"อยากไปที่ไหน? หมายความว่าไง? ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าเปิดออกไปมันคือหุบเหวนรก!"
.
เด็กหนุ่มหัวไหมพรมส่ายหน้า เขาก้มลงมองสมุดปกหนังที่ถืออยู่ในมือพลางคลี่มันออกช้า ๆ เผยให้เห็นแผ่นสไลด์สีน้ำตาลหลายแผ่นสอดอยู่ข้างใน ลักษณะมันคล้ายกับอัลบั้มรูปภาพที่เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยมีใครได้เห็นกันแล้ว
.
ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่เจฟเฟอร์เริ่มนึกย้อนถึงความหลัง ก่อนหน้านี้ราว 1 - 2 ชั่วโมง เขาจำได้แม่นว่าองค์หญิงนาตาชาเองก็เคยใช้ประตูลักษณะนี้มาก่อน ใช่แล้วประตูห้องส้วมสาธารณะนั่นไงเล่า! มันคือประตูแบบเดียวกันที่พาเขาวาร์ปลงมายังฐานที่มั่นของกลุ่มอันเดอร์กราวน์ที่อยู่เบื้องล่างตรงนี้
.
"เอาสิครับรีบบอกมาเร็วเข้าผมจะได้แสดงให้ดู คุณอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะถ้าใช้ประตูไม่เป็น จะได้ลบความทรงจำเกี่ยวกับแม่ให้ผมซะที ยิ่งต้องมาสอนคุณแบบนี้ผมยิ่งรู้สึกผิดต่อคุณไนฟ์"
.
"พรึบ! , พรึบ! , พรึบ!"
.
เสียงหน้าอัลบั้มแผ่นแล้วแผ่นเล่าพลิกตัวผ่านไปขณะรอฟังคำตอบ ทำเอาเจฟเฟอร์ถึงกับเหงื่อตกต้องเกร็งคอตวาดเสียงดัง เพราะรำคาญท่าทางยียวนของไอ้หนุ่มอันเดอร์กราวน์รายนี้เต็มที
.
"ชิ! เวรเอ๊ยกดดันกูชะมัด!"
"ไปทะเลเอ้า! กูเลือกได้แล้วไปทะเล! ดูซิมึงจะมีปัญญาพากูไปไหมที่นี่มันใต้ดินนะเฟ้ยอย่าลืม"
เขาบอก
.
ทว่าเจ้าของสมุดกลับยักไหล่ให้ไม่สะทบสะท้าน เด็กหนุ่มกวาดสายตาป่ายปัดไปพร้อมกับแผ่นสไลด์มากมายเพื่อค้นหาเป้าหมายไปทีละหน้า ภายใต้หมวกไหมพรมสีดำสนิท ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่สิ่งที่อยู่เหนือบ่ากว่าแรงเท่าไหร่นัก ใช้เวลาเพียงชั่วอึดใจแรงมืออันหยาบกร้านก็หยุดลง พร้อมกับแผ่นสไลด์ขนาด 12 X 18 ซม. แผ่นหนึ่งที่ถูกดึงออกมาจากเล่ม
.
"โอเคครับเจอแล้ว แผ่นนี้ล่ะ! ดีว่าผมเคยไปที่นั่นมาแล้วครั้งหนึ่งเลยเก็บตัวอย่างดินเอาไว้ด้วย"
.
"ที่เหลือก็แค่เอามันมาแตะกับเครื่องสแกนตรงวงกบประตู.. แบบนี้"
.
"ติ๊ดดด!"
.
"ไม่ต้องรอเครื่องถาม "ลูกค้าเป็นสมาชิก All Member หรือมีบัตร The one การ์ด ไหมคะ" เหมือนในเซเว่นหรอกนะครับ แค่รอจนคำว่า "Complete" เด้งขึ้นมาบนจอ แล้วก็รอให้ลูกบิดเปลี่ยนเป็นสีแดงเท่านี้ก็เรียบร้อย"
.
"อืม..ม..ม..ม.. แป๊บนึงนะ.. อ่า! ได้แล้ว!"
.
"เชิญคุณเปิดดูสิครับ ประตูของเราพร้อมแล้ว!"
.
สมาชิกอันเดอร์กราวน์เขยิบตัวเปิดทางให้เจฟเฟอร์ ก่อนจะผายมือเป็นสัญญาณเชื้อเชิญให้สายลับหนุ่มเข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์อันเลิศล้ำ ที่จะเปลี่ยนการเปิดประตูในรูปแบบเก่าให้ไม่เหมือนเดิมไปตลอดกาล
.
"เออ ๆ กูลองดูก็ได้เล่นใหญ่เหลือเกินนะมึง ถ้าโผล่ไปที่เดิมอีกล่ะก็?"
.
"แก๊ก ๆ , แก๊ก ๆ "
.
"แอ๊ดดดดด!"
.
บอกได้คำเดียวเลยว่า "อัศจรรย์อุรังอุตังสวนสัตว์!" มันช่างเป็นอะไรที่ต่างจากคราวที่แล้วเป็นอย่างมาก วินาทีที่เจฟเฟอร์ผลักบานประตูออกไปโลกก็เหมือนตีลังกา ผืนแผ่นดินหมุนติ้วยกตัวขึ้นทำมุมฉาก 90 องศา! จากที่จะเห็นดินกลับเห็นฟ้า! จากที่เคยเป็นฟ้ากลับมีแต่ดวงดาว! เจ้าตัวถึงกับต้องออกแรงตะปบขอบวงกบเอาไว้ ก่อนจะทำการป่ายปีนตะกุยตะกายขึ้นไป พลันใช้ข้อฉอกค้ำสะบัดลำขา บิดเอวเข้าช่วยเหวี่ยงตัวเองเป็นลูกตุ้มกระเสือกกระสนในท่วงท่าที่ทุลักทุเลสุด ๆ
.
ซึ่งในที่สุดก็ประสบผลสำเร็จ เจฟเฟอร์โผล่ออกมาอีกฟากหนึ่งพลางล้มกลิ้งอยู่บนเศษซากปรักหักพังของกองแผ่นไม้ หูของเขาได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งดังชัดเจน นั่นบ่งบอกว่าพิกัดที่กำลังนอนอยู่คือทะเลแล้วแท้ ๆ มิผิดเพี้ยน ติดก็แต่บานประตูเจ้ากรรมนี่แหละที่มาเปิดเอาอะไรตรงนี้? ที่อื่นมีถมเถทำไมถึงต้องเป็นบานประตูบนกองเศษซากวัสดุเช่นนี้ด้วย? มิหนำซ้ำยังแหงนหน้าขึ้นฟ้าไม่ตั้งอยู่ตรง ๆ จนเจฟเฟอร์ต้องลงทุนปีนขึ้นมาด้วยความยากลำบาก
.
"ทะเลจริง! แต่ที่นี่มันที่ไหนกัน! ไหนจะเศษซากบ้านเรือนที่ถูกทำลายย่อยยับจนสุมกองพะเนินนี่อีกล่ะ"
สายลับหนุ่มเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย
.
ในขณะที่เด็กหนุ่มใต้หมวกไหมพรมเอง ก็ปีนประตูบานเดียวกันตามขึ้นมาติด ๆ
.
"ฮึบ!"
.
"อ่าาาาา!"
.
"ชายฝั่งอลาลัสครับ! อาณาจักรของเราเป็นเกาะจึงไม่แปลกที่จะมีทะเลล้อมรอบ เพราะงั้นการที่คุณบอกว่าอยากมาทะเลผมจึงจัดที่นี่ให้ ง่าย ๆ ไม่มีไรซับซ้อน"
.
"ส่วนสาเหตุที่บานประตูมันหงายท้องมองฟ้า ก็เป็นผลพวงมาจากสงครามโลกครั้งที่ 4 นั่นแหละครับ ชายฝั่งแห่งนี้โดนแผ้วถางทำลายด้วยอาวุธนิวเคลียร์ กัมมันตรังสีเผาผลาญทุกสิ่งย่อยยับ แอเรียที่พ้นเขตการปกป้องของบาเรีียออกมาก็เลยได้รับผลกระทบอย่างที่เห็น ไหน ๆ ก็มาแล้วถ้าไม่เชื่อผมคุณก็ลองสำรวจดูรอบ ๆ สิ ทะเลที่ใครต่อใครชมว่าสวยนักหนา หึ! ไม่มีซะหรอก! ของแบบนั้นมีแต่ในรูปถ่ายสมัยก่อนเท่านั้นแหละ"
.
มัวแต่พร่ามอยู่โดยหารู้ไม่ว่าเจฟเฟอร์นั้นลงมือสำรวจไปตั้งนานแล้ว เผลอแป๊บเดียวแผ่นหลังของสายลับ Parallel ก็ไกลห่างออกไปไกลลิบ ท่ามกลางบรรยากาศของท้องทะเลยามค่ำคืนที่ทั้งเหงาแล้วก็เศร้า ทุก ๆ ย่างก้าวที่เหยียบย่ำลงไปบนพื้นทรายมีแต่ความว้าเหว่ เจฟเฟอร์ได้ยินแม้กระทั่งเสียงกรีดร้องของสิ่งมีชีวิตอันแสนทุกข์ทรมาน ในมโนอารมณ์แห่งความรู้สึก
.
แต่แล้ว!
.
"น่ะ.. นี่มัน!.. มัน!.. ไม่ใช่ทรายนี่! สารประกอบแบบนี้ กลิ่นแบบนี้ แล้วก็รสสัมผัสแบบนี้ กูสัมผัสได้ว่ามันไม่ใช่ทรายแต่เป็น.."
.
"ใช่ครับ.. มันคือขี้เถ้า"
.
"ข้ีเถ้า???"
.
บุรุษหนุ่มผู้ปี้แม่ตัวเองชิงตอบขึ้นก่อน หลังจากเดินตามมาเงียบๆ
.
"ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมดันลืมไปซะสนิทว่าบริเวณนี้ถูกท่านราชาเด็มบ้าบาประกาศให้เป็นแหล่งเสื่อมโทรมไปแล้ว มันคงไม่มีอะไรน่าจดจำเท่าไหร่ ขนาดทรายยังมอดไหม้กลายเป็นเศษขี้เถ้าไปทั่วทั้งหาด ไหนจะอาคารบ้านเรือนเพิงพักที่วอดวายเป็นเศษซากนั่นอีก ไม่เห็นมีอะไรน่ามอง ผมว่าเรากลับกันเถอะครับที่นี่คงไม่มีอะไรให้ทำแล้ว ไว้ผมจะพาคุณไปที่อื่นแทนหากอยากลองใช้ประตูดูอีก"
.
"ขอแค่มีแผ่นสไลด์กับตัวอย่างดินในพื้นที่ ๆ อยากจะไป ไม่ว่าจะเป็นที่ใดในโลกหรือแม้แต่ดวงจันทร์ ประตูของอันเดอร์กราวน์ก็จะพาคุณไปได้หมด โดยมีเงื่อนไขเพียงข้อเดียวคือบริเวณที่จะไปนั้นจะต้องมีประตูอยู่อีกบานเป็นคู่กันเสมอ พวกมันจะทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมสัญญาณระหว่างกัน แล้วก็เป็นช่องทางสำหรับการ เข้า - ออก และ ไป - กลับ "
.
"อืม.. เข้าใจแล้ว"
เจฟเฟอร์พยักหน้ารับ
.
.
ครืดดดด.. ซ่าาาาา , ครืดดดด.. ซ่าาาาา , ครืดดดด.. ซ่าาาาา.. ซ่าาาาา..
.
.
ราวกับว่าที่เหลืออยู่คงจะมีแต่เสียงคลื่นนี้เท่านั้น ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้สูงสุด หลังจากทอดอารมณ์อาลัยอาวรณ์เสร็จเจฟเฟอร์ก็กลับหลังหันเดินตามไอ้หนุ่มหัวไหมพรมไปติด ๆ เขาเขย่งเท้าเหยียบย่ำเศษขี้เถ้าป่ายปีนขึ้นไปตามซากอาคารบ้านเรือนที่สุมทุม เพื่อตรงดิ่งกลับไปยังบานประตูที่พากันเปิดออก โชคดีอย่างที่ตอนนี้เป็นตอนกลางคืนแสงสว่างบนฟ้าเลยมืดมิด ทำให้สามารถสังเกตเห็นแสงจ้าที่พุ่งออกมาจากบานประตูได้อย่างชัดเจน
.
มิหนำซ้ำยังไม่ต้องออกแรงเปิดให้โง่ พอไปถึงแค่กระโดดลงไปตรง ๆ ร่างของเจฟเฟอร์กับคฑาชายนายอันเดอร์กราวน์ก็กลับตาลปัตรกันอีกรอบ โลกของพวกเขาตีลังกาย้อนกลับ แผ่นดินแผ่นฟ้าปรับจาก 90 องศา พลิกกลับกลายมาเป็นพื้นราบตามปกติ จนสุดท้ายทั้งคู่ก็โผล่พรวดออกมาจากประตูบานเดิม ประตูที่ไม่แหงนหน้าขึ้นฟ้า ประตูที่ไม่ได้กองอยู่บนซากปรักหักพัง ประตูที่นำทางให้ย้อนกลับออกมายังฐานลับใต้ดินของพวกอันเดอร์กราวน์ตามเดิม
.
นับเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ๆ จนเจฟเฟอร์ถึงกับต้องออกปากชม
.
"วู่วววว..เจ๋งชะมัด! ประตูมึงโคตรแจ๋มเลยว่ะไอ้หนู!"
.
"ก็แน่สิครับ! ในเมื่อเครื่องสแกนตรงวงกบกับตัวเครื่องยนต์กลไกทั้งหมดล้วนทำมาจากแร่ "Pussy lecon" ขอแค่เรามีสมุดสะสมสไลด์ตัวอย่างดินเล่มนี้ ต่อให้เป็นยอดเขาเอเวอร์เรสหรือพื้นผิวบนดาวอังคาร เราก็โผล่ไปได้ภายในชั่วพริบตา"
.
"เย็ดแม่ง! แล้วตอนนี้มึงมีตัวอย่างดินของที่ไหนเก็บไว้บ้างล่ะ?"
.
เจฟเฟอร์ถามพลางสืบเท้าเดินเข้ามาหาใกล้ ๆ ระหว่างที่เจ้าหนุ่มเองก็กำลังเปิดสมุดเพื่อเช็คข้อมูลให้อยู่
.
"ก็เยอะอยู่นะครับแต่หลัก ๆ เอาแบบสรุป ๆ เลย ก็มีของฐานอันเดอร์กราวน์แห่งนี้ล่ะครับ เพราะมันอยู่ใต้ดินผมก็เลยมีตัวอย่างดินเกือบทุกห้องสำหรับที่นีี่ ยกเว้นพื้นที่ส่วนตัวของคุณไนฟ์ที่เขาไม่อนุญาตให้พวกเราเข้าถึง"
.
"ขอดูสมุดแป๊บดิ"
.
"ได้ไงครับนี่มันของใช้ส่วนตัวนะ! ผมให้คนนอกอย่างคุณดูไม่ได้หรอก!"
.
"แลกกับความทรงจำของแม่มึง จะเก็บไว้หรือจะเอาออก? เอามาดูหน่อยแค่นิดเดียวเองเดี๋ยวคืนให้น่า.."
.
หนุ่มน้อยผู้พลาดพลั้งถึงกับออกอาการสองจิตสองใจอยู่นานโข แต่จนแล้วจนรอดเจ้าตัวก็ส่งสมุดให้เจฟเฟอร์ดูอยู่ดี พออ้อยเข้าปากช้างแล้วทองจะไปไหนเสีย หลังจากที่ได้อัลบั้มแผ่นสไลด์ตัวอย่างดินมาไว้ในมือ เจฟเฟอร์ก็รีบเกลี่ยตามองในทันใด แล้วก็เป็นโชคดีอีกอย่างที่ไอ้หนุ่มนี่ดันเป็นคนที่มีระเบียบเอามาก ๆ เพราะมันบรรจงเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับดินว่าเป็นของที่ไหนเอาไว้ตรงส่วนบนของแผ่นสไลด์ทุกแผ่น อาทิเช่น ห้องโถง , ห้องประชุม , ห้องพักผ่อน , ห้องน้ำ , ห้องเจ้าหน้าที่ , หรือแม้แต่คุก (ย่อย) อย่างที่นี่มันก็เขียนเอาไว้ นั่นจึงเท่ากับว่าเจฟเฟอร์จะไปไหนก็ได้ตราบใดที่มีสมุดปกหนังเล่มนี้อยู่ในมือ
.
"เอาล่ะ ๆ ดูเสร็จแล้วก็รีบคืนผมมาซะที แล้วก็โปรดลบความทรงจำให้ผมตามสัญญาด้วยนะครับ"
.
"เออเข้าใจแล้วน่า กูจะทำให้เดี๋ยวนี้แหละยื่นหัวมาสิ ฝ่ามือกูยุบลงเป็นหลุมเตรียมไว้สำหรับมึงแล้วเหมือนกัน"
.
เป็นจริงอย่างเจฟเฟอร์บอก ลมดูดพลัง Drain จากฝ่ามือข้างซ้ายของเขากำลังทำงาน แต่ทว่าทันทีที่เด็กหนุ่มผู้ถูกพรากพรหมจรรย์ไปโดยแม่แท้ ๆ ยื่นศีรษะเข้ามา ฝ่ามือของเจฟเฟอร์ก็เกร็งขึ้นเป็นสัน! มันง้างขึ้นเป็นลำ! แล้วก็ฟันฉึบ! ลงที่ท้ายทอย! แบบเดียวกับที่เจฟเฟอร์เคยโดนเมื่อหลายตอนก่อนเป๊ะ! ติดก็แต่ตอนนั้นเขาไม่เป็นห่าอะไรเลย กลับกันตอนนี้คนที่ถูกฟันดันสลบไสลหลับน้ำลายย้อยลงแทบเท้าของเขาแทน
.
โปรดอย่าเข้าใจผิดเพราะนี่ไม่ใช่การฟันแล้วทิ้ง ในระหว่างที่หลับฝันหวานอยู่นั้นเจฟเฟอร์สายลับอันดับหนึ่งแห่ง Parallel ก็ได้ใช้ฝ่ามือ Drain เอาความทรงจำเกี่ยวกับแม่ของเด็กหนุ่มออกไปด้วย เขาทำตามสัญญาแถมยังกำชับนักหนาว่าให้มีชีวิตต่อไป อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป แต่นี้ต่อไปจะไม่มีปมด้อยเกี่ยวกับแม่อีกแล้ว
.
"ส่วนสมุดหนังเล่มนี้.. กูขอเถอะ.. กูว่ากูจำเป็นต้องใช้ว่ะ"
.
"อืม.. ม.. ม.. "
.
"พรึบ! , พรึบ! , ฟับ!"
.
"เอ้านี่เอาไป! แผ่นสไลด์ตัวอย่างดินสำหรับประตูทางออก! จะอยู่คอยรับใช้ไอ้ไนฟ์ต่อไปหรือจะขึ้นไปอยู่บนดินกับแม่ก็สุดแต่ใจมึงจะไขว่คว้าเถอะ ส่วนแผ่นสไลด์ที่เหลือทั้งหมดกูจะเก็บไว้เองไปล่ะบับบาย!"
.
เจฟเฟอร์เลือกที่จะก้าวข้ามร่างอันหลับไหลของชายวัยรุ่นไป เป็นเวลาเดียวกันกับที่แผ่นสไลด์แผ่นหนึ่งถูกดึงออกมาจากสมุด มันถูกนำไปนาบกับเครื่องสแกนตรงขอบวงกบ รอจนลูกบิดเปลี่ยนสีเรืองแสงสีแดงออกมา แล้วเจฟเฟอร์ก็เปิดเข้าไปโดยเหมือนกับว่าจะไม่สนใจย้อนกลับมายังคุกใต้ดินแห่งนี้อีกแล้ว
สายลับบางคนเก่งเรื่องข้อมูลบางคนเก่งเรื่องความขยัน แต่สำหรับเจฟเฟอร์นั้นแม่ง "พรสวรรค์ล้วน ๆ " ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้สัก 30 ตอน หากยังจำกันได้เกี่ยวกับเหตุการณ์นองเลือดในเมืองยอร์คชิน ที่สถานที่การประชุมพรบ. ฟรีเซ็กส์ถูกโจมตีจนเละเทะ ในครั้งนั้นมีบุคคลระดับ V.I.P ถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก แม้แต่ปิเก้เพื่อนสายลับที่สนิทที่สุดในองค์กรก็ยังเอาตัวไม่รอด แต่เจฟเฟอร์ของเรากลับใช้พรสวรรค์ของตัวเองแกะรอยตามหาองค์หญิงนาตาชาจนเจอด้วยการดมกลิ่น.ยีนเด่นในร่างกายทำให้จมูกเขาดีกว่าคนปกติ มันน่าจะดีกว่าสุนัข K - 9 ของตำรวจหลายสิบเท่า แถมยังสามารถบันทึกข้อมูลรูปพรรณสัณฐานเอาไว้ในคลังความจำได้อีกต่างหาก เสียอย่างเดียวตรงที่ค่อนข้างมีข้อจำกัดในการใช้อยู่ กล่าวคือเจฟเฟอร์ไม่ชอบที่จะใช้มันนัก มันทำให้บุคลิกเขาดูแย่ ปีกจมูกจะต้องเผยอฟุดฟิด ๆ หัวก็ต้องสั่นดุ๊กดิ๊ก ๆ ไม่ต่างจากหมาน้อยตัวหนึ่ง ใช้โหมดนี้ทีไรจึงมักหลงคิดว่าตัวเองเป็น "ไอ้หน้าหมา" ทั้งที่ความจริงแล้วเขาคือ "ไอ้หน้าม่อ" ผู้ชอบจัดช่อสาว ๆ คราวละหลาย ๆ ดอกซะมากกว่า.แต่ก็อีกนั่นแหละในเมื่อความจริงก็คือความจริง พอหมดหนทางไปต่อ ๆ ให้ไม่หล่อยังไงฟังค์
"อยากไปที่ไหน? หมายความว่าไง? ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าเปิดออกไปมันคือหุบเหวนรก!".เด็กหนุ่มหัวไหมพรมส่ายหน้า เขาก้มลงมองสมุดปกหนังที่ถืออยู่ในมือพลางคลี่มันออกช้า ๆ เผยให้เห็นแผ่นสไลด์สีน้ำตาลหลายแผ่นสอดอยู่ข้างใน ลักษณะมันคล้ายกับอัลบั้มรูปภาพที่เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยมีใครได้เห็นกันแล้ว.ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่เจฟเฟอร์เริ่มนึกย้อนถึงความหลัง ก่อนหน้านี้ราว 1 - 2 ชั่วโมง เขาจำได้แม่นว่าองค์หญิงนาตาชาเองก็เคยใช้ประตูลักษณะนี้มาก่อน ใช่แล้วประตูห้องส้วมสาธารณะนั่นไงเล่า! มันคือประตูแบบเดียวกันที่พาเขาวาร์ปลงมายังฐานที่มั่นของกลุ่มอันเดอร์กราวน์ที่อยู่เบื้องล่างตรงนี้."เอาสิครับรีบบอกมาเร็วเข้าผมจะได้แสดงให้ดู คุณอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะถ้าใช้ประตูไม่เป็น จะได้ลบความทรงจำเกี่ยวกับแม่ให้ผมซะที ยิ่งต้องมาสอนคุณแบบนี้ผมยิ่งรู้สึกผิดต่อคุณไนฟ์"."พรึบ! , พรึบ! , พรึบ!".เสียงหน้าอัลบั้มแผ่นแล้วแผ่นเล่าพลิกตัวผ่านไปขณะรอฟังคำตอบ ทำเอาเจฟเฟอร์ถึงกับเหงื่อตกต้องเกร็งคอตวาดเสียงดัง เพราะรำคาญท่าทางยียวนของไอ้หนุ่มอันเดอร์กราวน์รายนี้เต็มที."ชิ! เวรเอ๊ยกดดันกูชะมัด!""ไปทะเลเอ้า! กูเลือกได้แล้วไป
หากเป็นเมื่อก่อนฉากนี้คงต้องพรรณนาว่า เกิดลมหมุนมหาศาลดูดสารพัดสิ่งอย่างเข้ามาในฝ่ามือ แต่ครั้งนี้ไม่เจฟเฟอร์ไม่ต้องการใช้มุกเดิมอีกแล้ว ประกอบกับเขาเองก็ต้องการที่จะแสดงกล้ามดาก ให้ไอ้หนุ่มข้างหลังเห็นว่าเขาคือของจริง กระบวนท่าทำลายล้างแบบใหม่จึงถูกสถาปนาขึ้น.เริ่มจากสอดแขนขวาที่ถนัดทะลุช่องว่างลูกกรงออกไป กัดฟันกลั้นใจอยู่ชั่วอึดใจหนึ่งสักพักท่อนแขนส่วนล่างไล่จากข้อศอกลงไปถึงข้อมือ ก็เริ่มส่งเสียงสนั่นดัง เปรี๊ยะ ๆ เปรี๊ยะ ๆ มันแตกร้าวลงมาเป็นแถบตรงราว 7 - 8 เส้น อ้อมท่อนแขนจรดข้อมือ มิหนำซ้ำยังแพลมแสงสีขาวพุ่งออกมาเป็นริ้ว ๆ ราวกับหุ่นยนต์ที่กำลังเปลี่ยนร่าง."เฮือกกก.. นี่คุณจะทำอะไรน่ะ? คุณเป็นตัวอะไรกันแน่? ผมแสบตาไปหมดแล้ว! , อ๊าาาา!"หรี่ตาเหยเกพิงหลังใส่กำแพง ถามไปก็เท่านั้นในเมื่อเจฟเฟอร์เลือกที่จะไม่ตอบ.สายลับหนุ่มแค่หันมาพยักหน้าให้ แล้วทันใดนั้นเองเนื้อแขนของเขาก็ฉีกตัวออก มันเด้งง้างขึ้นตามแนวขอบแสงเป็นซี่ ๆ ทีละชิ้น ๆ จากหนึ่งเป็นสอง , จากสองเป็นสาม , จากสามเป็นสี่ , ไล่ไปจนครบรอบวงแขน จนมีลักษณะคล้ายกับก้านร่มที่ไม่มีผ้าใบ ซี่ชิ้นส่วนที่ง้างตัวขึ้นมาเหล่านั้นคลี่ต
ดวงหน้าแปดเปื้อนพรายน้ำตาเละเทะ สวนทางกับเจฟเฟอร์ที่อยากฟังต่อใจจะขาด เขาไม่อยากทรยศการแข็งตัวของควยตัวเองเลย เพราะอุตส่าห์ได้รับโหวตจากอารมณ์เงี่ยนในร่างกายให้ชูชันขึ้นมาแล้วแท้ ๆ จะมาถูกเชิญออกจากหว่างขาเหมือน สส. บางคนในสภาฯ มันก็น่าเสียดาย."ไม่เป็นไรครับคุณผมยังไหวอยู่ ผมขอเล่าต่อเลยนะ"."อืม.. เอ้อ!"."แม่คุกเข่าลงที่เตียงพลางโน้มตัวลงมาคร่อมร่างผม ในจังหวะนั้นผมรับรู้ได้ถึงน้ำหนักของแม่ที่กดเตียงนอนให้จมลงเป็นหลุม ด้วยความสัตย์จริงผมขยับไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว เหมือนร่างกายนั้นแหวกว่ายอยู่ในบ่ออารมณ์เสพสมบ่มีสมที่แม่สถาปนาขึ้น เอวผม , สะโพกผม , แล้วก็ตูด จมยุบลงไป มิหนำซ้ำแผ่นหลังยังโค้งเป็นคันศรด้วยฤทธาจากที่นอนซึ่งต่างระดับ"."โดนขนาดนี้แต่คุณรู้อะไรไหมว่าไอ้นั่นของผม ยังคงโด่ต่อหน้าแม่ได้อย่างไม่สะทบสะท้าน ที่ใต้ผ้าห่มซุ่มเสียงจากสาวคนรักยังคงรุกเร้าผมด้วยความเร้าใจ หล่อนไม่เปิดช่องให้ผมได้อธิบายอะไรเลย แท่งควยป้อม ๆ ในวัย 17 ก็เลยเสยเนื้อผ้าในองศาที่สูงขึ้น ให้ตายเถอะผมกำลังมีอารมณ์อยู่กับสาวที่ไม่เห็นหน้าทางโทรศัพท์แท้ ๆ แต่ไอ้จ้อนใต้ผ้ามันดันโก่งขึ้น! โก่งขึ้น! แล้วก็
ได้ยินแบบนั้นเจฟเฟอร์ก็อึ้งกิมกี่พลันรีบนึกย้อนกลับไปยังภาพทรงจำ ที่ตัวเองเพิ่งหลุดพ้นออกมา."ผู้หญิงผมยาวท่าทางใจดีคนนั้นอ่ะนะ.. ที่คิดจะทำมิดีมิร้ายมึง! เหอะ! กูเชื่อมึงกูก็ปัญญาอ่อนแล้วล่ะ!"."ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ครับเพราะฟังดูแล้วมันก็ยากที่จะเชื่อจริง ๆ แม่เวอร์ชั่นปกติน่ะใช่! แต่ถ้าเป็นแม่ที่สวาปามยาอลาลัสเปี้ยนส์เข้าไปแล้วล่ะก็ มันก็คนล่ะเรื่อง!""แล้วผมก็ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าผมยินยอม.. ผมดิ้นสุดกู่ผมสู้สุดใจ แต่เป็นแม่ต่างหากที่ "ข่มขืน" ผม! ย้ำว่าแม่ "ข่มขืน" ผม!".อารมณ์มาคุเกาะกินหัวใจ เด็กหนุ่มกระชับฝ่ามือกำลูกกรงแน่น พลันเขย่า ๆ ๆ จนฝ่ามือช้ำเป็นเปื้อน ๆ."บัดโถ่เอ๊ย! ตอนนั้นผมอายุ 17 เองผมยังซิงอยู่เลย! คนเหี้ยอะไรเสียซิงให้แม่ตัวเอง! เหี้ย! ทุเรศชะมัด! คิดขึ้นมาทีไรผมล่ะแค้นใจชิบหาย ราชาเด็มบ้าบาเพราะท่านแท้ ๆ ที่ทำให้ผมต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ , หึ๊ยยย!".เห็นท่าไม่ดีจึงรีบปรี่เข้าไปขวาง สายลับหนุ่มขยุ้มคอเสื้อกระชากเขาเอาไว้."เฮ๊ย! ใจเย็นก่อนไอ้หนุ่ม สงบจิตสงบใจลงหน่อยเถอะวะ สนิมมันจะซึมเข้ามือมึงเอานะมึงนั่งลงก่อน เหมือนอยากจะระบายอะไรใช่ไหมกูรู้สึกได้?".เจฟเฟ
"แม่ครับแม่! แม่จะพาผมไปไหนเหรอครับ ขาผมสั้นผมก้าวไม่ทัน".จู่ ๆ ซุ่มเสียงของเจฟเฟอร์ก็เปลี่ยนคีย์ไปในบัดดล ไม่เฉพาะแค่รูปร่างบุคลิกแล้วที่เปลี่ยน มาตอนนี้สายลับอย่างเขารับรู้ได้เลยว่าทุกอย่างรอบตัว แม้แต่ชีวิตจิตใจก็คงเข้ามาสิงสู่อยู่ในร่างของเจ้าของเรื่องแล้วอย่างสมบูรณ์แบบ เขาคอนโทรลตัวเองไม่ได้ ใจจะเลี้ยวไปทางขวาขามันก็ก้าวไปทางซ้าย พอตั้งใจจะหยุดก็โดนหญิงวัยกลางคนที่เรียกตนเองว่าแม่ยื้อยุดฉุดกระชาก แม้แต่คำพูดคำจาที่ตั้งใจจะพูดอีกอย่างก็กลายเป็นอีกอย่าง.เหมือนกับว่าสิ่งเดียวที่อนุญาตให้เจฟเฟอร์ทำได้ ในโลกแห่งความทรงจำนี้คือการมองเห็น เขากำลังเห็นในสิ่งเดียวกับที่หนูน้อยวัย 10 ขวบเห็น มันคือประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของอลาลัสที่ไม่ได้โชกชุ่มไปด้วยน้ำกาม แต่อิ่มพลีไปด้วยคาวเลือด แอ่งโลหิตแห่งความอัปรีย์ของสตรีผู้อยู่ในฐานันดรสูงสุด."ก็ไปดูองค์ราชินีเสด็จไงลูก พระองค์กับบรมวงศานุวงศ์ทั้งหมดจะเสด็จเยี่ยมราษฎรณ์พร้อมกันเชียวนะ นาน ๆ จะมีโอกาสแบบนี้สักครั้ง ไม่งั้นคนไม่เต็มถนนแบบนี้หรอกลูกรัก รู้สึกจะขาดแค่ราชาองค์เดียว"."ราชาเด็มบ้าบา! เอ๋? ทำไมท่านไม่มาล่ะครับ?"ขยับปากถามไปเอง