LOGINฉลามพาฉันไปนั่งเรือที่ต้องพายกันเอง เขาหาโอกาสเพื่อที่จะได้อยู่กับฉันสองคนในที่สงบๆรอบด้านเป็นแม่น้ำ ฉันมองไปรอบๆ น่าแปลกจริงๆ ที่พออยู่กับฉลามแล้วฉันกลับไม่รู้สึกกลัวอะไรเลย เราสบตากันผ่านจากอีกฝั่ง แต่มันเป็นครั้งแรกที่ฉันรับรู้ได้ถึงความอึดอัดระหว่างเราทั้งคู่นั่นเป็นเพราะฉันกับเขาไม่ได้คุยกันแบบนี้มาอาทิตย์หนึ่งแล้ว“นิ้งคิดว่าไง” เขาถามฉันขึ้นมา แล้วจ้องหน้าฉันนิ่ง “กลัวปะ”ฉันสั่นหน้าเบาๆ“ฉลามมานั่งกับเราแบบนี้ไม่อึดอัดเหรอ” ฉันถามขึ้นมาอย่างไม่มั่นใจ แล้วร่างสูงก็ชะงักไป เขาถามกลับมาแค่เพียงสั้นๆ“ทำไมคิดงั้น”“... เพราะเราอึดอัดอ่ะ” ฉันพูดไปตามความจริง ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวฉันเองกำลังคิดอะไรอยู่ แต่พอเจอเรื่องที่สะเทือนใจมาแล้ว ถึงฉันจะรักเขามาก อยากอยู่แค่กับเขา แต่ฉันก็รู้สึกไม่เหมือนเดิมเลยเวลาที่เราอยู่ด้วยกันฉันอึดอัด... และก็มีแต่ความลำบากใจ“นิ้ง” ฉลามชะงักไป เขามีสีหน้าเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง “เราไม่ได้ตั้งใจให้เราห่างกันนะเว้ย เรา...”“... ฉลามบอกว่าเราอยู่กันแบบนี้มันเหนื่อย” ฉันพูดถึงคำที่เขาบอกกับฉันก่อนที่เราจะห่างกันออกมา ฉันเองก็อยากให้เขารู้ว่าเขาพูดออกมาจริ
“... เราเองก็ไม่รู้”ฉันพูดกลับไปแบบนั้นเช่นกัน แล้วเราก็นั่งเงียบกันไปทั้งคู่ ฉลามเหมือนนั่งใช้ความคิดอยู่ ส่วนฉันเองก็กำลังรอคำตอบของเขา เพราะฉันเองก็คิดภาพไม่ออกเหมือนกันว่าเราควรจะไปต่อยังไง เพราะพอจะก้าวเดินต่อไป เราก็ต้องมีปากเสียงกันระหว่างทางตลอดฉันกับฉลามหยุดทะเลาะกัน แล้วเดินต่อแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ... ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันถึงจะสิ้นสุด“ถ้าเริ่มต้นใหม่ แม่งก็เหนื่อย” เขาโพล่งขึ้นมา “ไม่คุยกัน แม่งก็เหนื่อย”“...”“หรือเราจะลองห่างๆ กันดูดีวะ เผื่ออาจจะดีขึ้น”ฉันนิ่งอึ้งไป ไม่คิดว่าฉลามจะพูดคำนี้ออกมา เราสบตากันในความเงียบอีกครั้ง แล้วฉันก็เผลอร้องไห้ออกมาอีกแล้ว... ฉันแค่ไม่อยากให้เราจบกันด้วยทางแบบนี้นี่“ฮึก... ทำไมเริ่มต้นใหม่แล้วฉลามเหนื่อยอ่ะ” ฉันสะอื้นไปพูดไปเหมือนกับเด็กๆ “ระ... เราไม่อยากห่างจากฉลามเลยนะ”“เหมือนกันว่ะ” เขาแค่นยิ้มออกมา “เราคิดไม่ต่างกัน”“...”“แต่ให้ทำไงได้อ่ะนิ้ง”“...”“ตอนนี้อยู่กันไปแม่งก็เหนื่อยไง ถูกปะ”[SALAMDU : SIDE]ผมกับนิ้งแยกกัน แต่ก็ไม่ได้แยกไปทีเดียวผมยังตามไปรับส่งเธอที่มหาลัย ที่ทำเพราะเป็นห่วง แล้วนิ้งก็รู้ เธอยอม
เราทะเลาะกัน ครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ว่ะผมไม่ได้ไปง้อนิ้ง เมื่อคืนก็ไม่ได้ไปส่งเธอ ที่ผมพูดว่าให้เธอไปคือให้ไปจริงๆ ไง ผมปล่อยให้เธอเดินออกไปจากผม นิ้งร้องไห้ แต่เธอก็ไม่คิดจะหันมามองผม แล้วที่ผมทำก็แค่กลับเข้าไปทำงาน ไม่ได้สนไอ้จี้ ผมอยู่คนเดียวแล้วแดกเหล้าให้แม่งหนักๆตอนเช้าผมโคตรแฮงค์ ปวดหัวชิบหายเลยว่ะผมยันตัวลุกขึ้นมา เห็นว่ายังนอนอยู่บนเตียงตัวเอง มือถือก็ไม่มีใครโทรหา แล้วผมก็ไม่ได้โทรหานิ้ง เมื่อคืนที่เราไม่ดีกันมันยังอัดๆ อยู่ในหัว ผมไม่รู้ต้องทำไง เพราะจริงๆ ในใจผมก็ยังไม่อยากยอมรับเรื่องนั้นผมเหนื่อยที่ต้องเป็นฝ่ายลงให้เธอ ต้องมานั่งเอาใจเธอทุกทีที่ทะเลาะผมแค่เบื่อ เบื่อหลายอย่าง“ทำไงดีวะ” ผมลูบหน้าตัวเองแรงๆ วันนี้นิ้งยังต้องไปเรียน ชีวิตเธอคงที่ ตอนแรกเราทั้งคู่ก็ดีๆ กัน ผมมีความสุข เธอก็มีความสุขแต่ไม่รู้ว่าผมกับเธอมาอยู่จุดนี้ได้ไงหรือเราจะลองห่างๆ กันดูดีวะ แม่งอาจดีกว่าก็ได้มั้งก็อกๆผมชะงักไปพอได้ยินเสียงประตู ในใจผมคิดว่าแม่งอาจเป็นนิ้งก็ได้ ขาผมรีบลุกเข้าไปเพื่อเปิดประตูหาเธอ ผมเองก็รู้ว่าตัวเองขาดเธอไม่ได้แต่พอเปิดมา มันกลับไม่ใช่นิ้งไง“... หลาม”ไอ้จี้ยื
“หลาม” ไอ้จี้คว้ามือผมไว้ มันมองไปที่นิ้ง แล้วก็หันกลับมาพูดกับผม “อย่าไปเหอะ อยู่กับกูได้มั้ย”“...”“กูอยากคุยกับมึงก่อน”“ฮึก... ไม่เอา” แล้วอยู่ๆ นิ้งก็คว้าข้อมือผมไว้เหมือนกัน หลังจากที่ไอ้จี้พูดจบประโยคนั้น “... ฉลามไปกับเรานะ”“หลาม อยู่กับกู”“ฉลาม... อยู่กับเราได้มั้ย”“พอเหอะ” จนผมทนไม่ไหว ผมบอกให้หยุดทั้งคู่ ไอ้จี้นิ่งไป นิ้งเองก็ยืนสะอึกเงียบๆ “นิ้ง เดี๋ยวไปส่ง”และใช่ ผมก็ต้องเลือกคนที่ผมควรจะเลือกนิ้งมีสีหน้าเหมือนตกใจตอนที่ผมเลือกที่จะคว้าข้อมือเธอให้เดินตามมา ผมคิดห่าไรไม่ออกไง ผมไม่รู้ว่าตัวเองต้องกลับมาทำงานอีกมั้ย หรือควรทำไงกับนิ้งผมโคตรสับสนเลยว่ะ“... ฉลามชอบเค้ารึเปล่า” จนนิ้งที่ถูกผมดึงข้อมือมาพูดประโยคนึง ผมก็ชะงักไป“ว่าไงนะ”“ฉลามชอบจี้รึเปล่า”“นิ้ง” ผมหันกลับไปพ่นลมหายใจ “เราก็พูดกับมันอยู่ไงว่าเราไม่ได้ชอบ”“แต่เค้าชอบฉลามนะ” นิ้งพูดออกมาทั้งน้ำตา เธอทำหน้าเหมือนเธอเองก็สับสน ไม่รู้จะไปต่อยังไง “เค้าชอบฉลามมานานแล้วด้วย”“...”“... ชอบจนเรารู้สึกว่าเราเป็นใครก็ไม่รู้”“เธอคิดมากไปว่ะนิ้ง” ผมพยายามทำใจให้แม่งเย็น แล้วคุยกับเธอดีๆ “เราเลือกเธออยู่ เห็นปะ
“ไม่ใช่แล้วว่ะนิ้ง” ฉลามทำหน้าตื่นออกมา เขาคงตกใจที่อยู่ดีๆ ฉันก็ร้องไห้แบบนี้ “แล้วเธอจะร้องไห้ทำไม”“กะ... ก็เราเสียใจ”“นิ้ง”“... เราขอโทษนะ” ฉันไม่ได้อยู่ฟังเขา เพราะฉันกำลังกลัวว่าตัวเองจะเผลอทำตัวงี่เง่าอะไรใส่เขาอีก เพราะตอนนี้ความรู้สึกของฉันพลุ้งพล่านมาก ฉันควบคุมตัวเองไม่ให้ร้องไห้แล้วก็พูดคำพูดน้อยอกน้อยใจออกไปได้เลยฉันกลัวว่าถ้าทำออกไปมากกว่านี้แล้วฉลามจะรำคาญฉันกลัวว่าเขาจะบอกเลิกฉัน“... ฮึก”ฉันนั่งคลุมโปงอยู่ในห้องนอนของเขา พยายามใช้ผ้าหุ่มคลุมตัวเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองช่วงนี้ฉันน้อยใจฉลามไปทุกเรื่องเลย บางทีก็โมโหเขา ร้องไห้งอแงใส่เขา มันไม่มีเหตุผลเลยจริงๆเวลาเป็นวันนั้นของเดือนปกติฉันจะไม่ค่อยเป็นมากขนาดนี้ แต่เดี๋ยวนี้เป็นบ่อยมากเลย ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่น่ารัก แล้วก็ออกจะงี่เง่ามากไปด้วยซ้ำแกรกจนฉันได้ยินเสียงเหมือนคนเปิดประตูเข้ามาก็เลยสะดุ้งเฮือก“นิ้ง”เป็นเสียงของฉลาม พอเขาเข้ามาแบบนี้มันก็ยิ่งทำให้ฉันอยากร้องไห้ออกมามากขึ้น เพราะทุกครั้งที่ทะเลาะกันฉลามจะเป็นฝ่ายเข้ามาหาฉันก่อนตลอด... ส่วนฉันเองก็ยังคงขี้ขลาดเหมือนเดิม“ยะ... อย่าเพิ่งเข้ามานะ”ร่าง
นิ้งชะงักไป แล้วหันกลับมามองหน้าผมเหมือนไม่เชื่อหู“ลงไปดิ” ผมดันแขนเธอให้ลง แล้วนิ้งก็ขืนตัวไว้ เหมือนเธอยังไม่เข้าใจ“อะ... อะไรนะ”“บอกให้ลงไปไง” ผมพูด แล้วทำหน้าดุใส่เธอ“...”“จะได้ลงด้วย”ผมจอดรถแล้วมานั่งกับเธอที่ป้ายตรงที่ผมจอดมอไซค์เป็นป้ายรถเมล์พอดี นิ้งยังนั่งเอ๋ออยู่ เธอหันมามองผมเป็นระยะๆ เหมือนเดาไม่ออกว่าผมคิดเหี้ยไรอยู่ในหัว ส่วนผมก็นั่งเขย่าขากอดอกอยู่ข้างๆ เธอเอาจริงๆ ผมก็แค่อยากแกล้งนิ้งเฉยๆเห็นอวดเก่งไง ผมจะดูหน่อยว่าจะเก่งกับผมไปได้ถึงไหน“ไม่เรียกรถไง?” ผมถามลอยๆ ขึ้นมาตอนที่รถแท็กซี่ขับผ่านไป แต่เธอยังนั่งแข็งทื่อไม่ขยับไปไหน “จะกลับเองไม่ใช่เหรอวะนิ้ง”“ละ... แล้วฉลามจะลงมานั่งกับเราทำไมอ่ะ”“เรื่องของเรา” นิ้งทำแก้มป่องทันที เหมือนเธอจะงอนผมนิดหน่อย ร่างเล็กหันหน้าหนี แล้วเธอก็เริ่มพึมพำ“... นิสัยไม่ดี”“ใครนิสัยไม่ดี?” ผมถามย้อน“กะ...” นิ้งสะดุ้ง “ก็ฉลามนั่นแหละ”“ดูตัวเองบ้างเหอะ”“... ฉลามนั่นแหละที่ไม่เคยดูตัวเอง” แล้วนิ้งก็ย้อนผมกลับอีก เดี๋ยวนี้กล้าเถียงผมคอเป็นเอ็นเลยว่ะ เริ่มหมั่นเขี้ยวแล้วดิ“เถียงเหรอ” ผมหันไปหาเรื่อง“อะ... อื้อ”“เธอไม่มีเราเธ







