6. จีบวันละนิด..
“พี่พริม ใครอ่ะ? มากับพี่ดิน หล่อมากเลย” น้องเดียร์พูดเสียงเบาๆ แทบจะกระซิบ คงกลัวว่าถ้าพี่มิกได้ยินคงจะงอนนางอีก สไมล์ในสายตาคนทั่วไปคือผู้ชาย นางเปลี่ยนชื่อจากสมหมายเป็นนฤบดินทร์ ชื่อเล่น ดิน คือชื่อในวงการผู้ชายของนาง ส่วนชื่อสไมล์เราเรียกกันเฉพาะเวลาที่เราอยู่สองคนเท่านั้น ฉันเพิ่งจะอบขนมเสร็จ สวมผ้ากันเปื้อนสีขาว ข้างในสวมชุดเดรสลายดอกไม้หวานแหวว สไมล์นั่งที่โต๊ะประจำที่ฉันชอบเม้ามอยกับนาง มีชายหนุ่มสวมเสื้อเชิร์ตสีฟ้ากางเกงสแลคสีดำดูสุภาพนั่งตรงข้ามกับนาง
“ไม่รู้สิ เพื่อนมั้งจ้ะ” ฉันเดา และเดินไปหาเพื่อนรัก
“อาจารย์คิน นี่พริมเพื่อนผมครับ เป็นเจ้าของร้าน C'est très bon”
“อาจารย์ดินมีเพื่อนน่ารักขนาดนี้เลยเหรอครับไม่เห็นบอกเลย เชิญนั่งด้วยกันก่อนไหมครับ” อาจารย์คินยืนขึ้นเต็มความสูง เลื่อนเก้าอี้ให้ฉันนั่ง ฉันมองหน้าเขาอย่างพิจารณา เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีทีเดียว คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาสีน้ำตาลเข้มดูมีเสน่ห์ ชีวิตฉันช่วงนี้เจอแต่ชายหนุ่มหน้าดี ต้องเป็นผลบุญที่ฉันทำมาตลอดชีวิตแน่ๆ ทำไมดูเจริญหูเจริญตาดีจัง ไม่สิยายพริม จะมาใจอ่อนกับหนุ่มหล่อๆ ได้ไง เป้าหมายของฉันคือหมอซันเท่านั้น
“ขอบคุณที่ชมนะคะ” ฉันยิ้มเอาผมทัดหู ทำท่าทีเอียงอาย แหมคนชมก็ต้องเขินเป็นธรรมดา สไมล์เบ้ปาก พูดคำๆนึงโดยไม่ออกเสียง ถ้าฉันอ่านปากนางไม่ผิด นางน่าจะพูดว่า “แรด” อ่าว อีบ้า ตบกันเลยมะ
“คนน่ารักอย่างคุณพริมมีแฟนรึยังครับ” อาจารย์คินไม่พูดอะไรอ้อมค้อม ตรงประเด็นสุดๆ จะจีบสินะ เฮ้อ คนน่ารักหนักใจนะเนี่ย
“พริมแอบชอบหมอครับ” สไมล์บอก ก็ดีเหมือนกัน ฉันก็ไม่ได้อยากให้ความหวังใคร
“แสดงว่ายังไม่มีแฟนสินะครับ แอบชอบก็ใช่ว่าหมอจะชอบซะหน่อย” จึ๊ก!! เหมือนหอกแหลมๆ พุ่งมาแทงหัวใจของฉัน ที่เขาบอกคือความจริงๆล้วนๆ ใช่แล้ว..หมอซันไม่ได้ชอบฉัน
“เอ่อ มันก็จริงแต่พริมชอบหมอก็คือชอบหมอ ยังไม่อยากจะเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่นน่ะค่ะ” ฉันพูดตรงๆ ไม่อยากสานสัมพันธ์โดยไม่จำเป็น เพราะถ้าชอบเขาตอบไม่ได้ทางไหนก็เจ็บปวดทั้งนั้น สู้อย่าเริ่มดีกว่า
“ผมก็ยังไม่ได้พูดสักคำว่าจะจีบนะครับ แค่เป็นเพื่อน” อาจารย์คินยิ้มตาใสเหมือนจะตีมึนทู้ซี้จีบแต่แฝงตัวมาในฐานะเพื่อน ฉันมองภาพเขาสลับตำแหน่งกับฉัน ที่จีบหมอซันฉันก็ตีมึนจีบเขา ขนาดคนหน้ามึนมาจีบแล้วยังรำคาญ แล้วหมอซันจะรู้สึกรำคาญฉันไหมนะ?
“คุณสมบัติของหมอ ต้องสุภาพกับคนไข้ เวลาที่เราป่วยร่างกายและจิตใจเราจะอ่อนแอเป็นพิเศษ เราก็เลยเข้าใจผิดไปเองว่าเราชอบหมอเพราะหมอพูดเพราะและใจดีกับคนไข้ พริมเป็นแบบนั้นไหมล่ะครับ” อาจารย์คินพูดอย่างมีหลักการทำให้ฉันคิดตาม ทำไมฉันถึงชอบหมอ เพราะวันนั้นฉันป่วยแล้วเจอเสียงหวานๆ ยิ้มหวานๆ ของหมอซันรึเปล่า โอ้ย! สับสนแล้วนะ
“เงียบไปแสดงว่าผมเดาถูกใช่ไหม” อาจารย์คินเลิกคิ้วอย่างเป็นต่อ มั่นใจว่าความคิดตัวเองถูกต้อง
“ไม่ถูกครับ ยัยพริมชอบหมอเพราะว่าหมอเห็นป่า...”ยังไม่ทันที่สไมล์จะพูดจบ ฉันก็ปิดปากนางซะก่อน
“สมหมายยยยย”
“สมหมายนี่ใครเหรอดิน” อาจารย์คินถามตาใสๆมีแววตาใคร่รู้
“สงสัยชื่อจริงหมอมั้งครับ” สไมล์กัดฟันพูดและส่งสายตาคาดโทษมาที่ฉัน กลัวตายล่ะ ก็นางเริ่มก่อน ไปพูดต่อหน้าคนอื่นได้ไงว่าฉันชอบหมอเพราะหมอเห็นน้องสาวฉันแล้ว
“ตะกี้บอกว่าเห็นป่า ป่าอะไรครับ”
“พริมขอตัวไปจัดขนมก่อนนะคะ แล้วค่อยคุยกันค่ะ” ฉันแยกตัวออกไปทันทีอยู่นานไปอาจารย์คินต้องซักไซ้ไล่เลียงเรื่องป่าอเมซอนแน่ๆ อาจารย์คินทานขนมเสร็จก็ขอตัวกลับ เพราะมีสอน ส่วนสไมล์ก็นั่งเม้ากะฉันต่อ
“เพื่อนแกเนี่ยยังไง มาทำทีขอเป็นเพื่อน”
“อาจารย์คินเค้าป๊อบปูล่าร์มากนะเว้ย เป็นลูกชายอธิการบดี โรงแรม เดอะลุค ก็ของครอบครัวเค้าแหละ” โรงแรม เดอะ ลุค? คือโรงแรมที่ใหญ่และหรูหราที่สุด ในจังหวัดเล็กๆ อย่างสกลนคร
“แล้วไง ฉันอยากมีแฟนเป็นหมอ ไม่ใช่อาจารย์มหาวิทยาลัยซะหน่อย” ฉันเบ้ปาก
“สวยเลือกได้นะยะหล่อน ถ้าหมอไม่ใจอ่อนก็เซมาหาอาจารย์ได้เด้อ”
“อีบ้า ! ไม่มีทาง ฉันรักเดียวใจเดียว”
“สติค่ะหนู เค้าไม่ได้รักแก”
“ย้ำอยู่ได้ ไม่รักวันนี้ก็มีวันหน้าย่ะ” ฉันไหวไหล่ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่น ฮึ่บ!!!
“เรื่องของแก คิดถึงซี่รี่ส์เกาหลีเรื่องใหม่เลยว่ะ”
“เรื่องอะไร ใช่เรื่องหนุ่มหน้าใสกับยัยตัวร้ายป่ะ แกว่าฉันสวยขนาดนั้นเลยเหรอวะ เพื่อนรัก” ฉันตีแขนเพื่อนด้วยความเขิน
“เรื่องคุณหมอหน้าใสกับยัยม้าแคระ”
“อ่าว..อีบ้า กำลังจะฟิน ม้าแคระที่ไหน เค้าเรียกผู้หญิงตัวเล็กน่ารัก” ดูนางพูดประชดประชันเพื่อน ฮึ่ย!! มันน่านัก
“มั่นหน้ามั่นโหนก”
“อ่ะ แน่นอนนนน”
หมออ้ายเดินเข้ามาในร้านเป็นเวลาเที่ยงเศษๆแล้ว
“ชะนี นั่นหมอใหม่เหรอ หล่อมากสเป็กฉันเลย” นางพูดเสียงเบา กลัวหมออ้ายจะได้ยิน หมออ้ายส่งยิ้มหวานละลายใจมาให้
“สวัสดีค่ะ หมออ้าย รับอะไรดีคะ”
“ผมออกมาซื้อเครื่องดื่มครับ ขอมอคค่าเย็นหวานน้อยสองแก้ว ผมพักแป๊บนึง เดี๋ยวจะไปวอร์ด OPD ต่อ” ฉันเดินไปบอกน้องมิกทำเครื่องดื่มและย้อนกลับมานั่งกับสไมล์และหมออ้าย
“หมออ้ายคะ นี่ดินเพื่อนพริมค่ะ เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ดิน นี่หมออ้ายเพื่อนหมอซัน” ฉันแนะนำนางให้รู้จักกับหมออ้าย เอาให้สมใจนางซะเลย
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” สไมล์ทำเนียนยื่นมือออกไป หมออ้ายยิ้มแล้วยกมือไหว้ สไมล์ทำหน้าเหวอ หน้าแตกหมออ้ายไม่รับเย็บ
“ยินดีที่รู้จักครับ”
“หมออ้ายเป็นเพื่อนหมอซันนานรึยังครับเนี่ย”
“จริงๆ หมอเรียนวิศวะมาก่อนครับ เรียนไปรู้สึกว่ามันไม่ใช่ ตัดสินใจออกมาสอบหมอ เลยอายุมากกว่าหมอซันปีนึง เราเรียนด้วยกันตั้งแต่ปีหนึ่งถึงปีหก จับฉลากใช้ทุนก็ยังได้จังหวัดเดียวกันอีก บางทีหมอก็สงสัยว่าหมอซันเป็นเพื่อนหรือเจ้ากรรมนายเวร ไปไหนก็หนีไม่พ้น ฮ่าฮ่า” หมออ้ายหัวเราะอวดเขี้ยวและลักยิ้มเล็กๆบริเวณมุมปากแลดูมีเสน่ห์ ฉันแอบมองสไมล์ที่ลอบมองหมออ้ายด้วยแววตาเคลิบเคลิ้ม ฉันแก้แค้นโดยพูดคำๆนึงไม่ออกเสียงเช่นกัน “ร่าน” เหมือนนางอ่านริมฝีปากฉันออก แอบชูนิ้วกลาง อีนี่ แรงจัง
“แล้วหมอซันทำอะไรอยู่คะ”
“ติดเคสผ่าตัด ยังไม่ได้พักเลยครับ เย็นนี้อยู่เวรห้องฉุกเฉินด้วย เวรดึกสองวันติดกันเลย เดินไปแทบจะหลับตาคุยกัน ผมเลยมาซื้อกาแฟให้เนี่ยแหละ” ฉันนึกถึงใบหน้าขาวจัดที่สลึมสลือเหมือนคนอดนอนอยู่ตลอดเวลาแล้วแอบยิ้ม เย็นนี้ต้องแวะไปหาที่ห้องฉุกเฉินซะแล้ว….