“ก็ฉลามมาโกรธเราทำไม ฮึก ฉลามก็รู้ว่าเราเป็นวันนั้นของเดือนอยู่อ่ะ มันหวั่นไหวนะ อีกอย่างพออธิบายฉลามก็เอาแต่จะโกรธอย่างเดียว เราเหนื่อย อึก” เธอพูดอู้อี้อยู่ข้างๆ ไหล่ผมแล้วสะอึกออกมา ผมแม่ง... จะสงสารก็สงสาร แต่มันก็ขำว่ะ ผมเข้าใจเธอนะ ไม่โกรธแล้วก็ได้ “ฮึก... เราไม่ได้นอกใจฉลามเลยนะ”“ขอโทษ” ผมลูบหลังเธอแล้วยอมแพ้ “ก็ไม่ได้บอกว่าเธอนอกใจ”“...”“เราไม่อยากให้เธอคุยกับใครนอกจากเราเลยนะนิ้ง”“... ฉลามอ่ะ ยังไงเรื่องงานเราก็ต้องคุยอยู่ดีนะ” เธอซื้ดน้ำมูกแล้วตีหลังผมดังอั่ก เจ็บ พอเป็นเมนส์แล้วแรงเยอะชิบหาย “ฉลามชอบทำให้เราร้องไห้อ่ะ”“ขอโทษ” ผมลูบผมเธอแล้วผละออก แล้วจับผมเธอที่ปรกหน้ามาทัดหูให้ข้างนึง รู้สึกผิดว่ะ ทำให้นิ้งร้องไห้เนี่ย “แย่จังเราเนี่ย เอาดิ ให้ตบหัวเลยก็ได้”“ฉะ... ฉลาม” คะนิ้งทำหน้าตื่นทันทีตอนที่ผมก้มหัวให้เธอ คนตัวเล็กสูดน้ำมูกแล้วสั่นหน้า “ไม่เอาอ่ะ ฉลามเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ”“ตบได้อยู่” ผมพูดสั้นๆ แล้วคะนิ้งก็เงียบไปผมไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ จนกระทั่งรู้สึกว่าเธอเอื้อมมือมาคว้าทั้งหน้าของผมให้เงยหน้าขึ้นมาสบตาด้วยผมมองเธอที่ทำสีหน้ามุ่งมั่นอยู่อย่างไม่เข้าใจ ก่อนท
ฉันนิ่งไปเมื่อฉลามพูดแบบนั้นแล้วผละออกไปนอนคนเดียวโดยหันหลังให้ฉันเงียบๆ เขาโกรธฉันเหรอ? “ฉลาม...” ฉันเรียกเขา แล้วก็เห็นว่าร่างสูงยกโทรศัพท์มากดส่งข้อความหาเพื่อนแล้วยกผ้าห่มขึ้นคลุมหน้าตัวเอง ฉันถึงได้รู้ว่าเขากำลังโกรธฉันอยู่จริงๆ ด้วย ตอนแรกฉันต้องเป็นคนโกรธเขาไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมตอนนี้เขาดันมาโกรธฉันกลับแทนซะงั้นอ่ะ “ฉลาม ทำไมต้องโกรธเราด้วยล่ะ” ฉันพูดกับเขาแล้วทำหน้ามุ่ย ก็เขามากวนฉันก่อนนี่นา แถมเมื่อวานก็ยังหนีออกจากโรงพยาบาลมาเพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อีก เขาไม่ห่วงตัวเองเลย แบบนี้มันน่าโกรธมั้ย แค่ไม่คุยด้วยยังไงพอด้วยซ้ำนะ “ไม่ได้โกรธ” แต่เขากลับตอบกลับมาแค่สั้นๆ ต้องโกหกแน่ๆ เลย “ฉลามเป็นคนผิดไม่ใช่เหรอ” “เออ ผิด” เขาตอบทั้งๆ ที่ผ้าห่มยังคลุมหน้าไว้อยู่ ฉันเห็นแสงจอโทรศัพท์ลอดออกมาพร้อมกับเสียงของเขา “เราพอรู้ว่าทำไมเธอถึงโกรธ แต่เราแค่ไม่เข้าใจไง” “...” “เราหึงนิ้งมันผิดตรงไหนอ่ะ?” ฉันชะงักไปทันทีเมื่อเขาพูดออกมาแบบนั้น “คิดถึงนิ้งก็ผิดอีก เราทำไรได้ดีบ้างในสายตาเธอ” “...” “ถ้าโกรธเรื่องเมื่อวาน เราขอโทษละกัน ก็เธอโกรธเรา ไม่ตอบไลน์ โทรไปก็ไม่รับ แล้วจะให้เราทำยัง
[พาร์ท : ฉลามดุ]ผมว่าผมรู้แล้วนะว่าทำไมจู่ๆ นิ้งถึงงอนผมเมื่อวานเธอเป็นเมนส์“แล้วเจ๊รู้ได้ไงวะ” ผมถามเจ๊เพท ที่ผมรู้ก็รู้มาจากเจ๊นี่แหละ ก็คิดอยู่ว่าปกตินิ้งไม่ทำตัวดื้อๆ แบบนั้นใส่ผมไง มันแปลกๆ ตั้งแต่เมื่อวาน โชคดีที่ผมมานั่งอธิบายเรื่องไอ้จี้ว่าเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่ ม.สาม เธอเลยหายงอนผมง่ายๆแต่พอรู้ว่าผมหนีโรงบาลมาตามเธอเพราะหึง คราวนี้นิ้งเลยไม่ยอมคุยกับผมเลยก็เพิ่งรู้ไงว่าตอนที่เลิกกันตอนนั้นมันจะกลายเป็นแค่เพื่อนกับเธอ แถมที่ไปร้านเค้กห่าเหวอะไรนั่นพลอยก็มาด้วย ถ้าผมรู้ผมก็คงไม่มาวู่วามหึงงี่เง่าใส่เธอหรอก ตอนนี้ก็กลับมานอนที่โรงบาลต่อแล้วด้วย แถมยังเสียค่าอะไรไม่รู้เพิ่มอีกเพราะผมแม่งหนีออกไปโดยไม่บอก ต้องมาเก็บค่าเครื่องมือใหม่อีกแต่พอพูดถึงเรื่องนิ้งแล้วผมก็เครียดว่ะก็ตั้งแต่เมื่อวานแล้วไงที่เธอไม่ยอมคุยด้วย ผมอุตส่าห์ขับไปส่งที่หอทั้งที่สภาพเหี้ยๆ แบบนี้ยังไม่บอกลาสักคำ วันนี้เธอก็ไม่ยอมมา ตอนผมส่งไลน์ไปก็ตัดบทว่าเรียนอยู่ ผมเลยกร่อยเลยดิ ไม่กวนก็ได้วะ“ก็กูไปซื้อผ้าอนามัยเหมือนกัน เจอน้องนิ้งพอดีก็เลยเดินเข้าไปซื้อด้วยกันไง” เจ๊แกตอบผม เธอมาเยี่ยมผมเป็นครั้งที่สอง
พี่หลามคนจริง : งอนไรพี่หลามคนจริง : หึงเหรอพี่หลามคนจริง : ไม่มีไร แค่เพื่อน มันแค่ปากพล่อยพี่หลามคนจริง : นิ้งพี่หลามคนจริง : ทำไมโทรไม่ติดวะ งอนไรบอกดิพี่หลามคนจริง : จะได้ง้อไงฉันนั่งอ่านข้อความของฉลามที่ส่งเข้ามาแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ความจริงไม่ได้กดเข้าไปอ่านหรอก มันเด้งขึ้นมาที่หน้าจอโทรศัพท์ตลอดเวลาที่เขาพิมพ์ส่งมาน่ะ ฉันก็รู้นะว่าทำแบบนี้มันดูงี่เง่ายังไงไม่รู้ แล้วฉลามก็เจ็บอยู่ด้วย แถมตอนที่มีเรื่องผู้หญิงที่ชื่อพราวขึ้นมาฉันก็ไม่เห็นจะเก็บมาคิดมากเลย แต่ทำไมครั้งนี้ฉันกลับรู้สึกว่า...มัน... น้อยใจอ่ะฉันก็แค่คิดว่าถ้าฉลามจะชอบเธอขึ้นมา ฉันคงสู้อะไรไม่ได้เลยจริงๆ นะ เพราะคนที่ชื่อจี้เป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ แค่มองผ่านกล้องก็รู้ว่าเธอมีเสน่ห์มาก ถ้าจู่ๆ ฉลามจะรู้สึกดีๆ ขึ้นมาบ้างก็คงไม่แปลกเลยแต่เขาเป็นเพื่อนกันมานานแล้วนี่ ก็ฉลามบอกว่าเพื่อนสมัย ม.ปลาย ไม่ใช่เหรอ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังรู้สึกไม่ดีอยู่ดีอ่ะยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองงี่เง่าจังเลย นี่ฉันเป็นอะไรเนี่ยติ๊งฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อนั่งเหม่อคิดอะไรคนเดียวไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงไลน์ดังขึ้นในโทรศัพท์ พอเปิดดูก็เ
แล้วเขาก็ทำมันจริงๆ ด้วยครืด ครืดโทรศัพท์ในกระเป๋าของฉันสั่นจนต้องยกขึ้นมาดู แล้วก็เห็นว่าเป็นฉลามที่คอลวีดีโอไลน์มาหาตอนที่ฉันยังอยู่ในคลาส ฉันเบิกตาโต รีบเสียบหูฟังแล้วใส่หูข้างหนึ่งทันทีเพราะกลัวเสียงโทรศัพท์จะไปรบกวนคนอื่นๆวันนี้ฉันไม่ได้ไปหาเขาที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้าเหมือนทุกวันเพราะวันนี้มีเรียนน่ะค่ะ ที่เขาบอกว่าจะคอลวีดีโอมาจนกว่าจะกลับฉันคิดว่าเขาก็คงแกล้งหยอกฉันเล่นนั่นล่ะแต่ฉันลืมไปเลย... ว่าฉลามเป็นคนที่พูดแล้วก็ชอบทำจริงๆ อย่างที่พูดด้วยฉันไม่รู้จะทำยังไงก็เลยรีบกดรับ เพราะไม่งั้นเขาคงได้โกรธฉันแน่ๆ เลยทันทีที่รับสาย ฉันก็เห็นหน้าของเขาอยู่เต็มหน้าจอทันที ฉลามดุยังนอนอยู่บนเตียงคนไข้แล้วก็สวมชุดของโรงพยาบาลอยู่ ร่างสูงมองมาที่ฉัน ก่อนที่เขาจะผละออกไปแล้วเหมือนจะคุยกับใครสักคน[... จะแดกก็แดกไป ทำไมต้องเรียกกู] ฉันได้ยินเสียงเขาพูดอยู่ข้างๆ หูตอนที่เขาชี้หน้าด่าคนๆ นึงที่ปลายเตียงเหมือนคุยอะไรก็ไม่รู้กันมาก่อนหน้านี้แล้ว [เป็นเหี้ยไร อย่ามากวนตีน]“...”[กูจะคุยกับเมีย!!] ฉันเบิกตาโตอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ เขาก็โพล่งขึ้นมาเสียงดังลั่นเหมือนเพื่อนของเขาพูดจาไม่ถูกหู แต่เพร
คะนิ้งมองหน้าผม เธอเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ผมก็บีบมือให้เธอหยุด ผมรู้ว่าเธอใจดี ไม่อยากเอาเรื่องใคร หกปีที่แล้วผมก็คิดแบบนั้น ผมเห็นว่ามันเป็นความผิดผมเรื่องไอ้พลเลยยอมให้มันทำเหี้ยอะไรก็ได้ ยอมจนให้มันแย่งพราวไปโดยที่ผมไม่ได้รั้งใคร เพราะอย่างน้อยมันก็อาจเป็นกรรมที่ผมทำไว้กับไอ้พล มันอาจเป็นสิ่งที่ผมต้องก้มหน้าชดใช้แต่หลังจากที่มันดักทำร้ายนิ้ง ดึงแฟนผมเข้ามาเกี่ยว ผมก็เปลี่ยนใจไม่มันก็ผม ต้องมีใครสักคนที่ตายกันไปข้าง“แล้วมึงจะเอาไง ตอนนี้ตำรวจยังตามตัวไม่เจอ กูสงสัยอยู่ว่ามันจะหลบออกนอกประเทศ”“วันศุกร์กูออกจากโรงบาลพอดี” ผมจ้องหน้าเจ๊เพทอย่างจริงจัง “กูจะไปตามตัวมันกับพวกไอ้อัฐด้วย”“แต่เเขนมึงยังเดี้ยงอยู่ อย่าฝืนดิวะ” เจ๊เพททำสีหน้าไม่เข้าใจผม แต่ผมจะไม่ยอมอยู่เฉยๆ มันทำให้แฟนผมต้องเข้าโรงพยาบาล ทำให้นิ้งได้เลือด มันเหี้ยถึงขนาดจ้างไอ้โชมาต่อยท้องเธอได้ ผมจะไม่ปล่อยให้มันอยู่อย่างมีความสุขแน่ๆ“ถ้ากูไม่ได้เอาเลือดหัวมันออกด้วยมือกูเอง กูคงตายตาไม่หลับว่ะ” ผมพูดแบบนั้น ก่อนที่จะรู้สึกว่าคะนิ้งเริ่มบีบมือผมกลับจนต้องหันกลับไปมองเธออย่างสงสัย คนตัวเล็กสบตาผมนิดหน่อย ก่อนที่เธอจ