ก็คนมันชอบ ก็ไอ้ฉลามดุหัวโจกเเห่งอาชีวะคนนี้มันชอบเธอ จะให้ทำยังไง
View Moreฉันว่าฉันคิดดีแล้วล่ะเพราะหลังจากที่ฉันโทรไปบอกฉลามดุว่าจะเป็นแฟนกับเขา ฉลามก็ตัดสายใส่ทันทีเลย ฉันเองก็เขินจนไม่กล้าคุยต่อแล้วเหมือนกัน มันยากนะที่ต้องขอใครสักคนเป็นแฟนก่อนแบบนี้ ยิ่งกับอีกฝ่ายที่เป็นคนแบบเขาด้วยฉันไม่เคยพูด ไม่เคยคบกับใคร ก็เลยอายจนต้องซุกหน้าลงกับหมอนที่ตัวเองกอดอยู่แบบนั้นส้มหลับไปแล้ว เธอเพิ่งได้กลับมาค้างที่ห้องก็วันนี้ แต่เพราะทำกิจกรรมมาหนักก็เลยหลับไปตั้งแต่หัวค่ำ ประตูห้องปิดอยู่ ส่วนฉันก็นั่งอยู่ที่โซฟาข้างนอกห้อง ที่ฉันเงียบไปไม่ยอมคุยกับเขาก็เพราะตอนที่ไปเที่ยวกับเขาฉันมีความสุขมากจนเก็บอาการไม่อยู่แล้ว ฉันชอบฉลามดุ แล้วก็ชอบมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยฉันนั่งทำใจให้หายเขินอยู่นานมาก จนประตูห้องเหมือนถูกใครเคาะ เสียงค่อนข้างดังก็อกๆๆ!ฉันชะงักไป สงสัยนิดหน่อยว่าเป็นใคร ตอนเปิดประตูออกไปตัวก็แทบจะถลาไปด้านหลังเพราะถูกคนๆ นั้นโถมตัวเข้ามาหาทันทีฉันรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ท่วมตัวเขา ใจเต้นขึ้นมาทันทีพอเห็นว่าเป็นเสื้อยืดที่คุ้นเคย พอเขาผละออก ฉันก็ตกใจที่เห็นว่าเป็นฉลามเขา...“พูดจริงเหรอนิ้ง!” เขาผละออกมาแล้วคว้าไหล่ฉันมาเขย่าทันที ฉันเอ๋อไป ก็พอรู้อยู่นะว่าฉลาม
[พาร์ท : ฉลามดุ] “ฉลาม นิ้งอยากกินไอติม” ผมชะงักเมื่อได้ยินเสียงหวานๆ ของนิ้งดังขึ้นตอนที่เดินดูอะไรเล่นๆ ไปเรื่อยหลังจากกินอะไรเสร็จ ตอนแรกเธอบอกไม่อยากได้ถึงผมบอกว่าอยากจะซื้อให้เธอแค่ไหน ตอนที่เดินดูก็ทำเป็นไม่มองอะไร ผมก็รู้ว่าเธอขี้เกรงใจนะ แต่แล้วไง? ผมเลี้ยงเธอได้หมดอ่ะ แค่ออกปากขอ “ไอติม?” ผมเลิกคิ้วมองเธอที่เดินนำผมไปใต้ร่มร้านไอติมโบราณข้างหน้า คะนิ้งทำสีหน้าสดใสแบบที่ผมไม่ค่อยเห็น ผมก็เลยก้มหัวเข้าไปใต้ร่มบ้าง แต่เพราะตัวสูงถ้ายืดตัวหัวแม่งก็จะชนร่มผมก็เลยก้มตัวไปเกยคางไว้ที่ไหล่เธอแทน “เอาอันไหน” “เอากะทิได้มั้ย?” ร่างเล็กเอี้ยวตัวมาขออนุญาตจากผมทางสายตา ผมหัวเราะ มีหันมาขอจากผมด้วย น่ารักว่ะ “สั่งดิ” “นิ้งขอกะทิอันนึงนะคะ” เธอคลี่ยิ้มหวานให้ผมแล้วหันไปสั่งทันที ผมเหลือบมองเธอจากทางด้านข้าง พอป้าที่ขายคิดเงินผมก็ชิงจ่ายให้เธอก่อน คะนิ้งชะงักไป เธอหันมาหาผมเหมือนเก้อๆ ตอนที่เดินออกมา “อะ... ขอบคุณนะ” “เล็กน้อย” ผมยักไหล่ มากกว่านี้ผมก็ซื้อให้ได้ “ไปดูอย่างอื่นเหอะ” “อื้อ” คะนิ้งพยักหน้าแล้วก็เริ่มกินไอติมเหมือนเด็ก ผมมองเธออย่างเอ็นดู ก่อนที่จะยกแขนขึ้นพาดคอเธอดึงให
“ก็ดูแม่งพูดดิ ไม่ให้เราโมโหได้ไง”ฉันยืนกอดอกหลวมๆ อยู่ตรงหน้าเขา ตอนนี้เราขับมาถึงเยาวราชแล้ว ฉันทนเก็บความไม่พอใจที่เขาไปหาเรื่องนักศึกษาสองคนนั้นไว้ตลอดทาง แต่พอมาถึงแล้วลงจากรถ ฉันแค่พูดออกมาคำเดียว ฉลามก็มีท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงทันที“แต่ฉลามก็ไม่ควรไปหาเรื่องเขานี่” ฉันปรามเขา เพราะคิดว่านิสัยคิดแล้วจะบวกอย่างเดียวของเขานั่นแหละที่เป็นปัญหาสุดๆ ในตอนนี้ แล้วร่างสูงก็ทำสีหน้าหงุดหงิด“ทำไม ปกป้องมันว่างั้น?” ฉันเหวอจนต้องคลายมือที่กอดอกลง นะ... นี่เขาเอาอะไรมาพูดเนี่ย “สงสัยผู้หญิงแม่งจะชอบจริงๆ ไอ้พวกผู้ชายสำอางค์ๆ งั้นอ่ะ”“อะ... อะไรนะ”“นิ้งก็ชอบอ่ะดิ ดูโกรธเราจัง” ฉันอ้าปากค้าง พูดไม่ออกเมื่อเขาพูดแทรกขึ้นมาทุกประโยค แถมยังมองฉันแบบผิดๆ อีก “เราจะบอกไรให้นะ ไอ้พวกนั้นอ่ะ พอบทหน้าสิ่วหน้าขวานมาไม่มีใครช่วยเธอได้สักคนหรอก”“...”“อย่างมากก็คง พี่ ผมไม่ได้ตั้งใจ เหมือนเมื่อกี้ที่พูดกับเราไง” ฉันมองฉลามอย่างจนใจ ไม่รู้จะพูดกลับไปยังไงดี ฉันก็แค่จะเตือนเขาเฉยๆ ว่าผู้ชายสองคนนั้นไม่ได้จะทำอะไรเราเลย อยู่ดีๆ ก็ไปหาเรื่องจะต่อยเขามันไม่ดีนะ แต่ก็ดูเขาสิ “พวกขี้แพ้ก็งี้”“ฉลาม” ฉันป
ฉลามยืนอยู่ตรงหน้าฉันพอมองเลยตัวใหญ่ๆ ของเขาไปก็เห็นรถมอเตอร์ไซค์ที่คุ้นเคย ฉันยังอึ้งอยู่ก็เลยได้แต่มองเขาตาปริบๆ จนร่างสูงโอบเอวฉันดึงให้เข้ามาหาด้วยแขนข้างที่ไม่ได้ดามเฝือกเอาไว้นักศึกษาที่เดินผ่านไปผ่านมาหน้าประตูมหาลัยต่างก็มองมาที่เราอย่างสนใจ เพราะผ้าพันแผลที่ศีรษะ ผ้าก็อซ และที่ดามแขนของฉลามดุมันสะดุดตาทุกคนมาก และหลังจากที่ฉันรู้สึกตัว ฉันก็พยายามดันเขาออกทันที“มะ... มาที่นี่ได้ยังไงเนี่ย” คนตัวโตทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนที่จะตอบหน้าตาย“หนีมาหา” เขาพูดอย่างไม่สำนึกแล้วเกยคางไว้ที่ศีรษะของฉัน “คิดถึงนิ้งไง”“ปล่อยเลย” ฉันทำหน้ามุ่ย แล้วตีแขนเขาข้างที่ไม่เจ็บ “หนีออกมาทำไม ยังไม่หายดีเลยนะ แถมยังให้พี่เพทายมาจ่ายค่ารักษาให้อีก ทำไมถึงชอบทำให้คนอื่นเดือดร้อนอยู่เรื่อยเลย”ฉลามดุทำหน้าเบ้ เขาคว้าข้อมือฉันแล้วทำตัวเหมือนเด็กที่กำลังถูกดุ“บ่นเราอีกล่ะ” แล้วต่อมาก็เปลี่ยนมาทำสีหน้ากรุ้มกริ่ม “เป็นห่วงอ่ะดิ”“ก็ต้องเป็นห่วงสิ” ฉันตอบไปตามความจริง อีกฝ่ายชะงักไป ฉันถึงได้รู้สึกตัวว่าตัวเองชักจะเปิดเผยความรู้สึกมากเกินไปแล้ว ก็เลยทำกระแอมกระไอแล้วแก้ตัว “ไม่ใช่แค่เรานะ พี่เพทายก็เ
ตอนนี้ก็ผ่านมาสามวันแล้วที่ฉันมาเยี่ยมเขาวันนี้ฉันอยู่ที่มหาลัย ทุกครั้งที่ฉันอยู่ที่นี่ฉลามจะชอบโทรมาตามว่าอยู่ไหน เขาอยากให้ไปหาที่โรงพยาบาล อยู่คนเดียวมันเหงา ฉันเองพอโดนเขารบเร้ามากๆ เข้าก็ใจอ่อนชอบไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาลทุกที แล้วฉันก็คิดว่าความสัมพันธ์ของเรามันลงตัวมากขึ้นกว่าเดิมแล้วนะ จากที่ตอนแรกฉันยังกลัวเขาอยู่ แต่พอเปิดใจรับเขา ฉันก็คิดว่าทุกอย่างมันดีขึ้นมากๆ เลยจะว่าไปแล้วฉันยังไม่ได้ให้คำตอบเลยว่าจะเป็นแฟนกับเขารึเปล่า นั่งคิดนอนคิดมาหลายวันแล้วล่ะ ฉันคิดว่าฉันยังมีความสุขที่ระหว่างเรามันเป็นแบบนี้ แต่มันก็ต้องคืบหน้าบ้างล่ะเนอะแต่เพราะฉันยังไม่เคยมีแฟน แล้วฉันก็ยังไม่ชินกับการที่จะต้องเป็นแฟนใคร มันก็เลย... ลำบากใจนิดหน่อยแฮะครืด ครืดฉันสะดุ้งเมื่อเปิดหนังสืออ่านแล้วก็นั่งคิดอะไรอยู่คนเดียวไม่ทันไรโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆ ตัวก็มีสายเรียกเข้า พอเปิดขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นฉลามคนเดียวคนเดิม ฉันคลี่ยิ้ม คงจะโทรมาตามฉันอีกแล้วล่ะมั้ง“ฮัลโหล” ฉันกดรับแล้วทักปลายสายทันที ก่อนที่ต่อมาจะได้ยินเสียงโอดครวญดังลอดเข้ามา[นิ้ง คิดถึงว่ะ] ฉันเขินที่เขาพูดออกมาตรงๆ ถึงจะได้ย
“พูดแล้วนะ” ผมพูดชิดกับใบหน้าของเธอ ตอนนี้คะนิ้งอยู่ในอ้อมกอดของผม “พูดแล้วนะว่าจะเป็นแฟนเรา”“...”“เราให้เวลาเธอคิดได้ทั้งชีวิตอ่ะ แค่เธออย่าทิ้งเราก็พอ” ผมพูดแล้วยิ้มแฉ่ง คะนิ้งมองหน้าผม อยู่ดีๆ เธอก็หลุดยิ้มออกมา แล้วพยักหน้ารับตอนนั้นแหละ ผมรู้สึกเหมือนได้ตายแล้วเกิดใหม่เลยว่ะ“เราไม่ทิ้งฉลามหรอก” เธอพูดแค่นั้น แล้วซุกใบหน้าลงกับอกผมเหมือนเขิน ผมแม่ง... อารมณ์เหมือนถูกหวยสักสิบล้านอ่ะ ผมกอดเธอเอาไว้แน่น ยิ่งนิ้งยอมนั่งนิ่งๆ ให้ผมกอดไม่ขัดขืนนี่ผมแบบ... อธิบายไม่ถูกว่ะ มีความสุขโคตรตายตาหลับแล้วกูวันนี้“นิ้ง เราแม่งโคตรรักเธอเลยอ่ะ” ผมพูดอย่างตื้นตัน ชีวิตผมมาถึงจุดที่ผมคิดว่ามันโอเคแล้ว ตอนที่ผมเริ่มตามจีบเธอผมคิดถึงแต่เรื่องของนิ้ง ในหัวของผมไม่เคยมีเรื่องใครอยู่ในหัวเลย จะเรียกว่ารักเธอชิบหายหรือหลงหัวปักหัวปำก็คงคล้ายๆ กันมั้งคอยดู ถ้าวันไหนนิ้งยอมตกลงคบกับผมนะ ผมแม่งจะปิดซอยเลี้ยงฉลองเจ็ดวันเจ็ดคืน แดกให้สุด ไม่เมาไม่เลิก แดกให้ตาย คาอกเธอได้เลยยิ่งดี“อื้อ ปะ... ปล่อยได้แล้ว” ดูเหมือนนิ้งจะเขิน เธอดันผมออก แต่ผมกลับทำหน้าเสียดายใส่เธอ ก็เลยโดนตีที่แขนข้างที่เจ็บเบาๆ นิ้ง
Comments