Se connecterแกร๊ก~
เสียงเปิดประตูห้องนอนดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของเมเกรซในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวยาว ร่างบางหยุดชะงักฝีเท้าด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นอีกคนกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ก่อนที่เขาจับดับมันลงเมื่อเห็นเธอเดินออกมา
"มานั่งนี่สิ" เดม่อนเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อยเพื่อเป็นเชิงบอกให้หญิงสาวมานั่งด้านข้าง ซึ่งเมเกรซก็ยอมทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย เรือนร่างบอบช้ำค่อยๆ หย่อนตัวลงด้วยความยากลำบากจากอาการแสบบริเวณช่วงล่างที่เข้าเล่นงาน โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีดวงตาคมคอยจ้องมองการกระทำของเธออยู่ตลอดเวลา
"ยังปวดหัวอยู่ไหม"
"นิดหน่อยค่ะ แต่ดีขึ้นมากแล้ว"
"อืม" ชายหนุ่มตอบกลับหญิงสาวเพียงเท่านั้นพลางเอนกายพิงโซฟาด้วยท่าทางนิ่งเรียบไม่ต่างจากเดิม จนเมเกรซที่นั่งอยู่เริ่มมีท่าทางร้อนรนออกมาอย่างเห็นได้ชัดจากการที่เขาไม่ยอมพูดอะไรต่อเลย
"มีอะไรจะพูดกับผมงั้นเหรอ" เดม่อนหันกลับไปถามคนด้านข้างอีกครั้งเมื่อเห็นท่าทางของเธอ
"คือเรื่องเมื่อคืน..."
"จะให้ผมรับผิดชอบไหม ผมยินดี..."
"ไม่ต้องค่ะ!" เมเกรซรีบโพล่งปฏิเสธขึ้นทันทีด้วยความรวดเร็วก่อนชายหนุ่มจะพูดจบประโยคจนเดม่อนเค้นหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ ให้กับการกระทำของเธอที่มันไม่ผิดจากการคาดเดาของเขาเลยแม้แต่น้อย
ร่างสูงยังคงสบตาอีกคนอยู่อย่างนั้นแม้จะพอคาดเดาเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว เพียงแต่เขาอยากให้เธอเป็นฝ่ายพูดมันออกมาเองมากกว่า ส่วนเขาก็จะเดินตามเกมอย่างที่เธอต้องการ
"คือ...เกรซแค่จะบอกว่าคุณเดนส์ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรหรอกค่ะ เพราะเมื่อคืนเกรซเป็นคนขอเองแล้วคุณก็น่าจะเมาด้วย ก็เท่ากับว่าเราไม่มีสติกันทั้งคู่ ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เลยว่าเกรซจะมาเรียกร้องอะไรจากคุณ..." หญิงสาวรีบอธิบายไปอย่างยาวเหยียดเพื่อที่เธอจะได้สามารถพูดถึงเรื่องที่ต้องการง่ายขึ้น ในขณะที่เดม่อนยังคงนั่งฟังคนตัวเล็กเงียบๆ อยู่อย่างนั้น เมเกรซคงไม่รู้ตัวว่าเธอในตอนนี้ไม่ต่างจากกระต่ายน้อยที่กำลังพยายามจะเอาตัวรอดจากกับดักเลย หญิงสาวคงหวังแค่ให้ตนเองหลุดพ้นออกไปจากตรงนี้ได้ก็เพียงพอ โดยที่ไม่รู้เลยว่าคนที่กำลังอ้อนวอนอยู่นั้นจะเป็นนายพรานที่รอจับเธออยู่ข้างหน้าอีกที
"แต่เกรซมีเรื่องอยากจะให้คุณเดนส์ช่วยนิดหน่อยน่ะค่ะ"
"เรื่องอะไรเหรอครับ?" ดวงตากลมโตเปล่งประกายขึ้นทันทีเมื่อเห็นท่าทางที่ดูสนใจของคนตรงหน้าก่อนที่เธอจะพยายามทำตัวให้เป็นปกติตามเดิมเพื่อไม่ให้ชายหนุ่มจับได้ว่ากำลังดีใจอยู่
"ความจริงเกรซว่า...เราก็น่าจะอายุไม่ต่างกันมากไหม เพราะคุณเองก็เรียกฉันแบบเป็นกันเองตั้งหลายรอบ" สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้เดม่อนกระตุกยิ้มมุมปากด้วยความถูกใจ เพราะมันไม่ผิดจากที่เขาคาดการณ์ไว้แม้แต่น้อย ดวงตาคมยังคงจ้องมองใบหน้าหวานอยู่อย่างนั้นเพื่อให้เธอได้พูดสิ่งที่ต้องการออกมาให้หมด โดยเมเกรซที่เห็นชายหนุ่มไม่ได้ขัดอะไรก็รีบเอ่ยประโยคถัดไปทันที
"ถ้างั้นฉันจะขอพูดแบบเป็นกันเองและไม่อ้อมค้อมเลยนะคะ"
"สนใจมาเป็นแฟนกับฉันไหม" เมเกรซสบตากับคนตรงหน้าอย่างมีความหวัง ความจริงผู้ชายที่ชื่อเดนส์คนนี้ก็ค่อนข้างที่จะถูกใจเธอไม่น้อยแถมดูเขาก็ไม่น่าจะเป็นคนที่มีพิษภัยตรงไหนด้วย แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่เธอควรจะมาสนใจในตอนนี้เพราะสิ่งที่หญิงสาวต้องการมากที่สุดก็คือการหาแฟนปลอมๆ เพื่อไปหลอกผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายและพังการดูตัวในสัปดาห์หน้าที่กำลังจะมาถึง
"เป็นแฟน? คุณชอบผมอย่างนั้นเหรอ"
"ก็...น่าจะประมาณนั้นมั้งคะ" คนตัวเล็กแสร้งเกาแก้มด้วยความเขินอาย เป้าหมายของเธอคือการทำให้ผู้ชายตรงหน้าตกลงคบหาและชอบเธอให้ได้เพื่อที่เธอจะได้ใช้ประโยชน์จากเขา ในเมื่อย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้เธอก็ควรจะหาประโยชน์จากสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด ส่วนหลังจากนั้นก็ค่อยดูกันต่อไป
"หึ ใจง่ายจังเลยนะ" เรียวปากบางหุบยิ้มลงทันทีกับประโยคที่หลุดออกจากปากของอีกคนในขณะที่เขายังคงมองหน้าเธอด้วยแววตานิ่งเรียบอยู่อย่างนั้น เมเกรซสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเรียกความกล้าอีกครั้งก่อนจะเอ่ยออกไปด้วยความมั่นใจ
"ฉันขอแค่นี้เองนะคะ เราลองคบกันก่อนก็ได้ ขนาดเมื่อคืนคุณยังหาประโยชน์จากร่างกายของฉันเลย"
"คุณ...มีอะไรจะบอกกับผมเพิ่มเติมไหม" ใบหน้าคมคายโน้มลงไปประชิดกับใบหน้าเรียวจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นของกันและกัน ดวงตาคมที่กำลังจ้องมองมาทำเอาเมเกรซเม้มปากเข้าหากันแน่น ทั้งคำพูดและแววตาของเขาคล้ายกับกำลังบอกเธอว่าเขารับรู้แผนการทั้งหมดแล้ว
"เฮ้อ ฉันบอกก็ได้ค่ะ" สุดท้ายคนตัวเล็กที่ไม่อาจทนกับสายตาจับผิดคู่นั้นได้ก็ต้องยอมรับออกมาตรงๆ เมเกรซสบตากับอีกคนที่นั่งอยู่เพียงนิดก่อนจะเอ่ยออกมา
"ฉันอยากให้คุณช่วยฉันค่ะ"
"ช่วย?"
"ค่ะ ฉันอยากให้คุณไปที่ร้านนี้ในฐานะคนรักของฉัน" มือเรียวหยิบนามบัตรของร้านอาหารที่เตรียมไว้มายื่นให้ชายหนุ่มซึ่งมันเป็นร้านที่ครอบครัวของเธอนัดไปดูตัวในสัปดาห์หน้า โดยเดม่อนนั้นก็รับไปอย่างว่าง่ายเพราะเขารู้อยู่แล้วว่าร้านอาหารที่หญิงสาวหมายถึงคือร้านอะไร
"แล้วทำไมผมต้องไปในฐานะนั้นด้วย มัน...เกี่ยวกับที่คุณไปดื่มเมื่อคืนไหม?"
"ประมาณนั้นค่ะ" ริมฝีปากอวบอิ่มเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพลางกำชายเสื้อแน่นด้วยความรู้สึกบางอย่าง แล้วเงยหน้าถามชายหนุ่มอีกครั้ง
"คุณช่วยฉันได้ไหมคะ"
"คุณจะให้ผมไปวันไหน"
"ฮะ! คะ...คุณจะไปจริงๆ เหรอ" เมเกรซฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับจับที่ท่อนแขนแกร่งด้วยความดีใจที่อย่างน้อยผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นคนที่เธอเลือกก็ยอมไปกับเธอ สำหรับเมเกรซแล้วมันดีกว่าการที่จะต้องไปเผชิญหน้ากับว่าที่คู่หมั้นคนนั้นตัวคนเดียว
"สัปดาห์หน้าค่ะ แต่เรามาเจอกันที่คอนโดของคุณก่อนก็ได้"
"คุณไปรอผมที่ร้านก่อนดีกว่าเดี๋ยวผมตามไปทีหลัง วันนั้นน่าจะมีเคลียร์งานนิดหน่อย"
"คุณจะไปจริงๆ ใช่ไหมคะ"
"ใช่ ผมจะไป แล้วก็...จะไปให้คำตอบกับคำถามแรกของคุณด้วย" ใบหน้าหวานแดงระเรื่อด้วยความเขินอายเมื่อริมฝีปากหนาเลื่อนมาขบเม้มที่กลีบปากบางอย่างละเมียดละไมเป็นเชิงหยอกล้อ ก่อนที่ชายหนุ่มจะผละใบหน้าออกมาแล้วเดินเข้าห้องนอนไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
@หนึ่งสัปดาห์ต่อมา"ฉวยจังเลยค่ะแด๊ดจี้" เสียงเล็กของเด็กน้อยเอ่ยบอกผู้เป็นพ่อที่กำลังอุ้มเธออยู่อย่างตื่นเต้นพร้อมกับกวาดสายตามองท้องทะเลสีครามด้วยแววตาที่เปล่งประกาย เพราะเดม่อนเพิ่งจะซื้อบ้านพักตากอากาศที่นี่เมื่อสัปดาห์ก่อน ดังนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่เดมี่ได้มาที่ทะเลแห่งนี้"ดีใจที่หนูชอบนะครับ""น้องเดมี่ชอบมากๆ เลยค่ะ" เดมี่ยิ้มตอบกลับจนตาหยีจนเดม่อนอดที่จะเลื่อนไปหน้าไปขโมยหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ไม่ได้ด้วยความเอ็นดู เพราะหน้าตาและนิสัยที่เหมือนกับเมเกรซเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ชายอย่างเขาตกหลุมรักเด็กน้อยคนนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ได้"แล้วไหนช่างภาพที่จะถ่ายรูปล่ะคะ" เมเกรซในชุดกระโปรงสีขาวสะอาดที่เดินตามหลังของสองพ่อลูกเอ่ยถามสามีหนุ่มด้วยความสงสัยเพราะวันนี้เดม่อนบอกกับเธอว่าจะมีการถ่ายรูปครอบครัวด้วยกันทว่าพอมองไปก็เห็นแต่สถานที่ที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงามเท่านั้นแต่กลับไร้วี่แววของช่างถ่ายภาพที่เธอต้องการ"กลัวพี่จะหลอกอีกหรือไง สายตาของเกรซมันฟ้องนะ""มีสามีเจ้าเล่ห์เลยต้องระวังตัวไว้ค่ะ" เมเกรซยิ้มตอบกลับพ่อของลูกไปอย่างติดตลกเพราะไม่ว่าจะกี่ปีเดม่อนก็ยังทำตัวร้ายกาจกับเธอเสมอ ความเจ
@คอนโดเดม่อนพรึ่บ~"แด๊ดดี้ฟังเกรซก่อน..." เมเกรซที่ถูกเหวี่ยงเข้ามาในห้องนอนยืนมองร่างสูงด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา เพราะพอออกจากบ้านมาเดม่อนก็พาเธอมุ่งหน้ามายังคอนโดของเขาเลยทันที ซึ่งเมเกรซที่รู้อยู่แล้วว่าสถานที่นี้มีไว้สำหรับการลงโทษของเขาก็พยายามเอ่ยอย่างวิงวอนสุดฤทธิ์แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลกับชายหนุ่มแม้แต่น้อย"ถอดชุดออกสิครับ เราอยากสัมผัสอากาศเย็นไม่ใช่เหรอ" เดม่อนเอ่ยบอกเสียงเรียบพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะเลื่อนมือลงไปปลดเข็มขัดเป็นประการถัดมาในขณะที่เมเกรซยังคงกำชายกระโปรงแน่นด้วยความหวาดกลัว"ถอดออก" ปากหนากดเสียงต่ำจนร่างเล็กสะดุ้งเฮือก มือเรียวสั่นเทาค่อยๆ ถอดชุดของตัวเองออกอย่างกล้าๆ กลัวๆ จนในที่สุดก็เผยให้เห็นร่างบางที่มีสิ่งปกปิดจุดสงวนเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่"ไม่ใส่เสื้อใน?" ชายหนุ่มกัดฟันแน่นด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่นแล้วจ้องมองภรรยาสาวด้วยแววตาแข็งกร้าวเมื่อเห็นว่าเธอใช้เพียงแค่แผ่นซิลิโคนปกปิดหน้าอกขนาดใหญ่ไว้เท่านั้น"ถะ...ถ้าใส่แล้วมันจะเห็น...""แต่ยอมให้คนอื่นเห็นนมได้?""ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย..." เมเกรซก้มหน้างุดแล้วตอบกลับเสียงเบาในขณะที่เดม่อ
"หม่ามี๊ขาา วันนี้พาน้องเดมี่ไปเที่ยวหน่อยค่ะ" เด็กสาวตัวน้อยวิ่งมาสวมกอดผู้เป็นแม่ที่กำลังแต่งตัวอยู่อย่างออดอ้อนในขณะที่เมเกรซย่อตัวลงตรงหน้าของเธอเล็กน้อยแล้วอธิบายให้ลูกฟัง"ไปไม่ได้ค่ะ ถ้าเราหนีไปเที่ยวกันแด๊ดดี้ต้องดุมี๊แน่ๆ เลย""แต่วันนี้แด๊ดจี้ไปทามงาน""หืม? วันนี้เหรอคะ""แด๊ดจี้บอกน้องเดมี่ว่าจะกลับดึก ให้นอนก่อนได้เลยไม่ต้องรอค่ะ" เด็กสาวที่ไม่รู้เรื่องอะไรเอ่ยบอกคนเป็นแม่ไปตามที่ได้ยินจนเมเกรซคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่เธอจะได้มีอิสระหลังจากที่ถูกคนตัวสูงควบคุมมาหลายปี"งั้นเราก็...ไปเที่ยวกันดีไหมคะ เดี๋ยวมี๊พาไปกินไอติมให้รางวัลคนเก่ง""คิกๆๆ ยักมี๊" เดมี่สวมกอดลำคอบางไว้อย่างอารมณ์ดีต่างจากเมเกรซที่ลอบยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจที่จะได้ทำตามใจตัวเอง ซึ่งมันก็มีแค่เรื่องเดียวเท่านั้นที่เดม่อนจะห้ามเธอก็คือเรื่องการแต่งตัวมือเรียวรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเพื่อเช็คกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ก่อนจะพบว่าไม่มีลูกน้องของเดม่อนยืนอยู่แบบทุกวันบ่งบอกว่าพวกเขาอาจจะออกไปพร้อมกับเดม่อน"สงสัยจะไปทำงานจริงๆ" ปากเล็กพึมพำเสียงเบาตามความคิดของตัวเอง เพราะตอนนี้เดม่อนก็ยังคงทำงานเกี่ยวก
@หลายปีต่อมา-คฤหาสน์เดม่อน"คูมย่าขาา~" เสียงใสของเด็กน้อยวัยสามขวบกว่าที่กำลังวิ่งเข้ามาในบ้านเอ่ยเรียกผู้เป็นย่าที่กำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่ ในขณะที่มือยังคงถือของกินมากมายที่กรองขวัญให้มา"คนเก่งของย่า เป็นยังไงบ้างคะ วันนี้ไปเที่ยวมาสนุกไหม" อนงค์รีบวางทุกอย่างในมือลงแล้วไปอุ้มหลานสาวตัวน้อยขึ้นมาแนบอกทันที พวงแก้มป่องที่อยู่เสมอกับใบหน้าทำให้เธออดไม่ได้ที่จะขโมยหอมแก้มเล็กนั้นฟอดใหญ่ การกระทำของเธอสร้างเสียงหัวเราะให้กับเด็กน้อยได้ไม่ยาก"คิกๆๆ""เรียกแต่ย่าอย่างเดียว ไม่เรียกปู่เลยเหรอ" ดีนที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นบนเอ่ยถามหลานสาวที่กำลังหยอกล้อกับอนงค์เสียงน้อยใจจนเด็กสาวต้องผละใบหน้าออกมา สองแขนเล็กยื่นไปตรงหน้าราวกับเป็นเชิงบอกว่าต้องการจะให้เขาอุ้มจนดีนอดที่จะอมยิ้มออกมาไม่ได้เหมือนกันให้กับความออดอ้อนของคนตัวเล็กที่มักจะทำให้พวกเขาตกหลุมรักได้เสมอ"จะน่ารักไปไหนเนี่ย หลานปู่""ไปเที่ยวบ้านพ่อกับแม่มาสนุกไหมลูก" อนงค์หันมาถามคุณแม่สาวที่ยืนอยู่ด้วยรอยยิ้ม เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ เมเกรซจึงพาลูกกลับไปที่บ้านของตัวเองเพื่อให้เมสันและกรองขวัญได้เล่นกับหลานบ้าง แต่ส่วนมากพวกเขามักจะมา
"ผมขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมครับ" เดม่อนที่เดินเลี่ยงออกมาเอ่ยถามคนที่ยืนอยู่ตรงระเบียงของห้องเสียงสุภาพ ในขณะที่เมสันปรายตามองไปยังชายหนุ่มรุ่นลูกด้วยสายตายากจะคาดเดาก่อนจะตอบกลับไปอย่างไม่เต็มใจนัก"มีเรื่องอะไร""ผมอยากรู้ว่าคุณรู้สึกยังไงกับเกรซครับ" ชายหนุ่มเอ่ยถามไปอย่างไม่อ้อมค้อมก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ตรงด้านข้างของเขาในขณะที่เมสันตวัดสายตามองคนด้านข้างด้วยความไม่พอใจที่ดูเหมือนเดม่อนจะทำตัวไม่รู้จักผู้ใหญ่เกินไป"ฉันไม่จำเป็นต้องบอกนาย""แล้วถ้าผมบอกว่าผมรู้เรื่องลูกชายของคุณสมบัติ คุณพ่อจะยอมคุยกับผมไหมครับ" ชื่อของคนที่คุ้นเคยและคำพูดที่ราวกับรู้เรื่องบางอย่างทำให้เมสันชะงักไปด้วยความประหลาดใจก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติตามเดิมเพื่อไม่ให้อีกคนรับรู้ความรู้สึกของตัวเอง"ฉันไม่เข้าใจว่านายพูดว่าอะไร""ผมว่าคุณพ่อน่าจะเข้าใจดีนะครับ เพราะถึงขนาดไปที่บ้านนั้นหลายครั้งเพื่อโน้มน้าวให้ลูกชายของเขามาแย่งเกรซไปจากผม" เดม่อนเอ่ยบอกเสียงเรียบอย่างไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาต่างจากเมสันที่มีสีหน้าตกใจอย่างชัดเจนเพราะไม่คิดว่าคนด้านข้างจะรู้ถึงสิ่งที่เขาทำ"หึ คิดว่าผมไม่รู้เหรอครับว่าคุณพ่อทำอะ
@หนึ่งสัปดาห์ต่อมา"เหนื่อยไหมคะพี่เดนส์" เมเกรซที่นั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยถามแทรกสามีหนุ่มที่กำลังนั่งอ่านหนังสือให้เธอฟังอยู่ ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมาเดม่อนก็คอยดูแลเธออย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดจนตอนนี้สภาพจิตใจของเมเกรซเริ่มดีขึ้นมาก เธอไม่กลัวการที่จะต้องเจอกับคนอื่นรวมถึงไม่ได้กลัวต่อเหตุการณ์นั้นเท่าเมื่อก่อนแล้ว อาจจะมีบ้างบางวันที่ฝันร้ายแต่เดม่อนก็จะคอยปลุกเธอจากความฝันนั้นและปลอบโยนเธออยู่ตลอด อีกทั้งเขายังช่วยเธอในเรื่องของมหาวิทยาลัยที่หญิงสาวได้หยุดเรียนไปด้วยส่วนเรื่องของคาร์เตอร์ เดม่อนไม่ได้ฆ่าเขาภายในวันเดียว แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะทรมานเขาในทุกวันจนในที่สุดร่างกายของคาร์เตอร์ก็ทนรับความเจ็บปวดไม่ไหวและหมดลมหายใจไปเมื่อสองวันก่อน และครั้งนี้ก็ไม่เหมือนกับเมื่อหลายปีที่แล้วเนื่องจากเดม่อนได้เข้าไปดูศพของชายหนุ่มแล้วจัดการเผาร่างนั้นด้วยตัวเอง เขาอยากจะเห็นคนที่ทำร้ายภรรยาของเขาตายไปต่อหน้าจริงๆ เพื่อความมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ขึ้นกับเมเกรซอีกทุกอย่างได้จบลงพร้อมกับอดีตมาเฟียหนุ่มที่ตายไป เช่นเดียวกับบาดแผลในจิตใจของเมเกรซที่เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ในทุกวัน"ทำไมถา







