Se connecter@เช้าวันต่อมา
ใบหน้าหล่อไร้กรอบแว่นมองร่างกายเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่นอนหลับอยู่ด้วยแววตานิ่งเรียบไม่ต่างจากเดิม สองเท้าหนักเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่เตียงพร้อมกับหย่อนตัวลงด้วยความแผ่วเบา ฝ่ามือหยาบกร้านเลื่อนไปสัมผัสกับร่องรอยตามเรือนร่างขาวเนียนด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างไม่เต็มเสียงนัก
"ร่างกายผู้หญิงช้ำง่ายขนาดนี้เลยเหรอ" เดม่อนขมวดคิ้วยุ่งด้วยความสงสัยเพราะตามร่างกายของเมเกรซนั้นมีรอยแดงเต็มไปหมด แม้เมื่อคืนเขาตั้งใจจะรุนแรงกับเธอเพื่อต้องการลงโทษที่ยอมปล่อยตัวไปกับผู้ชายโดยง่าย แต่เขาก็ไม่คิดว่าหญิงสาวที่สลบไปจะบอบช้ำขนาดนี้
"ครั้งแรกของเธอฉันออมแรงแล้วนะ" ดวงตาคมยังคงจ้องมองคนตัวเล็กอยู่อย่างนั้นพร้อมกับลูบไล้ตามร่างกายขาวเนียนไปด้วย เมื่อคืนหลังจากเดม่อนได้รับสายจากลูกน้องที่สั่งให้ไปตามดูความเคลื่อนไหวของเมเกรซ เขาก็รีบมุ่งหน้าไปยังผับนั้นทันที เนื่องจากลูกน้องได้รายงานมาว่าหญิงสาวทะเลาะกับครอบครัวเรื่องการหมั้นหมายจนต้องมาดื่มอย่างหนัก ทำให้ชายหนุ่มอดที่จะเป็นกังวลไม่ได้ และพอเดม่อนไปถึงสิ่งที่เขากำลังกังวลก็เป็นจริงเมื่อพบว่าเธอกำลังส่งสายตาหยาดเยิ้มให้แก่ผู้ชายคนอื่นอยู่ ชายหนุ่มจึงต้องรีบเข้าไปตัดหน้าและแย่งตัวเธอมาก่อนที่หญิงสาวจะได้ทำอะไรมากกว่านั้น โดยชื่อที่เดม่อนแนะนำให้เมเกรซได้รู้จักว่า'เดนส์'นั้นเป็นชื่อเล่นของเขาเอง และที่ชายหนุ่มต้องแนะนำตัวไปอย่างนั้นก็เพราะกลัวว่าหญิงสาวจะสงสัยในอีกชื่อหนึ่งของเขา
แล้วทุกอย่างก็จบลงตามเมื่อคืนที่เดม่อนได้ทำการลงโทษคนเมาจนสลบไปทั้งๆ ที่แก่นกายของเขายังคงคาอยู่ตรงนั้นของเธอ
"เธอต้องเป็นของฉันคนเดียว" ริมฝีปากหนาเอ่ยบอกคนที่นอนไม่ได้สติอยู่ด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวก่อนจะโน้มใบหน้าหล่อลงไปดูดดุนยอดปทุมถันบวมเป่งอย่างแรงจนเมเกรซต้องส่งเสียงร้องประท้วงออกมา
"อื้อ! จะ...เจ็บ" มือเล็กกำผ้าปูที่นอนแน่นอย่างไม่ได้สติพร้อมทั้งส่งเสียงร้องออกมาแม้ดวงตาจะยังปิดสนิทอยู่ ทว่าเดม่อนก็ยังไม่ผละใบหน้าออกไป เขายังคงไล่ดูดเลียที่หน้าอกอวบอิ่มอยู่อย่างนั้นจนน้ำลายใสเปียกชื้นไปทั่วเนินอก ก่อนที่เสียงเล็กจะดังขึ้นขัดจังหวะ
"คุณเดนส์..." เมเกรซเอ่ยเรียกชื่ออีกคนด้วยน้ำเสียงแหบแห้งจนเดม่อนต้องจำใจผละใบหน้าออกอย่างเลี่ยงไม่ได้ มือหนายกขึ้นมาเช็ดริมฝีปากลวกๆ ก่อนจะเบนสายตาไปยังใบหน้าหวานของคนที่นอนอยู่
"ตื่นแล้วเหรอ ยังปวดหัวอยู่ไหม"
"นิดหน่อยค่ะ ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ"
"เที่ยงแล้ว"
"ฮะ! เที่ยงแล้วเหรอคะ" ร่างเล็กดีดตัวลุกขึ้นอย่างลืมตัวเมื่อนึกได้ว่าวันนี้เธอมีเรียนในช่วงเช้า ก่อนที่มือเรียวจะยกขึ้นมากุมหน้าท้องแบนราบไว้ในเวลาต่อมาจากความเจ็บปวดที่เข้าเล่นงานทั่วร่างกาย
"รู้ว่ามีเรียนทำไมยังไปดื่มอีก" คนตัวโตดุหญิงสาวเสียงเข้มอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก ในขณะที่เมเกรซเอ่ยตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาอย่างรู้สึกผิด
"ใครจะไปคิดว่าจะตื่นเวลานี้..."
"แล้วนี่คุณได้สติแล้วใช่ไหม?" เดม่อนเอ่ยถามคนที่นั่งกุมหน้าท้องด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ซึ่งเมเกรซก็มองหน้าเขาด้วยความไม่เข้าใจนักก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่งราวกับกำลังคิดบางอย่างแล้วจึงตอบกลับมา
"คงงั้นค่ะ แต่ยังจำอะไรเมื่อคืนไม่ค่อยได้" เธอจำได้แค่ว่าหลังจากที่ทะเลาะกับที่บ้าน ตัวเองก็ไปดื่มจนเมามากแล้วก็พบกับคนตรงหน้า และทั้งคู่ก็ได้นั่งดื่มกันพักใหญ่ก่อนที่เขาจะพาเธอมายังคอนโด หากแต่เธอกลับจำเรื่องราวหลังจากนั้นไม่ได้
"คุณรู้ใช่ไหมว่าเมื่อคืนเราทำอะไรกัน" เมเกรซพยักหน้ารับเพียงนิดเป็นคำตอบ เธอพอจะจำเหตุการณ์ใหญ่ๆ ได้ว่าทำอะไรลงไปบ้างแต่เรื่องรายละเอียดในแต่ละเหตุการณ์นั้น...เธอจำไม่ได้เลย
"งั้นก็แสดงว่าคุณรู้ว่าเมื่อคืนนอนกับผม"
"ค่ะ..."
"แล้วคุณไม่ตกใจเลยเหรอ?" เดม่อนเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่พลางเสยผมลวกๆ อย่างหงุดหงิด เขาคิดว่าเมื่อหญิงสาวตื่นมาแล้วเธอคงจะต้องร้องไห้โวยวายหรือไม่ก็บอกว่าเรื่องเมื่อคืนเป็นแค่ความผิดพลาด แต่เมเกรซกลับมีสีหน้าที่นิ่งเรียบราวกับไม่รู้สึกอะไรเลยที่ต้องเสียครั้งแรกให้กับคนแปลกหน้าอย่างเขา
"นั่นสิ...ฉันควรจะตกใจใช่ไหมนะ" เมเกรซพูดกับตนเองเสียงเบาพลางนึกถึงเรื่องราวเมื่อคืนไปด้วย ความเจ็บปวดบริเวณใจกลางความเป็นสาวรวมถึงร่องรอยต่างๆ ตามร่างกายเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าทุกอย่างมันเป็นเรื่องจริงไม่ใช่เพียงแค่ความฝันในตอนเมา ทว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ส่งผลต่อความรู้สึกของเธอได้เท่ากับเรื่องของว่าที่คู่หมั้นคนนั้นเลย เธอยังคงเจ็บปวดกับคำพูดของคนที่เธอเรียกว่าเป็นพ่อและแม่ของตัวเองอยู่
"เมเกรซ" เดม่อนกดเสียงต่ำให้กับท่าทางของเธอที่ดูจะไม่ได้ตกใจหรือเสียใจเลยแม้แต่นิดเดียว ท่าทางเหล่านั้นมันทำให้เขาเผลอคิดไปว่าหากคนที่ยืนอยู่ต่อหน้าเธอตรงนี้ไม่ใช่เขามันจะเป็นยังไง เพียงแค่ความคิดนั้นก็ทำให้เขาอยากจะลงโทษคนตรงหน้าอีกครั้งหนึ่งแล้ว
"หึ คุณคงแปลกใจใช่ไหมคะที่ฉันดูไม่รู้สึกอะไรเลยทั้งๆ ที่มันเป็นครั้งแรกของฉัน ฉันควรจะร้องไห้ฟูมฟายที่เสียครั้งแรกให้กับคนที่ไม่รู้จัก แต่นี่มันไม่ใช่เลย" เธอควรจะมีความคิดบางอย่างสักนิดให้กับเหตุการณ์ในครั้งนี้หากแต่ในสมองของเธอมันกลับว่างเปล่า เมเกรซสบตากับคนที่ยืนอยู่ด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความรู้สึกลึกๆ ของเธอจนเดม่อนต้องพ่นลมหายใจหายใจออกมาหนักๆ เพื่อระงับอารมณ์บางอย่าง ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
"ไปอาบน้ำแล้วค่อยมาคุยกัน" ร่างสูงเอ่ยบอกคนตัวเล็กเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินออกมาจากห้องนอน เพื่อให้เธอได้มีเวลาส่วนตัวและคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้ง
@หนึ่งสัปดาห์ต่อมา"ฉวยจังเลยค่ะแด๊ดจี้" เสียงเล็กของเด็กน้อยเอ่ยบอกผู้เป็นพ่อที่กำลังอุ้มเธออยู่อย่างตื่นเต้นพร้อมกับกวาดสายตามองท้องทะเลสีครามด้วยแววตาที่เปล่งประกาย เพราะเดม่อนเพิ่งจะซื้อบ้านพักตากอากาศที่นี่เมื่อสัปดาห์ก่อน ดังนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่เดมี่ได้มาที่ทะเลแห่งนี้"ดีใจที่หนูชอบนะครับ""น้องเดมี่ชอบมากๆ เลยค่ะ" เดมี่ยิ้มตอบกลับจนตาหยีจนเดม่อนอดที่จะเลื่อนไปหน้าไปขโมยหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ไม่ได้ด้วยความเอ็นดู เพราะหน้าตาและนิสัยที่เหมือนกับเมเกรซเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ชายอย่างเขาตกหลุมรักเด็กน้อยคนนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ได้"แล้วไหนช่างภาพที่จะถ่ายรูปล่ะคะ" เมเกรซในชุดกระโปรงสีขาวสะอาดที่เดินตามหลังของสองพ่อลูกเอ่ยถามสามีหนุ่มด้วยความสงสัยเพราะวันนี้เดม่อนบอกกับเธอว่าจะมีการถ่ายรูปครอบครัวด้วยกันทว่าพอมองไปก็เห็นแต่สถานที่ที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงามเท่านั้นแต่กลับไร้วี่แววของช่างถ่ายภาพที่เธอต้องการ"กลัวพี่จะหลอกอีกหรือไง สายตาของเกรซมันฟ้องนะ""มีสามีเจ้าเล่ห์เลยต้องระวังตัวไว้ค่ะ" เมเกรซยิ้มตอบกลับพ่อของลูกไปอย่างติดตลกเพราะไม่ว่าจะกี่ปีเดม่อนก็ยังทำตัวร้ายกาจกับเธอเสมอ ความเจ
@คอนโดเดม่อนพรึ่บ~"แด๊ดดี้ฟังเกรซก่อน..." เมเกรซที่ถูกเหวี่ยงเข้ามาในห้องนอนยืนมองร่างสูงด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา เพราะพอออกจากบ้านมาเดม่อนก็พาเธอมุ่งหน้ามายังคอนโดของเขาเลยทันที ซึ่งเมเกรซที่รู้อยู่แล้วว่าสถานที่นี้มีไว้สำหรับการลงโทษของเขาก็พยายามเอ่ยอย่างวิงวอนสุดฤทธิ์แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลกับชายหนุ่มแม้แต่น้อย"ถอดชุดออกสิครับ เราอยากสัมผัสอากาศเย็นไม่ใช่เหรอ" เดม่อนเอ่ยบอกเสียงเรียบพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะเลื่อนมือลงไปปลดเข็มขัดเป็นประการถัดมาในขณะที่เมเกรซยังคงกำชายกระโปรงแน่นด้วยความหวาดกลัว"ถอดออก" ปากหนากดเสียงต่ำจนร่างเล็กสะดุ้งเฮือก มือเรียวสั่นเทาค่อยๆ ถอดชุดของตัวเองออกอย่างกล้าๆ กลัวๆ จนในที่สุดก็เผยให้เห็นร่างบางที่มีสิ่งปกปิดจุดสงวนเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่"ไม่ใส่เสื้อใน?" ชายหนุ่มกัดฟันแน่นด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่นแล้วจ้องมองภรรยาสาวด้วยแววตาแข็งกร้าวเมื่อเห็นว่าเธอใช้เพียงแค่แผ่นซิลิโคนปกปิดหน้าอกขนาดใหญ่ไว้เท่านั้น"ถะ...ถ้าใส่แล้วมันจะเห็น...""แต่ยอมให้คนอื่นเห็นนมได้?""ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย..." เมเกรซก้มหน้างุดแล้วตอบกลับเสียงเบาในขณะที่เดม่อ
"หม่ามี๊ขาา วันนี้พาน้องเดมี่ไปเที่ยวหน่อยค่ะ" เด็กสาวตัวน้อยวิ่งมาสวมกอดผู้เป็นแม่ที่กำลังแต่งตัวอยู่อย่างออดอ้อนในขณะที่เมเกรซย่อตัวลงตรงหน้าของเธอเล็กน้อยแล้วอธิบายให้ลูกฟัง"ไปไม่ได้ค่ะ ถ้าเราหนีไปเที่ยวกันแด๊ดดี้ต้องดุมี๊แน่ๆ เลย""แต่วันนี้แด๊ดจี้ไปทามงาน""หืม? วันนี้เหรอคะ""แด๊ดจี้บอกน้องเดมี่ว่าจะกลับดึก ให้นอนก่อนได้เลยไม่ต้องรอค่ะ" เด็กสาวที่ไม่รู้เรื่องอะไรเอ่ยบอกคนเป็นแม่ไปตามที่ได้ยินจนเมเกรซคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่เธอจะได้มีอิสระหลังจากที่ถูกคนตัวสูงควบคุมมาหลายปี"งั้นเราก็...ไปเที่ยวกันดีไหมคะ เดี๋ยวมี๊พาไปกินไอติมให้รางวัลคนเก่ง""คิกๆๆ ยักมี๊" เดมี่สวมกอดลำคอบางไว้อย่างอารมณ์ดีต่างจากเมเกรซที่ลอบยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจที่จะได้ทำตามใจตัวเอง ซึ่งมันก็มีแค่เรื่องเดียวเท่านั้นที่เดม่อนจะห้ามเธอก็คือเรื่องการแต่งตัวมือเรียวรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเพื่อเช็คกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ก่อนจะพบว่าไม่มีลูกน้องของเดม่อนยืนอยู่แบบทุกวันบ่งบอกว่าพวกเขาอาจจะออกไปพร้อมกับเดม่อน"สงสัยจะไปทำงานจริงๆ" ปากเล็กพึมพำเสียงเบาตามความคิดของตัวเอง เพราะตอนนี้เดม่อนก็ยังคงทำงานเกี่ยวก
@หลายปีต่อมา-คฤหาสน์เดม่อน"คูมย่าขาา~" เสียงใสของเด็กน้อยวัยสามขวบกว่าที่กำลังวิ่งเข้ามาในบ้านเอ่ยเรียกผู้เป็นย่าที่กำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่ ในขณะที่มือยังคงถือของกินมากมายที่กรองขวัญให้มา"คนเก่งของย่า เป็นยังไงบ้างคะ วันนี้ไปเที่ยวมาสนุกไหม" อนงค์รีบวางทุกอย่างในมือลงแล้วไปอุ้มหลานสาวตัวน้อยขึ้นมาแนบอกทันที พวงแก้มป่องที่อยู่เสมอกับใบหน้าทำให้เธออดไม่ได้ที่จะขโมยหอมแก้มเล็กนั้นฟอดใหญ่ การกระทำของเธอสร้างเสียงหัวเราะให้กับเด็กน้อยได้ไม่ยาก"คิกๆๆ""เรียกแต่ย่าอย่างเดียว ไม่เรียกปู่เลยเหรอ" ดีนที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นบนเอ่ยถามหลานสาวที่กำลังหยอกล้อกับอนงค์เสียงน้อยใจจนเด็กสาวต้องผละใบหน้าออกมา สองแขนเล็กยื่นไปตรงหน้าราวกับเป็นเชิงบอกว่าต้องการจะให้เขาอุ้มจนดีนอดที่จะอมยิ้มออกมาไม่ได้เหมือนกันให้กับความออดอ้อนของคนตัวเล็กที่มักจะทำให้พวกเขาตกหลุมรักได้เสมอ"จะน่ารักไปไหนเนี่ย หลานปู่""ไปเที่ยวบ้านพ่อกับแม่มาสนุกไหมลูก" อนงค์หันมาถามคุณแม่สาวที่ยืนอยู่ด้วยรอยยิ้ม เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ เมเกรซจึงพาลูกกลับไปที่บ้านของตัวเองเพื่อให้เมสันและกรองขวัญได้เล่นกับหลานบ้าง แต่ส่วนมากพวกเขามักจะมา
"ผมขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมครับ" เดม่อนที่เดินเลี่ยงออกมาเอ่ยถามคนที่ยืนอยู่ตรงระเบียงของห้องเสียงสุภาพ ในขณะที่เมสันปรายตามองไปยังชายหนุ่มรุ่นลูกด้วยสายตายากจะคาดเดาก่อนจะตอบกลับไปอย่างไม่เต็มใจนัก"มีเรื่องอะไร""ผมอยากรู้ว่าคุณรู้สึกยังไงกับเกรซครับ" ชายหนุ่มเอ่ยถามไปอย่างไม่อ้อมค้อมก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ตรงด้านข้างของเขาในขณะที่เมสันตวัดสายตามองคนด้านข้างด้วยความไม่พอใจที่ดูเหมือนเดม่อนจะทำตัวไม่รู้จักผู้ใหญ่เกินไป"ฉันไม่จำเป็นต้องบอกนาย""แล้วถ้าผมบอกว่าผมรู้เรื่องลูกชายของคุณสมบัติ คุณพ่อจะยอมคุยกับผมไหมครับ" ชื่อของคนที่คุ้นเคยและคำพูดที่ราวกับรู้เรื่องบางอย่างทำให้เมสันชะงักไปด้วยความประหลาดใจก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติตามเดิมเพื่อไม่ให้อีกคนรับรู้ความรู้สึกของตัวเอง"ฉันไม่เข้าใจว่านายพูดว่าอะไร""ผมว่าคุณพ่อน่าจะเข้าใจดีนะครับ เพราะถึงขนาดไปที่บ้านนั้นหลายครั้งเพื่อโน้มน้าวให้ลูกชายของเขามาแย่งเกรซไปจากผม" เดม่อนเอ่ยบอกเสียงเรียบอย่างไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาต่างจากเมสันที่มีสีหน้าตกใจอย่างชัดเจนเพราะไม่คิดว่าคนด้านข้างจะรู้ถึงสิ่งที่เขาทำ"หึ คิดว่าผมไม่รู้เหรอครับว่าคุณพ่อทำอะ
@หนึ่งสัปดาห์ต่อมา"เหนื่อยไหมคะพี่เดนส์" เมเกรซที่นั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยถามแทรกสามีหนุ่มที่กำลังนั่งอ่านหนังสือให้เธอฟังอยู่ ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมาเดม่อนก็คอยดูแลเธออย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดจนตอนนี้สภาพจิตใจของเมเกรซเริ่มดีขึ้นมาก เธอไม่กลัวการที่จะต้องเจอกับคนอื่นรวมถึงไม่ได้กลัวต่อเหตุการณ์นั้นเท่าเมื่อก่อนแล้ว อาจจะมีบ้างบางวันที่ฝันร้ายแต่เดม่อนก็จะคอยปลุกเธอจากความฝันนั้นและปลอบโยนเธออยู่ตลอด อีกทั้งเขายังช่วยเธอในเรื่องของมหาวิทยาลัยที่หญิงสาวได้หยุดเรียนไปด้วยส่วนเรื่องของคาร์เตอร์ เดม่อนไม่ได้ฆ่าเขาภายในวันเดียว แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะทรมานเขาในทุกวันจนในที่สุดร่างกายของคาร์เตอร์ก็ทนรับความเจ็บปวดไม่ไหวและหมดลมหายใจไปเมื่อสองวันก่อน และครั้งนี้ก็ไม่เหมือนกับเมื่อหลายปีที่แล้วเนื่องจากเดม่อนได้เข้าไปดูศพของชายหนุ่มแล้วจัดการเผาร่างนั้นด้วยตัวเอง เขาอยากจะเห็นคนที่ทำร้ายภรรยาของเขาตายไปต่อหน้าจริงๆ เพื่อความมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ขึ้นกับเมเกรซอีกทุกอย่างได้จบลงพร้อมกับอดีตมาเฟียหนุ่มที่ตายไป เช่นเดียวกับบาดแผลในจิตใจของเมเกรซที่เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ในทุกวัน"ทำไมถา







