หลังจากที่ฉันกับคุณเปรมเราตกลงคบกันนี้ก็ผ่านมาเป็นระยะเวลาหกเดือนกว่าๆ ชีวิตประจำวันของฉันก็ปกติแต่ส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่ที่ห้องคุณเปรมมากกว่าห้องตัวเองเพราะงานแค่นั้นนะหลังจากงานเสร็จฉันก็กับมานอนที่ห้องของตัวเอง บางครั้งเขาก็รั้งให้อยู่ด้วยแต่ฉันคิดว่ามันไม่ควรแล้วห้องก็ไม่ได้อยู่ไกลกันมากด้วย ถึงแม้ว่าวันนั้นจะผ่านมานานแต่ฉันยังจำทุกอย่างได้ไม่มีวันลืมแล้วเรื่องอะไรที่ฉันจะไปอยู่ห้องนั้นลำพังกับเขานอกจากเรื่องงานล่ะ ห้องแห่งความหลังแบบนั้น
“ษาครับวันนี้ไปกินข้าวที่บ้านผมนะครับ คุณแม่ท่านอยากเจอ” หลังจากที่เราคบกันได้สักพักคุณเปรมก็ได้พาฉันไปทำความรู้จักกับครอบครัวของเขา มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกคบกับเขา ไม่ใช่ที่ฐานะแต่ที่เขาเป็นสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อฉัน แล้วฉันก็ได้บอกเรื่องนี้กับครอบครัวของฉันแล้วพวกท่านก็บอกว่าถ้าฉันรักใครพวกท่านก็รักด้วยถึงแม่พวกท่านจะบอกกับฉันเสมอว่าอย่าแต่งงานกับคนรวยเพราะกลัวว่าเขาจะเอาเปรียบ แต่ได้ข่าวว่าพี่เขยฉันรวยมากๆเลยนะเพราะเป็นชาวต่างชาติ ฉันมี่พี่น้องสามคนและฉันเป็นคนกลาง “โอเคค่ะ งั้นตอนเย็นคุณค่อยโทรหาษานะคะ ษาว่าจะไปพักสักหน่อยวันนนี้คุณใช้งานษาหนักมาก” “ผมขอโทษก็งานมันเร่งนิครับ” “ษาเขาใจค่ะ ษาแค่ล้อเล่น แต่ว่าเหนื่อยจริงๆนะคะ ษาขอตัวไปพักแปปนึงนะคะ” เวลาทำงานเราสองคนคือเจ้านายกับลูกน้องที่ทำงานกันอย่างจริงจังก็มีเล่นบ้างบางครั้งแต่ก็ไม่บ่อยเพราะงานมันค่อนข้างเครียดฉันก็ชอบแบบนี้นะมันให้ความรู้สึกว่าฉันได้ทำงานจริงๆไม่ใช่ใช้ตำแหน่งแฟนผู้บริหารมาเบ่ง แล้วไม่ทำงานทำการอะไร “งั้นถ้าจะไปเดี่ยวผมโทรหาอีกทีนะครับ รักนะครับ” “พูดแบบนี้อีกแล้วนะคะบอกว่าอย่าพูดบ่อยไงค่ะ เดี่ยวมันจะกลายเป็นคำติดปากไปเฉยๆปราศจากความรู้สึก” “พี่ก็บอกเราทุกวันไงเราจะได้มั่นใจว่าพี่รู้สึกยังไง” ตอนนี้คุณเปรมเขาจะแทนตัวเองว่าพี่นอกเวลางานแล้วเขาก็ให้ฉันเรียกว่าพี่เพราะเวลาเรียกคุณมันให้ความร็สึกห่างเหินกัน แต่ฉันไม่กล้าเรียกหรอกกลัวติดปากแล้วเวลางานจะเผลอเรียกและอีกอย่างคือฉันเขินด้วยที่จะเรียกแบบนั้น “โอเคค่ะ แต่ไม่ต้องพูดบ่อยก็ได้ษาก็เขินเป็นนะคะ” “ไม่ได้พูดให้เขินสักหน่อยพูดให้รู้สึกรักต่างหาก” “ษาไม่คุยกับคุณแล้วกับห้องดีกว่า ไว้เจอกันตอนเย็นนะคะ” เปรม part ผมไม่เคยคิดเลยว่าการที่จะช่วยยัยน้องสาวตัวแสบนี่จะต้องใช้พลังกายพลังใจมากขนาดนี้ ตอนนี้ผมกับษา ผู้หญิงที่จะมาเป็นคนอุ้มบุญให้น้องสาวของผม ด้วยเงื่อนไขที่เธอตั้งไว้มันบีบบังคับให้ผมต้องทำแบบนี้ถ้าหากเธอต้องการที่จะให้สามีในอนาคตของเธอเข้าใจเธอในการช่วยอุ้มท้อง เธอก็เลยต้องการที่จะมีสามีก่อนที่จะอุ้มท้องให้น้องสาวของผม วิธีนี้ถึงมันจะเห็นก็ตัวไปบ้างแต่ดีกว่ารอจนไม่รู้ว่าวันไหนที่เธอจะมีแฟนมีสามี สู้ให้ผมมาเป็นสามีของเธอแล้วจากนั้นค่อยเลิกกันทีหลังก็ยังไม่สาย เพราะผมคงคบกับเธอตลอดไปไม่ได้เพราะผมเองก็ได้หมั้นหมายกับแฟนผมที่ต่างประเทศแล้วแต่เรื่องที่ผมหมั้นไม่มีใครรู้นอกจากครอบครัวฝังนู้นที่แรกผมกะว่าถ้าหากกลับมาที่ไทยจะบอกพ่อแม่แต่ว่ามีเรื่องสะก่อนเรื่องที่ว่าก็คือเรื่องที่ต้องช่วยน้องสาวที่น่ารักของผมไง ผมกะว่าหลังจากที่ผมกับเธอแต่งงานกันได้สักสองสามเดือนผมจะหาเรื่องเลิกกับเธอเพราะว่าไม่อยากให้เวลามันนานไปกว่านี้กลัวว่ามันจะทำให้ความผูกพันมีมากขึ้นกลัวว่ามันจะทำให้เธอเสียใจมาก ตอนเย็น ตอนนี้ฉันอยู่ที่บ้านของคุณเปรมครอบครัวของเขาดีต่อฉันมากทั้งๆที่ฉันเป็นแค่ลูกน้องที่โรงแรม แต่พวกท่านกับบอกว่าดีกว่าให้คุณเปรมใช้ชีวิตไปวันวันไม่มีทิศทาง แล้วพอพวกเขารู้ว่าฉันเป็นแฟนเก่าของลูกเขยเขา และเป็นคนที่จะมาอุ้มบุญให้ลูกสาวพวกท่าน พวกท่านยิ่งดูเหมือนว่าจะเอ็นดูฉันมากแถมบอกว่าโลกมันกลมหรือว่ามันเป็นพรหมลิขิตที่ทำให้เรามาพบกัน ท่านอยากให้ฉันกับคุณเปรมรีบแต่งงานกันรีบมีหลานเพราะว่าตอนนี้ท่านทั้งสองไม่ได้ทำงานเลยทำให้ว่างจนรู้สึกอยากทำอะไรสักอย่าง ฉันก็ได้แต่ยิ้มตอบรับเรื่องแต่งงานมีลูกนั้นมันคงต้องรอให้ฝ่ายชายขอแต่งก่อนไม่ใช่หรอจะให้ฉันเป็นคนทำมันก็ไม่ถูกไหม “สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณแม่” ฉันกล่าวทักทายคุณพ่อคุณแม่ของคุณเปรม ที่ฉันเรียกท่านทั้งสองว่าพ่อแม่ก็เพราะว่าคุณแม่บังคับมาเรื่องนี้ทำให้คุณเปรมน้อยใจเป็นอาทิตย์เพราะว่าทีกับเขาฉันกับเอาแต่เรียกคุณๆไม่เรียกพี่สักที่ “ สวัสดีลูกมากันแล้วหรอ หนูษาตามแม่มาที่ห้องครัวเลยลูกวันนี้แม่จะสอนเราทำอาหารที่ลูกชายของแม่ชอบให้อีกสักอย่างสองอย่างเอาไว้หมัดใจสามีตอนแต่งงานกันเป็นไง” “คุณแม่พูดอะไรก็ไม่รู้พึ่งคบกันได้ไม่นานเอง เรื่องแต่งงานคงอีกนาน” “ใครว่านานล่ะจ๊ะ ไม่รู้หรือไงว่าวันนี้ที่มานิเพราะว่าพี่เขามีเรื่องจะคุยเรา” “คุย กับษาหรอค่ะ” “เอ้าก็คุยกับเรานั่นแหละถึงพาเรามา นี้พี่เขาไม่ได้บอกอะไรเราเลยหรอ” “เปล่าค่ะคุณเปรมไม่ได้บอกอะไรษา บอกแค่ว่าคุณแม่อยากเจอษาแค่นั้น ว่าแต่มีเรื่องอะไรจะคุยกับษาหรอค่ะแล้วทำไมไม่คุยที่ห้องก็ได้” “ก็เรื่องนี้มันสำคัญไง” “คุณแม่พอจะทราบไหมค่ะว่าเรื่องอะไร”ฉันเป็นคนที่ไม่ชอบเรื่องเซอรไพร์ที่สุดเลยไม่รู้สิหลายคนอาจจะชอบแต่ไม่ใช่กับฉันเพราะไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีมันก็สามารถทำให้ฉันร้องไห้ได้เสมอ “แม่รู้แต่ไม่บอกหรอกรอฟังพร้อมคนอื่นเถอะ ปะเข้าครัวกันเถอะ” หลังจากที่คุยเรื่องนั้นเสร็จฉันก็ช่วยคุณแม่ทำอาหารอีกสองสามอย่าง จริงๆที่บ้านนี้มีแม่บ้านอยู่แต่แม่อบทำอาหารเองมากกว่า ฉันก็เข้าใจนะเพราะอะไรที่เรารักเราจะทำมันออกมาได้ดีกว่าและก็ภูมิใจกับมัน ตอนนี้มื้อค่ำก็ได้จบลงแล้วมันเป็นเวลาที่ฉันรอคอยว่าเขามีเรื่องอะไรจะบอกกับฉัน “เอาละ ทุกคนคงรู้ว่าผมกับษาเราก็คบกันมานานแล้วและผมรู้สึกว่าอยากจะเรียนรู้และใช้ชีวิตร่วมกับคนคนนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าที่ทำมันเหมาะไหมก็จากที่เห็นหลายๆคู่เขาไปคุกเข่าขอแต่งงานกันแค่สองคน แต่ผมอยากให้คนที่ผมรักทุกคนได้รับรู้พร้อมๆกันว่าผมอยากที่จะใช้ชีวิตร่วมกับผู้หญิงคนนี้ อยากให้ทุกคนรู้ว่าคนนี้คือคนที่ผมรักและเลือกที่จะหยุดกับเขา ษาพี่รู้ว่าเวลาที่เราคบกันในความรู้สึกของษามันอาจจะไม่นานแต่สำหรับพี่แค่นี้มันก็เพียงพอต่อความรู้สึกของพี่ที่พี่ได้มอบให้กับเราแล้ว พี่อยากจะขอเราเรื่องนึงได้ไหมขอให้เรามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวพี่ได้ไหม”ที่ผมเลือกจะขอเธอแต่งงานที่นี้ก็เพราะอย่างน้อยถ้าหากเธอจะปฎิเสธพ่อแม่ผมก็คงจะช่วยพูดแล้วก็ไอ้คำพูดที่ผมพูดมาทั้งหมดก็จำมาจากละครหลังข่าวที่เปิดไปเจอโดยบังเอิญไม่คิดว่าจะมีคนอินตามได้ขนาดนี้เพราะตอนนี้นอกจากษาที่ร้องไห้แม่ผมก็อีกคน “ตอนนี้ฉันพูดอะไรไม่ออก น้ำตาที่ไหลออกมามันไม่ได้มาจากความเสียใจแต่มาจากความดีใจล้วนๆ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีวันนี้กับเขาฉันพูดอะไรไม่ออกได้แต่พยักหน้าตอบรับ”ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรที่ทำให้สติฉันไม่หลงเหลือขนาดนี้เรื่องนี้ฉันไม่ควรตัดสินใจคนเดียวไม่ใช่หรอฉันควรถามพ่อแม่ฉันก่อนไหมนี้มันเรื่องใหญ่เลยนะเรื่องการแต่งงาน หลังจากคืนนั้นฉันก็วุ่นวายมากในตอนนี้ที่วุ่นวายไม่ใช่เรื่องที่ทำงานนะแต่วุ่นวายเรื่องงานแต่งเพราะดูเหมือนทุกอย่างมันรวดเร็วมาก ขนาดพ่อแม่ฉันยังตกใจแต่ท่านก็เคารพการตัดสินใจของฉัน ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนของการเตรียมการงานแต่งอยู่ที่แรกว่าจะจัดที่โรงแรมแต่ฉันไม่อยากให้มันยิ่งใหญ่เพราะว่าฉันยังรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเขาอยู่เลยขอให้จัดเล็กที่บ้านเชิญแขกที่สนิทกันเท่านั้น ซึ่งคุณเปรมเขาก็แล้วแต่ฉันให้ฉันตัดสินใจเองเพราะว่าไม่อยากขัดใจทีแรกว่าจะจัดใหญ่แต่พอฉันขัดเขาก็ให้ฉันเลือกเองทั้งหมด ตอนนี้ฉันชักรู้สึกผิดแล้วสิทั้งๆที่เป็นงานของเราแต่ฉันกับเอาแต่ใจเป็นฝ่ายเลือกอยู่ฝ่ายเดียว ที่ผมให้เธอเป็นคนเลือกทุกอย่างเพราะว่าผมรู้ว่าเธอจะเลือกอะไรที่ธรรมดาเรียบๆ ซึ่งมันก็ดีต่อตัวผมที่จะทำให้ความลับนี้รั่วไหลไปถึงคู่หนั้นผม....ตอนนี้เด็กกำลังเข้าอนุบาลกันแล้วใจผมต้องสลายแน่ๆการที่ต้องไปส่งลูกไปเรียนแล้วก็ทำได้แค่มองดูเขาเดินจากไปสู่ห้องเรียน วันแรกที่ไปส่งลูกผมเกือบร้องไห้เพราะคิดถึงลูกแต่พอหันมามองเห็นษารายนั้นไม่ต้องพูดถึงลิงโลดมาก แทนที่จะคิดถึงลูกแต่ทำเหมือนได้รับอิสระยังไงยังงั้นทำแบบนี้ไม่ได้นะผมอยากให้ลูกเรียนโฮมสคูลนะกลัวลูกร้องไห้อยากกลับบ้านกลัวว่าเพื่อนจะแกล้งแต่ษาไม่ยอมจะส่งมาโรงเรียนอย่างเดียวใจร้ายใจมารมากเป็นแม่ภาษาอะไรใจร้ายกับลูกตัวเองมาก แต่พอหันมาดูลูกผมกับวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้าไปหาครูแบบไม่สนใจพ่อเลยแถมไม่รอพี่ชายอีกลูกชายผมก็ขี้เก๊กจริงๆขนาดกับพ่อยังเก๊กหรือเพราะว่าผมไม่ค่อยตามใจเลยน้อยใจไม่อ้อนผมกันแน่กับแม่เขาคนนี้แทบจะไม่ออกจากตักเลยแหละพอพ่อจะจับเดินหนีเฉยงงมาก แล้วนั้นอะไรครูผู้ชายจะมาหอมแก้มลูกสาวผมไม่ได้นะ เมื่อวานลูกผมก็มาบอกว่าจะแต่งงานกันครูประจำชั้นผมนี่แทบจะให้ลูกออกจากโรงเรียน แล้วนี่ถ้าไม่ติดว่าเมียดึงหูไว้นี้ผมลงไปเคลียร์กับครูที่หอมแก้มลูกสาวผมแล้ว หลังจากเหตุการณ์ต่างๆผ่านมาหลายไปตอนนี้ฉันได้ข่าวว่าปลายกับเอิร์ธไปรับเด็กมาเลี้ยงเพราะไม่อยากที่จะไปรบกวนคนอื่นแหละลองทำมาทุกทา
ตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ไอ้คุณเปรมก็ดูแลลูกช่วยฉันดีมากรู้งี้พามาอยู่ตั้งนานแล้วไม่น่าเหนื่อยคนเดียวมาตั้งนานแบบนี้เลย ตอนนี้คุณเปรมไปทำงานงอแงแต่เช้าว่าไม่อยากไปทำงาน อ้างว่าลูกจะคิดถึง ฉันเลยจัดการขั้นเด็ดขาดด้วยคำว่าถ้าหากว่าไม่ไปทำงานจะพาเด็กๆกลับบ้านเชื่อไหมวิ่งลงบ้านอย่างกลับเดอะฟาส ตลกจังขู่แค่นี้ก็กลัวฉันเองก็ไม่ได้ทำงานอะไรเลยตอนนี้แต่ก็ไม่ได้ว่างหรอกถึงแม้ว่าไม่ได้ทำงานแต่สองหน่อที่บ้านนี่คืองานอันใหญ่หลวงเลยแหละดีหน่อยที่มีคนเลี้ยงช่วยไม่งั้นคงไม่มีเวลากินข้าวหรอก เพราะพอเวลาที่คนใดคนหนึ่งร้องไห้อีกคนได้ยินก็ร้องไห้ตามๆกันฉันไม่รู้จะอุ้มใครก่อนดีจะอุ้มพร้อมกันก็กลัวร่วงเด็กเขาจะมีเซนส์ว่าใครเป็นพ่อแม่แล้วคือถ้าไม่ใช่พ่อหรือแม่อุ้มก็จะไม่ยอมหยุดร้อง บ้างครั้งที่ลูกร้องไห้บ่อยฉันกังวลมากว่าลูกจะเป็นโคลิคไหม(โรคที่เด็กจะร้องไห้เป็นเวลาแต่ไม่มีเหตุผลในการร้องปลอบก็ไม่หายทำยังไงก็ไม่หายจะเป็นจนกว่าอายุจะครบหนึ่งปีหรืออาจจะไม่ถึงปี) ฉันเลยตัดสินใจหอบลูกไปหาหมอสรุปไม่ได้เป็นอะไรแค่ติดอุ้มเพราะว่าคุณย่าคุณปู่ยิ่งคุณพ่อเขาแทบจะไม่วางเลยจนตอนนี้เด็กติดอุ้มหนักมาก ตื่นปุ๊บเป็นต้องใ
ฉันกำลังนั่งรอคุณสามีอยู่บ้านแต่จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่กลับบ้านไปเกเรที่ไหนนะ ฉันให้แม่โทรไปหาเลขาคุณเปรมว่าทำไมถึงยังไปกลับบ้าน สรุปคือพากันไปผับพี่ตั้ม คืออะไรเลิกงานทำไมไม่กลับบ้านไปเที่ยวอีกฉันกะว่าถ้าไม่ดึกจะไม่ว่าเพราะว่าเข้าใจว่าไปพบปะเพื่อนบ้างอะไรบ้างแต่ถ้าดึกมีแต่ตายกับตายหลังจากที่รอแล้วรอเล่าสามีฉันก็ยังไม่มานี้ก็จะห้าทุ่มแล้วทำไมยังไมกลับมาอีกพรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานทำไมไม่รีบมาพักผ่อน เดี๋ยวเจอฉันไอ้คุณเปรมตอนนี้ฉันยืนอยู่สถานที่ที่แทบจะเรียกได้ว่าคุ้นเคยเพราะว่ามาที่นี่บ่อยมากเมื่อก่อน ฉันเดินหาคุณเปรมรอบๆข้างล่างแต่ไม่เจอหรือว่าอยู่ชั้นบนแต่ชั้นบนฉันเข้าไม่ได้นะ มันเป็นส่วนของแขกวีไอพีสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ทางออกสุดท้ายคงต้องโทรให้พี่มาร์คช่วย ฉันเคยขอแลกเบอร์พี่เขาไว้ตอนที่เราเจอกันครั้งล่าสุดเพื่อมีอะไรให้พี่เขาช่วยในที่สุดก็ถึงวันนี้ที่จะได้ใช้“ฮาโหลพี่มาร์คค่ะ ตอนนี้พี่ได้อยู่กับคุณเปรมไหมค่ะ?”“อยู่ครับอยู่กันหมดทุกคน มีอะไรไหม?”“เอ่อ~ ~ พอดีว่าษาอยู่ข้างล่างพี่มารับได้ไหมษาไม่รู้ว่าอยู่ห้องไหน แล้วษาขออีกอย่างพี่อย่าบอกคุณเปรมนะคะว่าษามา”“ เรากลับมาแล้
จากที่ผมขอร้องให้ษาย้ายกับมาอยู่ที่บ้านเพราะผมเองก็อยากที่จะช่วยเธอเลี้ยงลูกไม่อยากให้เธอเหนื่อยเพียงลำพังเพราะว่าเด็กๆป่วยบ่อยมากสาเหตุก็มาจากที่คลอดก่อนกำหนดด้วยแหละ แล้วพอเวลาป่วยก็จะป่วยพร้อมกันตลอดเพราะว่าเป็นแฝดกันมั้ง ผมเลยอยากให้เอมาอยู่ที่บ้านผม เพราะผมเองจะได้ดูแลทั้งแม่และลูกสะดวกๆหน่อยแต่ว่าตอนนี้จะเข้าเดือนที่สองแล้วเธอก็ยังไม่ยอมพูดอะไรเลยไม่ปฏิเสธหรือตอบรับผมไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ส่วนในช่วงที่ผ่านมาผมก็ไปกลับบ้านเธอเป็นว่าเล่นเพราะว่างานาก็ต้องทำลูกก็ต้องเลี้ยงเมียก็ต้องง้อ เห้อพ่อละเหนื่อย ฉันเองก็เข้าใจคุณเปรมเขานะแต่ว่าฉันกลัวว่าถ้าหากฉันกลับไปเจออะไรเก่าๆความรู้สึกของฉันมันจะเป็นยังไงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นั่นคือความทรงจำที่เลวร้ายมาก ฉันกลัวว่าฝันร้ายมันจะกลับมาหาฉันอีกแต่ยังไงสักวันฉันเองก็คงต้องกลับไปอยู่ดีเพราะว่าฉันสงสารลูกอยากให้พวกเขาได้อยู่กับพ่อเขา แล้วดูเหมือนว่าปลาวาฬจะติดพ่อเป็นพิเศษเพราะเวลาที่คุณเปรมกลับไปทำงานปลาวาฬจะซึมมากไม่ยอมกินนมจนต้องโทรหาวีดีโอคอลหาพ่อให้ถึงดีขึ้น เพราะว่าพ่อเขาอยู่ด้วยจะตามใจกันมากเวลาลูกร้องเอานมให้กิน
หลังจากผ่านไปสองชั่วโมงพยาบาลก็เข็นรถออกมาสองเตียงคือลูกผมทั้งสองคน หมอบอกว่าเด็กๆต้องเข้าตู้อบก่อนเพราะว่าออกมาก่อนกำหนดและก็มีอาการตัวเหลืองเลยต้องรีบนำเข้าตู้อบให้เร็วที่สุด ส่วนษาตอนนี้ยังไม่ออกมาเลย“คุณหมอครับภรรยาผมเป็นยังไงบ้างครับทำไมยังไม่ออกมา”“คืองี้นะครับ เนื่องจากว่าเธอเสียเลือดมาก่อนดังนั้นพอผ่าตัดเลือดยิ่งออกเยอะทางเราเองก็ไม่มีเลือดกรุ๊ปนี้ในสต๊อกต้องรออีกโรงบาลส่งมาให้”“เธอเลือดกรุ๊ปไหนครับ คุณหมอภรรยาผมเลือดกรุ๊ปไหมครับ”“เธอเลือดกรุ๊ปโอครับว่าแต่พวกคุณมีใครเลือดกรุ๊ปนี้ไหมครับจะได้ไม่ต้องรอนานด้วย”“ผมครับผมเลือดกรุ๊ปโอ”“แต่ว่าพี่เปรมยังไม่ได้พักเลยไม่ใช่หรอค่ะ เพิ่งประชุมเสร็จก็มาเลยน้องกลัวว่าพี่จะเป็นอะไรไปอีกคน ให้น้องช่วยนะคะ น้องเองก็เลือดกรุ๊ปเดียวกับเธอ”“งั้นพี่ฝากด้วยนะ คุณหมอครับผมฝากน้องกับภรรยาผมด้วยนะครับ”“ไม่ต้องห่วงครับมันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว”หลังจากที่ปลายเข้าไปในห้องนั้นนี้ก็ผ่านมาเกือบชั่วโมงแล้ว แต่ในความรู้สึกของผมเหมือนกับว่ามันนานเป็นวันๆได้ นี้สินะความรู้สึกของคนรอ ในตอนนี้ผมตัดสินใจโทรบอกทางบ้านของษาเพราะว่าถ้าหากษาออกมาแล้วผมก็อย
อันดา partฉันจะไม่ยอมให้พวกมันมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นหรอก ฉันต้องทุกข์ทรมานมากแค่ไหนใครจะรู้ฉันต้องอยู่หลบๆซ่อนๆกลัวว่าเมียหลวงเขาจะรู้ แต่ในขณะที่ฉันทุกข์พวกมันกับมีความสุขกันทุกคน ฉันไม่ยอมให้พวกแกมีความสุขนานหรอกคนที่พรากของของฉันไปมันต้องรับรู้ถึงความรู้สึกของการสูญเสียเช่นเดียวกันกับฉัน ถึงแม้ฉันจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆพวกนั้นแต่ฉันก็พอจะมีสายจะคนที่ทำงานที่โรงแรมนั้นว่าเปรมทำอะไร อยู่ที่ไหนกับใคร สายของฉันก็เลขาของเปรมนั้นแหละฉันก็แค่ใช้เสน่ห์นิดหน่อยแค่นี้ก็หลงฉันหัวปลักหัวปำแล้ว และตอนนี้มันก็ถึงเวลาที่ฉันจะเอาคืนคนพวกนั้นแล้ววันนี้คุณเปรมบอกว่าจะมาถึงในช่วงเย็นเพราะว่าหาไฟล์บินได้ช่วงนั้นช่วงเช้าเพิ่งประชุมเสร็จเลยแวะไปเก็บเสื้อผ้ามาเฝ้าฉันต่อ ส่วนปลายฟ้าเธอเองก็ดูแลฉันอย่างดีอะไรที่เธอทำไม่ได้ก็จะมีพยาบาลพิเศษที่จ้างมาช่วยเธอด้วยแต่ส่วนใหญ่เธอจะลงมือทำเองเพราะอยากไถ่โทษกับสิ่งที่ทำลงไป ฉันเองก็ไม่ติดอะไรกับเธอแล้วส่วนเรื่องที่ว่าฉันจะกลับไปคบกับคุณเปรมต่อไหมนั้นเป็นเรื่องของอนาคตฉันยังให้คำตอบไม่ได้เพราะว่าฉันเองก็ยังไม่มั่นใจในตัวเขาเลย“ษาฉันออกไปกินข้าวก่อนนะเธออยู่คนเด