เสียงร้องโอดโอย ของเตียงคนไข้เตียงถัดไป ทำให้ฉันที่กำลังจะเผลอหลับตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ป้าแก้วพาฉันมาโรงพยาบาลกลางดึก เนื่องจากฉันไข้ขึ้นสูง ฉันมีอาการปวดหัวตั้งแต่ช่วงเย็นแล้ว ไม่คิดว่าตอนดึกจะตัวร้อนจัด ขณะนี้เวลาเที่ยงคืนครึ่งและฉันยังอยู่ห้องฉุกเฉิน ร่างสูงของชายหนุ่มสวมเสื้อกาวน์แขนสั้นสีขาว ตามมาด้วยพยาบาลหนึ่งคน
“เตียงนี้เป็นอะไรมาครับ” เสียงทุ้มนุ่มน่าฟังดังขึ้นข้างๆเตียงของฉัน ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก รู้สึกปวดหัว ตุบตุบ ลมหายใจร้อนจัด
“คนไข้ ท้อง 12 วีคค่ะ มีเลือดออกบริเวณช่องคลอด”
“ถ้าอย่างนั้น หมอจะตรวจภายในนะครับ คุณพยาบาลช่วยเตรียมให้ด้วย” พยาบาลค่อยๆ ถอดกางเกงชั้นในของฉันอย่างช้า ๆ ฉันไม่มีแรงจะห้ามพวกเขา สมองกำลังมึนงง พยาบาลเลื่อนผ้าม่านสีเขียวมาปิด
“คนไข้ช่วยชันเข่าด้วยนะคะ พร้อมแล้วค่ะคุณหมอ” พยาบาลเอาหมอนแข็งๆ สอดเข้าไปใต้สะโพกของฉัน ชายหนุ่มร่างสูงเปิดผ้าม่านเข้ามาเขากำลังสวมถุงมือยางสีขาว
“อย่าเกร็งนะครับ หมอจะดูว่าปากมดลูกเปิดหรือยังปิดอยู่ ไม่ต้องกังวลคุณอาจจะแค่แท้งคุกคาม” เสียงหวานๆของคุณหมอดังขึ้น ฉันที่กำลังจะเคลิ้ม เดี๋ยวนะ!!! ฉันไม่ได้ท้อง แค่เป็นไข้ จะมาตรวจภายในอะไรกัน บ้าไปแล้ว ฉันคือหญิงสาวที่บริสุทธิ์ผุดผ่องไม่เคยต้องมือชาย จะให้ชายแปลกหน้าทะลวงเข้ามาแบบนี้ ฉันยอมไม่ได้ถึงจะแอบเคลิบเคลิ้มกับเสียงหวานนั่นก็เหอะ คุณหมอกำลังจะล้วงเข้ามาในน้องสาวฉัน ฉันรวบรวมแรงฮึดที่มีอยู่เฮือกสุดท้าย ลุกขึ้นและเหยียดขาตรงด้วยความอับอาย แต่คงไม่ทันเพราะเมื่อกี้หมอคงเห็นถึงไหนต่อไหนแล้ว ฮือ...แม่จ๋า
“เดี๋ยวค่ะหมอ”
“คนไข้อย่ารีบลุกนะครับ ต้องนอนนิ่งๆ ไม่งั้นเลือดอาจจะออกเพิ่ม หมอจะตรวจภายในแป๊บเดียวไม่เจ็บครับ” หมอยังพูดปลอบโยนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ซึ่งฉันเกือบจะเคลิ้มวินาทีนั้นฉันหันไปสบตาสีเข้มของหมอหนุ่มที่กำลังจะล่วงล้ำอธิปไตยของฉัน คิ้วเข้มๆของคุณหมอเลิกขึ้นอย่างสงสัยที่ฉันเอาแต่จ้องหน้าเขา ผิวขาวเนียนยิ่งกว่าผิวผู้หญิง จมูกโด่งเป็นสัน ปากบางสีกุหลาบ นี่หมอหรือดารากันเนี่ย ทำไม หล่อขนาดนี้ ฉันกรีดร้องในใจ ที่สำคัญเขาเห็นอะไรที่ไม่ควรมีใครเห็นของฉันซะด้วยสิ ฉันรู้สึกอายแทบจะแทรกแผ่นดิน ขอแท่งขุดเจาะน้ำมันแบบที่ใช้ที่อ่าวไทยได้รึเปล่า ฉันอยากจะหนีไปจากที่นี่
“หมอคะ ฉันยังไม่ได้ท้องค่ะ แค่เป็นไข้ หมอจะมาเปิดบริสุทธิ์ฉันแบบนี้ไม่ได้นะคะ” ถึงหมอจะหล่อแต่ฉันก็ใช่ว่าจะใจอ่อนให้หมอล้วงง่ายๆนะ
“อะไรนะครับ..เปิดบริสุทธิ์” คุณหมอกลั้นยิ้มแทบจะหลุดขำ ก็ใช่ไง ฉันยังครองความบริสุทธิ์จนอายุ 25 ปีนะเว้ย สุดยอดไหมล่ะ นี่มันไม่ใช่เวลามาภาคภูมิใจนะยายพริม
“ใช่ค่ะ ฉันยังบริสุทธิ์และไม่ได้ท้อง ที่สำคัญยังโสด แฟนไม่มี สามีก็ไม่มี” ฉันกอดอกอย่างมั่นใจ เน้นคำว่าโสดชัดเจน เป็นการบอกหมอนัยๆ
“พยาบาลจิ๋วครับ นี่อะไรยังไง ทำไมประวัติคนไข้ถึงไม่ถูกต้อง” คุณหมอขมวดคิ้วด้วยความสงสัย พยาบาลวัยราวๆ สามสิบหน้าเจื่อนเปิดม่านออก หันไปมองเตียงข้างๆแล้วตกใจ คนท้องตัวจริงนอนหลับอยู่ข้างๆ เตียงฉัน
“หมอคะ พี่ขอโทษ พอดีตอนที่เจ้าหน้าที่เอาคนไข้มาส่ง คงจะแทรกเตียงตรงที่ว่างนี้ พี่เลยสลับชาร์ทคนไข้” ฉันอยากจะลากพยาบาลจิ๋วเอาไปกินในน้ำ เอ่อ ! แรงไป ฉันไม่ใช่ตัวเงินตัวทอง และคนที่นางควรขอโทษคือฉัน
ถึงหมอจะหล่อแต่ฉันไม่ง่ายนะยะ หุหุ
“ผมขอโทษด้วยนะครับคุณ....” คุณหมอรูปหล่อยกมือไหว้ ฉันแทบจะห้ามไม่ทัน หมอคะถามอายุก่อนดีไหม สภาพฉันตอนมาหาหมอคงจะดูยายเพิ้งมาก อาจจะดูแก่กว่าอายุจริง เอ! แต่ว่าหมออาจจะมีมารยาทไหว้คนไข้ทุกคนก็เป็นได้ยกเว้นเด็กสามขวบอ่านะ ฉันจับผมทัดหูอย่างเอียงอายแอบส่งตาบลิ้งๆ จนนางพยาบาลค้อน ขวับ!
“ชื่อ พริมค่ะ คุณหมอรังสิมันต์” ฉันอ่านชื่อจริงคุณหมอที่ปักไว้บนเสื้อกาวน์ คุณหมอยิ้มและเกาแก้ม คงกำลังเขินฉันแน่ๆ ทำไมถึงดูน่ารักขนาดนี้นะ หรือว่าเขินที่ฉันเรียกชื่อจริงก็ไม่รู้ รู้งี้เรียกทั้งชื่อนามสกุลดีกว่า หมอคงได้อายจนม้วนตัวไปเลย
“เรียกหมอซันก็ได้ครับ”
“คุณหมอคะ เดี๋ยวไปตรวจเตียงโน้นก่อนนะคะ” พยาบาลจิ๋วคนเดิมคนดีพูดขัดจังหวะ นี่พยาบาลหรือเจ้ากรรมนายเวรฉันเนี่ย! ฉันกำลังเต๊าะคุณหมออยู่ไม่เห็นรึไง ในห้องฉุกเฉินวันนี้ดูไม่ค่อยวุ่นวายเหมือนที่ฉันจินตนาการไว้ นอกจากฉันแล้วก็มีหญิงที่มีภาวะเลือดออกในขณะตั้งครรภ์และเด็กวัยรุ่นผู้ชายที่ขี่มอเตอร์ไซด์ล้มเท่านั้นเอง คุณหมอจะต้องตรวจคนที่มีอาการหนักกว่า ซึ่งพยาบาลได้มาตรวจอาการฉันเบื้องต้น ทำการเจาะเลือดเพื่อตรวจดูว่าฉันเป็นไข้เลือดออกหรือไข้หวัดใหญ่ไปแล้ว ไม่นานนักคุณหมอซันสุดหล่อคนเดิมเดินกลับมาอีกครั้ง ใบหน้าเขาดูอิดโรยเหมือนคนไม่ได้นอน แต่ก็ยังส่งรอยยิ้มหวานๆ ละลายใจให้คนไข้อย่างฉัน
“คุณพริม เดี๋ยวรับยาก็กลับบ้านได้นะครับ ผลตรวจเลือดไม่ได้เป็นไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออก”
“ขอนอนโรงพยาบาลสักคืนก็ไม่ได้เหรอคะ พริมว่าพริมไม่ไหวอ่ะค่ะ แค่กๆ ” ฉันทำท่าทางอ่อนทำทีไอ เผื่อหมอจะเห็นใจ ก็อยากอยู่กะหมอต่ออีกนิด
“เตียงคนไข้ไว้ให้ผู้ป่วยหนักกว่าคุณนอนค่ะ เชิญรับยาแล้วกลับบ้านได้เลยค่ะ เดี๋ยวพี่แจ้งญาติที่ด้านนอกมารับเลยนะคะ” พยาบาลจิ๋วกันท่าฉันสุดๆ จะเก็บหมอไว้กินเองใช่ไหม ฮึ่ยยย นางไม่พูดเปล่าเดินออกไปเรียกญาติของฉันด้านนอก
“หมอต้องขออภัยอีกครั้งนะครับ หมอไม่ได้มีเจตนาที่จะล่วงเกิน” คุณหมอยิ้มจนตาหยี หัวใจฉันเต้นรัว อยู่มาจนอายุ 25 ปี เห็นผู้ชายหน้าตาดีก็เยอะ แต่ไม่มีใครเป็นแบบหมอเลย สุภาพ ใจดี ที่สำคัญหล่อมาก กอไก่ล้านตัว คนหล่อฟ้าประทาน ใจฉันแทบละลาย หมอจะดูอีกก็ได้นะคะ ไม่ใช่ละ นี่มันไม่ใช่เวลาจะมาอ่อยหมอไหม ฉันควรจะอายนี่นา..
“ไม่เป็นไรค่ะ หมอจะตรวจอีกไหมคะ จะได้ถอดอีก” ฉันยังหยอดคุณหมอไม่เลิก ฉันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ สาบานได้ คุณหมอน่ารักน่าหยอดซะขนาดนี้
“นี่คุณ กลับไปเถอะ คุณหมอยังไม่ได้พักเลย ช่วงคนไข้น้อยๆ ให้คุณหมองีบบ้าง คุณหมอเข้าเวรดึกมาสองวันติดกันแล้วนะ” พยาบาลจิ๋ว จิ๊ปากทำตาดุ ฉันเชิดหน้าอย่างไม่ใส่ใจ จิกไปก็จิกกลับนะคะ
“งั้นผมของีบนิดนึงนะครับ มีอะไรเรียกผมได้เลยนะครับพยาบาลจิ๋ว” ร่างสูงกำลังเดินเข้าไปในห้องพักแพทย์ ใบหน้าเขาอิดโรยราวกับซอมบี้เดินได้ ถ้าเกิดว่าเดินหลับตาได้คุณหมอคงทำไปแล้ว เพราะท่าทางของคุณหมอเหมือนคนไม่ได้นอนมาเป็นปี ฉันมองตามแผ่นหลังแกร่งของคุณหมอด้วยแววตาละห้อยจนกระทั่งเขาเดินลับตา วินาทีนั้น ฉันมีเป้าหมายใหม่ชีวิตทันที นอกจากการที่อยากมีร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์แล้ว ฉันยังอยากเป็น ว่าที่ภรรยาคุณหมอซัน ฉันวาดฝันไว้ว่าตื่นนอนตอนเช้า จะเอาอาหารมาส่งทำหน้าที่ภรรยาคุณหมอที่ดี เวลาที่คุณหมอเหนื่อยจะเตรียมน้ำอุ่นผสมกลิ่นส้มยูซุและกุหลาบฮอกไกโดให้คุณหมออาบและเราจะแช่น้ำอุ่นด้วยกัน ฉันจินตนาการไปถึงผิวขาวๆ เนียนๆ กำลังแช่น้ำภายใต้แสงเทียน หน้าฉันแดงจัดเลือดดำเดาแทบพุ่ง แต่เสียงที่ดังมาจากสวรรค์หรือนรกก็สุดจะรู้ดึงฉันลงมาจากฟ้าสู่หุบเหวลึกอันมืดมิด
“นี่เธอ คุณหมอน่ะเค้าก็สุภาพแบบนี้กับทุกคน เตือนไว้ก่อน อย่ามาเต๊าะซะให้ยาก อย่ามาทำให้หมอปวดหัวเลย”
“โทษนะคะ พี่เป็นพยาบาลใช่ไหมคะ”
“ขนาดนี้แล้วคงเป็นแอร์โฮสเตสแหละจ้ะ” สายตาอำมหิตแผ่รังสีออกมา
“นึกว่าเป็นเมียหมออ่ะค่ะ ขอบคุณที่เตือนนะคะ แต่ฉันเกิดมาเพื่อเป็นเนื้อคู่คุณหมออ่ะค่ะ” ฉันยกยิ้มพลางใช้มือทัดผมอย่างมั่นอกมั่นใจแถมมั่นหน้าหมั่นโหนก คิดว่าตัวเองเป็นใครภรรยาหมอก็ไม่ใช่ ทำมาเป็นเตือนให้เลิกยุ่งกะหมอ จะเก็บหมอไว้เต๊าะเองอ่ะดิ ฉันรู้ทันหรอก
“คุณหนูคะ ป้าให้นายเชิดมารับเดี๋ยวกลับกันเลยนะคะ” ป้าแก้วเดินมาช่วยประคองฉันลงจากเตียง
“น้าแก้ว” คุณพยาบาลเจ้ากรรมนายเวรของฉันเอง นางเดินมายกมือไหว้พร้อมเขย่ามือป้าแก้วด้วยความดีใจ
“นังจิ๋ว เป็นพยาบาลที่นี่เหรอ บังเอิญจัง น้าไม่ได้ไปเยี่ยมแม่แกเลย”
“ฉันย้ายมาอยู่ในตัวจังหวัดกับน้องมิ้นท์ เดี๋ยวออกเวรฉันจะไปหาน้านะ”
“ฉันมาช่วยงานคุณหนูพริมเปิดร้านขนมที่หน้าโรงพยาบาล” ป้าแก้วชี้ไปที่ร้านขนม C'est très bon (เซ แทร บง) ภาษาฝรั่งเศสแปลว่าอร่อยมาก ใช่ค่ะการตั้งชื่อร้านก็ยังหลงตัวเอง แน่ล่ะทุกอย่างในร้านของฉันอร่อยทุกอย่าง
ขอบอก
“แม่เคยบอกฉันว่าน้าไปทำงานกับท่านนายกเทศมนตรี คุณหนูพริมที่น้าพูดถึงคือคนนี้เหรอ” นางโบ้ยหน้ามาทางฉัน ซึ่งกำลังยิ้มหวานบาดใจให้พยาบาลจิ๋ว ฉันยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ลืมฉากที่ฉะกันเมื่อครู่นี้ไปก่อน อยากจีบหมอต้องเข้าทางพยาบาล และที่สำคัญเธอคนนี้เป็นญาติสนิทป้าแก้วซะด้วย เรือล่มในหนองคุณหมอจะไปไหนเสีย
“สวัสดีค่ะ คุณพยาบาลจิ๋ว ไม่สินะคะ ถ้าเป็นญาติป้าแก้วที่พริมเคารพต้องเรียกว่า พี่จิ๋ว คนกันเองทั้งนั้น”ฉันป้องปากหัวเราะเบาๆ พยาบาลจิ๋วก็รับไหว้และดูเหมือนเล่นตามน้ำกับฉัน นางคงไม่อยากจะมีปัญหากับป้าแก้วญาติสนิทของนาง
“มาค่ะคุณหนูพริม พี่ช่วยประคองนะคะ” เหตุการณ์เมื่อครู่พลิกจากหลังมือเป็นหลังเท้า
“ขอบคุณนะคะพี่จิ๋วที่ดูแลพริม ป้าแก้วคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พริมจะเอาขนมมาฝากพี่จิ๋วนะคะ อ้อ ฝากคุณหมอซันด้วย พริมต้องรบกวนพี่จิ๋วแล้วล่ะค่ะ” เมื่อตะกี้พยาบาลจิ๋วยังตีหน้ายักษ์ใส่ฉันแถมยังใส่ชาร์ทคนไข้ผิดเตียงจนฉันเกือบโดนคุณหมอสุดหล่อล้วงทะลวงน้องสาว แต่ฉันจะให้อภัยเพราะฉันต้องขอความช่วยเหลือจากเธออยู่
“พี่ยินดีค่ะคุณหนูพริม”
“ไม่ต้องเรียกคุณหนูหรอกค่ะ เรียกพริมเฉยๆ คนกันเอง ป้าแก้วก็อีกคน บอกให้เรียกพริมเฉยๆ” ฉันทำทีบ่นและกอดแขนป้าแก้วอย่างออดอ้อน
“ก็ป้าไม่ชินนี่คะ เรียกคุณหนูตั้งแต่เด็ก อย่าห้ามป้าเลยค่ะ” ฉันรู้ป้าแก้วคงรู้สึกเจียมตัว เธอมักยกย่องอุ้มชูฉันเหมือนเป็นคุณหนูตัวน้อยๆของป้าแก้วเสมอ ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะโตจนแต่งงานออกเรือนได้แล้วก็ตาม
“พี่จิ๋วคะ พริมขอแลกไลน์หน่อยค่ะ พรุ่งนี้พริมจะเอาขนมไปฝาก”
“ได้ค่ะ คุณหนูพริม เอ้ย! น้องพริม” พยาบาลจิ๋วส่งคิวอาร์โค้ดให้ฉันแอดไลน์ ฉันแอบยิ้มในใจ เยส!!!! สำเร็จแล้ว ฉันสามารถถามความเคลื่อนไหวของหมอซันได้ตลอดเวลา
“ท่านนายกสวัสดีครับ” ญาติผู้ป่วยที่อยู่หน้าห้องฉุกเฉินยกมือไหว้คุณพ่อของฉัน ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่เดินมาประคองฉันต่อจากพยาบาลจิ๋ว
“พริม เป็นยังไงบ้างลูก แล้วนี่ทำไมแก้ว ไม่พาไปโรงพยาบาลเอกชน” คุณพ่อหันมาตำหนิป้าแก้ว ป้าแก้วยกมือไหว้ขอโทษสีหน้าซีดเผือด คุณพ่อคงเข้าใจระบบโรงพยาบาลรัฐจะมีคนไข้เยอะและได้รับการรักษาช้า ซึ่งพ่อคงกลัวว่าฉันจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้เนื่องจากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
“พ่อคะ ป้าแก้วตกใจมากแล้วโรงพยาบาลรัฐอยู่ใกล้แค่ข้ามถนนแค่นี้เอง ตอนนี้น้องพริมดีขึ้นมากแล้วค่ะ” ฉันรีบปกป้องป้าแก้ว คุณพ่อถอนหายใจ
“ต่อไปรีบโทรหาฉันนะแก้ว” คุณพ่อพูดเสียงเข้ม
“ค่ะคุณท่าน” ป้าแก้วคงหนาวๆร้อนๆ เพราะเวลาที่คุณพ่อดุสีหน้าแววตาท่านจะดูจริงจัง ใครๆก็ไม่อยากเข้าใกล้แต่ยกเว้น ฉันไงล่ะ ตระกูลเราเป็นตระกูลเก่าแก่ในจังหวัดและเป็นนายกเทศมนตรีหลายชั่วอายุคน คนในจังหวัดจึงให้ความเคารพยำเกรงบารมีของพ่อฉันมาก
“คุณพ่อคะ น้องพริมอยากกอดคุณพ่อ” ถ้าฉันแทนตัวว่าน้องพริมเมื่อไหร่คุณพ่อแทบจะหาดาวหาเดือนให้หากฉันต้องการ ฉันซบเข้ากับไหล่ของพ่อเอาหน้าถูไปมา คุณพ่อลูบหัวฉันเบาๆ
“พรุ่งนี้ไม่ต้องเปิดร้านนะลูก พักผ่อนเยอะๆ”
“น้องพริมกินยาแล้วดีขึ้นมากเลยค่ะ พรุ่งนี้เปิดร้านสายๆแล้วกันเนอะป้าแก้ว” พรุ่งนี้ฉันต้องเอาขนมไปฝากคุณหมอ ห้ามป่วยห้ามตายห้ามหยุดพักรักหมอ สโลแกนฉันเอง
Comments