Home / LGBTQ+ / Love Pharmacist เภสัชกรไฟฟ้า / 10 | สัญญาที่กลายเป็นเพียงน้ำลายไร้ราคา

Share

10 | สัญญาที่กลายเป็นเพียงน้ำลายไร้ราคา

last update Last Updated: 2024-11-26 12:08:03

(เคมี)

แปดวันหลังจากที่ผมกับเขามีการติดต่อกัน ทักหาผมทุกวันทั้งที่บางครั้งก็ไม่มีอะไรจะโต้ตอบ ตอนนี้ตามตัวผมเริ่มเห็นรอยเขียวช้ำกว่าเดิม มีอาการปวดแทบลุกไม่ไหว มีเขาคอยมาดูแลและอยู่เป็นเพื่อน แต่วันนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงา ข้อความทักทายที่ชอบส่งมาในยามเช้าก็ยังไม่มี ผมคอยมองไปยังหน้าจอมือถือ คือผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเฝ้ารอ อาจเพราะเริ่มชิน?

“น่าเบื่อจัง”

ตอนนี้ผมก็ยังไม่กล้ากลับบ้าน ได้แต่โทรบอกพ่อกับแม่ว่าติดธุระแก้ต่างเพื่อไม่ให้พวกท่านเป็นห่วง ผมเลือกที่จะปิดทีวีแล้วหยิบมือถือมาเล่น เลื่อนไปเลื่อนมาก็ดันมาเจอโพสต์ของแฟนเก่า ทำเอาผมรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจ เมื่อภาพที่ผมเห็นมันคือภาพที่บ่งบอกว่าเธอกำลังมีอีกหนึ่งชีวิตกับคนที่เธอแต่งงานด้วย

“นับเดือน”

ผมมองภาพบนหน้าจอมือถือ แล้วเอ่ยชื่อผู้หญิงที่ผมรักพร้อมน้ำตาที่มันเริ่มเอ่อขอบตา ยิ่งมองผมก็ยิ่งเสียใจ เสียใจไม่สามารถปกป้องเธอได้ ต้องปล่อยมือเธอทั้งที่เคยสัญญา ไม่ว่ามีปัญหาอะไรเราสองคนจะเผชิญมันไปด้วยกัน และนั่นก็ดันเป็นเพียงน้ำลายที่ไร้ราคา ผมไม่สามารถทำได้อย่างที่สัญญา

“ยินดีด้วยนะ” ผมพิมพ์คอมเมนต์ไป ต่อท้ายประโยคด้วยอิโมจิรอยยิ้ม แต่จริงแล้วผมอวยพรเธอทั้งน้ำตา

“เราสองคนต้องจบแบบนี้จริง ๆ ใช่ไหม?”

ไม่ไหวที่จะมอง ผมวางมือถือลงข้างตัวแล้วฟุบหน้าลงเข่า ปล่อยเสียงร้องไห้โฮ ไม่อาจเก็บกลั้นน้ำตาได้แล้วจริง ๆ สิ่งที่บีบหัวใจผมแทบแหลกสลาย ผมไม่อาจรักษาเธอไว้ข้างกายได้  สุดท้ายต้องยอมปล่อย...แต่ผมจะทำได้ไหมในเมื่อตอนนี้ทุกครั้งที่หลับตา มันยังมีความทรงจำเก่า ๆ ผุดเข้ามาภาพจำของผมตลอดเลย

📳 เสียงแจ้งเตือนในมือถือดังขึ้น ทำให้ผมรีบคืนสติกลับมา

(ทำไรอยู่อะ)

“กินไก่ทอด”

(อย่ากินไก่หมดนะ)

“?”

(ก็ถ้าไก่หมดจานคือการหมดใจอะดิ)

“กูจะกินยันจานด้วยเลย เพราะกูรำคาญมึงมาก”

(โห เดี๋ยวนี้ขึ้นกูมึง?)

“แล้วจะทำไม”

(ก็ไม่ทำไม รำคาญแปลว่ารัก)

“แล้วแต่จะเข้าใจตามสันดานเถอะ”

(เริ่มหยาบคายละ)

“พอดีมีเพื่อนใหม่เป็นคนหยาบกระด้างอะครับ ศีลจะได้เสมอกัน”

(อ้อ ๆ เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง เพื่อนใหม่ท่าทางจะหน้าตาดีมากแน่ ๆ)

ผมตอบแชตด้วยการโกหกตั้งแต่ประโยคแรก น้ำตาที่ล้นขอบตาเริ่มเหือดหายไป เมื่อได้คุยกับเขาที่แม้จะไม่เห็นเงาแต่ข้อความของเขาก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น ความยียวนที่สร้างความรำคาญ แต่ดันสร้างรอยยิ้มให้ผมได้เช่นกัน ผมไม่ตอบกลับประโยคสุดท้าย ปิดมือถือหนีเลยครับ ขี้เกียจตอบโต้ให้ยืดยาว จากนั้นผมจึงทิ้งตัวลงนอนจนหลับไป

ไม่รู้หลับไปนานแค่ไหนผมสะดุ้งตื่น เพราะเสียงที่ดังโครมครามตรงประตู พร้อมกับเสียงเรียกที่แว่วเข้าหูทำให้ผมต้องพรวดพราดลงจากเตียงอย่างลืมเจ็บ

“เฮ้อ...นึกว่าอะไร” เสียงเรียกชัดเจนว่าเป็นใคร ทำให้ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะเอื้อมมือเปิดประตู

“ทำบ้าอะไรอยู่วะเรียกตั้งนาน ไม่รู้หรือไงว่าคนเขาเป็นห่วง” โวยวายใส่หน้าผมทันที สีหน้าจริงจังคิ้วขมวด

“แล้วจะโวยวายเสียงดังทำไมวะ” ผมตอบโต้เสียงแข็ง

“กูเป็นห่วงมึงไง แชตไม่ตอบ มือถือแถมปิดเครื่องอีก”

“ก็นอนหลับ”

“ไอ้ควาย!”

“เอ้า บ้าปะเนี่ยจู่ ๆ ก็มาด่า”

“มึงมันสมควรโดนกูด่า”

เขาชี้หน้าด่าผมตั้งแต่เข้ามาในห้อง ท่าทางตอนนี้ยังคงโมโหไม่หาย ทำไมต้องดูโกรธขนาดนั้นก็ไม่รู้ คำด่าของเขาบางทีผมก็ควรจะชินได้แล้ว แต่บางครั้งมันก็รู้สึกว่าเขาด่าผมเกินไป ทั้งที่ไม่มีอะไรให้น่าด่าขนาดนั้น เขามันคนปากหมา!

“แล้วนั่นแขนไปโดนอะไรมา  ทำไมมีผ้าพันแผล”

“มันก็ต้องมีแผลสิถามแปลก”

“ถามดี ๆ ทำไมต้องกวนตีนตลอด”

“กูก็เป็นคนแบบนี้แหละ หรือรับไม่ได้ก็ไม่ต้องมาคบ”

“ไปกันใหญ่ละ หัดมีเหตุผลบ้างดิ”

“เออกูมันคนไม่มีเหตุผล”

“จริง”

“ไอ้เคมี!”

“ไม่เถียงด้วยละ กินน้ำเย็น ๆ ดับความหัวร้อนซะ”

ผมเงียบไปชั่วครู่ ก่อนสายตาจะมองเห็นผ้าพันแผลที่อยู่บนแขนจึงถามขึ้น แต่ดันไม่ได้คำตอบตามที่คาดหวัง ได้แต่คำด่ามาแทน เลยเลือกที่จะเป็นฝ่ายเงียบปาก เดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาให้แทน

“ใจเย็นลงบ้างหรือยัง”

“อืม”

“ตอบมาดี ๆ ว่าไปทำอะไรมาถึงได้มีแผลบนแขน”

“อุบัติเหตุนิดหน่อยที่ไซต์งานก่อสร้าง”

“ก็ตอบดี ๆ ได้นี่นา ทำไมต้องชอบเสียงดัง”

“ไม่รู้”

ผมเดินไปนั่งตรงข้ามแล้วถามเขาอีกครั้ง เขาตอบผมไม่มองหน้า ชักสีหน้างอน ซึ่งผมก็ไม่ว่าอะไร ตัวโตเป็นควายแต่นิสัยบางครั้งก็เป็นเด็กสามขวบ แต่บทจะห่ามก็ห่ามสุด ๆ หลายบุคลิกจริงคนนี้ ที่ผมถามก็ไม่อะไรมากคือจากลักษณะของการพันแผลดูแล้วไม่น่าจะเป็นบาดแผลเล็ก ๆ  ห่วงเขานั่นแหละ

“ไฟฟ้าอายุสามขวบ” ผมแซว

“ใครสามขวบเดี๋ยวตบปากแตก” เก่งเหลือเกินครับเรื่องใช้กำลัง แต่ท่าทางคงจะเขินที่โดนผมแซว

“ก็มันจริง ดูท่าทางนายตอนนี้ดิ เหมือนคนอายุใกล้เข้าเลขสามหรือไง ก็ใกล้แหละเนอะสามขวบ”

“ยังจะพูดมากอีก”

“นี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานไม่ใช่ไง ทำไมถึงมาที่นี่ได้ล่ะ”

“เจ็บแขน”

“แล้วทำไมไม่กลับบ้านไปพักผ่อน”

“เรื่อง ของ กูครับ”

“เฮ้อ ปวดหัวกับนายจริง ๆ ไปนอนต่อละ”

“นอนด้วย!”

พูดจบผมก็เดินไปยังเตียงนอน แต่ก็มีม้าไวกระโดนขึ้นเตียงตัดหน้าผมก่อน ก็ได้แต่ส่ายหัวเอือมระอา ก่อนจะเอนตัวนอนข้างเขาที่หันหลังให้ ความเป็นเพื่อนที่ผมรู้สึกว่าสนิทกันไวมาก เวลาที่ผมอยู่กับเขาก็รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งผิดจากแต่ก่อน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Love Pharmacist เภสัชกรไฟฟ้า   50 | ตอนจบ

    //วันถัดมา//เคมี“พี่พร้อมไหม?” ผมจับมือพี่ไฟฟ้า พร้อมกับเอ่ยถาม เมื่อเห็นพี่เขายืนกลืนน้ำลายลงคอ ด้วยสีหน้าคิ้วขมวด เพราะพวกเราสองคนนั่งอยู่ในรถราวสิบห้านาที“พะ พร้อม” ตอบตะกุกตะกัก ดูน่าสงสารมากเลยครับ“ถ้าพี่ไม่ไหว วันหลังเราค่อยมาใหม่ก็ได้นะ” เห็นสีหน้าเขาแล้วผมรู้สึกเป็นห่วง“ยังไงก็มาแล้ว เป็นไงเป็นกัน” พี่ไฟฟ้าสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ถ้าพี่โอเค เราเข้าไปกันเลยไหม?”“อืม”ตกลงกันได้ผมกับพี่ไฟฟ้าจึงพากันเดินมุ่งตรงเข้าไปในบ้าน การมาครั้งนี้ผมได้ส่งข้อความบอกพ่อกับแม่ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะพาเพื่อนสนิทมาทำความรู้จัก ซึ่งแม่ก็ตอบกลับมาว่ายินดี และตามด้วยข้อความของพ่อ บอกจะรออยู่ที่บ้าน ซึ่งดูท่านก็ตอบปกติ ไม่ได้ถามต่อให้มากความ“แม่ครับ พ่อครับ ผมมาแล้ว” ผมพูดเมื่อเดินมาในบ้าน ตรงโซนรับแขก“สวัสดีครับ” พี่ไฟฟ้ายกมือไหว้พ่อกับแม่ของผม และฉีกยิ้มอ่อนเบา ๆ“มากันแล้วเหรอ เดี๋ยวแม่เอาน้ำมาให้ คุยเล่นกับพ่อไปก่อนนะ” แม่เงยหน้าจากจอทีวีแล้วทักทายพวกผมด้วยรอยยิ้ม แม่ของผมเป็นคนใจดีครับ“นั่งสิ” เป็นเสียงพ่อที่บอกกล่าว แล้วพวกเราก็นั่งลงเก้าอี้ข้างกัน“ขอ

  • Love Pharmacist เภสัชกรไฟฟ้า   49|เหมือนลมหายใจเดียวกัน

    เหมือนลมหายใจเดียวกันเคมี“คืนนี้พี่จะค้างที่นี่ใช่ไหม?” ผมถามพร้อมด้วยน้ำเสียงเว้าวอน หลังจากรถยนต์จอดสนิท“ก็ว่าจะไม่...”“พี่ไฟฟ้า” ผมเรียกเสียงอ่อนเหมือนอ้อนวอนตัดบท“แต่ทำงานเหนื่อยขี้เกียจขับรถกลับ” ประโยคตอบรับทำให้ผมฉีกยิ้มทันที“งั้นรีบขึ้นไปกันเถอะ พี่จะได้อาบน้ำแล้วพักผ่อน”“อืม”จากนั้นผมและพี่ไฟฟ้าก็ขึ้นมายังหอพัก เขาวางสีหน้าบึ้งตลอดตั้งแต่เดินทางมา แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมากมาย เพราะกลัวว่าพี่เขาจะเปลี่ยนใจ เห็นโหด ๆ แต่บางทีก็อ่อนไหวง่ายเหลือเกินผมเข้าใจในความโกรธที่พี่ไฟฟ้าเป็นดี หลังจากที่พี่ไฟฟ้าหนีออกมาในวันนั้น ก็นั่งคิดทบทวนเหตุการณ์อยู่หลายหน จนผมตระหนักได้ และรู้นิสัยของพี่ไฟฟ้าว่าเป็นคนยังไง เขาเป็นคนคิดมากและขี้หวง แม้นิสัยที่แสดงออกมานั้นจะห่าม แต่ลึกแล้วเขามีใจเปราะบางแต่แสร้งเข้มแข็ง ผมไม่น่าจะใส่อารมณ์กับพี่ไฟฟ้าไปแบบนั้น ทั้งที่รู้นิสัยใจคอเขาเป็นอย่างดี ผมรู้สึกผิดและเสียใจมาก เมื่อย้อนคิดในเรื่องราวเหตุการณ์ใต้ตึกคณะในวันนั้นผมไม่ได้คิดอะไรกับรุ่นพี่ แต่ใจผมรู้ดีว่ารุ่นพี่คิดยังไงกับผม ซึ่งเป็นอย่างที่พี่ไฟฟ้าคาดเดา เขาชอบผม แต่ผมปฏิเสธไปแล้ว การที่รุ่

  • Love Pharmacist เภสัชกรไฟฟ้า   48 | บอกรักไม่จำเป็นต้องมีคำว่ารัก

    วันต่อมาผมเข้าบริษัทตามปกติ เพราะวันนี้มีนัดประชุมเรื่องโครงการใหม่ หลังจากที่เมื่อเช้าไปเยี่ยมไอ้กลาส ตอนนี้กลาสรู้สึกตัวแล้ว และมีน้องเพชรพลอยคอยดูแลไม่ห่าง ผมยืนสังเกตท่าทีของกลาสและน้องเพชรพลอยอยู่ด้านนอกผ่านช่องกระจกเล็ก ๆ เลยไม่อยากเข้าไปขัด ทำให้เสียบรรยากาศ กลาสมันดูปฏิบัติกับน้องเพชรพลอยแตกต่างจากแต่ก่อน เห็นแล้วทำให้ผมยิ้มตามและรู้สึกยินดี บางทีการที่บอกว่ากลบข่าวเรื่องเกย์ อาจจะทำให้ทั้งสองคนมีการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอย่างไม่รู้ตัวก็ได้“ทำไมพี่ไม่อ่านข้อความหรือรับสายผมบ้าง” ระหว่างที่ผมจอดรถสนิทและกำลังจะปิดประตู เสียงที่แสนคุ้นเคยก็ดังขึ้น จึงทำให้ผมนิ่งและหันไปมองด้วยสีหน้าเรียบ“ไม่ค่อยว่าง พอดีช่วงนี้มีโครงการใหม่เลยยุ่ง ๆ” ผมตอบแล้วเดินเลี่ยงออกมาจะเข้าไปในตึกสำนักงาน“พี่หลบหน้าผม”“เปล่า...แล้ววันนี้ไม่ไปเรียนหรือไง?”“คุยกันก่อนพี่ไฟฟ้า” เคมีมันคว้าแขนของผมไว้ ทำให้ผมหยุดเดิน แต่ไม่ได้หันกลับไปมอง น้องมันเลยขยับมายืนตรงหน้าของผม“วันนี้กูมีประชุม”“พี่โกรธผมใช่ไหม?”“ไม่ได้โกรธ...จะให้โกรธเรื่องอะไรล่ะ”“ก็เรื่องเมื่อสามวันก่อนที่เราทะเลาะกัน”“กูผิดก็ขอโทษ

  • Love Pharmacist เภสัชกรไฟฟ้า   47 | คนขี้อิจฉา

    ผมขับรถออกมาอย่างคนไร้จุดหมาย ตอนนี้หัวสมองมันเริ่มจะประมวลภาพพวกนั้นเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดหย่อน ผมอยากจะเชื่อคำพูดของเคมี แต่อดที่จะคิดไม่ได้...เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทำให้ผมหลุดจากความคิดเรื่อยเปื่อย“อืม...ว่าไงไม้?”“อยู่ไหนวะไฟฟ้า”“ขับรถอยู่”“มึงเห็นข่าวไอ้กลาสหรือยัง?...ด่วน ๆ เลยตอนนี้”เมื่อไม้บอกด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วร้อนรน ผมเลยรีบจอดรถข้างถนนทันที แล้วเปิดดูหน้าข่าวตามลิงก์ที่ไม้มันส่งมาให้ในแชต“เกิดอะไรขึ้นกับไอ้กลาสกันแน่”“กูก็ไม่รู้ ตอนนี้ไอ้กิตอยู่กับไอ้กลาส ติดต่อไปก็ไม่มีใครรับสาย”“กูจะไปโรงพยาบาลตอนนี้แหละ”“อืม ๆ เดี๋ยวกูจะออกไปเดี๋ยวนี้เลย”“เจอกัน”“อืม”ทันทีที่ผมเห็นข่าวก็ตกใจจนมือสั่น เพียงแค่เห็นภาพของไอ้กลาสที่โชกเลือด แม้ภาพข่าวจะมีการเซ็นเซอร์เอาไว้ ผมก็รู้ว่านั่นคือกลาสเพื่อนสนิทของกลุ่มผม พวกเราเพิ่งจะเจอกันเมื่อไม่กี่วันก่อน เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นเร็วจนผมตั้งรับไม่ทัน ห่วงว่ากลาสจะเป็นอันตราย แม้ผมจะไม่ค่อยรู้เรื่องราวที่กลาสเจอ ว่าต้นตอเกิดจากอะไรกันแน่ แต่ผมรู้ว่ากลาสไม่มีศัตรูที่ไหนเลย นอกจากวงการธุรกิจของครอบครัวมัน//โรงพยาบาล//ผมมาถึงในเวล

  • Love Pharmacist เภสัชกรไฟฟ้า   46 | เหตุเกิดจากคนอื่น

    (ไฟฟ้า)“เบื่อว่ะ”“เบื่อไรของมึงอีกครับพี่ไฟฟ้า”“บางครั้งกูก็รักอิสระ แต่กูก็อยากมีโมเม้นมีแฟน แต่กูก็ยังรักอิสระ แต่กูก็อยากมีแฟน แต่บางครั้งกูก็อยากอยู่คนเดียว แต่กูก็อยากมีแฟนอะ”“แต่ตอนนี้กูอยากถีบมึงมากครับพี่ เพราะกูรำคาญมึง และกูก็อยากอยู่คนเดียว”“โอ๊ย!...ใจร้าย หยอกเล่นหรอก ก็มึงไม่สนใจกูเลยไง เอาแต่สนใจหนังนี่หว่า”ผมพูดขึ้นระหว่างที่เราสองคนกำลังนั่งดูหนังด้วยกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ อาการไหนก็ไม่รู้ครับ แต่ผมอยากจะกวนตีนไอ้ดื้อที่มันไม่สนใจผมสักนิด เอาแต่นั่งดูหนังอย่างใจจดจ่อ เลยอยากจะเรียกร้องความสนใจ แต่เหมือนน้องมันจะไม่ค่อยแคร์แถมยกเท้าถีบผมจนตกโซฟาก้นกระแทกพื้นอีก“สมน้ำหน้า”“มึงจำไว้เลยเคมี อย่าให้ถึงทีกูนะ ถีบมาได้ไอ้บ้านี่”“กวนอยู่ได้คนกำลังดูหนังสนุก ๆ กลับบ้านไปเลยไป”“ไม่กลับ...กูไม่กลับ”“ลูกดี ๆ ที่ไหนปล่อยให้พ่อแม่อยู่บ้านลำพังวันสุดสัปดาห์”“ลูกดี ๆ แบบกูนี่แหละ”“ทำตัวเหมือนไม่มีที่นอนเป็นของตัวเอง”“ทุกที่คือที่นอนของกูไงครับ”“ต่อปากต่อคำเก่งเหลือเกิน”“ต่อปาก...มึงกล้าปะทะกับกูปะล่ะ”“วุ้ย! วนมาเรื่องลามกอีกละ”กวนกันไปกันมาด้วยความมีไหวพริบแบบผม เลยท

  • Love Pharmacist เภสัชกรไฟฟ้า   45 | แค่เห็นหน้าก็อดใจไม่ไหว

    “พี่ใจเย็นก่อนสิครับ”“เห็นหน้ามึงแล้วกูอดใจไม่ไหวเคมี”เพียงผมเปิดประตูเข้ามาในห้องพัก ก็ถูกลุกล้ำด้วยการไล่จูบ ถูกพี่ไฟฟ้าดันแผ่นหลังแนบชิดกับผนังห้อง สองมือของเขาถอดเสื้อของผมอย่างคนรีบร้อน ตอนนี้ทุกอย่างล่อแหลมแม้เราสองคนจะยังไม่ถึงเตียงนอน เขาปลุกปั่นอารมณ์ของผมจนยากที่จะหักห้าม“พี่ครับ”“กูต้องการมึงเคมี รักมึงมากนะ”เขาบอกรักผมทั้งที่ยังดอมดมตามซอกคอ นั่นยิ่งสร้างความปั่นป่วนภายในร่างกายของผมให้ร้อนรุ่ม“เรายังไม่ได้ทำความสะอาด”“ช่างแม่ง แข็งจนจะระเบิดแล้ว”“อื้ม พี่ครับ”ผมดันอกของพี่ไฟฟ้าไว้ แล้วเตือนในเรื่องการเตรียมความพร้อมสำหรับก่อนทำกิจกรรมบนเตียง แต่พี่ไฟฟ้าไม่ได้สนใจสักนิด เขายังเล้าโลมตามร่างกายของผมไม่หยุดหย่อน เขาบดจูบปากของผมด้วยความช่ำชอง จูบอย่างดูดวิญญาณผมก้าวขาเดินตามแรงของพี่ไฟฟ้าอย่างไม่รู้ทิศทางด้วยความเคลิบเคลิ้มจากรสจูบที่พี่เขาปรนเปรอ รู้สึกวาบหวามจนขนลุกซู่ไปทั้งตัวตอนนี้เสื้อผ้าของเราสองคนหลุดออกจากตัวด้วยความรวดเร็ว จนเผยให้เห็นร่างกายที่เปลือยเปล่าของกันและกัน ผมเริ่มทัดทานแรงเร้าของพี่ไฟฟ้าไม่ไหว ดันเขาให้นั่งลงบนเก้าอี้ ตัวตนที่ขึงขังชี้หน้าผมอย่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status