สนามบินนานาชาติ
หลังจากแยกย้ายกับเฮียต้าร์ที่ทำท่าทางเร่งรีบ ฉันก็ขับรถมาที่สนามบินทันทีด้วยความเร็วตามมาตรฐานบนท้องถนน เพราะถ้าขับตามกฎหมายกำหนดมีหวังโดนคันหลังด่าตายเลย
การขับขี่ที่ไทยจะขับช้าได้ไงเนอะ...
ฉันมองซ้ายมองขวาหาจุดผู้โดยสารขาเข้าแล้วรีบเดินไปยังโซนนั้นเพื่อรอรับเพื่อนสาวคนสนิท ทั้งที่ที่บ้านมีเครื่องบินเจ็ตแต่เมื่อเพื่อนอยากมาเซอร์ไพรส์ฉันก็ไม่ขัด แต่อยากบอกซีมากว่าไม่รู้ใครจะโดนเซอร์ไพรส์มากกว่ากัน เพราะที่บ้านไม่มีคนอยู่เลย
“ซี! ทางนี้ ๆ”
เพียงไม่นานร่างบางสัดส่วนสุดเย้ายวน ในชุดกางเกงสีดำรัดรูปกับเสื้อครอปสีขาวก็เดินตรงมาที่ฉัน พร้อมกางแขนออกกว้าง
หมับ!
“คิดถึงจัง” ฉันโถมตัวกอดไซซีเต็มแรงโดยที่คนตัวบางพอกันเซเล็กน้อย
“คิดถึงเหมือนกันกว่าจะขอแม่ได้” ไซซีตอบเสียงอู้อี้พลางซบหน้ากับไหล่ของฉัน แหงแหละลูกสาวที่ดูแลมาอย่างดีจะขอย้ายมาเรียนที่ต่างประเทศ ถึงจะมาอยู่บ้านตัวเองก็อดห่วงไม่ได้หรอก
“อาซาร่าคงเป็นห่วงแกแหละ” ฉันผละออกจากอ้อมกอดก่อนจะช่วยถือกระเป๋าสะพายหนึ่งใบ พร้อมกับสำรวจเพื่อนไปด้วยทั่วทั้งร่างมีกระเป๋ามาแค่สองใบ
“แม่ก็ห่วงเกินไง ฉันโตแล้วนะ”
“ในสายตาผู้ใหญ่เรายังเด็กต่างหาก...แล้วนี่ทั้งตัวมีกระเป๋าแค่สองใบเหรอ”
“อือ...จะถือมาทำไมเยอะ ค่อยมาซื้อเอาใหม่ที่นี่ก็ได้ ยังต้องใช้ชีวิตอยู่อีกนาน”
“เออจริงด้วย งั้นกลับไปพักที่บ้านเลยไหม หรืออยากไปไหน”
“ไปห้างก่อนไหม อยากได้ชุดมาไว้ใส่”
“โอเคงั้นไปที่รถกัน” ฉันกอดแขนไซซีแน่นก่อนจะเดินควงแขนกันไปยังลานจอดรถที่อยู่ไม่ไกลนัก และขับรถออกจากสนามบินโดยจุดมุ่งหมายคือห้างสรรพสินค้าสุดหรูแถวบ้านของฉันเอง
ห้างสรรพสินค้า
ร่างบางทั้งสองเดินคุยกันกะหนุงกะหนิงเข้าไปในร้านเสื้อผ้าแบรนด์หรู โดยมีผู้จัดการออกมาต้อนรับเมื่อเห็นหนึ่งในนั้นคือหลานสาวตระกูลดัง และเป็นลูกค้าประจำของร้าน
“คุณซินเซียสวัสดีค่ะ...วันนี้สนใจแบบไหนดีคะ เมื่อวานมีเดรสเข้าใหม่อยู่อีกโซน ถ้าสนใจเอ๋จะพาไปดูค่ะ” ผู้จัดการสาวสวยออกมาต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ทำให้ซินเซียยกยิ้มและหันไปถามไซซี
“สนใจไหมคุณหนูไซซี” เพราะว่าเธอไม่ค่อยถนัดกับการใส่เดรสเท่าไร อยู่บ้านจะชอบใส่กางเกงมากกว่า แต่ไม่ใช่ไม่มีชุดเดรสนะ ก็มีติดตู้ไว้บ้าง ต่างกับไซซีรายนี้ชอบใส่เสื้อผ้าหลากหลายแบบ
“เอาสิ อยากดูคอลเลกชันใหม่พอดี” สาวสวยเรือนผมสีดำตรงยาวเอ่ยตอบซินเซีย
“ค่ะ พี่เอ๋พาซินไปดูหน่อยนะคะ”
“ได้ค่ะเชิญทางนี้เลยค่ะ”
ร่างบางเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนจูงมือเพื่อนสนิทอย่างไซซีไปยังโซนที่มีชุดเดรสเข้าใหม่ เมื่อมีเพื่อนเลือกทั้งสองก็สนุกสนานกับการลองชุดมาก โดยเฉพาะไซซีที่จับชุดต่าง ๆ ยัดใส่มือซินเซียให้ไปลองและซื้อกลับ
“ส่งไปที่บ้านเลยนะคะพี่เอ๋” เมื่อรูดบัตรเสร็จสิ้นหลานสาวตระกูลดังก็เอ่ยกับผู้จัดการร้านและขอตัวออกไปเดินเล่นต่อ
“อยากไปเล็มหน้าม้าจังไปเป็นเพื่อนหน่อยได้ไหม” สาวสวยเรือนผมสีดำอย่างไซซีหันมาเอ่ย เมื่อความยาวของผมหน้าม้าเริ่มทิ่มตาเธอ
“ไปร้านประจำฉันก็ได้ อยากทำผมด้วย”
“ทำผม...แกเหรอ ทำทรงไร?”
“อยากย้อมสีผม แต่ขอไปเทียบสีผมที่ร้านดูก่อน ว่าจะเข้ากับสีไหน”
“อ๋อ...โอเค”
เมื่อไปถึงร้านทำผมเจ้าประจำฉันก็จัดการส่งเพื่อนให้กับพี่บีช่างทำผมคนสวยทันที ส่วนตัวเองก็มาเลือกสีผมกับเจ๊แมนสาวสองที่เป็นเจ้าของร้าน เมื่อเลือกสีได้ฉันก็เดินไปบอกไซซีไว้เพราะคงใช้เวลาหลายชั่วโมง กลัวรอนานเลยจะให้เรียกคนขับรถมารับที่ห้าง
“ไม่เป็นไรฉันรอแกได้...ว่าแต่สีอะไร”
“ทำสีบลอนด์เทาน้ำตาล”
“สีอะไรนะ!”
“บลอนด์เทาน้ำตาล” ฉันเอ่ยย้ำอีกครั้งท่ามกลางสายตาสงสัยของเพื่อน
“ชื่อยาวจัง เอาเป็นว่ารอชม”
“อือ...รอตรงนี้นะ แต่ถ้าอยากพักก็โทรเรียกคนขับรถที่บ้าน” ฉันบอกอีกครั้งก่อนจะเดินไปโซนย้อมผม ส่วนไซซีก็พยักหน้ารับ รอไปสักพักก็ได้ยินเสียงเพื่อนคุยกับพนักงานว่าจะทำเล็บ
แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย…
ผ่านไปนานนับหลายชั่วโมง มาถึงร้านทำผมบ่ายสามโมงจนตอนนี้สองทุ่มแล้ว ฉันได้สีผมถูกใจมาก ระหว่างมองตัวเองในกระจกก็ฉีกยิ้มออกมา เพราะเงาที่สะท้อนภาพตัวเองมันดูดีขึ้นจริง ๆ แต่ก่อนผมสีน้ำตาลก็ไม่ใช่ไม่สวย มันก็สวยแต่ดูหน้าเด็กไป พอทำผมสีอ่อนแบบนี้แล้วดูเป็นสาวขึ้น
“เข้ากับแกมาก”
“ใช่ไหม ฉันก็คิดแบบนั้นแหละ”
ไซซีที่ทำเล็บเสร็จเดินมาหาฉันพร้อมเอ่ยชมไม่ขาดปาก
“สวยมากน้องซินเซีย”
“ขอบคุณค่ะ เพราะเจ๊แมนเนรมิต”
“ว้าย! พูดอีกก็ถูกอีก...ว่าแต่วันนี้นึกว่าจะพาหนุ่มมาด้วยซะอีก” เจ๊แมนทำท่าทางดี๊ด๊าก่อนจะถามถึงสายฟ้าเพราะปกติฉันจะชอบชวนเขามาด้วย
ก็ฉันไม่มีเพื่อนผู้หญิงนี่นา…
“ใครเหรอ?” แต่ดันลืมไปว่าไซซีก็ไม่รู้จักสายฟ้า เธอหันมามองพร้อมทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ทันที
“เพื่อน”
“เจ๊ว่าไม่ใช่เพื่อนแน่นอนฟันธง”
“ใช่ เพื่อนที่ไหนจะมานั่งรอกันแบบนี้”
“เพื่อนสนิทไง” ฉันเถียงคอเป็นเอ็นเมื่อโดนเพื่อนและเจ๊แมนพยายามไล่ต้อนแซวไม่เลิก อยากจะบอกว่าก็ไม่คิดว่าเพื่อนแหละ อยากให้เป็นมากกว่านั้น
“เพื่อนก็เพื่อน...” ไซซีตัดบทแต่ยังยกยิ้มไม่เลิกทำเอาฉันหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที อารมณ์แบบโดนเพื่อนรู้ความลับเนี่ยเป็นจังหวะที่นรกมากนะ
“แล้วนี่สาว ๆ จะไปไหนต่อไหม อุตส่าห์ทำผมสวยกันขนาดนี้” เจ๊แมนเอ่ยถามพลางมองฉันสลับกับไซซี
“คงกลับบ้านค่ะ” ไซซีตอบ
“เป็นเจ๊ไม่กลับค่ะ แวะผับเลย สวยแบบนี้ต้องออกไปเฉิดฉายนะลูก” เจ๊แมนจีบปากจีบคอต่อทำให้ฉันรู้สึกอยากไปขึ้นมา ทั้งที่เมื่อเช้ายังบ่นสายฟ้าอยู่เลย
“พูดแบบนี้อยากไปเลยค่ะ” ไซซีเริ่มละ ฉันมองท่าทางเบิกบานของเพื่อนแล้วคิดว่าคืนนี้ได้พากันหนีเที่ยวแน่
“แต่อายุไม่ถึงพี่แมน” ฉันหันไปตอบพี่สาวสอง แต่ความหมายคือมีที่แนะนำไหมคะ
“โอ๊ย สกายผับเลยลูกเจ้าของเส้นใหญ่” เจ๊แมนมองซ้ายมองขวาท่าทางแบบลับเฉพาะกิจมาก ก่อนจะโน้มหน้าลงมากระซิบ
“...”
“แล้วที่นี่การ์ดเยอะดูแลดี ที่สำคัญผู้หล่อ”
“จริงเหรอคะ” ไซซีหูผึ่งทันที
“ใช่ค่ะคนสวย ไปลองเลย แนะนำแล้วจะติดใจ”
“ไปไหมซิน?” ไซซีมองมาที่ฉันตาเป็นประกาย เห็นท่าทางแบบนี้ฉันจะปฏิเสธทำไม ไปก็ไปสิ ที่จริงฉันเป็นคนที่ดื้อคนหนึ่งเลยนะ แต่แค่ไม่มีเพื่อนดื้อน่ะ พอไซซีมาฉันก็พร้อมที่จะแหกตัวเองออกจากกรอบ
“ไปก็ไป”
“เย่ งั้นคืนนี้เราหนีเที่ยวกันเถอะ!!” เพื่อนสาวตัวแสบเอ่ยอย่างดีใจ ก่อนจะกดหน้าลงมาจุ๊บแก้มของฉันเบา ๆ ถ้ายัยนี่มีแฟนนะ ให้ตายแฟนก็ไปไหนไม่รอด
“งั้นขึ้นหน้าที่ร้านเลยนะ เดี๋ยวให้พนักงานมาดูแล”
“แหม ไม่ค่อยจะรีบเลยนะเจ๊ นี่เจ้าของร้านหรือแก๊งรีดไถ”
“รีดไถ...อุ๊ย ช่างทำผมค่ะ...นี่เด็ก ๆ มาช่วยแต่งหน้าให้สองสาวหน่อยเร็ววว”
ไม่นานบรรดาช่างที่กำลังเตรียมตัวเก็บร้านเป็นอันต้องสลายตัว เมื่อเจอเจ๊แมนสั่งให้มาช่วยแต่งหน้าให้ฉันและไซซี จนผ่านไปเป็นชั่วโมง ก่อนจะขึ้นไปเปลี่ยนชุดที่ชั้นบนของร้าน ดีนะที่แวะซื้อเสื้อผ้าก่อน เราสองคนเลยได้ชุดเดรสสวย ๆ ใส่ไปเที่ยว
สรุปวันนี้ทั้งวันยังไม่กลับบ้านแต่เที่ยวต่อ ฉันไม่เท่าไรนะ แต่ยอมใจยัยไซซีเลย พลังงานเยอะเหมือนหมาตัวโต!!
“เอาเหล้าอะไรดี” “อะไรก็ได้ที่แรง ๆ”ร่างบางเอ่ยถามร่างสูงเมื่อทั้งคู่เดินมาถึงบาร์ ทำให้ไซซีที่นั่งข้างซินเซียชะโงกหน้ามาดูว่าใครที่เพื่อนพามาด้วย ก่อนนัยน์ตาคู่สวยของสาวฮอตจะเบิกกว้าง ยกมือขึ้นมาปิดปากและหันไปกระซิบกับเพื่อนเบา ๆ“หล่อมาก เอาเลย!” ซินเซียกลอกตามองบนทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซซีพูด“ชอบก็เอาเองสิ”“ไม่ใช่สเป็ก อีกอย่าง...เขาดูชอบแก”“รู้ได้ไง...”“จะกระซิบกันอีกนานไหม” เสือปรายตามองสองสาวที่เอาแต่คุยกันไม่สนใจเขา อีกคนเขาไม่สนหรอกแต่คนที่เขาเล็งไม่ควรเมินเขาขนาดนี้“ขอโทษทีค่ะ...พอดีไม่ถนัดคุยกับคนแปลกหน้า” ซินเซียฉีกยิ้มก่อนจะหยิบแก้วเหล้าที่บาร์เทนเดอร์ชงมาวางตรงหน้าเขา“ไม่ดื่ม?” ร่างสูงถามย้อนเมื่อเห็นเธอเอาแต่กอดอกทำหน้ามุ่ย“ดื่มค่ะดื่ม” เธอเลยจำต้องยกโดยที่ไม่รู้ว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์มันแรงขนาดไหน ผ่านไปไม่นานสมองก็เริ่มมึนเบลอและนิสัยบางส่วนเริ่มเปิดเผยออกมาไซซีแม้จะจิบไวน์เธอก็เมาเหมือนกัน ใบหน้าสวยแดงก่ำแต่ก็พยายามมองเพื่อนบ้าง มองบรรยากาศบ้าง จนมาสะดุดกับใครคนหนึ่งที่ยืนกอดอกตรงต้นเสาหมับ!“จะไปไหน...” ซินเซียคว้าหมับเข้าที่แขนเพื่อนเมื่อเห็นไซซีกำลังจะเดิน
แกร๊ก!หลังจากเวิ่นเว้ออยู่นานฉันก็เปิดประตูออกมา เจอผู้หญิงคนหนึ่งจิกตามองแรงใส่ก่อนจะเบียดตัวเพื่อเข้าห้องน้ำ ถ้าเป็นเวลาปกติก็คงมีน้ำลายแล้ว แต่รู้ตัวดีว่าตัวเองผิดส่วนหนึ่งที่ไม่เร่งรีบในที่สาธารณะ“โอ๊ะ ขอโทษค่ะ”เดินพ้นห้องน้ำไม่ทันไรก็ชนเข้ากับใครบางคนแล้ว เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบกับแผงอกแข็งแกร่ง แม้มีเสื้อยืดสีดำกั้นกลางแต่ฉันก็สัมผัสได้ว่ามันคงจะแข็งและแน่นมากทีเดียวคิดอะไรลามกอีกแล้ว!“หึ ทีหลังก็มองทางบ้าง”“ค่ะ”เสียงหึในลำคอทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นเพื่อจะมองคนตรงหน้า แต่ไม่คาดว่าเขาก็กำลังก้มมองฉันอยู่ทำให้เราสบตากันโดยบังเอิญ คนที่ภูมิต้านทานเสน่ห์และหน้าตาของผู้ชายต่ำอย่างฉันอดกลืนน้ำลายไม่ได้ใบหน้าได้รูปคิ้วเข้มทรงกระบี่ นัยน์ตาสีดำคมดุรับกับจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางสีนู้ด สันกรามคมชัดเห็นแล้วอยากลองลูบ ผู้ชายคนนี้อันตรายมาก เขาหล่อเกินไปดูมีออร่าของความหล่อ ถ้าให้พูดแบบภาษาตัวแม่คือเขาโพผัวมาก“มองแบบนี้ระวังน้ำลายหก”“ฮ้า...”ใบหน้าของเขาเรียบเฉยแต่มุมปากยกยิ้มอย่างถือดี ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบเพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งฉันที่ทำสีหน้าช็อกกับความมั่นหน้าของเขาคนอะไรมั่นขนาดนี
(ต่อ)“อ่า...มันจะถอยรถใหม่เหรอ แล้วทำไมต้องไปกันสามคนพร้อมกันเลย” แม้แต่ไฟยังสงสัย เพราะวันนี้มีนัดกันทั้งกลุ่ม แต่พวกมันสามพี่น้องดันหายหัว ที่ต้องเรียกสามพี่น้องเพราะทั้งโซ่ ต้าร์ และนักรบเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน“กูไม่รู้ ค่อยถามพวกมัน” ไนต์เองก็ไม่รู้ว่าทำไม ปกติถ้าอยากได้รถใหม่ก็แค่สั่งจองไม่เคยเห็นพวกมันบินไปดูเองเลย“เสียเที่ยวเลยวันนี้ แทนที่กูจะได้ไปเดตกับน้องมินการบิน” เพทายบ่นอุบอิบเพราะอยากเจอเพื่อนเลยเทนัดสาว“มึงก็แค่เรียกเด็กมาข้างบน” ไฟเสนอทางออกให้คนเร้าหรืออยากไปกับสาว“มาผับขนาดนี้หาสาว ๆ สวย ๆ คนใหม่ดีกว่า กูจะเรียกเด็กเก่า ๆ มาทำไม”“งั้นก็อย่าบ่น!” เสือปรายตามองเพทายที่เอาแต่งอแงและบ่นสามพี่น้องที่ผิดนัด ไม่มีใครชอบแต่พวกมันก็ทักมาขอโทษแล้ว แม้จะยกเลิกนัดไม่ทันก็ตามนัยน์ตาคมดุยกแก้วขึ้นจิบด้วยท่าทีเรียบเฉย สายตามองเมินสาวสวยโต๊ะข้างเคียงไปจนเธอหน้าชา เพราะเพื่อนในกลุ่มอยากให้เธอลองจีบเขาดู ผู้ชายที่ดูดุร้ายแต่เร่าร้อน ทว่าเมินขนาดนี้เธอก็ไม่กล้าไปต่อแล้วกึก!เสือกระแทกแก้วลงกับโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นเดินไปยืนมองบรรยากาศคึกคักตรงระเบียงชั้นสอง สายตาราวเสือกำลังจ้องตะครุบ
Sky Pub 21.00 น.“คนเยอะมาก” ฉันกระซิบกับไซซี เราสองคนขับรถยนต์มาเอง คันนี้เป็นรถออดี้ของเฮียโซ่ เพราะฉันยังไม่มีรถส่วนตัว แต่ป๊าสัญญาแล้วว่าเข้ามหา’ลัยจะซื้อคันใหม่ให้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่ารุ่นไหนเหมือนกัน ฉันเป็นคนไม่เรื่องมาก อะไรก็ได้“เยอะดิ นี่มาเที่ยวผับนะ”“เอ้า จะรู้ไหมไม่เคยมา ทำอย่างกับตัวเองเคยไป” ฉันค่อนขอด“ไม่เคยอะ ฮ่า ๆ” “เออ แล้วเจ๊แมนแกบอกให้เดินไปหาการ์ดที่ใส่กำไลข้อมือสีแดงแล้วยัดทิปให้” ฉันหันไปบอกไซซีก่อนจะควักเงินใบเทาออกมาจากกระเป๋าแบรนด์หรูของตัวเอง“แล้วใครจะยัด”“ฉันเอง...ไปกันเถอะ” มือบางคว้าแขนเพื่อนสาวเข้าไปกอด ก่อนจะเดินตรงดิ่งไปยังหน้าสถานบันเทิงที่เต็มไปด้วยผู้คน และเป้าหมายของเธอก็คือการ์ดที่มีกำไลข้อมือตามที่เจ้าของร้านทำผมบอก“ขอบัตรด้วยครับ” “นี่ค่ะ...” ซินเซียยัดบัตรประชาชนของตัวเองและไซซีให้กับการ์ดพร้อมทิปที่พับเรียบร้อย ยัดเข้าด้านล่างบัตรไปอีกทีโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เธอฉีกยิ้มสดใสให้กับการ์ดที่เหลือบตามามอง เมื่อสัมผัสถึงอะไรบางอย่างในอุ้งมือ ก่อนจะยื่นบัตรคืนให้สองสาวและพยักหน้าให้กับเพื่อนทั้งคู่เดินเข้ามาในผับด้วยท่าทีสบายใจ เพียงก
สนามบินนานาชาติ หลังจากแยกย้ายกับเฮียต้าร์ที่ทำท่าทางเร่งรีบ ฉันก็ขับรถมาที่สนามบินทันทีด้วยความเร็วตามมาตรฐานบนท้องถนน เพราะถ้าขับตามกฎหมายกำหนดมีหวังโดนคันหลังด่าตายเลยการขับขี่ที่ไทยจะขับช้าได้ไงเนอะ...ฉันมองซ้ายมองขวาหาจุดผู้โดยสารขาเข้าแล้วรีบเดินไปยังโซนนั้นเพื่อรอรับเพื่อนสาวคนสนิท ทั้งที่ที่บ้านมีเครื่องบินเจ็ตแต่เมื่อเพื่อนอยากมาเซอร์ไพรส์ฉันก็ไม่ขัด แต่อยากบอกซีมากว่าไม่รู้ใครจะโดนเซอร์ไพรส์มากกว่ากัน เพราะที่บ้านไม่มีคนอยู่เลย“ซี! ทางนี้ ๆ” เพียงไม่นานร่างบางสัดส่วนสุดเย้ายวน ในชุดกางเกงสีดำรัดรูปกับเสื้อครอปสีขาวก็เดินตรงมาที่ฉัน พร้อมกางแขนออกกว้างหมับ!“คิดถึงจัง” ฉันโถมตัวกอดไซซีเต็มแรงโดยที่คนตัวบางพอกันเซเล็กน้อย“คิดถึงเหมือนกันกว่าจะขอแม่ได้” ไซซีตอบเสียงอู้อี้พลางซบหน้ากับไหล่ของฉัน แหงแหละลูกสาวที่ดูแลมาอย่างดีจะขอย้ายมาเรียนที่ต่างประเทศ ถึงจะมาอยู่บ้านตัวเองก็อดห่วงไม่ได้หรอก“อาซาร่าคงเป็นห่วงแกแหละ” ฉันผละออกจากอ้อมกอดก่อนจะช่วยถือกระเป๋าสะพายหนึ่งใบ พร้อมกับสำรวจเพื่อนไปด้วยทั่วทั้งร่างมีกระเป๋ามาแค่สองใบ“แม่ก็ห่วงเกินไง ฉันโตแล้วนะ”“ในสายตาผู้ใหญ่เร
ตึก ตึก เสียงฝีเท้าวิ่งสะเปะสะปะไปมาอย่างไม่รู้ทิศรู้ทางว่าควรจะไปที่ไหน รู้แค่ว่าเธอต้องหนี ภายใต้ความมืดมิดมีเพียงแสงสีทองจากดวงจันทร์และหมู่ดาวคอยนำทางเท่านั้นโฮก ~เงาร่างดำทะมึนกำลังไล่ตามมาพร้อมเสียงคำรามดังลั่น ทำเอาร่างบางตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว“กรี๊ดดดดดด” เธอร้องอย่างตกใจเมื่อเงาดำที่ไล่ตามมากระโดดข้ามหัวและดักทางเธอไว้ ลายพาดกลอนสีดำตลอดทั้งลำตัวที่ปกคลุมด้วยขนสีเหลืองส้ม ทำให้เธอหน้าซีดตัวชาและก้าวขาไม่ออก“อย่าเข้ามานะ” แม้จะกลัวแต่ก็ยังมองจ้องตาสัตว์ร้ายไว้ตลอด เพราะจะทำให้พวกมันไม่กล้าผลีผลามเข้ามาใกล้ แต่เธอก็ต้องขมวดคิ้วทันทีเมื่อมันมองจ้องกลับอย่างไม่ลดละ มันเดินเข้ามาใกล้และกระโดดเข้าใส่เธอทันทีโฮกกกกก ~“กรี๊ดดดดดด”ติ๊ด ติ๊ด“ฝันเหรอเนี่ย…ทำเอาใจหายใจคว่ำหมดเลย” ฉันพึมพำกับตัวเองหลังจากตื่นขึ้นมาในห้องนอนกว้าง เพราะเสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงฉันเอื้อมมือไปหยิบมือถือข้างเตียงเพื่อเข้าโซเชียล ก่อนจะพบข้อความของใครบางคนที่ทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมาสายฟ้า : ถึงบ้านแล้ว ฝันดีนะเขาไม่ใช่แฟน ไม่ใช่คนรัก แต่เราเป็นเพื่อนสนิทกัน รู้จักกันตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมปลายคน