“น้องเขาใสซื่อเกินกว่าที่กูจะดึงมาเป็นหมากในการพนันเพื่อความสนุกว่ะ”
“แต่ตอนที่มึงเห็นผู้หญิงคนนั้นครั้งแรกมึงเป็นคนท้าพนันกูเองนะไอ้กัสถ้ามึงยังพอจำได้ เมื่อกี้มึงก็เพิ่งชงให้กู”
“กูจำได้ แต่ตอนนั้นกูไม่เคยรู้จักเขานี่หว่ากูก็ท้าพนันไปเรื่อย แต่พอได้รู้จักกูก็ไม่อยากเล่นแล้วว่ะ แล้วที่กูชงเพราะกูคิดว่าน้องเขาเหมาะกับมึงจริง ๆ กูหมายถึงถ้ามึงคิดจะจริงจังไม่ใช่เล่น ๆ”
“ฮึ ๆ ๆ แต่กูจะเล่นว่ะ เงินมึงกูไม่เอา แต่ถ้ากูแพ้กูจะเอาเงิน 5 ล้านใส่พานมาให้มึงถึงที่เลย”
“ถ้างั้นก็เตรียมงินซะขอพานสวย ๆ ด้วย อีกอย่าง...เตรียมมีเมียเป็นตัวเป็นตนไว้ด้วยก็ดี”
“ฮึ ๆ ๆ เพ้อเจ้อ” ผมตอบมันแค่นั้นแล้วก็หันหน้าไปสนใจการแข่งในสนามต่อ แต่จะว่าไปผมยังไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นเลยนะครับ ยัยเจ้าคะเจ้าขาอะไรนั่น
“ไอ้มิกซ์” ผมนั่งมองการแข่งได้ไม่ถึง 2 นาทีไอ้ซีเจย์ก็หันมากระซิบเรียกผม
“อะไร?”
“ระวังนะมึงอาการแบบมึง”
“อะไรของมึงไอ้ซี” ผมขมวดคิ้วใส่ ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรนึกอยากจะพูดอะไรก็พูด
“ก็อาการแบบมึงอ่ะระวังไว้หน่อยอย่าพูดมาก”
“อาการเหี้ยไร พูดอะไรไม่เคลียร์สักอย่าง” ผมเริ่มหงุดหงิดที่มัน
“อาการแอนตี้น้องเจ้าขาของมึงไง แต่เป็นแอนตี้เพราะมีปม ที่จริงชอบน้องเขาไปแล้วม้าง~”
“ชอบเหี้ยไรกูไม่รู้จักแม้แต่ชื่อผู้หญิงคนนั้นด้วยซ้ำ”
“ก็รู้แล้วนี่ไงวะ ระวังนะมึง ระวังหลงน้องเขาหัวปรักหัวปรำขึ้นมา ถึงเวลานั้นหมาเลยนะครับเพราะพูดเอาไว้เยอะ”
“ฮึ! ไม่มีทาง” ผมวางแก้วเหล้าลงแล้วก็ลุกเดินออกมาจากโต๊ะเพราะรำคาญทั้งไอ้ซีเจย์แล้วก็ไอ้เวกัสที่ทำตัวเหมือนรู้ใจผมดีทั้งที่ผมไม่ได้คิดอะไรกับผู้หญิงคนนั้น อีกอย่างมันจะเอาอะไรกับผู้หญิงที่บุคลิกตรงกับไทป์ที่ผมแค่เคยชอบว่ะ ในโลกนี้ไม่ได้มีแค่ผู้หญิงคนนั้นคนเดียวซะหน่อย ยกยอปอปั้นกันจนผมรำคาญ
“เจ้าขา~”
“พี่พัดลม สวัสดีค่ะเพิ่งมาถึงเหรอคะ”
“จ้า นี่เจ้าขาจะไปไหนไปทำงานต่อเหรอ”
“ค่ะ เจ้าขาเพิ่งพักไปห้องน้ำมาเมื่อกี้ฝากฟลุ๊คให้เสิร์ฟแทนค่ะไม่รู้ฟลุ๊คบ่นรึยังพอดีห้องน้ำคนเยอะมากค่ะพี่พัดลม”
“หืม~ ฟลุ๊คไม่กล้าบ่นให้คนสวยแบบเจ้าขาหรอก ยิ้มให้ทีเดียวก็พร้อมเสิร์ฟแทนได้ทั้งคืนแล้ว” เสียงเจื้อยแจ้วของพัดลมดังเข้ามาในหูผมที่ออกมายืนสูบบุหรี่แล้วก็กำลังจะเดินกลับเข้าไป
“แหะ ๆ แต่เจ้าขาก็เกรงใจฟลุ๊คอยู่ดีค่ะ เขายิ่งมีลูกค้าสาว ๆ เรียกไปเสิร์ฟบ่อย ๆ อยู่ด้วย ต้องวิ่งมาแทนโต๊ะเจ้าขาด้วยยิ่งหัวหมุน”
“ถ้าฟลุ๊คกล้าบ่นเจ้าขามาบอกพี่เลยเดี๋ยวพี่ให้พี่เตอร์จัดการให้”
“อย่านะคะพี่พัดลม แค่อาทิตย์ที่แล้วที่พี่เกรซโดนพี่เตอร์ดุเพราะเจ้าขา เจ้าขาก็รู้สึกผิดจะแย่แล้วค่ะ”
“ก็เกรซแกล้งเจ้าขาก่อนนี่จ้ะ ไม่ได้หรอกเจ้าขาของพวกเรายิ่งไม่ค่อยสู้คนอยู่ด้วย ใครมาแกล้งรีบบอกพี่เลยเดี๋ยวพี่ให้พี่เตอร์จัดการ
“อ้าวพี่มิกซ์ สวัสดีค่ะ” ผมเปิดประตูเข้าไปด้านในก็เจอพัดลมกับผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่พัดลมก็หันมาทักทายผมด้วยรอยยิ้มน่ารักของเธอเหมือนทุกครั้งส่วนผู้หญิงคนนั้นก็ตีหน้านิ่ง ๆ แต่มีรอยยิ้มอ่อน ๆ ระบายอยู่บนหน้าตลอดเวลาเหมือนปกติของเธอขัดหูขัดตาว่ะ ยิ่งเห็นหน้าบ่อยก็ยิ่งขัดหูขัดตามากขึ้น
“ครับ เพิ่งมาเหรอแล้วไอ้เตอร์ล่ะ”
“พี่เตอร์เดินไปดูอะไรก็ไม่รู้กับพี่เอิร์ธเมื่อกี้ค่ะ”
“ครับ เข้าไปข้างในเลยไหม”
“ยังค่ะพี่มิกซ์ เดี๋ยวพัดลมไปหยิบของที่ห้องทำงานพี่เตอร์ก่อน เจ้าขาจ้ะเดี๋ยวเจอกันข้างบนเนอะพี่ไปหยิบของก่อนเจอกันข้างบนนะคะพี่มิกซ์” พัดลมพูดคนเดียวเสร็จสรรพแล้วก็ยิ้มให้ทั้งผมแล้วก็ผู้หญิงคนนั้นก่อนที่จะเดินแยกออกไป
“เอ่อ...ขออนุญาตค่ะ” พอพัดลมห่างออกไปผู้หญิงคนนี้ก็เอ่ยปากบอกผมเสียงเบาแล้วก็ก้มหัวกมตัวให้เพื่อจะเดินผ่านผม คงเพราะมันเป็นทางเดินที่แคบมั้งก็เลยขออนุญาต ฮึ! ตอนป. 6ประกวดมารยาทไทยมารึไงวะถึงได้แสดงอาการเรียบร้อยเก่งขนาดนี้
หมับ!
“เดี๋ยว / อุ้ย!” แค่จับข้อมือทำไมต้องทำสะดุ้งเหมือนแม่ชีเดินผู้ชายแตะตัวด้วยวะ ตลกเป็นบ้าเลยแต่ต้องยอมรับนะครับว่าแอ็คติ้งผ่านเพราะหน้าตาของผู้หญิงคนนี้ดูตกใจที่โดนผมจับข้อมือ ฮึ ๆ ๆ
“มีอะไรคะ” เธอพยายามดึงมือกลับแต่ผมก็รั้งเอาไว้ แรงผู้หญิงตัวเท่ามดสู้แรงผู้ชายไม่ได้อยู่แล้ว
“รู้จักกับพดลมได้ยังไง”
“พี่พัดลมเหรอคะ” พอผมถามขึ้นเธอก็ขมวดคิ้วทำหน้าแปลกใจ
“อืม”
“พี่พัดลมเป็นแฟนของคุณชัตเตอร์นี่คะ ฉันก็เลยรู้จัก”
“ฉันหมายถึงรู้จักถึงขั้นพัดลมทักทายเธอก่อนแล้วก็คุยกับเธอเหมือนสนิทแบบนี้ได้ยังไง” ผมขยายคำถามของผมด้วยความรำคาญ ไอ้เหตุผลที่เธอตอบเมื่อกี้ใครก็ต้องรู้จักไหมวะ
“ไม่ได้สนิทค่ะ พี่พัดลมทักทายพนักงานทุกคนอยู่แล้ว”
“เหรอ?”
“ค่ะ ปล่อยมือฉันได้รึยังคะ เราไม่รู้จักกันคงไม่ดีเท่าไหร่ที่อยู่ดี ๆ สุภาพบุรุษจะจับมือผู้หญิงทั้งที่อีกฝ่ายไม่เต็มใจแบบนี้” ฮึ ๆ ๆ ไหนใครบอกว่าเรียบร้อยไงครับ แต่เท่าที่ผมเห็นผู้หญิงคนนี้ไม่เลยนะ แอบจิกกัดผมนิ่ม ๆ ซะด้วย
“ฮึ!” ผมปล่อยมือจากผู้หญิงคนนั้นแล้วก็แค่นยิ้มใส่เธอจนเธอขมวดคิ้วเหมือนจะไม่ค่อยพอใจที่ผมทำท่าทางแบบนี้ใส่ แต่เพราะคีพลุคมาแล้วมั้งก็เลยไม่กล้าวีน
“พัดลมน่ารักดีนะมีน้ำใจทักทายลูกน้องของแฟนทุกคนเลยเธอว่าไหม”
“ค่ะ น่ารักมาก ฉันไปได้รึยังคะ” เธอพยักหน้าตอบแบบไม่ค่อยเต็มใจที่จะคุยกับผมเท่าไหร่
“เขาทำตัวน่ารักกับพนักงานอย่างเธอ เธอก็อย่าถือโอกาสทำตัวสนิทกับเมียเขาเพื่อเข้าหาผัวเขาล่ะ”
“...ฉันไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจคะ เราไม่รู้จักกันด้วยซ้ำแต่คุณมาพูดจาแย่ ๆ แบบนี้กับฉันเพื่ออะไร” เธอเริ่มขึ้นเสียงใส่ผมแต่ไม่ได้ดังเท่าไหร่
“ฮึ ๆ ๆ เธอไม่ได้ทำอะไรให้ฉันไม่พอใจหรอก แต่บังเอิญฉันเจอผู้หญิงแบบเธอมาเยอะ พวกผู้หญิงแอ๊บใสที่ข้างในใจโคตรขุ่น อย่ามาทำตัวสนิทกับพัดลมอีกเพราะฉันไม่ไว้ใจพวกผู้หญิงอย่างเธอ” ผมรู้สึกระแวงผู้หญิงคนนี้ก็เพราะได้ยินบทสนทนาของเธอกับพัดลมนั่นแหละครับ ชมว่าพัดลมกับไอ้เตอร์ใจดีกับตัวเอง ผมกลัวว่ามันจะไม่หยุดที่การชมแต่จะอยากได้ไอ้เตอร์ไปเป็นผัวเองซะมากกว่าจะได้เลื่อนตำแหน่งจากเด็กเสิร์ฟไปเป็นเมียเจ้าของสนามไง มีกินมีใช้สบายไปทั้งชาติ
“...ฉันว่าคุณเมาแล้วล่ะค่ะ ขอตัวนะคะ” เธอนิ่งไปกับคำพูดของผมพักหนึ่งก่อนที่จะตอบผมมาแค่นี้ ฮึ! ไม่กล้าปฏิเสธความจริงสินะ
“ฉันไม่ได้เมาหรือถ้าเมาฉันก็ดูผู้หญิงอย่างเธอออกอยู่ดี”
“ต่ำ!”
“ต่ำ? ผู้หญิงอย่างเธอกล้าด่าฉันต่ำเหรอฮะ!”
“แล้วคุณสูงส่งมาจากไหนคะถึงได้เที่ยวดูถูกคนอื่นไปทั่ว เรารู้จักกันเหรอก็ไม่ ฉันชื่ออะไรคุณชื่ออะไรก็ไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ”
“สูงมาจากไหนน่ะเหรอ? ไม่ต้องรู้หรอกรู้แค่เงินฉันสูงพอที่จะซื้อผู้หญิงแบบเธอไปนอนด้วยได้วันละเป็นสิบคนเลยก็พอ สนใจขายไหมล่ะฉันจ่ายหนักนะ?” ผมไม่เข้าใจเหมือนกันครับว่าผมกลายเป็นผู้ชายพูดจาเหี้ยๆ แบบนี้กับผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่ สงสัยจะเป็นตั้งแต่ผมเริ่มเห็นตัวตนที่แท้จริงของพวกผู้หญิงขี้แอ๊บล่ะมั้ง
เพี๊ยะ!!!
“นี่เธอกล้าตบฉันเหรอฮะ!” ผมหน้าหันไปตามแรงตบของเธอ มือเล็ก ๆ ที่ลงน้ำหนักมามากพอสมควร แต่มันไม่ได้ทำให้ผมเจ็บผมแค่แสบ ๆ คัน ๆ แค่นั้น แต่ที่ผมโมโหคือผู้หญิงคนนี้กล้าตบผม!
“ฉันทำได้มากกว่าตบอีกถ้าคุณยังไม่เลิกดูถูกฉัน!” เธอตะคอกใส่หน้าผมด้วยเสียงที่มันเริ่มสั่น
“ถ้างั้นก็รู้ไว้ว่าฉันทำได้มากกว่าดูถูกผู้หญิงอย่างเธออีก!”
หมับ!
“ว้าย! ปล่อยนะจะทำอะ...อื้อ!!!” ผมกระชากผู้หญิงคนนี้เข้ามาในอ้อมแขนเต็มแรงแล้วก็ใช้มือบีบคางเธอเอาไว้ก่อนที่จะประกบปากลงไปที่ปากอวบอิ่มสีหวานของเธอเต็มแรง
“อื้อ! อื้อ!!” เธอพยายามดิ้นหนีแล้วก็เม้มปากหนีแต่ผมล็อกเธอเอาไว้ด้วยร่างกายที่แข็งแรงและตัวโตกว่า ส่วนปากผมไม่สนหรอกว่าเธอจะพยายามเม้มเอาไว้แค่ไหนเพราะผมสามารถใช้ความรุนแรงในการบังคับให้เธอรับลิ้นของผมเข้าไปข้างในนั้นได้อยู่ดี ผมทำได้โดยที่ไม่ต้องสนใจว่าเธอจะเจ็บรึเปล่าเพราะผมไม่ได้รักไม่ได้พิศวาสอะไรเธออยู่แล้วเลยไม่ได้คิดที่จะทนุถนอมเลยสักนิด
“อ่อย! อื้อ!”
“อืม~” ผมสอดลิ้นเข้าไปในปากของเธอพร้อมกับที่มือบีบปากเธอเอาไว้เต็มแรงไม่ให้ซ่ามากัดลิ้นผมได้ จะว่าไปปากผู้หญิงคนนี้ก็หวานดีเหมือนกันนะครับ จูบเล่นแก้ขัดแก้เหงาก็ไม่เลว
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ!
“อื้อ! อ่อย!!”
“อ่อย!!!”
“หึ! ครางทำไมวะแค่จูบ แหกปากร้องอย่างกับโดนกระแทกเข้าไปทั้งดุ้น”