Sky Pub
21.00 น.
“คนเยอะมาก”
ฉันกระซิบกับไซซี เราสองคนขับรถยนต์มาเอง คันนี้เป็นรถออดี้ของเฮียโซ่ เพราะฉันยังไม่มีรถส่วนตัว แต่ป๊าสัญญาแล้วว่าเข้ามหา’ลัยจะซื้อคันใหม่ให้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่ารุ่นไหนเหมือนกัน ฉันเป็นคนไม่เรื่องมาก อะไรก็ได้
“เยอะดิ นี่มาเที่ยวผับนะ”
“เอ้า จะรู้ไหมไม่เคยมา ทำอย่างกับตัวเองเคยไป” ฉันค่อนขอด
“ไม่เคยอะ ฮ่า ๆ”
“เออ แล้วเจ๊แมนแกบอกให้เดินไปหาการ์ดที่ใส่กำไลข้อมือสีแดงแล้วยัดทิปให้” ฉันหันไปบอกไซซีก่อนจะควักเงินใบเทาออกมาจากกระเป๋าแบรนด์หรูของตัวเอง
“แล้วใครจะยัด”
“ฉันเอง...ไปกันเถอะ”
มือบางคว้าแขนเพื่อนสาวเข้าไปกอด ก่อนจะเดินตรงดิ่งไปยังหน้าสถานบันเทิงที่เต็มไปด้วยผู้คน และเป้าหมายของเธอก็คือการ์ดที่มีกำไลข้อมือตามที่เจ้าของร้านทำผมบอก
“ขอบัตรด้วยครับ”
“นี่ค่ะ...”
ซินเซียยัดบัตรประชาชนของตัวเองและไซซีให้กับการ์ดพร้อมทิปที่พับเรียบร้อย ยัดเข้าด้านล่างบัตรไปอีกทีโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เธอฉีกยิ้มสดใสให้กับการ์ดที่เหลือบตามามอง เมื่อสัมผัสถึงอะไรบางอย่างในอุ้งมือ ก่อนจะยื่นบัตรคืนให้สองสาวและพยักหน้าให้กับเพื่อน
ทั้งคู่เดินเข้ามาในผับด้วยท่าทีสบายใจ เพียงก้าวเท้าเข้าไปซินเซียก็หรี่ตาลงทันทีเพราะแสงสปอตไลต์ที่สาดส่องทั่วทั้งร้าน
ซินเซียในชุดเดรสสายเดี่ยวสีดำสั้นตัดกับเรือนผมสีบลอนด์ขับผิวขาว ใบหน้าสวยหวานและจมูกเชิดดูเป็นคนดื้อเงียบ เธอกวาดสายตามองหาโต๊ะว่างก่อนจะเห็นว่าที่บาร์ยังว่าง เลยคว้าแขนของไซซีที่อยู่ในเดรสสีดำปักเลื่อมทองเดินไปด้วยกัน
เพียงการปรากฏตัวของพวกเธอก็สามารถดึงดูดความสนใจของใครหลายคนให้หันมามองได้ไม่ยาก โดยเฉพาะสาวสวยผมสีดำขลับไว้หน้าม้าและดัดลอนผม เพราะมีเชื้อสายยุโรปทำให้รูปร่างสัดส่วนเย้ายวนใจ หน้าอกอวบอิ่มคัพดีรับกับเอวคอดและสะโพกผาย เป็นหุ่นที่ชวนฝันมากเลยทีเดียว
“รับอะไรดีครับ”
เมื่อมาถึงบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อก็เอ่ยถามสาวสวยทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร แต่ทำเอาซินเซียหันขวับไปมองเพื่อนอย่างไซซีทันที เธอไม่รู้ว่าต้องสั่งอะไรไม่เคยกิน แต่ไซซีก็ยิ้มหวานให้ทว่าสายตาคือไม่รู้เหมือนกัน ทำเอาสาวสวยผมบลอนด์แทบกุมขมับ ก่อนจะยิ้มให้บาร์เทนเดอร์และเอ่ยให้เขาแนะนำ
“ช่วยแนะนำหน่อยได้ไหมคะ...ที่นี่อะไรเด็ด พอดีพึ่งเคยมาครั้งแรก” แม้จะไม่เคยแต่ก็ต้องทำตัวให้ทันโลกเข้าไว้ ไม่อยากให้คนรู้ว่าไม่เคยดื่ม แต่บาร์เทนเดอร์หนุ่มกลับตีความไปอีกแบบ เขาแค่นหัวเราะก่อนจะเอ่ยตอบสาวสวย
“ถ้าถามว่าอะไรเด็ด คงต้องบอกว่าที่นี่ไม่มีอะไรเด็ดเท่าผมแล้วละครับ” เขาหยอดมุกไปหนึ่งทีก่อนจะขยิบตาให้กับสองสาว โดยที่ไซซีเห็นก่อนจึงเริ่มเมินหน้าหนีทำเป็นมองบรรยากาศ ส่วนซินเซียแข็งค้างไปแล้วก่อนจะตอบออกไปว่า
“ไวน์ดีกว่าค่ะ...อะไรเด็ด ๆ ท่าจะไม่มี” ซินเซียยิ้มแห้งก่อนจะตัดบทให้บาร์เทนเดอร์หนุ่ม เขาจึงเดินไปจัดการเตรียมเครื่องดื่มตามที่สั่ง แม้จะเก็บเศษหน้าแทบไม่ทันก็ตาม
“เป็นไงมาครั้งแรก เจอทีเด็ดบาร์เทนเดอร์เลย” ซินเซียเอียงหน้าไปกระซิบกับไซซีที่นั่งกอดอกอยู่
“ผู้ชายก็แบบนี้เห็นคนสวยหน่อยเป็นไม่ได้ ถ้าไม่โดนดับมั่นคงหยอดไม่พักแน่” ไซซีส่ายหัวเพราะเธอเกลียดผู้ชายแบบนี้มาก เธอชอบแบบนิ่งสุขุมและไม่เจ้าชู้ สเป็กเลย
ซินเซียพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะมองบรรยากาศรอบข้างอีกครั้ง ตอนนี้ที่ร้านเหมือนจะเป็นดนตรีสดขึ้นแสดง แต่บางคนก็เหมือนจะเมาแล้ว
สกายผับตั้งอยู่แถวมหา’ลัยแอลและเหมือนเธอจะคุ้นจากที่ไหนแต่นึกไม่ออก ทั้งที่ตัวเองก็ไม่เคยมาจะไปคุ้นได้ยังไง
“เครื่องดื่มได้แล้วครับ” เสียงสดใสของบาร์เทนเดอร์หนุ่มดังขัดจังหวะความคิด ซินเซียเลยพยักหน้ารับ ก่อนจะยกไวน์ขึ้นมาจิบพลางมองบรรยากาศไปด้วย
“ระวังเมา” ไซซีหันมาบอกทั้งที่ตัวเองยกจนหมดแก้ว
“บอกใคร ฉันหรือแก”
“บอกตัวเอง ฮ่า ๆ” ไซซีว่าพลางหัวเราะ
“เออ ระวังเมา ไม่งั้นได้ทิ้งตัวทั้งฉันทั้งแกน่ะ”
“เรียกที่บ้านมารับ”
“เออ”
ชั้นสองโซน VIP มีชายหนุ่มสี่คนนั่งอยู่ในห้อง ร่างสูงโปร่งในเสื้อยืดสีดำดูธรรมดา แต่ใบหน้ากลับไม่ธรรมดาเลย คิ้วกระบี่เฉียงขึ้นรับกับนัยน์ตาคมดุ ดูหล่อร้ายขึ้นมากเมื่อใบหน้าของเขาปราศจากรอยยิ้ม สมฐานะตำแหน่งหนุ่มฮอตอันดับสามของมหา’ลัยแอล
เสือ สิงหราช อัศวเหมนนสกุล
อายุ 22 ปี คณะวิศวกรรมเครื่องกล ปี 4
เขานั่งหมุนแก้วไปมาอย่างเบื่อหน่าย มองบรรยากาศแสงสีที่ไม่ต่างไปจากเดิมมากนัก แต่ก่อนก็มากับเพื่อนบ่อยแต่หลังจากไปฝึกงาน นี่เป็นครั้งแรกที่นัดรวมตัวกัน เพียงแต่คนที่ควรมาถึงก่อนใครอย่างต้าร์ กลับไม่เห็นหัวรวมถึงโซ่กับนักรบด้วย
“สรุปพวกมันไปไหน”
หนุ่มหล่อเหลานัยน์ตาทรงเสน่ห์และมีออร่าเหมือนพระเอกซีรีส์ เอ่ยถามเพื่อนในกลุ่มอย่างสงสัย หลังจากชงเหล้าให้เพื่อนครบทุกคนแล้ว เขาคือ เพทาย หนุ่มฮอตอันดับสี่ของมหา’ลัยแอล และเรียนวิศวะเหมือนเสือแต่คนละสาขา
“ไม่รู้ อาจจะไปทำงานให้พวกเฮียมันเหมือนอย่างเคยนั่นแหละ”
ชายหนุ่มใบหน้าเรียบนิ่ง เรือนผมสีน้ำตาลทองและเจาะหูสองข้างพูดขึ้นมา พลางยกแก้วขึ้นจิบ เขาคือ ไฟ หนุ่มฮอตอันดับเจ็ดของมหา’ลัยแอล เรียนวิศวะเครื่องกลสาขาเดียวกับเสือ
“ไม่น่าใช่...”
เสียงเรียบนิ่งเอ่ยออกมาทำให้สายตาทุกคู่ในห้องหันไปมองอย่างพร้อมเพรียง เรือนผมสีดำตัดกับใบหน้าเรียบเฉยทำให้ดูร้ายกาจ ยิ่งผสานกับการแต่งตัวและรอยสักที่แขนยิ่งเสริมให้ดิบเถื่อน เขาคือ ไนต์ หนุ่มฮอตอันดับแปดของมหา’ลัยแอล ชายผู้รักสงบไม่สนใจจะวุ่นวายกับใครเท่าไร แต่ถ้าเป็นเรื่องเพื่อนเขาพร้อมลงสนาม
“มึงรู้ได้ยังไง” เพทายขมวดคิ้วสงสัย
“ได้ยินไอ้ต้าร์บอกงานเสร็จแล้ว แต่เหมือนจะบินไปดูรถ”
“เอาเหล้าอะไรดี” “อะไรก็ได้ที่แรง ๆ”ร่างบางเอ่ยถามร่างสูงเมื่อทั้งคู่เดินมาถึงบาร์ ทำให้ไซซีที่นั่งข้างซินเซียชะโงกหน้ามาดูว่าใครที่เพื่อนพามาด้วย ก่อนนัยน์ตาคู่สวยของสาวฮอตจะเบิกกว้าง ยกมือขึ้นมาปิดปากและหันไปกระซิบกับเพื่อนเบา ๆ“หล่อมาก เอาเลย!” ซินเซียกลอกตามองบนทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซซีพูด“ชอบก็เอาเองสิ”“ไม่ใช่สเป็ก อีกอย่าง...เขาดูชอบแก”“รู้ได้ไง...”“จะกระซิบกันอีกนานไหม” เสือปรายตามองสองสาวที่เอาแต่คุยกันไม่สนใจเขา อีกคนเขาไม่สนหรอกแต่คนที่เขาเล็งไม่ควรเมินเขาขนาดนี้“ขอโทษทีค่ะ...พอดีไม่ถนัดคุยกับคนแปลกหน้า” ซินเซียฉีกยิ้มก่อนจะหยิบแก้วเหล้าที่บาร์เทนเดอร์ชงมาวางตรงหน้าเขา“ไม่ดื่ม?” ร่างสูงถามย้อนเมื่อเห็นเธอเอาแต่กอดอกทำหน้ามุ่ย“ดื่มค่ะดื่ม” เธอเลยจำต้องยกโดยที่ไม่รู้ว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์มันแรงขนาดไหน ผ่านไปไม่นานสมองก็เริ่มมึนเบลอและนิสัยบางส่วนเริ่มเปิดเผยออกมาไซซีแม้จะจิบไวน์เธอก็เมาเหมือนกัน ใบหน้าสวยแดงก่ำแต่ก็พยายามมองเพื่อนบ้าง มองบรรยากาศบ้าง จนมาสะดุดกับใครคนหนึ่งที่ยืนกอดอกตรงต้นเสาหมับ!“จะไปไหน...” ซินเซียคว้าหมับเข้าที่แขนเพื่อนเมื่อเห็นไซซีกำลังจะเดิน
แกร๊ก!หลังจากเวิ่นเว้ออยู่นานฉันก็เปิดประตูออกมา เจอผู้หญิงคนหนึ่งจิกตามองแรงใส่ก่อนจะเบียดตัวเพื่อเข้าห้องน้ำ ถ้าเป็นเวลาปกติก็คงมีน้ำลายแล้ว แต่รู้ตัวดีว่าตัวเองผิดส่วนหนึ่งที่ไม่เร่งรีบในที่สาธารณะ“โอ๊ะ ขอโทษค่ะ”เดินพ้นห้องน้ำไม่ทันไรก็ชนเข้ากับใครบางคนแล้ว เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบกับแผงอกแข็งแกร่ง แม้มีเสื้อยืดสีดำกั้นกลางแต่ฉันก็สัมผัสได้ว่ามันคงจะแข็งและแน่นมากทีเดียวคิดอะไรลามกอีกแล้ว!“หึ ทีหลังก็มองทางบ้าง”“ค่ะ”เสียงหึในลำคอทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นเพื่อจะมองคนตรงหน้า แต่ไม่คาดว่าเขาก็กำลังก้มมองฉันอยู่ทำให้เราสบตากันโดยบังเอิญ คนที่ภูมิต้านทานเสน่ห์และหน้าตาของผู้ชายต่ำอย่างฉันอดกลืนน้ำลายไม่ได้ใบหน้าได้รูปคิ้วเข้มทรงกระบี่ นัยน์ตาสีดำคมดุรับกับจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางสีนู้ด สันกรามคมชัดเห็นแล้วอยากลองลูบ ผู้ชายคนนี้อันตรายมาก เขาหล่อเกินไปดูมีออร่าของความหล่อ ถ้าให้พูดแบบภาษาตัวแม่คือเขาโพผัวมาก“มองแบบนี้ระวังน้ำลายหก”“ฮ้า...”ใบหน้าของเขาเรียบเฉยแต่มุมปากยกยิ้มอย่างถือดี ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบเพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งฉันที่ทำสีหน้าช็อกกับความมั่นหน้าของเขาคนอะไรมั่นขนาดนี
(ต่อ)“อ่า...มันจะถอยรถใหม่เหรอ แล้วทำไมต้องไปกันสามคนพร้อมกันเลย” แม้แต่ไฟยังสงสัย เพราะวันนี้มีนัดกันทั้งกลุ่ม แต่พวกมันสามพี่น้องดันหายหัว ที่ต้องเรียกสามพี่น้องเพราะทั้งโซ่ ต้าร์ และนักรบเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน“กูไม่รู้ ค่อยถามพวกมัน” ไนต์เองก็ไม่รู้ว่าทำไม ปกติถ้าอยากได้รถใหม่ก็แค่สั่งจองไม่เคยเห็นพวกมันบินไปดูเองเลย“เสียเที่ยวเลยวันนี้ แทนที่กูจะได้ไปเดตกับน้องมินการบิน” เพทายบ่นอุบอิบเพราะอยากเจอเพื่อนเลยเทนัดสาว“มึงก็แค่เรียกเด็กมาข้างบน” ไฟเสนอทางออกให้คนเร้าหรืออยากไปกับสาว“มาผับขนาดนี้หาสาว ๆ สวย ๆ คนใหม่ดีกว่า กูจะเรียกเด็กเก่า ๆ มาทำไม”“งั้นก็อย่าบ่น!” เสือปรายตามองเพทายที่เอาแต่งอแงและบ่นสามพี่น้องที่ผิดนัด ไม่มีใครชอบแต่พวกมันก็ทักมาขอโทษแล้ว แม้จะยกเลิกนัดไม่ทันก็ตามนัยน์ตาคมดุยกแก้วขึ้นจิบด้วยท่าทีเรียบเฉย สายตามองเมินสาวสวยโต๊ะข้างเคียงไปจนเธอหน้าชา เพราะเพื่อนในกลุ่มอยากให้เธอลองจีบเขาดู ผู้ชายที่ดูดุร้ายแต่เร่าร้อน ทว่าเมินขนาดนี้เธอก็ไม่กล้าไปต่อแล้วกึก!เสือกระแทกแก้วลงกับโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นเดินไปยืนมองบรรยากาศคึกคักตรงระเบียงชั้นสอง สายตาราวเสือกำลังจ้องตะครุบ
Sky Pub 21.00 น.“คนเยอะมาก” ฉันกระซิบกับไซซี เราสองคนขับรถยนต์มาเอง คันนี้เป็นรถออดี้ของเฮียโซ่ เพราะฉันยังไม่มีรถส่วนตัว แต่ป๊าสัญญาแล้วว่าเข้ามหา’ลัยจะซื้อคันใหม่ให้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่ารุ่นไหนเหมือนกัน ฉันเป็นคนไม่เรื่องมาก อะไรก็ได้“เยอะดิ นี่มาเที่ยวผับนะ”“เอ้า จะรู้ไหมไม่เคยมา ทำอย่างกับตัวเองเคยไป” ฉันค่อนขอด“ไม่เคยอะ ฮ่า ๆ” “เออ แล้วเจ๊แมนแกบอกให้เดินไปหาการ์ดที่ใส่กำไลข้อมือสีแดงแล้วยัดทิปให้” ฉันหันไปบอกไซซีก่อนจะควักเงินใบเทาออกมาจากกระเป๋าแบรนด์หรูของตัวเอง“แล้วใครจะยัด”“ฉันเอง...ไปกันเถอะ” มือบางคว้าแขนเพื่อนสาวเข้าไปกอด ก่อนจะเดินตรงดิ่งไปยังหน้าสถานบันเทิงที่เต็มไปด้วยผู้คน และเป้าหมายของเธอก็คือการ์ดที่มีกำไลข้อมือตามที่เจ้าของร้านทำผมบอก“ขอบัตรด้วยครับ” “นี่ค่ะ...” ซินเซียยัดบัตรประชาชนของตัวเองและไซซีให้กับการ์ดพร้อมทิปที่พับเรียบร้อย ยัดเข้าด้านล่างบัตรไปอีกทีโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เธอฉีกยิ้มสดใสให้กับการ์ดที่เหลือบตามามอง เมื่อสัมผัสถึงอะไรบางอย่างในอุ้งมือ ก่อนจะยื่นบัตรคืนให้สองสาวและพยักหน้าให้กับเพื่อนทั้งคู่เดินเข้ามาในผับด้วยท่าทีสบายใจ เพียงก
สนามบินนานาชาติ หลังจากแยกย้ายกับเฮียต้าร์ที่ทำท่าทางเร่งรีบ ฉันก็ขับรถมาที่สนามบินทันทีด้วยความเร็วตามมาตรฐานบนท้องถนน เพราะถ้าขับตามกฎหมายกำหนดมีหวังโดนคันหลังด่าตายเลยการขับขี่ที่ไทยจะขับช้าได้ไงเนอะ...ฉันมองซ้ายมองขวาหาจุดผู้โดยสารขาเข้าแล้วรีบเดินไปยังโซนนั้นเพื่อรอรับเพื่อนสาวคนสนิท ทั้งที่ที่บ้านมีเครื่องบินเจ็ตแต่เมื่อเพื่อนอยากมาเซอร์ไพรส์ฉันก็ไม่ขัด แต่อยากบอกซีมากว่าไม่รู้ใครจะโดนเซอร์ไพรส์มากกว่ากัน เพราะที่บ้านไม่มีคนอยู่เลย“ซี! ทางนี้ ๆ” เพียงไม่นานร่างบางสัดส่วนสุดเย้ายวน ในชุดกางเกงสีดำรัดรูปกับเสื้อครอปสีขาวก็เดินตรงมาที่ฉัน พร้อมกางแขนออกกว้างหมับ!“คิดถึงจัง” ฉันโถมตัวกอดไซซีเต็มแรงโดยที่คนตัวบางพอกันเซเล็กน้อย“คิดถึงเหมือนกันกว่าจะขอแม่ได้” ไซซีตอบเสียงอู้อี้พลางซบหน้ากับไหล่ของฉัน แหงแหละลูกสาวที่ดูแลมาอย่างดีจะขอย้ายมาเรียนที่ต่างประเทศ ถึงจะมาอยู่บ้านตัวเองก็อดห่วงไม่ได้หรอก“อาซาร่าคงเป็นห่วงแกแหละ” ฉันผละออกจากอ้อมกอดก่อนจะช่วยถือกระเป๋าสะพายหนึ่งใบ พร้อมกับสำรวจเพื่อนไปด้วยทั่วทั้งร่างมีกระเป๋ามาแค่สองใบ“แม่ก็ห่วงเกินไง ฉันโตแล้วนะ”“ในสายตาผู้ใหญ่เร
ตึก ตึก เสียงฝีเท้าวิ่งสะเปะสะปะไปมาอย่างไม่รู้ทิศรู้ทางว่าควรจะไปที่ไหน รู้แค่ว่าเธอต้องหนี ภายใต้ความมืดมิดมีเพียงแสงสีทองจากดวงจันทร์และหมู่ดาวคอยนำทางเท่านั้นโฮก ~เงาร่างดำทะมึนกำลังไล่ตามมาพร้อมเสียงคำรามดังลั่น ทำเอาร่างบางตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว“กรี๊ดดดดดด” เธอร้องอย่างตกใจเมื่อเงาดำที่ไล่ตามมากระโดดข้ามหัวและดักทางเธอไว้ ลายพาดกลอนสีดำตลอดทั้งลำตัวที่ปกคลุมด้วยขนสีเหลืองส้ม ทำให้เธอหน้าซีดตัวชาและก้าวขาไม่ออก“อย่าเข้ามานะ” แม้จะกลัวแต่ก็ยังมองจ้องตาสัตว์ร้ายไว้ตลอด เพราะจะทำให้พวกมันไม่กล้าผลีผลามเข้ามาใกล้ แต่เธอก็ต้องขมวดคิ้วทันทีเมื่อมันมองจ้องกลับอย่างไม่ลดละ มันเดินเข้ามาใกล้และกระโดดเข้าใส่เธอทันทีโฮกกกกก ~“กรี๊ดดดดดด”ติ๊ด ติ๊ด“ฝันเหรอเนี่ย…ทำเอาใจหายใจคว่ำหมดเลย” ฉันพึมพำกับตัวเองหลังจากตื่นขึ้นมาในห้องนอนกว้าง เพราะเสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงฉันเอื้อมมือไปหยิบมือถือข้างเตียงเพื่อเข้าโซเชียล ก่อนจะพบข้อความของใครบางคนที่ทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมาสายฟ้า : ถึงบ้านแล้ว ฝันดีนะเขาไม่ใช่แฟน ไม่ใช่คนรัก แต่เราเป็นเพื่อนสนิทกัน รู้จักกันตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมปลายคน