ก็ยังรักอยู่แต่ถ้าจะให้กลับไปก็คงไม่กลับ นี่คนไม่ใช่ควาย
View Moreน้อยหน่า
"ไปผับกันค่ะ กูหิวผู้ชายแล้ว"
ฉันค่อยๆ หันไปมองเพื่อนรักอย่างสมคิดที่ทำท่าสะดีดสะดิ้งอยู่ และสิ้งแรกที่ฉันต้องทำคือฉันขอแนะนำตัวเองก่อนถูกมั้ย ฉันชื่อน้อยหน่าค่ะ อายุ 22 ปี ตอนนี้กำลังฝึกงานอยู่ที่บริษัทนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ฉันฝึกงานอยู่แผนกจัดซื้อ ส่วนนิสัย ฉันเป็นคนนิ่งๆ แต่พูดเยอะค่ะ เว้นแต่ถ้ามีใครทำให้ไม่พอใจ
"เบาได้เบาเพื่อนรัก"ฉันรีบบอกเพื่อนตัวเอง
"มึงเบาเนาะอีเวร"
ฉันโสดนะคะเผื่อใครยังไม่รู้ ก็มีคนคุยบ้างแต่ยังไม่ถูกใจใครเลย และฉันเองก็ยังไม่อยากมีใครด้วยแหละ อยากอยู่แบบนี้ไปก่อน อยากไปเที่ยวไหนก็ไปอยากจะเมาจนเดินไม่ไหวก็ไม่ต้องมีคนคอยบ่น ฉันว่ามันสบายใจดีออก
"ไปค่ะกูคิดถึงผัวกูแล้ว"คิตตี้พูดพรางทำท่าเขิน
"บอสหรอคะ"โบว์ถามจนฉันอดยิ้มไม่ได้
"บอสพ่อมึงสิอีโบว์ กูหมายถึงพี่โบ๊ทกับพี่คีย์ต่างหาก"
พวกฉันสนิทกับเพื่อนของบอสหรือเจ้าของบริษัทที่ฉันฝึกงานอยู่นี่แหละ สนิทแบบเร็วมากอ่ะและผับที่เราไปก็เป็นผับของพี่โบ๊ทเพื่อนรักของบอสนั่นเอง เหล้าฟรีคือฟรีทุกอย่างอ่ะและไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเลยด้วย เพราะถ้าเมาจนกลับไม่ไหวก็นอนห้องพักข้างบนแค่นั้นเอง
และวันนี้วันศุกร์คือมันเป็นวันปล่อยผีของพวกฉันหลังจากที่ทำงานกันอย่างเต็มที่ไง เรื่องเที่ยวฉันกับเพื่อนก็สู้ตายค่ะและอย่าได้ถามเรื่องกินเหล้าเพราะพวกฉันกินแทนน้ำเปล่าไปแล้ว
"ไปกันเถอะกูขี้เกียจฟังมันเพ้อเจ้อ"จันทร์เจ้าเพื่อนรักของฉันรีบพูดประชด
"วันนี้แต่งตัวเบานะคะคุณน้อยหน่า"โบว์เอ่ยแซวเมื่อเห็นชุดที่ฉันใส่
ถ้าถามว่าฉันแซ่บมั้ย หึ...คูณร้อยค่ะ แต่ที่ฉันแต่งตัวง่ายๆ เพราะวันนี้จะมีคนขี้บ่นมาที่ผับไง
"พ่อมึงมาไงคะ มึงน่ะเตรียมสำลีอุดหูไว้เถอะอีโบว์"ฉันบอกเพื่อนไป
ผับ
พวกฉันใช้เวลาขับรถไม่นานก็มาถึงผับ ตอนนี้แค่ทุ่มครึ่งคนก็เริ่มเยอะแล้ว และพวกฉันเลือกที่จะเข้าทางด้านหน้าเพราะพวกฉันมาเช็คความฮอตของตัวเองก่อน
"คนนั้นกูจองนะ"โบว์ชี้ไปที่โต๊ะของผู้ชายที่ยกแก้วให้พวกฉัน
"จองกับตีนกูนี่ เขามองกูต่างหาก"คิตตี้รีบพูดแทรก
"คนเริ่มเยอะแล้ว รีบขึ้นไปเถอะ"จันทร์เจ้าผลักหลังฉันให้เดินขึ้นบันไดไป
พวกฉันไม่ค่อยได้ลงมาข้างล่างเท่าไหร่หรอก ส่วนมากจะกินเหล้าอยู่ที่ห้องของพี่โบ๊ทมากกว่า แต่ถ้าจะลงมาก็ต้องขอก่อนไม่งั้นจะไม่มีครั้งต่อไป
"บอสมาถึงเร็วจังคะ"ฉันเอ่ยถามบอสที่นั่งหน้านิ่งอยู่ คือจะนิ่งไปไหนก็ไม่รู้บอสฉันเนี่ย
"พวกคุณไม่เร็วเลย"ฉันยิ้มแห้งๆ ให้บอสก่อนจะเดินมานั่งที่โต๊ะของตัวเอง คือไม่น่าถามให้โดนย้อนเลยกู
"ไอ้คิตตี้ผ่าน ไอ้เจ้าผ่าน ไอ้หน่าผ่าน แต่ไอ้โบว์ไม่ผ่าน"
พวกฉันรีบหันไปตามเสียงของผู้ชายที่ยืนดุอยู่หน้าประตู ฉันบอกแล้วไงว่ามันจะมีคนบ่น ฉันรีบหันไปยกยิ้มใส่ไอ้โบว์ที่นั่งไขว่ห้างไม่สนใจคำพูดของพี่โบ๊ท นี่ถ้ามันใส่ชุดวันเกิดมาได้มันก็คงจะใส่มาแล้ว
"ไม่ถอดมาเลยวะแต่งขนาดนี้"พี่โบ๊ทบ่นแล้วผลักหัวไอ้โบว์จนเซ
"ได้หรอคะ ถอดได้หรอเนี่ย"หึ...แล้วเพื่อนฉันมันยอมที่ไหนล่ะ
"นี่แค่หนึ่งนะคะ ถ้าสองมาเมื่อไหร่กูว่าอีโบว์ได้เผาแบบไม่ต้องสวดแน่ๆ"คิตตี้กระซิบบอกฉัน
ฉันยิ้มให้เพื่อนก่อนจะเดินมาหาพี่โบ๊ทที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ คือถามว่ากลัวมั้ยฉันไม่ได้กลัวพี่โบ๊ทหรอก เพราะพี่โบ๊ทง้อง่ายจะตาย
"พี่โบ๊ทไปไหนมา"ฉันถามพี่โบ๊ทแล้วยิ้มให้
"พี่ขอร้องเลยนะหน่า อย่าได้แต่งตัวด้วยเศษผ้าแบบนั้นอ่ะ"พี่โบ๊ทพูดพรางชี้ไปที่โบว์
"สวยจะตาย หน่าไม่เห็นว่ามันจะเสียหายตรงไหนเลยเถอะ"ฉันบอกไปเพราะการแต่งตัวของฉันมันก็ไม่ได้ต่างจากโบว์เพื่อนรักของฉันหรอก และอีกอย่างมาเที่ยวผับนะคะไม่ได้มาทำกับข้าวขาย มีของมันก็ต้องโชว์
"แล้วทำไมไม่แต่งล่ะวันนี้"พี่โบ๊ทถามฉันเสียงดุ
"พ่อมาไงคะวันนี้ หน่าขี้เกียจฟัง"ฉันรีบบอกไป
"ทีกับพี่ไม่เห็นกลัวเลยเถอะ"เพราะพี่โบ๊ทเป็นพวกปากร้ายใจดีไงถึงไม่มีใครกลัวแต่กับอีกคนมันไม่ใช่
ตุ้บ!!
"โว้ย!!!! อะไรวะใครมันโยน"ฉันรีบหันไปมองเมื่อเห็นหมอนลอยไปโดนหน้าของเพื่อนรัก
"กูโยนเอง ทำไมวะ"เสียงดุของคนที่มาใหม่ถามกลับโบว์
"นี่น้องไง ทำไมทำกับน้องแบบนี้ล่ะคะ"ฉันส่ายหัวเมื่อเห็นไอ้โบว์พูดเสียงสอง
"ไม่ต้องมองหน่าเลยค่ะ หน่าเตรียมตัวมาดี"
ฉันรีบบอกเมื่อเห็นสายตาดุของพี่คีย์มองมาที่ฉัน พี่คีย์เป็นคนที่ดุแล้วเพื่อนฉันทุกคนกลัวอ่ะ ฉันเองเคยโดนดุจนร้องไห้เลยนะเว้ย ยิ่งกว่าพ่ออีกพี่เขาน่ะ
"เจ้าไม่เคยทำให้พี่คีย์ผิดหวังเลยนะคะ"จันทร์เจ้ารีบพูดตัดบททันทีจนพี่คีย์ที่เดินมายีผมของจันทร์เจ้า
"มันยุ่งหมดแล้วเนี่ย"
"เมาหรือยัง"ฉันสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของพี่คีย์ คือกูกำลังจะยกแก้วเหล้าเข้าปากไงเรื่องของเรื่อง
"กินเหล้าถ้ากินแล้วไม่เมาจะกินทำไมคะ"จันทร์เจ้ารีบตอบแทนฉัน แต่สายตาของพี่คีย์กำลังอยากให้ฉันตอบไง
"ยังไม่เมาค่ะนี่แค่แก้วแรกเอง หน่ารู้แล้วว่าห้ามเมา"ฉันบอกไป
ที่ฉันบอกว่าฉันเคยโดนพี่คีย์ดุก็เพราะเรื่องกินเหล้านี่แหละ คือกูกินเหมือนอาบไงตอนนั้น แล้วก็อวดเก่งขับรถกลับคอนโดเองจนขับไปชนเสาไฟข้างทางดีนะไม่ตาย
"มึงก็ดุเกินไปมั้ยคีย์"ฉันรีบยกนิ้วให้พี่โบ๊ททันทีเลย
หลังจากนั้นพวกฉันก็นั่งกินเหล้าฟังเพลงกันตามปกติ ส่วนพี่โบ๊ทพี่คีย์แล้วก็บอสก็นั่งอยู่อีกฝั่ง วันนี้ฉันไม่ลงไปข้างล่างเพราะคนมันเยอะเกินฉันก็เลยนั่งอยู่กับจันทร์เจ้าปล่อยให้ไอ้โบว์กับคิตตี้มันลงไปสนุก
"ไม่ลงจริงง่ะ"จันทร์เจ้ากระซิบถามฉัน
"คนเยอะเกิน ไม่อยากโดนเบียด"ฉันบอกเพื่อนไป
"กูว่าอีกสิบนาทีคนของพี่โบ๊ทได้ลากมันขึ้นมาแน่"ฉันมองลงไปด้านล่าง ไม่ถึงสิบนาทีหรอกเพราะตอนนี้พี่โบ๊ทลงไปเองเลย เพราะอะไรน่ะหรอ เพราะไอ้โบว์แม่งขึ้นไปเต้นบนโต๊ะแล้วนั่น
"ลากไอ้สองตัวนั่นขึ้นมาโว้ยยย!!!!"พี่โบ๊ทสั่งลูกน้องตัวเอง
"ง่วงก็กลับ"ฉันสองคนหันไปมองเสียงดุที่อยู่โต๊ะอีกฝั่ง
"บอสจะกลับแล้วหรอคะ ขับรถดีๆนะคะ"ฉันถามบอสที่ลุกขึ้น
"พวกคุณเองก็ควรจะกลับได้แล้ว ถึงพรุ่งนี้จะเป็นวันหยุดก็ตามเถอะ"บอสพูดเสียงดุจนฉันสองคนทำตัวไม่ถูก
"มึงกลับเถอะเดี๋ยวกูดูเอง"พี่คีย์รีบบอกบอสไป
หลังจากที่บอสกลับตอนนี้ก็เหลือแค่ฉันกับจันทร์เจ้าและพี่คีย์ที่นั่งอยู่ในห้อง พี่คีย์เป็นคนหล่อนะสำหรับฉัน ผู้ชายที่อายุจะเข้าสามสิบฉันว่ามันกำลังดีเลยนะ
"กูไปเข้าห้องน้ำนะ"
"ดึกแล้วนะไม่กลับหรอ"
ฉันแหงนหน้ามองคนที่ยืนค้ำหัวฉันอยู่ ให้ตายเถอะปกติก็ดุจนน่ากลัวอยู่แล้วถึงจะสนิทกันก็ตามเถอะ ฉันยิ้มให้พี่คีย์ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองจันทร์เจ้าที่เดินไปเข้าห้องน้ำ
"พี่ถามก็ตอบดิน้อยหน่า"
"หน่ารอกลับพร้อมเพื่อนค่ะ หน่าไม่ได้เอารถตัวเองมา"ฉันรีบบอกไปเพราะวันนี้พวกฉันมารถคันเดียว
"ง่วงมั้ยพี่จะไปส่ง ไม่ต้องรอแล้วมั้งไอ้โบว์กับคิตตี้น่ะ"พี่คีย์พูดเสียงดุ
"กูว่าเรากลับก่อนพวกมันเถอะ เพราะดูท่าแล้วมันนอนผับแหละ"จันทร์เจ้าที่เดินเข้ามาบอกฉัน
"เดี๋ยวพี่ไปส่งเจ้าก่อนแล้วกัน"
หลังจากนั้นฉันกับจันทร์เจ้าก็เดินตามพี่คีย์มาที่ลานจอดรถ ตีสองไม่ง่วงก็แปลกนี่ถ้าวันนี้พี่คีย์ไม่มาฉันคงเป็นอีกคนที่ขึ้นไปเต้นกับไอ้โบว์
"ส่งเจ้าตรงนี้แหละ พี่คีย์รีบไปส่งไอ้หน่าเถอะค่ะมันดึกแล้ว"จันทร์เจ้าบอกคนที่ขับรถอยู่
"รีบเข้าคอนโดเลย เข้าห้องแล้วไลน์บอกพี่ด้วย"
หลังจากที่จันทร์เจ้าเข้าคอนโดไป ตอนนี้ก็เหลือแค่ไปส่งฉันให้ตายเถอะทำไมฉันต้องนั่งเกร็งด้วยวะ แถมพี่คีย์ก็เงียบเหมือนไปโกรธใครมาอีก
"ถ้าพี่ไม่มาผับวันนี้ คนที่เต้นบนโต๊ะก็คงเป็นหน่าด้วยสินะ"กูว่าแล้วไงล่ะ
"อย่าบ่นหน่าสิคะ"ฉันพูดเสียงเบาคือรู้ทันกูไปอีก
"ก็เป็นห่วงถึงบ่น ไม่ต้องมามองพี่แบบนี้เลยนะ"เอ้า...กูโดนอีกแล้วอ่ะ
"พี่คีย์แค่มาส่งหน่าแล้วจะกลับไปด่าไอ้โบว์ต่อใช่มั้ยคะ"ฉันรีบเปลี่ยนเรื่อง
"หรือจะให้พี่ทำอะไรกับหน่าต่อล่ะ"
สองปีผ่านไปน้อยหน่า"มีอะไรให้ช่วยอีกมั้ยมึง"จันทร์เจ้าเดินเข้ามาถามฉันวันนี้เป็นวันเกิดของพี่คีย์และฉันเองก็จัดงานวันเกิดเล็กๆ ให้ที่บ้าน พี่คีย์เองก็ยังไม่รู้หรอกว่าฉันจัดงานให้ เรื่องของฉันกับพี่คีย์ก็ยังคงเหมือนเดิมเรายังเป็นพ่อและแม่ของคีตะ ตอนแรกฉันไปๆ มาๆ ระหว่างกรุงเทพและแม่ฮ่องสอนแต่เพราะพี่คีย์สงสารลูกที่ต้องเดินทางบ่อยเขาก็เลยขอให้ฉันมาอยู่ที่กรุงเทพถ้าจะกลับก็ต้องเป็นวันหยุดยาว"ใจอ่อนได้แล้วมั้งหน่า"พี่ขุนพลเดินมาก่อนจะพูดเสียงดุ"หน่าใจอ่อนตั้งนานแล้วค่ะ"ฉันบอกไป"คีตะไปไหนหน่า เจ้าขาถามหาน่ะ"จันทร์เจ้าถามฉัน"ไปทำงานกับพี่คีย์"คีตะกลายเป็นเด็กติดพ่อ ทุกวันตื่นมาจะต้องอ้อนขอไปทำงานด้วยตลอด และนิสัยเอาแต่ใจก็ยังแก้ไม่หายยิ่งพี่คีย์ไม่เคยดุลูกเลยมันยิ่งทำให้คีตะได้ใจ พี่คีย์เปลี่ยนไปมากจริงๆ นะ จากคนที่ไม่เคยเลี้ยงเด็กแต่พี่คีย์ใช้เวลาในการทำความเข้าใจไม่นานเลยพี่คีย์พาคีตะไปทำงานเพราะวันนี้ไม่มีประชุมฉันก็เลยยอม ตั้งแต่มีพี่คีย์ช่วงเลี้ยงลูกฉันสบายขึ้นเยอะเลยบางวันฉันแทบจะไม่ได้คุยกับลูกด้วยซ้ำ และคำพูดของพี่คีย์ที่เคยบอกฉันวันนี้พี่คีย์ทำมันได้หมดทุกอย่าง"ขอบคุณนะคะ
น้อยหน่าตอนนี้ฉันกำลังนั่งมองลูกชายตัวเองที่แสดงอาการไม่พอใจใส่ฉัน เมื่อเช้าพี่คีย์ไปประชุมแต่เช้าและลูกชายของฉันดันตื่นสาย พอตื่นมาไม่เจอหน้าพ่อเท่านั้นแหละ"กินข้าวมั้ยครับ"ฉันถามลูก"ป๊าไหน""คีตะครับฟังแม่นะ ป่ะป๊าของหนูไปทำงานเดี๋ยวตอนเย็นก็กลับมาเล่นกับหนูแล้ว ฟังแม่อยู่มั้ย"นอกจากจะไม่ได้ฟังที่ฉันพูดแล้วคีตะยังไม่มองหน้าของฉันอีก ฉันมองลูกชายตัวเองที่เดินเข้ามุมแล้วนั่งกอดอกปรายตามองคนเป็นแม่อย่างฉัน"เดี๋ยวปู่พาไปหาป๊าดีมั้ยลูก แต่ต้องไปกินข้าวก่อนนะครับ"ฉันมองพ่อของพี่คีย์ที่เดินเข้ามาในห้องฉันไม่ได้อยากพาลูกไปที่บริษัทเพราะฉันไม่อยากไปรบกวนพี่คีย์ตอนทำงาน เมื่อเช้าก็กว่าจะออกจากบ้านได้ก็ลีลาอยู่นานสุดท้ายฉันก็ต้องแพ้ทางลูกชายสุดที่รักของตัวเอง คุณปู่ของคีตะขับรถมาส่งที่บริษัท ส่วนเรื่องที่ฉันคุยกับพี่คีย์เมื่อวานฉันเองคิดไม่ถึงว่าพี่คีย์จะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ และที่เหลือฉันเองก็คงต้องปล่อยให้เวลามันตัดสิน"ขอบคุณนะคะ"ฉันพาคีตะเดินเข้าบริษัทซึ่งแน่นอนพนักงานต่างพากันมองแล้วซุบซิบกันใหญ่ และนี่เป็นเหตุผลที่ฉันไม่อยากมาฉันไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าฉันเอาลูกมาอ้างทั้งที่จริงมันไ
น้อยหน่า"นะ..หน่าจริงๆ ใช่มั้ย"พี่คีย์พูดพลางเดินเข้ามาหาฉัน คำพูดและแววตาของเขามันสั่นจนฉันรู้สึกได้ ฉันกลับมากรุงเทพได้สองวันแล้วล่ะ ใช่ค่ะฉันได้ลูกชายและฉันเป็นคนตั้งชื่อให้เขาเอง"สบายดีนะคะ"ฉันถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน"ขอพี่กอดได้มั้ยหน่า"ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไปฉันเพียงแค่ยิ้มให้พี่คีย์พี่คีย์เดินเข้ามากอดฉันแน่น ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันได้อยู่กับตัวเองมากขึ้นหลายอย่างมันทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดตัวเองใหม่ ฉันว่าฉันโตขึ้นเยอะเลยนะตั้งแต่มีลูกฉันใจเย็นขึ้นมาก"ฮึก พี่ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ"พี่คีย์พูดเสียงสั่นและน้ำตาของเขามันหยดลงเสื้อฉันจนเปียก"เรื่องมันผ่านมาแล้ว หน่ายกโทษให้พี่คีย์ค่ะ"ฉันผละกอดออกแล้วยิ้มให้"ลูกของเราใช่มั้ยหน่าเขาคือลูกของเรา"พี่คีย์ชี้ไปที่คีตะที่นั่งยิ้มอยู่"ชื่อคีตะค่ะ"ฉันบอกไปพี่คีย์เปลี่ยนไปเยอะค่ะทั้งคำพูดและการกระทำ ที่ผ่านมาฉันก็พอจะรู้เรื่องของพี่คีย์อยู่บ้าง ฉันว่าสิ่งที่ฉันทำมันคุ้มค่านะอย่างน้อยพี่คีย์ก็เปลี่ยนตัวเองได้จริงๆ มันก็ดีกับตัวพี่คีย์เอง"แปลกใจใช่มั้ยคะว่าทำไมคีตะถึงไม่กลัวพี่คีย์"ฉันถามคนที่ยืนมองลูกอยู่ฉันไม่เคยปิดบังเรื่องพี่คีย์กับลูกเ
สามปีผ่านไปคีย์"เจ้าขานั่งรอลุงคีย์อยู่ตรงนี้นะครับ""ค่ะ"ผมพูดกับหลานรักของตัวเอง วันนี้ผมพาเจ้าขามาทำงานที่บริษัทด้วย ส่วนเรื่องของน้อยหน่านี่มันก็ผ่านมาตั้งสามปีแล้วที่ผมไม่เจอแม้แต่เงาของเมียตัวเอง ตอนนี้สิ่งที่ผมทำได้คือแค่ให้ความหวังตัวเองอยู่ทุกวันเผื่อว่าวันนึงน้อยหน่าจะพาลูกกลับมาหาผม และถ้ามันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงผมก็ยินดีที่จะรับมันขอแค่ได้เจอพวกเขาอีกครั้ง"พี่ดีใจนะคะที่เห็นคุณคีย์เปลี่ยนแปลงตัวเองได้"พี่เบญเดินเข้ามาก่อนจะยิ้มให้ผม"ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้พี่เบญต้องลำบากไปด้วย""สู้มาขนาดนี้แล้วก็ต้องสู้ให้สุดนะคะอีกหนึ่งกำลังใจจากพี่"ถ้าวันนี้ผมยังมีน้อยหน่าอยู่ข้างกายผมจะมีความสุขที่สุด สามปีที่ผ่านมาไม่เคยมีสักวันที่ผมจะนอนหลับแบบเต็มตา ภาพของน้อยหน่าที่ร้องไห้มันยังตามผมทุกครั้งที่ผมหลับตา"ลูกผมคงจะเดินได้แล้วเนาะพี่เบญ"ผมถามพี่เบญเสียงสั่น"เลี้ยงเจ้าขาไปก่อนเนาะ"พี่เบญรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีผมหันมากอดเจ้าขาที่นั่งอยู่ข้างผม ตอนนี้เจ้าขาสามขวบแล้วลูกของผมก็คงห่างจากเจ้าขาไม่มาก"พี่ต้องทำยังไงหน่าถึงจะใจอ่อนพาลูกกลับมาหาพี่ พี่เปลี่ยนตัวเองแล้วนะหน่าเปลี่ยนไปแล้วจ
น้อยหน่า"แม่บอกว่าให้อยู่เฉยๆ ไงลูก"ฉันสะดุ้งกับเสียงดุจนต้องรีบวางของที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะก่อนจะค่อยๆ หันกลับไปมองผู้หญิงที่เดินเข้ามาหาฉัน ที่ผ่านมามีเรื่องเกิดขึ้นกับฉันมากมาย แต่ตอนนี้ฉันมีความสุขและสบายดีกับสิ่งที่เป็นอยู่ มันก็อาจจะมีคิดถึงบ้างแต่ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันโตขึ้นอีกก้าว"ทำไมดื้อแบบนี้ล่ะลูก ยิ่งท้องอยู่ด้วยนะ"เสียงของผู้หญิงวัยกลางคนที่กำลังดุฉันอยู่ก็คือคุณแม่ของพี่คีย์ วันนั้นท่านตั้งใจไปเจอฉันที่สนามบิน ท่านรู้เรื่องของฉันกับพี่คีย์ทุกอย่าง"หน่าแค่อยากช่วยค่ะอยู่ว่างๆ หน่าเบื่อ"ฉันรีบบอกไปฉันไม่ได้ไปเชียงใหม่เพราะคุณแม่ของพี่คีย์ขอให้ฉันมาอยู่ที่แม่ฮ่องสอนกับท่าน ตอนแรกฉันกลัวว่าท่านจะบอกพี่คีย์ว่าเจอฉัน แต่ท่านบอกฉันว่าท่านอยากดัดนิสัยของพี่คีย์และท่านเองก็ยอมรับในการตัดสินใจของฉัน ที่นี่เป็นสวนดอกไม้มันเป็นธุรกิจของแม่พี่คีย์ที่ทำมานานมากแล้วและฉันเองก็ชอบที่นี่มากด้วย"ไว้ใจแม่หรือยังลูก"ท่านถามก่อนจะยิ้มให้ฉันฉันยอมรับว่าแรกๆ ที่เข้ามาอยู่ฉันไม่ไว้ใจใครเลยสักคน ฉันกลัวว่าพี่คีย์จะรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่แต่พอมาวันนี้ท่านพิสูจน์ให้ฉันเห็นแล้วว่าฉันไว
คีย์แล้วผมจะทำยังไงต่อไปดี ผมทำร้ายคนที่ผมรักมาตลอดและสิ่งที่ผมเจอมันไม่ได้เหมือนกับที่ผมคิดไว้ สุดท้ายคนที่แพ้ก็คือตัวผมเอง ผมดูถูกความรักของน้อยหน่าผมเอาทุกอย่างไปทิ้งด้วยมือของผมเอง"ลูกกับเมียกูล่ะพล ฮึก"ผมถามเพื่อนตัวเอง"ทำไมมึงถึงพึ่งมาเรียกร้องวะคีย์ มึงมีโอกาสตั้งกี่ครั้งมึงก็ไม่ทำ น้อยหน่าให้โอกาสมึงมาตลอดแต่มึงก็เลือกที่จะทำผิดซ้ำซาก กูจะบอกให้นะมันไม่มีผู้หญิงคนไหนรับได้หรอกนะที่จะใช้คนรักร่วมกับคนอื่น ใจน้อยหน่ามีแค่นี้เองคีย์ทำไมมึงไม่รู้จักดูแลรักษา มึงปล่อยให้คนของมึงมาก้าวก่ายน้องกูตั้งกี่ครั้ง มึงเคยรู้บ้างมั้ยมึงสนุกแต่น้องกูนั่งร้องไห้"ไอ้ขุนพลพูดขึ้นและน้ำเสียงของมันกำลังไม่พอใจผมอยู่ผมรู้ ผมนิ่งไปกับคำพูดของเพื่อนรักตัวเองเรื่องที่มันบอกผมไม่เคยรับรู้ด้วยซ้ำ"โถ่ว...โว้ย!!! ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้""ก็เพราะตัวมึงเองทั้งนั้นมึงไม่ต้องโทษใครเลยคีย์"เพื่อนผมพูดถูกทุกอย่างผมคิดว่ายังไงน้อยหน่าก็ยังรักผมและเธอไม่มีทางจะทิ้งผมไปไหน แต่ตอนนี้แม้แต่คำขอโทษที่ผมอยากจะพูดผมยังไม่มีโอกาสเลย"ไอ้หน่ามันรักพี่คีย์มากแค่ไหนพี่คีย์เคยรับรู้บ้างมั้ย ไม่ว่าพี่คีย์จะเลวจะชั่วจะนอ
น้อยหน่าการตัดขาดจากใครสักคนโดยเฉพาะคนที่เรารักมันยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้เหมือนกับที่ฉันกำลังทำอยู่ตอนนี้ ทุกอย่างมันหมดแล้วจริงๆ ทั้งความรู้สึกและความเชื่อใจที่ฉันมีต่อพี่คีย์ ที่ฉันทำได้ตอนนี้คือเก็บเขาไว้ในความทรงจำและฉันจะเลือกจำแค่เรื่องที่ดีเท่านั้น"นะ..นี่มันเรื่องจริงใช่มั้ยมึง"คิตตี้ถามฉันเสียงสั่นเมื่อมันเห็นบางอย่างวางอยู่ที่โต๊ะ"ไม่เป็นไรกูเตรียมใจมาแล้ว"ใช่ค่ะสิ่งที่เพื่อนรักของฉันเห็นคือที่ตรวจครรภ์และมันขึ้นเส้นสีแดงสองขีด ตอนแรกที่เห็นใจของฉันมันหล่นไปอยู่ที่พื้นแต่พอฉันตั้งสติได้ฉันรีบโทรหาคิตตี้ทันที"แล้วมึงจะเอายังไงต่อ ถ้าพี่คีย์รู้เขาไม่มีวันยอมแน่ๆ"คิตตี้ถามฉัน"กูเคยบอกมึงแล้วไงว่ากูจะไม่มีวันกลับไปหรือให้โอกาสเขาอีกแล้ว"ฉันบอกเพื่อนก่อนจะเดินมานั่งที่โซฟา"อีหน่ามึงอย่าบอกนะว่ามึง........"คิตตี้ทำเสียงดุก่อนที่จะชี้มาที่ท้องของฉัน"หมามันยังรักลูกของมันเลย แล้วทำไมกูจะไม่รักลูกของกูล่ะ ในเมื่อเขาเลือกที่จะมาอยู่กับกูแล้วกูจะรักและดูแลเขาให้ดีที่สุด กูจะเป็นทั้งพ่อและแม่ของเขาเอง กูจะเลี้ยงเขาด้วยความรักที่กูมี"ฉันบอกเพื่อนไปตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ใช่ว่า
น้อยหน่า"ฝากบอกเขาว่าสุขสันต์วันเกิดด้วยนะคะ เกิดชาติหน้าอย่าได้พบได้เจอกันอีกเลย"ฉันเดินออกมาจากบ้านของเพื่อนรักเพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรที่ฉันต้องอยู่ต่อแล้ว ไม่ว่าจะผ่านไปกี่เดือนพี่คีย์ก็ยังไม่เคยเปลี่ยนแปลงตัวเองเหมือนคำพูดที่เขาบอกกับทุกคน"ไปค่ะ เดี๋ยวกูอยู่เป็นเพื่อนมึงเอง ไอ้โบว์รอคุยกับพี่คีย์"คิตตี้เดินเข้ามาจับมือของฉันก่อนจะยิ้มให้"ขอบใจนะที่อยู่ข้างกูมาตลอด""หมดแล้วใช่มั้ยหน่า คือกูหมายถึงเรื่องของพี่คีย์"คิตตี้ถามฉันเสียงเบา"ก็เขารักตัวเองไม่ได้รักกูแล้วกูจะเหลืออะไรให้เขาอีก วันนี้กูให้โอกาสแต่เขากลับเลือกที่จะทิ้งมันอีกครั้งมึงจะให้กูทำยังไง กูรักเขากูลืมเขาไม่ได้แต่กูไม่รอเขาแล้ว"ฉันถามเพื่อนตัวเอง"มึงน่ากลัวมากเลยนะน้อยหน่า น่ากลัวกว่าทุกครั้ง""เพราะสิ่งที่กูได้รับตั้งแต่ตอนแรกจนมาถึงตอนนี้มึงจะให้กูยิ้มอยู่หรอ ไม่ต้องมองหาน้ำตากูหรอกมันไม่มีแล้ว"ฉันบอกเพื่อนไปคิตตี้ไม่ได้ตอบอะไรฉันกลับมาหรอกและฉันเองก็ไม่อยากจะพูดเรื่องนี้แล้ว ความรู้สึกของฉันตอนนี้มันไม่เหลืออะไรให้แล้ว แม้แต่หน้าของพี่คีย์ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเห็นด้วยซ้ำ"หน่า...ที่สมุยมันเกิดอะไรขึ้น"ฉันน
น้อยหน่าอือ...ทำไมฉันถึงได้ปวดหัวและปวดตัวแบบนี้กันนะ เมื่อคืนฉันจำได้ว่าฉันกินข้าวกับพี่คีย์อยู่ที่ร้านอาหารของโรงแรมแล้วฉันก็กินไวน์ซึ่งไม่รู้ว่ากี่แก้ว ฉันหันไปมองนาฬิกาที่อยู่ตรงผนังให้ตายเถอะนี่ฉันนอนหรือซ้อมตายกันตอนนี้ห้าโมงเย็นของอีกวันแล้ว"นี่กูเมาไวน์ใช่มั้ยวะ"ฉันพูดกับตัวเอง"ใช่หน่าเมาไวน์"สะ...เสียงนี้ทำไมฉันถึงได้คุ้นเคย ฉันค่อยๆ พลิกตัวกลับมาก่อนจะเจอคนที่นอนอยู่บนเตียงเดียวกับฉัน เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมถึง...."พี่คีย์"ฉันเรียกพี่คีย์ที่หลับตาอยู่พี่คีย์ลืมตาก่อนจะมองหน้าฉัน ทำไมเขาถึงได้มาอยู่บนเตียงเดียวกับฉัน ฉันรีบเปิดผ้าห่มก่อนจะเจอว่าตัวเองไม่ได้ใส่อะไรเลย"หน่าเมามากใช่มั้ย"ฉันถามเสียงเบา"อืม..ใช่หน่าเมามาก ส่วนเรื่องเมื่อคืนจะให้พี่อธิบายหรือเปล่า"พี่คีย์ถามฉันเสียงดุ"ทำไมพี่คีย์ถึงทำกับหน่าแบบนี้ มันไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยหรอ"ฉันถาม"เหตุผลข้อเดียวคือพี่รักหน่า และความรักของพี่มันเพิ่มขึ้นทุกวัน"ฉันไม่รู้ว่าเมื่อคืนฉันพูดอะไรออกมาบ้าง ฉันไม่ได้จะตั้งใจกินให้เมาหรอกนะ แต่ยิ่งฉันเห็นหน้าของพี่คีย์ฉันเองทำอะไรไม่ถูก เราสองคนไม่ค่อยได้เจอหรือคุยกันเล
Comments