หลายวันผ่านไป
คิงส์ขับรถสปอร์ตตามรถเมล์สายที่ยัยแว่นขึ้นอย่างห่าง ๆ เขาสวมหมวกแก๊ปและแว่นกันแดด พยายามทำตัวให้กลมกลืนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งยากมากสำหรับผู้ชายที่สูงเกือบร้อยเก้าสิบและมีออร่าความหล่อที่ดึงดูดสายตา
เขาเห็นเธอลงจากรถเมล์ที่ป้ายห่างจากคอนโดไปสองป้าย แล้วเดินเข้าร้านสะดวกซื้อเล็ก ๆ ก่อนจะออกมาพร้อมถุงพลาสติกสองสามใบ เธอยังคงอยู่ในชุดนักศึกษา ผมเปียแว่นหนา ไม่มีอะไรผิดปกติ
คิงส์จอดรถรออยู่ฝั่งตรงข้าม มองดูแสนดีเดินกลับคอนโดอย่างเชื่องช้า
แค่นี้เหรอวะ? เขานิ่วหน้า ชีวิตแม่งเรียบง่ายจนน่าเบื่อฉิบหาย
แต่ยังไม่ยอมแพ้ชายหนุ่มตัดสินใจจะเฝ้าดูต่อไปอีกสักพัก
เขานั่งรออยู่ในรถจิบกาแฟกระป๋องฆ่าเวลา เล่นเกมในมือถือบ้าง เหลือบมองขึ้นไปยังหน้าต่างเธอบ้าง ไฟในห้องเปิดสว่างอยู่พักใหญ่ ก่อนจะดับลงตอนประมาณสี่ทุ่มกว่า
สวดมนต์แล้วนอน งั้นเหรอ? คิงส์หัวเราะ หึ กูไม่เชื่อ
เขารอต่อเกือบเที่ยงคืนไฟในห้องก็ยังคงดับสนิท
คิงส์เริ่มหงุดหงิด หรือว่ากูคิดผิดไปวะ? บางทีมันอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญเรื่องชุดชั้นในนั่น
แต่แล้วไฟในห้องก็สว่างขึ้นอีกครั้ง
คิงส์ตาเบิกกว้างเขาเห็นเงาตะคุ่ม ๆ เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วอยู่หลังม่าน ไม่กี่นาทีต่อมาไฟในห้องก็ดับลงอีกครั้ง
ริมฝีปากกยักแสยะยิ้มพร้อมสตาร์ทรถทันที “กูว่าแล้ว” เขาไม่ได้ขับออกไปในทันที แต่ขยับรถไปจอดซุ่มอยู่ตรงมุมอับใกล้ทางออกของคอนโดและรอไม่นาน
ร่างเล็กในชุดคลุมสีเข้มก้มหน้าก้มตาสวมฮู้ดปิดบังใบหน้า เดินจ้ำ ๆ ออกมาจากโถงล็อบบี้อย่างรวดเร็ว เธอดูมีพิรุธสุด ๆ หวาดระแวงซ้ายขวา ก่อนจะรีบตรงไปเรียกแท็กซี่ที่จอดรออยู่ริมถนน
“หึ มึงไม่รอดสายตากูหรอก ยัยแสนดี” คิงส์เหยียบคันเร่ง ขับตามแท็กซี่ที่เธอขึ้นไปอย่างระมัดระวัง หัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้นด้วยความคาดหวังแปลก ๆ
แท็กซี่ขับลัดเลาะไปตามถนนยามค่ำคืน ออกนอกเส้นทางที่เขาคุ้นเคย มุ่งหน้าไปยังย่านสถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่ดูเก่าและโทรมกว่าปกติ
รถแท็กซี่จอดลงหน้าตึกแถวเก่า ๆ ที่ดูเหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่กลับมีเสียงเพลงเบสหนัก ๆ เล็ดลอดออกมาและมีกลุ่มคนแต่งตัวจัดจ้านยืนสูบบุหรี่อยู่ด้านหน้า
ผับลับ? คิงส์เลิกคิ้ว
เขาเห็นร่างเล็กในชุดคลุมก้าวลงจากรถ จ่ายเงินแล้วเดินตรงไปยังประตูเหล็กทึบ ๆ ที่มีชายร่างใหญ่สองคนยืนคุมอยู่ เธอพูดอะไรบางอย่างกับคนคุม ก่อนที่ประตูจะเปิดออกแล้วก็หายลับเข้าไปข้างใน
คิงส์จอดรถในมุมมืดฝั่งตรงข้าม ความสงสัยพุ่งสูงขึ้นถึงขีดสุด เด็กเรียบร้อยสวดมนต์มาทำอะไรที่ผับเถื่อน ๆ แบบนี้วะ?
เขาตัดสินใจลงจากรถ เดินข้ามถนนไปหาคนคุมประตู
“เฮ้ พวก”
ยังไม่ทันพูดจบคนคุมร่างยักษ์ก็หันมามองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร “มีไร”
คิงส์ไม่พูดพร่ำทำเพลงหยิบเงินปึกหนึ่งออกมาจากกระเป๋าหลังยื่นให้
คนคุมมองเงินสลับกับมองหน้าคิงส์ ก่อนจะยิ้มออกมา “เชิญครับพี่ชาย” แล้วเปิดประตูให้
ทันทีที่ก้าวเข้าไป โลกทั้งใบก็เปลี่ยนไป
กลิ่นเหงื่อ กลิ่นเหล้า และควันบุหรี่ลอยคลุ้งจนแทบสำลัก แสงไฟสีแดงก่ำสาดสลับกับแสงสโตรบไลท์ที่กะพริบจนปวดตา
เพลงเทคโนบีตหนัก ๆ ดังกระแทกจนพื้นสะเทือน ผู้คนเบียดเสียด เต้นกันเหมือนผีเข้า ทุกคนดูดิบเถื่อน รอยสักเต็มตัวและสายตาที่พร้อมจะมีเรื่อง
คิงส์กวาดสายตามองไปรอบ เขาเดินเบียดผู้คนเข้าไปด้านใน แล้วเขาก็เห็นเธอ
ร่างเล็กยืนพิงเคาน์เตอร์บาร์ ชุดคลุมถูกถอดออกไปแล้ว เผยให้เห็นเดรสสั้นรัดรูปสีดำสุดเซ็กซี่ เว้าหลังลึกจนเห็นแผ่นหลังขาวเนียน ผมเปียถูกปล่อยสยายยาวเคลียแผ่นหลัง แว่นตาหายไป ถูกแทนที่ด้วยดวงตาที่แต่งสโมคกี้อายสุดเฉี่ยว ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงก่ำ
เธอกำลังหัวเราะพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์ด้วยท่าทางสนิทสนม
คิงส์ยืนนิ่ง อึ้ง!
นี่มัน คนเดียวกันจริง ๆ เหรอวะ
ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามา ตกตะลึงสนุกและสุดท้ายคือความอยากเอาชนะอย่างรุนแรง
นังนี่มันร้าย ร้ายกว่าที่คิดไว้เยอะ
ริมฝีปากหยักแสยะยิ้ม เกมนี้มันเพิ่งเริ่มต้น
เขาไม่รอช้าก้าวเท้าฝ่าฝูงชนตรงไปยังเคาน์เตอร์บาร์ที่แสนดียืนคุยหัวเราะกับบาร์เทนเดอร์
“ขอโทษนะครับ ขอคุยกับผู้หญิงคนนี้หน่อย” คิงส์พูดเสียงเรียบ แต่กดดันบาร์เทนเดอร์ชะงัก หันมามองก่อนจะรีบเบือนหน้าหนีเมื่อเห็นแววตาบางอย่างในดวงตาของคิงส์
แสนดีหันมารอยยิ้มยังประดับอยู่บนริมฝีปากสีแดงก่ำ แต่พลันแข็งค้างไปทันทีที่เห็นใบหน้าของคิงส์ชัด ๆ ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ
“มาที่นี่ได้ยังไง”
คิงส์ยิ้มเยาะ “ทำไม ที่นี่เป็นที่สวดมนต์ที่ใหม่ของเธอเหรอ แสนดี”
แสนดีหน้าซีดเผือดความลับแตก เธอรีบคว้าแก้วเหล้าขึ้นมาจิบเพื่อกลบเกลื่อนอาการสั่น แต่คิงส์กลับคว้าแก้วนั้นกระแทกลงบนเคาน์เตอร์
เพล้ง
เสียงแก้วแตกเรียกสายตาคนรอบข้าง แอลกอฮอล์สาดกระเซ็นเปื้อนชุดเดรสสีดำของเธอ
“คุยกันหน่อย” เขาพูดเสียงต่ำลอดไรฟันก่อนจะคว้าข้อมือเธอไว้แน่น
“ปล่อยนะ นายไม่มีสิทธิ์” เธอพยายามสะบัด แต่แรงของเขาบีบแน่นราวคีมเหล็ก
“กูมีสิทธิ์ทุกอย่าง ตั้งแต่คืนที่มึงร้องครางอยู่ใต้ร่างกูแล้ว” เขาพูดเสียงดังพอให้เธอได้ยินชัดเจนท่ามกลางเสียงเพลง
แสนดีตัวสั่นด้วยความโกรธและความอับอาย เธอเงยหน้าจ้องเขาด้วยแววตาท้าทาย เพราะตอนนี้เธอคือแซนดี้ ไม่ใช่แสนดียัยแว่นคนนั้น
“แล้วไง คิดว่าฉันกลัวเหรอ”
คำตอบนั้นทำให้คิงส์หัวเราะหึ เขาชอบ ชอบความพยศนี้
“ดี งั้นไปหาที่คุยกันเงียบ ๆ ดีกว่า”
ไม่รอช้าลากเธอฝ่าฝูงชนตรงไปยังโซนห้องน้ำที่อยู่ลึกเข้าไปด้านใน
“ปล่อยฉันนะ ไอ้สารเลว” เธอดิ้นรนทุบตีแต่เขากลับลากเธอเข้าไปในห้องน้ำชายที่ใกล้ที่สุด
ปัง!!
เขากระแทกประตูพร้อมล็อกทันที ผลักร่างเธออัดเข้ากับผนังกระเบื้องเย็นเฉียบ
“ชอบเล่นละครนักใช่ไหม” เขากระซิบเสียงเหี้ยมกดร่างเข้าบดเบียด “กลางวันทำเป็นแม่ชี กลางคืนมาทำตัวร่าน”
แสนดี (หรือแซนดี้) เชิดหน้าขึ้น จ้องตอบเขาอย่างไม่เกรงกลัว “แล้วนายล่ะ ไอ้หน้ากากขี้ขลาด กล้าแต่ทำร้ายผู้หญิงตอนใส่หน้ากากรึไง”
คำพูดนั้นแทงใจดำเขาอย่างจัง คิงส์คำรามในลำคอ
เขาไม่ตอบ แต่ใช้การกระทำแทน
ริมฝีปากร้อนกดทับลงมาอย่างรุนแรงมันไม่ใช่จูบมันคือการบดขยี้ การลงโทษ เขากัดริมฝีปากล่างของเธอจนได้รสเลือดฝาดคาว
เธอไม่ยอมแพ้กัดตอบเขาคืนอย่างแรง…