Share

One day, you'll kneel for me.
One day, you'll kneel for me.
Penulis: ดองกี้

Episode - 0

last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-11 15:19:38

“นายจะนอนไปถึงเมื่อไหร่ฟินน์? รีบลุกไปจัดการตัวเองได้แล้ว” น้ำเสียงของผู้เป็นนายนาม มาเวอริค คาร์ลอฟ ค่อนข้างหงุดหงิดและไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะเดิมทีหากทำหน้าที่เสร็จเรียบร้อย ฟินน์จะต้องออกจากห้องไปก่อนแล้ว แต่เมื่อคืนฟินน์ถูกมาเวอริคทำหนักเกินไป ตรงนี้จึงพอเข้าใจแต่การตื่นทีหลังเขา มันดูไร้ความรับผิดชอบต่อหน้าที่สิ้นดี

“อึก... ข ขออภัยครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้” ฟินน์กัดฟันยันตัวขึ้นลุกนั่ง ร่างกายเขาแทบไม่ไหวแต่ต้องทนฝืนเพื่อลงจากเตียง ตามตัวฟินน์มีแต่รอยกัด รวมถึงร่องรอยของนิ้วมือเต็มไปหมด มาเวอริคไม่สนใจท่าทีทรมานของฟินน์ ผู้เป็นนายหันหลังแล้วจัดการไดร์ผมให้แห้ง จัดทรงผม ทาครีมแล้วแต่งตัวด้วยเสื้อสเวทเตอร์แขนยาวสีดำ กางเกงสแลคสีน้ำตาลพับขาเล็กน้อย รองเท้าโลฟเฟอร์สีเดียวกับกางเกง มาเวอริคตรวจความเรียบร้อยแล้วคว้าเสื้อโค้ทตัวยาวที่มีขนาดพอดีกับขากางเกงมาคลุมไหล่

“ชิ...!” พอหันกลับมาเห็นว่าฟินน์เพิ่งลงจากเตียงไปอยู่หน้าประตูห้อง การเคลื่อนไหวชักช้าจนน่ารำคาญใจ แต่หากผู้เป็นนายลองสังเกตสักนิด เขาจะเห็นว่าสีหน้าของฟินน์ดูไม่ดีเลย “นายจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วกลับคาร์ลอฟไปซะ ฉันไม่ต้องการลูกน้องที่น่าหงุดหงิดแบบนาย” น้ำเสียงเย็นชาไร้หัวใจของมาเวอริคทำฟินน์รู้สึกแน่นหน้าอก ฟินน์เงยมองผู้เป็นนายที่เดินผ่านเขาไป ฟินน์ยังไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรผิดนักหนา

‘นายจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วกลับคาร์ลอฟไปซะ ฉันไม่ต้องการลูกน้องที่น่าหงุดหงิดแบบนาย’

ในวันนี้ วันที่ผู้เป็นนายและเจ้าของหัวใจออกปากไล่ด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

บอดี้การ์ดที่ชื่อ ฟินน์ ไอแซค เลยนึกตั้งคำถามขึ้นมากับตนเองว่า ความพยายามที่เขาทำมาทั้งหมดเคยส่งไปถึงบ้างหรือเปล่า? ฟินน์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แววตาที่ทอดมองสะท้อนภาพแผ่นหลังของ มาเวอริค คาร์ลอฟ ผู้เป็นนายที่เดินห่างออกไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งประตูห้องปิดลง ฟินน์ก็ยังคงคิดว่าการที่เขาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ผู้เป็นนายมันผิดมากเชียวหรือ?

สองพี่น้องมาร์การ์เล็ตที่คิดเข้าหามาเวอริค สายตาของฟินน์ที่ตรวจดูฝาแฝดตระกูลมาร์การ์เล็ตแล้ว เขาคิดว่าดูยังไงทั้งสองคนก็ไม่น่าไว้ใจ ในฐานะที่เป็นทั้งคนสนิทและลูกน้องที่ยืนข้างกายมาสิบปี ฟินน์จึงกีดกันไม่ให้เข้าใกล้ผู้เป็นนาย

ฟินน์รู้ รู้ดีมากกว่าใครว่าบุคคลที่แบกชื่อ มาเวอริค คาร์ลอฟ แข็งแกร่งมากแค่ไหน

ฟินน์รู้ว่าใครก็ตามที่อยู่เบื้องหน้า หากคิดแตะต้องมาเวอริคในแง่ร้าย ล้วนไม่มีทางรอดกลับไปได้สักคน

ฟินน์รู้แต่ฟินน์ก็จำเป็นต้องทำตามหน้าที่ที่แบกรับ หน้าที่ของคนสนิท หน้าที่ของลูกน้องและหน้าที่ของคนแอบรักที่ไม่อยากเห็นคนที่รักต้องมีบาดแผล แม้ท้ายที่สุดสิ่งที่เขาทำจะไร้ค่าและกลายเป็นคนผิดก็ตาม

"ลาออกดีไหมนะ?" พึมพำขึ้นมาแล้วพักเอาแรงก่อนสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย ฟินน์กลับมาที่ห้องพักซึ่งอยู่ชั้นที่ 11 การเดินที่ดูติดขัดของฟินน์ทำให้ใครต่อใครมองฟินน์แปลก ๆ ฟินน์แค่นยิ้มก่อนเข้าห้อง ปิดประตูแล้วทิ้งตัวลงนั่งลงบนพื้นห้อง

'นั่นมันตุ๊กตายางของท่านมาเวอริค’

นั่นคือความหมายของสายตาที่มองเขา เหล่าลูกน้องทุกคนในคาร์ลอฟต่างรู้เรื่องที่ฟินน์เป็นคู่นอนให้กับผู้เป็นนาย แน่นอนว่าเป็นคู่นอนแก้ขัดหากเขาหาสาวสวยมาให้ไม่ได้ ฟินน์หลับตาแล้วนึกถึงวันแห่งการเริ่มต้นของการเป็นคู่นอน

'การที่นายหาคู่นอนให้ฉันไม่ได้แล้วบอกจะรับผิดชอบน่ะ นายจะรับผิดชอบด้วยการยกตัวนายให้ฉันแทนหรือไง?'

'...ถ้าท่านไม่รังเกียจที่ผมเป็นผู้ชาย ผมก็พร้อมรับผิดชอบความผิดพลาดนี้ด้วยร่างกายผมครับ'

ฟินน์ยังจำสีหน้าของมาเวอริคได้ดีว่าคนคนนี้ตกใจมากแค่ไหน ฟินน์ที่เข้าทำงานเพียงสองปีแต่กลับไม่มีความหวาดกลัว ความเสียใจที่จะสละร่างกายตนเองให้ผู้เป็นนายได้ปลดปล่อยความต้องการ เมื่อมีครั้งแรก ก็ต้องมีครั้งต่อไป แล้วเมื่อไหร่กันที่ฟินน์ยกหัวใจให้กับคนใจร้าย?

มันกี่ปีแล้วนะที่ฟินน์แอบรักคนคนนี้? มันกี่ปีแล้วที่ยกหัวใจให้ไปโดยที่คนคนนั้นไม่ต้องการและไม่เคยร้องขอ มีแต่ฟินน์ที่โลภมากอยากได้หัวใจของ มาเวอริค คาร์ลอฟ ทั้งที่รู้ว่าไม่มีทางได้มา แต่ก็โลภจนเกินตัว มันถึงเวลาที่เขาควรพอแล้วหรือเปล่านะ?

"เวรเอ้ย ทำไมต้องอ่อนแอกับเรื่องแบบนี้ด้วยวะ" ฟินน์ยกฝ่ามือเช็ดน้ำตาที่อยู่ ๆ ก็ไหลลงมา แค่ข้างเดียวก็เกินทนแล้วแต่นี่ไหลมาพร้อมกันสองข้าง ให้ตายสิ คนที่ข้ามเส้นก่อนคือตัวเขาเองแท้ ๆ แต่กลับมานั่งเสียใจงั้นเหรอ? ทั้งที่รู้ตัวว่าไม่ไหวแล้วกับความรู้สึกนี้ แล้วทำไมถึงได้ดันทุรังโดยหวังว่าสักวันจะได้รับกลับมา?

โง่ชัด ๆ

กับแค่หัวใจคนคนเดียว ไม่เห็นจำเป็นต้องทำขนาดนี้เลย สิบปีที่ยืนข้างกาย ฟินน์ดันทุรังไปแล้วห้าปีเพื่อรักคนคนนี้ ตลกดีที่คนคนนั้นไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่าการทำหน้าที่ปกติธรรมดาของฟินน์

"ลาออกคงเป็นทางเดียวที่ดีที่สุด" ฟินน์ลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเลแล้วพาร่างกายอันบอบช้ำเข้าห้องน้ำ แววตาของฟินน์มองร่างกายที่สะท้อนในกระจก รอยกัดจนห้อเลือดมีหลายจุด รอยนิ้วมือ รอยช้ำจากแรงบีบตามแขน ที่ลำคอมีเพียงรอยคิสมาร์กที่ถูกดูดจนแดงแล้วมันก็เริ่มดูช้ำ ๆ แล้วด้วย ฟินน์ถอนหายใจแล้วเริ่มอาบน้ำทำความสะอาดช่องทาง

ระหว่างอาบน้ำ ฟินน์ได้คิดเกี่ยวกับการตัดสินใจของเขา ฟินน์รู้ดีว่าการลาออกจากคาร์ลอฟไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากจัดการได้ในเร็ววันก่อนเจ้านายกลับอิงเกรเซียน เขาจะมีเวลาหนีออกจากสายตาของมาเวอริค หนีไปหาแม่ที่ต่างประเทศคงเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย ฟินน์ยิ้มบางแล้วหลับตาปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านร่างกาย

ฟินน์ ไอแซค [อายุ 30 ปี]

สัญชาติ-เชื้อชาติ : อิงเกรเซียน

เพศ : ชาย / สูง : 184 เซนติเมตร / หนัก : 69 กิโลกรัม

ตำแหน่ง : คนสนิทของทายาทคาร์ลอฟ-มือขวา

ระยะเวลาการทำงาน : 10 ปี (เริ่มงานตอนอายุ 20 ปี)

สถานะ : ลาออก

ในเมื่อทวงคืนหัวใจไม่ได้ อย่างน้อยก็พาตัวเองออกจากตรงนั้นก็แล้วกัน (:

วันเดียวกันกับที่มาเวอริคเข้าเยี่ยมน้องชายที่โรนัลเดล ฟินน์ได้เดินทางออกจากรันเซียแม้สภาพร่างกายจะพร้อมในช่วงบ่าย และเขาก็กลับไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่ได้บอกใครสักคน

10 ชั่วโมงต่อมา

เท้าของฟินน์เหยียบแผ่นดินประเทศบ้านเกิดอย่างอิงเกรเซียน เขาไม่สบายตัวแต่ไม่คิดจะหยุดพัก ฟินน์นั่งรถตรงมาที่คฤหาสน์คาร์ลอฟ เข้าพบหัวหน้าบอดี้การ์ดที่เป็นคนคัดเขาให้มาเวอริคในอดีต แจ้งจุดประสงค์และเข้าพบผู้นำสูงสุดอย่าง เอดิสัน คาร์ลอฟ

การลาออกของเขาได้รับการอนุมัติแต่แลกมากับการถูกอเล็กซานเดอร์ซ้อม ถึงจะอนุญาตให้สวนกลับแต่ฟินน์ที่มีสภาพร่างกายติดลบย่อมทำอะไรไม่ได้ เป็นเวลากว่าสิบชั่วโมงตามระยะเวลาการทำงาน

ยิ่งทำมานาน ยิ่งรู้ข้อมูลเยอะ

เพื่อเป็นเครื่องหมายเตือนใจ หากปากพล่อยเรื่องคาร์ลอฟเมื่อไหร่ อเล็กซานเดอร์จะไม่ปล่อยเอาไว้แน่แม้จะอยู่สุดขอบโลกก็ตาม

"ฉันเสียดายนายจริง ๆ" อเล็กซานเดอร์คอยดูฟินน์มาตลอด ทั้งรูปร่าง ความสุขุมที่ดูสงบนิ่งราวหุ่นไร้วิญญาณ ฝีมือการต่อสู้ก็ไม่เป็นรองใคร น่าเสียดายที่ต้องเสียคนแบบนี้ไป

"แค่ก! แฮ่ก ดีใจนะครับ อึก ที่ได้ยินท่านพูดแบบนั้น" ฟินน์แทบลืมตาไม่ขึ้นแต่แค่เขารู้ว่ายังไม่ตาย แค่นี้ก็เกินพอแล้ว อเล็กซานเดอร์แบกฟินน์ที่หมดสติขึ้นบ่าแล้วพาไปส่งที่รถ ก่อนฟินน์จะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

หลังจากรถที่พาฟินน์ส่งโรงพยาบาลขับออกไป ใครคนหนึ่งก็เดินออกมาจากที่ซ่อนแล้วมองตามรถก่อนเอ่ยถามอเล็กซานเดอร์

"เขาลาออกจริง ๆ เหรอครับ?"

"ท่านอิการาชิ รู้เรื่องแล้วเหรอครับ" คนที่โผล่มาคือ อิการาชิ คาร์ลอฟ บุตรชายจากภรรยาคนที่สี่ เป็นบุตรเพียงคนเดียวที่มีเชื้อสายเอเชีย อิการาชิในชุดยูกาตะสีดำเดินเข้ามาหาอเล็กซานเดอร์พร้อมรอยยิ้ม

"ผมเพิ่งรู้จากท่านพ่อ ว่าแต่ท่านพี่มาเวอริครู้เรื่องหรือยังครับ?" อิการาชิเอ่ยถามพลางมองหน้าอเล็กซานเดอร์แล้วยิ้มจนดวงตาเป็นรูปจันทร์เสี้ยว เป็นยิ้มที่อเล็กซานเดอร์ไม่ชอบเท่าไหร่

"ยังครับ"

"แปลก แต่ก็น่ายินดีครับ" พูดจบก็ค่อย ๆ ลืมตาแล้วก้าวเดินกลับไปยังบ้านสไตล์ญี่ปุ่นที่ปลูกแยกอยู่ทางฝั่งขวาของคฤหาสน์ ระหว่างที่เดินอิการาชิก็ดึงแขนออกจากชุดยูกาตะที่ใส่ทำให้ช่วงบนของยูกาตะพับลง เผยให้เห็นรอยสักมังกรที่ถูกดาบญี่ปุ่นนับสิบเล่มทิ่มแทงอย่างเป็นศิลปะเต็มแผ่นหลัง ไม่ต่างอะไรกับรอยสักของยากูซ่าแต่ในรอยสักของทายาทคาร์ลอฟต่างมีความหมาย

มังกร คือตัวแทนของเอดิสันผู้เป็นบิดา

มาเวอริคเปรียบตนเป็นงูจึงมีรอยสักงูพันมังกรที่หวังว่าสักวัน มาเวอริคจะใช้คมเขี้ยวและพิษแว้งกัดมังกรตนนั้น เช่นเดียวกับอิการาชิที่มีเชื้อสายญี่ปุ่น ได้ใช้ดาบญี่ปุ่นแทงมังกรจนสะบักสะบอมหมดราศีของสัตว์ชั้นสูง แม้จะเป็นบิดาแต่พวกเขาต่างหมายจะโค่นมังกรลง และอเล็กซานเดอร์ที่เคียงข้างกายมังกรมาตลอด เขาจึงอยากเฝ้าดูว่าบุตรที่มังกรสร้าง จะมีตัวไหนล้มมังกรได้สำเร็จบ้าง ช่างน่าดูชมจริง ๆ ...

และแน่นอนว่าเขาจะเข้าขวางเพื่อไม่ให้มังกรตนนั้นได้ล้มลง ไม่มีวัน

ทางฟินน์ได้นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลร่วมสัปดาห์ เขานอนเหมือนตายด้วยร่างกายที่บอบช้ำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บวกกับโดนซ้อมแลกอิสระอีกสิบชั่วโมง ที่ยังมีชีวิตอยู่ได้นี่ก็น่าทึ่งมากแล้วจริง ๆ

และอีกสามวันฟินน์จะออกจากโรงพยาบาล เขาจะต้องออกจากประเทศภายในหนึ่งวัน เพราะหากอยู่นานกว่านี้ มาเวอริค คาร์ลอฟ อาจจะกลับมาที่อิงเกรเซียนก่อนเขาออกจากประเทศก็เป็นได้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • One day, you'll kneel for me.   Episode – 20 [ END ]

    ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาอันร่มเย็นในเวลาช่วงบ่ายของวัน มีรถวีลแชร์ที่มีชายคนหนึ่งนั่งอยู่พร้อมด้วยลูกเขยที่ยืนสูบบุหรี่อยู่เงียบ ๆ อังเดรได้เอ่ยขอเวลามาเวอริคเป็นการส่วนตัวเพื่อพูดคุย ซึ่งมาเวอริคเองก็ยินดีและเดินตามมาจนมาถึงใต้ต้นไม้นี้ เบื้องหน้าคือทุ่งข้าวสาลีสีเหลืองทองดูงดงาม ขยับพลิ้วตามแรงลมที่พัดผ่านและอีกไม่นานคงถึงเวลาเก็บเกี่ยวมันแล้ว“ที่มันง่ายขึ้นเพราะคุณใช่ไหม?” มาเวอริคเป็นคนเอ่ยทำลายความเงียบระหว่างพวกเขาสองคน แม้มาเวอริคจะยังมองตรงไปยังทุ่งข้างสาลีตรงหน้า แต่เขาก็ไม่ได้สนใจหรือใส่ใจมันมากนัก ตอนนี้มาเวอริคสนใจพ่อเลี้ยงของฟินน์มากกว่า ดูเป็นคนมีความสามารถพอสมควรแต่น่าเสียดายที่ดันกลายเป็นคนพิการ“คิดว่าคนแก่ ๆ อย่างผมจะทำอะไรได้กัน” อังเดรหัวเราะเบา ๆ ก่อนยิ้มแล้วมองทุ่งข้าวสาลี ยามมันพลิ้วไปตามแรงลมในทิศทางเดียวกัน “ผมขอถามอะไรคุณหน่อยสิ สักสองสามคำถาม”“ว่ามาสิ”“ก่อนอื่นผมขอบุหรี่สักมวนสิ” อังเดรเงยหน้าขึ้นมองคนข้างกาย มาเวอริหันมามองพ่อตาที่ยิ้มน้อย ๆ ก่อนส่งซองบุหรี่ราคาแพงพร้อมไฟแช็คซิปโป้ให้ อังเดรรับมาแล้วเคาะบุหรี่มาคาบไว้หนึ่งมวน จุดไฟสูบที่ปลายพลางมองควันส

  • One day, you'll kneel for me.   Episode - 19

    “นายยังไม่บอกฉันเรื่องแม่นาย” มาเวอริคเอ่ยบอกคนข้างกายที่ยังดูเพลียอยู่ ทางฟินน์ก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่ามาเวอริคจะออกเดินทางตอนตีสาม ไม่มีบอกอะไรกันเลยสักนิดแต่เล่นกอดเขาจนตีสองครึ่ง เวลาที่ฟินน์ได้นอนพักเอาแรงจึงมีเพียงแค่สามสิบนาทีเท่านั้น“พ่อกับแม่ผมหย่ากันตอนผมอายุราวสิบปีน่ะครับ แม่ย้ายมาจามิลก็หลังจากผมอายุสิบสอง แม่ทิ้งไว้เพียงเบอร์ติดต่อและผมเก็บติดตัวมาตลอด ก็แอบกังวลบ้างครับว่าแม่จะเปลี่ยนเบอร์แต่โชคดีที่เหมือนจะยัง ผมอยู่กับพ่อได้ประมาณห้าปี ถึงหนีออกจากบ้านแล้วเร่ร่อนอยู่ร่วมหนึ่งปี คาร์ลอฟถึงเก็บผมมาเลี้ยงและฝึกสอนอะไรต่าง ๆ ให้น่ะครับ” ฟินน์เล่าเรื่องราวของตนเองให้กับมาเวอริคฟัง แม้จะเพลียและอยากนอนพักสักหน่อยก็ตาม แต่ถ้าคนข้างกายอย่างรู้เรื่องของเขา ฟินน์ก็จะบอกให้หมดทุกเรื่อง“นายรู้ไหมว่าทำไมแม่นายถึงย้ายมาไกลถึงจามิล”“ถ้าผมเดาไม่ผิดก็คงหนีจากพ่อที่ช่วงแรกตามรังควานแม่ครับ ส่วนเหตุผลที่สองก็คงอยากเริ่มต้นใหม่ด้วยน่ะครับ” ฟินน์ยิ้มบางยามนึกถึงมารดา แต่พอนึกถึงหน้าแม่แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นกับมาเวอริคมันก็ฉายซ้ำอีกครั้ง “ผมขอถามคุณบ้าง คุณสะดวกใจจะพบแม่ผมหรือเปล่าครับ” ร

  • One day, you'll kneel for me.   Episode - 18

    ยิมต่อยมวยคือสถานที่ที่ฟินน์เลือกมารอในระหว่างที่มาเวอริคหลับ แต่ฟินน์ไม่ได้มาคนเดียวเพราะพ่วงด้วยบาโน่ โกร์และเกร์มาด้วย ทั้งสามไม่เข้าใจว่าฟินน์พามาทำไมแต่เมื่อเห็นอดีตหัวหน้าขึ้นบนสังเวียนมวยพร้อมผ้าสีขาวที่พันฝ่ามือ สายตาที่มองมายังพวกเขาพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ บนริมฝีปากนั้น“ใครจะไปก่อน” บาโร่กัดฟันถามเสียงเบา สายตาไม่กล้าละจากอดีตหัวหน้าเพราะเกรงว่า ทันทีที่หลบสายตาจะกลายเป็นแรกที่ถูกเรียก“แกไปก่อนสิ เกลียดหัวหน้าไม่ใช่หรือไง” โกร์ใช้ศอกกระทุ้งข้างเอวน้องชาย“นี่ผมเป็นน้องพี่นะเว้ย!” เกร์ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยิน“มาสุภาพอะไรตอนนี้ ฉันไม่สงสารแกหรอกน้องชาย”“เป็นพี่ที่ดีจริง ๆ !” เกร์ใช้ศอกกระทุ้งกลับแล้วมองไปบนสังเวียน ตอนนี้ฟินน์พันผ้าที่ฝ่ามือสองข้าวเรียบร้อยแล้วและกำลังมองลงมาพร้อมกับฝ่ามือที่กวักเรียก ไม่เจาะจงว่าเป็นใครแต่อยู่ที่ใครจะยอมสละชีวิตขึ้นไปก่อน เกร์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ยามเห็นร่างกายของฟินน์ที่สวมเพียงเสื้อกล้ามสีดำ กางเกงวอร์มขนาดพอดีตัวสีเดียวกัน ทั้งที่ลาออกจากการเป็นบอดี้การ์ดไปหลายเดือนแต่ร่างกายยังคงดูกำยำอยู่เหมือนเดิม เกร์เกลียดนะแต่ตอนนี้ชักอิจฉา

  • One day, you'll kneel for me.   Episode - 17

    มาเวอริคเดินกลับมาที่รถพร้อมปรับสีหน้าให้นิ่งลง นิ่งมากจนใครที่เห็นต่างพากันหลบสายตา บอกตามตรงว่าแม่ฟินน์คือตัวแปรที่มาเวอริคไม่คาดคิด ความจริงแล้วในวินาทีที่ฟินน์บอกจะไม่กลับมา มาเวอริคคิดจะใช้กำลังบังคับลากกลับรันเซียโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ถึงจะยอมรับเรื่องที่ตกใจมากก็ตามในจังหวะที่ฟินน์ไม่ยอมกลับ ทว่าในเมื่อยอมทำตามที่ต้องการขนาดนี้แล้วยังไม่ยอม ก็ได้เวลาที่เขาควรทำตามที่ตนเองต้องการบ้างสิถูกไหม? แต่แค่นึกถึงตอนที่ฟินน์เรียกเขาด้วยน้ำเสียงแบบนั้น มาเวอริคก็พลันไม่ชอบขึ้นมาเพราะดูเหมือนว่าฟินน์จะให้ความสำคัญกับแม่มาก“แม่งั้นเหรอ เหอะ!” ยกมือเสยผมลวก ๆ อย่างหงุดหงิดใจพลางเดาะลิ้นสบถคำหยาบมากมายออกมา ในตอนที่กำลังจะเปิดประตูรถเพื่อกลับขึ้นไปนั่งสงบสติอารมณ์ หางตามาเวอริคเห็นว่าลูกน้องของเขากำลังวิ่งกลับมาทางนี้ ถึงจะแปลกใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรนอกจากเปิดประตูแล้วขึ้นมานั่ง บาโน่ โกร์และเกร์รู้สึกผิดมากที่ละเลยหน้าที่ของตนเอง แต่ที่ตามไปก็เพราะอยากจะเห็นว่าข้างในนั้นเป็นแบบไหนภาพครอบครัวที่ดูอบอุ่นนั้นมันไม่เหมาะกับพวกเขาเลย ส่วนเอียนนั้นเหมาะสมแล้วเพราะหลังจากเกิดเรื่องนั้นขึ้น นี่เ

  • One day, you'll kneel for me.   Episode – 16

    การตามหาฟินน์ยังคงดำเนินต่อไปแม้จะยากลำบากและดูริบหรี่ แต่มาเวอริคก็ไม่คิดจะยอมแพ้แต่อย่างใดแต่กลับสร้างเครือข่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อสัปดาห์ที่เอียนลาพักงานไป มาเวอริคก็ได้ออกตามหาฟินน์ด้วยการขับรถและใช้รูปถ่ายของฟินน์ทั่วเมืองคลานู ปรากฏว่าที่สนามของสกายไดร์ฟมีข้อมูลของฟินน์ มีพนักงานเคยเห็นหน้าฟินน์ว่าฟินน์มาร่วมเล่นสกายไดร์ฟเช่นกัน แต่หลังจากนั้นมาเวอริคก็หาข้อมูลของฟินน์จากเมืองนี้ไม่ได้อีกเลย ราวกับว่าอยู่ ๆ ก็หายตัวไปยังไงอย่างนั้น“นายนี่มัน... ไหวตัวได้เร็วจริง ๆ” มาเวอริคบ่นกับภาพถ่ายแล้วถอนหายใจออกมา ภาพถ่ายนี้ก็เป็นภาพที่ได้จากอิการาชิโดยให้อิการาชิ เข้าหาในเครือข่ายของคาร์ลอฟเผื่อจะมีข้อมูลของบอดี้การ์ดครบทุกคน ทั้งที่ตายและยังอยู่ ทั้งที่ลาออกและยังทำงาน ผลของมันคืออิการาชิเอารูปถ่ายของฟินน์มาให้ได้ ปกติแล้วมาเวอริคไม่ได้ขับรถออกมาตามหาเองแบบนี้ เขาจะใช้เส้นสายและเครือข่ายที่เขาสร้างขึ้นมาตามหาฟินน์แบบสบาย ๆ เพียงแค่ออกปากก็นั่งรอรับข้อมูลได้เลยทว่ามาเวอริคอยากออกมารับอากาศภายนอกบ้างและอยากให้การตามหาฟินน์เป็นการเที่ยวไปในตัว มาเวอริคจะเข้าใจฟินน์ว่าทำไมถึงดูชอบในการท่อ

  • One day, you'll kneel for me.   Episode – 15

    เมืองคลานูเป็นเมืองใหญ่รองลงมาจากเมืองหลวงจามิล การท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อที่สุดของเมืองคลานูคือการปีนเขาเพื่อชมทิวทัศน์อันแสนงดงามของเมืองคลานู การเดินป่าตั้งแคมป์แบบหมู่คณะ และยังมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์อื่น ๆ อีกมากให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส ฟินน์เองก็เป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวที่กระหายในกิจกรรมเหล่านี้เช่นกัน“น่าเล่นทั้งนั้นเลยแฮะ” ฟินน์ยืนอ่านรายละเอียดของกิจกรรมแอดแวนเจอร์อย่างสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการกระโดดร่ม การปีนผาจำลอง ขับรถ ATV ล่องแก่งและอีกมากมาย แต่ที่ฟินน์สนใจมากที่สุดคือการกระโดดร่มและขับรถ ATV หลังจากยืนตัดสินใจอยู่นาน ฟินน์เลือกที่จะไปกระโดดร่มก่อนและตามต่อด้วยขับรถ ATV แม้ใจจริงจะอยากทำทุกอย่างแต่เวลามันไม่มากขนาดนั้นวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ฟินน์จะเที่ยวในเมืองคลานู สถานที่ต่อไปคือเมืองรัมเปลที่ขึ้นชื่อเรื่องวัฒนธรรมต่าง ๆ เรียกว่าเป็นเมืองที่รวบรวมวัฒนธรรมจามิลนับแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันเลยก็ว่าได้ ฟินน์สนใจและฟินน์อยากจะไปเชยชมเร็ว ๆ ดังนั้น การเที่ยวเมืองคลานูจึงจะจบลงในวันนี้ เมื่อตัดสินใจว่าจะเริ่มกระโดดร่มก่อน ฟินน์ก็เดินไปจองที่หน้างานในทันที ปกติแล้วต้องจองล่วงหน้าผ่านเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status