Mag-log inแก้มก้นอันเป็นส่วนผสมระหว่างกล้ามเนื้อกับชั้นไขมันประกบนาบเข้ากับพื้นปูนซีเมนต์ของห้อง ผิวสัมผัสอันแห้งผากยังไม่สู้ความหอบเหนื่อยที่คนเป็นครูแบกรับเอาไว้ เบอร์แบโต้หายใจแรง หนักหน่วงแห่งอารมณ์พ่นลมออกจากปากพะงาบ ๆ ราวกับปลาขาดน้ำที่จวนจะขาดใจ.เด็กสามคนสลบไสลนอนเรียงกันเป็นแถวหน้ากระดาน แต่ละคนผิวสีน้ำตาลอมถ่านแม่งไม่ต่างจากศพที่ถูกไฟคลอก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะให้ทำยังไง ปล่อยนอนไว้เฉย ๆ ก็ทำใจลำบาก สายลับหนุ่มผู้ปลอมเป็นครูก็เลยต้องรับผิดชอบด้วยการบรรจงอุ้มร่าง 3 ร่างมานอนเรียงกันไว้ ณ จุด ๆ นี้."วู่ววว~! ให้ตายเถอะหนักใช้ได้เลยแฮะ ห้องเวรนี่แม่งก็ร้อนชิบเป๋ง สถาบันก็ออกจะใหญ่โตไม่คิดจะติดแอร์ปรับอากาศบ้างเลยรึไงฟะ หรือเพราะเห็นเราเป็นชั้นเรียนปลายแถว เป็นพวกที่โหล่หลังห้องงั้นใช่ไหม"เบอร์แบโต้บ่นอุบ ในขณะเดียวกันก็ใช้มือข้างหนึ่งพัดเป็นระวิงระบายหยาดเหงื่อออกจากใบหน้าตนเอง.กว่าจะผ่านพ้นไปได้ก็หมดเวลาไปสักพัก จนกระทั่งสบตาเข้ากับมืออีกข้างที่ยังคงถือลูกแก้วเอาไว้ มันเป็นลูกแก้วสีน้ำตาลเข้มจำนวน 3 ลูก ส่งแสงวิบวับ ๆ ซึ่งเป็นตัวแทนของเด็กทั้ง 3 คนที่มีพลังจากยีนแบบเดียวกัน จะว่าพลาดก็ค
ผนังนุ่มยืดหยุ่นสูงสีขาวโพลนสะอาดตา พื้นเป็นเบาะรองรับน้ำหนักได้มากเด้งดึ๋งดั๋ง ก่อนมันจะถูกจำลองเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ห้องเรียนของสถาบัน BPI ถูกกำหนดให้เป็นแบบนี้ทั้งหมด ครูแต่ละคนมีสิทธิ์เลือกวิชาที่ตัวเองถนัดเพื่อใช้สอน แล้วหลังจากนั้นสภาพห้องจึงค่อย ๆ ผันแปรไปเป็นสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม เฉกเช่นกรณีของเฟอร์นันโดที่เป็นวิหารสอนศิลปะ.แล้วนี่คืออะไรกัน?! สารภาพบาปมาซะดี ๆ ใครตอบได้บ้าง?! เหตุไฉนห้องของครูเบอร์แบโต้ผิวหมึกถึงได้กระจอกงอกง่อยเช่นนี้ เขายังไม่ได้กดเลือกวิชาที่จะสอนเลยด้วยซ้ำ ผลบาปแห่งเวรกรรมก็ได้จัดพื้นซีเมนต์แข็ง ๆ ปูนหยาบ ๆ กับฝาผนังที่เป็นซี่ ๆ คล้ายตะแกรงลูกกรงมาให้ซะงั้น ขนาดกว้าง x ยาวของมันก็เท่ากับห้องของครูคนอื่น แต่สิ่งแวดล้อมภายในนี่สิเรียกได้ว่าต่างกันลิบลับ.ภาพเหตุการณ์ตัดข้ามมาฝั่งนี้แล้วโดยสมบูรณ์แบบ เบอร์แบโต้กำลังเผชิญอยู่กับทุกขเวทนาอย่างหาที่เปรียบมิได้ เมื่อจู่ ๆ ก็โดนลูกทีมตัวเองที่คัดสรรเองกับมือจ้องจะเอาชีวิต พวกเขาวิ่งปรื๋อประหนึ่งมีพี่วินมอไซต์เป็นไอดอล สเต็ปการจ้วงเท้าถี่รัวยิ่งกว่าการออกตัวของฮอนด้าเวป.โดยไม่ต้องง้อกระจกหลัง เพียงเบอร์แบโต้หัน
การเรียนการสอนวิชาศิลปะศึกษาดำเนินไปอย่างเข้มข้น สรีระความเป็นมนุษย์ถูกถ่ายทอดผ่านฝีแปรงและการบอกเล่าอันเร้าใจ เฟอร์นันโดสอนเด็กแม้กระทั่งระบบอวัยวะภายใน เขาสอนให้อันธการ , เรนโบว์ , และสกายด์ รู้ด้วยว่าสิ่งใดคือ "หัวใจ" สิ่งใดคือ "สมอง" ปอดรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหน วัณโรคเกิดขึ้นที่ใดและเหตุไฉนมันถึงพรากชีวิตตลกดังแห่งยุคอย่างโรเบิร์ตสายควันไปจากสังคมสารขัณฑ์.เขาสอนหมดแบบละเอียดยิบ ผ่านการใช้จานสีและพู่กันที่เด้งออกมาจากออนิวแทร็ปของตนเอง ป่ายปัดมันกลางอากาศไม่กี่ 10 ครั้ง พลังแห่งห้องจำลองนี้ก็ได้สร้างวัตถุเสมือนจริงออกมาให้เด็ก ๆ ได้เห็น แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพากันอ้วกแตกอ้วกแตนไปกับความน่าสะอิดสะเอียนสังเวชของตับม้ามเครื่องใน ที่ถักทอกันขึ้นมาเป็นระบบกายวิภาคในร่างกายมนุษย์ก็ตามที.กระทั่งเวลาผ่านไปจนพลบค่ำเวลาแห่งการพักผ่อนก็มาถึง ณ จุดกึ่งกลางวิหารซึ่งมีรูปปั้นเทพกรีกโบราณองค์ต่าง ๆ ยืนเรียงรายเป็นฉากหลัง ที่ตรงนี้เตรียมจะกลายเป็นที่ซุกหัวนอนอ้ันเวิ้งว้างสุดหยั่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพดานสูงโปร่งกว้างกังวาน ประตูเหล็กบานใหญ่ที่ปิดมิดชิดกันคนนอกเข้า เศษเถาวัลย์ดอกไม้ใบหญ้าที่ขึ้นปก
สารพัดอาหารเสริมที่สวาปามเข้าไปพุ่งลงมาเปรอะเปื้อน จิตสัมผัสแรกแทบไม่ต้องคิดอะไรมาก เฟอร์นันโดสลัดลูกศิษย์ตัวจิ๋วลงจากบ่าในทันที เขาสะบัดข้อมือพรึบพรับโก่งตัวงอทำปากจู๋พลางแค่นสายตาจ้องเขม็งมาที่เรนโบว์แบบไม่ไว้หน้า ทำเอาสาวเจ้าถึงกับต้องก้มหน้าหลบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่."หนูเขอโทษค่ะครู.. หนูขอโทษ.. หนูผิดไปแล้ว..ว..ว..ว".พูดไม่พูดเปล่าด้วยความที่ตัวเองมีพลังฟรุ้งฟริ้งเป็นทุนเดิม หล่อนก็เลยจดจ้องกลับไปที่เนื้อตัวอันแปดเปื้อนไปด้วยอาหารเหลวของครู ก่อนจะกระพริบตาปิ๊ง ๆ กลับไปให้สองสามที."ปิ๊งงง! , ปิ๊งงง!"."ฟ้าววว~!".โคตรแม่มเอ๊ยนึกว่ายกพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ มาประดิษฐานจากท้องสนามหลวง พืชพรรณทักษาหารนี่เรียกได้ว่าถักทอขึ้นมายึกยือเต็มร่างกาย ผสานรวมเข้ากับสีสันซาวด์เอ็ฟเฟคที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน แป๊บเดียวครูเฟอร์์นันโดของเราก็ได้เสื้อคลุมตัวใหม่ ที่มีลักษณะเป็นชุดเดรสยาวคลุมเข่าคล้ายกับชุดคลุมท้องสีชมพูหวานแหวว แซมด้วยลายดอกไม้นานาพันธุ์กับดวงตะวันใส่แว่น.ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ชอบใจนัก."อืม.. เรนโบว์! ครูจะพูดยังไงกับเธอดี!"."สกุนาหวานอื่นมีหมื่นแสน.. ไม่เหมือนแม้นพจม
เหมือนเอาผีในหนัง conjuring มาขี่ไม้กวาด เป็นการสมาสเอาความ horror มารวมเข้ากับแฟนตาซีได้อย่างพิลึกพิลั่น ด้วยความสัตย์จริงว่าคงไม่มีผู้กำกับคนไหนทำหนังแนวนี้ออกมาเป็นแน่ มันย้อนแย้งเกินไป คนบ้าอะไรร้องไห้ออกมาเป็นสีน้ำเงิน ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ปล่อยแสงเลเซอร์ออกมาได้ด้วย.เด็กน้อยยังคงปล่อยให้น้ำตาไหลลงพื้นต่อไปอีกกว่าครึ่งนาที เขาหยุดมันไม่ได้และเท่าที่รู้คือสิ่งนี้น่าจะเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้บาเรียสลายตัวออกไป บาเรียของเรนโบว์ยังคงอยู่ บางเรียของเฟอร์นันโดก็เช่นกัน แล้วบาเรียอันไหนล่ะที่คลายพันธนาการออกไป คำตอบก็คืออันตรงกลาง!.รถเข็นเด็กทั้งคันที่เฟอร์นันโดเคยขย่มโครม ๆ นั่นแหละคืออาณาเขตอีกอันที่มันครอบคลุมอยู่ มันกักขังเงาสะท้อนของรถทั้งคันเอาไว้ ทั้งที่ความจริงแล้วในห้องนี้มีรถเข็นอยู่แค่คันเดียว ซึ่งเป็นคันที่จอดอยู่ห่างจากจุดตรงนี้ไปไกลกว่า 10 เมตร."แกร๊ก ๆ ๆ , แกร๊ก.. ก.. ก.. ก.. ก , แกร๊ก ๆ ๆ ".เสียงม่านบาเรียขยับเขยื้อน พวกมันทั้งหกด้านสั่นครือพลางยุบตัวลงจมหายไปใต้พื้น เช่นเดียวกันกับรถเข็นที่จอดอยู่ภายในที่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนสีสันเป็นสีดำสนิท พลันยุบตัวลงมาเป็นเงาแบน ๆ แน
"หยุดนะครู.. อย่าทำแบบนั้น.. เขาจะเวียนหัวนะ!"เสียงใสแจ๋วของเรนโบว์ตะโกนดังลั่น เธอพยายามห้ามปรามมิให้เฟอร์นันโดขย่มตู้ เพราะพละกำลังช้างสารของเขาอาจจะทำร้ายเพื่อนของเธอได้.มวลน้ำวิตามินสีเหลืองยังคงกระเพื่อม มันกระฉอกซ้ายทีขวาทีราวกับถังซักผ้าพลังปั่นสูงที่ต้องหยอดเหรียญสิบถึง 4 เหรียญ แต่ครานั้นเด็กที่อยู่ภายในก็ยังไม่มีปฏิกิริยา ฟองอากาศเงียบสนิท อนุมานว่าอีกไม่นานหมอนี่คงต้องตายจริง ๆ ครูหนุ่มก็เลยต้องโต้ตอบกลับไป."ไม่ได้หรอกเรนโบว์! เราต้องเติมออกซิเจนให้แก่เขาแบบเดียวกับที่เกษตรกรทำกับฟาร์มกุ้ง หรือไม่ก็กังหันน้ำชัยพัฒนาที่เขาเอาไว้ใช้บำบัดน้ำเสีย ขอเวลาฉันหน่อยเถอะ! ฉันเป็นครูนะ! ฉันต้องรับผิดชอบชีวิตลูกศิษย์ทุกคนอยู่แล้ว!"."แต่ครูคะ.. ไม่ได้ค่ะ.. ยังไงก็ไม่ได้!".ความดื้อแพ่งเกาะกินหัวใจเหมือนเรนโบว์จะโชว์อารยะขัดขืน โดยการป้ายคำสั่งครูด้วยน้ำยาลบคำผิด เธอคิดว่าสิ่งนี้ไม่ถูกต้อง ประชาชนต้องมีสิทธิ์มีเสียงเท่ากันทุกคน ครั้นจะยอมให้ผู้ใหญ่ใช้ความรุนแรงโครม ๆ โตมาจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง "ให้มันจบที่รุ่นเรา" คือสิ่งที่เธอคิด แล้วชั่วขณะจิตหลังจากนั้นเด็กหญิงก็ลงมือ.เธ







