'ถ้าเธอกระโดดลงไปเธอตาย!' 'ถ้าเธอทำให้ลูกฉันตายเธอตาย!' แล้วมีทางเลือกไหนให้เธอไม่ตายบ้างล่ะ ลูกเขาก็ลูกเธอเหมือนกันแต่เธอไม่ได้อยากอุ้มท้องลูกเขานี่!
View Moreบทนำ
เสียงขึ้นลำกล้องของปืนหลายกระบอกดังก้องไปทั่ว ความเย็นเยียบของโลหะที่พร้อมปลิดชีวิตทำให้บรรยากาศรอบสะพานยิ่งกดดัน ทว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ได้สะท้อนอยู่ในดวงตาของหญิงสาวที่ยืนอยู่บนราวสะพาน เธอไม่สนใจเลยสักนิดว่าความตายกำลังจ่ออยู่ตรงหน้า
ยาหยี หลุบตามองปลายเท้าของตัวเอง ความเสียใจฉายชัดในแววตา ราวกับความหวังทั้งหมดได้มอดดับลงแล้วในวันนี้
“อย่านะ!”
เสียงเข้มปนความตกใจดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงที่ก้าวเข้ามาใกล้ เขาไม่อาจปล่อยให้เธอทำเรื่องโง่ๆ ต่อหน้าต่อตาแบบนี้ได้
“ถ้าเธอกระโดดลงไป เธอตาย!”
หญิงสาวยังคงนิ่ง ไม่มีแม้แต่คำตอบรับ
“ถอยออกมา ออกห่างจากตรงนั้นเดี๋ยวนี้!”
“อย่ามายุ่งกับฉัน!”
“คิดว่าฉันอยากยุ่งนักหรือไงวะ? ถ้าลูกในท้องเธอไม่ใช่ลูกฉัน ป่านนี้ฉันคงปล่อยให้เธอสมหวังไปนานแล้ว!”
น้ำเสียงของเขาแข็งกระด้าง เจือไปด้วยความหัวเสีย เขาไม่ใช่คนที่จะมาพูดจาอ่อนโยนเพื่อปลอบโยนใครง่ายๆ แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวกับลูกของเขา และเขาจะไม่ยอมให้เธอจบชีวิตลงแบบนี้เด็ดขาด
เดย์ตัน กัดฟันแน่นจนสันกรามเด่นชัด แววตาของเขาร้อนแรง ราวกับเปลวไฟที่พร้อมจะเผาผลาญทุกสิ่ง ทว่าไม่ว่าจะพูดอะไรออกไป ผู้หญิงตรงหน้าก็ไม่มีท่าทีว่าจะยอมแพ้ ความดื้อรั้นของเธอทำให้เขาหงุดหงิดจนแทบจะระเบิด
“ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าเธอไม่ลงมาจากราวสะพาน ฉันยิง!”
“เอ่อ… นายครับ ผมว่ามันก็ไม่ได้ต่างกันเลยนะครับ” เสียงลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างหลังเอ่ยขึ้นเบาๆ
“หุบปาก!” เดย์ตันตวาดกลับอย่างเหลืออด
ยาหยีมองชายตรงหน้าด้วยความเย็นชา เขาบอกให้เธอเลือก แต่ทุกทางที่เขาเสนอให้ล้วนมีจุดจบเดียวกันความตาย
“ถอยออกไป!”
“ลงมา!”
น้ำเสียงของเดย์ตันหนักแน่นและเฉียบขาด ดวงตาเข้มคุกรุ่นด้วยโทสะ เขาไม่เคยต้องอ้อนวอนใคร โดยเฉพาะกับคนที่กำลังจะตาย เพราะที่ผ่านมามีแต่คนพวกนั้นที่ร้องขอชีวิตจากเขา!
“ฉันจะตายไปพร้อมกับเด็กคนนี้”
“อย่า!”
ชีวิตคนเรามันบัดซบกว่าที่คิด และตอนนี้เธอก็กำลังเผชิญกับมันเพียงลำพัง
“ชีวิตฉันมันไม่มีความหมายแล้ว… ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน”
“ถ้าเธอกระโดด เธอจะตาย! เพราะฉะนั้น รีบลงมาจากราวสะพาน ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน”
ยาหยีมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่า ไม่ว่าจะอยู่หรือไป เธอก็ต้องทนทุกข์ แล้วเขาจะให้เธอเลือกอยู่ไปเพื่ออะไร?
“นายครับ ผมว่าเธอดูแปลกๆ นะครับ”
ลูกน้องของเขาเอ่ยขึ้น หลังสังเกตเห็นว่าหน้าหญิงสาวซีดเซียวจนผิดปกติ เดย์ตันเองก็คิดเช่นกัน ทั้งสองสบตากันก่อนพยักหน้าให้
“เอาแบบนี้…” มาเฟียหนุ่มขมวดคิ้ว “เธอลงมาคุยกับฉันดีๆ ฉันพร้อมจะช่วยหาทางออกให้ เราสองคนจะหาทางออกที่ดีที่สุดไปด้วยกัน”
“ฉันขอตายดีกว่าถ้าต้องอยู่กับคนอย่างนาย!”
ยาหยีหันหลังให้พวกเขา ก้าวขาขึ้นไปพาดราวสะพานเตรียมจะกระโดดลงไป แต่เดย์ตันเร็วกว่า เขาคว้าเธอเข้ามาแนบอกและกอดไว้แน่น
“เธอ! เธอ!!”
ร่างเล็กอ่อนแรงในอ้อมแขนเขา และในเสี้ยววินาทีนั้นเอง เธอกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้หัวใจมาเฟียหนุ่มเต้นแรงจนควบคุมไม่ได้…
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฟ้าสงสารหรือจงใจกลั่นแกล้งกันแน่ ที่รีบส่งทั้งแม่ของลูกและลูกมาให้เขาในเวลาอันรวดเร็ว… รวดเร็วจนเขาไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ
บทที่ 20 จ้างให้จบทางด้านลี หลังจากที่เรื่องราวระหว่างเขากับดอกส้ม ถูกเปิดเผยและเขาได้เห็นแววตาผิดหวังของยาหยีเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหันหลังเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรอีก ใจเขาก็ไม่สงบอีกเลยเขาตามหายาหยีทั่วทั้งเมือง โทรหาเธอแล้วโทรหาอีก แต่ไม่มีการรับสาย ไม่มีการตอบกลับข้อความแม้แต่นิดเดียว ลีเริ่มไปที่ร้านกาแฟที่เธอชอบนั่ง ร้านขนมที่เธอโปรด ไปจนถึงหน้าคอนโดของเธอ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่“หยี… ฟังพี่ก่อนก็ได้ ได้โปรด…” เขาพึมพำกับตัวเองทุกครั้งที่ได้ยินสัญญาณตัดสาย ความผิดพลาดของเขากำลังจะพรากผู้หญิงที่เขาควรรักษาเอาไว้ตั้งแต่แรกไปอย่างถาวรอีกมุมหนึ่งที่บ้านของเดย์ตันบรรยากาศเงียบเชียบยามสาย ลูกน้องคนสนิทของเขาเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ ขณะเขานั่งอยู่ริมระเบียงในชุดลำลอง ถือแก้วกาแฟในมือ“นายครับ มีข่าวของผู้ชายคนนั้นคุณลีน่ะครับ”เดย์ตันละสายตาจากวิวเบื้องหน้า สายตาดุดันจับจ้องลูกน้องทันที“มันทำอะไร?”“เขาตามหาคุณยาหยีครับ เดินพล่านไปหลายที่เหมือนคนสติแตก พยายามขอให้คนช่วยติดต่อเธอ แต่ยังไม่เจอ เราลองสะกดรอยอยู่ห่างๆ แล้วครับ เขากำลังมุ่งหน้าไปที่คาเฟ่ที่คุณยาหยีเคยนั่งบ่อยๆ”เดย์ตันขมว
บทที่ 19 ความฝันของเดย์ตันเดย์ตันหัวเราะในลำคอเสียงทุ้มต่ำเจือความเจ้าเล่ห์อย่างจงใจ“ปากดีนะเรา” เขายักคิ้วหนึ่งข้าง ก่อนจะวางมือบนไหล่ยาหยี สีหน้าไม่ได้สะทกสะท้านต่อคำด่าทอของเธอยาหยีถอยหลังอีกก้าว แต่ก็ต้องหยุดเพราะแผ่นหลังชนกับแผงอกแกร่งพอดี ดวงตากลมเบิกกว้าง ใบหน้าสวยเลิ่กลั่ก“ต้องใกล้ขนาดนี้?”“ไม่ได้จะทำอะไร…” เขาโน้มตัวเข้ามาเล็กน้อย ริมฝีปากเอ่ยเสียงเบาราวกระซิบ “ก็แค่อยากสอนจับปืน แล้วก็อยากรู้ว่าลูกเริ่มดิ้นแล้วหรือยัง”ดวงตาของเดย์ตันอ่อนลงครู่หนึ่ง เขาเอื้อมมือแตะแผ่วเบาที่หน้าท้องเธออีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่เพราะจะแกล้ง ไม่ใช่เพราะหยอกเล่นหรือชวนทะเลาะ แต่เพราะเขาอยากรู้สึกถึงชีวิตเล็กๆ ที่กำลังก่อตัวอยู่ในนั้นจริงๆยาหยีมองเขานิ่ง ลมหายใจติดขัดเพราะความรู้สึกตีกันวุ่นวายไปหมด เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดแบบนี้… และไม่คิดว่าในแววตาแข็งกร้าวของมาเฟียอย่างเขา จะมีความอ่อนโยนแฝงอยู่ได้มากขนาดนี้ด้วย“เดย์…” เธอเผลอเรียกชื่อเขาออกมาเบาๆ อย่างลืมตัว“หืม?” เขาเงยหน้าขึ้นสบตาเธอ แล้วก็ยิ้ม… รอยยิ้มที่ไม่ได้ร้ายกาจ ไม่ได้กวนประสาท แต่นุ่มนวลจนใจเธอเต้นแรงอย่างไม่มีเหตุผล เธอรีบเบือนหน้
บทที่ 18 ยินดีนำเสนอหลายนาทีต่อมาบนเตียงกว้างกลางห้องนอน ยาหยีกำลังนอนหันหลังให้เดย์ตัน มือเล็กยังคงจับผ้าห่มไว้แน่นถึงแม้จะรู้ตัวว่าคนด้านหลังเดินเข้ามาแล้ว และเขาก็กำลังขยับขึ้นเตียงอย่างเงียบเชียบเสียงเตียงยุบลงเมื่อร่างสูงของเดย์ตันทิ้งตัวนอนลงข้างๆ เธอ ชายหนุ่มแสร้งถอนหายใจเสียงดัง ทำทีเป็นคนอ่อนล้าจากสงครามชีวิตทั้งวัน“เฮ้อ…หลังจะพังอยู่แล้ว ให้ลงไปนอนพื้นอีกคืนนี้หลังคงทรุดจริงๆ” เขาบ่นเบาๆ แล้วเอื้อมมือมาสะกิดไหล่เล็กเบาๆ “ฉันจะเบียดหน่อยนะ ถ้าเผลอกอดเธอก็ขออภัยด้วย”ยาหยีไม่ตอบ เธอกัดฟันแน่นแล้วขยับตัวหนี แต่ไม่ทันไรแขนแข็งแรงก็คว้ารั้งตัวเธอมากอดไว้จากด้านหลังแน่น“อย่าดิ้น เดี๋ยวปวดหลังหนักกว่าเดิมอีก” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู“เดย์ตัน!” ยาหยีสะดุ้ง หันกลับมามองเขาด้วยแววตาขุ่น แต่คนโดนดุกลับยิ้มกวน แถมยังยักคิ้วใส่“โกรธรึไง? เดี๋ยวจับพันผ้าห่มเหมือนดักแด้เลยเอาไหม ถ้าไม่ยอมให้ฉันนอนด้วย”“กล้าก็ลองดู!” เธอแหวกลับทันควัน“อย่าท้านะยาหยี…” เดย์ตันโน้มตัวเข้ามาใกล้ ยื่นหน้าเข้าไปจ้องตาเธอแบบท้าทาย “หลังฉันมันแย่จริงๆ นะ หมอเคยบอกว่าถ้าไม่ได้นอนบนที่นุ่มๆ จะกระทบกระเทือนถึงส
บทที่ 17 เคยเป็นทานตะวันของพระอาทิตย์เดย์ตันยืนอยู่หน้าห้องนอนใหญ่ที่ตอนนี้ถูกยาหยียึดพื้นที่ไปแล้วเรียบร้อยก๊อก ก๊อก“เปิดประตู”“ไม่ ฉันบอกแล้วไงว่าอยากนอนคนเดียว”“ไม่ได้จะเข้าไปนอน แค่เอานมมาให้”ภายในห้องเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเสียงปลดล็อกประตูจะดังขึ้น ยาหยีไม่ได้เปิดประตูออกกว้าง เธอแค่แง้มออกแล้วยื่นหน้าออกมามองเขาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก“กินให้หมด”“ฉันไม่หิว”“กิน เธอไม่หิวแต่ลูกฉันต้องการแคลเซียม”“นายนี่มันจุ้นจ้านจัง”“ก็ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะทำโดยไม่มีข้อกังขาใดๆ อย่าลืมว่าเราตกลงกันไว้ยังไง” ยาหยีรับแก้วนมไปดื่มจนหมดภายในรวดเดียวแบ้วส่งแก้วเปล่าให้เดย์ตัน “ทำดีๆ ก็ทำได้ ทำไมต้องให้ฉันบังคับก่อน”“ออกไป”เธอปิดประตูดัง ปึ่ง! ใส่หน้าเดย์ตันจนปลายผมเขาพลิ้วไปตามแรงลมที่กระแทกหน้า“อดทน อดทน…จนกว่าลูกจะคลอด” เขาท่องคำนั้นแล้วหันหลังเดินลงไปชั้นล่าง หวังให้ตัวเองใจเย็นลงไม่มากก็น้อยเดย์ตันเดินลงมาถึงเชิงบันได เขาก็เงยหน้าขึ้นมองชั้นสองอีกครั้ง“เอาแก้วไปเก็บ” เขาส่งแก้วเปล่าให้ลูกน้องที่ยืนรออยู่เชิงบันได จากนั้นค่อยเดินไปที่ห้องนั่งเล่น พร้อมกับเปิดภาพยนตร์ดูจนถึงเช้าข
บทที่ 16 คุณพ่อบ้านมาเฟียช่วงเย็น…หลังจากกลับมาถึงบ้าน ยาหยีก็แทบหมดแรง เธอถอดรองเท้าแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาด้วยเสียงถอนหายใจยาวเหยียด มือข้างหนึ่งวางพัดลมมือถือไว้บนพุงน้อยๆ ส่วนอีกมือก็ยกขึ้นนวดขมับเบาๆ“วันนี้เหนื่อยมากเลย…” เธอบ่นพึมพำเหมือนพูดกับตัวเองเดย์ตันเหลือบตามองก่อนจะวางถุงของที่ซื้อมาจากห้างลงบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบแล้วให้แม่บ้านนำไปเก็บ เขาไม่ได้ตอบอะไร ยังคงขรึมเหมือนเดิม แต่เพียงแค่เขาเดินไปทางห้องครัว แล้วเปิดตู้เย็น หยิบของสดออกมาอย่างคล่องแคล่ว มันก็เพียงพอจะบอกได้ว่าเขากำลังจะทำอะไร“จะทำอะไรน่ะ?” ยาหยีเดินตามเขามาในห้องครัวด้วย เสียงแผ่วแต่ยังติดหงุดหงิดเบาๆ จากอารมณ์ล้า“เธอหิว” เขาตอบสั้นๆ ขณะหยิบกระเทียมมาปอก“ไม่ได้บอกนี่ว่าหิว…”“แต่เดินห้างตั้งหลายชั่วโมง เหงื่อออก หน้าเริ่มซีด ไม่ใช่หิวก็น้ำตาลตกมั้ง” เขาพูดเรียบๆ แต่ฟังแล้วเหมือนโดนอ่านใจหมดเปลือกยาหยีชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะพึมพำเบาๆ“ก็แค่เหนื่อยนิดหน่อยเอง…”ในครัวนั้น เดย์ตันจัดการทุกอย่างอย่างเงียบเชียบ มีเพียงเสียงน้ำไหล เสียงหั่นผัก และเสียงกระทะร้อนที่กำลังผัดข้าวกับไข่และหมูบด เขาไม่ใช่คนพูดมากอยู่
บทที่ 15 เคยไว้ใจหลังจากเหตุการณ์ที่บ้านยาหยี เดย์ตันไม่ได้ซักถามอะไรเพิ่มเติม เขาแค่ขับรถพายาหยีไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งอย่างเงียบๆ ตามที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ยาหยีบอกว่าอยากซื้อของใช้ส่วนตัวและดูของสำหรับเด็กบางอย่างที่เธอยังไม่รู้เลยว่าต้องใช้อะไรบ้าง พอได้มาเดินอยู่ท่ามกลางแสงไฟร้านค้าและเสียงคนพลุกพล่าน เธอก็เหมือนได้ผ่อนคลายลงเล็กน้อยเดย์ตันเดินอยู่ข้างเธอ มือหนึ่งถือถุงของ ส่วนอีกมือก็แอบเผลอล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างประหม่า เขาไม่ใช่คนที่ถนัดการเดินชอปปิงตามห้าง แต่เขาเต็มใจทำมันเพราะอยากอยู่ดูเธอ…และเพราะลูก“อันนี้น่ารักไหม?” ยาหยีชูผ้าห่อตัวลายน้องเป็ดขึ้นมาให้เขาดู“ก็น่ารัก” เขาตอบเสียงเรียบ แต่พอเห็นว่าเธอกำลังจะวางคืนก็รีบพูดต่อ “ถ้าชอบก็ซื้อไว้เลย เดี๋ยวฉันจ่ายเอง”ยาหยีมองเขาแวบหนึ่ง ริมฝีปากขยับเหมือนจะเถียง แต่สุดท้ายก็เงียบ และใส่มันลงในตะกร้า แล้วทันใดนั้นเสียงใสเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง“เดย์ตัน?”เขาชะงัก หันกลับไปตามเสียง และพบกับผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเดรสรัดรูปสีแดง เธอแต่งหน้าเป๊ะ ผมหยิกเป็นลอนดูเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า“ริต้า?” เขาพูดชื่อเธอช้าๆ สีหน้าไม่แป
Comments