“ดึกปานนี้แล้วทำไมไม่รู้จักกลับบ้าน” เสียงดุทรงอำนาจดังขึ้นจากข้างหลังทำเอาร่างเล็กของพิรตาต้องหันขวับกลับไปมองแทบจะทันที ทว่าเมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างสูงที่มีใบหน้าดุเย็นชาของเขา ดวงตากลมสวยก็เบิกโพลงขึ้นทันทีด้วยความตกใจ
“ขะ คุณลีอันโดร”
“ไม่ได้ยินที่ถามรึไง!” สองสาวต่างสะดุ้งเฮือกด้วยความอย่างตกใจเมื่อคนเขาตะคอกถามขึ้นมาอีกครั้ง
“เอ่อ คือ...”
“แล้วคุณเป็นใคร ทำไมต้องมาตะคอกเสียงใส่พวกเราด้วย” ญะญ๋าถามอย่างไม่พอใจเมื่ออยู่ๆ มีใครก็ไม่รู้เดินเข้ามาทำหน้ายักษ์และตะคอกใส่เธอกับเพื่อน ทำเอาลีอันโดรตวัดสายตาดุกร้าวหันไปมองทันทีอย่างเยือกเย็น จนร่างของญะญ๋าต้องขยับเดินไปหลบที่หลังของเพื่อนอย่างหวาดกลัวกับสายตาดุเย็นชาคู่นั้น
หน้าตาหล่อเสียเปล่า ทำไมดุขนาดนี้เนี้ย
“คะ คือ พวกเรามาดูหนังกันค่ะ แต่มันเหลือแค่รอบสามทุ่มก็เลยนั่งรอเวลาน่ะค่ะ” เป็นเสียงสั่นแหบพร่าของพิรตาที่เอ่ยตอบออกไปเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าหันมาส่งสายตาคาดคั้นเอาคำตอบกับเธออีกครั้ง
“คิดอยากจะทำอะไรตามอำเภอใจก็ได้งั้นสินะ อยากจะกลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ หรือเที่ยวไปไหนมาไหนค่ำๆ มืด ๆ ก็ได้รึไง!”
“มะ ไม่ใช่อย่างงั้นนะคะคุณลีอันโดร” พิรตารีบปฏิเสธเขาออกมาทันทีไม่อยากให้เขาเข้าใจเธอผิด ไม่อยากให้ในสายตาของเขาเธอเป็นเด็กไม่ดี
“คือ.. คือเราพึ่งไปหาข้อมูลทำวิจัยเสร็จกันน่ะค่ะ เลยมาหาอะไรทานกันที่นี่ แล้วพอดีมีหนังเข้าใหม่ก็เลยอยากดูเพื่อผ่อนคลายเท่านั้นเองค่ะ”
“พอใจนี่เธอรู้จักผู้ชายหน้าดุคนนี้ด้วยหรอ” ญะญ๋ากระซิบถามเพื่อนเบาๆ ด้วยความแปลกใจระคนหวาดกลัวอยู่ข้างหลัง
“เอ่อ คุณลีอันโดรคือลูกชายของคุณท่านน่ะญะญ๋า”
“ฉันไม่ได้จะมายืนฟังเธออธิบาย หรือแก้ตัวอะไรทั้งนั้น” ชายหนุ่มพูดพลางมองไปรอบบริเวณ ก็เห็นมีวัยรุ่นชายประมาณสามสี่คนมองมาที่เธอด้วยแววตาที่เดาก็รู้ว่าพวกนั้นมันคิดอะไรกับยัยเด็กนี่แน่ กรามแกร่งขบกันจนขึ้นเป็นสันนูนทันทีด้วยความหวงแหน
“กลับบ้าน!” เขาออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชาทรงอำนาจ สายตาก็ดุดันน่ากลัวจนเธอได้แต่ลอบกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก
“คือ...หนูขออนุญาตชวนพอใจดูหนังได้ไหมคะ อีกอย่างเราก็พึ่งซื้อตั๋วไป ถ้าพอใจกลับไปหนูคงไม่กล้าดูคนเดียว” ญะญ๋าเอ่ยขออนุญาตเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาอย่างหวั่นกลัว
“ไม่กล้าดูก็แยกย้ายกันกลับบ้าน นี่ไม่ใช่เวลาที่เธอสองคนจะมาดูหนังกลางดึกแบบนี้ อ๋อ หรือนัดใครไว้กันแน่ล่ะ” ประโยคแรกชายหนุ่มตอบเพื่อนของเธอ แต่ประโยคถัดมานั้นเขาหันมาจ้องเธอแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหยัน
“ไม่ ไม่ได้นัดใครไว้ค่ะ เรามากันแค่สองคน” เธอหันมองหน้าเพื่อนด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ใจหนึ่งก็อยากอยู่เป็นเพื่อนญะญ๋า ใจหนึ่งเธอก็กลัวเขาจะหาว่าเธอเป็นเด็กดื้อ ที่ขัดคำสั่งเขา ญะญ๋าที่เห็นเพื่อนของเธอแสดงสีหน้าลำบากใจ จึงทำให้เธอพลอยรู้สึกผิดไปด้วย
“งั้นวันหลังเราค่อยมาดูก็ได้เนอะ วันนี้ก็ดึกแล้วจริงๆ แหละ งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่หอพักเอง ไปกันเถอะ” ด้วยเพราะรู้จากเพื่อนว่าผู้ชายคนนี้ถือว่าเป็นผู้มีพระคุณของเพื่อน ญะญ๋าจึงจำต้องตัดใจจากการดูหนังในครั้งนี้แล้วหันไปชวนเพื่อนสาวกลับแทน
“อะ อื้ม ขอบคุณนะ” พิรตาพยักหน้าก่อนจะเดินกลับไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินกลับมาไหว้ลาเขาก่อนกลับ แต่ทว่า...
“เดี๋ยว!” สองสาวหันไปมองที่ชายหนุ่มทันทีกับน้ำเสียงเข้มทรงอำนาจที่ดังขึ้นอีกครั้ง
“เธอกลับบ้านไปได้แล้ว ส่วนเธอฉันจะไปส่งเอง” เขาหันไปบอกเพื่อนของเธอด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่พอหันมาพูดกับเธอน้ำเสียงเขาค่อนไปทางดุ
เห้อดุอีกแล้ว ทำไมเขาชอบดุเธอกันนะ เธอไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือก็เปล่า...
“แต่ว่า...”
“ฉันพูดชัดแล้วนะ” เขาสวนทันควันพลางใช้ลิ้นดุนกระพุงแก้มราวกับกำลังระงับอารมณ์หงุดหงิด
“เดี๋ยวฉันกลับกับคุณลีอันโดรก็ได้จ้ะญะญ๋า ไม่ต้องห่วงนะ” หญิงสาวเห็นท่าไม่ดีจึงหันไปบอกกับเพื่อนเธอให้คลายความกังวล ญะญ๋าจึงจำต้องพยักหน้ารับก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ลาชายหนุ่มหน้าดุผู้มีพระคุณของเพื่อน
“เอ่อ... งั้นฉันกลับแล้วนะพอใจ สะ... สวัสดีค่ะคุณลีอันโดร”
“...” ร่างสูงยืนนิ่งโดยไม่ยอมรับไหว้หรือตอบรับคำบอกลานั้น ร่างเล็กของญะญ๋าจึงต้องเลี่ยงเดินกลับออกไปอีกทางทันที
“เอ่ออ...คือ” พิรตาลอบมองใบหน้าหล่อคมดุของผู้ชายที่เธอแอบรักอย่างทำอะไรไม่ถูกเมื่อตอนนี้เหลือแค่เธอกับเขายืนกันอยู่สองคนหน้าโรงหนัง
“มัวยืนบื้ออยู่ทำไม ตามมาสิ!” เขาพูดเสียงดุใส่เธออีกแล้ว พูดดีกลับเธอสักครั้งไม่ได้รึไงนะ เอะอะตะคอกลูกเดียวเลย
“เอ่อ ขะ ค่ะๆ” พิรตารีบวิ่งตามเขาไปทันทีด้วยกลัวว่าเขาจะหันมาดุเธออีกรอบหากขืนยังชักช้าโอ้เอ้
┅✹┅
ทันทีที่เดินมาถึงลานจอดรถร่างสูงของคุณลีอันโดรก็เดินไปคุยอะไรสักอย่างกับลูกน้องของเขาด้วยใบหน้าดุจริงจังเหมือนเช่นทุกครั้ง ส่วนเธอก็ทำได้เพียงแค่ ยืนเก้ๆ กังๆ มองซ้ายขวาอย่างทำตัวไม่ถูกรอเขา เขายืนคุยกับลูกน้องไม่นานก็มีรถสปอร์ตหรูที่เธอเคยเห็นในทีวีขับเข้ามาจอดตรงหน้าเขาทันที
พิรตามองตามร่างสูงที่เดินอ้อมไปฝั่งคนขับเงียบๆ โดยไม่กล้าเอ่ยถามอะไรกับเขา เพราะปกติเธอกับเขาแทบจะไม่เคยคุยอะไรกัน ส่วนมากจะมีแต่เธอที่พยายามจะทักเขา และพยายามจะพูดกับเขาอยู่ฝ่ายเดียว เธอคิดพลางก้มมองที่พื้นด้วยความน้อยใจ
“จะเดินกลับเองใช่ไหม” หญิงสาวรีบเงยหน้าขึ้นมองเขาก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างสูงทันทีอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“จะกลัวอะไรนักหนา มานี่” เขาเดินกลับมากระตุกเรียวแขนเล็กของเธอให้เข้าไปหาอย่างไม่เบามือนัก ก่อนจะกระชากประตูเปิดแล้วจับร่างเล็กของคนขี้กลัวยัดเข้าไปนั่งข้างในรถทันทีด้วยกิริยาที่ดิบเถื่อน
ตุบ!
“อ้ะ” หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความเจ็บ พรางเอามือลูบบริเวณแขนเล็กที่มีรอยนิ้วมือของเขา
“ดุจังเลยนะครับนาย” เสียงเอ่ยแซวของนิคมือขวาคนสนิทของเขาอีกคน ทำให้ชายหนุ่มต้องตวัดสายตามามองอย่างดุดัน
“นี่ถ้าเธอรู้ว่านายรีบมาหาเธอขนาดไหนคงยิ้มแก้มปริแน่ครับ”
“ไอ้นิค! กูเพื่อนเล่นมึงรึไง” นิคยิ้มให้เจ้านายหนุ่มอย่างกวนอารมณ์ ไม่ได้หวาดกลัวเจ้านายหนุ่มของตัวเองเลยสักนิด เพราะเขารู้ว่าถ้าหากเป็นเรื่องของหญิงสาวในรถแล้วล่ะก็ เจ้านายเขาไม่ได้โกรธอะไรเขาหรอก เพียงแค่เขินจนต้องกลบเกลื่อนด้วยการตะคอกและทำหน้าดุแบบนี้เท่านั้นเอง
“นายหญิงรอนานแล้วครับ”
“ไอ้นิค!!” ลีอันโดรกัดกรามจนนูนเป่งด้วยความโมโหระคนกลัวว่าเธอจะได้ยินในสิ่งที่ลูกน้องเขาแซว
“ครับนาย” นิครับคำพลางโค้งคำนับเล็กน้อยก่อนจะหันหลังเดินกลับไปขึ้นรถของตัวเอง ปล่อยให้เจ้านายหนุ่มยืนหน้าดำหน้าแดงขบเขี้ยวฟันอยู่คนเดียว
ปัง!
เสียงเปิดและปิดประตูที่ดังขึ้นจากฝั่งคนขับทำเอาร่างเล็กถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ พลางแอบลอบมองเขาอย่างไม่เข้าใจเมื่อเห็นใบหน้าหงุดหงิดบึ้งตึงของเขา
“มองอะไร!”
“ปะ เปล่าค่ะ” หลังจากตอบคำถามเขาเสียงสั่นแหบพร่า รถสปอร์ตสุดหรูก็พุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็วทันที
บรรยากาศในรถตอนนี้ทั้งอึมครึมและเงียบสงบจนเธอยินเสียงหายใจของตัวเอง แถมตอนนี้เธอยังรู้สึกหนาวเย็นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่รู้เลยว่าหนาวเพราะแอร์หรือรังสีความเย็นชาของเขากันแน่
“เอ่อ เลี้ยวขวาข้างหน้าค่ะคุณลีอันโดร”
“ฉันต้องรีบเข้าไปเคลียร์เอกสารด่วน ไม่อยากกลับรถไปมา” เขาตอบเสียงเรียบโดยไม่หันมามอง
“งั้นจอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ ดะ เดี๋ยวพอใจขึ้นแท็กซี่ต่อเองค่ะ” หญิงสาวเอ่ยบอกเขาด้วยความเกรงใจ แต่เขากลับไม่สนใจสิ่งที่เธอพูด เท้าหนาเหยียบคันเร่งไปต่อราวกับไม่ได้ยินที่เธอพูด
“ไปกับฉัน! เดี๋ยวกลับมาส่ง” ลีอันโดรหันมาบอกคนที่นั่งหน้าซีดเสียงราบเรียบเช่นเคย แต่ทว่าคำพูดของเขากลับทำเอาเธอซีดไปกว่าเดิม เธอไม่ได้กลัวเขาตรงข้ามเธออยากอยู่ใกล้ๆ เขาตลอดเวลาอยู่แล้ว หากไม่ใช่เวลาที่ดึกมากแบบนี้
“ปะ ไปไหนคะ มันดึกแล้วนะคะ”
“ฉันไม่ชอบพูดซ้ำ”
“ขะ เคลียร์เอกสารที่ไหนคะ”
“ทำไม! กลัวหรอ”
“ปะ เปล่าค่ะ”
“หึ!”
ลีอันโดรหัวเราะในลำคอกับอาการของหญิงสาวข้างกาย ยัยเด็กนี่จะมีสักครั้งไหมที่จะเก็บอาการของตัวเองบ้าง คิดอะไรนี่ออกทางสีหน้าและแววตาไปซะหมด ไม่ว่าจะเสียใจ น้อยใจหรือแอบรักใคร ใช่ เขารู้ว่าเธอแอบชอบเขา รู้ว่าเธอรู้สึกยังไง ก็เก็บอาการไม่ได้แบบนี้ไง ใครๆ ก็มองออกทั้งนั้น มีแค่เจ้าตัวแหละที่คิดว่าคนอื่นเขาไม่รู้ว่าเธอรู้สึกยังไงกับเขา เด็กน้อยเอ้ย ชายหนุ่มคิดในใจและแอบอมยิ้มออกมาน้อยๆ ก่อนจะหันมองหญิงสาวข้างกายที่นั่งเม้มปากจนแก้มนุ่มของเธอบุ๋มลงไปเป็นลักยิ้มสวยที่เขาหลงใหลตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน
กรามแกร่งขบกันแน่นอย่างพยายามข่มใจไม่ให้กระชากร่างเล็กเข้ามากดจูบกับความน่ารักนาสทะนุถนอมของเธอ
L - CLUB
สถานบันเทิงและคาสิโนครบวงจรที่ใหญ่โตและหรูหราที่สุดในย่านนี้คือธุรกิจของครอบครัวเขา ความจริงแล้วสถานบันเทิงและคาสิโนพวกนี้เขามอบหมายให้ ลีออน น้องชายคนเล็กของเขาเป็นคนดูแลทั้งหมด และที่นี่ยังถือได้ว่าเป็นสาขาย่อยๆ นักถ้านับกับสาขาที่ต่างประเทศทำให้น้องชายของเขาไม่ค่อยมาตรวจงานมาดูงานที่นี่ จะมีก็แต่เดรคลูกน้องคนสนิทของลีออนเท่านั้นที่ไปๆ มาๆ เพื่อรายงานผลให้เจ้านายของมันทราบ
วันนี้เขามาที่นี่เขาจึงถือโอกาสมาดูการบริหารของสาขาที่เมืองไทย มาตรวจงานและเช็คความเรียบร้อยของที่นี่ดูความพัฒนาของที่นี่สักหน่อย อีกอย่างเขาอยากลงโทษคนตัวเล็กข้างๆ ที่ริอาจกลับหอดึกๆ ดื่นๆ ดูซิเด็กที่นอนเร็วแบบเธอจะทนได้สักแค่ไหน
“คุณลีอันโดรคะ เอ่อ ที่นี่คือที่ไหนคะ” พิรตาพูดพลางหันมองสถานที่รอบบริเวณนอกตัวรถอย่างหวาดหวั่นและไม่คุ้นเคย เสียงเปิดและปิดประตูรถทำให้เธอต้องรีบลงจากรถแล้ววิ่งไปคว้าข้อมือหนาของเขาทันทีด้วยความลืมตัว
“รอด้วยค่ะ เอ่อ ขอโทษค่ะ” เธอปล่อยมือหนาทันทีที่เห็นเขามองมาที่เธอด้วยดวงตาดุราวกับไม่ชอบใจที่เธอถือวิสาสะไปจับมือเขา
“เชิญด้านบนครับนายใหญ่” การ์ดร่างยักษ์ที่ยืนเฝ้าอยู่ประตูหลังทางเข้าสำหรับแขกวีไอพีและผู้บริหารคลับผายมือเชิญร่างสูงของลีอันโดรให้เข้าไปด้านในอย่างนอบน้อม ลีอันโดรจึงเดินเข้าไปข้างในคลับโดยไม่หันหลังกลับมามองคนตัวเล็กที่เขาพามาด้วยราวกับต้องการแกล้งทิ้งเธอเอาไว้ พิรตาที่เห็นเขาเดินเข้าไปข้างในโดยไม่รอเธอก็รีบสับเท้าเดินตามเขาเข้าไปข้างในทันที
แต่ทว่า...ร่างเล็กกลับถูกล็อคและกระชากแขนสุดแรงให้กลับออกมา
“ตรงนั้นสำหรับผู้บริหารและแขกวีไอพีเท่านั้น ลูกค้าเชิญซ้ายมือ”
“คือ หนูมากับคุณลีอันโดรค่ะ”
“สภาพอย่างเธอนี่นะมากับนายใหญ่” การ์ดร่างยักษ์มองหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน ใช่แล้วล่ะ สภาพเธอตอนนี้ดูไม่เหมาะกับสถานที่ใหญ่โตหรูหราแบบนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืดคอกลมสีชมพู กระโปร่งยีนสีซีดเลยเข่าขึ้นมาเพียงนิดกับรองเท้าผ้าใบราคาไม่กี่บาท เธอหันไปมองรอบบริเวณก็เห็นมีแต่คนที่แต่งตัวดีหรูหราไฮโซเหมาะกับสถานที่ ต่างจากเธอราวฟ้ากับเหว
“แล้วหนูสามารถรออยู่ตรงไหนได้บ้างคะ”
“ข้างนอก ลานจอดรถ” พี่การ์ดตอบเธอออกมาส่งๆ ราวกับไม่อยากจะเสวนากับเธอก่อนจะหันไปตรวจบัตรต่ออย่างไม่คิดสนใจเธออีก
“เอ่อ... ค่ะ” พิรตาพยักหน้ารับคำพลางเดินน้ำตาคลอออกมาข้างนอกคลับทันทีด้วยความน้อยใจ ถ้าเขาจะทิ้งเธอเอาไว้แบบนี้ จะพาเธอมาด้วยทำไมนะ…คนใจร้าย
┅✹┅
“มึงรู้ไหมผู้หญิงที่มึงไล่ออกไปน่ะ คือว่าที่นายหญิงใหญ่ของที่นี่!”
หลายชั่วโมงผ่านไป..."อื้อ.. พะ พอแล้วค่ะ เดี๋ยวไปประชุมไม่ทันนะ" พิรตาพูดพร้อมกับดันบ่าแกร่งของสามีเอาไว้เมื่อเขานั้นทำราวกับจะเข้ามากอดมาจูบเธออีกครั้ง ในห้องน้ำก็สองยกบนเตียงก็หนึ่ง นี่เขายังจะทำกับเธอในห้องแต่งตัวอีกหรือไงกัน"ก็ใครอยากให้น่ารักขนาดนี้ล่ะ จุ๊บ!""อื้อ! รีบใส่เสื้อผ้าเลยนะคะ" คนตัวเล็กพูดพร้อมกับยื่นเสื้อเชิ้ตสีขาวให้สามีหนุ่ม ก่อนจะผละตัวออกมายืนให้ห่างกับคนจอมหื่น"คร้าบบม๊ามี๊..."ฟรึ่บ!"อร๊ายยย"ชายหนุ่มยื่นมือไปรับเสื้อที่เธอส่งให้ก่อนจะกระตุกที่ชายเสื้อจนร่างเล็กที่มีเพียงเสื้อคลุมตัวใหญ่ปิดบังเรือนร่างถึงกับเซถลาตามแรงดึงเข้าสู่อ้อมกอดของเขา"ก่อนใส่เสื้อ... ขอกินนมม๊ามี๊ก่อน"จ๊วบ!"อร๊ายย... คนเจ้าเล่ห์" แม้ปากจะต่อว่าเขาแต่มือเรียวกลับยกขึ้นมาบีบบ่าแกร่งของเขาแน่น เมื่อเขาก้มหน้าลงมาดูดที่ยอดทรวงหวานสีช้ำจากแรงดูดกินของเขา ปากหยักเพิ่มแรงดูดดึงจนเธอแทบทรงตัวไม่อยู่เพราะถูกความเสียวซ่านจากปลายลิ้นร้อนเล่นงานสุดท้ายก็แพ้เขาอีกตามเคยสินะ"อื้อ.. พอแล้วค่ะ พอ" หญิงสาวพูดกับร่างสูงที่ดูดเม้มหน้าอกเธออย่างเมามันอีกครั้ง ชายหนุ่มจึงยอมผละกลีบปากออกมา แต่ทว่าก
"นะ หนูจะทำอะไร? พอใจ อ๊า!!" ร่างสูงร้องถามเสียงหลงเมื่อทันทีที่เธอขึ้นคร่อมทับเขาพิรตาไม่ตอบแต่กลับใช้มือเล็กคว้าท่อนเอ็นอุ่นที่แข็งขึงตั้งลำตรงจับสอดเข้ามาในร่องรักของตัวเองราวกับสาวร้อนรัก ทำเอาชายหนุ่มได้แต่ส่งเสียงครางซี๊ดปากอย่างเสียวซ่าน มือหนาที่พึ่งหยิบเครื่องป้องกันมา กำแน่นอย่างทรมานเมื่อสะโพกมนขยับส่ายวนไปมาอย่างยั่วเย้าบนแท่งรักที่อยู่ในกายสาวของเธอ ส่วนมืออีกข้างก็ต้องรีบยกไปจับที่เอวคอดเล็กเอาไว้แล้วบีบเคล้นเนื้อเนียนนุ่มเพื่อระบายความเสียวกลางกายสาวของเธอนั้นตอดความแข็งขึงเขาเป็นจังหวะจนเขานั้นปวดร้าวและทรมานไปทั้งลำ ยิ่งเธอส่ายวนสะโพกอย่างร่านร้อนชนิดที่ไม่ได้กลัวเอวหักเลยสักนิดก็ยิ่งทำเอาเขาเสียวทรมานจนต้องกัดกรามแกร่งเอาไว้แน่น"คุณใหญ่จะลงโทษที่พอใจขัดคำสั่งหรอคะ" ถามเสียงกระเส่าพร้อมกับกดสะโพกลงไปบนท่อนเอ็นของเขาหนักๆ แม้จะเสียวและทรมานไม่แพ้กับเขา แต่ยกนี้เธอต้องเป็นฝ่ายชนะเขาเท่านั้น"อ๊าาา... ซี๊ดด พะ พอก่อนที่รัก อ๊ะ!""พอได้ไงล่ะคะ... คุณใหญ่ยังไม่โดนฟาดเลยที่ทำตัวงี่เง่า!"เพลียะ!!!ใบหน้าหล่อหันไปตามแรงตบของเมียรักทันที หึ คงคิดว่าเขาจะโดนฟาดที่อื่นใช่ไห
"อ้ะ คุณใหญ่!!"หญิงสาวร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บเมื่อถูกผู้เป็นสามีฟาดฝ่ามือลงมาที่สะโพกกลมมนอย่างไม่เบามือนัก ร่างบางที่กำลังถูกอุ้มพาดบ่าแกร่งดีดดิ้นไปมาพลางร้องขอความช่วยเหลือจากสาวใช้ที่อยู่บริเวณนั้น แต่ก็หาได้มีคนกล้าเข้ามาช่วยเธอเลยสักคน เพราะแค่ถูกคนบ้าอำนาจที่อุ้มเธออยู่ตอนนี้ปรายตามองด้วยสายตาดุดันคาดโทษ ทุกคนก็ต่างก้มหน้างุดอย่างหวาดกลัวก่อนจะเดินหลบเลี่ยงไปอีกทางทันที"ช่วยด้วยค่ะ ป้าพอลล่าช่วยพอใจด้วยย...คุณใหญ่ปล่อยพอใจลงเดี๋ยวนี้นะคะ!""กะ เกิดอะไรขึ้นกันคะนายใหญ่ ทำไมถึง…" ป้าพอลล่าหัวหน้าแม่บ้านที่พึ่งเดินออกมาจากห้องครัวเอ่ยถามเจ้านายหนุ่มอย่างสงสัยใคร่รู้กับเหตุการณ์ตรงหน้า"ไปบอกไอ้รอฟให้ไปส่งเนลล่าที่โรงเรียน แล้วบอกมันเลื่อนประชุมเป็นตอนบ่าย!" ชายหนุ่มไม่ได้ตอบคำถามของหญิงสูงวัย แต่กลับหันไปออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงดุดันน่ากลัวแทน"ตะ แต่ว่าา...นายญะ…""ถ้าไม่อยากโดนไล่ออกก็หุบปากและรีบไปทำตามที่ฉันสั่งซะ!"ร่างสูงตะคอกเสียงดุใส่หญิงชราหัวหน้าแม่บ้านก่อนจะอุ้มร่างบางที่ยังคงดีดดิ้นบนบ่าเดินมุ่งหน้าขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเองทันทีด้วยใบหน้าบึ้งตึง ปล่อยให้คนที่ถูกตะคอกเส
ครืด ครืด ครืด~เสียงมือถือเครื่องบางที่ดังขึ้นอยู่โต๊ะเล็กข้างเตียงนั้น ทำเอาเปลือกตาบางขยับเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ปรือปรอยเปิดเปลือกตามองไปยังต้นเหตุของเสียงรบกวนนั้นอย่างแปลกใจที่ถูกรบกวนตั้งแต่เช้ามือเรียวเล็กเอื้อมไปหยิบมือถือที่ส่งเสียงดังเข้ามาถือเพื่อเตรียมจะกดรับ แต่ทว่าเวลาที่แสดงอยู่บนหน้าจอมือถือนั้นก็ทำเอาคนที่สะลึมสะลือในตอนแรกต้องรีบเด้งตัวขึ้นมานั่งแทบจะทันที เมื่อเห็นว่าอีกไม่กี่นาทีก็จะแปดโมงเช้าแล้ว ซึ่งมันก็คือเวลาที่ลูกสาวตัวน้อยนั้นต้องได้ทานข้าวเพื่อเตรียมจะไปโรงเรียน แต่คนเป็นแม่อย่างเธอกลับนอนตื่นสาย ทั้งที่เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนดึกมากแถมไม่ได้ถูกสามีรังแกก่อนนอนด้วย"ตายละ... เนลล่าต้องงอนแน่เลย" พิรตาพึมพำพลางเตรียมจะลุกจากเตียงโดยไม่สนใจมือถือที่ส่งเสียงดังไม่หยุดของตัวเองเลยสักนิดเมื่อเห็นว่าตอนนี้สายเกินกว่าที่เธอจะให้ความสนใจได้ ใจเธอตอนนี้กังวลกลัวว่าจะลงไปทำอาหารให้ลูกน้อยและสามีทานไม่ทันเป็นที่สุด เนื่องจากลูกสาวตัวน้อยนั้นหากไม่ได้กินข้าวต้มกุ้งของโปรดฝีมือของมารดาในตอนเช้าหนูน้อยจะต้องเกิดอาการงอนจนไม่ยอมทานข้าวแน่คิดได้ดังนั้นร่างบางของเธอจึงรีบดีดตัว
"อะ เอ่อ…"พิรตาครางในลำคอพร้อมกับแอบเหลือบสายตามองสำรวจร่างกำยำของสามีที่เดินเปลือยท่อนบนโชว์เรือนร่างกำยำด้วยสายตาชื่นชมอย่างลืมตัว คุณใหญ่เป็นผู้ชายที่หุ่นสมบูรณ์แบบและเพอร์เฟคมากไม่ว่าจะเป็นแผงอกที่แน่นตึงไปด้วยมัดกล้ามรวมไปถึงลอนกล้ามเนื้อที่เรียงตัวกันเป็นก้อนสวยงามชวนมอง แม้ว่าเขาจะอายุปาไป 36 ปีแล้วแต่เขากลับดูดีขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่ออายุมากขึ้นและยิ่งทำให้เธออดที่จะหวงแหนเขาไม่ได้หวงหรอ?พิรตานึกถึงคำพูดของบุตรสาวที่เอ่ยบอกเธอเมื่อตอนหัวค่ำ…คุณครูบอกว่าอยากเจอแด๊ดดี๊เพราะแด๊ดดี๊หล่องั้นหรอ? เหตุผลฟังไม่ขึ้นเลย!"อะแฮ่ม" เสียงกระแอมจากเขาทำเอาเธอถึงกับหน้าแดงอย่างอับอายที่เผลอตัวแอบมองเขานานสองนาน สายตากลมหวานเลื่อนไปมองหน้าหล่อเหลาของสามีเล็กน้อยก่อนจะขยับเดินเข้าไปหาเขา"ทำไมอาบน้ำก่อนพอใจคะ" ถามพลางยกเรียวแขนเล็กขึ้นไปโอบรอบคอแกร่งเอาไว้แล้วมองเข้าไปในตาดุคมของเขาอย่างกระเง้ากระงอด"พี่เหนียวตัวน่ะ เลยอาบไปก่อน" เขาตอบพร้อมกับยกมือขึ้นแกะแขนเล็กออก ก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องแต่งตัวพิรตามองตามแผ่นหลังแน่นตึงของผู้เป็นสามีที่กำลังเดินหายเข้าไปในห้องแต่งตัวด้วยสายตาตัดพ้อ เธออ่อย
"คุณผู้หญิงคะ นายใหญ่บอกว่าไม่หิวค่ะให้คุณผู้หญิงกับคุณหนูทานกันเลยค่ะ" เสียงรายงานของสาวใช้ทำเอาคนที่กำลังถูกบุตรสาวออดอ้อนให้ป้อนอาหารอยู่ถึงกับชะงักมือที่กำลังจะตักข้าวทันที"มะ ไม่หิวหรอจ๊ะ""เอ่อ... ค่ะ""ม๊ามี๊ขาาา ป้อนได้เเล้วค่ะ" เสียงออดอ้อนเร่งเร้าให้มารดาที่กำลังเหม่อกับคำตอบของสาวใช้รีบป้อนอาหารให้หนูน้อยดังขึ้น ทำเอาพิรตาตัดใจแล้วหันไปตักแกงจืดเต้าหูหมูสับเมนูโปรดของลูกรักป้อนให้ทันที หญิงสาวตักป้อนบุตรสาวเงียบๆ พลางส่งยิ้มหวานให้ลูกรักไปด้วย แต่ตัวเธอนั้นไม่ยอมแตะอาหารที่ตัวเองตั้งใจทำเลยด้วยซ้ำ"วันนี้รอแด๊ดดี๊นานไหมคะคนเก่ง" หญิงสาวเอ่ยถามลูกน้อยที่กำลังวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ หลังจากที่อิ่มจากการทานมื้อค่ำไปแล้ว"วันนี้แด๊ดดี๊ไม่ได้ไปรับเนลล่าค่ะม๊ามี๊" คำตอบของลูกน้อยนั้นทำเอาคิ้วคนถามขมวดมุ่นอย่างแปลกใจทันที เกิดอะไรขึ้นกันปกติคุณใหญ่จะต้องไปรับลูกด้วยตัวเองทุกครั้ง แม้งานจะยุ่งแค่ไหนเขาก็จะปลีกตัวมารับลูกก่อน แต่เหตุใดวันนี้เนลล่าถึงบอกว่าเขาไม่ได้ไปรับ"สงสัยแด๊ดดี๊กำลังยุ่งๆ อยู่กับงานถึงไปรับคนเก่งของม๊ามี๊ไม่ได้" พิรตาพยายามพูดแก้ต่างให้กับสามีเพราะไม่อยากให้บุตรสาว