Home / โรแมนติก / My destiny ร่างนี้ของใคร / ตอนที่9 ความลับที่ต้องบอก

Share

ตอนที่9 ความลับที่ต้องบอก

last update Last Updated: 2025-06-09 12:10:17

“ที่บอกว่าจำอะไรไม่ได้นี่เรื่องอะไรบ้างครับ” ปกป้องเริ่มขมวดคิ้วมุ่น

“ก็...ทุกเรื่องเลยค่ะ ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อตัวเอง แล้วก็ชอบพูดจาแปลกๆ เลยต้องสอนการใช้ชีวิตใหม่หมดเลยค่ะ”

“โห...แล้วหมอว่ายังไงครับ”

“หมอตรวจเช็กร่างกายแล้วทุกอย่างออกมาปกติค่ะ แต่ที่จำอะไรไม่ได้หมอให้เหตุผลว่าอาจจะช็อคจากเหตุการณ์ หลังจากนี้ไม่นานคงดีขึ้น”

“แล้วตอนนี้ชมพูอยู่ไหนครับ”

“อยู่ในบ้านค่ะ เราไปคุยกันต่อในบ้านเถอะค่ะ”

“ครับ”

ชื่นชีวาเดินนำชายหนุ่มตรงไปยังบ้านของเธอ สีหน้าของเภสัชสาวเต็มไปด้วยความกังวล เพราะไม่รู้ว่าหลังจากปกป้องเจอกับชมชีวัน น้องสาวของเธอจะพูดอะไรเหลือเชื่ออย่างเช่นที่พูดคุยกับเธอหรือเปล่า ภาวนาในใจเอาไว้ก่อนเลยว่าอย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น

“ชมพู พี่ป้องมาหา”

มนตรามัจฉาหันมองไปยังเสียงของชื่นชีวา เมื่อเห็นว่ามีคนแปลกหน้าตามพี่ของเธอเข้ามาในห้องนั่งเล่นก็รีบปิดโทรทัศน์แล้วลุกยืนต้อนรับคนมาใหม่เช่นที่พี่สาวเคยสอน

“พี่ป้อง?” สาวเจ้ามองไปยังผู้ชายตัวสูงใหญ่ใบหน้าคมเข้มด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม จนคนมาใหม่รู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวต้องจำเขาไม่ได้แน่นอน

“เจอผู้ใหญ่ต้องทำยังไง” ชื่นชีวาท้วงคนที่เอาแต่ยืนนิ่งงัน

“สวัสดีค่ะ”

“ครับ ชมพูจำได้ไหมว่าพี่เป็นใคร”

“พี่ไม่รู้เหรอคะว่าพี่เป็นใคร” มนตรามัจฉายิ้มแหย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาตั้งคำถามกับเธอแบบนี้ทำไม หรือว่า เขาจะจำตัวเองไม่ได้เหมือนกับเธอ

ชื่นชีวาขบเม้มริมฝีปากแน่น เห็นทีเธอจะต้องรีบอธิบายให้น้องสาวได้เข้าใจว่าปกป้องเป็นใคร “เอ่อ...พี่ป้องเป็นเจ้าของโรงเรียนสอนศิลปะที่ชมพูทำงานอยู่ไง”

“วันนี้พี่มาเยี่ยม พี่เอามังคุดกับทุเรียนที่สวนมาฝากเยอะเลย” ชายหนุ่มชูของที่ถืออยู่ในมือก่อนจะวางลงที่โต๊ะกลางโซฟา

“ขอบคุณค่ะ” มนตรามัจฉายกมือไหว้ปกป้องอีกครั้ง

“เชิญนั่งค่ะพี่ป้อง เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้นะคะ” ชื่นชีวาหยิบของที่ปกป้องเอามาฝากแล้วรีบเดินเข้าไปในครัว

ให้หลังชื่นชีวา ปกป้องก็นั่งลงตรงข้ามกับหญิงสาวที่ยังคงมองหน้าของเขาไม่วางตา “ชมพูจำได้ไหมว่าตอนที่อยู่โรงเรียน ชมพูสอนอะไรเด็กๆ บ้าง”

“พี่ชบาบอกว่าฉันเป็นครูสอนศิลปะค่ะ วีก็เคยเอาสมุดวาดรูป ดินสอ แล้วก็สีมาให้ฉันดู แต่ฉันจำอะไรไม่ได้เลย”

“อืม... พี่จะพูดยังไงดีล่ะ ชมพูไม่ได้เป็นแค่ครูสอนศิลปะวาดรูป แต่ชมพูสอนศิลปะการต่อสู้ด้วย”

“อะไรนะคะ” สิ่งที่ปกป้องพูดเมื่อครู่ชื่นชีวาได้ยินเต็มสองหู เธอรีบวางแก้วน้ำตรงหน้าของรุ่นพี่จากนั้นก็จ้องหน้าของเขาด้วยสายตาคาดคั้นคำตอบ

“ในเมื่อชมพูเป็นแบบนี้พี่คงต้องพูดความจริงกับชบาแล้วล่ะ”

“ความจริงอะไรเหรอคะ” เภสัชสาวเริ่มคิ้วชนกัน เธออยากจะรู้ใจจะขาดว่าก่อนหน้านี้น้องสาวของเธอมีเรื่องอะไรปิดบังเอาไว้

มนตรามัจฉานั่งจ้องหน้าปกป้องตาไม่กระพริบ เธอเองก็อยากรู้เรื่องราวจากปากของปกป้องไม่ได้ต่างจากชื่นชีวา

“โรงเรียนพี่ไม่ได้สอนแค่ศิลปะวาดเขียนเท่านั้น แต่สอนศิลปะการต่อสู้ด้วย แล้วชมพูก็เป็นครูสอนต่อสู้แบบมวยไทยฝีมือดีที่สุดด้วย แต่ชมพูให้พี่เก็บความลับนี้ไว้เพราะรู้ว่าชบาอาจจะเป็นห่วง”

“แสดงว่าก่อนหน้าที่ชมพูจะไปเป็นครูสอนมวยไทยชมพูก็ต้องไปเรียนฝึกฝนการต่อสู้ ด้วยใช่ไหมคะ” ชื่นชีวานั่งหลับตาข่มอารมณ์ไม่ให้โมโห เธอรู้ว่าทั้งน้องสาวและน้องชายชอบศิลปะการต่อสู้ เพราะทั้งคู่เคยชวนกันหนีไปต่อยมวยหาเงินหลังจากที่พ่อกับแม่เพิ่งเสีย ทว่าน้องสาวของเธอก็ไม่วายหนีจากเรื่องต่อยตีจนได้ ดีนะที่ยังไปเป็นครูสอน หากหนีไปต่อยมวยเช่นเคยเธอคงได้ปรี๊ดแตกตอนนี้แน่

“ครับ”

“น้องคนนี้นี่มันจริงๆ เลย” ชื่นชีวาหันมาส่ายหัวน้อยๆ ให้กับคนข้างๆ ที่นั่งมองเธอตาแป๋ว อยากจะบ่นมากว่านี้แต่เธอก็บ่นไม่ลง เพราะรู้ว่าชมชีวันยังจำอะไรไม่ได้

“แล้วก็มีอีกเรื่องที่พี่ต้องบอกชบา เรื่องที่ชมพูไม่ได้เป็นภรรยาจริงๆ ของคุณอัคคี”

“คะ?” คนพี่ถึงกับอ้าปากค้าง

“ก่อนหน้านี้คุณอัคคีไม่อยากหมั้นหมายกับลูกสาวของเพื่อนแม่เขา เขาเลยมาจ้างชมพูให้ไปเป็นภรรยาและเป็นบอดี้การ์ดไปในตัวด้วย ข้อตกลงนี้กับเงินก้อนโต ชมพูก็เลยตกลง”

“ที่ชมพูบอกว่าถูกหวยก็ไม่จริงสินะคะ”

“ครับ ที่พี่ต้องบอกเพราะไม่รู้ว่าชมพูจะจำความจริงข้อนี้ได้ตอนไหน แต่ทุกอย่างต้องเป็นความลับเข้าใจไหมครับ ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูแม่คุณอัคคี ชมพูจะถูกปรับยี่สิบล้านตามสัญญา”

ชื่นชีวายกมือทั้งสองกุมขมับ “ฟังแบบนี้แล้วรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันทีเลยค่ะ”

“ฉันทำผิดมากเหรอคะ” มือเรียวยกลูบหลังคนเป็นพี่เมื่อรับรู้ได้ว่าชื่นชีวากำลังเครียดหนัก

“ช่างมันเถอะ ตอนนี้มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว รู้ใช่ไหมว่าต้องเก็บเรื่องที่ชมพูไม่ได้เป็นภรรยาคุณอัคคีเป็นความลับ ห้ามบอกใคร”

“ห้ามบอก เข้าใจค่ะ อ่อ... เมื่อคืนฉันได้ยินเสียงของผู้ชาย เขาบอกว่าชื่ออัคคี ฉันสงสัยว่าเขาอาจจะเป็นคุณอัคคี”

“หมายถึงเสียงคนพูดน่ะเหรอชมพู”

ตอนนี้ไม่เพียงแค่ชื่นชีวาที่มีสีหน้าเคร่งเครียด แต่เป็นปกป้องที่เริ่มขมวดคิ้วมุ่นเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่ชมชีวันพูด

“ใช่ เขาบอกว่าอยากให้ช่วย เขาอยากกลับบ้านแต่ว่าจำทางกลับไม่ได้ ฉันได้ยินแค่เสียงของเขาแต่ไม่เห็นตัว แล้วนางไม้ก็บอกว่าถ้าฉันทำบุญเยอะๆ ก็จะช่วยเขาได้ พี่ชบารู้วิธีการทำบุญใช่ไหม พาฉันไปทำสิ” คนที่เอ่ยเรื่องลี้ลับออกมาหน้าตาเฉย ไม่รู้เลยว่าเธอกำลังทำให้คนทั้งสองมองว่าเธอกำลังจิตไม่ปกติ

ชื่นชีวาได้แต่มองหน้าน้องสาวเงียบๆ เพราะเธอก็พูดอะไรไม่ออกเหมือนกันในตอนนี้

“เป็นแบบนี้ตลอดเลยเหรอชบา” ปกป้องเรียกให้สาวเจ้าที่เอาแต่นั่งยิ่งหลุดจากภวังค์

“ค่ะ” ชื่นชีวาหันมาพยักหน้าน้อยๆ ให้รุ่นพี่ เรื่องที่เธอไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้นแล้วสินะ ไม่รู้ว่าปกป้องจะมองน้องของเธอเป็นบ้าหรือเปล่า

ปกป้องได้รับคำตอบเช่นนั้นเขาก็นั่งนิ่งไปชั่วขณะ หากชมชีวันยังไม่หายดีมีหวังเขาได้เสียลูกศิษย์ในโรงเรียนไปหลายคนแน่ ทว่ามันก็เป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะเกิด ที่ทำได้ตอนนี้ก็คงต้องทำใจรอวันที่ชมชีวันจะกลับมาหายดี

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่78 คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน

    ก่อนเตรียมตัวเดินทางในวันรุ่งขึ้นพรุ่งนี้ มีนามัจฉาได้มีโอกาสมาหาพ่อของตนพร้อมกับปักษิณสิงขร นั่นทำให้ครานี้ชมชีวันเห็นทีจะได้มีโอกาสเห็นหน้าพ่อของมีนามัจฉาเป็นครั้งแรกเธอเลยขอตามติดทุกผู้มาที่ถ้ำน้ำตก“นี่หรือถ้ำน้ำตก” ชมชีวันตามหลังรณจักรปักษาและปักษิณสิงขรไปพร้อมกับมีนามัจฉา สายตาของเธอยังกวาดสอดส่องทั่วทางเดิน คราแรกคิดว่าถ้ำน้ำตกจะเย็นและชื้นอย่างที่เธอเข้าใจ ทว่าเมื่อมาถึงผ่านเพียงม่านน้ำตก ด้านในตัวถ้ำโล่งกว้าง มีกลิ่นหอมเย็นสบายและเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมปักษิณสิงขรถึงได้ชอบมาที่นี่“ใช่เจ้าค่ะ”“น่าอยู่เหมือนกันนะ ทำไมผู้อื่นถึงไม่ชอบมาที่นี่”“ที่แห่งนี้เป็นที่เอาไว้ขังผู้ทำผิด แลเป็นที่ฝึกสมาธิของเหล่าเจ้าเมือง”“อ๋อ...”“หากครานี้ข้าไปกับท่านพี่ได้คงจักดี” มีนามัจฉาอดเสียดายไม่ได้ที่ไม่ได้เดินทางไปกับญาติผู้พี่ หากมนตรามัจฉาไปนานวันเธอก็คงเหงาแย่ เพราะพักหลังมานี้เธอค่อนข้างตัวติดกับญาติผู้พี่มากพอสมควร“ข้าก็อยากให้เป็นเช่นนั้น หากท่านพี่...”เหมือนปักษิณสิงขรรู้ว่าชายาตนจะให้มีนามัจฉามาขอร้อยตน จึงรีบหันมาหาทั้งสอง “เจ้ายังเยาว์นักมีนามัจฉา”

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่77 เรื่องเมียสองเมียสาม

    ชมชีวันเร่งมายังเรือนไหมเพื่อแจ้งกับบุหงาราตรีถึงเรื่องที่เธออยากให้ผีเสื้อสาวเดินทางไปยังต่างบ้านต่างเมืองกับเธอด้วย การเจรจาเป็นไปอย่างเรียบง่ายและไม่มีปัญหาอะไรเพราะบุหงาราตรีพร้อมไปกับเธอตามที่ขอ“ขอบใจท่านมากนะเจ้าคะที่ยอมไปกับข้า ไม่เช่นนั้นข้าต้องเหงาแย่”“เรื่องนี้ท่านต้องแจ้งองค์ราชาแลราชินีก่อนฤาไม่เจ้าคะ” บุหงาราตรีเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่จะได้รับคำอนุญาตจากปักษิณสิงขรผู้เดียวไม่ได้ มนตรามัจฉาถูกชาวเมืองครหาเรื่องทำอะไรตามอำเภอใจมามากแล้ว เรื่องที่มนตรามัจฉาขอให้ตัวเองตามไปด้วยก็อยากให้องค์ราชาและราชินีรับรู้เอาไว้ก่อน“นั่นสินะ อย่างนั้นเราไปหาองค์ราชาแลราชินีกันก่อนเถิด”“เจ้าค่ะ”สองสาวตรงมายังที่ประทับขององค์ราชาและราชินี เมื่อมาถึงท้องพระโรงก็เห็นว่าสุมารีเทวีกำลังเข้าเฝ้าองค์ราชาและราชินีอยู่ก่อนแล้ว“เจ้ามาก็ดีแล้ว ข้าจักบอกเจ้าว่าสุมารีเทวีจักเดินทางไปกับพวกเจ้าด้วย” อชินีพาราเอ่ยกับสตรีทั้งสองที่เพิ่งเข้ามาถึงท้องพระโรง“เจ้าค่ะ ข้ามาที่นี่เพื่อจักบอกท่านแม่กับท่านพ่อเช่นกันว่าข้าจักให้ท่านบุหงาราตรีติดตามข้าไปด้วย”“ไปกันหลายผู้เช่นนี้มิทำให้การเดินทางช้าฤา”

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่76 เหตุอาเพศ

    เมื่อแสงตะวันของวันใหม่โผล่พ้นขอบฟ้า ชาวเมืองปักษิณพาราค่อนข้างวุ่นวาย แทนที่ชาวเมืองจะได้เห็นแสงสว่างสีเหลืองทองของพระอาทิตย์ ทว่ากลับกลายเป็นว่ามีเงาดำทะมึนลอยคล้ายเมฆก้อนใหญ่บดบังแสงของพระอาทิตย์ ทุกผู้ต่างรู้ว่าเรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ แต่เป็นลางบอกเหตุอาเพศ“เกิดอันใดขึ้นฤาท่านพี่” อชินีพาราเอ่ยถามสวามีที่กำลังยืนกอดอกมองออกไปนอกหน้าต่างโถงนั่งเล่นของตำหนัก“เมฆคล้ายรูปศิลา มีเงาดำทะมึนขึ้นทิศตะวันออก มิใช่เกิดเหตุร้ายอันใดต่อศิลาชีวิตของเผ่าสิงห์สุระฤา” นครินทร์คีรีหวั่นใจแปลกๆ ไม่แพ้ชาวเมือง ด้วยกลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายต่อเมืองของพันพิภพ สหายรักผู้เคยร่วมเป็นร่วมตายมากับเขา อีกอย่าง หากเกิดเหตุอันใดต่อศิลาชีวิตของเผ่าสิงห์สุระจริง ศิลาของเผ่าพันธุ์อื่นก็จะมีปัญหาไปด้วย ไม่เว้นแม้แต่ศิลาชีวิตในเผ่าของเขานครินทร์คีรีละสายตามองจ้องไปยังอนันทเสน องครักษ์ประจำตนที่กำลังเดินดุ่มด้วยสีหน้าไม่สู้ดีเข้ามาคำนับ“มีอันใดฤา”“ท่านพันพิภพมาขอเข้าเฝ้าขอรับ”“อยู่ท้องพระโรงใช่ฤาไม่”“ขอรับ”นครินทร์คีรีเดินลิ่วตามด้วยอชินีพาราไปยังท้องพระโรง เพราะรับรู้ได้โยที่ไม่ต้องเอ่ยคำใดว่าเผ่าสิงห์สุ

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่75 พฤติกรรมไม่เหมาะสม

    ผ่านงานมงคลของเมืองปักษิณพารามาร่วมขวบเดือนกว่าแล้ว ทั้งที่ชื่อเสียงเรียงนามของมนตรามัจฉาเลื่องลือว่าเป็นผู้ที่ทำให้ปักษิณสิงขรมองเห็นและเรียนรู้หลายอย่างจากการมองเห็นได้อย่างรวดเร็ว ทว่าความดีของนางก็ไม่เป็นที่พูดถึง มีแต่เสียงอื้ออึงของเหล่าสรรพสัตว์ในเมืองยังคงโจษจันกันว่า นางผู้นี้เป็นเงือกที่ไม่มีความเรียบร้อยสมเป็นว่าที่ราชินี เพราะหลังจากผ่านงานอภิเษกได้ เงือกสาวก็เอาแต่เที่ยวเตร่กับญาติผู้น้องและเจ้านากทะเล ทว่าก็ไม่มีผู้ใดคิดกังขาดังไป เพราะทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นข้ออนุญาตของปักษิณสิงขร“ท่านพี่ ท่านเอาแต่เที่ยวเล่นกับข้าเช่นนี้เพลาใดท่านจักมีทายาทเสียทีเล่า” มีนามัจฉาเอ่ยถามญาติผู้พี่ขณะที่กำลังว่ายน้ำเล่นด้วยกันอยู่หลังตำหนักของชลามัจฉา“ทายาท! อ่อ...ข้ายังมิพร้อม เจ้าอยากเลี้ยงหลานฤา”“มิได้เจ้าค่ะ ข้ามิถูกกับเด็ก ข้ามิชอบเสียงร้อง มิชอบมองผู้น้อยงอแงเจ้าค่ะ น่ารำคาญ”“เจ้ากับข้าก็มิต่างกัน”“เท่าที่ข้ารู้ ท่านพี่ชอบเด็กมิใช่ฤา คราสามนยังเยาว์ ท่านพี่ยังไปขโมยสามนมาเลี้

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่74 รอฟังข่าวดี

    อิ่มเดินออกมาหลังบ้านด้วยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะเมื่อครู่ได้รับสายจากคนที่ไม่อยากคุยด้วยสักเท่าไร “คุณโรสโทรมาชวนคุณนันท์ไปงานวันเกิดค่ะ บอกว่าส่งการ์ดเชิญไปบ้านที่กรุงเทพแล้ว”คนที่กำลังนั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศยามพระอาทิตย์ใกล้ตกหน้าตึงไม่สบอารมณ์กะทันหันเมื่อได้ยินชื่อของเพื่อนรักหักเหลี่ยม “หึ่...จะส่งมาทำไม ไหนว่าตัดขาดกับฉันแล้ว คนแบบนี้เชื่อถืออะไรไม่ได้จริงๆ”“แล้วคุณนันท์จะไปไหมคะ” อิ่มอ้อมแอ้มถามคนเป็นนาย ทั้งหวังว่าจะได้คำคตอบที่ตรงใจ“อิ่มว่าฉันควรไปไหมล่ะ”“เป็นฉันก็คงไม่ไปค่ะ”“นั่นแหละ ฉันจะไม่ยอมโง่ไปคบกับคนแบบนั้นอีกเด็ดขาด”“ดีแล้วค่ะ คุณอัคได้โทรมาหาบ้างรึเปล่าคะ ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง”“เงียบไปทั้งคู่เลย คงจะเที่ยวกันเพลินแล้วล่ะมั้ง” นินันท์ไม่คิดจะไปรีบกวนลูกๆ ในเวลานี้ ในเมื่อทั้งสองยอมไปเที่ยวตามที่เธอขอแล้ว ตอนนี้เธอก็จะปล่อยให้พวกเขาเป็นอิสระไปก่อน ส่วนเธอก็ทำหน้าที่บริหารงานตรงนี้ให้อัคคีหมดห่วงเรื่องงานเป็นพอ ทั้งยังภาวนาอยู่ทุกวันว่าขอให้ยินข่าวดีหลังจากที่ทั้งสองกลับมา หลังจากอัคคีพามนตรามัจฉาไปหาซื้อชุดนอนเมื่อวานตอนเย็น จวบจนเข้าเวลาเย็นอีกวันเขาก็ยังไ

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่73 ชุดนอนไม่ได้นอน

    “พูดมาเดี๋ยวนี้”“ฉันรับงานถ่ายแบบชุดชั้นในค่ะ แค่ยี่สิบกว่าเซทเท่านั้นค่ะ ฉันเห็นว่ามันได้เงินเยอะดีก็เลยยอมตกลงเซ็นสัญญา”“กับโมไหน”“ก็คนที่เคยมาทาบทามให้ฉันไปถ่ายชุดว่ายน้ำแล้วคุณโรมไม่ยอมให้ถ่ายนั่นแหละค่ะ”“แล้วทำอะไรทำไมไม่บอกผมก่อน” โรมหัวเสียขึ้นมากะทันหัน เพราะเขาไม่เคยเชื่อใจโมเดลลิ่งนั้นแม้แต่น้อย คนในวงการถ่ายแบบรู้กันดี ว่าคนอย่างแองจี้ไว้ใจไม่ได้ บรีฟอีกงานแต่ให้ไปทำอีกงานอยู่บ่อยครั้ง ทว่าก็ไม่มีใครเอาผิดได้เพราะเซ็นสัญญารับเงินโดยที่ไม่อ่านให้ถี่ถ้วน“ฉันกลัวว่าคุณจะห้ามอีก ฉันอยากได้เงินเยอะๆ จะได้หมดหนี้จากคุณเร็วๆ”“ก็ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องรีบ อีกอย่างผมก็บอกแล้วว่าไม่ต้องคืนก็ได้ ทำไมคุณถึงได้รั้นผมนัก รู้ไหมว่าโมเดลลิ่งพวกนั้นมันเล่ห์เหลี่ยมเยอะแค่ไหน”“เขาเป็นโมใหญ่ ไม่มาหลอกอะไรมั้งคะ สัญญาก็มี”“ไม่รู้แหละ ถ้าคุณไม่ยกเลิกงานนั้นผมจะบอกทุกอย่างกับแม่คุณ”“ไม่นะคะคุณโรม บอกแม่ไม่ได้นะคะ หรือคุณก็อยากให้แม่ฉันป่วยเหมือนเดิม อีกอย่างฉันเซ็นสัญญาไปแล้ว ถ้ายกเลิกก็ต้องเสียเงินเป็นสิบล้านเลย ฉันจะเอาที่ไหนมาจ่ายคะ แต่ฉันสัญญานะคะว่าฉันจะทำงานแบบนี้ครั้งสุดท้าย ครั้งหน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status