น้อยหน่า
"จะให้พี่รักหน่าแทนอย่างนั้นหรอ"
ฉันพูดเสียงเบาพรางคิดถึงคำพูดของพี่คีย์เมื่อเช้า พี่คีย์นี่แม่งชอบพูดอะไรแบบนี้อ่ะ แล้วกูจะมานั่งคิดมากทำซากอะไรวะในเมื่อมันไม่มีอะไรที่จะเป็นไปได้เลยเรื่องของฉันกับพี่คีย์น่ะ
"หน่าตอนเย็นไปผับ"
"หน่าไม่ได้อยากเป็นแฟน..........."
"อีหน่ากูถามมึงได้ยินมั้ยเนี่ย"
ฉันสะดุ้งเมื่อคิตตี้ตะโกนใส่หูฉัน ฉันหันไปมองเพื่อนตัวเองที่ยืนจ้องจับผิดฉันอยู่ แล้วเมื่อกี้ฉันหลุดพูดอะไรออกไปหรือเปล่าวะ
"มึงไม่ได้อยากเป็นแฟนใคร"คิตตี้ถามฉัน
"ไม่มีมึงอ่ะหูฝาดแล้วคิด"ฉันรีบบอกก่อนจะเปิดแฟ้มเอกสารดู
"ทำตัวมีพิรุธนะมึงน่ะ แล้วจะไปมั้ยผับ"คิตตี้ถามฉัน
"ไปก็ได้"ฉันบอกเพื่อนไป
"ไปก็ดีเพราะวันนี้ไอ้เจ้ามันก็ไปด้วย"โบว์เดินมาบอกพรางส่ายหัวเบาๆ
"กูสงสารเจ้ามัน แต่กูก็ไม่รู้จะช่วยยังไงอ่ะ"ยิ่งฉันเห็นเพื่อนร้องไห้ฉันก็ยิ่งอยากจะฆ่าไอ้เวรนั่นให้ตายคามือ
"ให้เวลามันทำใจหน่อยแล้วกัน คนอกหักก็แบบนี้แหละ"คิตตี้พูดพรางนั่งลงข้างฉัน
"เจ็บน่าดูเลยเนาะ"ฉันบอกไป
"พูดเหมือนมึงก็อกหักน้อยหน่า"
ผับ
"จะ...เจ้ากลับคอนโดกับกูนะ"
ฉันกำลังห้ามเพื่อนรักอย่างจันทร์เจ้าที่เปิดศึกกับไอ้แฟนเก่าและคุณขุนพลอยู่ ซึ่งรายหลังนี่แม่งโคตรน่ากลัวเลยอ่ะ ขนาดฉันยังไม่กล้าเข้าใกล้เลย
"กลับกันดีกว่าเนาะ ได้เวลานอนแล้ว"คิตตี้รีบพูดเสริมอีกแรง
"ถ้าอยากจูบวันหลังคุณก็ไปหาฉันที่ห้องสิคะ"นี่แหละค่ะเพราะก่อนหน้านี้จันทร์เจ้ามันอาละวาดแล้วบอสของฉันเข้าไปห้ามด้วยการจูบเรื่องมันถึงเลยเถิดมาแบบนี้
"กลับพี่จะไปส่ง"ฉันสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของพี่คีย์ที่ยืนอยู่ด้านหลังฉัน
หลังจากนั้นฉันก็ลากเพื่อนรักตัวเองออกจากผับและแยกย้ายกันกลับ ส่วนตอนนี้ฉันนั่งอยู่ในรถกับพี่คีย์และจันทร์เจ้านั่งอยู่เบาะหลัง
"มึงเมาป่ะ"ฉันหันกลับไปถามเพื่อนตัวเอง
"นิดหน่อย"หึ..ไม่หน่อยแล้วเพื่อนรัก
"ตอนแรกก็เมามากแต่พอโดนเพื่อนพี่จูบเข้าไปส่างเลย"ฉันหันไปมองพี่คีย์ที่พูดแทรกขึ้นมา
หลังจากนั้นพี่คีย์ก็ขับรถมาส่งและระหว่างทางก็ไม่มีใครพูดอะไรสักคำ ทำไมพี่คีย์ถึงได้ยิ้มทั้งๆ ที่เพื่อนรักของเขาอย่างคุณขุนพลจูบผู้หญิงที่ตัวเองชอบต่อหน้าต่อตา ฉันลอบมองพี่คีย์ที่ขับรถอยู่ก่อนที่พี่คีย์จะหันมาสบตาฉันพอดี
"มีอะไรจะถามพี่"พี่คีย์ถามเสียงดุ
"ไม่มีค่ะ หน่าไม่มีอะไรจะถามพี่คีย์หรอก"ฉันรีบบอกไป
คีย์
หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้คุยอะไรกับสองสาวต่อหรอก และเรื่องที่เพื่อรักของผมทำกับจันทร์เจ้าวันนี้ผมเองก็พอจะดูออกอยู่แล้ว แต่ผมอยากจะแน่ใจอะไรให้มากกว่านี้ก่อน
"รีบนอน"ผมพูดเสียงดุก่อนจะขับรถออกมาทันที
ครืด ครืด
ผมมองมือถือตัวเองที่ดังอยู่ก่อนจะกดรับสาย
"ครับ"
(คิดถึงจังเลยค่ะ)
"คิดถึงเหมือนกันครับ เดี๋ยวพี่ไปหา"ผมวางสายก่อนจะเปลี่ยนเส้นทาง เพราะผมมีธุระที่ต้องไปทำ
ผมไม่ได้กลัวการอกหักหรอกนะ และผมเคยบอกไปแล้วไงว่าผมไม่ชอบบังคับความรู้สึกของใคร เรื่องความรักถ้ามันจะมีเดี๋ยวมันก็มีเองนั่นแหละเพราะผมเองก็คงไม่วิ่งตามใครให้มันเหนื่อย ถ้ารู้ว่าไม่ใช่แล้วผมก็ถอยออกมาเท่านั้นเอง ถึงผมจะรักจันทร์เจ้าแต่ถ้ามันความรู้สึกเราไม่ได้ตรงกันผมเองก็ไม่มีความสุข
.
.
"จันทร์เจ้าไปทำงานหรือยัง"ผมถามไอ้ขุนพลที่เดินเข้ามา
ตอนนี้ผมกำลังอยู่ที่ผับเพราะไม่รู้ว่าจะไปไหน ที่จริงผมก็ถามไปอย่างนั้นแหละเพราะผมรู้อยู่แล้ว และที่สำคัญสิ่งที่ทำให้ผมนอนไม่หลับมาสองสามวันมันก็เป็นความจริง
"ทำไมมึงจะจีบจันทร์เจ้า"ไอ้ขุนพลถามผม
"แล้วมึงคิดว่ายังไง"
มันเองก็รู้แหละว่าผมรู้สึกยังไง แต่เรื่องนี้มันไม่ได้มีแค่ผมกับไอ้ขุนพลมันยังมีคนกลางอย่างจันทร์เจ้าด้วยไง ผมไม่อยากให้จันทร์เจ้ามองว่าพวกผมเห็นเธอเป็นของเล่น
"มึงชอบเธอ"ผมถามเพื่อนรักอย่างไอ้ขุนพล
"อย่าทำให้เจ้าเสียใจก็แล้วกัน มึงอย่าทำสันดานเหมือนไอ้เวรนั่นกูขอแค่นี้"ผมบอกเพื่อนตัวเอง
ที่ผมถอยให้เพราะผมรู้ไงว่าจันทร์เจ้ายังไงก็ต้องเลือกไอ้ขุนพล เพราะผมเองไม่ได้เริ่มต้นกับจันทร์เจ้าแบบคนทั่วไปผมเริ่มต้นกับจันทร์เจ้าด้วยคำว่าพี่น้อง
"พวกมึงสองตัวน่ะ"ผมหันไปมองไอ้โบ๊ทที่เรียกผมกับไอ้ขุนพล
"อะไรของมึง"ผมถาม
"จะจีบใครก็ได้แต่กับน้อยหน่าคนนี้กูขอนะ กูหวังแต่งจริงๆ"ผมมองหน้าไอ้โบ๊ทที่พูดถึงน้อยหน่า หวังแต่งอย่างนั้นหรอ
"กูกลับก่อนนะพอดีมีธุระ"
หลังจากที่ผมคุยกับเพื่อนอยู่นานและตอนนี้มันจะห้าทุ่มแล้ว และที่ผมกลับก็เพราะผมขี้เกียจคุยกับพวกมันนั่นแหละยิ่งไอ้โบ๊ทที่คุยแต่เรื่องของน้อยหน่าจนผมรำคาญ
"รีบไปไหนครับ"ไอ้โบ๊ทถามผม
"ไปนอนกอดสาวว่ะ"
ผมบอกไป ผมขับรถออกจากผับเพื่อไปคอนโดซึ่งมันไม่ใช่คอนโดผมหรอก ผมรู้ว่าไอ้โบ๊ทจีบน้อยหน่าแต่เชื่อผมสิว่ามันจีบน้อยหน่าไม่ติดหรอกเพราะมันเองก็เจ้าชู้ไม่ต่างจากผม และผมเองก็ไม่ชอบให้น้อยหน่ามีน้ำตาด้วย
ก๊อก ก๊อก
ผมยืนเคาะประตูห้องของน้อยหน่าซึ่งเคาะนานแล้วก็ไม่เปิดให้ผมสักที และนี่ไม่ใช่เวลาที่น้อยหน่าจะนอนหรอกเพราะเธอนอนดึกจะตาย
ก๊อก ก๊อก
แกร๊ก
ผมมองดุคนที่เปิดประตูแล้วยิ้มให้ผม คืออะไรวะใส่หูฟังจนไม่ยินเสียงผมเคาะอย่างนั้นหรอ ผมมองมือถือของน้อยหน่าที่เธอถืออยู่ก่อนจะมองดุอีกครั้ง
"มาทำไมอ่ะ"แล้วดูถามดิ
"คุยกับใครอยู่"ผมถามพรางมองไปที่มือถือก่อนจะดึงหูฟังออกจากหู
"ฟังเพลงค่ะ แล้วมาทำไมตอนนี้คะ"น้อยหน่าถามเมื่อผมเดินเข้ามาในห้อง
"พี่ก็มาของพี่เกือบทุกวัน"ผมบอกก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว
"งั้นก็ตามสบายค่ะ หน่าจะเข้าไปนอนแล้ว"
"กินแล้วทำไมไม่เก็บหน่า จะให้มดให้แมลงสาบมามากินก่อนหรือไง"ผมชี้จานเค้กที่มันวางอยู่บนโต๊ะ
"พี่คีย์จะกินมั้ยล่ะ ถ้าไม่ จุ้บ....อืม"ผมลุกขึ้นก่อนจะก้มลงจูบน้อยหน่าที่ยืนถามผมอยู่
ตุ้บ ตุ้บ
"อ่อย....."
"เอาจานไปเก็บ"ผมพูดเสียงดุ
"พี่คีย์ทำแบบนี้ทำไม พี่คีย์เห็นหน่าเป็นอะไรคะ ไม่คิดว่ามันเห็นแก่ตัวไปหน่อยหรอ"น้อยหน่าจ้องหน้าผมแล้วถามอย่างเอาเรื่อง
"ที่พี่ทำไป หน่าไม่รู้สึกอะไรเลยหรอ"ผมถามกลับ
ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมต้องจูบน้อยหน่า อาจจะเพราะความหมั่นไส้ที่น้อยหน่าชอบเถียงแหละมั้ง ยิ่งเห็นปากเล็กๆของน้อยหน่าผมยิ่งอดใจไม่ได้
"แล้วทำไมหน่าต้องรู้สึกด้วยล่ะคะ หรือว่าพี่คีย์รู้สึกล่ะ"น้อยหน่าย้อนถามผม
"พี่ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ"ผมบอกไป
"ความรู้สึกเดียวกับหน่าเลย"
สองปีผ่านไปน้อยหน่า"มีอะไรให้ช่วยอีกมั้ยมึง"จันทร์เจ้าเดินเข้ามาถามฉันวันนี้เป็นวันเกิดของพี่คีย์และฉันเองก็จัดงานวันเกิดเล็กๆ ให้ที่บ้าน พี่คีย์เองก็ยังไม่รู้หรอกว่าฉันจัดงานให้ เรื่องของฉันกับพี่คีย์ก็ยังคงเหมือนเดิมเรายังเป็นพ่อและแม่ของคีตะ ตอนแรกฉันไปๆ มาๆ ระหว่างกรุงเทพและแม่ฮ่องสอนแต่เพราะพี่คีย์สงสารลูกที่ต้องเดินทางบ่อยเขาก็เลยขอให้ฉันมาอยู่ที่กรุงเทพถ้าจะกลับก็ต้องเป็นวันหยุดยาว"ใจอ่อนได้แล้วมั้งหน่า"พี่ขุนพลเดินมาก่อนจะพูดเสียงดุ"หน่าใจอ่อนตั้งนานแล้วค่ะ"ฉันบอกไป"คีตะไปไหนหน่า เจ้าขาถามหาน่ะ"จันทร์เจ้าถามฉัน"ไปทำงานกับพี่คีย์"คีตะกลายเป็นเด็กติดพ่อ ทุกวันตื่นมาจะต้องอ้อนขอไปทำงานด้วยตลอด และนิสัยเอาแต่ใจก็ยังแก้ไม่หายยิ่งพี่คีย์ไม่เคยดุลูกเลยมันยิ่งทำให้คีตะได้ใจ พี่คีย์เปลี่ยนไปมากจริงๆ นะ จากคนที่ไม่เคยเลี้ยงเด็กแต่พี่คีย์ใช้เวลาในการทำความเข้าใจไม่นานเลยพี่คีย์พาคีตะไปทำงานเพราะวันนี้ไม่มีประชุมฉันก็เลยยอม ตั้งแต่มีพี่คีย์ช่วงเลี้ยงลูกฉันสบายขึ้นเยอะเลยบางวันฉันแทบจะไม่ได้คุยกับลูกด้วยซ้ำ และคำพูดของพี่คีย์ที่เคยบอกฉันวันนี้พี่คีย์ทำมันได้หมดทุกอย่าง"ขอบคุณนะคะ
น้อยหน่าตอนนี้ฉันกำลังนั่งมองลูกชายตัวเองที่แสดงอาการไม่พอใจใส่ฉัน เมื่อเช้าพี่คีย์ไปประชุมแต่เช้าและลูกชายของฉันดันตื่นสาย พอตื่นมาไม่เจอหน้าพ่อเท่านั้นแหละ"กินข้าวมั้ยครับ"ฉันถามลูก"ป๊าไหน""คีตะครับฟังแม่นะ ป่ะป๊าของหนูไปทำงานเดี๋ยวตอนเย็นก็กลับมาเล่นกับหนูแล้ว ฟังแม่อยู่มั้ย"นอกจากจะไม่ได้ฟังที่ฉันพูดแล้วคีตะยังไม่มองหน้าของฉันอีก ฉันมองลูกชายตัวเองที่เดินเข้ามุมแล้วนั่งกอดอกปรายตามองคนเป็นแม่อย่างฉัน"เดี๋ยวปู่พาไปหาป๊าดีมั้ยลูก แต่ต้องไปกินข้าวก่อนนะครับ"ฉันมองพ่อของพี่คีย์ที่เดินเข้ามาในห้องฉันไม่ได้อยากพาลูกไปที่บริษัทเพราะฉันไม่อยากไปรบกวนพี่คีย์ตอนทำงาน เมื่อเช้าก็กว่าจะออกจากบ้านได้ก็ลีลาอยู่นานสุดท้ายฉันก็ต้องแพ้ทางลูกชายสุดที่รักของตัวเอง คุณปู่ของคีตะขับรถมาส่งที่บริษัท ส่วนเรื่องที่ฉันคุยกับพี่คีย์เมื่อวานฉันเองคิดไม่ถึงว่าพี่คีย์จะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ และที่เหลือฉันเองก็คงต้องปล่อยให้เวลามันตัดสิน"ขอบคุณนะคะ"ฉันพาคีตะเดินเข้าบริษัทซึ่งแน่นอนพนักงานต่างพากันมองแล้วซุบซิบกันใหญ่ และนี่เป็นเหตุผลที่ฉันไม่อยากมาฉันไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าฉันเอาลูกมาอ้างทั้งที่จริงมันไ
น้อยหน่า"นะ..หน่าจริงๆ ใช่มั้ย"พี่คีย์พูดพลางเดินเข้ามาหาฉัน คำพูดและแววตาของเขามันสั่นจนฉันรู้สึกได้ ฉันกลับมากรุงเทพได้สองวันแล้วล่ะ ใช่ค่ะฉันได้ลูกชายและฉันเป็นคนตั้งชื่อให้เขาเอง"สบายดีนะคะ"ฉันถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน"ขอพี่กอดได้มั้ยหน่า"ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไปฉันเพียงแค่ยิ้มให้พี่คีย์พี่คีย์เดินเข้ามากอดฉันแน่น ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันได้อยู่กับตัวเองมากขึ้นหลายอย่างมันทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดตัวเองใหม่ ฉันว่าฉันโตขึ้นเยอะเลยนะตั้งแต่มีลูกฉันใจเย็นขึ้นมาก"ฮึก พี่ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ"พี่คีย์พูดเสียงสั่นและน้ำตาของเขามันหยดลงเสื้อฉันจนเปียก"เรื่องมันผ่านมาแล้ว หน่ายกโทษให้พี่คีย์ค่ะ"ฉันผละกอดออกแล้วยิ้มให้"ลูกของเราใช่มั้ยหน่าเขาคือลูกของเรา"พี่คีย์ชี้ไปที่คีตะที่นั่งยิ้มอยู่"ชื่อคีตะค่ะ"ฉันบอกไปพี่คีย์เปลี่ยนไปเยอะค่ะทั้งคำพูดและการกระทำ ที่ผ่านมาฉันก็พอจะรู้เรื่องของพี่คีย์อยู่บ้าง ฉันว่าสิ่งที่ฉันทำมันคุ้มค่านะอย่างน้อยพี่คีย์ก็เปลี่ยนตัวเองได้จริงๆ มันก็ดีกับตัวพี่คีย์เอง"แปลกใจใช่มั้ยคะว่าทำไมคีตะถึงไม่กลัวพี่คีย์"ฉันถามคนที่ยืนมองลูกอยู่ฉันไม่เคยปิดบังเรื่องพี่คีย์กับลูกเ
สามปีผ่านไปคีย์"เจ้าขานั่งรอลุงคีย์อยู่ตรงนี้นะครับ""ค่ะ"ผมพูดกับหลานรักของตัวเอง วันนี้ผมพาเจ้าขามาทำงานที่บริษัทด้วย ส่วนเรื่องของน้อยหน่านี่มันก็ผ่านมาตั้งสามปีแล้วที่ผมไม่เจอแม้แต่เงาของเมียตัวเอง ตอนนี้สิ่งที่ผมทำได้คือแค่ให้ความหวังตัวเองอยู่ทุกวันเผื่อว่าวันนึงน้อยหน่าจะพาลูกกลับมาหาผม และถ้ามันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงผมก็ยินดีที่จะรับมันขอแค่ได้เจอพวกเขาอีกครั้ง"พี่ดีใจนะคะที่เห็นคุณคีย์เปลี่ยนแปลงตัวเองได้"พี่เบญเดินเข้ามาก่อนจะยิ้มให้ผม"ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้พี่เบญต้องลำบากไปด้วย""สู้มาขนาดนี้แล้วก็ต้องสู้ให้สุดนะคะอีกหนึ่งกำลังใจจากพี่"ถ้าวันนี้ผมยังมีน้อยหน่าอยู่ข้างกายผมจะมีความสุขที่สุด สามปีที่ผ่านมาไม่เคยมีสักวันที่ผมจะนอนหลับแบบเต็มตา ภาพของน้อยหน่าที่ร้องไห้มันยังตามผมทุกครั้งที่ผมหลับตา"ลูกผมคงจะเดินได้แล้วเนาะพี่เบญ"ผมถามพี่เบญเสียงสั่น"เลี้ยงเจ้าขาไปก่อนเนาะ"พี่เบญรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีผมหันมากอดเจ้าขาที่นั่งอยู่ข้างผม ตอนนี้เจ้าขาสามขวบแล้วลูกของผมก็คงห่างจากเจ้าขาไม่มาก"พี่ต้องทำยังไงหน่าถึงจะใจอ่อนพาลูกกลับมาหาพี่ พี่เปลี่ยนตัวเองแล้วนะหน่าเปลี่ยนไปแล้วจ
น้อยหน่า"แม่บอกว่าให้อยู่เฉยๆ ไงลูก"ฉันสะดุ้งกับเสียงดุจนต้องรีบวางของที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะก่อนจะค่อยๆ หันกลับไปมองผู้หญิงที่เดินเข้ามาหาฉัน ที่ผ่านมามีเรื่องเกิดขึ้นกับฉันมากมาย แต่ตอนนี้ฉันมีความสุขและสบายดีกับสิ่งที่เป็นอยู่ มันก็อาจจะมีคิดถึงบ้างแต่ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันโตขึ้นอีกก้าว"ทำไมดื้อแบบนี้ล่ะลูก ยิ่งท้องอยู่ด้วยนะ"เสียงของผู้หญิงวัยกลางคนที่กำลังดุฉันอยู่ก็คือคุณแม่ของพี่คีย์ วันนั้นท่านตั้งใจไปเจอฉันที่สนามบิน ท่านรู้เรื่องของฉันกับพี่คีย์ทุกอย่าง"หน่าแค่อยากช่วยค่ะอยู่ว่างๆ หน่าเบื่อ"ฉันรีบบอกไปฉันไม่ได้ไปเชียงใหม่เพราะคุณแม่ของพี่คีย์ขอให้ฉันมาอยู่ที่แม่ฮ่องสอนกับท่าน ตอนแรกฉันกลัวว่าท่านจะบอกพี่คีย์ว่าเจอฉัน แต่ท่านบอกฉันว่าท่านอยากดัดนิสัยของพี่คีย์และท่านเองก็ยอมรับในการตัดสินใจของฉัน ที่นี่เป็นสวนดอกไม้มันเป็นธุรกิจของแม่พี่คีย์ที่ทำมานานมากแล้วและฉันเองก็ชอบที่นี่มากด้วย"ไว้ใจแม่หรือยังลูก"ท่านถามก่อนจะยิ้มให้ฉันฉันยอมรับว่าแรกๆ ที่เข้ามาอยู่ฉันไม่ไว้ใจใครเลยสักคน ฉันกลัวว่าพี่คีย์จะรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่แต่พอมาวันนี้ท่านพิสูจน์ให้ฉันเห็นแล้วว่าฉันไว
คีย์แล้วผมจะทำยังไงต่อไปดี ผมทำร้ายคนที่ผมรักมาตลอดและสิ่งที่ผมเจอมันไม่ได้เหมือนกับที่ผมคิดไว้ สุดท้ายคนที่แพ้ก็คือตัวผมเอง ผมดูถูกความรักของน้อยหน่าผมเอาทุกอย่างไปทิ้งด้วยมือของผมเอง"ลูกกับเมียกูล่ะพล ฮึก"ผมถามเพื่อนตัวเอง"ทำไมมึงถึงพึ่งมาเรียกร้องวะคีย์ มึงมีโอกาสตั้งกี่ครั้งมึงก็ไม่ทำ น้อยหน่าให้โอกาสมึงมาตลอดแต่มึงก็เลือกที่จะทำผิดซ้ำซาก กูจะบอกให้นะมันไม่มีผู้หญิงคนไหนรับได้หรอกนะที่จะใช้คนรักร่วมกับคนอื่น ใจน้อยหน่ามีแค่นี้เองคีย์ทำไมมึงไม่รู้จักดูแลรักษา มึงปล่อยให้คนของมึงมาก้าวก่ายน้องกูตั้งกี่ครั้ง มึงเคยรู้บ้างมั้ยมึงสนุกแต่น้องกูนั่งร้องไห้"ไอ้ขุนพลพูดขึ้นและน้ำเสียงของมันกำลังไม่พอใจผมอยู่ผมรู้ ผมนิ่งไปกับคำพูดของเพื่อนรักตัวเองเรื่องที่มันบอกผมไม่เคยรับรู้ด้วยซ้ำ"โถ่ว...โว้ย!!! ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้""ก็เพราะตัวมึงเองทั้งนั้นมึงไม่ต้องโทษใครเลยคีย์"เพื่อนผมพูดถูกทุกอย่างผมคิดว่ายังไงน้อยหน่าก็ยังรักผมและเธอไม่มีทางจะทิ้งผมไปไหน แต่ตอนนี้แม้แต่คำขอโทษที่ผมอยากจะพูดผมยังไม่มีโอกาสเลย"ไอ้หน่ามันรักพี่คีย์มากแค่ไหนพี่คีย์เคยรับรู้บ้างมั้ย ไม่ว่าพี่คีย์จะเลวจะชั่วจะนอ