Home / โรแมนติก / Love Textbook ตำรารักพิชิตหัวใจ / พิชิตใจ : ตำราที่ 9 : ผู้บริหารคนใหม่

Share

พิชิตใจ : ตำราที่ 9 : ผู้บริหารคนใหม่

last update Last Updated: 2025-08-29 13:01:36

ตึก ตึก ตึก

เสียงฝีเท้าก้าวเดินเข้ามาภายในอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ สายตาจับจ้องไปยังร่างสูงผู้เป็นเจ้านายคนใหม่ของพวกเขา ด้านหลังมีเลขาสาวสวยเดินตามหลังมาอยู่ห่างๆ ทุกสายตาสนใจความห่างเหินแบบแปลก ๆ ของพวกเขาทั้งคู่ ถึงประกาศจะมีออกมาเรื่องผู้บริหารคนใหม่แล้ว แต่พวกเขาทุกคนก็พึ่งเคยได้พบตัวจริงของเขาวันแรก

“สวัสดีครับคุณธาดา ผมเป็นผู้จัดการฝ่ายขายยินดีต้อนรับครับ” ผู้จัดการฝ่ายขายยืนรอต้อนรับ กล่าวทักทายในขณะที่ธาดาไม่สนใจและเดินผ่านเขาไป

“....” ทุกคนต่างอยู่ในความเงียบ

“คุณธาดาไม่ชอบการต้อนรับค่ะ ทำงานตามปกติเถอะค่ะ” ฉันหยุดยืนตรงหน้าเขา และพูดในทุกคนเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

“อ้อ ครับ แล้วคุณคือ...” เขายิ้มด้วยสีหน้าเจื่อนที่ถูกหักหน้าจากผู้บริหารคนใหม่ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน

“...” ฉันไม่สนใจความสงสัยของเขา เพียงส่งยิ้มให้แล้วเดินตามหลังธาดาเข้าไปในลิฟต์

ติ้ง! ประตูลิฟต์ถูกปิดลง ภายในมีเพียงฉันและธาดาเท่านั้น ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ ดีแล้วแหละเงียบบ้างเถอะฉันเหนื่อยจะเถียง

“ตอนบ่ายสองคุณธาดามีประชุมใหญ่กับผู้จัดการนะคะ” ฉันเปิดโทรศัพท์ในมือ และบอกงานประจำวันของเขาทีละอย่าง

“....” ไม่มีเสียงพูดกวนประสาท มีเพียงเสียงหายใจที่ยังทำให้รู้ว่ามีชีวิตอยู่เท่านั้น

“ช่วงเช้าว่างก็จะมีเอกสารที่เลขาของคุณลุงจัดเตรียมไว้ให้คุณธาดาศึกษางานอยู่บนโต๊ะนะคะ”

“....” ฉันแอบมองไปยังร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ สายตาของเขาจ้องมองไปยังด้านหน้า

“ช่วงเช้าขออนุญาตไปคุยกับฝ่ายบุคคลเรื่องรับสมัครเลขาของคุณธาดานะคะ” ไหน ๆ ก็ไม่มีอะไรทำช่วงนี้ ไปทำเอาไว้ก่อนก็ดีกว่า ไหนจะนัดมาสัมภาษณ์อีก

“รีบมากหรือไง” ในที่สุดก็เปิดปากพูดสักที

“ไม่ได้รีบหรอกค่ะ แต่ช่วงนี้อยู่ในช่วงที่คุณธาดาศึกษางานนี่คะ ก็ต้องใช้สมาธิ ฉันก็แค่ไปหาอะไรทำให้เกิดประโยชน์”

“....”

“เชิญค่ะเจ้านาย” ฉันผายมือไปยังด้านหน้าเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก

“หึ” เขาหัวเราะในลำคอ แล้วเดินนำหน้าออกไป

“เมื่อไหร่จะสิ้นปี” เสียงพึมพำที่มีเพียงแค่ตัวเองเท่านั้นที่ได้ยิน ฉันถอนหายใจแล้วก้าวเดินตามหลังเขาออกไป

“สวัสดีค่ะคุณธาดา” เลขาประจำหน้าห้องลุกขึ้นยืน และกล่าวทักทาย ธาดาหยุดและจ้องมองไปทางเธอ เจอของสวย ๆ ละสิ

ก็เธอดูจะเป็นเด็กพึ่งจบมาใหม่ ใบหน้าจิ้มลิ้ม ปากนิด จมูกหน่อย ผิวขาวเนียนผ่อง ตัวเล็ก และหน้าอกใหญ่ สเปกหมอนี่เลยละ

“ฉันไล่เธอออก” เสียงของธาดาทำเอาทุกคนต่างมองด้วยสีหน้าตกใจ ไม่เว้นแม้แต่เลขา เธอก็ตกใจไม่แพ้กัน

“คุณธาดาคะ เชิญเข้าห้องก่อนค่ะ” อยู่ดี ๆ ก็เป็นอะไรขึ้นมา นึกว่าจะถูกใจเธอซะอีก

“เอ่อ คือ...ไล่ออกเรื่องอะไรเหรอคะ” เลขาสาวยกมือถามพร้อมกับใบหน้าแดงที่เหมือนจะร้องไห้

“เลขาของฉันมีแค่เทียนไขคนเดียวก็พอ” พูดจบก็ปาดสายตามามองหน้าฉันแล้วเดินเข้าห้องไป

“....” ฉันมองตามแผ่นหลังกว้างของธาดาแล้วมองไปยังรอบๆ อะไรที่พูดแล้วทำให้ทุกคนมองฉันแปลก ๆ นี่ถนัดจังเลยนะ ไอ้บ้าธาดา

“ฉันถูกไล่ออกจริง ๆ เหรอคะ” เธอถามฉันด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ก็แน่ละ เจ้านายที่มาวันแรกก็ไล่เธอออกทันที เป็นใครก็ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตต่อ

“อย่าสนใจคำพูดของเขาเลยค่ะ ทำงานของคุณต่อเถอะ”

“แต่”

“ทำตามที่ฉันบอกค่ะ”

พูดจบก็ส่งยิ้มให้เธอ แล้วเดินเข้าไปยังในห้องทำงานของธาดาทันที นอกจากฉันแล้วมีใครบ้างเนี่ยที่จัดการเขาได้ ต้องหาเลขาแบบไหนมาจัดการหมอนี่นะ

หลังจากเทียนไขเข้าไปในห้องทำงาน และประตูห้องปิดลง พนักงานคนอื่นก็ต่างพากันล้อมวงเข้ามาหาเลขาหน้าห้องของเจ้านายคนใหญ่ทันที

“คุณธาดาหล่อมาก” คำพูดแรกจากความในใจของพนักงานสาว

“ผู้หญิงคนนั้นก็สวยมาก” อีกคนที่สนใจไปที่เทียนไขมากกว่าจะสนใจสิ่งที่เลขาสาวโดนในวันแรก

“นี่ทุกคน หนูคิดว่าพวกพี่จะเป็นห่วงหนูนะคะ” เลขาสาวเบะปากใส่พวกกลุ่มคนที่เข้ามามุงโต๊ะของเธอ

“ก็ตกใจอยู่หรอก แต่สิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูดน่ะ เหมือนกับว่าเธอสามารถตัดสินใจแทนคุณธาดาได้เลยนะ” แล้วทุกคนก็สนใจไปที่เทียนไขอีกครั้ง

“ฉันรู้นะว่าเธอเป็นใคร หึ!”

เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากด้านหลัง ทุกสายตาหันมองไปที่เธออย่างพร้อมเพรียง เธอคือ เลขาของผู้จัดการฝ่ายการตลาด หญิงสาววัยสี่สิบปีที่อยู่ในบริษัทนี้มานาน ไม่ว่าเรื่องอะไรถ้าหากสงสัยให้มาถามที่เธอได้ทันที ตั้งแต่เรื่อง ใครเป็นแฟนใคร ใครกิ๊กกับใคร ใครได้กับใคร หรือใครมีประจำเดือนวันไหนเธอรู้หมด

“เธอเป็นใครเหรอคะพี่พิณ” และทุกคนก็เปลี่ยนเป้าหมายที่เธออย่างพร้อมใจ

“เลขาส่วนตัว ส่วนตัวมากของคุณธาดา” เธอพูดด้วยท่าทางที่มั่นใจ

“เลขาส่วนตัวนี่เขาทำอะไรกันบ้างเหรอ”

“ส่วนตัวอะ ก็ดูแลทุกส่วนของตัวไงจ๊ะ ถามอะไรไม่คิด” วงเมาท์ภายนอกห้องกำลังเปิดประเด็นขึ้นอย่างสนุกสนาน

“เลขาที่...” คนที่หนึ่งพูดเว้นไว้แล้วหันมองไปยังพิณ เธอยิ้มและเป็นคนต่อปิดประโยคให้

“เลขาที่เป็นมากกว่าเลขา ลูกสาวแม่บ้านนะจ๊ะนั่นน่ะ”

“อุ๊ย!” คำพูดของเธอเรียกเสียงฮือฮาจากรอบข้างได้ไม่น้อย

“นี่ทุกคนอย่ามานินทาเจ้านายของหนูแบบนี้นะ” เลขาหน้าห้องที่ทนฟังอยู่นานต้องออกปากเตือนพวกเขา ที่ทำงานออฟฟิศก็มีแต่แบบนี้สินะ นินทากันทุกวัน

“น้องโบว์รีบออกตัวปกป้องเจ้านายเลยนะ”

“ช่วยออกไปจากโต๊ะทำงานด้วยค่ะ ไปคุยกันที่อื่น” เมื่อโดนไล่ทุกคนก็แสดงสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะเธอกำลังขัดขวางช่วงเวลาสนุกของพวกเขา

“น่าเบื่อ ตอนเที่ยงไปกินข้าวข้างตึกกัน เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟัง”

“โอเคพี่พิณ แล้วเจอกันตอนเที่ยง” ทุกคนรับคำชวนแล้วพากันแยกย้ายไปทำงานของตัวเอง

โบว์ถอนหายใจใส่พวกเขาที่เดินจากไปอย่างรำคาญ วัน ๆ ก็มีแค่ไม่กี่อย่างหรอกคนพวกนี้ รู้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องงาน และเรื่องของตัวเอง เธอหันหลังกลับไปเพื่อหยิบงานของตัวเอง ก็ต้องสะดุ้งเมื่อพบกับผู้หญิงที่ยืนแอบฟังอยู่ตรงประตูห้อง

“คุณ” เธอชี้ไปยังเทียนไขที่แง้มประตูห้องทำงานของเจ้านายเธอ และแอบฟังสิ่งที่เกิดขึ้น

“น่าสนุกดีนะคะคนพวกนั้นน่ะ” เทียนไขปาดสายตามองมา เธอรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินน้ำเสียงเย็นยะเยือกของเธอ

“โบว์...ไม่เกี่ยวนะคะ” เธอรีบแก้ตัวทันที ดูจากสายตาก็รู้ว่าเธอไม่ธรรมดาแน่ เธอคิดถูกแล้วที่ไม่เข้าไปอยากรู้เรื่องของเจ้านาย

“ฉันรู้ค่ะ ตั้งใจทำงานเข้านะคะ” พูดจบร่างบางก็ปิดประตูห้องทันที โบว์มองไปยังรอบ ๆ ตัวที่ไม่มีใครอยู่ตรงนี้แล้ว คุณธาดาก็น่ากลัว เลขาของเขาก็น่ากลัว

“ฉันรักงานของฉัน ฉันจะไม่ยุ่งเรื่องของเจ้านาย ฉันรักงานของฉัน ฉันจะไม่ยุ่งเรื่องของเจ้านาย”

เสียงพึมพำบอกกับตัวเองแล้วเริ่มลงมือทำงาน ผู้บริหารถูกเปลี่ยนแล้ว นั่นหมายความว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงภายในบริษัทด้วยอย่างแน่นอน เธอรู้สึกแบบนั้น และพวกขี้นินทาจะโดนอะไรเธอก็ไม่กล้าคิดเลย

(ภายในห้องทำงาน)

ปึง!

หลังเสียงประตูปิดลงฉันยืนสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ เพื่อพยายามระงับอารมณ์ตัวเอง ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เข้ามาทำงานในรูปแบบบริษัทแบบนี้ สังคมออฟฟิศงั้นเหรอ ฉันเป็นคนเก็บอารมณ์เก่ง และมีความอดทนสูงกับทุกคนที่ไม่ใช่ธาดา เพราะฉะนั้นคงต้องทำเป็นปล่อยผ่านไปก่อน แต่พวกรู้มากนี่มีเยอะจริงนะที่นี่

“พวกนั้นนินทาเหรอ” เสียงของธาดาถามขึ้น เมื่อเห็นว่าฉันยืนจ้องประตูอยู่นาน

“ประมาณนั้น” ฉันหันหลัง และเดินเข้ามาหาเขา

“ให้จัดการให้มั้ย”

“จะไล่พนักงานออกตั้งแต่วันแรกที่มาไม่ได้นะคะคุณธาดา”

“ใครสนกันล่ะ ก็มานินทาว่าที่เจ้าสาวของฉันนี่” ฉันหยุดยืนหน้าโต๊ะแล้วขมวดคิ้วมองเขา

“อย่าพูดอะไรแบบนี้ให้คนอื่นได้ยินอีก” เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ทำงานแล้วมองหน้าฉัน

“ช่วยพูดกับฉันดี ๆ เหมือนที่คุยกับเด็กนั่นเมื่อเช้าบ้างสิ” ในที่สุดก็วนเข้าเรื่องนี้อีกครั้ง

“งั้นก็ช่วยพูดให้เหมือนที่เก้าคุยกับฉันบ้างสิ”

“...” ตาดุมองมาทางฉัน แต่นั่นไม่สามารถทำอะไรฉันได้หรอก คนอย่างธาดาทำเป็นกลัวได้ที่ไหน

“สนใจงานบนโต๊ะได้แล้ว เลิกมองหน้าสักที”

“คิดถูกหรือคิดผิดนะที่กลับมา”

“...”

“ถ้าอยู่ที่นั่นก็ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งแท้ ๆ มันก็ดีอยู่แล้ว แต่อยู่ที่นี่เธอดูจะอยากเข้าหาคนอื่นเหลือเกินนะ” ถึงจะเป็นคำพูดที่ฟังดูน่ารำคาญ แต่สายตาของธาดามีความน้อยใจซ่อนอยู่

“ฉันจะไปฝ่ายบุคคลก่อน คุณธาดาช่วยศึกษางานด้วยความตั้งใจด้วยนะคะ” ถ้ายิ่งพูดก็ยิ่งบานปลายหรือเปล่านะ เรื่องเมื่อเช้าที่เขาส่งข้อความมาก็ยังติดอยู่ในใจ เขาจะทำกับฉันแบบนั้นจริง ๆ หรือไง

“ดูจะรีบร้อนไปซะทุกอย่างจริง ๆ”

“ธาดา” ฉันหยุดยืนหน้าโต๊ะแล้วสบตาเขา

“...” ซึ่งเขาเองก็เงียบและเป็นผู้ฟังที่ดี

“หยุดเรื่องพวกนี้เถอะ เราเป็นแค่เพื่อนก็ดีแล้ว”

“...”

“อย่าพยายามเลย” ไม่ว่ายังไงฉันก็ยังยืนยันคำเดิมมาตลอดสิบปี เราเป็นได้แค่เพื่อนกัน

“เพราะ”

“ก็เพราะ...เรามันรู้ยันไส้ในกันไง แค่นายอ้าปากฉันก็รู้แล้วว่าจะพูดอะไร ทุกเรื่องที่เคยเกิดขึ้นช่วยลืมมันไปเถอะ แล้วอยากจะทำอะไรก็เรื่องของนาย” นี่เรื่องพวกนี้ฉันอธิบายมาเป็นสิบรอบแล้วนะ ธาดามีสีหน้าที่คาดเดาอะไรไม่ได้เลย เพราะเขาเอาแต่เงียบและจ้องหน้าฉัน

“...ใจร้ายจัง” ถึงจะทำเสียงเศร้า แต่สายตากลับตรงกันข้าม

“ไม่ได้ใจร้าย...ฉันแค่ไม่ได้รัก”

“งั้นเหรอ”

ธาดาเปลี่ยนท่านั่งมาเท้าค้างแล้วจ้องหน้าฉัน ริมฝีปากยกยิ้ม สายตาเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้า

“....”

“เรามาลองกันมั้ย” จู่ ๆ ก็พูดขึ้นมา ฉันมองเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ

“....”

“ถ้าเธอทนได้ก่อนที่จะถึงวันลาออก ฉันจะจบทุกอย่างแล้วไม่วุ่นวายกับเธออีก”

“....” ถ้าเป็นข้อตกลง ฉันรู้ว่าคนอย่างธาดาทำตามสิ่งที่ตัวเองพูดเสมอ

“แต่ถ้าเธอทนไม่ได้....”

“....”

“คงไม่ต้องให้พูดนะว่าจะเป็นยังไง”

“....” เขาเอาจริง ทุกอย่างที่พูด

“อย่าเงียบสิ เทียนไขคนเก่ง” ธาดาเท้าคางแล้วส่งยิ้มให้ฉัน

“....”

“ถ้าเงียบ จะถือว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ฉันต้องการ แล้วเธอจะไม่มีโอกาสต่อรองฉันอีก”

“ตกลง”

“หื้อ...อะไรนะ”

“ตกลง” สิบปีที่ฉันอยู่มา ต่อจากนี้อีกแค่ห้าเดือนทำไมจะทนไม่ได้

“ถือว่ารับคำแล้ว ไม่มีการเปลี่ยนใจนะคะคนสวย”

“อือ” ของแค่นี้ทำไมฉันจะจัดการความรู้สึกตัวเองไม่ได้

“ฉันรู้ว่าเธอคิดอะไร สิบปีที่อยู่มาก็ยังปกติดี”

“....” ธาดาลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้ามาหาฉัน มือหนาเอื้อมสัมผัสข้างแก้ม ฉันเอียงหัวหลบ และปาดสายตามองเขา

“ฉันยังมีอะไรที่เธอไม่รู้อีกหลายอย่างนะ ต่อจากนี้ทนให้ได้ล่ะ” สายตาของเขาดูมั่นใจไม่น้อย คำขู่งั้นสิ

“แล้วถ้าฉันทำให้นายทนไม่ได้บ้างล่ะ” เมื่อฉันเริ่มเป็นฝ่ายต่อรองบ้างล่ะ ธาดาส่งยิ้มบาง ๆ มาให้ ก่อนที่จะโน้มหน้าลงอยู่ในระดับเดียวกัน

“ทุกวันนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าทนได้นะเทียนไข แล้วต่อจากนี้ก็จะไม่ทนแล้วด้วย” เขาจ้องหน้าฉันด้วยสายตาจริงจัง

“อ๋อ ค่ะ ที่ผ่านมาก็เห็นมีผู้หญิงมาไม่ซ้ำ แบบนั้นเขาเรียกว่าทนกับฉันมาตลอดเหรอคะเนี่ย” คนที่เปลี่ยนผู้หญิงตลอดเวลาแบบเขา มีสิทธิ์มาพูดกับฉันว่าจะไม่ทนด้วยเหรอ

“ก็เพราะทนกับเธอไม่ไหวไง เลยต้องหาที่ลง แล้วต่อจากนี้จะลงที่เธอคนเดียว”

“ธาดา” ฉันจ้องหน้าเขาเขม็ง และขยับตัวออกห่าง เขามองปฏิกิริยาของฉันแล้วหัวเราะในลำคอ

“ยังไม่ได้เริ่มเลย กลัวแล้วเหรอ” สายตาของผู้ชายตรงหน้าเปลี่ยนไป ธาดาไม่ใช่แบบที่ฉันรู้จัก ที่เคยบอกว่าอันตรายน่ะฉันไม่เคยพูดเกินจริง แต่คนที่รู้ทันเขาทุกอย่างก็คือฉัน เอาละมาลองดูกันว่าใครจะทนไม่ได้ก่อน

“ผู้ชายอย่างคุณธาดาทำอะไรฉันไม่ได้หรอกค่ะ ฉันมันตายด้าน”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Love Textbook ตำรารักพิชิตหัวใจ   ตำรารักฉบับพิเศษ : ความน่ารักของเทียนไข และสปอยล์รุ่นลูก

    (ช่วงวัยเด็กของเทียนไขกับธาดา (ช่วงเกรด7หรือมัธยมชั้นปีที่ 1) ปึง!ประตูห้องครัวหอพักคนงานถูกเปิดออกเต็มแรง พร้อมกับเด็กชายผู้เป็นคุณหนูของบ้านนี้ และยังเป็นเพื่อนสนิทของลูกสาวหัวหน้าแม่บ้านอย่าง...เทียนไข“เทียนไข! ทำไมไม่บอกว่าจะสอบเข้าด้วยคะแนนเต็มเพื่อไปอยู่ห้องคิงล่ะ เรานึกว่าเทียนจะเลือกทำคะแนนน้อยแล้วไปอยู่ห้องสุดท้ายเพราะจะได้มีเวลาไปเล่นกับเรา”เด็กสาวเงยหน้าจากตะกร้าผักที่เธอกำลังเด็ดอยู่แล้วเงยมองขึ้นใบหน้าของ ธาดา ลูกชายเจ้าของบ้าน และเป็นเพื่อนของเธอด้วยสายตาไร้ความรู้สึก“ทำไมต้องทำแบบนั้น”“เพราะเทียนต้องไปเล่นกับเราทุกวันหลังเลิกเรียนไง”“ไม่ไปหรอก เทียนรำคาญธาดา”“...เทียนใจร้าย เทียนทำแบบนี้เราต้องอยู่คนละห้องเลยนะ เราต้องแยกกันตลอดหกปีนะเทียน!”“....” เด็กสาวหันมองธาดาด้วยสายตาเย็นชา ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนพร้อมกับอุ้มตะกร้าผักเดินหนี“เราอยากอยู่กับเทียน!” ธาดาวิ่งตามหลัง และพูดคำเดิมซ้ำ ๆ ไปตลอดทาง“รำคาญ....” ไม่ว่าจะโดนเทียนไขว่าสักกี่ครั้งก็ไม่เคยทำให้ธาดาละความพยายามไปได้“เราจะไปรับเทียนที่ห้องทุกวัน! เทียนห้ามมีแฟนนะ เทียนต้องอยู่กับเรา!”“...รำคาญ” น้ำเสียงเย็

  • Love Textbook ตำรารักพิชิตหัวใจ    (The end) พิชิตใจ ตำราที่ 47 : เจ้าของหัวใจ

    “หายไปไหนของเขา”เสียงบ่นพึมพำกับตัวเอง สายตาสอดส่องมองซ้ายมองขวาเพื่อหาตัวธาดาที่ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาหายไปไหนสักพักแล้ว โทรศัพท์ก็ไม่พกติดตัวนี่เดินรอบแล้วเหลือแต่ที่หอพักคนงาน แต่ปกติธาดาจะไม่ได้ไปที่นั่นถ้าไม่มีธุระสำคัญ“ป้าขวัญคะ เห็นคุณธาดามั้ย” ในระหว่างที่กำลังหยุดยืนคิดอยู่หน้าบ้านใหญ่ ป้าขวัญ แม่ครัวของบ้านก็เดินออกมาจากมุมมืดพอดี“คุณธาดาเห็นนั่งอยู่กับเก้าตรงสวนด้านหลังนะ ไอ้เก้ามันเมาด้วยเห็นขวดเบียร์ตั้งอยู่”“ขอบคุณค่ะป้า” เมื่อได้ยินอย่างนั้นฉันก็รีบเดินไปยังสวนด้านหลังทันทีเก้าเมาแล้วจะพูดอะไรไม่เข้าหูธาดามั้ยเนี่ย แล้วสิ่งที่น่าสงสัยมากที่สุดเขาไปนั่งอยู่กับเก้าทำไม ในระหว่างที่เดินไป และในหัวเองก็กำลังประมวลผลเรื่องราวที่คาดว่าจะเกิดขึ้น สายตาก็เพ่งมองไปยังร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนพื้นแอบมองอะไรบางอย่างอยู่ก่อนแล้ว“น้ำหวาน” ฉันย่อตัวนั่งลงด้านหลังน้ำหวานแล้วกระซิบเรียกชื่อเธอ“อุ้ย! พี่เทียนตกใจหมด” เมื่อหันมาพบว่าเป็นฉันน้ำหวานก็สะดุ้งสุดตัว แต่ก็เก็บเสียงได้อย่างดี“สองคนนั้นทำอะไร” ฉันมองตรงไปยังโต๊ะม้าหินขวดเบียร์วางเรียงกันบนโต๊ะ และด้านข้างที่ถังน้

  • Love Textbook ตำรารักพิชิตหัวใจ    พิชิตใจ ตำราที่ 46 : ไม่เคยคิดว่าเป็นเพื่อน

    แอด!ประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมกับร่างบางในชุดนอนสีฟ้าอ่อนกำลังเดินออกมา แต่สองเท้าก็ต้องหยุดชะงักเมื่อสบตากับคนตัวสูงที่ยืนกอดอกรออยู่หน้าประตู“....” เราทั้งสองคนสบตากัน และธาดาก็ยังคงยืนทำหน้าเครียดไม่พูดไม่จา“....” เอาแต่ยืนมองหน้าแล้ววันนี้จะเข้าใจมั้ยว่าต้องการอะไร“เป็นอะไร” ต้องเป็นฝ่ายถามซะเอง เพราะธาดาเอาแต่ยืนเงียบ“ทำไมไม่ไปนอนด้วยกัน” ที่ไม่พอใจเพราะเรื่องนี้นี่เอง“ก็ของยังอยู่ห้องนี้”“ไปนอนก่อน เดี๋ยวให้คนมาย้ายของให้”“แล้วถ้าไม่ไป” ฉันเดินเข้าไปหยุดยืนตรงหน้าแล้วกอดอกถาม“....” เขาก้มมองคนตัวเล็ก“จะบังคับหรือเปล่า”“ไม่ ถ้าเทียนไขไม่ไป เราก็นอนที่ห้องนี้ อยากกอดเมียแล้วก็ลูก” ริมฝีปากบางอมยิ้มให้กับสิ่งที่เขาพูด ใช่...ฉันกำลังท้อง“ยังไม่แน่ชัดสักหน่อยว่าท้อง เดี๋ยวต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลก่อนสิ”“ที่ตรวจสามอันขึ้นสองขีดเนี่ยยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ หรือว่าต้องว่าย้ำ” มือหนาโอบเข้าที่เอวบางแล้วดึงมาชิดตัว“อาจจะเป็นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่คลาดเคลื่อนก็ได้” แกล้งเขานี่มันสนุกดีจริง“จะบอกว่ากินยามาตลอดยังไงก็ไม่ติดน่ะเหรอ”“....” เขายังจำทุกอย่างที่ฉันเคยพูดเอาไว้ได้อีกนะ“ยาไม่แ

  • Love Textbook ตำรารักพิชิตหัวใจ    พิชิตใจ ตำราที่ 45 : หยุดที่เธอ

    เวลา 05.45 น.ตึก ตึก ตึก!เท้าเล็กวิ่งขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของตัวเองในบ้านใหญ่ ยังพอมีเวลาที่จะอาบน้ำแต่งตัวมาดักรอธาดา ถึงเขาจะพูดว่าไม่ให้ฉันมาดูแลในตอนเช้า และก็เพราะนิสัยไม่ดีของตัวเองที่พยายามปฏิเสธความรู้สึกมาตลอดโอเค! จะทำตามใจตัวเองบ้างแล้วนะ มันก็จะเหมือนกับว่าจะเป็นฉันเองที่เป็นฝ่ายไล่ตามเขา เหมือนที่ธาดาก็ทำมาตลอดก่อนหน้านี้ ต่อจากนี้ไม่สนแล้วว่าผลที่ออกจะเป็นยังไง หรือเขาจะปฏิเสธเหมือนที่ฉันเคยทำ แต่ต่อให้เขาปฏิเสธฉันก็ไม่สนแอด!มือเล็กเอื้อมจับลูกบิดประตูแล้วดันเปิดออก สายตามองผ่านความมืดเข้าไปในห้องของธาดา มองจากมุมนี้จะเห็นเพียงแผ่นหลังกว้างที่นอนตะแคงหันหลังให้ เขายังไม่ตื่น ฉันจัดการตัวเองก่อนที่เขาจะออกไปทันแน่“เดี๋ยวเราเจอกัน” เสียงเล็กพึมพำเบา ๆ แล้วดึงประตูปิด ก่อนที่จะมุ่งตรงไปยังห้องนอนตัวเองเพื่อจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย30 นาทีผ่านไป ก๊อก ก๊อก แอด!มือเล็กค้างกลางอากาศเมื่อประตูเปิดออกทันที ร่างสูงเปลือยกายท่อนบน ส่วนล่างมีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอว ร่างกายเปียกซึ่งน่าจะพึ่งออกมาจากห้องน้ำ เขามองฉันด้วยสีหน้าตกใจ“....” ธาดามองหน้าฉันโดยที่ไม่คิดจะพูดท

  • Love Textbook ตำรารักพิชิตหัวใจ   พิชิตใจ ตำราที่ 44 : จูบในความฝัน

    หลายวันต่อมา “พี่เทียนจะร้องไห้กับหนังผีไม่ได้นะ”เสียงบ่นของน้ำหวานทำให้ฉันได้สติกลับมา ดวงตากลมโตเลอะคราบน้ำตาหันไปมองยังบุคคลที่นั่งอยู่ข้างกัน ตอนนี้เราทั้งคู่อยู่ในห้องนอนของน้ำหวาน ฉันถูกชวนให้มาดูหนังเป็นเพื่อน เพราะเธอเองก็ไม่อยากให้ฉันต้องอยู่เพียงลำพัง“ก็สงสารผีที่ถูกฆ่าตาย”“สงสารตาตัวเองก่อนเถอะ หันมาทางนี้หน่อย”“....” น้ำหวานดึงผ้าห่มที่คลุมหัวออกแล้วจับตัวฉันให้หันมาประจันหน้ากับเธอ“เฮ้อ ตาช้ำแล้วช้ำอีกพี่ร้องไห้ติดต่อกันมากี่วันแล้วเนี่ย” น้ำหวานถามอย่างรู้ทัน พร้อมกับเอาถุงเจลเย็นประคบลงบนเปลือกตา“ไม่ได้ร้องแล้ว มีวันนี้ร้องเพราะหนังนี่ไง”“พี่เทียนกลายเป็นคนโกหกไม่เนียนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เวลาไปทำงานทำยังไง”“ก็แต่งหน้า” ฉันปาดสายตามองเด็กรู้ทัน“ไม่ต้องมาทำตาดุ เดี๋ยวจะไปบอกคุณธาดาว่าพี่อยู่ที่นี่”“บอกแล้วได้อะไรขึ้นมา” ฉันหันไปถามน้ำหวานด้วยสีหน้าเศร้า“แล้วพี่คิดว่าคุณธาดาเขาจะรู้มั้ยว่าพี่ไม่ได้ที่นอนห้องตัวเองเลยสักคืน”“แล้วเขาจะต้องรู้ไปทำไม”“ปกติพี่อยู่ที่ไหน หายไปไหนเขาจะตามหามั้ย”“ไม่รู้ เลิกถามได้มั้ย เจ้านายของน้ำหวานเขาไม่ได้สนใจหรอกว่าพี่จะอยู่ไหน

  • Love Textbook ตำรารักพิชิตหัวใจ   พิชิตใจ ตำราที่ 43 : ผู้ชนะที่ไม่เอารางวัล

    “.....” ตอนนี้ได้แต่นั่งนิ่ง ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองด้วยซ้ำว่าเป็นธาดาจริงหรือเปล่าด้วยตาของตัวเอง แต่ดูจากปฏิกิริยาจากทั้งสองคนก็รู้แล้วว่าเป็นเขาจริง ๆ“เห็นลุงบุญมั้ยน้ำหวาน” เสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลังของฉัน น้ำหวานลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีลนลาน หันมองซ้ายมองขวาหาบุคคลที่ธาดาถามถึง“เดี๋ยวน้ำหวานไปตามหาให้นะคะ”“ถ้าเจอแล้วค่อยบอกว่าให้มาหาฉันหน่อย ไม่ต้องไปตาม”“ได้ค่ะ” น้ำหวานตอบรับเขา แต่สายตามองมาที่ฉันทุกอย่างรอบตัวเงียบสงบไม่มีใครพูดอะไรออกมา จนกระทั่งเสียงฝีเท้าดังขึ้น เพราะธาดาเดินออกไปทันทีไม่คิดจะพูดอะไรกับฉัน น้ำหวานกับเก้ามองมาที่ฉันเป็นจุดเดียวไม่มีใครกล้าพูดอะไรต่อ แต่ความอึดอัดแบบนี้ไม่ชอบเลยพึ่บ! ร่างบางลุกจากเก้าอี้แล้วหันหลังเดินตามหลังคนตัวสูงไปติด ๆหมับ!“ขอคุยด้วยหน่อย”มือเล็กคว้าเข้าที่ข้อมือ แต่ธาดาก็ไม่มีอาการตกใจหรือสะบัดออก เขาปล่อยฉันลากเข้าบ้านตรงไปยังห้องโดยไม่มีทีท่าขัดขืน สายตาของคนรอบตัวหันมามองด้วยความสนใจ ดีนะที่ไม่มีพวกผู้ใหญ่อยู่ตอนนี้ปึง! ประตูห้องปิดลงแล้วทุกอย่างก็เข้าสู่ความเงียบ“ช่วงนี้เป็นอะไร” ฉันทนต่อความรู้สึกอึดอัดแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status