Beranda / โรแมนติก / My destiny ร่างนี้ของใคร / ตอนที่10 เข้าขั้นวิกฤต

Share

ตอนที่10 เข้าขั้นวิกฤต

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-14 11:20:47

“พี่ว่าให้หมอดูอาการชมพูอีกรอบก็ดีนะ เรื่องที่ชมพูเป็นแบบนี้พี่จะไม่บอกใคร มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกได้เลย”

“ขอบคุณมากเลยนะคะ ขอบคุณที่เข้าใจพวกเรา”

ปกป้องพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วแตะบ่าชื่นชีวาเพื่อให้กำลังใจ

“งั้นพี่ไม่รบกวนแล้ว วันหลังจะมาเยี่ยมใหม่”

“ค่ะ”

สองสาวพี่น้องพากันเดินออกมาส่งชายหนุ่มที่หน้าบ้านจนปกป้องเดินไปถึงลานจอดรถ จากนั้นชื่นชีวาจึงรีบจูงมือน้องสาวเข้าไปนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่นตามเดิม

“สิ่งที่ชมพูพูดเมื่อกี้ คราวหลังห้ามพูดกับคนอื่นแบบนั้นอีกเข้าใจไหม”

“เรื่องอะไรคะ”

“ก็เรื่องที่คุยกับนางไม้ แล้วก็เรื่องที่ได้ยินเสียงแปลกๆ ดีนะที่เป็นพี่ป้องมาฟัง ถ้าเป็นคนอื่นเขาจะว่าชมพูบ้าน่ะสิ”

“ทำไมคนอื่นต้องเข้าใจแบบนั้น ก็ในเมื่อที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริง”

“คนหลายคนไม่เชื่อเรื่องอะไรที่มองไม่เห็นหรอกนะชมพู”

“ก็ได้ ฉันจะไม่พูดแบบนี้กับคนอื่น แต่พี่ชบาพาฉันไปทำบุญได้ไหม”

“ได้ พี่พาไปได้ แต่เป็นพรุ่งนี้นะ”

“ค่ะ” เมื่อคนเป็นพี่รับปากสาวเจ้าจึงยิ้มออกได้ จากนั้นเธอก็กดรีโมทเปิดโทรทัศน์ดูภาพน่าตื่นตาตื่นใจของเธอต่อ ไม่รู้หรอกว่าทำบุญบนโลกนี้เขาทำกันยังไง ทว่าเธอก็สบายใจไปหนึ่งเปราะที่ชื่นชีวารับปากว่าจะพาไป

ชื่นชีวานั่งมองน้องสาวด้วยสายตาอ่อนใจ เธอออกไปจากห้องนั่งเล่นเพื่อต่อสายหาวายุ เพราะรอให้ถึงวันที่หมอนักตรวจน้องของเธอไม่ไหว อาการทางร่างกายไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่อาการทางสุขภาพจิตท่าจะเข้าขั้นวิกฤต

“ทำไมต้องไปที่โรงพยาบาลอีกคะ” มนตรามัจฉาไม่ได้อยากไปโรงพยาบาล ทว่าหลังจากชื่นชีวาออกไปจากห้องนั่งเล่นไม่นานนักจู่ๆ ก็เข้ามาจูงมือเธอให้ไปแต่งตัวใหม่ แล้วพาเธอขับรถออกมาจากบ้านในเวลาที่ท้องฟ้าใกล้มืดเต็มที

“ไปหาหมอวายุไง แล้วชมพูก็จะได้ไปเยี่ยมคุณอัคคีด้วย ไม่รู้ป่านนี้คุณนินันท์จะต่อว่าชมพูว่าอะไรบ้าง”

“แต่ฉันไม่อยากเจอคุณนินันท์เลย” มนตรามัจฉาส่ายหัวน้อยๆ เธอมองไปยังพี่สาวที่กำลังขับรถด้วยสายตาเป็นกังวล แม้จะจำได้ว่านางไม้สอนให้เธอต้องดูแลสามีและครับครัวสามีตามหน้าที่ของภรรยา ทว่าเธอก็ยังจำเหตุการณ์ตอนที่นินันท์ต่อว่าพูดจาร้ายๆ ใส่เธอได้เป็นอย่างดี

“เฮ้อ...พี่ก็ไม่ได้อยากเจอ แต่เลี่ยงยังไงสักวันนึงก็ต้องเจอเธออยู่ดี อีกอย่างชมพูเองก็มีสถานะเป็นภรรยาคุณอัคคี จะไม่ไปดูสามีเลยมันก็จะดูไม่ดีนะ”

“นางไม้บอกว่าฉันต้องทำหน้าที่ภรรยาให้ดี แล้วก็ต้องดูแลครอบครัวของสามี เพราะนั่นจะเป็นพลังบุญที่ทำให้ฉันกลับไปที่ที่จากมาได้ ฉันจะยอมฝืนใจตัวเองก็ได้”

“เฮ้อ...จะเชื่ออย่างนั้นก็ได้” ชื่นชีวาคิดถูกแล้วที่รีบโทรนัดกับหมอวายุและหมอธีรภพ จิตแพทย์หนุ่มเพื่อนของหมอวายุ แล้วก็ช่างเป็นที่น่าโชคดีที่ทั้งสองคนว่างที่จะดูอาการของน้องสาวเธอในค่ำนี้พอดี หากพึ่งวิทยาศาสตร์ไม่หายคนที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องไสยศาสตร์อย่างเธอคงต้องไปหาบนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนสักที่แล้ว

ชื่นชีวาจอดรถเรียบร้อยเธอก็พาน้องสาวเข้าไปในลิฟท์ของบุคลากรโรงพยาบาลตรงไปยังชั้นที่หมอวายุทำงานอยู่ทันที เมื่อลิฟท์เปิดออกสองสาวก็เผชิญหน้ากับนินันท์ มนตรามัจฉาเห็นสายตาของแม่สามีที่มองมาก็ต้องรีบก้มหน้า สายตาพิฆาตนั้นน่ากลัวจนเธอรู้สึกขนลุกไปหมด

“นึกว่าจะไม่โผล่หน้ามาซะแล้ว” ในวันที่รู้ว่าลูกชายเธอเกิดอุบัติเหตุตอนไปเที่ยวเธอก็โกรธชมชีวันมากพอตัวอยู่แล้ว ยิ่งวันที่หญิงสาวออกจากโรงพยาบาลแล้วไม่คิดจะมาดูอาการอัคคีแม้แต่น้อย ความโกรธของนินันท์ก็ยิ่งเท่าทวี

ชื่นชีวาดึงมือน้องสาวออกมาจากลิฟท์จากนั้นก็ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ตรงหน้า

“สวัสดีค่ะคุณนันท์”

“สวัสดีค่ะ” มนตรามัจฉายกมือไหว้นินันท์ตามพี่สาว แต่เธอก็ยังไม่ค่อยกล้าจะสบตาอีกฝ่ายอยู่ดี

หญิงวัยกลางคนรับไหว้สองสาวด้วยท่าทางที่ไม่เต็มใจมากนัก ทว่าก็ต้องทำตามมารยาท “ตาอัคไม่ได้อยู่ชั้นนี้ พวกเธอมาทำอะไรที่นี่”

“ฉันนัดหมอวายุเอาไว้ค่ะ พอดีว่าชมพูไม่ค่อยสบายนิดหน่อยค่ะ”

“ตายุไม่เห็นบอกฉันว่าพวกเธอจะมา แต่ถ้ารู้ตัวว่าไม่สบายก็ไม่ต้องเสนอหน้าไปเยี่ยมตาอัค เดี๋ยวจะเอาเชื้อไปติดลูกฉันอีก”

“ค่ะ แต่ยังไงฉันจะหาโอกาสมาดูแลคุณอัคตามหน้าที่ของภรรยานะคะ” มนตรามัจฉาอ้อมแอ้มออกมาให้นินันท์ได้เข้าใจว่าเธอไม่ได้ตั้งใจทอดทิ้งอัคคี แม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นสามีของชมชีวันจริงๆ ก็เถอะ

“หึ่...” นินันท์สบถออกมาอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะเดินผ่านหน้าสองสาวเข้าลิฟท์ไป เธอไม่เคยชอบลูกสะใภ้คนนี้แม้แต่น้อย ก่อนหน้านี้ก็ชอบทำตัวก้าวร้าวไม่เกรงใจผู้ใหญ่ เมื่อครู่ที่จงใจพูดว่าตัวเองเป็นภรรยาของลูกชายเธอก็คงไม่พ้นจะตอกย้ำสถานะของตัวเองเพื่อกวนอารมณ์ของเธอเล่นเป็นแน่

“ไปเถอะ”

“ค่ะ” มนตรามัจฉาเดินตามชื่นชีวาหน้าละห้อย ทว่าสองสาวยังไม่ทันได้เดินถึงไหน หมอหนุ่มก็รีบเดินหน้าตาตื่นมาหา

“เมื่อกี้ไม่ได้สวนกับคุณแม่ใช่ไหมครับ”

“เรียบร้อยค่ะ ฉันบอกว่าชมพูไม่สบายนิดหน่อยก็เลยพามาหาคุณหมอ”

“ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันใช่ไหมครับ” เห็นสีหน้าของชมชีวันหมอหนุ่มเริ่มโทษตัวเองที่น่าจะยกหูโทรศัพท์บอกทั้งสองสาวก่อนว่าแม่ของเขาเข้ามาหา

“ก็คุยกันปกติอย่างที่เคยคุยค่ะ คุณหมอเข้าใจใช่ไหมคะ” ชื่นชีวายิ้มอ่อน คิดถูกแล้วที่เลือกจะเอาน้องสาวมาอยู่ที่บ้านตัวเองในขณะที่อัคคียังนอนเป็นผักอยู่ใน ICU ไม่เช่นนั้นเรื่องราวคงจะวุ่นวายกว่านี้หลายเท่า

“ครับ เราไปห้องตรวจกันดีกว่าครับ หมอภพรออยู่แล้ว”

“ค่ะ”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่16 ความทรงจำเจ้าของร่าง

    เงือกสาวยืนปั้นหน้าให้น่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่รู้ว่าวีรกรรมของเธอจะไปถึงหูองค์ราชาและราชินีผู้ปกครองเมืองนี้หรือยัง“ท่านมิควรทำเยี่ยงนี้เลยเจ้าหญิง หากท่านยังคงทำเรื่องมิสมควร ข้าจักต้องรายงานท่านเจ้าเมือง”เมื่อความผิดถูกละเว้นเงือกสาวก็พอจะยิ้มออก จากนั้นจึงรีบคุกเข่าคำนับองครักษ์หนุ่มเป็นการขอบคุณ “ข้าขออภัย ข้าจักไม่ทำอีก”ร่างของรณจักรปักษาสลายหายไปกับอากาศ ตัวของเจ้านาคทะเลก็ลงมากองกับพื้นชมชีวันค่อยๆ เงยหน้าเปิดตาทีละข้างเมื่อรู้ว่ารณจักรปักษาไม่อยู่แล้วก็ทิ้งตัวนั่งกับพื้นด้วยสีหน้าโล่งใจ ก่อนจะหันไปขมวดคิ้วใส่เจ้านาคทะเลที่นอนหงออยู่ตรงหน้า“ไปทำยังไงให้จับได้ล่ะสามน”“ก็ข้ามิรู้ว่าท่านรณจักร จักเห็นข้าด้วย ข้ากลัวแทบตายเจ้าหญิงยังมิวายบ่นข้าอีกฤา” สามนสะบัดหน้าหนีเจ้านายตน เขากลัวจนแทบหยุดหายใจเมื่อถูกรณจักรปักษาดึงหลังคอขณะที่กำลังปีนป่ายตามหาปักษิณสิงขร“ข้าปลอบเจ้าก็ได้” ชมชีวันอุ้มเจ้านาคทะเลตัวกลมมากอดปลอบ ด้วยรู้ว่าตัวเองอยากรู้อยากเห็นจนลืมใส่ใจความรู้สึกของเพื่อนตัวน้อยไป“ชิ...”“อย่างอนข้านักเลยน่า ข้าขอโทษ แล้วได้เห็นว่าที่สวามีข้าฤาไม่”“แค่ข้าย่างกายเข

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่15 เหมือนแม่มากจริงๆ

    ชมชีวันมาถึงตำหนักของชลามัจฉาก็วิ่งไปรอบตำหนัก เพราะที่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงต้นไม้ใหญ่ที่เป็นที่อยู่หลับนอนเท่านั้น แต่หลังตำหนักมีรากไม้ขนาดใหญ่ขดโอบล้อมเกิดเป็นบ่อน้ำสีฟ้าสวยและรอบๆ ก็มีไม้ดอกหลากสีสันเป็นที่น่ามองอีกด้วย“ข้าชอบสระน้ำนี้เจ้าค่ะท่านน้า ข้ามาหาท่านบ่อยๆ ได้ไหมเจ้าคะ”“เรือนหอของเจ้าจักมีเช่นกัน หลังเจ้าร่วมหอกับท่านปักษิณสิงขร รากไม้จากตำหนักจักขยายรากเกิดเป็นบ่อน้ำให้เจ้าได้แหวกว่ายยามคะนึงหาเมืองเกิดที่จากมา”“แต่ข้าอยากมาที่นี่” ที่พูดออกไปเมื่อครู่เพียงต้องการหาข้ออ้างมาอยู่ใกล้ชลามัจฉาเท่านั้น“ตามใจเจ้าเถิด”“ท่านพี่อยากมาหาข้าใช่ฤาไม่เล่า” มีนามัจฉาอมยิ้มกรุ้มกริ่ม ด้วยรู้ว่าญาติผู้พี่ต้องอยากพาเธอไปหาอะไรทำสนุกๆ เช่นครั้งที่เธอกลับไปเยี่ยมเยียนถึงมหาสมุทรกว้างใหญ่แน่นอน ที่นั่นเป็นถิ่นของมนตรามัจฉา แต่ที่นี่เป็นถิ่นของเธอ มีหลายอย่างเลยที่เธออยากให้มนตรามัจฉาไปพบไปเห็นเหมือนกับสิ่งที่เธอได้เห็นในป่าอันกว้างใหญ่ไพศาล“ให้จำเอาไว้ว่าเจ้าจักพาพี่เจ้าซนมิได้แล้วหนา” ชลามัจฉาเหมือนจะรู้ทันว่าลูกสาวของเธอกำลังคิดอะไรจึงต้องเอ่ยปากปรามเอาไว้ก่อน เพราะหลังจากนี้มนตราม

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่14 เรียกให้ไปเข้าเฝ้า

    “พวกคุณ เอ่อ... พวกท่านเข้ามาในหอนอนของข้าได้ยังไง ข้ามิได้อนุญาตให้ใครเข้ามา” ชมชีวันจำได้ว่าทั้งสองเป็นนางรับใช้ของอชินีพารา ไม่เพียงแค่หน้าตาที่ไม่เป็นมิตร ทว่าสายตายังมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นที่เจอกันคราแรกก็ยังเหมือนเดิม“ราชินีมีรับสั่งให้เจ้าหญิงเข้าเฝ้าในเพลานี้เจ้าค่ะ”“มีเหตุอันใดฤา”“มิทราบได้ พวกข้ามาเชิญเจ้าหญิงตามคำสั่งเท่านั้น จงไปกับพวกเราโดยดีเถิดเจ้าค่ะ”“เอ่อ...อืม” ชมชีวันรีบเดินตามทั้งสองไปแต่โดยดี เสียงเอ่ยเชิญของนางรับใช้นั้นแข็งไร้หางเสียงปานการออกคำสั่ง หากเธอคิดขัดขืนมีหวังอาจจะถูกฝ่ามืออรหันต์ฟาดหลังหักได้ ทว่าเรื่องที่ทำให้เธอร้อนๆ หนาวๆ มากกว่าความโหดของสายตานางรับใช้ก็เห็นจะเป็นเรื่องที่ราชินีของเมืองนี้ให้ไปเข้าเฝ้า ไม่รู้เลยว่าเรื่องอะไร ทว่าก็ภาวนาในใจว่าอย่าให้เป็นเรื่องที่สามนถูกจับได้ ไม่เช่นนั้นชื่อเสียงของเงือกสาวได้เลื่องลือเป็นที่เสียหายแน่ชมชีวันเดินก้มหน้าก้มตาตามนางรับใช้ทั้งสองมาพักใหญ่ จนกระทั่งเข้ามาถึงตำหนักใหญ่ที่อชินีพาราประทับอยู่ ในโถงใหญ่แห่งนี้แม้จะไม่ได้ต่างจากที่ที่เธอพักอาศัยมากนัก ทว่าที่แห่งนี้มีผ้าไหมสีประดับเป็นม่านตัดกับ

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่13 มหาอำนาจของป่าใหญ่

    ณ ใจกลางผืนป่ากว้างใหญ่อันเขียวขจีที่มีแม่น้ำสายใหญ่รายล้อมรอบเมือง เมื่อมีสายน้ำก็ย่อมมีชีวิต ที่นี่จึงเป็นเมืองที่เหล่าสรรพสัตว์อาศัยอยู่กันมากที่สุด พื้นที่แห่งนี้เรียกว่าเมืองปักษิณพารา เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่มีสิ่งปลูกสร้างที่ทำด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ราวกับต้นไม้ที่แกะสลักให้มีช่องว่างใหญ่โตพอที่จะให้สรรพสัตว์ได้ใช้อาศัยอยู่ได้อย่างสบายหลายแห่ง มีเจ้าเมืองปกครองนามว่า นครินทร์คีรีผู้เป็นราชานกยักษ์ ร่วมกับราชินีอชินีพาราผู้เป็นบุตรีของอดีตเจ้าเมืองพยัคฆาอาณาเขตการปกครองของเมืองปักษิณพารากว้างใหญ่ไพศาล เพราะเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์มีทรัพยากรมากมายที่ชุบเลี้ยงชีวิตของเหล่าสรรพสัตว์ในป่าใหญ่ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่พระอิศวรและครุฑชั้นปกครองได้ช่วยกันสร้าง จึงเป็นที่น่าเกรงขามกับสรรพสัตว์ทุกเผ่า เรียกได้ว่าเป็นเมืองนี้เป็นมหาอำนาจของป่าใหญ่นี้ก็ว่าได้เงือกสาวสาวในชุดเดรสผ้าฝ้ายแขนกุดกระโปรงสั้นเหนือเข่ามีเข็มขัดที่ทำจากไข่มุกคาดเอวให้เห็นทรวดทรงเดินเข้ามานั่งหน้ามุ่ยตรงข้ามกับเจ้านาคทะเลตัวน้อยที่กำลังสวาปามปลาดิบอย่างเอร็ดอร่อยต่อหน้าของเธอ“ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่เลยสามน สัตว์หลายตนที่นี่ด

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่12 เรียกทุกอย่างว่าผี

    “ข้าเป็นเจ้าที่” ชายผู้มีหนวดเคราและเรือนผมสีดอกเลาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุขุม“ท่านศร เป็นเจ้าที่ที่นี่ก่อนที่ข้ามาอยู่ในต้นไม้นี้เสียอีก” สาลิกาเอ่ยชื่อของท่านเจ้าที่ที่แสนใจดีที่อนุญาตให้วิญญาณที่ไม่มีที่ไปอย่างเธอมาอาศัยอยู่ในต้นไม้ใหญ่เมื่อแปดสิบกว่าปีก่อน“อย่าไปบอกคนอื่นว่าเห็นข้าล่ะ เดี๋ยวพวกเขาจักพาลกลัว” ท่านศรเอ่ยย้ำกับเงือกสาวเพราะเขาพอจะรับรู้ได้ว่าสองพี่น้องกลัวแค่ไหนเมื่อได้ยินมนตรามัจฉาบอกว่าคุยกับนางไม้ได้“ทำไมฤาท่าน” มนตรามัจฉายังคงมีสีหน้าฉงน สิ่งที่เธอเห็นและพูดออกไปเป็นความจริงทั้งนั้น ทำไมคนอื่นถึงต้องกลัว“สิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น ผู้คนเหล่านั้นเรียกทุกอย่างว่าผี”“พวกท่านก็ถูกผู้คนเรียกเช่นนั้นฤา”“จะเรียกว่าเจ้าที่ นางไม้ หรือวิญญาณก็มิต่างจากความหมายนั้น”“มิน่า วีถึงได้มีอาการกลัว พี่ชบาก็เรียกสิ่งที่ข้าเห็นว่าผี พวกเขาทำเหมือนเข้าใจข้า แต่สุดท้ายก็มิใช่” พูดมาถึงตรงหน้าสีหน้าของหญิงสาวก็ห่อเหี่ยวลง“เจ้าอย่าถือโทษโกรธใครที่ไม่เชื่อเจ้าเลย โลกมนุษย์นี้ ผู้คนจักเชื่อทุกอย่างที่ตาของพวกเขามองเห็น ส่วนเจ้าที่มองเห็นพวกข้าก็เพราะพวกข้าอยากให้เห็นเท่านั้น เจ้าจงใช้ชี

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่11 เคสแปลก

    วายุตรวจร่างกายชมชีวันคร่าวๆ เรียบร้อยก็ส่งต่อหญิงสาวมาที่ห้องทำงานของธีรภพ จิตแพทย์หนุ่มตี๋หน้าหยกราวกับพระเอกซีรีส์จีนที่เป็นเพื่อนสนิทของเขา“เชิญนั่งก่อนครับคุณชมพู” มนตรามัจฉาเงยหน้ามองคนเป็นพี่ด้วยแววตาระแวงพอสมควรชื่นชีวาพยักหน้าให้น้องสาวนั่งลงตรงข้ามกับหมอหนุ่ม “ชมพูมีอะไรก็คุยกับคุณหมอได้ทั้งหมดเลยนะ เดี๋ยวพี่จะไปรอข้างนอก”“ค่ะ”“ฝากด้วยนะคะหมอภพ”“ครับ”เภสัชสาวออกจากห้องไปเรียบร้อย หมอหนุ่มก็หันมาสนใจหญิงสาวหน้าหวานที่กำลังนั่งทำหน้ากังวลอยู่ฝั่งตรงข้าม “ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนนะครับ ผมชื่อภพครับ”“ฉันชื่อชมพูค่ะ แต่ว่า...” มนตรามัจฉาหยุดพูดกะทันหันเพราะจำได้ว่าชื่นชีวาให้เธอเข้าใจว่าเธอใช้ชื่อชมชีวันสีหน้าของหญิงสาวที่แสดงออกถึงความกังวลทำให้หมอหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าเธอมีอะไรในใจเกี่ยวกับเรื่องชื่อของตัวเอง “มีอะไรพูดกับผมได้ทุกเรื่องเลยครับ คิดซะว่าผมเป็นเพื่อนของคุณคนนึงก็ได้ แล้วผมก็คิดว่าผมพร้อมจะเชื่อกับทุกอย่างที่คุณพูดด้วย”“พูดได้ทุกเรื่องจริงเหรอคะ”“ครับ คุณพูดออกมาได้ทั้งหมดเลยครับ” ธีรภพเริ่มยิ้มออกเมื่อเห็นแววตาของหญิงสาวตรงข้ามเริ่มคลายความกังวล“อั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status