Share

บทที่ 3

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-15 20:09:45

“วันนี้มาประชุมแทนพี่เก้าเหรอลูก” นุชนาทรับไหว้พร้อมเอ่ยทักอย่างเป็นมิตร ก่อนจะเอ่ยถึงชื่อพี่ชายคนโตของตระกูลแสนวัฒนกุล

“ครับคุณป้า…พอดีวันนี้เก้าติดประชุมตอนเช้าครับ”

“ดีเลย อนาคตยังไงก็ต้องมาบริหารอยู่แล้ว ฝึก ๆ ไว้ดีแล้วจ้ะ”

“ครับคุณป้า” น้ำเสียงท่าทีแสนสุภาพของเขาทำให้เธอรู้สึกอยากจะอ้วกออกมา เขาก็แบบนี้แหละ เป็นที่รักของผู้หลักผู้ใหญ่ตลอด

“น้องไวน์หายแฮ้งหรือยังครับ” อยู่ดี ๆ การัณย์ก็ทำลายความเงียบในลิฟต์ด้วยประโยคที่ดูยังไงก็จงใจจะหาเรื่องแกล้งเธอ

“หายแล้วค่ะ”

“เมื่อคืนสนุกไหม”

โว๊ยยย! จะเอ่ยถึงเมื่อคืนหาพระแสงอะไร! แถมเอ่ยต่อหน้าใครไม่เอ่ย มาเอ่ยต่อหน้าพ่อกับแม่เธอเนี่ยนะ แล้วอีคำว่าเมื่อคืนเนี่ยเธอรู้นะว่าเขาหมายถึงอะไร!

“สนุกค่า พี่กายก็หัดไปสนุกบ่อย ๆ บ้างนะคะ หน้าจะได้ไม่แก่ค่ะ” เธออดไม่ได้ที่จะแอบกัดแซะคนที่ยืนยิ้มกวนส้นใส่เธอ

ติ๊ง!

“เดี๋ยวยังไงลุงกับป้าไปเตรียมตัวก่อน เด็ก ๆ คุยกันไปก่อนนะ” ทันทีที่ถึงห้องรับรอง พ่อกับแม่ก็ทิ้งเธอไว้กับชายหนุ่มแต่เพียงลำพัง

เมื่ออยู่กันสองคนก็ได้เวลาเช็กบิล…

“นี่! กล้าดียังไงมาที่นี่อีกคะ!” เสียงหวานจัดการสาดคำพูดออกไปใส่คนตัวสูงที่ตอนนี้นั่งไขว่ห้างบนโซฟาอย่างสบายใจ

“มาให้เราถอดเสื้อผ้าพี่อีกครั้งมั้งครับ” การัณย์ยักคิ้วข้างนึงอย่างกวน ๆ แถมริมฝีปากได้รูปยังยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

“กรี๊ดดด! หยุด! หยุดพูดถึงเรื่องเมื่อคืนเดี๋ยวนี้นะ…พี่ฉวยโอกาสตอนไวน์เมายังมีกล้ามาพูดอีกเหรอ!”

“แต่เราก็ฉวยโอกาสมาจูบพี่ก่อนเหมือนกันนี่ครับ” ใบหน้าหล่อเหลายังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงกะล่อน

“!!!”

สะอึกสิคะรออะไร ถึงคำพูดเมื่อกี้ของเขามันจะหน้าด้านและทุเรศแค่ไหน แต่เธอก็ต้องยอมรับว่าเธอเป็นคนเริ่มจริง ๆ แต่คนที่ทำให้เรื่องมันเลยเถิดไปขนาดนี้ก็คือเขาไม่ใช่เรอะ!

“ทั้งฉวยโอกาส ทั้งใจร้าย ทิ้งให้พี่นอนปลดกระดุมอยู่ในห้องหนาว ๆ คนเดียวอีก”

“จะให้ไวน์รับผิดชอบพี่เลยไหมคะ ถึงจะหยุดพูดเรื่องทุเรศนี้สักที” วรัญชิตาเอ่ยประชด

“ก็รออยู่ครับ”

“ประชดค่ะ!”

“อ้าวเหรอครับ นี่พี่หลงเชื่อไปว่าน้องไวน์จะรับผิดชอบพี่เหรอเนี่ย น่าเสียใจจริง ๆ ” คนตัวสูงยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกดีทุกครั้งที่เห็นหน้าใส ๆ นั้นบูดเบี้ยวโมโห

“เรื่องเมื่อคืนมันไม่มีความหมายอะไร ไวน์ถือว่าเป็น One Night Stand แล้วกันค่ะ”

“ถ้าหมายถึงที่เราถอดเสื้อผ้ากันอย่างเร่าร้อนอันนั้นพี่ไม่ติดนะครับ แต่เรื่องรูปของเราสองคนนี่สิ”

“รูป? อะไรคะ หมายความว่าไง” โอเค เธอต้องทำใจทีละเรื่อง 1. เขาพูดถึงเรื่องเมื่อคืน แถมลงดีเทลให้ด้วยนั่นแปลว่าเขาจำทุกอย่างได้เป็นอย่างดี 2. รูป ซึ่งรูปอะไรไม่รู้แต่มีรูปไปแล้ว

ให้มันได้อย่างนี้สิชีวิต! ทุกอย่างถาโถมมาหมดภายในวันเดียวได้ยังไงกัน!

“ก็สตอรี่ I* เพื่อนเราไง”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวจึงรีบหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าออกมาไล่เช็ค Story จุดไข่ปลาของเพื่อนแต่ละคนที่ดื่มด้วยกันเมื่อคืน

แต่ละภาพช่างดูสนุกสนานกันเหลือเกิน จนกระทั่งถึงภาพเจ้ากรรมที่การัณย์เอ่ยถึง วรัญชิตาก็ลมแทบจับ…ภาพของเธอและเขากำลังแลกจูบกันอย่างเร่าร้อนในคลับบวกกับวิดีโอตอนเขาอุ้มเธอออกไปราวกับคู่รักพากันขึ้นห้องแถมยัยเพื่อนตัวดียังใส่ Hashtag สุดปั่นอย่าง #ThehottestCouple ให้อีกด้วย

กรี๊ดดดดดดดดดดด! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย

“บ้าเอ๊ย…”

วรัญชิตากระหน่ำกดโทรหาเพื่อนสาวเพื่อจะให้ลบรูปออก แต่โทรเท่าไหร่ปลายสายก็ไม่มีท่าทีว่าจะรับ สงสัยจะยังเมาน็อกอยู่ แล้วแบบนี้เธอจะทำอย่างไรได้ล่ะ นอกจากปล่อยให้ภาพนั้นเผยแพร่ใน I* เพื่อนสนิทต่อไปเรื่อย ๆ

แล้วยัยนั่นดันเป็น Celebrity ที่เปิดเผย เพราะนางตั้ง I* เป็นสาธารณะ แถมมีคนติดตามตั้งเยอะ ถ้าให้เดานะ อีกสักพักภาพนี้ต้องถูกนักข่าว Gossip เล่นงานแน่ ๆ

เพราะการัณย์ได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มเซเลบสุดฮอต ทั้งหล่อทั้งรวย เผลอ ๆ อาจจะหล่อกว่าพระเอกบางคนด้วยซ้ำ! แถมเขายังมีข่าวออกเดตกับดาราและสาวสังคมมากมาย แต่ก็ไม่เคยประกาศคบใครจริงจัง

นั่นยิ่งทำให้สาว ๆ แต่ละคนหวังจะเป็นสะใภ้เล็กแห่งตระกูลหมื่นล้านอย่าง ‘แสนวัฒนะกุล’

แต่วรัญชิตาเองก็ไม่ได้น้อยหน้า…เธอเองก็เป็นลูกสาวคนเดียวของมหาเศรษฐีหมื่นล้านเช่นกัน ภาพลักษณ์ในแวดวงสังคมก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าการัณย์เลย

“ถึงเวลาประชุมแล้วค่ะ” เสียงเลขาพิมพ์ดาวดังมาจากทางประตู

“...”

หญิงสาวได้แต่เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าถือและถอนหายใจให้ตัวเอง พลางลอบมองไปทางคนตัวสูงที่เดินตามคุณเลขาออกไปโดยไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับรูปที่หลุดไป

หึ! ก็ใช่สิ ตัวเองเป็นผู้ชายก็คงไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับอีแค่การมีรูปจูบกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่แล้ว แต่เธอนี่สิที่เสียหายเต็ม ๆ แถมยังถูกยัยเพื่อนตัวดีตั้งแฮชแท็กให้อีก อยากจะบ้า!

“เชิญค่ะ” คุณเลขาคนสวยเปิดประตูให้ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องประชุมขนาดใหญ่ ที่มีนักธุรกิจและคนสำคัญทยอยเดินเข้ามาในห้อง

วรัญชิตานั่งลงตรงข้ามกับการัณย์ที่นั่งยักคิ้วข้างเดียวให้เธออย่างกวน ๆ หญิงสาวได้แต่พยายามมองไปที่อื่นเพื่อหลบสายตาคมคู่นั้น เหม็นขี้หน้าสุด ๆ ให้ตาย!

“เรามาเริ่มการประชุมกันเลยนะครับ…” วรเวชผู้เป็นประธานที่ประชุมกล่าวเปิดและเริ่มการประชุมรายงานผลประกอบการ

การประชุมยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่วรัญชิตายังคงกังวลกับภาพดังกล่าวจนเสียสมาธิ เรียวขาสวยในท่าไขว่ห้างเขย่าขึ้นลงเบา ๆ ด้วยความกระวนกระวาย มือเรียวยังคงคอยกดเช็ก Line ว่าเพื่อนตัวแสบจะตื่นมาอ่านหรือยัง

แต่ก็พบเพียงแต่ความเงียบ นี่เธอคิดว่าเธอน่าจะดื่มหนักที่สุดในกลุ่มแล้วนะ ยังตื่นมาประชุมตั้งแต่เช้าได้เลย แล้วยัยณิณีนี่จะนอนไปถึงบ่ายเลยหรือไง ไม่รู้เลยเหรอว่าสร้างความเสียหายให้เพื่อนแค่ไหน!

“เฮ้อ…” หญิงสาวลอบถอนหายใจออกมาเงียบ ๆ ก่อนจะพยายามสลัดความกังวลทิ้งแล้วหันมาโฟกัสกับการประชุม

12.30

ในที่สุดการประชุมที่กินเวลาหลายชั่วโมงก็สิ้นสุดลง วรัญชิตาถอนหายใจออกมาเล็กน้อยในขณะที่เดินออกจากห้องประชุม

ใน 2 ชั่วโมงกว่าที่ผ่านมา เธอยอมเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าและทำใจนิ่ง ๆ ไม่เปิดดูอะไร เพื่ออยากจะโฟกัสกับการประชุมครั้งแรก

และผลที่ออกมาก็ผ่านไปได้ด้วยดี ในปีที่ผ่านมาบริษัทในเครือ VN-Group มีผลประกอบการที่ดีเกินคาด ตัวเลขรายได้และกำไรสุทธิแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จมหาศาล

ไม่ว่าบริษัทคู่แข่งจะผุดขึ้นเยอะแค่ไหน แต่ VN-Group ก็ยังคงเป็นผู้นำด้านเครื่องดื่มและห้างสรรพสินค้าชั้นนำของประเทศไม่เปลี่ยนแปลง

Rrrr Rrrr

การสั่นของโทรศัพท์ในกระเป๋าทำให้วรัญชิตารีบเดินฉีกออกมาจากบริเวณห้องประชุม และปลายสายเป็นณิณีนั่นเองที่โทรมา

15 Missed calls

[Text me back ASAP!!]

-Risa-

Rrrr Rrrr

“ฮัลโหล เธอรู้ไหมว่าทำอะไรลงไป!” วรัญชิตาตะคอกกึ่งกระซิบใส่ปลายสายทันที

[รู้แล้ว ๆ ฉันขอโทษ เมื่อคืนเมาเกิน]

“ลบสตอรี่หรือยัง”

[ลบแล้ว ตื่นมาก็ลบเลย ปกติก็ลงใน Close friends ตลอด สงสัยเมื่อคืนน่าจะมือไปโดนผิดปุ่มอะคุณเพื่อน ฮือออ]

“ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ” ด้วยความที่ปลายสายมีน้ำเสียงเสียใจจริง ๆ บวกกับความเมาที่วรัญชิตาเองก็เข้าใจว่าอาจจะทำอะไรบ้า ๆ ขึ้นได้ ก็เหมือนที่เธอไปเสียตัว (ครึ่งนึง) ให้การัณย์ยังไงล่ะ!

“คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง”

[เอ่อ…คือ…]

“อะไร”

[เดี๋ยวฉันส่งให้ดูใน Line แล้วกัน]

คิ้วสวยขมวดเข้าหากันด้วยความฉงน ก่อนจะกดเปิดดูข้อความใน Line ที่ณิณีส่งมาให้

“!!!”

ลิงก์ข่าว Gossip ถูกส่งมาให้ไม่ต่ำกว่า 5 สำนัก และเพจบันเทิงเกือบทุกเพจต่างลงรูปสตอรี่ของณิณีที่มีการัณย์และตัวเธอจูบกันอยู่ในนั้น!

โลกออนไลน์ต่างพูดถึงประเด็นร้อนแรงนี้อย่างคึกคัก รายละเอียดของข่าวเต็มไปด้วยคำว่า

“คู่รักมหาเศรษฐีคู่ใหม่แห่งวงการ?”

“นึกว่าจะโสดถึงปี! ในที่สุดหัวใจของไฮโซกายก็ไม่ว่างแล้ว เพราะตอนนี้ได้สาวสวยและรวยมากคนใหม่อย่าง ไวน์ วรัญชิตา วงศ์ธารานิพิฐ มาอยู่ข้างกาย แถมยังเปิดตัวกันอย่างเผ็ดร้อนถึงใจ งานนี้หลายคนต่างจับตาว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะอยู่ในโควตาไม่เกิน 1 เดือนของคาสโนวาหมื่นล้านได้หรือไม่”

“อุ้มกันออกจากคลับแบบนี้ เขาจะไปที่ไหนกันคะพี่ตาน้องนกเดาไม่ออกเลย แซ่บซู้ดปากจริง ๆ คู่นี้!”

โอ๊ยยย! อะไรกันเนี่ย ทำไมนักข่าวสมัยนี้ไม่มีจรรยาบรรณกันเลย พาดหัวข่าวแรงขนาดนี้ได้ยังไง ทั้งผู้หญิงคนใหม่ทั้งโควตาไม่เกิน 1 เดือน ทั้งคาดเดาไปถึงไหนต่อไหน แต่ละคำสรรหามาเหยียดกันสุด ๆ

แล้วโพสต์ที่ลงมีคนมาวิพากษ์วิจารณ์มากมายหลายร้อย Comment ซึ่งแต่ละประโยคที่ชาวเน็ตพิมพ์ออกมา มีแต่ประโยคแรง ๆ ทั้งนั้น

‘คนรวยที่เป็นของเล่นของคนรวยอีกที’

‘นางอยากประกาศตัวเองรึเปล่า ภาพมาจากไอจีเพื่อนนาง’

‘ไม่น่าถึง 1 เดือน ผู้หญิงก็ดูแรง ๆ อยู่แล้วนะ’

‘เห็นนางมีข่าวกับไฮโซด้วยกันเยอะอยู่นะ เปลี่ยนผู้ชายบ่อยเว่อร์’

กรี๊ดดดด! โกรธ โกรธจนสั่นไปหมด สภาพแต่ละคนที่มาคอมเมนต์นี่ไม่ดูเงินในบัญชีตัวเองเลยสินะ ทำไมถึงกล้าพ่นคำแย่ ๆ ออกมา แล้วไอ้ประโยคเปลี่ยนผู้ชายบ่อยนี่ขอค้านหน่อยนะ ตูโดนทิ้งโว๊ยยย! ถ้าเป็นไปได้ก็อยากคบเป็นตัวเป็นตนอยู่หรอก

เจ็บใจสุด ๆ ปกติเคยแต่อ่านข่าวของคนอื่นจนไม่คิดเลยว่าการได้รับ Hate Speech มากมายจากคนไม่รู้จักกันมันทำให้รู้สึกแย่ขนาดนี้

ทำไมพอมีข่าวการออกเดตของคนดังผู้หญิงถึงมักจะเป็นฝ่ายโดนด่าทุกครั้ง? ในขณะที่ผู้ชายแทบจะเกือบ 90% มักจะลอยตัวเหนือดราม่า แล้วปล่อยให้ฝ่ายหญิงโดนโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว

“ยัยไวน์!” เสียงเรียกจากมารดาทำให้เธอต้องรีบเก็บโทรศัพท์เข้าในกระเป๋า และหันกลับไปเผชิญหน้า ซึ่งแน่นอนว่าฟังจากน้ำเสียง…แม่ของเธอต้องรู้เรื่องแล้วแน่นอน

“ขะ…ขา คุณแม่”

“เข้ามาในห้องเดี๋ยวนี้!!”

“ค่า”

คนตัวเล็กรีบเดินหน้าจ๋อยเข้าไปในห้อง โดยเมื่อเข้าไปถึงสายตาคู่สวยก็พบกับตัวละครสำคัญในข่าวฉาวครั้งนี้นั่งรออยู่แล้ว

“เรื่องมันเป็นยังไงกันสองคนนี้” วรเวชผู้เป็นพ่อเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา

“คือเมื่อคือไวน์…”

“ผมยอมรับว่าเมาจนจูบน้องจริงครับ แต่ไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้น ผมต้องขอโทษคุณลุงกับคุณป้าด้วยจริง ๆ ครับ” ยังไม่ทันที่วรัญชิตาจะเอ่ยพูด เสียงเข้มก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกดีนิด ๆ เพราะอย่างน้อยเขาก็ช่วยโกหกเพื่อปิดบังเรื่องโง่ ๆ ที่เธอทำลงไป

“ค่ะ ไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้นแน่นอน” คนตัวเล็กช่วยเสริมให้ประโยคดูมีน้ำหนักขึ้น

“แล้วที่อุ้มกันออกไปล่ะ ภาพมันล่อแหลมมากเลยนะ แค่เห็นก็จินตนาการไปถึงไหนต่อไหนแล้ว” แม้ว่าเสียงของนุชนาทจะนิ่งมาก แต่หญิงสาวสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่หลั่งไหลออกมาจากตัวคุณแม่ของเธอ

เธอเข้าใจดีว่าเป็นใครก็ต้องคิด…ทั้งภาพจูบแลกลิ้น ทั้งวิดีโออุ้มกันออกจากโต๊ะ ถึงแม้จะเป็นวิดีโอสั้น ๆ แต่ก็ดูไม่ดีเอาเสียเลย แถมความจริงคือเมื่อคืนเธอไปทำอะไรต่อมิอะไรกับเขามาจริง ๆ อย่างที่คนเม้าธ์มอยกันด้วย

“แค่อุ้มน้องไปขึ้นรถแล้วไปส่งที่เพนต์เฮาส์ครับ” การัณย์ยังคงช่วยเธอเสียงเข้ม

“ปกติพ่อไม่อยากยุ่งเลยนะเรื่องหนุ่มสาวเนี่ย…จะทำอะไรกันก็ทำต่างคนก็ต่างโต ๆ กันแล้ว แต่ภาพที่หลุดไปมันแรงมากจริง ๆ และมันทำให้ภาพลักษณ์ของยัยไวน์เสื่อมเสียมาก อย่าลืมนะว่าเราเป็นคนในสังคมธุรกิจที่มีคนทั้งประเทศจับตามองอยู่”

“แล้วมันไม่ได้เสียแค่เธอสองคนแต่มันส่งผลต่อทั้งสองครอบครัวของพวกเราด้วย”

“ไวน์ขอโทษนะคะ คุณพ่อ, คุณแม่” เธอพยายามเอ่ยขอโทษบิดามารดา แม้จะรู้ว่ามันคงไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นสักเท่าไหร่

“ลุงคงโทษลูกสาวตัวเองฝ่ายเดียวไม่ได้ ลุงจะไม่พูดเรื่องที่เราเมาจนจูบล่วงเกินน้องนะ เพราะลุงคิดว่าลูกลุงเองก็น่าจะไม่ได้ถูกบังคับหรือฝืนใจอะไร”

“ใช่ไหม?”

“...” เธอทำได้เพียงพยักหน้าเบา ๆ

เพราะรังสีอำมหิตของผู้เป็นพ่อแผ่กระจายออกมาจนบรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยความอึดอัดจนวรัญชิตาแทบจะกลั้นหายใจ และได้แต่นั่งตัวสั่นรับฟังน้ำเสียงเรียบนิ่งของผู้เป็นพ่อด้วยความหวาดกลัว

ตั้งแต่เกิดมาเกือบ 26 ปี พ่อเธอน่ากลัวที่สุดก็วันนี้แหละ…

“ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้ ก็คงจะเหลือวิธีเดียวแล้วล่ะ”

“ต้องประกาศออกไปว่าทั้งสองคบหาดูใจกันอยู่จริง ๆ เพราะยังไงทั้งคู่ก็ต่างคนต่างโสด ถ้าเป็นแฟนกันจูบกันเองก็คงไม่เสียหายเท่าไหร่” วิธีการของนุชนาททำให้บรรยากาศร้อนระอุในห้องนี้อึดอัดขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

“แฟน? คุณแม่หมายความว่ายังไงคะ เราแก้ข่าวไปเฉย ๆ ไม่ได้เหรอคะ”

วรัญชิตาเอ่ยถามอย่างฉงน สำหรับคน ๆ นี้ แค่คำว่าคนรู้จักเธอยังไม่อยากเรียกให้เสียปากเลย จะให้เลื่อนขั้นกลายเป็นแฟนเนี่ยนะ ฝันไปเหอะ!

“แล้วจะให้แม่แก้ข่าวว่ายังไงดีล่ะ น้องไวน์ลองคิดคำแก้ตัวให้แม่หน่อย” การตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่ไม่ว่าใครได้ยินก็ต้องเจ็บไปถึงขั้วหัวใจคือสไตล์ของแม่เธอเลยล่ะ

“...”

แน่นอนว่าเธอให้คำตอบไม่ได้ ลำพังภาพลักษณ์เธอคนเดียวน่ะไม่เท่าไหร่ เพราะเธอก็เป็นสาวนักสังคมที่มีข่าวกับคนนู้นคนนี้อยู่บ่อย ๆ แต่ถ้าเธอมีส่วนทำให้บริษัทต้องขาดความน่าเชื่อถือ เธอก็ยอมไม่ได้เช่นกัน

จะให้ไปบอกนักข่าวว่า “อ๋อ เพราะเมาค่ะ เลยไปขึ้นคอนโดด้วยกัน แต่ไม่ได้มีอะไรกันนะคะ นอนกอดกันเฉย ๆ ” ยิ่งดูแย่ทวีคูณขึ้นไปอีก!

ทั้งเมาจนไม่รู้เรื่อง ทั้งนัวเนียกันในคลับที่มีคนอยู่ตั้งมากมาย แค่สองข้อหานี้พ่อกับแม่ก็เอาเธอตายแล้ว อย่าให้พวกท่านรู้ว่าเธอไปขึ้นคอนโดกับเขาจริง ๆ เลย

ดังนั้นปลาเน่าตัวเดียว จะยอมให้เหม็นไปทั้งเข่งคงเป็นไม่ได้

“ไวน์ไม่มีอะไรจะแก้ตัวค่ะ แต่ไวน์ขอฟ้องพวกที่มาพูดจาหมา ๆ ใส่ไวน์ได้ไหม”

“แล้วมันมีกี่คนกันล่ะ ร้อย? พัน? หรือมากกว่านั้น”

“ก็…” หญิงสาวถึงกับเถียงไม่ออก ฟ้องไปก็เท่านั้น คนพวกนั้นไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่ายค่าเสียหายให้เธอหรอก มีแต่จะเสียเวลาขึ้นโรงขึ้นศาลเปล่า ๆ

เธอไม่รู้จะทำยังไงจึงได้แต่ใช้เท้าสะกิด ๆ คนที่นั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ ให้พูดอะไรออกมาบ้าง

“ผมเห็นด้วยกับคุณป้านะครับ ผมยินดีใช้วิธีนี้ครับ”

เอ้า! เห็นดีเห็นงามกันไปอี๊กกก แทนที่จะช่วยกันหาทางที่ไม่ต้องมาผูกติดในความสัมพันธ์ของกันและกันแต่ดันมาเออ-ออห่อหมกกับคุณแม่เธอเสียได้

นี่ชีวิตโสดของเธอจะจบลงด้วยการมีแฟน (ปลอม) คนแรก เป็นพี่กายเหรอเนี่ย อยากตายค่ะ!

“งั้นตกลงตามนี้ เดี๋ยวพ่อจะให้เลขาปล่อยข่าวเพิ่มให้เอง”

“แต่คุณพ่อคะ!”

“พอแล้วนะไวน์ พ่อปวดหัว” วรเวชเอ็ดลูกสาวเสียงดุจนหัวใจดวงน้อยรู้สึกทั้งเจ็บปวดและน้อยใจ เพราะตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยโดนคุณพ่อดุเลย

“เราสองคนก็รับผิดชอบเรื่องที่ก่อให้มันเนียน ๆ ด้วยนะ จะใช้วิธีอะไรก็แล้วแต่” นุชนาทกำชับก่อนจะเดินออกจากห้องรับรองไปพร้อมกับสามี

“ค่ะ…” ถึงจะไม่อยากตอบตกลง แต่วรัญชิตาก็ทำได้เพียงก้มหน้ารับชะตากรรมที่ต้องชดใช้ไปอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ อยากกัดลิ้นตัวเองตาย เพราะความเมาแท้ ๆ ที่ทำให้ทุกอย่างต้องลงเอยแบบนี้

แม้ว่ายากจะยอมรับแต่ก็ต้องโทษตัวเองเต็ม ๆ ที่เป็นคนกระโจนเข้าไปจูบอีพี่กายด้วยตัวเอง แต่ยัยเพื่อนสาวตัวแสบก็ไม่น่าเมาจนเผยแพร่เรื่องพวกนี้จนกลายเป็นข่าวว่อนไปทั่ว!

ชีวิตช่างเล่นตลกเหลือเกิน เมื่อวานยังอกหักเมาเหมือนหมา พอตกดึกกลับไปนอนทอดกายให้คนที่เกลียดขี้หน้าละเลงอย่างหนำใจ แถมไม่รู้ว่าหลังจากที่เธอหลับไปมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง!

“เฮ้อ…” วรัญชิตาถอนหายใจออกมาดัง ๆ และเตรียมชิ่งออกไป เพราะอยู่กับเขาสองคนแบบนี้ไม่ดีต่อใจแน่ ๆ

ก็เมื่อคืนเล่นดูดดื่มกันขนาดนั้นจะไปลืมได้ไง…ถึงแม้พาร์ทหลัง ๆ เธอจะจำอะไรแทบไม่ได้ก็เถอะ

“ไวน์กลับก่อนนะคะ ยังไงก็ขอบคุณมากค่ะที่ช่วย” คนตัวเล็กไม่ลืมจะขอบคุณเขาด้วยความไม่เต็มใจ

“คิดว่าพี่จะช่วยเราฟรี ๆ เหรอ?”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   บทที่ 53

    และในที่สุดพิธีแต่งงานก็จบลงอย่างสมบูรณ์ สามีภรรยาป้ายแดงยืนส่งแขกอยู่ครู่หนึ่งก็พากันขึ้นไปบนห้องหอที่มีพ่อกับแม่ของทั้งสองฝ่ายรออยู่แล้วภายในห้องประกอบไปด้วย วรเวช และนุชนาท พ่อกับแม่ของวรัญชิตา และกรรชัยกับอาเมเลียแม่ของการัณย์ที่ถึงแม้จะเลิกรากับพ่อไปตั้งแต่เขายังเด็ก แต่วันนี้เป็นวันสำคัญของลู

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   บทที่ 52

    ความหวานของคู่รักมหาเศรษฐีทำเอาทีมงานที่คอยจัดเตรียมความเรียบร้อยของงานแต่งสุดอลังการแถวนั้นอดยิ้มตามไม่ได้กลายเป็นว่าหลังจากผ่านเรื่องร้าย ๆ มาทั้งหมด วรัญชิตากับการัณย์ก็ขึ้นแท่นคู่รักสุดฮอตขวัญใจชาวเน็ตไปโดยปริยาย เพราะการแสดงออกอย่างคลั่งรักของเขาทำให้สาว ๆ หลายคนแต่งตั้งให้เขาเป็นแฟนหนุ่มในฝัน

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   บทที่ 51

    “แต่งค่ะ” หลังจากคำตอบแสนหวานจากคนที่เขารักที่สุดออกมา การัณย์ก็ไม่รอช้ารีบสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอทันที เขาลุกขึ้นมากอดหญิงสาวบนเตียงด้วยความรักใคร่เป็นที่สุด“พี่สัญญาว่าจะดูแลน้องไวน์กับลูกของเราให้ดีที่สุด เชื่อใจพี่นะครับ” “ค่ะ” วรัญชิตาเอ่ยออกมาทั้งน้ำตาที่เอ่อคลอไปเต็มเบ้าตา มันเป็นหย

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   บทที่ 50

    “อ๊า อื้อ…” คนตัวเล็กครางเสียงสั่น เธอรู้สึกถึงการหวิวในท้องน้อยมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่การัณย์ก็ยังคงมอบความเสียวซ่านจนสมองขาวโพลนไปหมด และในที่สุดหญิงสาวก็ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดอย่างมีความสุข“อ๊า…” เธอปลดปล่อยหยาดธาราสีใสออกมาจนมันอาบย้อมแก่นกายที่ยังคงกระแทกเข้าออกอย่างไม่ลดละจนฉ่ำวาวไปหมดการัณย

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   บทที่ 49

    โพรงปากน้อยดูดดุนแท่งร้อนราวกับกำลังกินไอศกรีมแท่งโปรด แม้ว่าจะเป็นการจูบความเป็นชายของเขาครั้งแรก แต่เธอก็ทำทุกอย่างได้ดีเพราะสัญชาตญาณนำพา ยิ่งยามที่เธอใช้ปลายลิ้นเล็กตวัดเลียกายแกร่งและออกแรงดูดเม้มจนเกิดเสียงลามกขึ้น คนใต้ร่างยิ่งร้องครางออกมาอย่างเสียวซ่านความกระสันที่เมียตัวน้อยปรนเปรอให้ ทำเ

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   บทที่ 48

    “อยากกอดเมีย…” “แต่พี่เพิ่งตื่นขึ้นมาเองนะคะ เมื่อกี้ยังจะตายอยู่เลย…” หญิงสาวพยายามเบือนหน้าหนีด้วยความเขินอาย หัวใจของเธอเต้นระรัวจนแทบจะหลุดออกมา เพราะเธอไม่ได้อยู่ในระยะใกล้ชิดกับเขามาสองอาทิตย์แล้ว“ก็คิดถึง อยากกอด อยากจูบ รู้ไหมว่าสองอาทิตย์ที่เราห่างกันพี่ทรมานแค่ไหน ใจจะขาดอยู่แล้ว” “ไม่ไ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status