LOGINฉันฝีเท้าชะลอลงเล็กน้อยตอนที่เดินออกมาจากห้องน้ำ สีหน้าเปลี่ยนไปทันทีที่เห็นเพื่อนสนิทยืนคุยกับผู้ชายร่างสูงคุ้นตา แจ็กเกตหนังแบบนี้ กางเกงยีนตัวนี้ กับรองเท้าผ้าใบคู่เดิม เพียงแค่เห็นด้านหลังก็รู้แล้วว่าเป็นเขา แถมด้วยรถเข็นสัมภาระเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคัน แสดงว่านี่ไม่ใช่การมาส่งสินะ
ทั้งสองคนหันกลับมาแทบจะพร้อมกัน เมื่อฉันเข้าไปใกล้มากขึ้น และตวัดมองยัยเพื่อนจอมจัดแจงอย่างเกรี้ยวกราด
“อุ๊ย!” จังหวะประสานสายตา ร่างเล็กสะดุ้งโหย่ง ก่อนจะหันหาเฮียไวน์แทน “ทิชาไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
แต่ฉันยังเขม็งจ้องไล่ตามมันไปจนสุดทางเดิน อยากจะทุบกระบาลซะจริง อุตส่าห์แอบหนีมาก่อน ไม่พ้นจนได้ แล้วจะเสียเงินเลื่อนไฟลต์เพื่อ…?
น่าโมโหชะมัด เป็นเหมือนกันไปหมด
“คิดจะหนีเฮียเหรอ” คำถามแรกจากผู้ไม่ได้รับเชิญ
“...” ก็ใช่น่ะสิ ยังจะมาถามอีก แต่แค่คิดในใจเท่านั้นนะ ไม่อยากต่อบทสนทนากับคนเจ้าเล่ห์แบบเขา
ฉันพยายามเลี่ยงสบตา เลี่ยงแม้กระทั่งการอยู่ใกล้ เพราะเริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ปกติในตัวเอง...เขาไม่ใช่
ไหล่เล็กของเพื่อนรักไหวขึ้นหนึ่งครั้ง แล้วสะบัดหน้ากลับมาจดจ่อในสนาม ฉันกับพี่พลอยใสสบตากันโดยไม่พูดอะไรและพากันโฟกัสจุดเดียวกับที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจจากตอนแรกที่ยืนดูแบบชิลๆ กลายเป็นลุ้นระทึกตัวเกร็ง เงินสี่หมื่นเยอะมากนะถ้าจะต้องมาเสียให้ใครก็ไม่รู้โดยใช่เหตุ ฉันเริ่มหนักใจกับความกล้าได้กล้าเสียของเพื่อนตัวดีขึ้นมาแล้วละและแล้วเวลาสำคัญก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ด้วยการนับถอยหลังอีกไม่กี่วินาทีปึง!! เอี๊ยดดดดด…เสียงเบรกลากยาวดังลั่นสนาม“เฮ่ย!!” ชายแปลกหน้านั่นโพล่งออกมาไล่เลี่ยกับเสียงอุทานของเพื่อนสนิท“เชี่ย!...”“เวรแล้วไง” ปิดจบด้วยเสียงพึมพำของพี่พลอยใส ส่วนฉันยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองในตอนที่รถคันที่คาดเดาเข้าเส้นชัยจริงๆ แต่มันผิดจากสิ่งที่คิดไปเยอะพอสมควร เนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยที่ดูไม่ปกติเกิดขึ้น รถคันดำที่นำหน้ามาในตอนแรกเครื่องยนต์ติดขัดจนความเร็วลดลงอย่างเห็นได้ชัด รถคู่แข่งจึงตีเสมอได้และทิ้งท้ายด้วยการตบตกข้างทาง ก่อนเหยียบคันเร่งเข้าเส้นชัยและที่คันขาวดูไม่รีบร้อน นั้
หลายวันต่อมา…20:30 น.“กูว่าสนามพี่มึงใหญ่แล้วนะ แต่นี่แม่งโคตร…ใหญ่”ฉันกวาดสายตาไล่สำรวจโดยรอบตามประโยคบอกเล่าของเพื่อนสนิทที่ยื่นหน้ามาตรงกลางระหว่างเบาะคนนั่งกับคนขับ หลังจากรุ่นพี่คนสวยหักพวงมาลัยเลี้ยวผ่านประตูเข้าไปยังสนามแข่งรถชื่อดังซึ่งได้รับการแนะนำมาจากลูกชายคนโตของบ้านเหมบดินทร์ก็ใหญ่จริงนั่นแหละ สมกับคำร่ำลือที่เฮียวาโยบอก“คนเยอะจังวะ” พี่พลอยใสบ่นอุบขณะเคลื่อนรถอย่างเชื่องช้าไปตามทางเพื่อหาที่จอด“วันศุกร์ด้วยล่ะมั่ง” การแสดงความคิดเห็นของอีทิก็มีความเป็นไปได้ แต่ฉันคิดว่าน่าจะมีแมตช์สำคัญร่วมด้วย เพราะตอนนี้อัฒจันทร์ขนาดใหญ่ข้างสนามแทบจะไม่หลงเหลือที่ว่าง ลำพังแค่วันสุดสัปดาห์ไม่น่าจะดึงดูดผู้คนมาได้มากมายขนาดนี้ในที่สุดความพยายามของพวกเราก็สำเร็จ เมื่อเพื่อนรักสังเกตเห็นว่าตรงที่เราขับเลยมาแล้วมีรถออกพอดี“นั่น คันนั้นออก”พอรถถูกถอยเข้าจอดสนิท เราก็รีบพากันลงจากรถและเดินไปตามทางโดยให้เกียรติ
มิเชลถกแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นสูง ก่อนจะยืนแขนออกมาให้ผมค่อยๆ เทน้ำใส่เพื่อชำระล้าง แต่มันก็ได้แต่ส่วนที่อยู่นอกร่มผ้า แล้วเสื้อที่เธอสวมใส่อยู่ก็เลอะไปเกือบห้าสิบเปอร์เซ็นต์“ถอดออกเลย เอาเสื้อเฮียไปใส่แทน” ผมเสนอ“แล้วเฮียจะใส่อะไร”“เฮียเป็นผู้ชาย ไม่ใส่ก็ได้ เดี๋ยวแวะซื้ออะไรไปกินที่ห้องเอา” ยังไงก็อยู่แต่ในรถอยู่แล้ว กระจกก็ติดฟิล์มกรองแสงหนาระดับหนึ่ง ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร“แต่ว่า…”“เข้าไปถอดในรถ” ผมแทรกขึ้นพร้อมดึงประตูฝั่งคนนั่งเปิดออก คนได้รับคำสั่งอิดออดนิดหน่อยในตอนที่ผมใช้มือดุนแผ่นหลังเล็กให้เข้าไปในรถ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมอยู่ดี ขวดเปล่าถูกโยนใส่ไว้ตรงที่วางเท้าก่อนผมจะผลักประตูปิดและเดินอ้อมไปนั่งหลังพวงมาลัย“เดี๋ยวค่ะ” มิเชลเอื้อมมาจับมือผมที่กำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวเอง “เราว่ามันก็ไม่เป็นไรนะ เรานั่งไปแบบนี้ก็ได้ แป๊บเดียวเอง”ข้อเสนอเธอถูกปัดตกด้วยการที่ผมทำตามความตั้งใจของตัวเอง ไอ้แบบนี้ที่เธอว่า หมายถึงการนั่งเกร็งตัวตรงอยู่ปลา
“เฮีย กลับกันค่ะ”“อีกแป๊บนะ” ผมเหลือกตามองปลายเท้าเจ้าของเสียงหวานที่มาหยุดยืนตรงหน้าได้เพียงเสี้ยววินาที ก็ต้องหลุบลงโฟกัสหน้าจอสี่เหลี่ยมในมือตามเดิม เนื่องจากเกมรอบสองกำลังเข้าสู่จุดเดือดจนผมไม่สามารถละสายตาหรือทิ้งเพื่อนออกไปกลางคันตอนนี้ได้ นอกจากจะโดนแบนแล้วยังเสี่ยงโดนด่าอีกด้วย“งั้นกินน้ำไหมคะ”“ไม่ครับ เดี๋ยวก็ไปแวะกินข้าวแล้ว”“โอเคค่ะ”เก้าอี้เหล็กสีดำตัวข้างๆ ถูกลากออกจนเกิดเสียงครืด ร่างเล็กหย่อนก้นลงนั่งพร้อมกับหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาไถไปพลางๆ โดยที่ผมยังลอบสังเกตรีแอคชั่นคนรอเป็นระยะทางหางตา ดูเหมือนเธอจะทำความเข้าใจได้เป็นอย่างดี ไม่มีท่าทีไม่พอใจหรือหงุดหงิดอะไร ฉะนั้นผมยังเล่นต่อจนจบเกมได้แบบไร้กังวล“คุยเรื่องอะไรกันบ้าง” ผมเริ่มทำลายความเงียบด้วยประเด็นสำคัญ ระหว่างที่รอการเกิดใหม่ของตัวละครในเกม“ก็…บอกรายละเอียดทั่วไปค่ะ”“เรื่องอะไร ที่ต้องเป็นความลับขนาดนั้น” ผมตั้งคำถามอีกครั้งอย่างตรงไปตรงมา เพราะคำต
“เฮียหยุดแทะโลมเราทางสายตาเดี๋ยวนี้เลยนะ”“เปล่าทำแบบนั้นสักหน่อย” ผมปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ถูกสาวน้อยยัดเยียดทันควัน ยอมรับนะว่ามองจริง แต่น้องจะมาใช้คำพูดเหมือนผมเป็นพวกโรคจิตแบบนั้นไม่ได้“หันไปทางนู้นเลย” เธอออกคำสั่งเสียงเข้มโดยที่ใบหน้ายังตั้งตรงไปด้านหน้า“อะไรวะ…” ถึงจะไม่พอใจเท่าไหร่นัก แต่ก็ยอมลากสายตาไปโฟกัสตึกรามบ้านช่องข้างทางด้วยความจำนนหลังจากนั้นภายในรถก็มีเพียงเสียงเพลงสากลดังคลอเบาๆ ตลอดทางจนเวลาผ่านไปกว่าสี่สิบนาทีเราก็มาถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุ์สัตว์ ซึ่งเพื่อนของหมอเจลเธอเป็นนักวิจัยในแล็บเลือดเกี่ยวกับสัตว์โดยตรงต่อมามีการกระทำอย่างหนึ่งจากคนข้างๆ ที่ดึงดูดจนผมอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง สกิลการถอยรถเข้าซองขั้นเทพถูกถ่ายทอดมาจากไอ้วาโย พี่ชายคนโตที่เป็นทั้งเจ้าของสนามและนักแข่งอันดับต้นๆเธอใช้เพียงฝ่ามือขวาข้างเดียวในการหมุนพวงมาลัย ส่วนอีกข้างถูกวางลงบนเบาะที่ผมนั่ง ก่อนจะเอี้ยวตัวไปมองด้านหลังขณะที่รถยังเคลื่อนที่สิ่งนี้ทำให้ผมตกอยู่ในภวังค์ทันที และเพิ
ช่วงเย็นวันจันทร์…“ยังไม่เสร็จงานเหรอคะคุณหมอ”“เหลือผลเทสอีกตัวน่ะครับ” ผมขยับริมฝีปากตอบด้วยภาษาเดียวกับคำถาม ขณะหันมองตามนักวิจัยรุ่นน้องสัญชาติอังกฤษที่กำลังก้าวเดินผ่านหลังผมไปทางหน้าห้องแล็บ สาวในตาสีน้ำข้าวคนนี้คือ ไอร่า ซึ่งเธอถูกส่งมาจากโครงการอื่นภายใต้การดูแลของดอกเตอร์ซอ ก็อย่างที่รู้ๆ กันนั่นแหละว่าบุคคลที่จะขึ้นมาบนเขตหวงห้ามได้ ต้องเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิ์โดยตรงหนึ่งในนั้นก็คือผม เอาจริงๆ ว่าตั้งแต่ได้ขึ้นมาประจำด้านบน ผมยังหาคำตอบไม่ได้เลยว่าทำไมถึงเป็นคนที่ถูกเลือก แล้วอะไรที่ทางโครงการอยากปิดไว้เป็นความลับ เท่าที่ดูการทำงานก็ไม่ได้แตกต่างจากข้างล่างมากนัก อาจมีข้อมูลบางอย่างที่เจาะลึกเกินความจำเป็น แต่มันก็ไม่น่าจะสำคัญถึงขั้นต้องเป็นความลับขนาดนี้ไหม…หรือคำตอบจริงๆ มันจะอยู่ในห้องแล็บใหญ่ที่ไม่มีใครเข้าไปได้นอกจากดอกเตอร์ซอกับผู้ช่วยคนสนิทนั่นนะ“ให้ช่วยไหมคะ” สติผมถูกต้อนกลับมาด้วยข้อเสนอของไอร่า“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก”







