ฉันได้แต่จ้องหน้าขาว ๆ จมูกโด่งของเขา... บ้า ทำไมมันดึงดูดกันขนาดนี้ ฉันละสายตาไปไหนไม่ได้เลย ใจก็เต้นแรง แรงจนแทบจะทะลุออกมาแล้ว!
“จะกอดฉันอีกนานไหม ฉันร้อน” และเขาก็มองไปที่แขนฉัน ก่อนที่ฉันจะดึงสติกลับมาได้ แล้วรีบกลับมายืนปกติทันที
“แหะ ๆ เอ่อ... นี่ ขอบใจนะ ที่เอากระเป๋ามาคืน” เขาพยักหน้าแล้วยื่นให้ฉันอีกรอบ
“ฉันคิดว่าเธอ จำเป็นต้องใช้ของบางอย่างในนั้น รีบรับไว้สิ รำคาญ”
ของบางอย่าง ที่จำเป็นต้องใช้? เฮ้ย ยาคุม!
ฉันรีบคว้ากระเป๋ามาเปิดดูทันที ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างสงสัย เขารู้ได้ไง! ว่ากระเป๋าฉันมียาคุม?
“นายเปิดกระเป๋าฉันเหรอนาวา?”
“นี่! กระเป๋าเธอมันตกที่พื้น ของเธอกระจัดกระจายเต็มรถ ก็ต้องเก็บสิ!”
“เอ่อ… แล้ว แล้ว… นายเห็นไอ้ยาแผงนี้เหรอ คือฉันไม่ได้กินเพื่อ”
“ฉันไม่ได้ถาม” เพล้ง หน้ากูแตกกระจาย หล่นลงไปกองที่พื้น
“แหะ ๆ ไม่บอกก็ได้” แล้วเขาก็หันหลังเดินออกไป ก่อนที่ฉันจะเห็นเขาเอามือปิดปากตัวเอง แล้วหาวไปด้วย
เขาง่วง?
“นาวา นายง่วงเหรอ?” เขายกมือขึ้นไม่ให้ฉันยุ่ง ก่อนจะล้วงกระเป๋าเดินไปต่อ ฉันได้แต่มองตามหลังเขา ตายจริง ถ้าเขาง่วงแล้วขับรถมันไม่ปลอดภัยแน่ ๆ
“นาวา กินกาแฟก่อนไหม” ฉันรีบเดินกระเพลก ๆ ไปคว้าแขนเขา ก่อนที่จะโดนเขาจับมือออก แล้วหันมามองอย่างเซ็ง ๆ
หวงเนื้อหวงตัว?
“เธอรู้ไหม ว่าชวนผู้ชายกินกาแฟในห้อง มันหมายความว่าไง”
“อะไร? ก็หมายความว่า นายอาจจะหลับในระหว่างทาง ต้องเติมคาเฟอีนด่วนไง”
“อย่ายิ้มได้ไหมวะ” กูผิด?
“ทำไมยิ้มไม่ได้ ป่ะ ๆ กินกาแฟสักแก้วก่อนค่อยกลับ ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ทำอะไรนายแน่นอน”
ฉันดึงแขนเขาเข้าห้องทันที ทั้งที่ตัวเองทรมานก้นใจแทบขาด แต่ไม่พลาดที่จะลากผู้ชายเข้าห้องนะจ๊ะ
เดี๋ยว! ไม่ใช่แบบนั้น!
พอเข้ามาในห้อง ฉันก็ดันเขานั่งลงโซฟาทันที ก่อนที่จะเดินอ้อมไปที่เคาน์เตอร์ แล้วกดกาแฟสดให้เขาหนึ่งแก้ว
“แล้วแฟนเธอ?”
“อ๋อ ๆ แฟนฉันไปขับแท็กซี่น่ะ”
“...”
“ล้อเล่น! ฉันไม่มีแฟนหรอก นายกลัวโดนชกรึไง”
“หยุดยิ้มสักที รำคาญตา” อะไรวะ เหมือนหมาบ้าเลย กูยิ้มก็ผิด ทำอะไรก็ผิดไปหมด
“แล้วให้ทำไง นายเรียนจบยัง ฉันได้ข่าวว่านายยังเรียนไม่จบอยู่คนเดียว”
“อืม สาขาฉันเรียนหลายปี... ฉันแค่กลับมาอินเทริน”
“แฟนคิดถึงแย่เลยเนอะ” ขมวดคิ้วใส่ฉันทันที
“เหอะ แค่คิดก็รำคาญ” เขาซดกาแฟในแก้วพรวดเดียว แล้วลุกขึ้นทันที
ไม่ร้อนเหรอวะ
“กะ กลับแล้วเหรอ หายง่วงรึยัง” เขาหันหลังให้ฉันแล้วเดินไปที่ประตู
“ปกติเธอดึงผู้ชายเข้าห้อง ด้วยชุดนี้ตลอดเลยเหรอ”
ฉันก้มดูชุดตัวเองใส่ทันที ก็ชุดนอนส่ายเดี่ยวกับเสื้อคลุมบาง ๆ มันทำไมวะ ก็ไม่ได้เซ็กซี่นะ
หรือเปล่า?
“ก็...”
ปัง! ฉันไม่ทันเงยหน้าขึ้น เขาก็เปิดประตูออกไปจากห้อง แล้วปิดประตูใส่หน้าฉัน!
ก่อนที่ฉันจะนั่งงง และลุกขึ้นไปเก็บแก้วกาแฟเขาแทน จนตามันเผลอมองรอยริมฝีปาก ที่มีคราบกาแฟนิด ๆ บนขอบแก้ว
เซ็กซี่ดีจัง
คิดอะไรวะกู แค่มองคราบกาแฟก็นึกถึงหน้าเขาแล้ว ดูโรคจิตเนอะ แต่ก็แปลก... ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้หล่อขนาดนี้นี่น่า ทำไมวันนี้อยู่ใกล้ ๆ แล้ว หล่อจัง...
อ๊าก... ออกไปจากหัวกูเดี๋ยวนี้!
มึงจะถูกผู้ชายหายใจรดครั้งเดียว แล้วเป็นแบบนี้ไม่ได้นะปลายฟ้า ผู้ชายน่ะอันตราย จำที่แม่พูดไม่ได้รึไง!
ฉันรีบแกะยาคุมกิน แล้วกลับไปที่เตียงนอน... เก็บความรู้สึกที่อยากมีผัวไว้ก่อน ถ้าไม่ได้อยากมีผัว อยากมีลูกจริง ๆ อยู่ใกล้ผู้ชายคนอื่นจะเป็นแบบนี้ไหม? แต่กับไทม์ เรากอดกันแน่นจะตายก็ไม่นี่หว่า!
ฉันเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็สายแล้ว และตอนนี้ก้นฉันก็ระบมหนักมาก ขยับแทบจะไม่ได้ บ้าเอ้ย! เมื่อคืนก็ไม่ได้เจ็บขนาดนี้นี่น่า จะช้ำไหมเนี่ย ฉันพยายามพลิกตัวดูอยู่หลายครั้ง แต่พลิกยังไงก็มองไม่เห็น!
ทำไงดีเนี่ย!
ฉันจึงเอื้อมไปหยิบมือถือบนหัวเตียง กดโทรหาฟร้อนคอนโด ได้โปรด... ส่งรถโรงบาลมารับกูที ไม่ไหวแล้ว
พอเขารับปากจะประสานงานให้ ฉันก็โทรหาน้องสาวตัวเองต่อ หวังให้นางมาอยู่เป็นเพื่อน และเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เพราะฉันลุกไม่ไหวแน่ ๆ ไม่อยากไปโรงพยาบาลชุดนี้ด้วย!
Calling | BAIMAI
ใบไม้เป็นน้องสาวฉันเอง เป็นลูกสาวพ่อบอส หรือลุงบอสนั่นล่ะ เรารักกันมาก มีอะไรช่วยเหลือกันตลอด และทุกเรื่อง ไม่เชื่อก็รอดู
(ฮัลโหล...)
“ใบไม้ เจ๊ล้มก้นกระแทกพื้น มาช่วยเจ๊หน่อยสิ ฮือ ๆ”
(หนูไม่ใช่หมอ...)
“พ่อครับ ผู้หญิงที่ผมคบด้วยเอาแต่ใจมาก ผมจะเลิกแล้วล่ะ ปวดหัว” ผมหันมองลูกชายที่นั่งเบาะข้างแวบนึง ลูกชายอายุสิบสี่ จะมีแฟนก็ไม่แปลก แต่ที่แปลกคือเปลี่ยนบ่อยเหลือเกิน แล้วแต่ละคนที่เลิกก็จะมาปรึกษาผมแบบนี้ กับแม่เขาไม่ปรึกษาหรอก เพราะปลายฟ้าจะบอกแค่ว่าให้ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ คุย แต่ผมไม่... “อืม ก็เลิกสิ ถ้าปวดหัวก็เลิก อย่าให้กระทบการเรียน” ลูกชายเม้มปากแล้วพยักหน้าอย่างมั่นใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ไอโฟนรุ่นใหม่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงนักเรียน ลูกไฮโซออกรุ่นไหนก็จัดรุ่นนั้น ฝีมือแม่เขา นั่นแหละ ชอบสอนให้ลูกฟุ่มเฟือย ซึ่งผมเตือนแล้วเตือนอีกเพราะอดห่วงตอนส่งไปเรียนอังกฤษไม่ได้ ถ้าลูกใช้เงินไม่คิดแบบนี้ ผมกับเมียได้กินแกลบกินเกลือแน่ “พี่ณเพชรจะเลิกกับผู้หญิงอีกแล้วอ่ะ ณพิม มาดูเร็ว ๆ” สองแสบรีบเกาะเบาะ ยื่นหน้ามาดูจอโทรศัพท์กับพี่ชาย แต่ณเพชรรีบเก็บใส่กระเป๋าไว้แล้วเบือนหน้าหนี “เอ้า ทำไมเก็บแล้วล่ะคะ ปรึกษาได้นะ ณพิมก็ผู้หญิง” ณพิมยังใจจดใจจ่ออยากดูโทรศัพท์ แต่ณพลอยเธอมีเป้าหมายใหม่ ลุกขึ้นเกาะเบาะผม ก่อนจะยื่นแขนเล็ก ๆ ขอ
สิบปีผ่านไป... “ณภัทร ณเพชร กลับได้แล้ว” ไม่อยากจะเชื่อ ตอนนี้ฉันเป็นยายแก่ที่ยืนโบกไม้โบกมือหน้าโรงเรียนมัธยม ฉันมารอรับลูกกับหลานทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เว้นแต่หลานสาว ที่หมอนาวาพ่อพวกเธอเป็นคนไปรับเอง เพราะณพลอย ณพิมเรียนโรงเรียนประถมที่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมาก ก็พ่อเจ้าหล่อนเล่นหวงขนาดนั้น ฉันบอกให้ย้ายโรงเรียนมาเรียนกับปลายฝนก็ไม่ยอม! หมอนาวาไม่อยากคาดสายตาไปไหน เขาทำงานที่โรงพยาบาลใกล้ ๆ ว่างเขาก็แว๊บไปดูลูกได้ตลอด ส่วนณเพชรรายนั้นไม่น่าห่วงแล้ว เพราะเขาโตเป็นหนุ่มอายุสิบสี่เรียนโรงเรียนเดียวกับน้า แหงล่ะอะไรก็น้า ๆ เขาน่ะตัวติดน้าอย่างกับอะไร เด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน แถมหน้าตาก็ไม่ไกลกันมาก บางทีฉันก็แก่จนเรียกผิดเรียกถูก ไม่รู้คนไหนลูกคนไหนหลาน ยิ่งทั้งสองกำลังเข้าสู่วัยรุ่น วัยกำลังโตที่นั่งเล่นเกมส์ เหล่หญิง และอ่านหนังสือกัน เรื่องอ่านหนังสือต้องยอมรับลูกชายฉันณภัทร เขาสอนหลานได้ดีมาก เขาติวหนังสือให้กันจนติดท็อปโรงเรียนทั้งคู่ ผิดกับปลายฝนลูกสาวบุญธรรม รายนั้นเธอชอบวาดรูปชอบศิลปะ ทุกครั้งที่หนุ่ม ๆ ทวนวิชา
สรุปแม่ฉันก็ได้เด็กคนนั้นมาเลี้ยง ใช่ค่ะเธอน่ารักจริง ๆ เรียบร้อยมาก ณภัทรก็ดูรักมาก กลับจากโรงเรียนก็หอม ตื่นเช้าจะไปโรงเรียนก็หอม ฉันพาสองสาวไปเลี้ยงที่นั่นบ่อย เห็นแทบทุกช็อตทุกตอน และเห็นอีก ว่าแม่แทบไม่ต้องเลี้ยงเจ้าหนูคนนั้น เธอเหมือนเด็กที่สงบเสงี่ยมเจียมตัว เอาแต่มองหน้าทุกคนแล้วยิ้ม เจ็บปวดอะไรก็ต้องเจ็บปวดจริง ๆ ถึงจะร้องแอ๊ะออกมา แค่ร้องแอ๊ะนะ เรื่องร้องงอแง แม่บอกว่านอกจากวันแรกที่เห็นที่โรงพยาบาล แม่ก็ไม่ได้เห็นอีกเลย “ปลายฝนไม่ร้องแบบนี้ แม่รู้ได้ไงคะว่าน้องหิว?” “กะเวลาเอาสิ ปลายฝนจะหิวและทำอะไรตามเวลาเป๊ะ ๆ แล้วสองสาวล่ะ อยู่กับลูกที่บ้านดื้อไหม?” “ไม่ดื้อค่ะ จะว่าไปตอนนี้หนูเริ่มชินแล้ว หน้าที่แม่ยิ่งใหญ่จริง ๆ แบบว่า เหนื่อยจนชินค่ะ” แม่ขำเบา ๆ พร้อมกับเขย่าขวดนมเตรียมป้อนปลายฝน ก่อนที่ฉันจะอุ้มณพลอยเข้าเต้าอีกคน และนั่งมองน้องไปด้วย ปลายฝนเป็นเด็กที่ไม่เหมือนเด็ก แววตาเธอเหมือนผู้ใหญ่ที่เฝ้าสังเกตและสำรวจตลอดเวลา ฉันไม่อยากเชื่อ ว่าเด็กเดือนกว่า ๆ จะรู้เรื่องและทำอะไรทุกอย่างเป
คุณน้ำหวานยิ้มให้ฉัน เหมือนเป็นรอยยิ้มแห่งความหวัง เราเป็นแม่คนและมีหลานเหมือน ๆ กัน เราดูกันออก แล้วคุณน้ำหวานก็พาฉันไปที่ห้องเด็กอ่อนทันที ที่ตอนนี้ในห้อง มีตำรวจสองสามคนยืนคุยกับกุมารแพทย์ “เรื่องถึงไหนแล้วคะ?” คุณน้ำหวานถามทันทีเมื่อเดินไปถึง ฉันจึงค่อย ๆ เดินอ้อมไปดูเด็กผู้หญิงคนนั้นที่เตียงเด็ก ตายแล้ว เหมือนที่คุณน้ำหวานพูดเลย เธอน่ารักจิ้มลิ้มจริง ๆ ตอนเธอร้องไห้ฉันรู้สึกเศร้าใจตาม อยากจะอุ้มขึ้นมาโอ๋มาก ‘อุแว้~ อุแว้~’ มีรอยมดกัดเต็มแก้ม น่าสงสารจริง ๆ ทำไมถึงทิ้งได้ลง ลูกทั้งคนนะ “ดูจากกล้องวงจรปิด มีคนอุ้มเด็กมาทิ้งราว ๆ เจ็ดโมงเช้าครับ ลักษณะรูปร่างคล้ายผู้หญิง เธอสวมหมวกบัตเก็ตกับมาสก์ปิดปาก และเธอเอียงตัวหลบเหมือนรู้จักมุมกล้องเป็นอย่างดี” คุณน้ำหวานพยักหน้ารับ พลางก้มมองเจ้าตัวเล็กที่ร้องงอแงไปด้วย “เห็นป้ายทะเบียนรถไหมคะ?” “ไม่เห็นครับ เพราะเธอเดินมา และเธอก็เดินเท้าเปล่าด้วย” แล้วฉันกับคุณน้ำหวาน ก็หันไปถามพร้อมกัน “เท้าเปล่า?” จริงอยู
“ณพิม เหมือนอ้วนตอนเด็ก ๆ” คุณหมอเขามองหน้าณพิมสลับกับฉัน ดูสายตาเขาสิ มันเป็นประกายมาก ถ้าถอดมาสก์ปิดปากออก ฉันคงได้เห็นรอยยิ้มกว้าง ๆ ของเขา “แต่ณพลอยเหมือนเบบี๋นะ เค้าอยากให้ลูกมีลักยิ้มเหมือนเบบี๋จัง” “ไม่แน่ณพลอยอาจจะมี ใช่ไหมครับ ลูกสาวพ่อ” ละมุนจริง ๆ เลยกับลูกสาวเนี่ย “จ้า ลูกสาวหมอนาวา” ฉันล้อเขาเสียงอ่อน เพราะตอนนี้รู้สึกเพลียมาก ก่อนที่พยาบาลเธอจะช่วยอุ้มสอง ณ มาถ่ายรูปครอบครัวกัน วิสัญญีแพทย์ก็จะพูดอะไรสักอย่าง จนฉันเผลอหลับไป “ณเพชรอย่าเสียงดังนะลูก แม่หลับอยู่” เสียงสามีฉันนี่น่า โอ้ย... รู้สึกตึง ๆ ท้องจัง “ปะป๊าณเพชรอยากนอนกับแม่ น้องออกมารึยังครับ?” “น้องอยู่ที่ห้องเด็กอ่อนแล้วครับ เช้า ๆ เดี๋ยวพ่อจะพาไปหาน้องนะ ตอนนี้ณเพชรต้องนอนลูก” “ปะป๊า ณเพชรอยากไปตอนนี้เลยครับ” “รอครับ ณเพชรต้องรู้จักรอ ตอนนี้ตีสี่นะ รบกวนคนอื่นเขา” แล้วเสียงเล็ก ๆ ของลูกชายก็เงียบไป ถ้าให้ฉันเดา ตอนนี้เขาคงเดินกอดผ้าทำหน้าบึ้งใส่พ่ออยู่ โถลูก... แม่ไม่ไหวจริง ๆ
ณเพชรปราบพ่อนาวาอยู่หมัด หลังจากวันนั้น ความบันเทิงก็เกิดขึ้นนับไม่ถ้วน เมื่อฉันต้องเข้าแอ็ดมิทที่โรงพยาบาลเพื่อรอคลอด แน่นอนพ่อนาวาต้องเลี้ยงณเพชรมากกว่าเดิม หนำซ้ำบางวันมีณภัทรมาด้วย รายนั้นเขาไม่เถียงพี่เขยหรอก แต่ณเพชรนี่สิ สายกวนประสาทพ่อ “ปะป๊า วันก่อนณเพชรเอาเรื่องปะป๊าไปถามคุณครู คุณครูบอกว่า... “ “อะไรนะณเพชร?” “ครับ ปะป๊าไม่อธิบายเรื่องช้างน้อย ณเพชรเลยถามคุณครูครับ” คุณหมอนาวาทรุดนั่งข้าง ๆ ลูกชาย ก่อนจะชันเข่าขึ้นมากอดไว้ “ชีวิตกูเนี่ยนะ” “ชีวิตปะป๊าทำไมครับ ช้างน้อยปะป๊าโกรธณเพชรเหรอ?” เขาเงยหน้าขึ้น มองฉันขอความช่วยเหลือ เพราะคำว่าช้างน้อย ฉันสอนณเพชรพูดเองล่ะ เอ่อ ของพ่อไม่มีคำว่า ‘น้อย’ นะลูก ช้างเลยล่ะ! “ถ้าณเพชรไม่ลืมเรื่องนี้ พ่อนี่แหละจะโกรธ” ณเพชรเงียบ และหันไปหาณภัทร จนน้าเขาชี้นิ้วไปจิ้มอกหลานเบา ๆ “ฟังน้า อย่าทำให้พ่อโกรธเข้าใจไหม เดี๋ยวโตขึ้นพ่อไม่ให้ตังค์ไปโรงเรียน” สอนหลานน่ารักเชี