คีย์
ผมกำลังยืนคุยกับน้อยหน่าอยู่ที่นอกระเบียง ผมเคยบอกไปแล้วไงว่าผมชอบจันทร์เจ้าและรอยสักของผมที่น้อยหน่าพูดถึง จันทร์เจ้าคือเจ้าของ
"แต่ถ้าพีคีย์จะทำอะไรตอนนี้หน่าว่า........."น้อยหน่าพูดเสียงเบา
"พี่รู้ว่าพี่ควรทำอะไร หน่าไม่ต้องมาสอนพี่"ผมพูดเสียงดุ
"หน่าแค่บอกมั้ยพี่คีย์จะดุทำไมเนี่ย"
ผมมองน้อยหน่าที่เดินเข้าไปในห้อง ผมทำอะไรผมคิดก่อนเสมออยู่แล้ว และความรู้สึกของผมที่มีต่อจันทร์เจ้าผมเองก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นตอนไหนพอรู้ตัวอีกทีผมกับรู้สึกดีกับจันทร์เจ้าไปแล้ว ถึงความรู้สึกของผมที่มีให้จันทร์เจ้ามันเร็วไปแต่จะให้ผมทำยังไงก็มันรู้สึกไปแล้ว
"สวัสดีค่ะพี่คีย์"ผมมองไอ้โบว์กับคิตตี้ที่เอ่ยทักทายผม
"เรายังไม่ได้คุยกันเลยนะครับคุณโบว์"ผมพูดเสียงดุก่อนจะชี้หน้าไอ้โบว์
"งุ้ย..วันนั้นน้องโดนผีเข้าค่ะ"
"มึงมานานยัง"ไอ้โบ๊ทถามเพราะมันเป็นคนไปรับโบว์มา
"สักพักแล้ว"
ผมเดินเข้ามาหาจันทร์เจ้าที่นั่งอยู่ในห้อง ไม่ใช่ว่าผมทำเร่งทำคะแนนเพื่อให้จันทร์เจ้าหันมาชอบผมหรอกนะ แต่เพราะผมเป็นห่วงเธอจริงๆ ส่วนเรื่องความรู้สึกผมไม่บังคับใครอยู่แล้ว
"ขอบคุณนะคะ เจ้าโอเคแล้วค่ะพี่คีย์"จันทร์เจ้าบอกก่อนจะยิ้มให้ผม
"งั้นก็พักผ่อนนะเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปกินข้าวกัน"ผมบอกไป
"พี่คีย์จะกลับแล้วหรอคะ"ผมหันไปมองน้อยหน่าที่ถามผมอยู่
"จะกลับกับพี่หรือเปล่า"ผมหันกลับถามน้อยหน่า
"เปล่าค่ะหน่าแค่ถามดู"
"แล้วหน่าจะกลับกับใคร มันดึกแล้วนะ"ผมถามเสียงดุ
"เดี๋ยวกูไปส่งน้อยหน่าเอง มึงกลับเถอะ"มีคนไปส่งนี่เองถึงได้ยิ้มไม่หุบแบบนี้
"งั้นกูกลับล่ะ"
ผมบอกแค่นั้นก็ออกมาเลย ตอนนี้จะห้าทุ่มแล้วตามจริงผมมีนัดนะแต่วันนี้ไม่มีอารมณ์แล้ว ผมเลือกที่จะขับรถไปที่คอนโดของน้อยหน่าแทนคอนโดตัวเอง เพราะผมอยากจะรู้ว่าเธอจะกลับมาถึงตอนกี่โมง
ผมเดินเข้ามาในห้องนอนเพื่ออาบน้ำแต่ก็ต้องสะดุดกับหนังสือเล่มหนึ่งที่วางอยู่โต๊ะข้างเตียง ผมเดินเข้ามาก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดู
"การเดินทางของพระจันทร์"ผมพูดเสียงเบาก่อนจะวางมันไว้ที่เดิม
ผมมองไปรอบๆ ห้องของน้อยหน่าที่มันโดนจัดเป็นสัดเป็นส่วนก่อนที่ผมจะมาหยุดตรงที่กรอบรูปบนโต๊ะทำงานของเธอ ผมเดินเข้ามาแล้วมองดูรูปของน้อยหน่า
"เพราะแบบนี้ไงพี่ถึงเป็นห่วงหน่ามากกว่าคนอื่น"ผมพูดกับรูปของน้อยหน่า มันเป็นรูปที่น้อยหน่านั่งร้องไห้ซึ่งผมไม่รู้ว่าตอนนั้นใครมันเป็นคนทำ แต่ถ้ามีใครมาทำอะไรน้อยหน่าตอนนี้ผมเองก็คงจะไม่ยอมแน่
หลังจากที่ผมสำรวจห้องของน้อยหน่าทุกซอกทุกมุมแล้วผมก็เดินเข้าห้องน้ำ และเจ้าของห้องป่านนี้ก็ยังไม่โผล่หัวมาเลยเถอะ ไม่รู้ว่าไปแวะเที่ยวที่ไหนอีก
ครืด ครืด
"อะไร"ผมถามไอ้โบ๊ทที่โทรหาผม
(มึงทำอะไรอยู่)
"กำลังจะอาบน้ำ มึงไปส่งหน่าหรือยัง"
(น้อยหน่ากลับเอง แม่กูโทรเรียกเนี่ย)
"กลับเองหรอ แล้วออกมานานหรือยัง"
(ตอนนกูออกมายังอยู่กับเพื่อน หรือไม่หน่าอาจจะค้างกับไอ้เจ้าก็ได้)
"อืม..แค่นี้"
ผมตัดสายเพื่อนตัวเองก่อนจะรีบอาบน้ำให้เสร็จ ไม่คิดจะโทรบอกผมเลยหรอวะ ผมแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมานอนที่โซฟาและตอนนี้มันเวลาเกือบตีหนึ่งแล้วแต่เจ้าของห้องยังมาไม่ถึงเลย
"ไม่โทร ไม่ส่งข้อความ ไม่อะไรเลยนะหน่า"ผมพูดพรางหยิบมือถือขึ้นมาดู
น้อยหน่า
"ตีหนึ่งแล้วพวกมึงกลับเถอะ กูอยู่ได้"จันทร์เจ้าบอกพวกฉันที่นอนอยู่กับมัน
"กูขี้เกียจแล้วอ่ะ กูนอนกับมึงแล้วกันนะ"โบว์รีบบอก
"แล้วมึงอ่ะคิด"ฉันหันมาถามคิตตี้
"พรุ่งนี้กูมีประชุมตอนเช้า และกูไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาค่ะ"ฉันพยักหน้ารับ
"พรุ่งนี้กูต้องเอางานไปให้ลูกค้าแต่เช้า เพราะฉะนั้นกูต้องกลับค่ะเพราะคอนโดกูใกล้กว่าของมึง"
ฉันบอกเพื่อนไป ใจก็เป็นห่วงเพื่อนนะแต่อย่างน้อยไอ้โบว์ก็ยังอยู่ด้วย ฉันกับคิตตี้รีบออกจากคอนโดของจันทร์เจ้า ตีหนึ่งแล้วหรอวะเนี่ยให้ตายเถอะ
"มึงขับรถดีๆ นะอีหน่า ตามึงไม่ค่อยดี"คิตตี้หันมาบอกฉัน
"เออ..มึงเองก็เหมือนกันแหละ พรุ่งนี้เจอกัน"
ฉันขับรถกลับคอนโดซึ่งตอนนี้รถไม่ติดเลยอ่ะ ฉันใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงในการขับที่จริงมันจะเร็วกว่านั้นถ้าฉันเอาแว่นมาด้วย นี่มาถึงคอนโดได้ไม่ขูดกับฟุตบาทก็บุญหัวแล้ว
"น้ำไม่ต้องอาบเพราะพรุ่งนี้กูก็อาบอยู่ดี"ฉันพูดกับตัวเองก่อนจะแตะคีย์การ์ดเข้าห้อง
แกร๊ก
"ไปไหนมาทำไมกลับเอาป่านนี้!!!"
ฉันสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี พี่คีย์มาห้องฉันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ฉันเปิดไฟก่อนจะเจอพี่คีย์นั่งอยู่ที่โซฟาแล้วกูจะได้นอนมั้ยล่ะเนี่ยคืนนี้
"พี่ถามว่าไปไหนมาหน่า"พี่คีย์ถามพรางจ้องหน้าฉันอย่างเอาเรื่อง
"อยู่กับไอ้เจ้าค่ะ ไม่ได้ไปไหน"ฉันรีบบอกไป
"ขับรถกลับมาเอง"พี่คีย์ถามฉันอีกรอบ
"ใช่ค่ะ รถไม่ติดเลย"
"น้อยหน่าพี่เคยบอกว่ายังไง ขับรถตอนกลางคืนมันตรายแล้วสายตาตัวเองก็ไม่ดีทำไมไม่ใส่แว่น"ทำไมวันนี้พี่คีย์น่ากลัวจังเลยวะ ไปกินรังแตนที่ไหนมา
"หน่าลืม แต่หน่าก็กลับมาอย่างปลอดภัยนะคะ หน่าง่วงแล้วขอตัวไปนอนนะ ฝันดีค่ะ"
ฉันรีบพูดแล้ววิ่งเข้าห้องทันที ก็ตอนแรกพี่โบ๊ทบอกจะมาส่งแต่พอพี่โบ๊ทมีธุระฉันก็เลยต้องขับเองไง ฉันทิ้งตัวลงที่เตียงทันทีก่อนจะหยิบหนังสือที่ฉันซื้อขึ้นมาดู
"มองแต่พระจันทร์ทำไมไม่มองดาวที่อยู่ข้างพระจันทร์บ้างล่ะ"ฉันพูดกับตัวเองก่อนจะทิ้งหนังสือลงถังขยะเพราะเรื่องราวข้างในมันไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิด
.
.
"หนึ่งชั่วโมงกับอีกสามสิบนาทีที่ฉันได้นอน และตอนนี้ฉันก็มายืนหาวอยู่ในห้องน้ำ ให้ตายเถอะถ้าจะได้นอนแค่นี้ไม่ต้องนอนก็ได้มั้ง หลังจากที่ฉันยืนหาวและยืนบ่นอยู่ในห้องน้ำสุดท้ายแล้วยังไงกูต้องไปทำงานอยู่ดีค่ะ
"บางคนก็สบายเกินไป"ฉันพูดลอยๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องครัว
"จะให้พี่เลี้ยงมั้ยล่ะ จะได้สบายเหมือนกัน"พี่คีย์พูดพรางเดินตามฉันเข้ามาในครัว
"ไปเลี้ยงสาวของพี่คีย์เถอะค่ะ หน่าชอบนั่งทำงานไม่ชอบนอนทำ"ฉันบอกไป
"มองหน้าพี่มีอะไรจะถามมากกว่านี้มั้ย"พี่คีย์รู้ได้ยังไงว่าฉันมีอะไรจะถาม
"ทำไมต้องเป็นจันทร์เจ้าเพื่อนหน่าด้วยคะ"ฉันตัดสินใจถามออกไป
ไม่ใช่ว่าฉันจะขัดขวางหรืออะไรหรอกนะ เพียงแค่ฉันไม่เข้าใจไงว่าทำไมต้องเป็นเพื่อนฉันทั้งที่พี่คีย์ก็มีผู้หญิงตั้งมากมาย
"ความรู้สึกมันห้ามกันได้หรือไงหันล่ะ"นั่นสินะมันห้ามกันได้ที่ไหนความรู้สึกของคนเราน่ะ
"ทำไมไม่เป็นคนอื่นล่ะคะ"ฉันถามอีกครั้ง
"แล้วหน่าจะให้เป็นใคร"พี่คีย์ถามเสียงดุ
"ถ้าหน่ารู้หน่าจะมานั่งถามพี่คีย์ทำไม"ฉันรีบบอกไป
หลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง และมันก็เงียบอยู่อย่างนั้นจนพี่คีย์เดินกลับไปนั่งที่โซฟา จนกระทั่งพี่คีย์หันกลับมาหาฉัน....
"หรือหน่าจะให้พี่รักหน่าแทน"
สองปีผ่านไปน้อยหน่า"มีอะไรให้ช่วยอีกมั้ยมึง"จันทร์เจ้าเดินเข้ามาถามฉันวันนี้เป็นวันเกิดของพี่คีย์และฉันเองก็จัดงานวันเกิดเล็กๆ ให้ที่บ้าน พี่คีย์เองก็ยังไม่รู้หรอกว่าฉันจัดงานให้ เรื่องของฉันกับพี่คีย์ก็ยังคงเหมือนเดิมเรายังเป็นพ่อและแม่ของคีตะ ตอนแรกฉันไปๆ มาๆ ระหว่างกรุงเทพและแม่ฮ่องสอนแต่เพราะพี่คีย์สงสารลูกที่ต้องเดินทางบ่อยเขาก็เลยขอให้ฉันมาอยู่ที่กรุงเทพถ้าจะกลับก็ต้องเป็นวันหยุดยาว"ใจอ่อนได้แล้วมั้งหน่า"พี่ขุนพลเดินมาก่อนจะพูดเสียงดุ"หน่าใจอ่อนตั้งนานแล้วค่ะ"ฉันบอกไป"คีตะไปไหนหน่า เจ้าขาถามหาน่ะ"จันทร์เจ้าถามฉัน"ไปทำงานกับพี่คีย์"คีตะกลายเป็นเด็กติดพ่อ ทุกวันตื่นมาจะต้องอ้อนขอไปทำงานด้วยตลอด และนิสัยเอาแต่ใจก็ยังแก้ไม่หายยิ่งพี่คีย์ไม่เคยดุลูกเลยมันยิ่งทำให้คีตะได้ใจ พี่คีย์เปลี่ยนไปมากจริงๆ นะ จากคนที่ไม่เคยเลี้ยงเด็กแต่พี่คีย์ใช้เวลาในการทำความเข้าใจไม่นานเลยพี่คีย์พาคีตะไปทำงานเพราะวันนี้ไม่มีประชุมฉันก็เลยยอม ตั้งแต่มีพี่คีย์ช่วงเลี้ยงลูกฉันสบายขึ้นเยอะเลยบางวันฉันแทบจะไม่ได้คุยกับลูกด้วยซ้ำ และคำพูดของพี่คีย์ที่เคยบอกฉันวันนี้พี่คีย์ทำมันได้หมดทุกอย่าง"ขอบคุณนะคะ
น้อยหน่าตอนนี้ฉันกำลังนั่งมองลูกชายตัวเองที่แสดงอาการไม่พอใจใส่ฉัน เมื่อเช้าพี่คีย์ไปประชุมแต่เช้าและลูกชายของฉันดันตื่นสาย พอตื่นมาไม่เจอหน้าพ่อเท่านั้นแหละ"กินข้าวมั้ยครับ"ฉันถามลูก"ป๊าไหน""คีตะครับฟังแม่นะ ป่ะป๊าของหนูไปทำงานเดี๋ยวตอนเย็นก็กลับมาเล่นกับหนูแล้ว ฟังแม่อยู่มั้ย"นอกจากจะไม่ได้ฟังที่ฉันพูดแล้วคีตะยังไม่มองหน้าของฉันอีก ฉันมองลูกชายตัวเองที่เดินเข้ามุมแล้วนั่งกอดอกปรายตามองคนเป็นแม่อย่างฉัน"เดี๋ยวปู่พาไปหาป๊าดีมั้ยลูก แต่ต้องไปกินข้าวก่อนนะครับ"ฉันมองพ่อของพี่คีย์ที่เดินเข้ามาในห้องฉันไม่ได้อยากพาลูกไปที่บริษัทเพราะฉันไม่อยากไปรบกวนพี่คีย์ตอนทำงาน เมื่อเช้าก็กว่าจะออกจากบ้านได้ก็ลีลาอยู่นานสุดท้ายฉันก็ต้องแพ้ทางลูกชายสุดที่รักของตัวเอง คุณปู่ของคีตะขับรถมาส่งที่บริษัท ส่วนเรื่องที่ฉันคุยกับพี่คีย์เมื่อวานฉันเองคิดไม่ถึงว่าพี่คีย์จะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ และที่เหลือฉันเองก็คงต้องปล่อยให้เวลามันตัดสิน"ขอบคุณนะคะ"ฉันพาคีตะเดินเข้าบริษัทซึ่งแน่นอนพนักงานต่างพากันมองแล้วซุบซิบกันใหญ่ และนี่เป็นเหตุผลที่ฉันไม่อยากมาฉันไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าฉันเอาลูกมาอ้างทั้งที่จริงมันไ
น้อยหน่า"นะ..หน่าจริงๆ ใช่มั้ย"พี่คีย์พูดพลางเดินเข้ามาหาฉัน คำพูดและแววตาของเขามันสั่นจนฉันรู้สึกได้ ฉันกลับมากรุงเทพได้สองวันแล้วล่ะ ใช่ค่ะฉันได้ลูกชายและฉันเป็นคนตั้งชื่อให้เขาเอง"สบายดีนะคะ"ฉันถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน"ขอพี่กอดได้มั้ยหน่า"ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไปฉันเพียงแค่ยิ้มให้พี่คีย์พี่คีย์เดินเข้ามากอดฉันแน่น ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันได้อยู่กับตัวเองมากขึ้นหลายอย่างมันทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดตัวเองใหม่ ฉันว่าฉันโตขึ้นเยอะเลยนะตั้งแต่มีลูกฉันใจเย็นขึ้นมาก"ฮึก พี่ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ"พี่คีย์พูดเสียงสั่นและน้ำตาของเขามันหยดลงเสื้อฉันจนเปียก"เรื่องมันผ่านมาแล้ว หน่ายกโทษให้พี่คีย์ค่ะ"ฉันผละกอดออกแล้วยิ้มให้"ลูกของเราใช่มั้ยหน่าเขาคือลูกของเรา"พี่คีย์ชี้ไปที่คีตะที่นั่งยิ้มอยู่"ชื่อคีตะค่ะ"ฉันบอกไปพี่คีย์เปลี่ยนไปเยอะค่ะทั้งคำพูดและการกระทำ ที่ผ่านมาฉันก็พอจะรู้เรื่องของพี่คีย์อยู่บ้าง ฉันว่าสิ่งที่ฉันทำมันคุ้มค่านะอย่างน้อยพี่คีย์ก็เปลี่ยนตัวเองได้จริงๆ มันก็ดีกับตัวพี่คีย์เอง"แปลกใจใช่มั้ยคะว่าทำไมคีตะถึงไม่กลัวพี่คีย์"ฉันถามคนที่ยืนมองลูกอยู่ฉันไม่เคยปิดบังเรื่องพี่คีย์กับลูกเ
สามปีผ่านไปคีย์"เจ้าขานั่งรอลุงคีย์อยู่ตรงนี้นะครับ""ค่ะ"ผมพูดกับหลานรักของตัวเอง วันนี้ผมพาเจ้าขามาทำงานที่บริษัทด้วย ส่วนเรื่องของน้อยหน่านี่มันก็ผ่านมาตั้งสามปีแล้วที่ผมไม่เจอแม้แต่เงาของเมียตัวเอง ตอนนี้สิ่งที่ผมทำได้คือแค่ให้ความหวังตัวเองอยู่ทุกวันเผื่อว่าวันนึงน้อยหน่าจะพาลูกกลับมาหาผม และถ้ามันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงผมก็ยินดีที่จะรับมันขอแค่ได้เจอพวกเขาอีกครั้ง"พี่ดีใจนะคะที่เห็นคุณคีย์เปลี่ยนแปลงตัวเองได้"พี่เบญเดินเข้ามาก่อนจะยิ้มให้ผม"ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้พี่เบญต้องลำบากไปด้วย""สู้มาขนาดนี้แล้วก็ต้องสู้ให้สุดนะคะอีกหนึ่งกำลังใจจากพี่"ถ้าวันนี้ผมยังมีน้อยหน่าอยู่ข้างกายผมจะมีความสุขที่สุด สามปีที่ผ่านมาไม่เคยมีสักวันที่ผมจะนอนหลับแบบเต็มตา ภาพของน้อยหน่าที่ร้องไห้มันยังตามผมทุกครั้งที่ผมหลับตา"ลูกผมคงจะเดินได้แล้วเนาะพี่เบญ"ผมถามพี่เบญเสียงสั่น"เลี้ยงเจ้าขาไปก่อนเนาะ"พี่เบญรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีผมหันมากอดเจ้าขาที่นั่งอยู่ข้างผม ตอนนี้เจ้าขาสามขวบแล้วลูกของผมก็คงห่างจากเจ้าขาไม่มาก"พี่ต้องทำยังไงหน่าถึงจะใจอ่อนพาลูกกลับมาหาพี่ พี่เปลี่ยนตัวเองแล้วนะหน่าเปลี่ยนไปแล้วจ
น้อยหน่า"แม่บอกว่าให้อยู่เฉยๆ ไงลูก"ฉันสะดุ้งกับเสียงดุจนต้องรีบวางของที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะก่อนจะค่อยๆ หันกลับไปมองผู้หญิงที่เดินเข้ามาหาฉัน ที่ผ่านมามีเรื่องเกิดขึ้นกับฉันมากมาย แต่ตอนนี้ฉันมีความสุขและสบายดีกับสิ่งที่เป็นอยู่ มันก็อาจจะมีคิดถึงบ้างแต่ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันโตขึ้นอีกก้าว"ทำไมดื้อแบบนี้ล่ะลูก ยิ่งท้องอยู่ด้วยนะ"เสียงของผู้หญิงวัยกลางคนที่กำลังดุฉันอยู่ก็คือคุณแม่ของพี่คีย์ วันนั้นท่านตั้งใจไปเจอฉันที่สนามบิน ท่านรู้เรื่องของฉันกับพี่คีย์ทุกอย่าง"หน่าแค่อยากช่วยค่ะอยู่ว่างๆ หน่าเบื่อ"ฉันรีบบอกไปฉันไม่ได้ไปเชียงใหม่เพราะคุณแม่ของพี่คีย์ขอให้ฉันมาอยู่ที่แม่ฮ่องสอนกับท่าน ตอนแรกฉันกลัวว่าท่านจะบอกพี่คีย์ว่าเจอฉัน แต่ท่านบอกฉันว่าท่านอยากดัดนิสัยของพี่คีย์และท่านเองก็ยอมรับในการตัดสินใจของฉัน ที่นี่เป็นสวนดอกไม้มันเป็นธุรกิจของแม่พี่คีย์ที่ทำมานานมากแล้วและฉันเองก็ชอบที่นี่มากด้วย"ไว้ใจแม่หรือยังลูก"ท่านถามก่อนจะยิ้มให้ฉันฉันยอมรับว่าแรกๆ ที่เข้ามาอยู่ฉันไม่ไว้ใจใครเลยสักคน ฉันกลัวว่าพี่คีย์จะรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่แต่พอมาวันนี้ท่านพิสูจน์ให้ฉันเห็นแล้วว่าฉันไว
คีย์แล้วผมจะทำยังไงต่อไปดี ผมทำร้ายคนที่ผมรักมาตลอดและสิ่งที่ผมเจอมันไม่ได้เหมือนกับที่ผมคิดไว้ สุดท้ายคนที่แพ้ก็คือตัวผมเอง ผมดูถูกความรักของน้อยหน่าผมเอาทุกอย่างไปทิ้งด้วยมือของผมเอง"ลูกกับเมียกูล่ะพล ฮึก"ผมถามเพื่อนตัวเอง"ทำไมมึงถึงพึ่งมาเรียกร้องวะคีย์ มึงมีโอกาสตั้งกี่ครั้งมึงก็ไม่ทำ น้อยหน่าให้โอกาสมึงมาตลอดแต่มึงก็เลือกที่จะทำผิดซ้ำซาก กูจะบอกให้นะมันไม่มีผู้หญิงคนไหนรับได้หรอกนะที่จะใช้คนรักร่วมกับคนอื่น ใจน้อยหน่ามีแค่นี้เองคีย์ทำไมมึงไม่รู้จักดูแลรักษา มึงปล่อยให้คนของมึงมาก้าวก่ายน้องกูตั้งกี่ครั้ง มึงเคยรู้บ้างมั้ยมึงสนุกแต่น้องกูนั่งร้องไห้"ไอ้ขุนพลพูดขึ้นและน้ำเสียงของมันกำลังไม่พอใจผมอยู่ผมรู้ ผมนิ่งไปกับคำพูดของเพื่อนรักตัวเองเรื่องที่มันบอกผมไม่เคยรับรู้ด้วยซ้ำ"โถ่ว...โว้ย!!! ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้""ก็เพราะตัวมึงเองทั้งนั้นมึงไม่ต้องโทษใครเลยคีย์"เพื่อนผมพูดถูกทุกอย่างผมคิดว่ายังไงน้อยหน่าก็ยังรักผมและเธอไม่มีทางจะทิ้งผมไปไหน แต่ตอนนี้แม้แต่คำขอโทษที่ผมอยากจะพูดผมยังไม่มีโอกาสเลย"ไอ้หน่ามันรักพี่คีย์มากแค่ไหนพี่คีย์เคยรับรู้บ้างมั้ย ไม่ว่าพี่คีย์จะเลวจะชั่วจะนอ