พรึบ!
ลีอันโดรวางร่างเล็กลงนอนราบบนโซฟาอย่างทะนุถนอมทันทีที่เดินมาถึงห้องทำงาน สายตาคมดุน่ากลัวกวาดมองร่องรอยตามร่างบางและใบหน้าสวยหวานของคนที่นอนหมดสติจากความตกใจกลัวจากเหตุการณ์ก่อนหน้าอย่างโกรธแค้นจนแทบระเบิด เขาโกรธตัวเองที่ปล่อยให้เธอได้รับอันตราย โกรธทุกคนทุกอย่างที่มันทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้รวมถึงโกรธเธอที่ทำให้เขาเป็นห่วงจนเจ็บร้าวไปทั้งหัวใจ
“ไปตามคนมาทำแผลและเช็ดตัวให้เธอ” ลีอันโดรหันไปออกคำสั่งเสียงเข้มกับนิคที่เดินตามมาข้างหลังเข้ามาในห้อง
“ครับนาย”
“เดี๋ยว!”
“ครับ”
“จับคนที่มันไล่พิรตาเอาไว้ให้กูด้วย กูจะลงไปจัดการมัน!”
“เอ่อ นายครับ”
“ไป!!”
“คะ ครับนาย” นิครับคำสั่งเสร็จก็หันหลังปลีกตัวออกจากห้องทำงานทันทีเพราะเขาเองก็หวั่นกลัวกับความเยือกเย็นความโมโหของเจ้านายไม่แพ้กัน ตอนเจ้านายเขาโมโหแบบนี้เขาบอกเลยว่าเพ่นได้ให้รีบเพ่น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา” ลีอันโดรเอ่ยอนุญาตเสียงเข้มพลางเหลือบมองพนักงานหญิงของไนท์คลับที่เดินถือกล่องปฐมพยาบาลเข้ามาในห้องมีท่าทีสั่นราวกับกลัวเขาด้วยความหงุดหงิด
“จัดการทำแผลและอยู่ดูแลเธอจนกว่าฉันจะกลับเข้ามา!”
“คะ ค่ะนายใหญ่” พนักงานสาวรับคำเสียงสั่นเทาก่อนจะเดินตัวลีบเข้าไปใกล้ร่างบางที่หลับหมดสติบนโซฟาเพื่อทำแผลบนใบหน้าสวย ลีอันโดรยืนนิ่งมองใบหน้าหวานของคนตัวเล็กนานนับนาที ก่อนจะตัดใจหันหลังเดินออกจากห้องทำงานไปเพื่อจัดการลงโทษคนที่ทำให้เธอเกิดอันตรายจนเขาใจเจ็บไปด้วย
┅✹┅
ลีอันโดรเดินเข้ามาภายในโรงใหญ่กลางคลับด้วยท่าทางเยือกเย็นน่ากลัว สายตาคมมืดลึกกวาดมองไปยังร่างบึกบึนของการ์ดที่เขาสั่งลูกน้องคุมตัวเอาไว้ก่อนหน้าพลางเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปหาก่อนจะฟาดหมัดหนักๆ ไปที่ใบหน้าของการ์ดคนดังกล่าวทันทีแบบไม่มียั้ง
พลัวะ พลัวะ พลัวะ!
“นะ นายใหญ่ ผะ ผมขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่าเธอมากับนาย” เสียงสั่นอย่างหวาดกลัวพร้อมกับการยกมือพนมไหว้ไม่ได้ทำให้อารมณ์เขาเย็นลงเลยสักนิด
“มึงไม่เห็นว่าเธอกับกูเดินมาด้วยกันรึไง”
“ผะ ผมเห็นนายรีบเดินไปไม่ได้รอเธอ ละ แล้วเธอก็แต่งตัว บะ แบบนั้น ผมเลยคิดว่าเธอคงไม่ได้มากับนะ นายครับ ผมขอโทษครับนาย”
“โธ่เว้ยย”
พลัก พลัวะ พลัวะ
เมื่อได้ยินคำอธิบายเท้าหนาก็ยกขึ้นถีบเข้าที่ยอดอกของการ์ดคนนั้นอย่างแรงก่อนจะตรงเข้าไปซัดหมัดต่อยไปอีกแบบไม่ยั้งทันทีราวกับคนขาดสติ ทำเอาทุกคนที่อยู่ ณ บริเวณนั้นต่างมองด้วยความขยาดหวาดกลัว แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามหรือช่วยเหลือแม้แต่คนเดียวเพราะต่างรู้ดีว่านายใหญ่ของแอลคลับนั้นน่ากลัวเพียงใด
“โว้ย!”
ใช่! เพราะคำพูดของการ์ดคนนั้นทำให้เขามองเห็นความผิดของตัวเองด้วย ถ้าเขาแค่รอเธอ ถ้าเขาไม่คิดจะแกล้งเธอ เด็กนั่นก็คงไม่ตกอยู่ในอันตรายแบบนั้นและถ้าเธอเป็นอะไรไปเขาจะอยู่ยังไง
“เอามันออกไปให้พ้นหน้ากู!” ลีอันโดรเหวี่ยงร่างของคนที่ถูกอัดจนสะบักสะบอมลงไปกองอยู่ที่พื้น ก่อนจะหันหลังเดินกระแทกเท้ากลับขึ้นไปหาคนที่เป็นต้นเหตุให้เขาโมโหจนคลุ้มคลั่ง ทั้งโมโหตัวเองที่ทำอะไรไม่คิด โมโหการ์ด โมโหไอ้ชั่วสามตัวนั้นที่มันทำร้ายเธอ โมโหเธอที่เป็นต้นเหตุให้เขาแสดงความรู้สึกที่มีต่อเธอให้ลูกน้องของเขาได้หัวเราะเยาะที่เขาห่วงเธอจนแทบคลั่ง ทั้งที่เรื่องความรู้สึกที่เขามีต่อเธอมันควรจะเป็นความลับ!
ใครมันจะไปควบคุมตัวเองได้กันล่ะ ถ้าคนที่เป็นเหมือนดวงใจของตัวเองต้องตกอยู่ในอันตรายแบบนั้น!
“ออกไปให้หมด!” ลีอันโดรก็ตวาดไล่พนักงานที่อยู่เฝ้าอยู่ดูแลพิรตาให้ออกไปทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในห้อง ทำเอาพนักงานที่นั่งเช็ดตัวให้กับหญิงสาวถึงกับสะดุ้งตกใจกลัวกับเสียงตะคอกก่อนจะรีบลนลานออกจากห้องไปอย่างหวาดกลัว
ฟุบ!
ร่างสูงเดินไปทรุดกายลงนั่งโซฟาตัวยาวที่มีร่างของพิรตานอนอยู่ ตาคมดุกวาดมองใบหน้าสวยหวานอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานอย่างอ่อนโยนโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัว มือหนายกขึ้นไปไล้ตามกรอบหน้าอย่างขอลุแก่โทษ ก่อนจะเลื่อนมาลูบคลึงยังบริเวณมุมปากที่แตกช้ำของเธอเบาๆ อย่างรู้สึกผิด
ลีอันโดรคว้ามือบางของคนหลับมากุมเอาไว้และบีบมือเล็กนั้นเบาๆ ก่อนจะยกหลังมือนุ่มของเธอขึ้นกดจุมพิตอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ ราวกับอยากขอโทษที่ทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายรวมไปถึงทำให้เธอเสียใจเรื่องข่าวลวงนั้น
ใช่ เขารู้ว่าเธอรู้สึกยังไงกับเขาและรู้ว่าเธอแอบอ่านข่าวคราวของเขาอยู่เสมอตลอดเวลาที่เขาอยู่สเปน เขารู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ... เพราะเขาเองก็มีความรู้สึกที่ไม่ต่างจากเธอเลยสักนิด
จุ๊บ!
ลีอันโดรโน้มใบหน้าหล่อคมคายลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากสวยรูปกระจับนั้นอย่างอดใจไว้ไม่ไหว... จากตอนแรกที่คิดว่าจะเพียงแค่จุมพิตเธอเบาๆ แล้วผละออกเท่านั้น แต่พอได้กลิ่นกายหอมละมุนที่เขาคุ้นเคยของเธอ เขาก็อดที่จะจัดการบดเคล้าคลึงกลีบปากของเธอมันเขี้ยวไม่ไหว
“อ่ะ อืออ”
พิรตาครางออกมาเบาๆ เพราะเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจ ทำเอาปากหยักรีบถอนริมฝีปากออกทันทีเพราะกลัวเธอจะตื่นมาเห็นว่าคุณลีอันโดรที่เธอเคยมองว่าแสนเย็นชาและนิ่งขรึมนักหนานั้นกำลังแอบจุมพิตสาวน้อยในปกครองของตัวเองอยู่
ร่างสูงตัดใจลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปที่โต๊ะทำงานทันทีเพราะกลัวอดใจไม่ไหวจูบเธออีกครั้ง ลีอันโดรทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่พลางมองคนตัวเล็กหลับต่อด้วยสายตาที่มืดลึกยากจะคาดเดา มือเรียวคลึงแก้วบรั่นดีไปมาก่อนจะยกขึ้นกระดกรวดเดียวหมดแก้ว จากนั้นก็รินมาดื่มใหม่แก้วแล้วแก้วเล่า ทว่าดวงตาแดงก่ำที่ไม่รู้เพราะฤทธิ์บรั่นดีหรือความโกรธที่อยู่ในใจไม่คลายกลับมองจ้องที่คนหลับตลอดเวลาราวกับกลัวเธอหายไปจากสายตา
“ชะ ช่วยด้วยย กรี๊ดดด!” เสียงกรีดร้องอย่างหวาดกลัวดังขึ้นจากคนที่นอนนิ่งอยู่บนโซฟาทำเอาร่างสูงรีบวางแก้วบรั่นดีลงเตรียมจะลุกขึ้นไปหาเธอด้วยความตกใจ
“พิรตา...”
“เฮือก!” ร่างเล็กสะดุ้งและลุกขึ้นนั่งทันทีราวกับคนเสียขวัญ หญิงสาวก้มมองสำรวจร่างกายตัวเองและสถานที่รอบตัวอย่างหวาดระแวง ฉับพลันดวงตากลมหวานซึ้งที่มีน้ำตาคลอนิดๆ ก็หันไปเห็นร่างสูงของเขาชายหนุ่มที่เธอหลงรักกำลังนั่งจ้องมองเธออยู่หลังโต๊ะทำงานเช่นกันด้วยแววตามืดลึก
“ก่อเรื่องจนได้สินะ!” เขาเอ่ยดุเธอออกมาเสียงหยัน ทำเอาหญิงสาวน้ำตาคลอด้วยความน้อยใจ เธอไม่ได้ก่อเรื่องอะไรด้วยซ้ำ เธอเพียงแค่จะเดินตามเขาเข้ามาข้างใน แต่เธอกลับโดนการ์ดของเขาไล่เธอออกมาจนต้องแอบไปนั่งหลบอยู่ที่ข้างรถเขาเพราะไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหนเพื่อรอเขากลับออกมาหลังจากเขาทำธุระเสร็จ
แล้วเธอก็ไม่ได้แอบไปไหนเลยด้วยซ้ำ เธอนั่งอยู่อย่างนั้นตั้งนานสองนานจนได้ยินเสียงกรีดร้องและเสียงคนวิ่งหนีออกมาจากข้างใน จึงทำให้เธอคิดหาที่หลบไปซ่อนด้วยความกลัว แต่... สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
“พอใจเปล่านะคะ มะ ไม่ได้ก่อเรื่องอะไร คือ”
“ไม่ต้องมาเถียง! เธอมันชอบแส่หาเรื่อง!”
“ฮึก” เสียงตะคอกของเขาทำเอาน้ำตาที่พยายามกักเก็บเอาไว้ไหลลงมาเป็นทางราวกับทำนบแตก เธอทำผิดอะไรนักหนา ทำไมเขาต้องดุต้องตะคอกเธอตลอดด้วยแค่เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ก็ทำให้เธอกลัวมากพอแล้วเธอยังต้องมาโดนเขาดุในสิ่งที่เธอไม่ได้ทำผิดอะไรเลยด้วยซ้ำ
“เงียบเดี๋ยวนี้ รำคาญ!”
“คุณไม่รู้หรอกว่าหนูกลัวแค่ไหน คุณก็ดีแต่ดุดีแต่ตะคอก ไม่เคยห่วงใยหรือสนใจความรู้สึก ฮึก หนูเลย” เพราะความกลัวกับเหตุการณ์ก่อนหน้าจึงทำให้หญิงสาวลืมตัวขึ้นเสียงกับชายหนุ่มเป็นครั้งแรกโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะเอาแต่ยืนสะอื้นไห้ตัวโยนอย่างเสียใจ...
“ฉันบอกให้เธอเงียบ พิรตา!” เขานี่นะไม่ห่วงเธอ เขานี่นะไม่สนใจเธอ เขาแทบจะฆ่าทุกคนที่มันทำเธอเจ็บ ซัดทุกคนที่มันเข้าใกล้เธอ เธอมันจะไปรู้อะไร ยัยเด็กโง่เอ้ย!
“หนูไม่น่ามากับคุณเลย ฮึก หนูจะ ฮึก ไม่อยู่กับคุณแล้ว!” ร่างเล็กถลาออกไปที่ประตูห้องทำงานทันทีราวกับคนขาดสติ ใช่ เธอขาดสติจากความกลัว จากเสียงดุเสียงตะคอกของเขา เธอไม่อยากอยู่ฟังเสียงดุด่าของเขาให้ตัวเองเจ็บปวดแล้ว
“เธอจะไปไหน หยุดเดี๋ยวนี้นะพิรตา!” ร่างสูงรีบถลาวิ่งตามไปกระชากเรียวแขนเล็กของหญิงสาวเอาไว้ทันทีด้วยหัวใจที่วูบไหว
“ปล่อยหนูนะ ฮึก ปล่อยสิ หนูจะไม่รักคุณแล้ว” หญิงสาวพรั่งพรูคำพูดมากมายออกมาอย่างไม่รู้ตัวด้วยความน้อยใจที่ถูกดุ ทว่าสิ่งที่เธอพูดกลับทำให้กรามแกร่งต้องขบกันแน่นอย่างพยายามระงับความโกรธ จะไม่รักเขาแล้วงั้นหรอ ฝันไปเถอะ!
ฟรึบ!
ลีอันโดรดึงร่างของพิรตาเข้ามาในอ้อมกอดและล็อคตัวเธอไว้อย่างแน่นหนาด้วยอ้อมแขนแข็งแกร่ง แต่เธอกลับใช้มือที่ยังว่างทุบตีไปที่อกและไหล่เขาแรงๆ อย่างเสียใจระคนน้อยใจที่ถูกเขาดุและต่อว่า
ตุ้บ ตุ้บ!
“ปล่อยหนูนะ อุ๊บ”
มือหนาปล่อยกอดเพื่อเลื่อนมาล็อคใบหน้าหวานให้ตึงแน่นก่อนจะก้มลงไปบดจูบเรียวปากเล็กเพื่อห้ามเสียงเธอให้เงียบลงอย่างไม่อ่อนโยนนัก ปากหยักบดขยี้กเรียวปากเล็กของเธอที่เขารู้ดีว่าหวานแค่ไหนแรงๆ อย่างมันเขี้ยวกับความดื้อ
“อื้อ”
ลีอันโดรเลื่อนมือหนาลงไปกระชับเอวคอดกิ่วของพิรตาแน่นหลังจากที่คนตัวเล็กยอมนิ่งปล่อยให้เขาจูบจนพอใจ เหนือสิ่งอื่นใดที่ทำเอาเขาพอใจจนอยากจับเธอฟัดลงโซฟานักก็คือเรียวปากเล็กเผยอจูบตอบเขาอย่างไม่ประสา ทำเอาเขาใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่
จูบของเขาทำไมเหมือนในฝันของเธอจัง การจูบคนที่เรารักความรู้สึกมันดีแบบนี้เองสินะ
คนตัวเล็กคิดพลางเลื่อนสองแขนขึ้นกอดรอบลำคอหนาของชายหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว ลีอันโดรจึงถอนจูบออกมามองใบหน้าสวยของเธอที่ตอนนี้ดวงตาของเธอนั้นฉ่ำเยิ้มหวานมองตอบเขาอย่างลุ่มหลงไม่คิดปิดบังอย่างพึงพอใจ ส่วนพิรตาก็ได้แต่มองตามริมฝีปากหนาของเขาอย่างแสนเสียดาย ตาหวานช้อนขึ้นมองเขาอย่างออดอ้อน มือบางก็ไม่ได้ละออกไปจากลำคอของเขาแต่กลับลูบไล้ไปมาเบาๆ ให้เขาเสียวเล่นจนเขาต้องกดจูบกลีบปากอิ่มหนักๆ อีกครั้งอย่างมันเขี้ยว
“เด็กดื้อ! จุ๊บ”
ชายหนุ่มต่อว่าคนตัวเล็กพลางกระตุกยิ้มอย่างเอ็นดูและไม่ทันที่เธอจะโต้ตอบกลับด้วยซ้ำ เขาก็กดจูบเธอมาอีกรอบ แต่ครั้งนี้ชายหนุ่มกลับสอดเรียวลิ้นของเขาเข้ามาดูดชิมน้ำหวานฉ่ำจากอุ้งปากเธอที่เผยอนิดๆ อย่างเชิญชวนด้วย จากจูบที่ดุดันแปรเปลี่ยนเป็นดูดดื่มเร่าร้อนจากอารมณ์ปรารถนาที่เกิดขึ้น
จุ๊บ จุ๊บ
เสียงจูบของเขาเมื่อครู่ส่งผลให้เรียวปากอิ่มแยกยิ้มหวานด้วยความเขินทันทีและยิ่งมองเห็นลักยิ้มสวยของเธอที่เขาชอบแอบมองก็ยิ่งทำให้เขาต้องกดจูบและหอมแก้มนุ่มอยู่แบบนั้นซ้ำๆ อย่างหลงใหล
ฟอดดด
พลัวะ!
“นายครับ เอ่อ...” เสียงของนิคที่ดังขึ้นทำเอาลีอันโดรที่กำลังฝากฝังเรียวปากหยักมอบความหวานละมุนให้คนในอ้อมกอดได้สติแทบจะทันทีก่อนจะผละจูบและถอยห่างจากร่างเล็กที่พึ่งถูกความวาบหวามเล่นงานจนแทบยืนไม่อยู่ ทว่าคนตัวเล็กกลับซุกใบหน้าลงมาที่อกแกร่งของเขาอย่างอับอายต่อสายตาของลูกน้องเขาแทน ชายหนุ่มหันไปมองลูกน้องของตัวเองด้วยดวงตาวาวโรจน์ไม่พอใจแทบจะกินเลือดกินเนื้อคนที่บังอาจเข้ามาขัดจังหวะของเขา
“ทำไมมึงไม่เคาะประตู!” เสียงเข้มทรงอำนาจเอ่ยถามพร้อมกับจะเดินไปเอาเรื่องกับลูกน้องหนุ่ม แต่ติดที่คนตัวเล็กในอ้อมกอดซุกใบหน้าเข้าที่อกล่ำสันของเขาอย่างอับอายต่อบุคคลที่มาใหม่ จึงทำให้เขาทำอะไรไม่สะดวกจึงจำต้องยืนนิ่งให้เธอซุกอกอยู่อย่างนั้น
“คะ เคาะแล้วครับนาย แต่ผมไม่ได้ยินเสียงตอบเลยเปิดเข้ามา” คำตอบของลูกน้องทำเอาทั้งเธอและเขาต่างหน้าแดงหูแดงอย่างอับอาย...นี่เขาจูบเธอจนไม่สนใจอะไรและไม่ได้ยินอะไรเลยหรอวะ
“แล้วมึงมีอะไร!”
“เสี่ยธงชัยมาที่นี่ครับนาย”
“เร็วกว่าที่คิด” ชายหนุ่มพูดพลางดึงตัวพิรตาที่หน้าแดงจัดด้วยความเขินอายออกจากอ้อมกอดเบาๆ ก่อนจะก้มลงไปออกคำสั่งกับคนที่ยืนแก้มแดงเสียงเข้ม
“รออยู่ในนี้ ฉันจะไปทำธุระ”
“ให้พอใจไปด้วยได้ไหมคะ พอใจกลัว” หญิงสาวรีบเอ่ยถามออกมาด้วยความกลัวพลางดึงชายเสื้อของเขาไว้เมื่อรู้ตัวว่าจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวอีกครั้ง
“ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว รออยู่ที่นี่! ไปเรียกคนมาอยู่เป็นเพื่อนพิรตา และเอาการ์ดมาเฝ้าหน้าห้องด้วย” เขาสั่งเธอเสียงเข้มดุเสร็จก็หันไปสั่งลูกน้องเขาด้วยน้ำเสียงดุไม่แพ้กัน
“ครับนาย”
ลีอันโดรเดินออกไปข้างนอกทันทีทำราวกับไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับเหตุการณ์ก่อนหน้าระหว่างเธอกับเขา ก็คงจะมีแค่เธอที่รู้สึกมีความสุขและคิดไกลไปเองคนเดียวสินะ หญิงสาวคิดด้วยความน้อยใจพลางเดินไปหย่อนสะโพกนั่งลงที่โซฟาตัวยาวด้วยใบหน้าที่ซึมลง
┅✹┅
“หวานมากไหมครับนาย” นิคเอ่ยแซวเจ้านายหนุ่มทันทีที่เขาปิดประตูห้องทำงานลง ทำเอาร่างสูงถึงกลับหันมากระชากเสียงดุใส่ทันที
“ไอ้นิค!!”
“คร้าบบบบ” นิคขานรับเสียงยานอย่างล้อเลียนก่อนจะวิ่งออกไปทันทีเพราะกลัวชายหนุ่มเขินจนมาทำร้ายเขาอีก
“กูเคลียร์กับไอ้เสี่ยนี่เสร็จเมื่อไหร่ กูคิดบัญชีมึงแน่”
หลายชั่วโมงผ่านไป..."อื้อ.. พะ พอแล้วค่ะ เดี๋ยวไปประชุมไม่ทันนะ" พิรตาพูดพร้อมกับดันบ่าแกร่งของสามีเอาไว้เมื่อเขานั้นทำราวกับจะเข้ามากอดมาจูบเธออีกครั้ง ในห้องน้ำก็สองยกบนเตียงก็หนึ่ง นี่เขายังจะทำกับเธอในห้องแต่งตัวอีกหรือไงกัน"ก็ใครอยากให้น่ารักขนาดนี้ล่ะ จุ๊บ!""อื้อ! รีบใส่เสื้อผ้าเลยนะคะ" คนตัวเล็กพูดพร้อมกับยื่นเสื้อเชิ้ตสีขาวให้สามีหนุ่ม ก่อนจะผละตัวออกมายืนให้ห่างกับคนจอมหื่น"คร้าบบม๊ามี๊..."ฟรึ่บ!"อร๊ายยย"ชายหนุ่มยื่นมือไปรับเสื้อที่เธอส่งให้ก่อนจะกระตุกที่ชายเสื้อจนร่างเล็กที่มีเพียงเสื้อคลุมตัวใหญ่ปิดบังเรือนร่างถึงกับเซถลาตามแรงดึงเข้าสู่อ้อมกอดของเขา"ก่อนใส่เสื้อ... ขอกินนมม๊ามี๊ก่อน"จ๊วบ!"อร๊ายย... คนเจ้าเล่ห์" แม้ปากจะต่อว่าเขาแต่มือเรียวกลับยกขึ้นมาบีบบ่าแกร่งของเขาแน่น เมื่อเขาก้มหน้าลงมาดูดที่ยอดทรวงหวานสีช้ำจากแรงดูดกินของเขา ปากหยักเพิ่มแรงดูดดึงจนเธอแทบทรงตัวไม่อยู่เพราะถูกความเสียวซ่านจากปลายลิ้นร้อนเล่นงานสุดท้ายก็แพ้เขาอีกตามเคยสินะ"อื้อ.. พอแล้วค่ะ พอ" หญิงสาวพูดกับร่างสูงที่ดูดเม้มหน้าอกเธออย่างเมามันอีกครั้ง ชายหนุ่มจึงยอมผละกลีบปากออกมา แต่ทว่าก
"นะ หนูจะทำอะไร? พอใจ อ๊า!!" ร่างสูงร้องถามเสียงหลงเมื่อทันทีที่เธอขึ้นคร่อมทับเขาพิรตาไม่ตอบแต่กลับใช้มือเล็กคว้าท่อนเอ็นอุ่นที่แข็งขึงตั้งลำตรงจับสอดเข้ามาในร่องรักของตัวเองราวกับสาวร้อนรัก ทำเอาชายหนุ่มได้แต่ส่งเสียงครางซี๊ดปากอย่างเสียวซ่าน มือหนาที่พึ่งหยิบเครื่องป้องกันมา กำแน่นอย่างทรมานเมื่อสะโพกมนขยับส่ายวนไปมาอย่างยั่วเย้าบนแท่งรักที่อยู่ในกายสาวของเธอ ส่วนมืออีกข้างก็ต้องรีบยกไปจับที่เอวคอดเล็กเอาไว้แล้วบีบเคล้นเนื้อเนียนนุ่มเพื่อระบายความเสียวกลางกายสาวของเธอนั้นตอดความแข็งขึงเขาเป็นจังหวะจนเขานั้นปวดร้าวและทรมานไปทั้งลำ ยิ่งเธอส่ายวนสะโพกอย่างร่านร้อนชนิดที่ไม่ได้กลัวเอวหักเลยสักนิดก็ยิ่งทำเอาเขาเสียวทรมานจนต้องกัดกรามแกร่งเอาไว้แน่น"คุณใหญ่จะลงโทษที่พอใจขัดคำสั่งหรอคะ" ถามเสียงกระเส่าพร้อมกับกดสะโพกลงไปบนท่อนเอ็นของเขาหนักๆ แม้จะเสียวและทรมานไม่แพ้กับเขา แต่ยกนี้เธอต้องเป็นฝ่ายชนะเขาเท่านั้น"อ๊าาา... ซี๊ดด พะ พอก่อนที่รัก อ๊ะ!""พอได้ไงล่ะคะ... คุณใหญ่ยังไม่โดนฟาดเลยที่ทำตัวงี่เง่า!"เพลียะ!!!ใบหน้าหล่อหันไปตามแรงตบของเมียรักทันที หึ คงคิดว่าเขาจะโดนฟาดที่อื่นใช่ไห
"อ้ะ คุณใหญ่!!"หญิงสาวร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บเมื่อถูกผู้เป็นสามีฟาดฝ่ามือลงมาที่สะโพกกลมมนอย่างไม่เบามือนัก ร่างบางที่กำลังถูกอุ้มพาดบ่าแกร่งดีดดิ้นไปมาพลางร้องขอความช่วยเหลือจากสาวใช้ที่อยู่บริเวณนั้น แต่ก็หาได้มีคนกล้าเข้ามาช่วยเธอเลยสักคน เพราะแค่ถูกคนบ้าอำนาจที่อุ้มเธออยู่ตอนนี้ปรายตามองด้วยสายตาดุดันคาดโทษ ทุกคนก็ต่างก้มหน้างุดอย่างหวาดกลัวก่อนจะเดินหลบเลี่ยงไปอีกทางทันที"ช่วยด้วยค่ะ ป้าพอลล่าช่วยพอใจด้วยย...คุณใหญ่ปล่อยพอใจลงเดี๋ยวนี้นะคะ!""กะ เกิดอะไรขึ้นกันคะนายใหญ่ ทำไมถึง…" ป้าพอลล่าหัวหน้าแม่บ้านที่พึ่งเดินออกมาจากห้องครัวเอ่ยถามเจ้านายหนุ่มอย่างสงสัยใคร่รู้กับเหตุการณ์ตรงหน้า"ไปบอกไอ้รอฟให้ไปส่งเนลล่าที่โรงเรียน แล้วบอกมันเลื่อนประชุมเป็นตอนบ่าย!" ชายหนุ่มไม่ได้ตอบคำถามของหญิงสูงวัย แต่กลับหันไปออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงดุดันน่ากลัวแทน"ตะ แต่ว่าา...นายญะ…""ถ้าไม่อยากโดนไล่ออกก็หุบปากและรีบไปทำตามที่ฉันสั่งซะ!"ร่างสูงตะคอกเสียงดุใส่หญิงชราหัวหน้าแม่บ้านก่อนจะอุ้มร่างบางที่ยังคงดีดดิ้นบนบ่าเดินมุ่งหน้าขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเองทันทีด้วยใบหน้าบึ้งตึง ปล่อยให้คนที่ถูกตะคอกเส
ครืด ครืด ครืด~เสียงมือถือเครื่องบางที่ดังขึ้นอยู่โต๊ะเล็กข้างเตียงนั้น ทำเอาเปลือกตาบางขยับเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ปรือปรอยเปิดเปลือกตามองไปยังต้นเหตุของเสียงรบกวนนั้นอย่างแปลกใจที่ถูกรบกวนตั้งแต่เช้ามือเรียวเล็กเอื้อมไปหยิบมือถือที่ส่งเสียงดังเข้ามาถือเพื่อเตรียมจะกดรับ แต่ทว่าเวลาที่แสดงอยู่บนหน้าจอมือถือนั้นก็ทำเอาคนที่สะลึมสะลือในตอนแรกต้องรีบเด้งตัวขึ้นมานั่งแทบจะทันที เมื่อเห็นว่าอีกไม่กี่นาทีก็จะแปดโมงเช้าแล้ว ซึ่งมันก็คือเวลาที่ลูกสาวตัวน้อยนั้นต้องได้ทานข้าวเพื่อเตรียมจะไปโรงเรียน แต่คนเป็นแม่อย่างเธอกลับนอนตื่นสาย ทั้งที่เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนดึกมากแถมไม่ได้ถูกสามีรังแกก่อนนอนด้วย"ตายละ... เนลล่าต้องงอนแน่เลย" พิรตาพึมพำพลางเตรียมจะลุกจากเตียงโดยไม่สนใจมือถือที่ส่งเสียงดังไม่หยุดของตัวเองเลยสักนิดเมื่อเห็นว่าตอนนี้สายเกินกว่าที่เธอจะให้ความสนใจได้ ใจเธอตอนนี้กังวลกลัวว่าจะลงไปทำอาหารให้ลูกน้อยและสามีทานไม่ทันเป็นที่สุด เนื่องจากลูกสาวตัวน้อยนั้นหากไม่ได้กินข้าวต้มกุ้งของโปรดฝีมือของมารดาในตอนเช้าหนูน้อยจะต้องเกิดอาการงอนจนไม่ยอมทานข้าวแน่คิดได้ดังนั้นร่างบางของเธอจึงรีบดีดตัว
"อะ เอ่อ…"พิรตาครางในลำคอพร้อมกับแอบเหลือบสายตามองสำรวจร่างกำยำของสามีที่เดินเปลือยท่อนบนโชว์เรือนร่างกำยำด้วยสายตาชื่นชมอย่างลืมตัว คุณใหญ่เป็นผู้ชายที่หุ่นสมบูรณ์แบบและเพอร์เฟคมากไม่ว่าจะเป็นแผงอกที่แน่นตึงไปด้วยมัดกล้ามรวมไปถึงลอนกล้ามเนื้อที่เรียงตัวกันเป็นก้อนสวยงามชวนมอง แม้ว่าเขาจะอายุปาไป 36 ปีแล้วแต่เขากลับดูดีขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่ออายุมากขึ้นและยิ่งทำให้เธออดที่จะหวงแหนเขาไม่ได้หวงหรอ?พิรตานึกถึงคำพูดของบุตรสาวที่เอ่ยบอกเธอเมื่อตอนหัวค่ำ…คุณครูบอกว่าอยากเจอแด๊ดดี๊เพราะแด๊ดดี๊หล่องั้นหรอ? เหตุผลฟังไม่ขึ้นเลย!"อะแฮ่ม" เสียงกระแอมจากเขาทำเอาเธอถึงกับหน้าแดงอย่างอับอายที่เผลอตัวแอบมองเขานานสองนาน สายตากลมหวานเลื่อนไปมองหน้าหล่อเหลาของสามีเล็กน้อยก่อนจะขยับเดินเข้าไปหาเขา"ทำไมอาบน้ำก่อนพอใจคะ" ถามพลางยกเรียวแขนเล็กขึ้นไปโอบรอบคอแกร่งเอาไว้แล้วมองเข้าไปในตาดุคมของเขาอย่างกระเง้ากระงอด"พี่เหนียวตัวน่ะ เลยอาบไปก่อน" เขาตอบพร้อมกับยกมือขึ้นแกะแขนเล็กออก ก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องแต่งตัวพิรตามองตามแผ่นหลังแน่นตึงของผู้เป็นสามีที่กำลังเดินหายเข้าไปในห้องแต่งตัวด้วยสายตาตัดพ้อ เธออ่อย
"คุณผู้หญิงคะ นายใหญ่บอกว่าไม่หิวค่ะให้คุณผู้หญิงกับคุณหนูทานกันเลยค่ะ" เสียงรายงานของสาวใช้ทำเอาคนที่กำลังถูกบุตรสาวออดอ้อนให้ป้อนอาหารอยู่ถึงกับชะงักมือที่กำลังจะตักข้าวทันที"มะ ไม่หิวหรอจ๊ะ""เอ่อ... ค่ะ""ม๊ามี๊ขาาา ป้อนได้เเล้วค่ะ" เสียงออดอ้อนเร่งเร้าให้มารดาที่กำลังเหม่อกับคำตอบของสาวใช้รีบป้อนอาหารให้หนูน้อยดังขึ้น ทำเอาพิรตาตัดใจแล้วหันไปตักแกงจืดเต้าหูหมูสับเมนูโปรดของลูกรักป้อนให้ทันที หญิงสาวตักป้อนบุตรสาวเงียบๆ พลางส่งยิ้มหวานให้ลูกรักไปด้วย แต่ตัวเธอนั้นไม่ยอมแตะอาหารที่ตัวเองตั้งใจทำเลยด้วยซ้ำ"วันนี้รอแด๊ดดี๊นานไหมคะคนเก่ง" หญิงสาวเอ่ยถามลูกน้อยที่กำลังวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ หลังจากที่อิ่มจากการทานมื้อค่ำไปแล้ว"วันนี้แด๊ดดี๊ไม่ได้ไปรับเนลล่าค่ะม๊ามี๊" คำตอบของลูกน้อยนั้นทำเอาคิ้วคนถามขมวดมุ่นอย่างแปลกใจทันที เกิดอะไรขึ้นกันปกติคุณใหญ่จะต้องไปรับลูกด้วยตัวเองทุกครั้ง แม้งานจะยุ่งแค่ไหนเขาก็จะปลีกตัวมารับลูกก่อน แต่เหตุใดวันนี้เนลล่าถึงบอกว่าเขาไม่ได้ไปรับ"สงสัยแด๊ดดี๊กำลังยุ่งๆ อยู่กับงานถึงไปรับคนเก่งของม๊ามี๊ไม่ได้" พิรตาพยายามพูดแก้ต่างให้กับสามีเพราะไม่อยากให้บุตรสาว