ขนมจีบขนมใจ
-------------
สวัสดีเช้าที่แสนสดใส ให้ทายว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหนเอ่ย... เฉลย! มารอพ่อยอดรักยอดดวงใจอยู่ตรงลานจอดรถข้างคณะวิศวะน่ะซี่~ มันคือทางเดียวที่จะเจอเขาได้ในเวลานี้นั่นเอง
เดินวนไปมารอบรถมอเตอร์ไซค์ เบื่อก็หยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดดูนั่นนี่บ้าง คือไม่ใช่คนติดโซเชียลอะไรเท่าไรไง ส่วนใหญ่จะใช้คุยงานอ่านนิยายอ่านการ์ตูนมากกว่า
ฉันสืบตารางเวลาเรียนของเขามาหมดแล้วเรียบร้อย มีเรียนเช้าทุกวันฉะนั้นสามารถมาหาเขาเวลาเช้าแบบนี้ได้
ยืนรอประมาณครึ่งชั่วโมงพ่อยอดยาหยีก็ขับรถยนต์คันโก้เลี้ยวเข้ามา ความร่ำรวยนี้เป็นที่เลื่องชื่อลือนามมากนะคะ ทายาทคนเล็กของท่านเจ้าสัวพิชิตกับคุณหญิงทิพาวดีน่ะ
ตระกูลนี้เขาทำธุรกิจเกี่ยวกับขนส่งโลจิสติกส์รายใหญ่ทั้งในและนอก อีกทั้งยังเป็นเจ้าของธุรกิจค้าปลีกร้านสะดวกซื้อที่มีมากกว่าหนึ่งหมื่นสาขาทั่วประเทศ ไม่นับรวมสาขาต่างประเทศซึ่งก็มีไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันแห่ง และมีโรงงานผลิตสินค้าเพื่อนำมาจำหน่ายเองโดยเฉพาะ
แฮะ แฮะ หวังสูงสุด ๆ เลยฉันเนี่ย...
ทำไงได้ไอ้เราก็รักเขาโดยไม่สนเรื่องฐานะตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
รถยนต์คันหรูจอดเข้าซองเรียบร้อย ฉันฉีกยิ้มรีบวิ่งไปหาขณะที่เขาเปิดประตูรถลงมา
"สวัสดีค่ะเตย์" ร้องทักทายเสียงใส
ชายหนุ่มคนดีทำเพียงแค่มองมานิ่ง ๆ เท่านั้นทำเอาฉันรู้สึกเก้อเขินแต่ก็แค่แป๊บเดียว ไม่เป็นไรจ้า กิ๋งเข้าใจว่าเตย์ยังไม่ชิน
"เอานี่! ขนมจีบขนมใจน้าาา เราทำเองกับมือ รับรองเรื่องรสชาติและความสะอาด"
ยื่นถุงกระดาษที่ในนั้นมีกล่องขนมจีบใส่ไว้ให้ยอดรักยอดดวงใจ ตอนแรกเขาทำท่าทีไม่อยากรับแต่สุดท้ายก็ทนต่อสายตาเว้าวอนประดุจลูกแมวอ้อนของฉัน(?)ไม่ไหวจึงรับไปถือไว้
"ทานให้อร่อยนะคะ แล้วก็... ตอนกลางวันขอมาทานข้าวด้วยได้ไหม"
ซึ่งเหมือนเดิมเขาเลือกที่จะเงียบ ไม่ตอบรับคำขอ ส่วนฉันก็ยังคงฉีกยิ้มมองข้ามความเย็นชาเช่นทุกที
"ไม่ตอบอีกแล้ว งั้นเราถือว่าเธออนุญาตนะ เจอกันตอนกลางวันค่ะ บายยยย"
รวบรัดพลางโบกมือลา วิ่งกลับมาที่มอเตอร์ไซค์คู่ใจเพื่อขี่กลับไปยังคณะของตัวเอง
ภารกิจยามเช้า สำเร็จ!
-------------------
-------------------
เด็กแฟชั่นเขาทำอะไรกัน
ไม่รู้ที่อื่นการเรียนการสอนเป็นยังไงแต่ที่นี่เราอยู่กันแบบสบาย ๆ ปีหนึ่งทฤษฎีล้วน พอขึ้นปีสองลงมือปฏิบัติจริง อนาคตไอ้เราก็อยากเปิดร้านขายเสื้อผ้าที่ออกแบบและตัดเย็บด้วยมือตัวเองเลยต้องตั้งใจมากหน่อย
ขณะที่แก๊งเพื่อนก็ไม่ได้แยกย้ายกันไปไกล อยู่คณะเดียวกันเนี่ยแหละค่ะ แค่อยู่คนละสาขา เวลาเรียนตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง อาศัยนัดพบปะนอกเวลาเอา
เช่นวันนี้ที่มีเรียนเช้าเหมือนกัน กลางวันจึงนัดหมายไปกินข้าวที่โรงอาหารวิศวะ ซึ่งพวกนั้นก็เห็นดีเห็นงามเพราะอยากช่วยเพื่อนจีบผู้ชาย
เราเลิกก่อนเลยลงมานั่งรอใต้อาคารพลางออกแบบชุดที่จะต้องตัดส่งก่อนสอบปลายภาคเพื่อฆ่าเวลา คอนเซปต์คือความสดใสร่าเริง ฟังดูง่ายใช่ไหมล่ะ แต่สำหรับนี่รู้สึกว่ามันยากจังเลย
เอ๊ะ! นี่แนะนำตัวไปหรือยังนะ ถ้าแนะนำแล้วก็จะแนะนำอีกที ชื่อ กุ๋งกิ๋ง นะคะ ชื่อจริงนางสาว บารมิตา ป้องเกียรติ อายุ 20 ปี เป็นลูกคนที่สองของบ้าน ป๋าเป็นเสี่ยเจ้าของสวนผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดระยอง ส่วนหม่าม้าเป็นเจ้าของร้านขายบะหมี่เจ้าดังที่มักมีนักรีวิวมาถ่ายทำบ่อย ๆ และสุดท้ายพี่ชายสุดล่ำบึกตอนนี้รับหน้าที่ดูแลสวนแทนป๋าอย่างเต็มตัว
"มาแล้วจ้า~" สามกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหา วันนี้ถักเปียผูกผ้าลายดอกซากุระน่ารักมากเลย
"น่ารักจังสาม" เอ่ยทักทายเพื่อนรักพร้อมเก็บของใส่กระเป๋าสะพายข้างใบใหญ่
"ปากหวานมาก เดี๋ยวซื้อบราวนี่ให้สองชิ้นเลย" สามนั่งลงข้างกันพลางยื่นมือมาบีบแก้มฉันด้วยความมันเขี้ยว
"แต๊งกิ้ว ๆ งืออออ อยู่ในช่วงกระเป๋าตังค์ฟีบพอดี" กอดเพื่อนพร้อมกับเอาหัวถูไถไหล่อย่างออดอ้อน
สามน่ะรวยจะตาย เป็นลูกสาวคนเดียวที่มีพ่อเป็นศัลยแพทย์และมีแม่เป็นเจ้าของตลาดใหญ่ ไอ้เราก็เกาะเพื่อนกินมาแต่ไหนแต่ไรด้วยสิ เลยไม่ค่อยจะเกรงใจนักหรอก
"หมดไปกับผ้าน่ะสิใช่ไหม"
"ใช่ เห็นเป็นไม่ได้ต้องพุ่งไปเลือก แล้วแบบนี้มันจะไปเหลือได้ไง" เป็นคนคลั่งไคล้ผ้ามากค่ะ ถูกใจเข้าหน่อยซื้อเก็บตลอด เอาไว้ตัดทำชุดขายนั่นแหละ
"เอาจากเราไปใช้ก่อนไหม คืนตอนไหนก็ได้" ไม่พูดเปล่าหยิบกระเป๋าตังค์ออกมาเปิดแล้วนั่น
ใจป้ำเกิ๊น!
"ไม่เอา ๆ เดี๋ยวเคยตัว" ปฏิเสธสิรอไร ไม่ได้คบเพราะเงินซะหน่อย
"ก็เป็นซะแบบนี้"
"ได้อยู่น่า บ่นไปงั้นแหละ"
"เดี๋ยวบอกหม่าม้าดีกว่าว่ามีเด็กเอาเงินค่าขนมไปใช้สุรุ่ยสุร่ายจนหมด"
"อื้อ อย่าหางานให้กันเชียวนะ!"
"คิคิคิ"
ขณะกำลังคุยเล่นกับสามอยู่นั้นน้ำเงี้ยวก็มากระโดดกอดพร้อมกับจุ๊บแก้มเราคนละที
"คุยไรกันน่ะ!" สดใสไม่แพ้แสงแดดเลยฮะเพื่อน
"ก็แม่คนนี้น่ะสิ เงินหมดตั้งแต่ต้นเดือน" สามได้ทีฟ้อง
"เหอเหอ เกินไปหรือเปล่าคุณกุ๋งกิ๋ง แต่ว่าก็ว่าเถอะรายจ่ายเดือนนี้ของเงี้ยวเองก็เยอะพอตัว พูดแล้วก็เครียดว่ะ"
ปัญหาเงินค่าขนมไม่พอใช้ทำได้เพียงแค่บ่นเพราะขอเพิ่มไม่ได้มีแต่จะต้องทำงานหาเพิ่มเติมเอาเอง ตัวฉันใช้วิธีช่วยงานที่ร้านบะหมี่ของหม่าม้าซึ่งค่าแรงก็ไม่ได้มากมายอะไร
เราสามคนนั่งคุยกันเรื่องนี้ในเชิงบ่นมากกว่า สุดท้ายหากเงินไม่พอจริง ๆ ก็ต้องเอ่ยปากขอป๋ากับหม่าม้าอยู่ดีนั่นแหละ
ไม่นานนักพาสเทลกับลูกเจี๊ยบก็มา สองคนนี้เป็นผู้ชายนะคะ ชื่อน่ารักเข้ากับหน้าตาทีเดียวเชียวล่ะ ก็ทั้งสองคนน่ะเป็นชายหนุ่มที่มีความหล่อและจิ้มลิ้มในคราวเดียวกัน มองแล้วไม่เบื่อ
แน่นอนว่าทั้งสองคนไม่ได้ชอบผู้หญิงจ้า มีสเปคเป็นผู้ชายเนาะ เอ็นดูได้อย่างเดียว
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราทั้งห้าคนรีบยกโขยงไปยังคณะวิศวะ คณะที่มีผู้ชายมากกว่าผู้หญิง คลาสนึงจะเห็นสักคนสองคน แล้วเหมือนคัดหน้าตาเพราะหล่อสวยสู้กับคณะนิเทศได้สบาย
---------------
---50%---
กินอะไรก็ไม่อร่อยเท่ากินเธอ เอ้ย! กินกับเธอ (2)-------------------------------------20 : 30 น.ร้านกาแฟประจำการที่เคาน์เตอร์เรียบร้อย ในร้านยังไม่มีลูกค้าเข้าจึงใช้เวลานี้ตรวจเช็ควัตถุดิบต่าง ๆ ซึ่งเราไม่ต้องเตรียมอะไรเลย ทางร้านเตรียมไว้ให้ทั้งหมด เราแค่มีหน้าที่ทำตามออเดอร์เท่านั้น บอกเลยว่าโคตรเจ๋ง!เมนูวันนี้เป็นผัดกระเพราหมูหมึกกุ้งเลือกได้ตามใจชอบ แกงจืดสาหร่าย ยำวุ้นเส้น แล้วก็ชุดรวมของทอด นะคะคุณลูกค้าขาาาาเช็คของอะไรเสร็จก็มานั่งทบทวนบทเรียนระหว่างรอลูกค้าเข้าร้าน พาลทำให้คิดถึงเรื่องของเขาโดยไม่มีเหตุผล ด้วยความโลภที่อยากจะเข้าใกล้มากกว่านี้ "เฮ้อ~ คงมีโอกาสอยู่ละมั้ง ดูไม่ออกเลยว่าเขาคิดอะไร" ไอ้เรื่องเผื่อใจน่ะเตือนตัวเองตลอดนั่นแหละ ของแบบนี้มันแน่นอนซะที่ไหนกริ๊งงงงงงงงเฮือก!ตกใจเสียงโทรศัพท์ของร้าน ฉันรีบลุกไปยกหูรับสาย ผู้จัดการบอกว่าถ้าโทรศัพท์เครื่องนี้มีคนโทรเข้ามาให้สันนิษฐานเอาไว้ก่อนเลยว่าปลายสายคือเจ้าของคอนโด เขามักจะโทรมาสั่งอาหารในเวลานี้ เมื่อทำเสร็จให้เอาขึ้นไปส่งยังชั้นบนสุดอ่า...ตื่นเต้นยังไงก็ไม่รู้"สวัสดีค่ะ ร้านทีคอฟฟี่ยินดีให้บริการค่ะ"
กินอะไรก็ไม่อร่อยเท่ากินเธอ เอ้ย! กินกับเธอ (1)--------------------------------------ทำงานวันแรกค้นพบว่าไม่ได้สบายอย่างที่คิดนะคะคุณผู้ชม ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในวัยนักเรียนนักศึกษาที่ต้องทำงานส่งอาจารย์และอ่านหนังสือดึก ๆ ต่อให้มีร้านสะดวกซื้อพวกเขาก็ยังต้องการกินอาหารที่ปรุงสุกสดใหม่มากกว่าอาหารแช่แข็งอุ่นร้อน กว่าร้านจะไม่มีลูกค้าเข้าแล้วจริง ๆ ก็ปาไปตีสามกลับมาถึงบ้านตีห้าอย่าถามว่าได้นอนตอนไหน ไม่มีเวลาจ้ะ! เข้าครัวทำอาหารให้พ่อยอดรักยอดดวงใจต่อทันที ตอนนี้หกโมงเช้ากำลังจัดแฮมเบอร์เกอร์ลงกล่อง มีสลัดเบคอนแล้วก็นักเก็ตกับเฟรนช์ฟรายส์เพิ่มอีกอย่างละกล่องให้ไปด้วยต้องขอบคุณผู้สนับสนุนใจดีอย่างหม่าม้าที่ซื้อของมาใส่ไว้ในตู้เย็นให้ เพราะรู้ว่าลูกสาวคนนี้เงินไม่ค่อยมี แต่ก็ดันให้จีบผู้ชายเต็มที่ เอาเลยหม่าม้าเชียร์บ้านเงียบราวกับไม่มีใครอยู่ ที่เป็นแบบนี้เพราะหม่าม้าออกไปที่ร้านตั้งแต่ตีสาม เตรียมของขายเฉกเช่นทุกวันนั่นแหละ ส่วนป๋ากับพี่ชายอยู่บ้านสวนโน่นแน่ะ จะได้เจอกันแค่เดือนละครั้งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็กลับขึ้นห้องไปอาบน้ำชำระร่างกาย วันนี้มีเรียนยาวถึงหกโมงเย็น เน้นแพทเทิร์นแ
อ้ายคนจนจำต้องทนทำงานหาเงิน----------------------วันนี้ฉันไม่มีเรียนแต่ก็ตั้งใจตื่นเช้ามาทำของอร่อยให้เขา เน้นเป็นเมนูของว่างซะส่วนใหญ่ไก่ทอดแป้งกรอบ ๆ ฟู ๆ ทานกับทาร์ทาร์ซอสเข้ากันดีเป็นที่สุดทำเสร็จก็จัดใส่กล่องแล้วขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจไปมหา'ลัย ตอนเช้าเป็นเวลาเดียวที่ไม่ต้องลุ้นว่าจะได้เจอเขาหรือไม่เพราะได้เจอแน่ ๆ ขอแค่กะเวลาให้ถูกมาจอดรถรออยู่ที่เดิม ข่าวว่าเข้าหน้าฝนอย่างเต็มรูปแบบแต่แดดจ้าจนน่าใจหายเลยล่ะคะคุณผู้ชม จะตกเมื่อไรโทรบอกด้วยแล้วกันระหว่างรอก็มีรถเลี้ยวเข้ามาจอดอยู่เรื่อย ๆ เท่าที่สังเกตไม่มีใครจอดตรงที่ของเขาเลยนะ ต้องบอกว่าที่ของทั้งแก๊งมากกว่า ที่จอดหกช่องว่างหมดเลยความอิทธิพลนี้นั้น...มันช่างน่ากลัวววว"อ้าว! เธอที่โรงอาหารวันนั้นหนิ" ชายหนุ่มหน้าตาดีแต่ขี้เผือกซึ่งฉันจำได้นะจ๊ะ เดินเข้ามาทัก นี่ไม่ได้พูดอะไรทำเพียงแค่มองนิ่ง ๆ คอยดูสิต้องถามแน่ว่ามาทำอะไร หรือไม่ก็มาหา เตย์ ทมโภลี ใช่ไหม เป็นอะไรกัน บลา ๆ ๆ"มาหา เตย์ ทมโภลี เหรอ" น่ะ! ขาดคำซะที่ไหน "ใช่ มีอะไรกับเราหรือเปล่า""เปล่า เธอน่ารักดีเลยอยากรู้จัก"น่ารัก? มาเวย์สินะ เหอะ! ของมันแน่อยู่แล้วพ
อ้ายคนจนจำต้องทนทำงานหาเงิน-------------------------เมื่อวานจบลงตรงที่กินข้าวกลางวันกันเสร็จก็แยกย้าย น้ำตาจะไหลพ่อยอดรักยอดดวงใจเขาเย็นชาเหลือเกินฉะนั้นเช้านี้ ณ ที่เดิมฉันมารอเขาพร้อมกับปอเปี๊ยะแสนอร่อยที่ตื่นมาผัดไส้ห่อแป้งเองตั้งแต่ตีสี่เอิ่ม กับเรื่องเรียนเอ็งตั้งใจขนาดนี้ไหมกิ๋งงงงงอุ๊ย! นั่น ๆ เขามาแล้ว เวลาดีเวลาเดิม เจ็ดโมงครึ่งไม่ขาดไม่เกินยืนมองรถหรูที่ไม่ใช่คันเดียวกับเมื่อวานเลี้ยวเข้ามา คันสีขาวมุกของอีกเจ้าหนึ่ง ส่วนคันนี้เป็นสีดำของอีกเจ้าซึ่งเป็นซุปเปอร์คาร์สวยน่าทึ่งพอเห็นแบบนี้ก็ยิ่งเห็นถึงความต่างชั้น หันมองมอเตอร์ไซค์ฮ่างของตัวเองแล้วแก้มแดง เขิน ๆ อาย ๆ ยังไงก็ไม่รู้รถยนต์ราคาแพงจอดสนิทที่จุดเดิม ฉันไม่รอช้ารีบวิ่งไปหาทันทีที่เขาเปิดประตูลงมา"สวัสดีค่ะเตย์" ทักทายเสียงใสด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แค่เห็นหน้าหล่อ ๆ ก็ชื่นใจมีแรงกลับไปเรียนแล้วจ้า"ต้องทำแบบนี้ทุกวันด้วยเหรอ" เสียงทุ้มเอ่ยถาม ไล่สายตามองมานิ่ง ๆ ไม่รู้สึกอะไรกับฉันเลย"เพิ่งวันที่สองเองนะคะ ถ้าถามว่าจะทำแบบนี้ทุกวันเลยไหมก็ต้องขอตอบว่าใช่! เอานี่...วันนี้เป็นปอเปี๊ยะ" "ถ้าเอาไปทิ้งจะโกรธหรือเปล
ขนมจีบขนมใจ---------------ฉันบอกไปหรือยังนะว่าที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยของเอกชน มีชื่อว่ามหาวิทยาลัยปราชญ์ชน (PU) อยู่ในเครือเดียวกันกับโรงเรียนเทียมฟ้านุกูล ที่ฉันกับแก๊งเพื่อนแล้วก็เขาคนนั้นจบมาใช้เวลาไม่นานก็มาถึง คณะของฉันกับคณะของเขาไม่ได้ไกลกันเท่าไร แค่คั่นกลางด้วยคณะบริหารเท่านั้นสามสาวสองชายเดินเรียงหน้ากระดานเข้าไปในโรงอาหารประดุจแคทวอล์คก็ไม่ปาน เหล่าชายโฉดทั้งหลายชายตามองจับจ้องกันยกใหญ่ คนต่างคณะมาบุกถึงถิ่นมีหรือจะไม่สนใจถามว่าอายไหม ตอบเลยว่า มาก! ไอ้เราก็ไม่ใช่คนหน้าหนาขนาดนั้น เพื่อความมั่นก็ทำกันไปงั้น สุดท้ายก็หลุดหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้"แย่ว่ะ" พาสเทลว่าพลางยกมือขึ้นปิดหน้าด้วยความอาย"เราทำกันไปทำไมวะ" ลูกเจี๊ยบเองก็หน้าแดงไม่แพ้กัน"ฮ่า ๆ ๆ เรียกร้องความสนใจเว่อร์" น้ำเงี้ยวยืนเท้าเอวหัวเราะปากกว้าง"แล้วไม่ได้เตี๊ยมกันด้วยนะ พร้อมใจสุดไรสุด" สามว่าพลางโบกมือพัดไล่ความร้อนบนใบหน้าขณะที่คนอื่นหัวเราะขบขันให้กับความบ้าบอ ฉันก็รีบสอดส่ายสายตามองหาคนของใจว่าเขานั่งอยู่โต๊ะไหน พอเห็นก็รีบชี้ ๆ ให้เพื่อนดู"เข้าไปทักดิ" สามบอก ส่วนคนที่เหลือก็ผลัก ๆ ดัน ๆ สนับสน
ขนมจีบขนมใจ-------------สวัสดีเช้าที่แสนสดใส ให้ทายว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหนเอ่ย... เฉลย! มารอพ่อยอดรักยอดดวงใจอยู่ตรงลานจอดรถข้างคณะวิศวะน่ะซี่~ มันคือทางเดียวที่จะเจอเขาได้ในเวลานี้นั่นเองเดินวนไปมารอบรถมอเตอร์ไซค์ เบื่อก็หยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดดูนั่นนี่บ้าง คือไม่ใช่คนติดโซเชียลอะไรเท่าไรไง ส่วนใหญ่จะใช้คุยงานอ่านนิยายอ่านการ์ตูนมากกว่าฉันสืบตารางเวลาเรียนของเขามาหมดแล้วเรียบร้อย มีเรียนเช้าทุกวันฉะนั้นสามารถมาหาเขาเวลาเช้าแบบนี้ได้ยืนรอประมาณครึ่งชั่วโมงพ่อยอดยาหยีก็ขับรถยนต์คันโก้เลี้ยวเข้ามา ความร่ำรวยนี้เป็นที่เลื่องชื่อลือนามมากนะคะ ทายาทคนเล็กของท่านเจ้าสัวพิชิตกับคุณหญิงทิพาวดีน่ะตระกูลนี้เขาทำธุรกิจเกี่ยวกับขนส่งโลจิสติกส์รายใหญ่ทั้งในและนอก อีกทั้งยังเป็นเจ้าของธุรกิจค้าปลีกร้านสะดวกซื้อที่มีมากกว่าหนึ่งหมื่นสาขาทั่วประเทศ ไม่นับรวมสาขาต่างประเทศซึ่งก็มีไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันแห่ง และมีโรงงานผลิตสินค้าเพื่อนำมาจำหน่ายเองโดยเฉพาะแฮะ แฮะ หวังสูงสุด ๆ เลยฉันเนี่ย...ทำไงได้ไอ้เราก็รักเขาโดยไม่สนเรื่องฐานะตั้งแต่แรกอยู่แล้วรถยนต์คันหรูจอดเข้าซองเรียบร้อย ฉันฉีกยิ้มรีบวิ่งไปหา