Chapter 11รับลูกค้าตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมาด้วยความรู้สึกผิดที่ยังคงเกาะกุมจิตใจยากที่จะสลัดให้หลุดออกฉันก็ทำทุกวิถีทางที่จะไม่โผล่ไปให้ไนล์เห็นหน้าอีก ด้วยเหตุนี้นอกจากช่วยทีม NewType ด้านบนแล้วฉันยังขอพี่ปิ่นไปทำงานควบที่แผนกการตลาดชั้นเดิมไปพร้อมๆ กัน เวลาแผนกมีกิจกรรมที่ต้องออกบูธหรือมีธุระไหว้วานให้ไปข้างนอกฉันก็จะรับอาสาทำหน้าที่นั้นอยู่เสมอ นอกจากจะทำให้อยู่บริษัทน้อยลงลดโอกาสเจอหน้าร่างสูงแล้วยังเลี่ยงการได้ยินข่าวซุบซิบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไนล์กับคุณพาขวัญที่ยังคงเป็นท็อปปิกให้คุยกันมาตลอดทั้งสัปดาห์ได้อีกด้วยฉันเดินสะโหลสะเหลเข้ามาในคลับด้วยสภาพเหมือนศพเดินได้ เหล่าพนักงานที่กำลังจัดเตรียมร้านเพื่อเปิดในคืนนี้ต่างส่งสายตาแห่งความเป็นห่วงมาให้อยู่เนืองๆ หลายวันมานี้ฉันใช้เครื่องสำอางในปริมาณมากกว่าปกติเพราะต้องกลบใบหน้าที่ทรุดโทรมให้มิดไม่งั้นจะทำให้แขกตกใจเอาได้พี่เฟี้ยตที่เห็นสภาพของฉันในครั้งแรกก็ตกใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามถึงสาเหตุด้วยรู้ว่าถ้าไม่เข้าตาจนจริงๆ ฉันคงไม่ยอมปริปากบอกเป็นแน่ ฉันได้แต่ส่งยิ้มบางให้ทุกคนเพื่อให้เบาใจและสัญญาว่าจะไม่ให้กระทบกับงาน“นับแต้ม ดูส
Chapter 10ไม่ใช่ว่าคุณอยากให้ผมมาหาเหรอฉันนั่งรถกลับที่พักตามคำสั่งของไนล์ด้วยอารมณ์ที่เหม่อลอยและร่างกายที่หนักอึ้ง ทุกย่างก้าวที่เดินเหมือนมีอะไรมาถ่วงขาเอาไว้ กว่าจะลากสังขารนำตัวเองเข้ามาในห้องได้ก็ใช้พลังงานไปมากโข ฉันถอดรองเท้าทรุดตัวลงที่พื้นห้องตรงข้างเตียง หมดแรงที่จะปีนป่ายขึ้นไปนอนดีๆ ด้วยซ้ำในความทรงจำของฉันไนล์ไม่เคยทำตัวใกล้ชิดกับผู้หญิงคนไหน แม้จะไม่ต่อต้านอย่างชัดเจนแต่เขาก็เป็นคนที่ไว้ตัวกับเพศตรงข้ามเสมอ เขาเป็นอย่างนี้ตั้งแต่ก่อนที่เราจะคบกันด้วยซ้ำ ย้อนกลับไปที่กิจกรรมรับน้อง เหล่ารุ่นพี่มักมีเกมสนุกๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความสุ่มเสี่ยงเรื่องอย่างว่าไม่ว่าจะด้วยท่าทางหรือคำพูด หากจวนตัวเข้าจริงๆ เขามักจะขอเปลี่ยนเป็นเพื่อนเพศเดียวกันเสมอ เพราะฉะนั้นแล้วเหตุการณ์เมื่อกี้จึงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รู้จักกันมาที่ฉันได้เห็นไนล์ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน‘งั้นไปรอพี่ที่ห้องก่อน โอเคมั้ย’ยิ่งเมื่อคิดถึงบทสนทนาระหว่างไนล์กับคุณพาขวัญก็ยิ่งเจ็บในอกเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบเอาไว้ อดจินตนาการไม่ได้ว่าพวกเขาในตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง ทันทีที่ไนล์เจอกับคุณพาขวัญเขาจะผลักห
Chapter 9ผมจะไปกับพาขวัญต่อ ด้วยคำพูดของไนล์ฉันเลยจำเป็นต้องโทรไปลางานกับพี่เฟี้ยตอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากนั้นก็กลับมานั่งทำงานประวิงเวลาไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาเลิกงานแม้ว่าคนรอบข้างจะเตรียมตัวกลับบ้านกันก็ตามแต่ฉันก็ยังก้มหน้างุดอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เปิดหน้าต่างประวัติของคุณพาขวัญโดยละเอียดเอาไว้“พวกเราจะไปกินเลี้ยงกันน่ะ นับแต้มไปด้วยกันสิ” พี่คนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาอย่างใจกว้าง“ไม่เป็นไรค่ะ พอดีว่ายังมีงานที่ต้องทำอยู่” ฉันตอบออกไปโดยไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ตอบไปตามความจริงว่าฉันมีนัดต้องไปพบกับคุณพาขวัญ อาจจะเพราะเป็นร่างสูงเป็นคนนัดหมายในครั้งนี้ฉันเลยประดักประเดิดเล็กน้อยที่จะพูดออกไป“พวกเราเข้าใจนับแต้มจ้ะ การติดต่อคุณพาขวัญใช่จะทำได้ง่ายๆ พวกเราเป็นกำลังใจให้เธอนะนับแต้ม สู้ๆ จ้ะ” พี่สาโพล่งขึ้นมาด้วยท่าทีเอื้ออารีและคำพูดที่เข้าอกเข้าใจ แต่เมื่อพิจารณาประโยคแล้วจะล้วนเจอแต่คำสบประมาทและเย้ยหยันอยู่ทั้งนั้นเมื่อทั้งทีมออกไปสังสรรค์กันหมดห้องทั้งห้องก็ตกในความเงียบสงบอีกครั้ง ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
Chapter 8เลิกงานอย่าเพิ่งกลับห้องเวลาเช้าตรู่ก่อนเวลาเคารพธงชาติฉันได้เดินทางมาหยุดอยู่ที่ตึกๆ หนึ่ง สไตล์โมเดิร์นทันสมัยดูโดดเด่นท่ามกลางตึกอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน เมื่อเดินเข้ามาด้านในจะเห็นการตบแต่งที่ดูหรูหรามีสไตล์สมกับเป็นเอเจนซี่อันดับหนึ่งของวงการที่มีดาราตัวท็อปอยู่ในสังกัดเอาไว้มากมายและคุณพาขวัญคือหนึ่งในนั้น“สวัสดีค่ะ ขอโทษนะคะฉันมาจากบริษัท Being You อยากจะติดต่อกับคุณพาขวัญหน่อยค่ะ” ฉันเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่นอบน้อมพนักงานหญิงรีเซปชั่นมองมาที่ฉันอย่างสำรวจ หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นเครื่องแต่งกายที่เป็นชุดนักศึกษา ก่อนจะจับจ้องมาที่ป้ายชื่อที่ฉันคล้องคออยู่“เป็นเด็กฝึกงานเหรอคะ”“ใช่ค่ะ พอดีว่าผู้จัดการติดธุระเร่งด่วนไม่สามารถปลีกตัวมาได้ด้วยตัวเองจริงๆ จึงส่งฉันมาแทนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ค่ะ ยังไงรบกวนคุณช่วยติดต่อคุณพาขวัญให้หน่อยได้มั้ยคะ ภาพลักษณ์ของเธอเหมาะกับบริษัทเรามากจริงๆ”“สักครู่นะคะ”ฉันพยักหน้าไปหนึ่งทีมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ เห็นหญิงสาวเดินเลี่ยงไปคุยโทรศัพท์ที่มุมหนึ่งจึงทำให้ฉันไม่สามารถได้ย
Chapter 7คุณมีน้ำหนักในใจผมขนาดนั้นเลยเหรอการก้าวขึ้นมาเป็นผู้ช่วยพี่ปิ่นในโปรเจกต์นี้ดูเหมือนว่าจะสร้างความไม่พอใจให้กับใครบางคนและสร้างความเคลือบแคลงใจให้กับคนบางกลุ่มในทีมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งถ้ามองจากมุมพวกเขาก็สามารถทำความเข้าใจได้ ฉันเป็นใครกัน? ฉันเป็นแค่นักศึกษาฝึกงานคนหนึ่งไม่แม้แต่เป็นพนักงานฝึกหัดของที่นี่ด้วยซ้ำมีสิทธิ์อะไรที่มาข้ามหน้าข้ามตาพนักงานประจำอย่างพวกเขากัน?“นับแต้มเอารายชื่อพรีเซนเตอร์ไปให้บอสดูหน่อย”“ได้ค่ะพี่ปิ่น”ฉันละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ส่งเสียงออกไป ดูเหมือนว่า ‘การส่งแฟ้มให้บอส’ จะอยู่ในเนื้องานของฉันไปโดยปริยาย มองเผินๆ อาจจะเป็นการให้โอกาส แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปจะให้ประกายความหวังในแววตาของคนในทีมมากกว่าครึ่งที่เฝ้ารอที่จะได้เห็นฉันโดนบอสไล่ตะเพิดออกมาฉันวางงานตรงหน้าซึ่งนั่นก็คือสำรวจแนวโน้มกลุ่มเป้าหมายหลักของผู้ที่จะซื้อแบรนด์ NewType ลุกขึ้นไปรับแฟ้มแล้วเดินออกมา“เดี๋ยวก่อนนับแต้ม” เสียงพี่สาดังไล่มา “เธอเอาข้อมูลชุดนี้ไปถ่ายเอกสารเดี๋ยวฉันจะเอางานเข้าไปให้บอสเอง ยังไงฉันก็มีประสบการณ์มากกว่าเธอและรู้จักดาราเกรดท็อปเหล่านี้เป็นอย่างดี ฉ
Chapter 6เด็กนั่งดริงก์ Nile’ s partจวบจนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจนักว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาหลายวันมานี้มันคือความจริงหรือเป็นเพียงแค่จินตนาการของผมกันแน่ ผมเหลือบมองเม็ดยาที่ถูกแบ่งออกให้เป็นชิ้นส่วนที่เล็กลงด้วยความรู้สึกที่สับสน อาการปวดศีรษะทำให้ผมตัดสินใจหยิบมันเข้าปากทีละครึ่งเม็ดแล้วตามด้วยน้ำเปล่าจนหมดสายตาแห่งความพึงพอใจเปล่งออกมาจากนัยน์ตาคู่สวยเมื่อเห็นว่าการกินยาของผมผ่านไปได้ด้วยดี ผมเป็นคนที่กินยายากมาตั้งแต่ความจำได้ ถ้าให้เลือกระหว่างกินยากับฉีดยาแน่นอนว่าผมเลือกอย่างหลังอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีสถานการณ์ที่ผมต้องกินยาเม็ดอย่างช่วยไม่ได้ และบ่อยครั้งที่ ‘แฟนเก่า’ ของผมจะบดยาเป็นผงก่อนจะละลายกับน้ำป้อนผมด้วยริมฝีปากอ่อนนุ่มและมักจะตบท้ายด้วยรสจูบหวานๆ เสมอ“มีแผนการตลาดมานำเสนอค่ะ” นับแต้มเอ่ยขึ้นมาเมื่อขยับตัวเองกลับไปยืนตรงกันข้ามกับผมกั้นด้วยโต๊ะทำงานผมรับแฟ้มงานมาแล้วโยนลงบนโต๊ะก่อนจะเอนตัวพิงพนักอย่างไม่คิดจะเปิดอ่าน “ว่ามาสิ”ผู้หญิงตรงหน้าผมคนนี้หายออกไปจากชีวิตของผมเ