Home / มาเฟีย / I'M YOURS พ่อมาเฟีย / บทที่ 4 โดนเซอร์ไพรส์กลับ

Share

บทที่ 4 โดนเซอร์ไพรส์กลับ

last update Last Updated: 2025-08-03 16:34:10

บทที่ 4 โดนเซอร์ไพรส์กลับ

ห้องนอนเงียบสงบ มีเพียงเสียงนาฬิกาดังติ๊กต่อกเป็นจังหวะ ยาหยีนั่งอยู่หน้าสมุดบันทึกเล่มปกแข็งสีเทานวล มือขวาถือปากกาหัวเข็มอย่างระมัดระวัง ขณะที่ปลายนิ้วยังเปื้อนรอยหมึกบางๆ จากหน้าก่อน

เธอค่อยๆ เขียนตัวอักษรลงบนกระดาษด้วยลายมือที่ตั้งใจมากกว่าทุกครั้ง

วันที่ 1 วันก่อนฝังตัวอ่อน

ฉันตื่นตั้งแต่ตีห้า ทั้งที่ปกติก็เป็นคนนอนขี้เซา แต่อยู่ๆ หัวใจก็ตื่นก่อนนาฬิกา ตื่นเพราะความตื่นเต้น ตื่นเพราะรู้ว่าวันพรุ่งนี้ ชีวิตฉันจะไม่เหมือนเดิม

ฉันมองภาพถ่ายของเขาก่อนนอนทุกคืน ใจเต้นแรงเหมือนจะบ้า อยากบอกเขา อยากให้เขารู้แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้

วันที่ 2 วันฝังตัวอ่อน

เช้านี้อากาศดี หมอพูดเบาๆ กับฉันว่า ทุกอย่างสมบูรณ์มากนะคะฉันน้ำตาซึมเลย ทั้งที่ไม่เจ็บอะไรเลยด้วยซ้ำ

ตัวอ่อนของเราลูกของฉันกับพี่ลี กำลังอยู่ในตัวฉันแล้วนะ วันนี้คือวันเริ่มต้นของครอบครัวที่ฉันฝันไว้

วันที่ 5 ฉันยังไม่บอกใคร แม้แต่แม่

แต่ฉันอยากให้พี่ลีเป็นคนแรกที่รู้ในวันที่ใช่ วันที่เขาเห็นฉันยิ้มทั้งน้ำตา แล้วเขาเองก็ยิ้มกลับโดยไม่ต้องพูดอะไร

ยาหยีหยุดเขียน ก้มหน้าลงสูดลมหายใจลึกๆ แล้วพยักหน้ากับตัวเองเบาๆ ริมฝีปากขยับเหมือนกำลังสัญญาอะไรสักอย่างกับหน้ากระดาษ

สมุดบันทึกเล่มนี้ เธอไม่เคยเขียนให้ใครอ่าน แต่ครั้งนี้เธอเขียนไว้เพื่อเขา

สองสัปดาห์ต่อมา

เธอยืนหน้ากระจก ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งกลบหน้าท้องแบนราบ แม้จะยังไม่มีวี่แววของการตั้งครรภ์ให้เห็น แต่อะไรบางอย่างในดวงตาเธอก็เปล่งประกายมากกว่าทุกครั้ง

บนเตียงมีถุงผ้าสีขาวสะอาดวางไว้ ในนั้นมีที่ตรวจครรภ์ที่ขึ้นสองขีด ภาพอัลตราซาวด์ตัวอ่อนที่ยังเป็นเพียงจุดเล็กๆ และ…สมุดบันทึกเล่มนั้น

ยาหยีลูบปกสมุดช้าๆ อย่างทะนุถนอม ก่อนจะหยิบมันขึ้นแนบอก

“ถึงเวลาแล้วนะพี่ลี” เธอกระซิบเบาๆ เหมือนเขาอยู่ตรงหน้า “หยีจะบอกพี่แล้ว ว่าหยีไม่ได้มีแค่รักให้พี่…แต่มีชีวิตใหม่ของเราอยู่ในนี้ด้วย”

รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก พร้อมกับน้ำตาหนึ่งหยด…ที่ร่วงลงบนหน้าปกสมุดเงียบๆ อย่างไม่ทันรู้ตัว

วันเวลาผ่านไปช้าอย่างใจน้อย…

ยาหยีรู้สึกเหมือนทุกวินาทีคือการนับถอยหลังไปสู่วันที่หัวใจเธอจะเต็มตื้นที่สุดในชีวิต วันที่เธอจะยื่นถุงผ้าใบนั้นให้ลี วันที่เขาจะได้เห็นสองขีดบนที่ตรวจครรภ์กับรูปอัลตราซาวด์… และอ่านสมุดบันทึกทุกหน้าที่เธอเขียนด้วยหัวใจ

แต่สิ่งที่เธอไม่คาดฝัน คือระหว่างที่เธอค่อยๆ เตรียมสิ่งพิเศษนั้นด้วยความตื่นเต้น ลี…เริ่มเปลี่ยนไป

มันไม่ใช่การเปลี่ยนแบบชัดเจนหรือฉับพลัน เขายังยิ้ม ยังรับโทรศัพท์ ยังพาเธอไปไหนมาไหนด้วย…แต่บางครั้งเขาดูรีบร้อนเกินไป บางครั้งก็เหมือนอยู่ตรงหน้าแต่ใจลอยไปไหนแล้ว

“เหนื่อยเหรอคะ?” ยาหยีเคยถามเบาๆ ขณะที่เขานั่งกดโทรศัพท์เงียบๆ บนโซฟา

“อืม…มีงานด่วนน่ะ ช่วงนี้ยุ่งมากเลย” เขาพูดเหมือนเดิมแต่ไม่สบตา มือก็ยังเลื่อนหน้าจอไปเรื่อยๆ แม้กระทั่งตอนที่เธอพยายามจะเอาหัวซบไหล่ เขาก็ขยับตัวเล็กน้อยเหมือนไม่ทันตั้งตัว

คืนนั้นยาหยีเปิดสมุดบันทึกหน้าใหม่ เขียนด้วยลายมือสั่นนิดๆ

วันที่ 19 ฉันเริ่มกลัว

วันนี้พี่ลีเงียบกว่าทุกวัน เราเจอกันก็จริง แต่เขาดูห่าง แล้วฉันพูดมากกว่าเขาทั้งคืนเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน หรือเขาจะเริ่มเบื่อ? หรือเขาเจออะไรที่สำคัญกว่า? หรือแค่เหนื่อย? หรือว่าฉันกำลังคิดมากเกินไปเอง

เธอปิดสมุดลงแล้วกอดมันไว้แน่น เธอยังไม่เปลี่ยนใจ ยังอยากเซอร์ไพรส์เขาเหมือนเดิม แต่ความตื่นเต้นเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความกระวนกระวาย

คืนนี้ลีไม่ตอบไลน์เธอ ไม่บอกว่านอนยัง แม้แต่คำว่า ‘ฝันดี’ ก็หายไป

ยาหยีมองจอโทรศัพท์จนแสงมันดับไปเอง เธอหลับตาแล้วสูดหายใจลึก กอดท้องแบนราบของตัวเองไว้ด้วยมือสองข้าง

“ไม่เป็นไรนะลูก… ถึงพ่อจะยังไม่รู้ แต่แม่อยู่ตรงนี้ แม่จะรอวันที่เขาพร้อมอีกนิด…อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น”

น้ำเสียงเธอสั่นนิดๆ คล้ายจะร้องไห้ แต่เธอไม่ร้อง เพราะลูกอยู่ในนี้ เพราะเธอเชื่อ…ว่าสุดท้ายลีจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม…ใช่ไหม?

วันเซอร์ไพรส์ที่เธอเฝ้ารอมาถึงในที่สุด

ยาหยีตื่นตั้งแต่เช้ามืด รีดเดรสสีขาวสะอาดด้วยมือตัวเอง ค่อยๆ แต่งหน้าอ่อนๆ จัดผมให้ดูสบายแต่เรียบร้อยเหมือนหญิงสาวที่กำลังจะขอใครสักคนแต่งงาน

บนเตียงมีถุงผ้าใบเดิมวางอยู่ ข้างในมีที่ตรวจครรภ์ที่ขึ้นสองขีด ภาพอัลตราซาวด์ และสมุดบันทึกเล่มหนึ่ง เต็มไปด้วยเรื่องราวทุกก้าวของหัวใจเธอ

เวลา 13:12 น.

ยาหยียืนอยู่หน้าโรงพยาบาลในชุดเดรสยาวพลิ้ว กำมือถือแน่น รอยยิ้มยังไม่จางจากริมฝีปาก จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

(ฮัลโหล) เสียงของลีดังจากปลายสาย (…ขอโทษนะ หยี พอดีมีงานด่วนเข้ามา ตอนนี้ออกไม่ได้เลยจริงๆ พี่ขอเลื่อนนัดเราได้ไหม ขอวันพรุ่งนี้ก็ได้ พี่จะรีบเคลียร์งานให้เสร็จเร็วๆ เลย)

เสียงหัวใจยาหยีเหมือนหยุดเต้นไปชั่วขณะ เธอเงียบไปแวบหนึ่ง ก่อนจะพยายามกลั้นเสียงผิดหวังในน้ำเสียง

“…อืม ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหยีกลับก่อนก็ได้ค่ะ”

เธอกดวางสาย ก้มมองุถุงในมือที่เธอเคยตั้งใจจะยื่นให้เขาด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนที่สุดในชีวิต แล้วกะพริบตาถี่ๆ เพื่อไม่ให้น้ำตาไหลลงมา เธอไม่อยากกลับบ้านตอนนี้…ไม่อยากนั่งเงียบอยู่กับความคาดหวังที่พังลง

ยาหยีตัดสินใจเปลี่ยนทาง เธอมุ่งหน้าไปที่คอนโดของดอกส้มเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจที่สุดในชีวิต เธอไม่ได้โทรนัดดอดส้มก่อน แค่คิดว่าการได้เจอหน้าใครสักคน คุยกับใครสักคนที่รับฟังได้ คงพอช่วยให้วันนี้ไม่เงียบจนเกินไป

มาถึงคอนโดดอกส้ม เธอขึ้นก็รีบลิฟต์ไปยังชั้นที่จำได้แม่น ยาหยีเคยมาอยู่บ่อยครั้งจนชิน พอถึงหน้าห้องก็เคาะประตูอย่างเบาๆ ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แค่หวังจะเห็นรอยยิ้มของเพื่อน แล้วได้ฟังคำว่าเข้ามาก่อนสิ

แต่ไม่มีใครเปิดประตูเลย ยาหยีขมวดคิ้ว กำลังจะหันหลังกลับ ประตูห้องกลับแง้มออกมานิดเดียวเพราะไม่ได้ล็อก และเสียงสนทนาก็เล็ดลอดออกมาจากประตูนั้น

“ส่งอาหารเหรอคะ เอาวางไว้หน้าประตูเลยค่ะ” เสียงดอกส้มเล็ดลอดตามออกมา

“ส้ม?” ยาหยีเอ่ยเรียกเบาๆ แล้วดันประตูเข้าไปด้วยความเคยชิน

เสียงเพลงเบาๆ ดังลอดจากลำโพงบลูทูธที่มุมห้องกลิ่นไวน์แดงลอยคลุ้ง พร้อมแสงไฟสีอุ่นสลัวๆ และตรงโซฟากลางห้อง…

ภาพที่เธอเห็น ทำให้หัวใจเธอร่วงไปอยู่ที่พื้นในชั่ววินาทีเดียว

ลีนั่งเอนตัวพิงพนักโซฟา กางเกงเขารูดลงครึ่งต้นขา ในสภาพกึ่งเปลือยเปล่า

ดอกส้มเพื่อนที่เธอไว้ใจที่สุด กำลังนั่งซ้อนตักเขาในเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ที่ไม่ใช่ของเธอ และแน่นอน…ไม่ใช่ของเจ้าของห้อง

เสียงหัวเราะเบาๆ จากทั้งสองคนหยุดลงทันที ลีชะงัก ใบหน้าเขาเปลี่ยนสีในเสี้ยววินาที ส่วนดอกส้มชะงักเหมือนถูกฟ้าผ่า ดวงตาเบิกกว้าง เธอสะบัดตัวลุกขึ้นทันทีพร้อมกับคำพูดที่แผ่วเบา

“ยาหยี…”

ถุงผ้าในมือยาหยีหล่นลงพื้น ทุกสิ่งทุกอย่างหล่นตามไปด้วย ความฝัน ความตั้งใจ ความรักที่เธอประคองมาทั้งชีวิต

“…นี่มันอะไรกัน” เสียงเธอเบาแต่สั่นสะท้านไปทั้งห้อง ลีลุกขึ้นยืน ดึงกางเกงให้เข้าที่พลางพยายามพูด

“เดี๋ยวฟังก่อน มันไม่ใช่อย่างที่หยีคิด”

“ไม่ใช่อย่างที่หยีคิด?” ยาหยีแค่นหัวเราะ เธอก้มมองภาพตรงหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ “แล้วไอ้ที่หยีเห็นนี่คืออะไร? นี่คืองานที่พี่ต้องรีบเคลียร์เหรอพี่ลี?” ดอกส้มพยายามจะพูดอะไรสักอย่าง แต่น้ำเสียงยาหยีตัดบททันที “ไม่ต้องพูด… ฉันเข้าใจแล้ว”

เธอก้มลงเก็บถุงผ้าอย่างเงียบงัน มือของเธอสั่นจนถือแทบไม่อยู่ แต่เธอก็ยืนตรง ก่อนจะเดินออกจากห้องโดยไม่หันกลับแม้น้ำตาจะไหลอาบแก้มไปแล้ว…วันนี้เธอไม่ได้เซอร์ไพรส์เขา แต่เขากลับทำลายทุกอย่างที่เธอเก็บไว้ในหัวใจตลอดมา

ลีวิ่งกุลีกุจอมาคว้าตัวยาหยีไว้ทันพอดี ทว่าเธอกลับผลักตัวเขาออกอย่างนึกรังเกียจ

“อย่ามาแตะต้องตัวหยี พี่มันน่ารังเกียจที่สุดพี่ลี พี่สองคน…เลวยิ่งกว่าอะไร!” เธอกำหมัดแน่น มองไปด้านหลังของลีซึ่งดอกส้มยืนเม้มปาดอยู่ “เสียแรงที่ฉันไว้ใจเธอ เสียแรงที่ฉัน…รักเธอ”

“หยี ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

“ตอแหล!” ยาหยีโกรธจนตัวสั่น เธอไม่เคยคิดว่าคำคำนี้จะหลุดออกจากปากตัวเอง จนได้มาเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้หัวใจแตกสลาย “เธอน่าจะเปลี่ยนชื่อเป็นดอกทองมากกว่านะ ถ้าจะชอบลักกินขโมยกินของคนอื่นขนาดนี้!”

“หยีฟังพี่ก่อน”

“ไม่มีอะไรต้องฟัง เพราะคำพูดของคุณ…มันก็ตอแหลไม่แพ้กันกับคนที่คุณเพิ่งมีอะไรด้วยหรอก!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • I'M YOURS พ่อมาเฟีย   ตอนพิเศษ 2 จบ

    ตอนพิเศษ 2 จบหลายปีต่อมาเสียงหัวเราะใสๆ ดังขึ้นท่ามกลางสวนหลังบ้านที่ร่มรื่น“พี่ดาริน รอด้วยสิ~!”เด็กชายวัยหกขวบวิ่งกระหืดกระหอบตามหลังพี่สาวอย่างไม่ลดละ เขามีใบหน้าคล้ายเดย์ตันในวัยเด็กอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะดวงตาคมเข้มกับคิ้วที่ขมวดแน่นเวลาเอาจริงเอาจัง“ก็พี่บอกแล้วไงว่าใครช้าต้องเป็นลูกหมา!” ดารินวัยเก้าขวบในชุดเอี๊ยมยีนกับหางเปียคู่ หัวเราะแล้ววิ่งนำหน้าต่อไป“ไม่เป็นลูกหมาหรอก! จะวิ่งแซงเลยด้วยซ้ำ!” ดารัณเร่งฝีเท้าขึ้น เสียงหอบเหนื่อยแทรกมาเป็นระยะ แต่ความมุ่งมั่นในแววตานั้นไม่ยอมแพ้แม้แต่น้อยใต้ศาลากลางสวน เดย์ตันนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่กับคุณพ่อในวัยชรา ใบหน้าของเขานิ่งสงบ แต่แววตาอ่อนโยนเมื่อมองไปยังลูกทั้งสอง“รัณโตเร็วใช่เล่นนะ…” พ่อของเดย์ตันพูดขึ้นพลางยกแก้วน้ำชา“ครับ…เหมือนผมตอนเด็ก แต่ใจนุ่มเหมือนแม่เขา” เดย์ตันตอบยิ้มๆ แล้ววางหนังสือพิมพ์ลง มองลูกชายที่เริ่มวิ่งไล่พี่สาวได้ทันดารัณกระโจนไปเกาะหลังพี่สาว แล้วสองพี่น้องก็ล้มลงไปในกองหญ้าแห้ง หัวเราะกันลั่น“พอแล้วลูก เดี๋ยวเปื้อนหมด!” เสียงของยาหหยีดังขึ้นจากระเบียง เธอยืนกอดอกมองลูกๆ ด้วยสายตาหวานปนเอือมระคนเอ็น

  • I'M YOURS พ่อมาเฟีย   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1วันเกิดปีที่ 3 ของดารินเด็กหญิงในชุดเดรสฟูฟ่องเดินถือของเล่นไปหาพ่อกับปู่ซึ่งนั่งคุยกันอยู่ในศาลากลางสวน เธอส่งยิ้มให้ทั้งสองด้วยความสดใส“ปะป๋า ดารินอยากได้ของเล่นอีก”“หนูก็ได้แล้วไงครับ ของเล่นหนูเยอะมากแล้ว เล่นให้หมดก่อนนะครับลูก”ดารินยู่ปาก เธอหันไปมองปู่เพราะรู้ว่าคนที่จะตามใจเธอมากที่สุดคือปู่ไม่ใช่พ่อ“คุงปู่~” ดารินหันไปหาคุณปู่ด้วยดวงตากลมโตเปล่งประกายวาววับ เธอกะพริบตาปริบๆ พลางเอียงคอเล็กน้อยอย่างรู้เชิง ก่อนจะเอ่ยเสียงหวานใสแบบที่เธอมั่นใจว่าคุณปู่ต้องใจอ่อนแน่ๆ “คุงปู่ขา~ หนูอยากได้บ้านตุ๊กตาหลังใหญ่เลย มีลิฟต์ด้วยนะคะ~ หนูจะให้ตุ๊กตาอยู่กันเป็นครอบครัวเลย~”ดาร์เรลหัวเราะเบาๆ ด้วยความเอ็นดู ก่อนจะโน้มตัวลงมาลูบผมหลานสาวอย่างรักใคร่“โอ๋ๆ หลานปู่คนเก่ง อยากได้บ้านตุ๊กตาเหรอ…เอาไว้คุณปู่จะให้คนไปดูให้เลยนะ ว่ามีรุ่นที่มีลิฟต์จริงไหม ถ้ามี…ปู่จัดให้!”“เย่~! คุงปู่ใจดีที่สุดในโลกเลยค่ะ!” ดารินโผเข้าไปกอดคุณปู่อย่างดีใจสุดๆ แล้วหันมายักคิ้วใส่พ่อของเธอด้วยความเหนือชั้นเดย์ตันที่นั่งอยู่ข้างพ่อของตัวเองถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ เขาส่ายหน้าอย่างยอมแพ้ในความเจ้

  • I'M YOURS พ่อมาเฟีย   บทที่ 46 บทส่งท้าย

    บทที่ 46 บทส่งท้ายเสียงหัวเราะของทั้งสามคนผสานกันเป็นความอบอุ่นที่แผ่กระจายไปทั่วห้องรับประทานอาหาร ดารินที่กำลังกินข้าวอยู่บนโต๊ะหยุดชะงัก หันมามองผู้ใหญ่ด้วยตาแป๋ว ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้ชีวินจนตาทั้งสองข้างหยีน่าเอ็นดู“ดูสิ หลานผมรู้ด้วยว่าใครรักจริง” ชีวินยิ้มกว้าง ย่อตัวลงอุ้มเจ้าตัวน้อยขึ้นมาแนบอก ก่อนจะโยกเบาๆ อย่างทะนุถนอม“หึ เด็กมันเลือกคนใจดีได้แม่นเหมือนกันนะ” เดย์ตันพูดเสียงเรียบ แต่แววตาที่มองลูกสาวเปล่งประกายด้วยความรักล้นเหลือ“ไม่ใช่แค่ใจดีหรอกค่ะ ปะป๋าวินชอบแอบให้ขนมกับดารินตลอด หยีต้องมาคอยห้ามประจำเลย เดี๋ยวจะฟันผุเอา” ยาหยีว่าแล้วก็กอดอกทำหน้าจริงจังชีวินรีบหันไปกระซิบกับหลานเบาๆ“อ้าว หลานเรานี่ไปฟ้องแม่ด้วยเหรอครับ แบบนี้เราต้องเป็นทีมเดียวกันนะ ห้ามหักหลังกันสิ” เขาย่นจมูกใส่ดาริน ก่อนเจ้าตัวน้อยจะหัวเราะเสียงใสอย่างไร้เดียงสา“ดูสิ…ติดวินเข้าแล้วจริงๆ” เดย์ตันบ่นอุบ แต่ก็ลอบยิ้มเมื่อเห็นลูกสาวหัวเราะอย่างมีความสุข“อิจฉาล่ะสิ” ชีวินแซว พร้อมส่งยิ้มกวนๆ ให้เพื่อนรัก“เปล่าสักหน่อย” เดย์ตันตอบ แต่ยาหยีที่นั่งอยู่ข้างๆ กลับกลั้นขำไม่อยู่ เธอเอื้อมมือไปแตะหลังสามี

  • I'M YOURS พ่อมาเฟีย   บทที่ 45 เมียมาเฟีย

    บทที่ 45 เมียมาเฟียหลังจากคืนเข้าหออันร้อนแรงผ่านไป รอยยิ้มอ่อนโยนของเดย์ตันก็กลายเป็นสิ่งที่ยาหยีได้เห็นบ่อยขึ้นกว่าเดิม เขาเปลี่ยนจากมาเฟียผู้เย็นชาและเอาแต่ใจ กลายเป็นสามีที่พร้อมยอมให้เธอทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน ตั้งแต่เมนูอาหารเช้า ไปจนถึงการออกคำสั่งกับลูกน้อง เขาเลือกจะถามความเห็นเธอก่อนเสมอ“ฉันมีปืน แต่เธอมีคำพูดที่คมกว่า” เขาบอกกับเธอในวันที่พายุในบ้านเริ่มสงบลง และเขาได้เห็นว่าเธอไม่จำเป็นต้องขึ้นเสียงหรือใช้กำลังใดๆ ก็สามารถจัดการความวุ่นวายรอบตัวได้อย่างหมดจดยาหยีเรียนรู้ทุกอย่างอย่างตั้งใจ จากหญิงสาวที่เคยร้องกรี๊ดเมื่อได้ยินเสียงปืน กลับกลายเป็นคนที่ยืนถือปืนในสนามซ้อมด้วยท่าทางนิ่งสงบ วันแรกที่เธอยิงถูกเป้าเป๊ะ ลูกน้องของเดย์ตันถึงกับเงียบทั้งสนาม แล้วเสียงปรบมือก็ลั่นตามมาไม่ขาดสาย“เธอจำได้ไหม ครั้งแรกที่มาที่นี่ เธอดูกล้าและท้าทายมาก แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็แอบกลัวใช่ไหม” เดย์ตันเดินเข้ามากระซิบข้างหู ขณะที่ยาหยียังถือปืนมั่นในมือ“ใช่สิ… แล้วฉันก็จำได้ด้วยว่าที่รักที่บังคับให้กล้า” เธอยิ้มเจ้าเล่ห์ ส่งสายตาแวววาวให้เขาอย่างคนที่รู้ว่าตั

  • I'M YOURS พ่อมาเฟีย   บทที่ 44 ค่ำคืนนี้มีแค่เรา NC

    บทที่ 44 ค่ำคืนนี้มีแค่เรา NCเดย์ตันยกยิ้มมุมปาก สอดฝ่ามือไปตามกลุ่มผมดกดำของเธอเบาๆ ก่อนจะโน้มหน้าลงไปหอมแก้มยาหยีฟอดหนึ่ง“ถึงเวลาแล้วนะ”“อะไรเหรอ?”“ก็…เรายังไม่ได้เข้าหอกันเลยนะ”“นี่แผนนายด้วยไหมเนี่ย”“เปล่า…แค่จะทวงสัญญาเฉยๆ อดเปรี้ยวไว้กินหวานอะ”“ใครไปสัญญากับนายไม่ทราบ คิดเองเออเองทั้งนั้น อ๊ะ!” ไม่ทันได้ตั้งตัวยาหยีก็ถูกเขารวบตัวไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวและแรงมหาศาล เธอตกใจเบิกตากว้างกับความเร็วของเขา “นะ นี่เร็วไปไหมเนี่ย”“เร็วมากกว่านี้อีก อยากดูไหมว่าเร็วมากแค่ไหน”“อะไร?”เดย์ตันยกยิ้มแล้วดึงผ้านวมมาคลุมตัวเขากับยาหยีไว้ ก่อนจะถอดเสื้อผ้าเธอออกอย่างช่ำชองผ้านวมผืนหนากลายเป็นปราการแห่งความลับที่ห่อหุ้มร่างของทั้งสองเอาไว้ โลกภายนอกเงียบงัน เหลือเพียงลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดกันอยู่ใต้ความมืดมัวแผ่วเบานั้นเสียงหัวเราะแผ่วเบาหลุดลอดริมฝีปากของยาหยี เมื่อความเย็นวาบจากปลายนิ้วของเขาแตะต้องลงบนผิวเปลือยเปล่า ความรู้สึกวูบไหวแล่นไปตามแนวสันหลัง เธอเม้มปากแน่นแต่ก็ยังหลุดเสียงครางต่ำๆ ออกมาเมื่อฝ่ามือของเขาลูบไล้ไปตามทรวงอกอย่างมั่นคง อ่อนโยน ทว่ากลับเต็มไปด้วยแรงปรารถนาเกิน

  • I'M YOURS พ่อมาเฟีย   บทที่ 43 แต่งงาน

    บทที่ 43 แต่งงานวันแต่งงานมาถึงในช่วงสาย อากาศเย็นกำลังดี แดดนุ่มพาดผ่านม่านไม้เลื้อยที่พันอยู่ตามซุ้มเหล็กดัดในสวนหลังบ้าน กลิ่นดอกไม้หอมจางๆ ลอยอ้อยอิ่งไปทั่วสนามหญ้าที่ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ละเมียดละไมวันนี้ไม่มีขบวนแห่ ไม่มีแขกเหรื่อเป็นร้อย ไม่มีแสงแฟลชถ่ายภาพเป็นพัน มีเพียงแค่โต๊ะกลมสีขาวไม่กี่ตัว เก้าอี้หวาย และครอบครัวไม่กี่คนที่รักทั้งสองคนอย่างแท้จริงแม่ของเดย์ตันเป็นคนจัดดอกไม้เองกับมือ คุณพ่อของยาหยียืนพัดไล่ยุงพร้อมรอยยิ้มภาคภูมิชีวินรับบทบาทผู้ดำเนินพิธีการอย่างขันแข็ง พร้อมกับแอบเตรียมซองอั่งเปาขนาดยักษ์แทรกระหว่างของขวัญแต่งงาน และที่กลางสวน ซุ้มไม้สีขาวประดับด้วยผ้าลูกไม้บางเบา พวงดอกกุหลาบครีมและใบไม้เขียวสดพาดพรมคือจุดที่เดย์ตันกำลังยืนรออยู่เขาในชุดสูทสีเทาเข้ม สะอาดเรียบและคลาสสิก ผมถูกเซ็ตเรียบกว่าทุกวัน มือถือช่อดอกไม้สีขาวล้วนที่เตรียมไว้ให้เจ้าสาวด้วยตัวเองท่ามกลางความสง่างามของมาเฟียหนุ่มผู้เคยเย็นชามีเพียงดวงตาเท่านั้นที่ตอนนี้ดูตื่นเต้น…เหมือนชายหนุ่มวัยยี่สิบที่เพิ่งมีรักแรกแล้วเธอก็ปรากฏตัว…ยาหยีในชุดกระโปรงลูกไม้ยาวสีขาวสะอาด ผมถูกรวบครึ่งหัว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status