป็นเด็กดื้ออยู่วันยังค่ำสินะ
“หึ ดื้อเหมือนเดิมเลยนะครับ”
คนตัวบางหน้างอง้ำยิ่งกว่าเดิม เชิดหน้าขึ้นแล้วหมุนตัวเดินตรงดิ่งไปที่รถยนต์คันหรูของตัวเองอย่างรวดเร็ว จนคนตัวโตที่มาทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้เธอต้องส่ายหน้าน้อยๆ ระอาในความดื้อของเธอ ที่แม้จะผ่านมากี่ปี ก็ยังเป็นเหมือนเดิมไม่มีผิด
พลอยชมพูมองแผ่นหลังกว้างที่เดินนำอยู่ตรงหน้า แล้วลดสายตามองยังข้อมือของตัวเองที่มีมือใหญ่ของเขากุมอยู่ เขาพาเธอเดินฝ่าฝูงชนเข้ามาในผับหรู เหมือนกับบอดี้การ์ดทุกคนของเธอ แต่ที่แตกต่างคือ ไม่เคยมีใครกล้าถูกเนื้อต้องตัวเธอเหมือนอย่างที่เขาทำอยู่ตอนนี้เลย
ไม่รู้ว่าเพราะจังหวะดนตรีที่เร้าใจหรือเพราะอะไร ทำไมหัวใจของเธอมันถึงเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก ทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนแท้ๆ
ไม่นาน เขาก็พาเธอฝ่าฝูงชนมาจนถึงโต๊ะที่เพื่อนสนิทของเธอทั้งสองคนนั่งอยู่
“ไฮ ริชชี่ ซาร่า รอนานไหม”
สามสาวตรงเข้ากอดกันเหมือนกับไม่ได้พบกันมานาน ทั้งๆ ที่พวกเธอวิดีโอคอลคุยกันแทบทุกวัน
“ไม่นาน พวกฉันก็เพิ่งมาถึงนี่แหละ วันนี้ควงหนุ่มหล่อคนใหม่มาอีกแล้วหรอจ๊ะ”
ริชชี่เอ่ยแซวเพื่อนรัก เพราะพลอยชมพูแทบจะเปลี่ยนบอดี้การ์ดทุกครั้งที่พวกเธอนัดกันมาเที่ยว เรียกได้ว่า คนที่มารักษาความปลอดภัยให้คุณหนูตระกูลคลาร์กผู้นี้ แทบไม่ซ้ำหน้าเลยทีเดียว
“อือ เขี่ยทิ้งไม่หมดซะที”
“ยาก บอกเลย นี่แกจะไม่แนะนำให้พวกฉันรู้จักหนุ่มหล่อคนนี้หน่อยเหรอ”
ซาร่าที่เพิ่งจะกลายเป็นสาวโสดได้ไม่นาน มองบอดี้การ์ดของเพื่อนรักตาเป็นมัน เพราะผู้ชายคนนี้ ตรงเสปคของเธอสุดๆ
“ออ ไคล์ นี่ซาร่า กับริชชี่ เพื่อนรักของฉันเอง ส่วนนี่ไคเลอร์ ผู้คุมวิญญาณคนใหม่ของฉัน”
สองสาวหัวเราะร่วนกับคำเปรียบเปรยของเพื่อนรัก ก่อนจะหันไปจับมือทักทายกับหนุ่มหล่อ ที่ต้องบอกว่าหล่อมาก ออร่ากระจาย จนสามารถเป็นดาราได้เลยทีเดียว
“คุณไคเลอร์มาทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้ยัยพลอย ต้องตัวติดกันตลอดเวลาแบบนี้ แฟนคุณไม่ว่าเอาหรอคะ”
ซาร่า สาวเซ็กซี่ที่เพิ่งเลิกกับแฟนหมาดๆ เอ่ยถามบอดี้การ์ดรูปหล่อพร้อมจ้องมองเขาด้วยแววตายั่วยวน ซึ่งเขาก็เข้าใจในสารที่เธอสื่อออกมาเป็นอย่างดี
“ผมไม่มีใครครับ”
เขาไม่ได้โกหก เพราะตอนนี้เขาไม่ได้มีใครจริงๆ เพราะการที่เขาเลือกที่จะกลับมาทำงานกับเจ้านายผู้มีพระคุณของพ่อที่มีบุญคุณท่วมหัวเขาและครอบครัว คนรักที่คบกันมานานหลายปีก็เลยตัดสินใจทิ้งเขาไปคบกับคนที่สามารถบันดาลชีวิตสุขสบายในแบบที่เธอต้องการ
“เชื่อได้หรอคะ คุณทั้งหล่อทั้งเท่แบบนี้”
“ผมไม่มีเวลาให้ใครอีกแล้ว นอกจากคุณพลอย ไม่มีใครทนอยู่กับคนที่ไม่มีแม้เวลาเป็นของตัวเองได้หรอกครับ”
พลอยชมพูเงยหน้าจากแก้วเครื่องดื่มสีสวยของตัวเอง เพื่อมองหน้าเขาทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นจากปากของเขา
“ไม่แน่หรอกนะคะ ยัยพลอยใช้ผู้ชายเปลืองจะตาย เดี๋ยวก็เปลี่ยนผู้ชายเป็นว่าเล่นอีกหรอกค่ะ”
ซาร่าเอ่ยออกมาเหมือนเป็นเรื่องขำ เพราะคำว่าใช้ผู้ชายเปลืองในความหมายของพวกเธอ ก็คือใช้บอดี้การ์ดเปลืองนั่นเอง แต่คนที่เพิ่งกลับมาเจอเธอไม่คิดแบบนั้นด้วย เพราะเขาคิดว่าคุณหนูผู้เอาแต่ใจที่แต่งตัวเปรี้ยวจนเข็ดฟัน และชอบปาร์ตี้สังสรรค์คนนี้ คงมีหนุ่มๆ เข้ามาเป็นตัวเลือกไม่น้อย เธออาจเปลี่ยนคู่ควงบ่อยๆ ตามนิสัยขี้เหวี่ยงขี้วีนของเธอก็ได้ และนั่นมันก็ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
“ก็คอยดูกันต่อไปครับ ว่าใครจะทนใครไม่ได้ก่อนกัน”
“เอาแล้วยัยพลอย แกเจอของแข็งเข้าให้แล้ว”
ริชชี่กระซิบที่ใบหูของเพื่อนรัก ส่วนซาร่ายังคงมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความพึงพอใจ เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เรื่องมากเรื่องผู้ชายอย่างเพื่อนรักทั้งสองคน แถมผู้ชายคนนี้ยังตรงสเปคทุกอย่าง จะเป็นยังไงนะถ้าเธอจะขอเวลานอก พาบอดี้การ์ดของเพื่อนรักไปโยกขย่มกันในรถของเธอสักครึ่งชั่วโมง
บอดี้การ์ดหนุ่มจัดเตรียมทุกอย่างจนเรียบร้อยแล้ว จึงพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์น่าอึดอัดนั้นโดยการออกมายืนรับลมนอกระเบียง เขาหยิบบุหรี่ติดมือออกมาด้วย ซึ่งโดยปกติแล้ว เขาจะสูบเฉพาะช่วงที่เครียดจัดๆ หรือตอนไปเที่ยวสังสรรค์ดื่มกินกับกลุ่มเพื่อนๆ เท่านั้น คนหล่ออัดบุหรี่ลงปอดหลายครั้งจนรู้สึกผ่อนคลายขึ้นนิดหน่อย จึงทิ้งตัวพิงผนังห้องด้านนอกค่อยๆ อัดควันบุหรี่ลงปอดอย่างช้าๆ จนเกือบหมดมวน “ไคล์ มาทำอะไรตรงนี้คะ” ซาร่า สาวเซ็กซี่ที่วันนี้มาในชุดสายเดี๋ยวสีดำ เว้าหลังลงลึกจนถึงบั้นเอว เดินนวยนาดมายืนเคียงข้างเขา เธอก้มมองบุหรี่ที่มือของเขาแล้วต้องเอียงคอเอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะตลอดเวลา เธอไม่เคยได้เห็นเขาสูบบุหรี่ หรือได้กลิ่นบุหรี่มาจากตัวเขามาก่อน จึงไม่คิดว่าเขาจะเป็นสิงห์รมควันด้วยเหมือนกัน “คุณสูบบุหรี่ด้วยหรอคะ ซาร่าไม่เคยเห็น” “ครับ เป็นบางครั้ง” “เครียดหรือเหนื่อยคะ” คนหล่อเลิกคิ้วสูง แทนคำถามว่าทำไมเธอถึงถามเขาแบบนั้น “ก็วันนี้หน้าตาคุณดูเคร่งเครียดนี่คะ ปกติก็ไม่ค่อยยิ้มอยู่แล้ว วันนี้ยิ่งหน้าดุ๊ดุ
“เสียดายจัง ผมช้าไปแล้วหรอเนี่ย ผมน่าจะชวนพลอยให้เร็วกว่านี้” ใบหน้าหล่อเหลาสลดลงอย่างน่าสงสาร จนพลอยชมพูอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหน้าเพื่อนรักทั้งสอง ซึ่งสองสาวก็ต่างพยักหน้าพร้อมกัน เพราะทั้งสองคนก็เชียร์ริชาร์ดให้ได้คบกับเพื่อนรักจนออกนอกหน้ามาเป็นเทอมแล้วเหมือนกัน “เอ่อ จริงๆ ฉันก็ไม่ได้มีนัดอะไรที่ไหนหรอกค่ะ แต่คืนนี้เราสามคนนัดกันไปปาร์ตี้ที่ห้องฉัน แล้วก็มีเพื่อนในคลาสอีกหลายคนจะตามไปสมทบ” ริชาร์ดฉีกยิ้มอย่างยินดี ที่เธอไม่ได้ไปดินเนอร์กับหนุ่มที่ไหน และการที่เธอยังตัวติดกับเพื่อนๆ ผู้หญิงเหล่านี้ นั่นก็แปลว่าเธอยังไม่ได้มีใครที่คบหากันอย่างจริงจัง ซึ่งเท่ากับว่าเขาเองก็ยังมีหวังได้เป็นตัวเลือกของเธอ คิดแล้วก็ขำตัวเอง ชายหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย มีเสน่ห์แพรวพราว เป็นที่ต้องการของสาวๆ ทั่วอเมริกาอย่างเขา ดันหมดท่าคอยตามขายขนมจีบให้ลูกสาวมาเฟียที่แทบไม่ชายตาแลเขานอกจากสถานะเพื่อนเลย “ถ้าไม่รังเกียจ คุณจะตามไปสนุกกับพวกเราก็ได้” “ได้สิครับ ผมไปแน่นอน คุณส่งที่อยู่ของคุณให้หน่อยนะครับ เดี๋ยวผมตามไป” “ได้ค่ะ”
“ฉันอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน แล้วมันก็ไม่ได้สั้นอะไรขนาดนั้น วันหลังถ้าฉันออกไปเที่ยว จะใส่ให้คุณดู ว่าที่สั้นๆ มันเป็นแบบไหน” “ถ้ามันมากเกินไป ผมคงอนุญาตให้คุณออกจากห้องไปไหนไม่ได้” “มันจะมากเกินไปแล้วนะไคล์ คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของฉัน ฉันจะใส่เสื้อผ้าแบบไหนก็ได้ พี่ชายฉันยังไม่ว่าอะไรเลย” “คุณแน่ใจหรอ ที่คุณพีทกับคุณแพทไม่ว่า ไม่ใช่ว่าเขาสองคนบ่นจนเบื่อที่จะบ่นแล้วนะครับ อีกอย่างคุณพอลอนุญาตให้ผมดูแลคุณทุกเรื่อง แถมยังมีสิทธิ์ปฏิเสธสิ่งที่คุณสั่ง ถ้าเรื่องนั้นมันไม่เข้าท่า” “ไคล์..” คนสวยเม้มปากแน่น หงุดหงิดงุ่นง่าน อยากจะด่าเขาให้แรงๆ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะที่เขาพูดมามันก็ถูกอีกแล้ว “ครับ คุณจะเข้าไปเปลี่ยนชุดไหม” “ไม่มีทาง” เธอเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี แถมยังเดินไปนั่งทิ้งตัวพิงโซฟาโดยไม่สนใจดวงตาคมดุที่จ้องมองมาเลย ทั้งๆ ที่จริงๆแล้วสภาพนางหงส์ของเธอในตอนนี้ มันเหมือนหงส์ปีกหักไม่มีผิด เพราะมันทั้งหมดสภาพ ทั้งปวดหัว ทั้งคลื่นไส้ จนต้องยกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ
ไคเลอร์กลับเข้ามาในห้องที่อยู่กับเจ้านายสาวแล้ว เขายืนมองร่างบางที่นั่งเอนหลังซบกับโซฟาอย่างหมดท่าเพราะความเมาก็ต้องส่ายหน้าน้อยๆ คุณหนูผู้เอาแต่ใจ และใช้ชีวิตสุดโต่งทุกด้าน หลายปีที่เขาห่างหายจากเธอไปไม่ได้เจอหน้าเธออีก ไม่รู้ว่าเธอใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง เพราะเธอที่เอาแต่ใจขนาดนี้ไม่มีทางเลยที่บอดี้การ์ดธรรมดาๆ จะเอาเธออยู่ “คุณพลอยครับ เข้าห้องเถอะ” เขาลดตัวลงนั่งบนส้นเท้า ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ใกล้กับใบหน้าหวานที่ยังคงหลับตาพริ้มเพียงคืบ ดวงตาคมกริบไล่มองทุกส่วนบนใบหน้าของเธออย่างหลงใหล มือใหญ่ค่อยๆ ยื่นไปแตะที่แก้มใสอย่างไม่รู้ตัว และทันทีที่มือใหญ่ร้อนผ่าวของเขาแตะที่แก้มของเธอนั้น เขาก็ได้สติทันใด ดวงตาคมกริบเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ ก่อนจะรีบชักมือกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว “คุณพลอย เข้าห้องเถอะนะครับ” เขาเลื่อนมือลงมาแตะที่แขนของเธอ แล้วออกแรงเขย่า แต่เรียกเท่าไหร่คนตัวบางก็ไม่ตอบกลับมา จึงจำเป็นต้องอุ้มเธอไปส่งจนถึงเตียงอีกแล้ว “อือ ไคล์” เธอได้สติรู้สึกตัวเมื่อเขาอุ้มพาเธอเดินเข้าห้องนอนมาแล้
ร่างใหญ่นอนอยู่บนเตียงกว้าง คิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นานหลายนาทีแล้ว ก็ยังไม่สามารถข่มตานอนหลับได้ พลันก็มีเบอร์โทรแปลกๆ โทรเข้ามา “สวัสดีครับ” “สวัสดีค่ะ คุณไคล์ ซาร่านะคะ จำได้ไหมเอ่ย” ซาร่า สาวสวยเซ็กซี่ที่มองเขาด้วยสายตาเชิญชวนตลอดเวลา คงได้เบอร์โทรของเขามาจากคุณหนูพลอยชมพูเพื่อนรักสินะ “ครับ คุณซาร่า มีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่าครับ” เขาพยายามขีดเส้นแบ่งความสัมพันธ์กับสาวสวยคนนี้เอาไว้ เพราะเธอเป็นคนใกล้ตัวเกินไป คงไม่เหมาะแน่ถ้าเขาจะทำอะไรเหมือนตอนเป็นวัยรุ่น ที่มีความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดกับสาวๆ มากหน้าหลายตา เพราะไม่เคยมีใครที่ทำให้เขาอยากจะหยุดได้จนมาเจอเคธี่ ที่เข้ากันได้ดีกับเขาในหลายๆ เรื่อง แต่ถึงอย่างนั้น เวลาที่ไปเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อนโดยที่ไม่มีเธอไปด้วย เขาก็แอบไปมี One Night Stand กับสาวๆ ที่ตามมาจากผับเสียหลายครั้ง ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ทั้งๆ ที่เขาก็รู้สึกว่าเขาก็พอใจในตัวเคธี่แล้ว แต่ทำไมกลับไม่เต็มอิ่มเสียที “ไม่เห็นต้องเป็นทางการขนาดนี้เลยค่ะ ฉันไม่ใช่เจ้านายของคุณซะหน่อย คิดว่าฉันคือเพื่อนของคุณก็ได้ค่
หนุ่มสาวเดินทางถึงคอนโดมิเนียมสุดหรูของเธอในตอนบ่าย ทั้งคู่แยกย้ายกันเก็บสัมภาระเข้าห้องตัวเอง ไม่นานคนตัวโตก็ออกมาเดินสำรวจห้องชุดสุดหรูของเธอ เพื่อตรวจเช็กเรื่องความปลอดภัย ก็ปรากฏว่าคอนโดมิเนียมที่ราคาแพงหูฉี่แบบนี้ ระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยม พื้นที่ใช้สอยในห้องกว้างขวาง แถมตรงโถงกว้างใกล้กับระเบียงอีกด้านมีสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดไม่เล็กนัก มิน่าล่ะ สาวๆ ถึงบอกว่าจะมาจัดปาร์ตี้กันที่ห้องนี้แทนที่จะออกไปเที่ยวบ่อยๆ “ในตู้เย็นมีของสด เดี๋ยวมื้อนี้ฉันทำอาหารง่ายๆ ให้ทานก่อนแล้วกันนะ” “ครับ ให้ผมช่วยไหม” เขาตอบเธอกลับไปด้วยใบหน้างงๆ กำลังจับต้นชนปลายว่าเธอพูดว่าจะทำอาหารให้เขาทานจริงๆ หรือเขาหูฝาดไป ตั้งแต่รู้จักกันมาก็ไม่เคยเห็นลูกสาวตระกูลคลาร์กเข้าครัวเสียที อาหารง่ายๆ ที่เธอบอกจะคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรือเปล่าก็ไม่รู้ “ไม่ต้องหรอก นั่งรอเถอะ คุณขับรถมาหลายชั่วโมงแล้ว โปรโมชันแค่วันนี้เท่านั้นนะ” ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว คุณหนูพลอยชมพูมีหรือจะมาคอยทำอาหารบริการบอดี้การ์ดอย่างเขา เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว “ครับ”