บทที่ 5
“นี่บิลค่าใช้จ่ายที่ได้รับการรักษาพยาบาลของเด็กชายนายาค่ะ สามารถชำระผ่านช่องทางธนาคารได้หรือหน้าเคาน์เตอร์ก็ได้ค่ะ”
เธอมองบิลในมือ 3XX,XXX เห็นเช่นนั้นเธอก็กระบอกตาร้อนผ่าว เธอจะหาเงินที่ไหนได้ แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว!! เธอเดินกลับมาที่ห้องพักของนาย.เปิดประตูเข้าไปกลิ่นไก่ KFC ตลบอบอวล
“ใครซื้อมาครับ” เธอเอ่ยถามน้องชาย
“หมอค๊าบบบ หมอบอกให้กินจนบินได้เล้ยยยย”
นายต้องรักษาตัวประมาณ 2 อาทิตย์และยังต้องรักษาตัวต่ออีกที่บ้าน เธอที่จนหนทาง ก็ลองกดโทรศัพท์หาป้าอีกครั้ง ป้าก็ไม่รับ และค่าใช้จ่ายที่จะจ่ายโรงพยาบาลอีกจะทำยังไง
#ห้องการเงิน
“คือดิฉันจะมาสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายห้อง 3306 ค่ะ” เธอเดินมายังห้องการเงินของโรงพยาบาล
“ห้องไหนนะคะ?”
“3306 เด็กชายนายาค่ะ”
“อืม...ชำระหมดแล้วนะคะ” เธอขมวดคิ้ว
“รบกวนเช็กอีกทีได้ไหมคะ ว่าจ่ายหมดแล้ว”
“ค่ะชำระครบแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นค่ะ” เธอเดินออกมาจากห้องการเงินด้วยแขนขาไร้เรี่ยวแรงจะล้มให้ได้ 3 แสนกว่า ก่อนน้ำตาจะรินไหล หัวใจพองโต เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง! เขายอมทำตามที่เธอของั้นเหรอ!
ยังไงวันนี้เธอก็ต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่อง...
‘ปาญา ธยาวัฒ เกิด XXX อายุ 19 ปี มารดา XXX บิดา XXX เสียชีวิตทั้งคู่ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว’
‘อาศัยอยู่บ้านเลขที่ XXX คลองตัน กรุงเทพฯ ศึกษามัธยมศึกษาโรงเรียน XXX สายวิทย์-คณิต เกรดเฉลี่ย 4.00 งานเสริมรับจ้างแปลภาษาอังกฤษ-จีน’
“เธอพักอยู่กับน้องชาย 2 คนที่บ้านเดิมก่อนพ่อแม่เสียชีวิตครับ มีป้าแต่อยู่ต่างจังหวัด รวม ๆ แล้วก็ไม่ได้ดีกับเธอสักเท่าไหร่”
“ชีวิตค่อนข้างลำบาก นายอยากได้ข้อมูลอะไรอีกไหมครับ”
“'ไปจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของเธอและน้อง และเงียบปากไว้ให้ดี’
“ครับนาย” เขาก็ไม่รู้หรอก! ว่าทำไปเพื่ออะไร แต่คิดว่าก็เหมือนเลี้ยงเด็กทั่วไปที่เคยเลี้ยงนั่นแหละ แต่นี่เด็กไปหน่อยก็เท่านั้น แต่ก็เดี๋ยวก็โต...
เขารู้ตัวอีกทีมาหยุดหน้าห้องเจ้าเด็กหัวฟูนี่ เสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากดังมาจากข้างใน นี่ขาหักจริงรึเปล่า! เขาเปิดประตูเข้าไป ทุกอย่างหยุดชะงัก เธอมองมาที่เขาก่อนจะหลบสายตา
“เดี๋ยวฉันจะพาไปเอาเสื้อผ้าที่บ้าน ตามออกมาลานจอดรถชั้น 2”
“คะ?”
“เธอจะใส่ชุดนี้จนวันที่น้องเธอออกจากโรงพยาบาลรึไง! เน่าตายพอดี!”
“คะ...ค่ะ”
“แล้วจะยืนอีกนานไหม! ออกมาสิ!”
“ค่ะ ๆ”
#บนรถ
“ขอบคุณที่หมอช่วยเรื่องค่ารักษานายนะคะ”
“ฉันไม่ได้ให้เธอฟรี ๆ หรอกนะ”
“.......”
“หมอรู้จักบ้านหนูด้วยเหรอคะ?” เธอหันมาถามน้ำเสียงระคนตกใจ
“ไม่มีอะไรที่ฉันอยากรู้แล้วไม่รู้ อย่าถามมากฉันไม่ชอบคนพูดมาก”
“หนูขอโทษค่ะ”
#ในบ้าน
เขามองบ้านสองชั้นพื้นที่กว้าง หน้าบ้านมีสนามเด็กเล่น กองทรายแต่ตอนนี้ต้นไม้ขึ้นรกร้างเหมือนไม่มีคนอยู่ เขาเดินตามเธอเข้ามาในบ้าน
“เชิญนั่งก่อนนะคะ” เขาเดินไปนั่งที่โซฟากลางบ้าน
“หนูขอขึ้นไปเก็บของแป๊บหนึ่งค่ะ” เขาพยักหน้า และเธอก็วิ่งขึ้นไปชั้นสองของบ้าน
เขาเดินดูรอบบ้าน ข้างในน่าอยู่ ดูอบอุ่น อบอวลด้วยความรัก รอบบ้านจะติดรูปถ่ายครอบครัวไว้ รวมถึงรูปถ่ายของเธอและน้อง
บนตู้โชว์จะเป็นถ้วยรางวัลและประกาศนียบัตรของเธอ ทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ มีการแข่งขันไวโอลินระดับ อนุบาล ประถม และมัธยม สอบภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ถึงว่าเธอถึงทำงานรับจ้างแปลภาษาได้
รูปถ่ายของเธอตอนได้รับประกาศ รูปถ่ายครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ด้านข้างตกแต่งด้วยชั้นหนังสือทั้งหมดดูแล้ว พ่อแม่เธอน่าจะเป็นคนมีความรู้
จากสภาพบ้านที่อยู่ สะอาดสะอ้าน การจัดของวางของเป็นระเบียบ การพูดจา การศึกษา ของเธอเหมือนคนได้รับการอบรมสั่งสอนมาดี
เขาเดินไปหยิบหนังสือดูไปเรื่อย ๆ ก่อนจะเจอหนังสือที่เขาทำวิจัยไว้ เหมือนเธออ่านค้างอยู่ เธออยากเป็นหมองั้นเหรอ?
“ขอโทษค่ะ รอนานไหมคะ” เธอกลับลงมาในชุดใหม่ เสื้อยืดสีขาวพอดีตัว กางเกงยีนเดฟขายาวสีเข้ม ผมยาวปล่อยสลวย มันเปียกชื้นจากการสระมา แค่เปลี่ยนชุดก็ดูโตขึ้นแล้ว
“ไปเป่าหัวให้แห้ง!”
“ไม่เป็นไรค่ะ สะบัด ๆ ไปก็แห้งแล้ว หนูอยากกลับไปหาน้องแล้ว”
“ฉันไม่ชอบคนเถียง และฉันสั่งอะไรให้ทำ” เขาเอ่ยอย่างหงุดหงิด พูดอะไรทำไมชอบเถียง!
“ขะ...ขอโทษค่ะ” เธอนั่งลงหน้าพัดลม ก่อนจะก้มหัวและเป่าผม
เขามองเธอที่หันหลังให้อยู่ ผมเธอยาวกลางหลัง ปลิวไสวยามลมของพัดลมพัดมา กลิ่นหอมของยาสระผมแบบเด็ก ๆ กลิ่นสบู่อ่อน ๆ ที่มาจากตัวเธอ
มันฉุดเขาให้ตกอยู่ในภวังค์ ไวกว่าความคิด เขาเดินเข้าไปนั่งลงซ้อนด้านหลัง และสวมกอดเธอ จมูกโด่งสันฝังลงบนซอกคอหอมกรุ่นของเด็กสาววัยขบเผาะ!
เธอสะดุ้งเฮือกก่อนจะตัวแข็งทื่อ เขาจับเธอหมุนและหันหน้ามาประจันหน้ากับเขา นิ้วมือเรียวจับผมที่ยุ่ง ๆ ของเธอทัดหูไว้
“......” เสียงหัวใจเธอเต้นแรงจนเขาได้ยิน เธอตัวสั่นเทา เขาเชยคางให้เธอเงยหน้า เธอไม่กล้าสบตาเขาแม้สักนิด ริมฝีปากบางสั่นระริกด้วยความกลัว
“มองหน้าฉัน” เธอสบตาดวงตาคม ดวงตากระปุกไหววูบ เธอหลุบตาลงต่ำไม่มองหน้าเขา
ก่อนจะได้ทันพูดอะไร ริมฝีปากร้อนฉกชิมริมฝีปากสีชมพูของเด็กสาวแรกแย้ม เธอไม่ยอมเปิดปาก แต่ก็ไม่ได้ผลักไสอะไร เธอหลบตาปี๋เหมือนกำลังต่อสู้กับความคิดตัวเองอยู่
มือหนาสัมผัสลงที่เอวบาง ก่อนจะประคองใบหน้าเธอ และออกแรงบีบเบา ๆ เธอร้องอื้อ...ก่อนจะยอมเปิดปาก
เขาขบเม้มดูดดึงริมฝีปากบางอย่างโหยหา ลิ้นร้อนสอดเข้าจนเกิดเสียงดัง! เขาที่เตลิดไปไกล จึงยกเธอขึ้นมานั่งบนตัก เธอตกใจถอยหนีเขาไปแอบอยู่ด้านหลังโซฟา
“........”
“น้องเธอยังต้องรักษาตัวระยะยาว และเธอก็ยังต้องเรียนหนังสือ จะสอบแล้วไม่ใช่เหรอ? ไหนจะต้องดูแลน้อง เธอจะเอาเวลาที่ไหนทำงานพิเศษเพื่อหาเงิน?” เขาพยายามใจเย็น เพราะมันคงครั้งแรกของเธอ!
แต่เธอดื้อดึงไม่โต้ตอบ และเขาได้ยินแต่เสียงสะอื้นดังมาจากหลังโซฟาตัวยาว!!
“ฉันไม่ชอบบังคับจิตใจใคร! ไปคิดเอาละกัน! เธอเป็นคนยื่นข้อเสนอมาเอง! และฉันเสียเงินไปแล้ว!”
“ฮืออออ”
“ถ้ามันทรมานใจมากนัก! ก็หาเงินมาคืนฉัน!!” เขาลุกขึ้นยืนอย่างหัวเสีย! ก่อนจะเดินออกจากบ้าน หาทางไปโรงพยาบาลเองละกัน เรื่องเยอะ!
ตอนพิเศษ 2ผมได้ลูกสาว...ตั้งชื่อว่า ‘สกาย’ สกายที่แปลว่าท้องฟ้า เธอเป็นท้องฟ้าของเรา เธอผิวขาว คิ้วเข้ม จมูกโด่ง หน้าตาหน้ารักเหมือนแม่เธอเลยก่อนผมจะมีลูก ผมไม่เคยรู้เลยว่าแม่รักผมขนาดไหน แต่พอมีลูกแล้วผมกลับเข้าใจและยิ่งรักแม่มากขึ้นเท่านั้นการเลี้ยงลูกบอกเลย ตาโบ๋ทุกวันนี้เหมือนคนติดยา! เพื่อนมาเจอต่างก็ไว้อาลัยให้ผม ฮ่า!สกายเธอแสบมาก คึกมาก กลางคืนไม่นอน เช้าหลับปุ๋ย ผมลาพักงานยาวเพราะต้องเลี้ยงลูก ส่วนนุ่นก็ยังคงออกทำงานช่วยครอบครัวเทียนเหมือนเดิมผมบอกให้เธอเลิกทำงาน ผมเลี้ยงเธอได้ แต่เธอบอกว่าเธอไม่อยากอยู่อย่างคนไร้ประโยชน์ ผมก็ตามใจเธอ ตามใจทุกอย่าง!ผมรักนุ่น...ไม่อยากให้เธอต้องอดนอนเพราะเธอต้องเลี้ยงเมฆอีก เลยอาสาดูสกายให้จนตอนนี้ลูกติดมือแล้วผมชอบให้เธอมานอนบนอก เมฆนอนข้าง ๆ ผมรักนุ่นและลูกทั้งสองมาก ๆตอนนี้เมฆกำลังซนมากขนาดที่ว่าพี่เลี้ยงสองคนยังเอาไม่อยู่เดิน วิ่ง เปิดทีวี เปิดน้ำ เปิดทุกอย่าง กั้นคอกไว้ ปีนออกครับ!! ผมให้คนมากั้นคอกสูงถึงเอว นู้นนน แล้วไง ปีนครับปีน!!!การมีลูกก็สนุกไปอีกแบบ ได้เห็นได้อะไรที่ไม่เคยเห็น ได้เรียนรู้การเติบโตของมนุษย์อย่างใกล้ชิด พูดแ
ตอนพิเศษ 1# โรงพยาบาลวันนี้เขาพานุ่นมาตรวจท้อง...คือท้องเธอแข็งเลยรีบพามา นุ่นท้องใหญ่มากเพราะท้องสอง แถมเธอยังตัวเล็กมาก ๆ เขาเห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้ช่วงนี้เธออารมณ์สวิงมาก บางวันเห็นหน้าเขาก็หงุดหงิดแบบด่าตั้งแต่เช้ายันเย็น ใส่เสื้อลายก็บอกไม่ชอบ เสื้อสีพื้นบอกไม่สดใส ใส่ลายทางบอกเด็กเกินไป...จนบางทีเขาหลบไปกรี๊ดกับเมฆอยู่หลังครัว“หมอออกไปไกล ๆ ได้ไหมคะ นุ่นเวียนหัว” นั่นไงครับ แทงหวยไม่ถูกซะแบบนี้“หมอก็อยากอยู่ใกล้ ๆ ปุยนุ่นบ้างนะ”“แต่นุ่นจะอ้วก นุ่นเหม็น!! ออกไป๊!” ผมเดินคอตกออกมานั่งอยู่ที่เทอร์เรซหน้าบ้าน เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ลูกจะออกมาแล้ว พอลูกออกมาแม่จะอารมณ์ปกติเพราะตอนนี้ในท้องเธอมีคนอยู่อีกคน ผมต้องใจเย็น ๆ ผมเข้าใจ นั่งรอเธออารมณ์เย็นไปก็ปาดน้ำตาไป“หมอ!!!” ผมเดินเข้ามาในบ้านตามเสียงเธอเรียก“มานั่งนี่หน่อย...” เธอตบเบาะข้าง ๆ ตัว เธอนั่งอยู่บนโซฟาหน้าทีวี เอาขาพาดไปบนโต๊ะกระจกตรงกลาง ใส่ชุดคลุมท้องสีน้ำตาลอ่อน ท้องเธอใหญ่มาก ๆ จนบางทีผมก็กลัวผมเดินไปหย่อนก้นนั่งตรงข้ามกับเธอ เพราะไม่กล้าจะเข้าใกล้กลัวเธอตวาดตะคอกอีก“เป็นอะไร? ร้องไห้เหรอ?” ผมส่ายหัว“มานี่
บทที่ 45เธอเดินกระฟัดกระเฟียดขึ้นมาบนห้องฟาดใบทะเบียนสมรสลงบนโต๊ะในห้องนอน เขาเดินเข้ามาก่อนจะมาโอบกอดเธอจากทางด้านหลัง เธอแกะมือเขาออก“โอ๋...หมอขอโทษค้าบบบ”“นุ่นอยากจะรู้! นุ่นกินยาแล้วนะ ทำไมนุ่นยังท้อง! ของหมอมันแรงขนาดนี้เลย หรือหมอเล่นตุกติก!!”“เฮ้ยยย ของมันแรงน่า มะ...หมอไม่ได้ทำไรเล๊ยยย”“เสียงสูงมากไป!” “หมอ…”“มะ...หมอแค่...สะ...สลับแผงยาเฉย ๆ เอง”“ว่าแล้ว!!! มีผัวเป็นหมอนี่มันเผลอไม่ได้เลย!! นี่แนะ! หมอจะหลอกอะไรนุ่นอีกไหม! อ๊ายยย อย่า ๆ จั๊กจี้ กรี๊ดดดดด” เธอเอาหมอนฟาดเขาอย่างแรงแต่เขากลับอุ้มร่างเล็กจับทุ่มลงไปบนเตียงนอน ก่อนจะทาบทับลงมา ล็อกแขนทั้งสองข้างเธอไว้เหนือหัว“ปล่อยนะ!”“หมอรักนุ่นนะ...ดีกันแล้วนะ” เธอหันหน้าหนีจมูกโด่งสันที่ซุกไซ้ซอกคอเธอ“หมอ...นุ่นหนัก” เขาไม่หยุดแถมยังแกะกระดุมเสื้อเธออีกด้วย!“หมออ อย่า!” เขาไม่สนใจเสียงเล็กที่ประท้วงอยู่ใต้ร่าง ก่อนริมฝีปากร้อนจะประกบจูบลงมาอย่างดูดดื่ม ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดเข้ามาในโพรงปากอย่างนุ่มนวลชวนฝัน มือหนาบีบเคล้นปทุมถันที่คัดตึง ก่อนเสื้อผ้าเธอจะหลุดออกจากร่างกายตอนไหนก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีเปลือยเปล่าต่อหน้
บทที่ 44ตั้งแต่คุณแม่ท่านกลับไปเธอก็นั่งอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน...มองลูกเล่นของเล่นด้วยน้ำตาที่คลอหน่วย เขาจะมีครอบครัวใหม่ เขากำลังจะทิ้งลูก ทิ้งเธอจริง ๆทุกครั้งที่มีปัญหามันจะเป็นเธอคนเดียวที่ต้องเสียใจ และด้วยตอนนี้ร่างกายเธอย่ำแย่ ไม่ค่อยสบาย..หน้ามืด ไม่มีแรงเลย งานการก็ไปทำไม่ได้“คุณนุ่น...ตั้งโต๊ะเลยไหมคะ?” เธอหันไปมองเก๋ที่เดินมาถาม“ตั้งเลย...กับข้าวอย่างเดียวก็พอ พี่จะขึ้นห้องพักผ่อนแล้ว” เธอดมยาดม “ไปหาหมอไหมคะ ไม่สบายมาอาทิตย์หนึ่งแล้ว” เธอส่ายหัว“ไม่เป็นไร...คงงานเยอะ นอนน้อยสะสม เดี๋ยวก็ดีขึ้น” เธอเดินมาทานข้าวบนโต๊ะอาหาร แต่ทานได้ไม่เยอะ คลื่นไส้เวียนหัวเลยขอตัวขึ้นบ้าน ฝากกิ๊บ เก๋ดูแลตาเมฆแทนเธอนอนพลิกไปพลิกมา นอนไม่หลับพลางกดโทรศัพท์เข้าแอปที่ลงรูป...กดไปเห็นแอ็กเคานต์ของเขา โพสรูป…'อาหารมื้อนี้...ถูกใจที่สุดเลยครับ'เขาเช็กอินที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ ๆ แถวนี้ และถ่ายเป็นรูปอาหารอิตาเลี่ยนบนจาน มีไวน์ขาวตั้งอยู่ด้านขวามือ ตรงข้ามมีคนนั่งอยู่ด้วยถ่ายติดแค่ช่วงอกแต่รู้ว่าเป็นผู้หญิง...กระบอกตาเธอร้อนผ่าว น้ำตาไหลลงมาอย่างอัดอั้น สุดท้ายแล้วคำว่ารักไม่เคยมีอยู่จริง เธอ
บทที่ 43เสียงนกร้องและแสงแดดที่ส่องเข้ามาในห้อง ทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่น ก่อนจะบิดขี้เกียจ เธอขยับตัวแต่รู้สึกเย็นช่วงอก...เลยลืมตาขึ้นอย่างตกใจ! จึงเหลือบมองไปด้านข้าง!! “กรี๊ดดดดดดดด” เขาเท้าแขนตั้งศอกไว้บนที่นอนและนอนมองเธออยู่เธอชันตัวลุกขึ้นก่อนจะรวบผ้าห่มปิดกายไว้ เธอเลิกผ้าห่มผืนใหญ่ดู...โป๊หมดเลย รอยรักสีกุหลาบทั่วหน้าอก!!“สวัสดีตอนเช้าครับคุณภรรยา...” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้นเธอฟาดหมอนใส่ใบหน้าคมคายของเขา เขาหัวเราะและทิ้งตัวลงนอนราบไปที่เตียง เธอดึงผ้าห่มรวบ ๆ มาจะปิดกาย แต่เขากลับใช้เท้าพันแย่งผ้าห่มกันกับเธอ! “ปล่อยนะไอ้โรคจิต!!”“ไม่ปล่อย! จะปล่อยเมียได้ไง!” “ทีเมื่อคืนไม่เห็นบอกให้ผมปล่อยเลย...มีแต่ หมอคะ หมอขาาา” รอยยิ้มมุมปากเด่นชัดพร้อมกับริมฝีปากร้อนที่กดจูบที่หน้าผากมน“อ๊ายยย หยุดพูดเลยนะ!!” เธอทุบไปที่อกแกร่งอย่างแรง“ผมไม่หยุดหรอก! เสียงครางของคุณยังดังอยู่ในหูผมอยู่เลย” เขากระซิบข้างหูเธอด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ“โอ้ยย เลิกพูด! ฉันเมา!! ถือว่าทำทาน!”“โอ้ยย ได้ไง! คุณได้ผมแล้ว ผมยังเจ็บหัว...อยู่เลยเนี่ย ไม่รู้แหละ! คุณต้องรับผิดชอบ!” เธออยากจะเอาเล็บตะกุยห
บทที่ 42ร่างสูงอุ้มเธอมาที่ลานจอดรถ ตอนนี้ไม่มีเด็กรับรถแล้ว และปุยนุ่นเธอทิ้งตัวเลย...มือหนาเปิดประตูรถอย่างยากลำบาก ก่อนจะวางเธอไว้ที่เบาะข้างคนขับและสตาร์ตรถขับกลับบ้านเธอ เราไม่ได้กลับไปรับลูก และจะกลับไปรับอีกทีเช้าเลย...เพราะเขามีเรื่องต้องจัดการกิ๊บ เก๋ได้ยินเสียงรถพากันออกมาเปิดประตู เขาอุ้มเธอขึ้นชั้นสองของบ้าน เธอรู้สึกตัวตื่นโวยวายบอกจะไปรับลูกให้ได้เขาได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย แรงจะยืนยังไม่มี ก่อนจะเอาเธอวางลงที่เตียงนุ่ม และจ้องมองร่างเล็กที่หมดฤทธิ์อยู่ข้างหน้านี้ เห็นตัวเล็ก ๆ หนักเอาเรื่องเหมือนกันกิตให้เด็กรับใช้เอาผ้าชุบน้ำกับชาร้อนมาให้...และไล่พวกเด็ก ๆ ออกไป ก่อนจะจัดการถอดเสื้อผ้าเธอออก และรีบสวมใส่ชุดนอนกลับเข้าไป กลัวเธอจะเป็นหวัด มือหนาบิดผ้าเช็ดตัวผืนเล็กหมาด ๆ และลูบไล้เช็ดให้ไปตามเรียวแขนและขาเรียวที่โผล่พ้นเสื้อผ้าเพียงเท่านั้น“........” ก่อนมือเล็กจะชักกลับไป ดวงตาคมเงยหน้าสบตากับดวงตากระปุกกลมโตที่กะพริบถี่ ๆ “กลับไปได้แล้ว…” ร่างเล็กพลิกตัวหันไปอีกทางพร้อมกับดึงผ้าห่มผืนใหญ่ห่มกายเอาไว้ร่างสูงแทรกตัวเข้าไปในผ้าห่มอย่างใจกล้าหน้าด้า