“พี่ช่วยฉันได้ไหมคะ?”ก่อนจะขึ้นรถเธอถามเขาย้ำอีกครั้งพร้อมกับจับแขนเขาแน่น เธออยากได้ความมั่นใจว่าเขาจะช่วยและไม่ทิ้งเธอไปกลางคัน“ช่วยให้ยายฉันปลอดภัยจากคนพวกนั้น แล้วพี่ต้องการอะไรจากฉัน ฉันจะให้พี่ทุกอย่าง” “หมายความว่าไง?”คาเตอร์หรี่ตามองเธอเหมือนสงสัยคำพูดของเธอ มองก็รู้ว่าเธอไม่มีอะไรจะให้เขา ผู้หญิงที่ทำงานตัวเป็นเกรียวหัวเป็นน็อตขนาดนี้จะมีปัญญาอะไรมาชดใช้อะไรให้เขาได้นอกเสียจากว่า… “ตัวฉันค่ะ พี่เอาไปได้เลย ฉันจะยอมพี่ทุกอย่างขอแค่รับปากว่าจะช่วยฉันและยายให้ปลอดภัยไปตลอด” คาเตอร์เหยียดยิ้มออกมาอย่างไม่เชื่อว่าผู้หญิงแบบเธอจะเสนอตัวเองให้เขาเพื่อแลกกับความปลอดภัยของตัวเอง แต่ทว่ามันคงเป็นอย่างเดียวที่เธอจะให้เขาได้“เธอแน่ใจนะที่พูดออกมา”
ดูเพิ่มเติม“ช่วงนี้ไม่เห็นหน้าเห็นตาเลยนะมึง”คาเตอร์เอ่ยทักโซลทันทีที่เห็นหน้าเพื่อนสนิท ที่ช่วงนี้ได้ชื่อว่ามาเที่ยวผับ แต่มักชอบหายตัวไปบ่อย ๆ แบบเนียน ๆ
“กูมีธุระ” คาเตอร์ยกยิ้มมุมปาก เขาพอจะมองออกว่าธุระของเพื่อนคืออะไร คนแบบมันถ้าไม่ใช่เรื่องน้องสาวก็ต้องเป็นเรื่องผู้หญิงแน่ ๆ ที่ทำให้มันหายตัวไปแบบนี้ เมื่อก่อนอาจจะเป็นเรื่องของมิลลิได้ เพราะต้องคอยเฝ้าน้องสาวจากพวกผู้ชาย แต่ตอนนี้มิลลิมีแฟนไปแล้ว เพราะฉะนั้นก็เหลือเพียงอย่างเดียวที่ทำให้มันหายตัวได้คือเรื่องผู้หญิงเท่านั้น “อยากเห็นหน้าว่ะ คนที่มึงกำลังกก” “กกเหี้ยไร กูบอกว่ากูมีธุระ”โซลขึ้นเสียงใส่เพื่อนทันที ไม่ใช่ไม่พอใจที่เพื่อนหยอก แต่ขึ้นเสียงเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่เพื่อนพูดต่างหาก แต่คาเตอร์ก็ไม่ได้สนใจ เขาชินเสียแล้วเวลาเพื่อนคนนี้ติดพันใคร มักไม่ค่อยบอกอะไรกับเพื่อนอยู่แล้ว ขอแค่ว่าไม่ไปกกเอาแฟนของเพื่อนคนไหนอีกเป็นพอ เพราะไม่อยากให้มีปัญหาตามมาทีหลังอีก “พอขึ้นปีสี่ สังเกตุไหมว่ากลุ่มเราเริ่มหายหัวกันหมด ยิ่งใกล้ฝึกงานแบบนี้กูไม่เห็นหัวใครสักคน” วันนี้ที่นัดกันมาผับ ก็นัดกันมาทุกคน แต่เลยเวลานัดมากว่าชั่วโมงกลับเห็นแค่เขากับโซลที่มา แต่ทว่ายีนส์กับตะวันเขาพอเข้าใจว่าสองคนนั้นติดแฟน แต่คีรินกับสกายก็หายเหมือนกัน เริ่มนึกแปลกใจว่าเหลือเพียงเขาคนเดียวหรือเปล่าที่ยังไม่ถูกใจใครและยังหาผู้หญิงที่ดีพอให้หยุดไม่ได้ “นี่ถ้ากูหายอีกคน มึงจะนั่งกินคนเดียวไหมว่ะ”โซลแกล้งเอ่ยถามเพื่อนออกไป ที่จริงวันนี้เขาก็ไม่ได้ว่างออกมา แต่ก็กลัวว่าเพื่อนจะต้องนั่งกินเหล้าคนเดียว เลยปลีกตัวออกมานั่งเป็นเพื่อนแปบหนึ่ง “ก็คงงั้น...แต่ถ้ามึงมีธุระก็ไปได้เลยนะ ตามสบาย” “สัด!!! ประชดเพื่อ?” “ไม่ได้ประชด กูพูดจริง เพื่อนไม่สำคัญเท่าเมียหรอก” “เมียพ่อง!!! มึงสิ กูบอกไม่ใช่” นั่นไง…แค่เขาล่อเหยื่อไปนิดเดียว คนแบบมันก็เผยไต๋ออกมาแล้ว บอกแล้วว่านอกจากเรื่องมิลลิก็มีแค่เรื่องผู้หญิงเท่านั้นที่ทำให้คนแบบไอ้โซลหายหัวบ่อย ๆ ได้ “แต่วันก่อนไอ้ตะวันบอกกูว่า มึงเทนัดมันเหมือนกันนิ ไม่ใช่ว่ามึงก็…” “ไม่ใช่...คนแบบกูไม่เอาใครนอกจากซื้อกินมึงก็รู้”เป็นสิ่งที่เขาตั้งใจกับตัวเองมาตลอด ว่าจะไม่เอาใครถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ขาย เพราะเขาไม่อยากให้มีปัญหาตามมาทีหลัง ได้แล้วก็แยกย้าย ไม่ต้องมาคอยแคร์ความรู้สึกกัน “เออ…กูก็เผื่อว่ามึงจะเจอใครที่ทำให้มึงเปลี่ยนความคิดได้” “ยากว่ะ”มือหนาหยิบแก้วเหล้ายกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด ก่อนที่สายตาเขาจะเหลือบไปเห็นเด็กเสิร์ฟของผับกำลังบริการโต๊ะข้าง ๆ เขาพอดี ปกติเขาไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องคนอื่นอยู่แล้ว แต่เพราะทันเห็นพอดีว่าผู้ชายโต๊ะนั้นกำลังเอามือจับก้นเด็กเสิร์ฟคนนั้นอยู่ ก่อนจะได้ยินเสียงโวยวายดังมา “พี่อย่ามาจับก้นฉันนะ”เสียงหวานของพายตวาดออกไปทันที เมื่อสัมผัสได้ถึงมือหยาบกระด้างของชายหนุ่มวัยกลางคนที่เรียกเธอเข้ามาชงเหล้า กำลังบีบก้นของเธออยู่ “ไม่ได้ขายเหรอ? ฉันจ่ายไม่อั้นนะ” “ถ้าฉันขาย จะมายืนชงเหล้าอยู่แบบนี้ทำไม คงไปนอนแบอยู่ที่ไหนสักที่แล้ว ไม่มาเหนื่อยให้พวกหื่นกามแบบพี่ลวนลามแบบนี้หรอกค่ะ” “อ้าวน้อง…พูดดี ๆ หน่อยสิ มึงคิดว่าตัวเองเป็นใคร เป็นแค่เด็กเสิร์ฟเสือกมาขึ้นเสียงใส่ลูกค้าแบบนี้ กูฟ้องเจ้าของผับไล่มึงออกได้นะ” พายยกตัวขึ้น ยืนเท้าสะเอวอย่างไม่กลัว เธอทำงานเด็กเสิร์ฟมานาน เจอสถานการณ์แบบนี้มานับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่เคยเจอใครปากหมาเท่าผู้ชายตรงหน้าเธอ นอกจากหน้าตาจะเอาทำพันธุ์ไม่ได้แล้ว นิสัยหมายังไม่แดกอีกต่างหาก “อยากฟ้องก็ฟ้องไปสิ คิดว่าฉันกลัวหรือไง เป็นคนลวนลามฉันก่อนแท้ ๆ พอไม่ให้จับก้นทำมาเป็นขึ้นเสียงใส่ ผู้ชายแบบนี้สงสารเมียที่บ้านฉิบหาย” “สนใจเหรอว่ะ”โซลที่เห็นเพื่อนนั่งมองเหตุการณ์โต๊ะข้าง ๆ อยู่นานแล้ว เขาเองก็นั่งมองกับเพื่อนเหมือนกัน แต่ที่ไม่ปกติคือทุกครั้งคาเตอร์จะไม่สนใจเรื่องแบบนี้ แต่ตอนนี้กลับจ้องเหตุการณ์ตรงหน้าตาแทบไม่กระพริบ “เปล่า”คาเตอร์เอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะหันมานั่งดื่มเหล้าในแก้วต่อ แต่ทว่าหูก็ยังได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นทะเลาะกับแขกโต๊ะนั้นอย่างชัดเจน และเหมือนเหตุการณ์จะบานปลายไปกันใหญ่ เมื่อผู้ชายสามสี่คนในโต๊ะรุมด่าเด็กเสิร์ฟคนนั้นคนเดียว “โทรหาพี่ธันดีไหม ลูกน้องพี่ธันนี่หว่า”พี่ธันที่โซลว่าคือธันเดอร์ ลูกชายคนโตของเฮียพายุเจ้าของผับนี้ ตอนนี้เป็นผู้ดูแลผับต่อจากคนเป็นพ่อ และพวกเขาสองคนก็สนิทกับธันเดอร์มาก “อย่ายุ่งเลยดีกว่า”ไม่ใช่ว่าเขาใจดำ แต่เขาไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น อีกอย่างก็เหมือนผู้หญิงคนนั้นจะหัวรุนแรงไม่น้อย ขนาดว่าผู้ชายสามสี่คนรุมทึ้งอยู่ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสะทกสะท้านหรือกลัว หลังจากด่ากราดผู้ชายโต๊ะนั้นไปเกือบครึ่งชั่วโมง พายก็พาตัวเองกลับมาหลบมุมอยู่ในห้องพักเด็กเสิร์ฟ เหนื่อยเหลือเกินที่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ทุกวัน แต่เธอก็ต้องทนทำงานนี้ เพราะได้เงินดี พอกับค่าเรียนหรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของเธอ โดยที่ไม่ต้องเดือดร้อนขอจากยาย ชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องดิ้นรนส่งตัวเองเรียนมาตลอด ตั้งแต่เริ่มทำงานได้ เธออาศัยอยู่กับยายแค่สองคน ยายเองก็แก่มากแล้ว ยายของเธอทำขนมขายตามตลาดนัด รายได้ไม่มากเท่าไหร่ หลัง ๆ ยายปวดตามเนื้อตัว โดยเฉพาะขา นี่ก็เพิ่งไปตรวจก้อนเนื้อมาเมื่อไม่กี่วันก่อน เลยทำขนมน้อยลงและไม่ได้ออกไปขายตามตลาดนัดแล้ว อาศัยขายที่หน้าบ้านเช่าแทน ทำให้รายได้ลดลง ไม่พอค่าใช้จ่ายต่าง ๆ พายเลยต้องหางานทำหลังเลิกเรียน จากเด็กเสิร์ฟร้านคาเฟ่สู่การเป็นเด็กเสิร์ฟที่ผับ เงินเดือนต่างกันหลายเท่า แต่เวลาทำน้อยกว่า ทำให้เธอต้องอดทนทำงานนี้ ไม่ว่าจะเจอเหตุการณ์อะไรก็ต้องผ่านไปให้ได้ แต่บางครั้งก็เหลืออดจริง ๆ กับพวกผู้ชายหื่นกามที่คอยแต่จะจ้องลวนลามเธอ ลวนลามทางสายตาบ้าง หนักสุดคือเมื่อกี้ เธอทนไม่ได้จริง ๆ เห็นเธอเป็นเด็กเสิร์ฟหน่อย ก็คิดว่าเธอขายตัว มาขอซื้อไม่เท่าไหร่ แต่พวกที่ลวนลามแบบนี้เธอไม่ชอบ “เมื่อกี้โดนอีกแล้วเหรอ”ปริมเพื่อนเด็กเสิร์ฟที่เรียนมหาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ เดินเข้ามาถาม คงเพราะยืนเสิร์ฟโต๊ะใกล้กัน เลยได้ยินเหตุการณ์ทุกอย่าง “อืม...ฉันล่ะเหนื่อย” “เหนื่อยก็หยุดบ้างไหม เธอทำงานติดกันไม่พักเลยนะ”ปริมเสนอทางเลือกที่รู้ว่าพายไม่ทำแน่นอน แต่ก็อยากเสี่ยงเอ่ยออกไป ตั้งแต่รู้จักกันมา เธอไม่เคยเห็นพายหยุดงานเลยสักวัน “หยุดไม่ได้หรอก เดือนนี้ยายหมอนัดด้วย”เพราะค่าใช้จ่ายที่มีตลอด ยิ่งเกี่ยวกับยาย เธอเลยต้องสำรองเงินเอาไว้เยอะ ๆ เผื่อวันไหนมีเหตุจำเป็น จะได้เอาเงินสำรองพวกนี้มาใช้ได้ “แต่ไอ้พวกนั้นน่ากลัวนะ เหมือนมันจะไม่ยอมด้วย” “ฉันไม่กลัวหรอก” “แต่ฉันว่า...ตอนเธอกลับบ้าน เลี่ยงไปทางอื่นก่อนดีไหม เผื่อพวกมันดักรอทำร้ายเธอ”เมื่อกี้ตอนยืนชงเหล้าอยู่ ปริมทันได้ยินกลุ่มผู้ชายที่มีเรื่องกับพาย พูดว่าจะออกไปจัดการเพื่อนเธอที่หน้าผับ ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือพูดเล่น แต่เป็นผู้หญิงก็ควรระวังตัวไว้ก่อนจะดีกว่า “หลีกได้จะหลีกนะ”พายพูดอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะพากันออกไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ เธอเลี่ยงเข้าไปใกล้โต๊ะของผู้ชายกลุ่มนั้น ที่เหมือนจะส่งสายตามองเธออยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเวลาเลิกงาน เธอก็ลืมเรื่องที่ปริมเตือนไปเสียสนิท คงเป็นเพราะความเคยชิน เลยเดินกลับบ้านทางที่เดินประจำทุกคืน เพื่อไปขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ห่างจากผับไปประมาณ 300 เมตร “คิดว่าพวกกูจะปล่อยมึงไปง่าย ๆ เหรอ”09.20น. “มาถึงมันก็หลับอีกแล้ว”มีนาเพื่อนในกลุ่มของพายพูดขึ้น เมื่อเดินมาถึงโต๊ะประจำของกลุ่มแล้วเห็นเพื่อนสนิทฟุบหน้าหลับอยู่บนโต๊ะเหมือนทุกวัน “เมื่อคืนมันโดนลวนลามอีกแล้ว”ลลิลเพื่อนสนิทอีกคนเอ่ยบอกมีนาทันที ที่เธอรู้เรื่องนี้ก็เพราะเจอกับปริมเพื่อนที่ทำงานที่ผับเดียวกันกับพายเมื่อเช้าตรงลานจอดรถ “เมื่อไหร่ไอ้พวกเศษเดนพวกนี้จะหายไปจากโลกนี้สักทีว่ะ ไม่เห็นใจเพื่อนร่วมมนุษย์กันบ้างหรือไง เห็นว่าเป็นผู้หญิงหน่อย มันคิดจะทำอะไรก็ได้เหรอว่ะ”มีนาบ่นอุบ จะห้ามเพื่อนไม่ให้ไปทำงานก็ไม่ได้ เพราะรู้ว่าเพื่อนมีปัญหาด้านการเงินมาตลอด แต่พายไม่เคยรับความช่วยเหลือจากพวกเธอสองคนเลยสักครั้ง บอกแค่ว่าถ้าไม่ไหวจริง ๆ จะบอก แต่คบกันมาสองปีแล้ว ไม่เคยเห็นบอกสักทีว่าไม่ไหว มีแต่ยิ่งทำงานหนักขึ้นทุกวัน “แล้วเจ้าของผับทำอะไรอยู่ว่ะ กูเห็นพายมันโดนแบบนี้หลายครั้งแล้วนะ เขาไม่มีมาตรการอะไรปกป้องลูกน้องบ้างหรือไง” “หึ พวกนักธุรกิจหน้าเลือดแบบนั้น ไม่มาสนใจลูกน้องตัวเล็ก ๆ หรอก ถึงไปบอกมันก็คงเข้าข้างลูกค้าพวกนั้นแหละ เงินถึงขนาดนั้น”มีนาพูดตามหลักความเป็นจริงที่เคยเห็นมา เธอมองว่าเจ้าของผับที่เพื่อนเธอท
“ถ้าไม่ติดว่าฉันเพิ่งช่วยเธอมานะ ฉันไม่สนใจผู้หญิงปากดีแบบเธอหรอก รอให้พ้นวันนี้ก่อนนะ หลังจากนี้จะเป็นจะตายก็เรื่องของเธอ” พายนั่งกำมือเข้าหากันแน่น เธอไม่อยากต่อปากต่อคำกับผู้ชายคนนี้ เขาดูอันตรายกว่าที่เธอคิด ดูจากหน้าตา อายุเขาน่าจะแก่กว่าเธอไม่เท่าไหร่ แต่เขากลับมีปืนผาหน้าไม้ ถ้าหากเถียงเขาไปมาก ๆ เธออาจจะถูกเขาสาดกระสุนใส่แทนไอ้พวกเลวก่อนหน้านี้ก็ได้ “เงียบทำไม?”ที่จริงก็ไม่อยากสนใจว่าเธอจะพูดหรือเงียบ แต่เห็นใบหน้าเธอซีดลงเรื่อย ๆ ก็สงสัยว่าเป็นอะไร ไม่ใช่ว่าจะมาเป็นลมในรถเขาหรอกนะ แค่ช่วยจากไอ้พวกนั้นก็พอแล้ว อย่าให้ต้องถึงขั้นพาไปส่งโรงพยาบาลอีกเลยนะ “ตกลงบ้านเธออยู่ไหน?” “…..” “เธอนี่เป็นคนแบบไหนกันนะ พอพูดมากก็ปากดีเหลือเกิน พอจำเป็นต้องพูดกลับไม่พูด เธออยากให้ฉันโมโหไปมากกว่านี้สินะ” “ขับตรงไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวใกล้ถึงฉันจะบอก”เมื่อเขาเริ่มโมโห เธอก็ส่งเสียงออกมาทันที เธอยังอยากกลับไปหายาย ไม่อยากทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ตอนนี้ “เธอกลัวฉัน?” “พี่มีปืน”เธอตอบออกไปทันที มีใครบ้างในโลกนี้ไม่กลัวปืน ขนาดไอ้พวกอันธพาลเมื่อกี้ มันมีกันสี่คน พอเขาชักปืนออกมาขู่ มันก็ถอยไปทันที แล้
คาเตอร์กำลังข่มอารมณ์อย่างหนัก เขากำลังคิดว่าทำไมตัวเองถึงต้องมายุ่งเรื่องไร้สาระพวกนี้ด้วย แทนที่จะกลับบ้านไปนอนหลับพักผ่อนให้สบายดีกว่า แต่ทว่าพอหันไปสบตาผู้หญิงคนนั้น เขาก็รู้สึกบางอย่าง เหมือนกับว่าหากเขาไม่ช่วย เธอจะตายอย่างนั้นแหละ ทั้งที่เขามองออกว่าพวกนี้คงไม่ถึงขนาดฆ่าเธอหรอก คงแค่อยากสั่งสอนที่เธอปากดีไปดูถูกพวกมันเท่านั้น แต่ทว่าขายาวของเขาก็ไม่เดินกลับไปที่รถเสียที มือหนาก็ยังคงกำกระบอกปืนพกสั้นที่เขาพกติดตัวตลอด ไม่ใช่ว่าจะเอามาใช้สุ่มสี่สุ่มห้า เพียงแต่พกไว้ป้องกันตัวเวลากลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ แค่นั้นเอง ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เอาออกมาช่วยผู้หญิงปากดีคนนี้ไว้ “กูให้โอกาสมึงอีกครั้ง ปล่อยผู้หญิงคนนั้นมาให้กู แล้วเรื่องทุกอย่างก็จะจบ” “มึงพูดไร้สาระอะไรอยู่ว่ะ ถ้าไม่ร่วมด้วยก็ถอยออกไป ก่อนที่พวกกูจะทำให้มึงขับรถกลับบ้านไม่ได้” พายมองเหตุการณ์ตรงหน้า น้ำตาเธอเริ่มไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นจะช่วยเธอได้หรือเปล่า แต่เขาคือความหวังเดียวของเธอตอนนี้ เธอหลับตาช้า ๆ ภาวนาถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายบนโลกใบนี้ว่าขอให้เขาช่วยเธอให้พ้นจากผู้ชายกลุ่มนี้ด้วย ไม่ว่
ระหว่างที่กำลังเดินเพื่อไปขึ้นวินมอเตอร์ไซค์เจ้าประจำ ก็มีกลุ่มผู้ชายที่เธอทะเลาะด้วยในผับ เดินมาดักหน้าเธอด้วยใบหน้าขึงขังทั้งสี่คน “คิดว่าด่าพวกกูขนาดนั้น แล้วพวกกูจะปล่อยมึงไปง่าย ๆ เหรอ” พายเอามือจับสายสะพายของกระเป๋าไว้แน่น เธอกำลังคิดทางหนี ทีไล่ หากจะวิ่งฝ่ากลุ่มผู้ชายพวกนี้ก็ดูเหมือนจะคิดผิด เพราะแต่ละคนร่างสูงใหญ่ราวกับเสาไฟฟ้า ไม่รู้ทำไมตอนอยู่ในผับก่อนหน้านี้เธอถึงไม่เห็นว่าคนพวกนี้จะตัวใหญ่และหน้าตาเหมือนคนเพิ่งแหกคุกออกมาขนาดนี้ หรือเพราะแสงไฟมันหลอกตาเธอกันนะ “แล้วพวกคุณต้องการอะไร”เธอพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น ทั้งที่ภายในใจเริ่มกลัว เพราะหางตาเธอมองไม่เห็นสิ่งมีชีวิตแถวนี้เลย อีกทั้งตรงนี้หากจะวิ่งกลับไปที่ผับก็ห่างกันเกือบสองร้อยเมตร ส่วนวินมอเตอร์ไซค์ถึงจะอยู่ไม่ไกล แต่ก็ต้องเลี้ยวเข้าไปตรงซอย ทำให้ตรงที่เธอยืนอยู่เป็นที่เปลี่ยว ๆ ที่มีเพียงแสงไฟจากเสาไฟฟ้าต้นหนึ่งเท่านั้น “อย่ามาพูดดี เมื่อกี้มึงยังด่ากูว่าหื่นกามอยู่เลย บอกว่าพวกกูน่าขยะแขยงบ้าง มึงลองมาเป็นเมียพวกกูพร้อมกันทั้งสี่คนดูไหมล่ะ ว่าน่าขยะแขยงเหมือนปากมึงว่าหรือเปล่า” หญิงสาวพยายามควบคุมสติของตัว
“ช่วงนี้ไม่เห็นหน้าเห็นตาเลยนะมึง”คาเตอร์เอ่ยทักโซลทันทีที่เห็นหน้าเพื่อนสนิท ที่ช่วงนี้ได้ชื่อว่ามาเที่ยวผับ แต่มักชอบหายตัวไปบ่อย ๆ แบบเนียน ๆ “กูมีธุระ” คาเตอร์ยกยิ้มมุมปาก เขาพอจะมองออกว่าธุระของเพื่อนคืออะไร คนแบบมันถ้าไม่ใช่เรื่องน้องสาวก็ต้องเป็นเรื่องผู้หญิงแน่ ๆ ที่ทำให้มันหายตัวไปแบบนี้ เมื่อก่อนอาจจะเป็นเรื่องของมิลลิได้ เพราะต้องคอยเฝ้าน้องสาวจากพวกผู้ชาย แต่ตอนนี้มิลลิมีแฟนไปแล้ว เพราะฉะนั้นก็เหลือเพียงอย่างเดียวที่ทำให้มันหายตัวได้คือเรื่องผู้หญิงเท่านั้น “อยากเห็นหน้าว่ะ คนที่มึงกำลังกก” “กกเหี้ยไร กูบอกว่ากูมีธุระ”โซลขึ้นเสียงใส่เพื่อนทันที ไม่ใช่ไม่พอใจที่เพื่อนหยอก แต่ขึ้นเสียงเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่เพื่อนพูดต่างหาก แต่คาเตอร์ก็ไม่ได้สนใจ เขาชินเสียแล้วเวลาเพื่อนคนนี้ติดพันใคร มักไม่ค่อยบอกอะไรกับเพื่อนอยู่แล้ว ขอแค่ว่าไม่ไปกกเอาแฟนของเพื่อนคนไหนอีกเป็นพอ เพราะไม่อยากให้มีปัญหาตามมาทีหลังอีก “พอขึ้นปีสี่ สังเกตุไหมว่ากลุ่มเราเริ่มหายหัวกันหมด ยิ่งใกล้ฝึกงานแบบนี้กูไม่เห็นหัวใครสักคน” วันนี้ที่นัดกันมาผับ ก็นัดกันมาทุกคน แต่เลยเวลานัดมากว่าชั่วโมงกลับเห็นแค่เขา
ความคิดเห็น