บทที่ 5
“อึก…เพราะท่านเลวแบบนี้ไง เราถึงปฏิเสธท่าน!” เจ้าหญิงกล่าวพร้อมมองสบตาเจ้าฟ้าชายด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก แต่คำพูดนั้นกลับเปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือจนดูเหมือนไม่มั่นใจ
สมเด็จเจ้าฟ้าชายก็ชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วต่ำว่า...
“งั้นเหรอ?”
“....” เจ้าหญิงมองอย่างหวาดระแวง พลางแอบเขยิบตัวออกห่าง
เจ้าชายโน้มใบหน้าเข้าใกล้จนลมหายใจร้อนผ่าวแตะผิวแก้มของเจ้าหญิง ดวงตาคมกริบเต็มไปด้วยอำนาจที่กดดันทุกอย่างรอบตัว
“ถ้าคิดว่าคำพูดแค่นี้จะทำให้ฉันล้มเลิก…เธอคิดผิด” เสียงต่ำและหนักแน่นของเขาเอ่ยออกมา ราวกับประกาศชัยชนะที่อีกฝ่ายไม่มีวันหลีกเลี่ยง
มือข้างหนึ่งของเขาบีบแน่นรอบลำคอระหง นิ้วมือกดลึกลงจนผิวเนื้อเริ่มขึ้นสีแดงจาง ส่วนอีกมือรั้งเอวบางเข้ามาชิดกับร่างกำยำอย่างแน่นหนา
เจ้าหญิงก็พยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง มือทั้งสองข้างพยายามดึงข้อมือของเขาออก แต่แรงของเธอเทียบไม่ได้เลยกับแรงของเขา
สุดท้ายร่างเล็กก็ถูกตรึงไว้แน่นจนหายใจแทบไม่ออก เสียงหอบสะท้อนเบา ๆ จากลำคอระหง ขณะที่ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว น้ำตาเอ่อล้นออกมา แต่ถึงกระนั้น ดวงตาคู่สวยยังคงจ้องกลับไปด้วยความดื้อรั้น ราวกับเธอไม่มีวันยอมแพ้แม้จะไร้หนทาง
ความพยศในดวงตาของเธอ ทำให้รอยยิ้มเย้ยหยันผุดขึ้นบนใบหน้าของเจ้าชายเมื่อเห็นแววตานั้น
เขาปล่อยมือจากลำคอระหง ดึงร่างบางเข้ามาใกล้ก่อนจะกระแทกกายเข้าหา ความเป็นชายของเขาแข็งแกร่งและร้อนแรงราวกับเหล็กกล้าที่ถูกหลอมจนแดงฉาน มือหนาจับแก่นกายจ่อที่ปากทางรัก จากนั้น...
ปึก!!
อัดกระแทกเข้าไปภายในช่องทางรักอย่างรุนแรง เขาไม่ได้สัมผัสเธอด้วยความอ่อนโยน แต่เป็นการบุกรุกที่หยาบกระด้าง ไร้ซึ่งความเมตตา
“กรี๊ดดดดดดดดดด!!!” เสียงกรีดร้องของเจ้าหญิงดังสะท้อนไปทั่วป่า มันไม่ใช่เสียงร้องที่เสียวซ่าน แต่เป็นเสียงของความเจ็บปวดทรมานอย่างสุดขีด
ร่างกายของเธอสั่นเทาราวกับจะแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวไปด้วยความทรมาน น้ำตาไหลอาบแก้มไม่ขาดสาย แต่คนเลวกลับไม่มีความเห็นใจ มีเพียงความพึงพอใจที่อยู่ในดวงตาของเขา
เจ้าชายมองดูจุดเชื่อมต่อระหว่างเขากับเธอ จุดที่ความเป็นชายของเขาแทรกซึมเข้าไป
ความบริสุทธิ์ของเจ้าหญิง ทำให้แก่นกายเข้าไปข้างในช่องทางรักเป็นไปอย่างยากลำบาก เข้าไปได้เพียงส่วนหัวเท่านั้น
มือหนาหยาบกร้านทั้งสองข้าง จับล็อกเอวคอดกิ่วเอาไว้แน่นราวกับจะบีบให้เธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขาให้มากที่สุด จากนั้นก็ตั้งใจอัดกระแทกเข้าไปอีกครั้ง
ปึก!!
“อื้อ!!!...จะ...เจ็บ”
เจ้าชายเหยียดยิ้มมุมปาก พลางอัดกระแทกกายเข้าใส่อีกครั้ง
ปึก!!!! ปึก!!!! ปึก!!!! ปึก!!!!
ครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งก่อน แรงกระแทกที่ทรงพลัง ราวกับพายุที่ถาโถมเข้าใส่ ทำเอาคนตัวเล็กจุกจนตัวงอ ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวอย่างหนัก
แก่นกายใหญ่ทะลวงผ่านกำแพงความบริสุทธิ์ ทะลุผ่านเยื่อพรหมจารีที่บางเบาราวกับกระดาษที่ถูกฉีกขาดด้วยความรุนแรง
ส่งผลให้เกิดเสียงช่องทางรักฉีกขาดดังขึ้นเบาๆ แต่ก็แทบจะไม่ได้ยิน แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เจ้าชายรู้ว่าเขาได้พิชิตกำแพงสุดท้ายลงได้แล้ว เจ้าชายมองเลือดบริสุทธิ์อย่างพึงพอใจ นี่เป็นหลักฐานชัดเจนว่าเขาคือผู้ชายคนแรกของเธอ
ช่องทางรักที่เคยปิดสนิท ตอนนี้ถูกฉีกขาดเป็นทางยาว ทำให้เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากบาดแผลฉีกขาด มันเป็นภาพที่ทั้งสวยงามและน่าสะพรึงกลัว เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ที่สูญหายไป และการเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความปรารถนาอย่างเต็มรูปแบบ
“อยากรู้ไหมว่ามันจะทำหน้ายังไง ตอนที่รู้ว่าฉันเป็นคนแรกของเธอ?” เจ้าชายเอ่ยถามอย่างเลือดเย็น ไม่เพียงแค่นั้น เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอ
ถ่ายตั้งแต่ใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเธอ ถ่ายลงมาถึงจุดเชื่อมต่อ ที่มีแก่นกายเปื้อนเลือดของเขาเสียบอยู่
“อย่าถ่ายนะ” เจ้าหญิงพยายามรวบรวมเรี่ยวแรงที่มีทั้งหมด ขยับตัวไปแย่งโทรศัพท์จากมือเขา แต่เขากดร่างเธอไว้แน่น
“อึก! ท่านทำแบบนี้กับเราได้ยังไง”
“บอกแล้วไง ฉันจะเลวให้สมกับที่เธอคิด และถ้ายังไม่หยุดต่อต้านฉัน ฉันจะไม่ใช่แค่ถ่ายวิดีโอ แต่ฉันจะโทรหามัน”
คำขู่ของเจ้าชายทำให้เจ้าหญิงชะงัก เงียบไปในทันที ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกลัวที่ไม่อาจปกปิดได้ รู้ดีว่าคำขู่ของเขาไม่ใช่แค่การพูดเล่นๆ แต่เป็นการกระทำที่เขาจะทำจริง
“หึ” เจ้าชายเหยียดยิ้มมุมปาก สายตาของเขาเย็นชาและเยาะเย้ย ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงไป แล้วเริ่มเคลื่อนไหวสะโพกเข้าใส่
เจ้าหญิงกลัวว่าเจ้าชายจะโทรหาชายที่เธอรัก เธอจึงทำให้เพียงนอนนิ่ง เชื่อฟังคำสั่งของเจ้าชาย และเธอก็รู้ดีว่า ด้วยอำนาจที่เขามีในตอนนี้ เธอไม่มีทางหลุดพ้นจากเขาไปได้ นอกจากเขาจะทรมานเธอจนพึงพอใจแล้ว เขาจึงจะยอมหยุด
ปึก! ปึก! ปึก!
“อ่าห์!!” ความคับแน่นในกายสาว ทำเอาเจ้าชายเปล่งเสียงคำรามออกมาอย่างพึงพอใจ
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
ความรุนแรงอย่างต่อเนื่องของเจ้าชาย เล่นทำเอาร่างบางเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก ใบหน้าสวยเริ่มซีดเผือด ดวงตากลมโตเบิกโพลงทุกครั้งที่ถูกกระแทกกระทั้น แต่กลับไม่มีเสียงร้องใดๆ ออกมาอีก มีเพียงน้ำตาที่ไหลอาบแก้มและร่างกายที่สั่นเทา
เธอรู้ว่าเธอไม่มีทางหลุดพ้นจากเขาได้ในตอนนี้ ที่ทำได้คือเช็ดน้ำตาแล้วนอนรับความเจ็บปวดจนกว่าเขาจะพอใจ
เจ้าชายโน้มใบหน้าลงไปจูบริมฝีปากอวบอิ่ม มือหนาบีบปลายคางมนอย่างแรง บังคับให้เธออ้าปาก พอเธออ้าปากเขาก็สอดลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวพันลิ้นของเธออย่างป่าเถื่อน ท่อนล่างก็เคลื่อนไหวเข้าใส่อย่างไร้ความปรานี
ทำไมต้องเป็นแบบนี้…
เธอคิดวนซ้ำในใจ น้ำเสียงที่เคยสดใสในความทรงจำของตัวเองตอนนี้เงียบหายไป เหลือเพียงเสียงสะอื้นแผ่วเบาที่ลอดเล็ดออกมาเป็นระยะ
เธอรู้สึกเหมือนถูกพันธนาการด้วยความเจ็บปวดและความอัปยศที่ไม่มีวันเลือนหาย ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ เธอไม่รู้ว่าจะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไรอีกต่อไป ราวกับว่าชีวิตที่เหลืออยู่คือหลุมลึกที่ไม่มีแสงสว่างใด ๆ รออยู่ข้างหน้า
เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ บุตรสาวเพียงพระองค์เดียวของกษัตริย์แห่งเฮลิโอสและสโคลเดนผู้ยิ่งใหญ่ เติบโตมาท่ามกลางความรักใคร่ห่วงแหนดุจไข่ในหิน เป็นดั่งดอกไม้บอบบาง งดงาม บริสุทธิ์ และสูงส่งเกินกว่าผู้ใดจะเอื้อมถึง
ตั้งแต่เล็กจนโต เจ้าหญิงแอนเจลีก้าเฝ้ารอคอยวันที่ดอกไม้ดอกนี้จะเบ่งบาน มอบความหอมหวานให้กับว่าที่พระคู่หมาย ที่พระองค์รักและเทิดทูนยิ่งชีพ
แต่แล้ว วันนี้โชคชะตากลับเล่นตลก
ความบริสุทธิ์ที่เฝ้าทะนุถนอม กลับถูกพรากไปอย่างโหดร้าย ไม่ใช่บนแท่นบรรทมที่รายล้อมไปด้วยกลีบกุหลาบ หากแต่เป็นกลางป่า บนพื้นหญ้าหยาบๆ ที่มีน้ำขังและดินเปียกล้อมรอบ มันเต็มไปด้วยความสกปรกและน่ารังเกียจ
และคนที่บดขยี้ความบริสุทธิ์นั้นลงกับพื้น ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นชายที่เธอเกลียดชังที่สุดในชีวิต
เธอไม่อยากจะเชื่อ ว่าความบริสุทธิ์ที่เธอหวงแหนที่สุดในชีวิต จะถูกเขาพรากไปในสถานที่นี้อย่างรวดเร็ว ยิ่งคิด หยดน้ำตาแห่งความเจ็บปวด ก็ยิ่งไหลรินอาบแก้มนวลเนียน ดวงตาเศร้าโศกมองไปเบื้องหน้าอย่างว่างเปล่า ไร้ซึ่งความหวังนัยน์ตา
ความบริสุทธิ์ที่สูญสิ้นไป ไม่สามารถเรียกคืนกลับมาได้
เหลือเพียงบาดแผลลึกที่ฝังแน่นในใจ บาดแผลที่ไม่มีวันรักษาให้หายได้อีกต่อไป...