5
เปิดเทอม
(มีภาพประกอบ)
(พิมพ์ตะวัน)
วันต่อมา
"อ้าว..เปิดเทอมแล้วเหรอลูก?" สามีของแม่เอ่ยทักทายฉันด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เขาเองก็กำลังเตรียมตัวจะออกไปทำงานเช่นค่ะ
"ใช่ค่ะคุณพ่อ" ฉันพยักหน้ารับก่อนจะสวมเสื้อแจ็กเกตทับชุดนักศึกษาอีกที
"อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนมั้ยลูก มื้อเช้าเนี่ยสำคัญนะพิมพ์" ท่านเดินเข้ามาพูดคุยด้วยใบหน้าที่ดูปกติดีทุกอย่าง ราวกับคนละคนกับคนเมื่อคืนเลย
"ไม่เป็นไรค่ะ พอดีมหาลัยอยู่ไกลนะคะ..อีกอย่างพิมพ์ต้องรีบจ่ายค่าเช่าหอพักก่อน" ฉันรีบยกมือไหว้คุณพ่อ และหันไปไหว้แม่ของตัวเองที่กำลังเดินจูงมือน้องชายตัวแสบลงมาจากบันไดชั้นสองของบ้านพอดี
"พี่พิมพ์ครับ"พัตเตอร์น้องชายตัวเล็กตะโกนเรียกหาฉันลั่น พร้อมกับวิ่งเข้ามาสวมกอดฉันไว้ทันที
"พัตเตอร์ไม่อยากให้พี่พิมพ์ไปเรียนเลย...เพราะกว่าพี่พิมพ์จะกลับบ้านก็สองสามอาทิตย์ทีหนึ่งเลย พัตเตอร์เบื่อไม่มีใครสอนทำการบ้านเลย" เจ้าตัวเล็กกระทืบเท้าเบา ๆ และงอแงทันทีที่เห็นฉันใส่ชุดนักศึกษา ซึ่งก็งอแงงแบบนี้มาตั้งแต่ตอนที่ฉันเริ่มเข้ามหาลัยแล้วล่ะ
"งั้นถ้าพัตมีอะไรที่ไม่เข้าใจจริง ๆ ก็โทรมาหาพี่สิ เดี๋ยวพี่สอนทางโทรศัพท์ก็ได้" ฉันย่อตัวลงลูบหัวน้องชาย ก่อนจะหอมแก้มซ้ายและขวาอย่างเอ็นดู
"ไม่เอาอะ..พัตอยากให้พี่พิมพ์กลับมาอยู่บ้าน" พัตเตอร์ส่ายหน้าและไม่ยอมปล่อยเสื้อแจ็กเกตของฉัน
"มหาลัยพี่มันไกล ๆ มาก ๆ เลยนะพัต..ถ้าพี่อยู่บ้านกับหนู พี่ก็คงไปเรียนไม่ทันแน่ ๆ " ฉันอธิบายไปตามความจริงเพราะมหาลัยของฉันอยู่ไกลมากและไหนจะสภาพการจราจรในกรุงเทพอีก ค่าน้ำมันไปกลับก็ไม่คุ้มแล้ว
ฟุ่บ! คุณพ่อเดินมาอุ้มลูกชายคนสุดท้องของเขาขึ้นแนบอกในทันที
"ไม่เอาน่า..อย่างอแงใส่พี่พิมพ์เขาแบบนี้สิลูก พี่พิมพ์เขาต้องไปเรียนหนังสือนะ"
"เพราะอีกหน่อยพอพี่พิมจบมา เขาจะมีงานดี ๆ ทำแล้วมาส่งพัตเตอร์เรียนต่อไง"
"ส่วนการบ้านให้พี่พิ้งช่วยสอน (คุณพ่อ) / พี่พิ้งสอนการบ้านพัตเตอร์ไม่ได้หรอกครับ (พัตเตอร์) " น้องชายส่ายหน้าอย่างไม่ยอมในทันที
"เอาเถอะ ๆ เดี๋ยวพ่อจัดการน้องเราเอง..พิมพ์รีบไปเรียนเถอะ" คุณพ่อพูดทิ้งท้ายแค่นั้นก่อนจะอุ้มลูกชายไปนั่งที่โต๊ะอาหารเตรียมที่จะทานข้าวเช้าพร้อมกัน
"ขี่รถดี ๆ นะพิมพ์ ถึงหอแล้วก็โทรมาบอกแม่ด้วย แม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง" แม่เดินเข้ามาสวมกอดฉันเอาไว้แน่น
"ค่ะแม่" ฉันพยักหน้ารับก่อนจะยกมือไหว้เพื่อร่ำลา ท่านก็เดินตรงมาส่งฉันถึงลานจอดที่หน้าบ้าน
"แม่รักพิมพ์นะ ไม่ว่าพิมพ์จะมีปัญหาอะไรยังไงก็ตาม..พิมพ์เล่าให้แม่ฟังได้เสมอ" แม่ลูบแผ่นหลังของฉันเบา ๆ และหอมแก้มฉันเช่นทุกครั้ง
"พิมพ์ก็รักแม่ค่ะ" ฉันตอบกลับไปก่อนจะเดินตรงไปที่รถมอเตอร์ไซต์ที่จอดอยู่
"ช่วงนี้พ่อท่านทำงานหนักน่ะ ถ้าท่านพูดอะไรที่ทำให้พิมพ์ไม่สบายใจก็อย่าถือสาพ่อเขาเลยนะ" จู่ ๆ แม่ก็พูดขึ้นในตอนที่ฉันขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์เตรียมจะขี่ออกไป
"พ่อเขาหวังดีกับพิมพ์มาก ๆ และก็รักพิมพ์ไม่ต่างจากลูกคนอื่น ๆ เลยด้วย"
"พิมพ์เข้าใจคุณพ่อดีค่ะ..แม่ไม่ต้องกังวลนะ พิมพ์ไม่ได้คิดอะไรเลยค่ะ" ฉันตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มก่อนจะสวมหมวกกันน็อคปกปิดใบหน้าที่แท้จริงของตัวเอง
จริงอยู่ที่ฉันไม่เคยโกรธคุณพ่อ หรือพ่อเลี้ยงของตัวเองเลย..เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาท่านดูแลทุกคนในบ้านรวมทั้งฉันมาเป็นอย่างดี หลังจากที่พ่อแท้ ๆ ของฉันเสียไป ถ้าไม่ได้พ่อเลี้ยงคนนี้ ฉันก็คงไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีข้าวกิน และคงไม่มีเงินเรียน
ณ มหาลัยอเธน่า
ATHENA INTERNATION UNIVERSITY
ตึกวิศวกรรมศาสตร์
สาขา วิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตรเลียม
ฉันชื่อพิมพ์ตะวัน หรือที่ทุกคนเรียกสั้น ๆ ว่าพิมพ์ อายุตอนนี้ก็ ยี่สิบเอ็ดปี และกำลังศึกษาอยู่คณะวิศวะ เหมือนแร่ และปิโตรเลียม ชั้นปีที่สาม
ฉันเป็นนักเรียนที่สอบชิงทุนแบบเต็มจำนวนของทางมหาลัยอเธน่าได้ และอเธน่าแห่งนี้คือมหาลัยเอกชนนานาชาติอันดับหนึ่งในไทย และอันดับสามของเอเชีย
ถ้าฉันได้เรียนจบจากที่นี่ บริษัทยักษ์ใหญ่หลาย ๆ แห่งก็จะเข้ามาจองตัวในทันที แถมจะไม่ต้องวิ่งไปหางานเลยด้วยซ้ำ และเป้าหมายที่ชัดเจนของฉัน คือการมีงานดี ๆ เงินเดือนสูง ๆ เพื่อที่จะได้เป็นที่พึ่งพาให้กับน้อง ๆ ทั้งสองคนของตัวเอง
การเกิดมาเป็นพี่สาวคนโตมันต้องแกร่ง ต้องแบกทุกอย่างและก็ต้องสู้เพื่อตัวเองและน้อง ๆ เสมอ...จริงมั้ยละ..
"มึงสาย!!!" ทันทีที่ฉันเปิดประตูเข้าไปในห้องเรียน กลุ่มเพื่อนผู้ชายเกือบ ๆ สี่คนก็พุ่งเข้ามาตั้งท่าเหมือนจะหาเรื่องฉันทันที
"พวกมึงจะโทษกูไม่ได้นะ ก็ป้าสมร ของพวกมึงมาตั้งร้านสาย..กูก็เลยมาสายไปด้วยเลย" ฉันกวาดสายตามองพวกมันพลางถอนหายใจ ก่อนจะยกชุดข้าวเหนียวหมูปิ้งเกือบ ๆ สิบชุดมาให้พวกฝูงแรง ประจำสาขา วิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตรเลียม ท้ังสี่ตัว อันมี..ไอ้ออโต้ ไอ้อาร์เดล ไอ้เลโอ และไอ้โย
"เดี๋ยว ๆ ก่อนจะแดก เอาเงินมาด้วยค่ะ ไอ้พวกเพื่อนเวร" ฉันกระชากถุงหมูปิ้งคืนก่อนจะแบมือเก็บตังพวกมันเรียงตัว
"ขี้งก!!" และพวกมันก็ประสานเสียงว่าให้ฉันกันทันควัน
ก่อนจะโชว์สลิปโอนเงินค่าหมูปิ้ง รวมถึงค่าเซอร์วิสชาร์จในการบิดรถไปต่อแถวซื้อให้พวกมันด้วย คนละหนึ่งห้าสิบบาทถ้วน ไม่มีเกินไม่มีขาด
"เขาไม่ได้เรียกว่างกเว้ย!! เขาเรียกว่าคนที่รู้คุณค่าของเงินต่างหาก" ฉันเดินบิดหูพวกมันเรียงตัวก่อนจะวิ่งหลบส้นเท้าของไอ้พวกผู้ชายร่างสูงใหญ่ และแน่นอนพวกมันไม่เคยมองเห็นฉันเป็นผู้หญิงเลย ตั้งแต่เรียนปีหนึ่งมาจนถึงปีสามเนี่ย
ตามจริงแล้วนักศึกษาคณะวิศวะก็มีเยอะมากพอสมควรเลย ถือเป็นกลุ่มคณะที่ใหญ่อันดับสองของมหาลัย รองจากคณะบริหารเลยด้วยซ้ำ
แต่ที่เห็นว่ามีแค่เรานั่งเรียงกันห้าคนเนี่ย ก็เป็นเพราะว่าพอปีสามที่ต้องแยกไปเรียนเมเจอร์ใคร
เมเจอร์มันแล้ว คนที่เลือกลงเรียน วิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตรเลียม ก็มีแค่ฉัน และไอ้พวกสี่ตัวบาทนี่เท่านั้นที่สำคัญคือการจะเรียนภาควิชานี้ได้ ต้องผ่านเกณฑ์สอบคัดเลือกที่เรียกว่าหินมาก ๆ เลยถึงจะมีสิทธิ์เข้ามานั่งเรียนภาควิชานี้ได้ บอกเลยว่ามหาลัยนี้ไม่ใช่แค่มีเงินแล้วจะจบกันง่าย ๆ
"เกิดเป็นลูกคนรวย นี่ก็ลำบากเหมือนกันนะ หมูปิ้งก็หากินยาก ….กินแต่ร้านหรูจนไม่รู้ซะแล้วว่าอาหารข้างทางนะอร่อยแค่ไหน" ฉันก้มมองเงินในบัญชีก่อนจะยิ้ม ๆ และเดินไปนั่งประจำโต๊ะของตัวเอง ด้านหน้าสุดของห้องเรียน
"เฮ่อออ" ฉันนั่งถอนหายใจ ก่อนจะมองไปที่กระดานสีขาวด้านหน้าของห้องเรียน
"กว่าจะมาถึงตรงนี้ ไม่ง่ายเลยจริง ๆ และเธอต้องทำมันให้ได้ เธอต้องเรียนจบที่นี่ให้ได้ พิมพ์ตะวัน" ฉันพึมพำเรียกกำลังใจให้กับตัวเองซ้ำ ๆ เพราะคณะที่เรียนมันไม่ง่ายเลยจริง ๆ
ฉันต้องตั้งใจเรียนในห้องให้ได้มากที่สุด เพราะฉันไม่มีเงินไปติว หรือเรียนพิเศษเพิ่มเหมือนกับใคร ๆ ไหนจะต้องทำงานพิเศษอีก
"พ่อพวกมึงมาแล้ว ๆ " เสียงของไอ้โยพูดขึ้นเมื่อเห็นอาจารย์ที่เรียกว่าดุที่สุดในคณะ ที่ควบทั้งตำแหน่งอาจารย์สอน และอาจารย์ฝ่ายปกครองสูงสุดประจำคณะวิศวะนี่อีกด้วย
ปัง!! เสียงวางแฟ้มเอกสารทำเอาทุกคนสะดุ้งเล็กน้อย
"..สวัสดีนักศึกษาชั้นปีที่สามทุกคน" อาจารย์กล่าวทักทายนักศึกษาในห้องที่มีเพียงแค่ห้าคนด้วยใบหน้าที่นิ่ง ๆ
"ผมวิลเลี่ยม และทุกคนคงจะรู้จักผมเป็นอย่างดี" อาจารย์จะพูดไทยก็แค่วันแรกเปิดเทอมวันแรกเนี่ยแหละ เพราะหลังจากเริ่มเรียนจริงจังก็จะรัวอิ้งชนิดที่จดเลคเชอร์กันแทบไม่ทัน บางทีต้องพึ่งโทรศัพท์กดอัดเสียงไว้เลยด้วยซ้ำ
"เพราะเราเคยเจอกันอยู่บ่อย ๆ" อาจารย์วิลเลี่ยมพูดขึ้นเพราะท่านเป็นฝ่ายปกครอง ที่ความจำดีที่หนึ่งเลยจริง ๆ ถ้าไม่เจ๊งจริง ไม่ดุจริง ก็คงคุมพวกเด็กวิศวะทั้งคณะไม่อยู่
"ทุกครั้งที่มีเรียนวิชานี้ รบกวนใส่เสื้อช็อปมาด้วยทุกครั้งนะ คุณวาโย" ท่านชี้ไปทางวาโยที่ใส่แค่ชุดนักศึกษาธรรมดา ๆ
"เป็นรุ่นพี่ปีสามกันแล้ว ช่วยทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้น้อง ๆ ด้วย!" ท่านกวาดสายตามองทุกคนและพูดด้วยใบหน้าที่เข้มงวด
"และที่สำคัญไปกว่านั้น ที่นี่ห้องเรียนไม่ใช่ห้องอาหาร ครั้งหน้ารบกวนไม่นำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามากินนะครับ" อาจารย์กวาดสายตามองมาที่เราทั้งหกคนอีกครั้ง เพราะกลิ่นหมูปิ้งมันตลบอบอวลไปทั้งห้องจริง ๆ แม้ว่าพวกมันจะซ่อนไว้เป็นอย่างดีแล้วก็ตาม
ไอ้พวกผู้ชายทั้งหมดก็นั่งกระจาย ๆ กันอยู่ชิดติดหลังห้องเรียน
ตึก ตึก ๆ อาจารย์วิลเลี่ยมเดินตรงไปหยุดยืนที่กลางห้องเรียน
"ภาควิชานี้มีคนเรียนแค่ห้าคน..ไม่ทราบว่าพวกคุณจะเว้นที่ข้างหน้าไว้หา..ป้าพวกคุณเหรอ?" อาจารย์วิลเลี่ยม ลูกครึ่งไทยเยอรมันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
จนทำเอาพวกเหลือขออย่าง.ไอ้ออโต้ ไอ้อาร์เดล ไอ้เลโอ และไอ้โย รีบวิ่งแจ้นมานั่งเรียงแถวหน้ากระดานข้าง ๆ ฉันกันหมด
"เฮ่อออ!!" จู่ ๆ ท่านก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
"ปีนี้คนสอบผ่านเข้ามาเรียนปิโตรเลียมน้อยจริง ๆ "
" แต่ก็เอาเถอะ ยิ่งคนเรียนน้อย ผมจะใส่ใจนักศึกษาทุกคนอย่างเต็มที่ รับรองเลยว่าพวกคุณจะจบไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดอย่างแน่นอน!" ท่านพูดพร้อมกับหยิบกระดาษลงทะเบียนเรียนมาเช็ครายชื่อดู
ซึ่งท่านแทบจะไม่ต้องมองหน้า ก็สามารถจดนักเรียนได้ทุกคนแล้ว
"อะ..เดี๋ยวทุกคนเซนต์ชื่อลงในใบเข้าเรียนให้ครูด้วยนะ" อาจารย์วิลเลี่ยมแจกแผ่นรายชื่อ และไล่ส่งต่อกันมาจากคนริมสุดมาจนถึงฉัน
ก็อก ๆ ๆ ยังไม่ทันที่อาจารย์วิลเลี่ยมจะแจกชีทเรียนให้กับทุกคน จู่ ๆ ประตูห้องเรียนก็ดังขึ้นอีกครั้ง
"Excuse me, may I come in? " (ขอโทษครับ..เข้าไปได้ไหม? สำเนียงอเมริกันของใครบางคนเอ่ยขึ้น พลางแง้มประตูออกเพียงเล็กน้อย
ซึ่งฉันกับพวกเพื่อน ๆ ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมากเพราะมหาลัยของเรามีชาวต่างชาติเยอะเป็นปกติอยู่แล้ว เพราะเป็นมหาลัยอินเตอร์เนชั่นเนลแต่ทว่า..น้ำเสียงและสำเนียงภาษาของหมอนี่มันคุ้น ๆ เหมือนกันนนะ
"Sure! (แน่นอน) " อาจารย์วิลเลี่ยมเดินไปเปิดประตูให้กับนักศึกษาคนนั้น
"ไอ้พิมพ์ขอยืมลิขิวหน่อยดิ..กูเซนชื่อผิด ไปเซนตรงชื่อมึงแทน"ไอ้ออโต้สะกิดเรียกฉัน
"ไอ้ออโต้..แล้วมึงไม่มีตารึไงวะ" ในตอนที่ฉันกำลังหันแว๊ด ๆ ใส่เพื่อนที่นั่งข้างอย่างท้อใจกับความเบลอ ๆ ของมัน ซึ่งจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งเลยที่มีเรียนเช้า
"พิมพ์ตะวัน ๆ ๆ นี่มันชื่อกู ..ชื่อมึงน่ะอยู่ตรงนี้" ฉันคว้าหัวของไอ้ออโต้และชี้นิ้วไปที่ชื่อมันที่อยู่ด้านบนกับชื่อของฉันที่อยู่คนสุดท้าย พร้อมกับจับหัวมันโขกกับโต๊ะไปหนึ่งที
โป๊ก!!