เฟิ่งหรั่นคิดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว ความรู้สึกของนางนางไม่อาจปล่อยวางได้ เฟิ่งอี้มิใช่ผู้ที่จะยอมรามือหากนางเกลียดผู้ใดสักคน เป้าหมายของเฟิ่งอี้คือการกำจัดตนเองที่เป็นพี่สาวและลู่เฟยหลง การที่นางทำเช่นนี้ย่อมต้องการทำให้ลู่อวี้กลายเป็นฮ่องเต้ ชะตาแคว้นเหลียวทั้งแคว้นขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ในคราวนี้ หากคราวนี้นางและสวามีถูกลอบสังหาร ลู่ฮ่องเต้จะไร้ซึ่งเสาหลักพิทักษ์ราชบัลลังก์ อีกทั้งองค์ชายน้อยลู่เสวียนก็ไม่อาจพ้นราชภัยครั้งนี้ได้แม้จะศึกษาอยู่นอกเมืองหลวงก็ตาม
แล้วเย่ไหลเซียงที่ร่วมมือในแผนการครั้งนี้อาจโดนเฟิ่งอี้กำจัด! ไม่ได้เด็ดขาด! นางจะไม่ยอมให้มีใครตายเพราะนางอีก คราก่อนเพราะนางถูกใส่ร้าย จึงทำให้ขันทีผู้ภักดีกับลู่อ๋องต้องกลายเป็นแพะรับบาปและต้องโทษประหารนั้น คราวนี้นางจะกระชากความจริงทั้งหมดออกมาและเก็บแหในคราเดียว “สัญญากับข้าสักข้อนะอวี๋ฟางหรง...” เฟิ่งหรั่นมองสหายรักด้วยแววตาแน่วแน่ ตอนนี้นางมีความกังวลเพียงไม่กี่สิ่งเท่านั้น และหันมามองจูเชว่สลับกัน ในห้วงนิมิตอดีตชาติ นางจำได้ดีว่าเป็นเพราะวิหคเพลิงหนุ่มที่อยู่เคียงข้างไป๋หู่มาตลอด และเตำหนักของซู่ไท่เฟยเฟิ่งอี้เดินทางมาตำหนักของซู่ไท่เฟย ซึ่งบัดนี้ย้ายมาอยู่ในเขตตำหนักคังเฉวียนของอดีตไทเฮาแล้ว เรื่องนี้หากเฟิ่งอี้วางแผนทำเพียงผู้เดียวก็ย่อมได้ แต่ว่าซู่ไท่เฟยนั้นกระหายในอำนาจมากเพียงใดข้อนี้เฟิ่งอี้ทราบดี ไท่เฟยในอดีตองค์จักรพรรดินางหมายมั่นปั้นมืออยากเป็นไทเฮามาเนิ่นนาน แต่ทว่าเฟิ่งอี้ไม่อาจทำเช่นนั้นได้ ด้วยตอนนี้อำนาจของไท่เฟยก็แทบจะคลุมทั้งวังหลวงอยู่แล้ว หากช่วยสถาปนาให้เป็นไทเฮา อำนาจของตนเองอาจจะถูกลดลงตำหนักคังเฉวียนถูกทำความสะอาดและประดับตกแต่งใหม่ นางมองซู่ไท่เฟยในอาภรณ์หรูหราสำหรับรอวันรับราชโองการแต่งตั้งเป็นไทเฮา แต่ทว่าสำหรับเฟิ่งอี้นั้นนางมีโชคดีอยู่อย่างหนึ่ง การที่นางทำให้ลู่อวี้ล้มป่วยจนไม่สามารถเดินเหินหรือออกว่าราชการได้นั้น ทำให้ซู่ไท่เฟยไม่สามารถรับการแต่งตั้งเป็นไทเฮาได้ง่าย แม้ว่าตอนนี้เฟิ่งอี้จะกลายเป็นผู้สำเร็จราชการตามธรรมเนียมราชวงศ์แล้วก็ตาม“ยินดีกับฮองเฮาพระองค์ใหม่ด้วยนะเพคะ” น้ำเสียงประชดประชันของซู่ไท่เฟยดังขึ้นมาเมื่อเฟิ่งอี้ก้าวขามาถึงหน้าประตูตำหนัก “ได้เป็นใหญ่ปกครองวังหลังแล้ว บัดนี้ก
“เจ้าเคยมีความละอายใจต่อนางหรือไม่?”เฟิ่งหรั่นถามเฟยเซียง คำถามนี้เป็นคำถามที่เสียดแทงความรู้สึกในจิตใจของหลินเอ๋อร์อย่างยิ่ง ต่อให้เฟยเซียงจะไม่เคยมอบความรักให้กับนาง เห็นนางเป็นเพียงเครื่องมือในการแก้แค้นทุกคน แต่ทว่านางก็อดผูกพันไม่ได้ ด้วยเพราะอีกฝ่ายก็เลี้ยงนางมาจนเติบใหญ่เช่นกัน ต่อให้เฟยเซียงคิดฆ่านางเมื่อคราวก่อน แต่ความรู้สึกส่วนลึกในใจที่อีกฝ่ายเป็นผู้มีพระคุณตนเองก็ไม่อาจเพิกเฉยเฟยเซียงสบตากับหลินเอ๋อร์ นางตอบว่า “ไม่เคยมี”หลินเอ๋อร์หลับตาลงอย่างปลงตก อย่างไรเฟยเซียงก็ยังเป็นตนเองอยู่วันยังค่ำ ต่อให้ตายอย่างไรก็ไม่มีวันยอมรับความจริงเบื้องหน้าที่เกิดขึ้นหรือต่อให้นำคชสารทั้งโขลงมาลากก็ไม่อาจฉุดอีกฝ่ายให้กลับมาเปลี่ยนใจแก้ไขความผิดนั้นได้“เจ้าคือหลินเอ๋อร์สินะ ไป๋ลู่บอกความจริงกับข้าหมดแล้ว ว่าเจ้านั้นคือน้องสาวข้า น้องสาวที่ถูกสลับตัวกับเฟิ่งอี้” เดิมทีนางควรดีใจที่ได้เจอกับน้องสาวที่พลัดพรากจากกัน แต่ทว่าสถานการณ์อันน่าตึงเครียดเช่นนี้นางไม่อาจทำได้ เฟิ่งหรั่นต้องการสะสางปัญหาทุกอย่
กระแสอสนีบาตค่อยๆ ไหลเวียนล้อมรอบร่างของสองหนุ่มสาวเอาไว้ในอาณาเขตของพวกมันอย่างน่าประหลาดใจ สถานที่แห่งนี้เป็นแดนลงทัณฑ์เซียนและมารทำให้ไม่มีผู้ใดที่เห็นเหตุการณ์จะสามารถเข้าใกล้ได้ แม้แต่เทียนตี้ซึ่งเป็นผู้ปกครองสูงสุดของแดนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็ตาม พระองค์ยังไม่อาจฝ่าฝืนกฎเช่นนี้ได้เลยวิญญาณของลู่เฟยหลงและเฟิ่งหรั่นต่างหลุดย้อนเข้ามาในห้วงอดีตของตนเอง เมื่อคราถูกลงทัณฑ์บนแท่นประหารเซียน เนื่องจากในยามนั้นเฟยเซียงได้วางแผนการเอาไว้โดยการให้เทียนตี้บังคับองค์หญิงเฟิ่งหรั่นในเพลานั้น ให้นำทัพออกรบเพื่อชดเชยความผิดที่ได้ก่อเอาไว้ แต่ทว่านอกจากจะปราชัยกลับมาแล้วนางกับไป๋หู่ยังถูกใส่ความจนต้องทัณฑ์หนักหนาสาหัสอย่างยิ่งเฟิ่งหรั่นเห็นตนเองในอดีตกำลังถูกลงทัณฑ์อย่างน่าเวทนา...นั่นคือนางในอดีตจริงหรือ?...นางเห็นสองแม่ทัพได้แก่จูเชว่และชิงหลง รวมถึงเทพลุ่ยกงและเทียนมู่กำลังใช้สายฟ้าลงทัณฑ์นางอย่างหนัก จนร่างนั้นทรุดนั่งลงบนแท่นลงทัณฑ์“อ๊ากกก!!” นางในคราวนั้นร้องออกมาเสียงดังแทบขาดใจ กระแสอสนีบาตจำนวนมากรว
เฟิ่งอี้กำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในวังอ๋องเก้า การที่ลู่อวี้บาดเจ็บล้มป่วยจนไม่สามารถขยับกายได้ และการตายของเย่ไหลเซียงที่มาจากนาง ทำให้เฟิ่งอี้รู้สึกเบิกบานใจยิ่งนักที่กำจัดขวากหนามที่กีดขวางตนเองมาเนิ่นนาน นางนั่งเล่นในตำหนักของตนเองโดยไม่รู้สึกผิดต่อสิ่งที่ได้กระทำเลยแม้แต่น้อย ไม่แม้แต่จะนึกถึงมารดาที่ไม่เคยรักนางอย่างเฟยเซียงเลยด้วยซ้ำแต่ว่า...เฟยเซียงโดนเทียนตี้จับไปเช่นนี้ นางจะเป็นเช่นไรกันนะ...“พระชายาเพคะ ท่านอัครมหาเสนาบดีกับฮูหยินมาขอเข้าเฝ้าเพคะ” นางกำนัลคนสนิทเข้ามากราบทูล เฟิ่งอี้ที่นอนเอกเขนกบนเก้าอี้ไม้ขนาดใหญ่ต้องลุกขึ้นจากภวังค์ นางมองผู้มาเยือนใหม่ด้วยรอยยิ้มละไม“ท่านแม่ ท่านพ่อ...ท่านมาเยี่ยมข้าหรือเจ้าคะ” เฟิ่งอี้กึ่งเดินกึ่งวิ่งหมายจะเข้าไปสวมกอดมารดาให้หายความคิดถึง แต่ทว่า...เพียะ! นางโดนฮูหยินเอกตบ!ใบหน้างดงามหันไปตามแรงตบหนึ่งที เฟิ่งอี้ใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งกุมใบหน้าข้างที่โดนตบพลางตวัดหางตามองอย่างไม่พอใจ “ท่านแม่ตบลูกด้วยเรื่องอันใดเจ้าคะ”นางถามน้ำเ
ซู่ไท่เฟยมองไทเฮาอย่างจาบจ้วง ทรงกล่าวว่า“หม่อมฉันมาที่นี่ไม่ได้มาในฐานะไท่เฟย แต่มาในฐานะมารดาที่ต้องการทวงความยุติธรรมให้บุตรชายเท่านั้นเพคะ” พระนางทรงกล่าวเสียงแข็งกับไทเฮา แม้จะเป็นกิริยาที่ไม่แสดงความเคารพเท่าใด ทว่าไทเฮาทรงไม่ต้องการถือสาเอาเรื่อง พระนางทรงพอทราบเรื่องของลู่อวี้มาบ้างแล้ว“เรื่องที่เกิดขึ้นกับลู่อวี้ ฝ่าบาททรงให้หมอหลวงสืบหาสาเหตุให้เจอ ข้าเข้าใจเจ้าดีในฐานะที่ข้าเองก็เป็นมารดา แต่การที่เจ้าบุ่มบ่ามเช่นนี้หาใช่นิสัยของเจ้าเลยนะไท่เฟย” ไทเฮาทรงพยายามกล่าวเตือนสติ แต่ทว่าซู่เจาอี๋หรือซู่ไท่เฟยทรงมิใช่คนเช่นนั้นอีกแล้ว“จะให้หม่อมฉันบอกตามตรงมั้ยล่ะเพคะ ว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจากลูกชายคนเล็กและลูกสะใภ้ของพระนางที่ทำให้อวี้เอ๋อร์ต้องเป็นแบบนี้ ลู่อวี้อยู่ดีๆ ตั้งแต่ทีแรก บุตรชายของท่านก็ยังยัดเยียดเย่ไหลเซียงมาให้เป็นชายาเอก แล้วดูสิ่งที่นางและหนานจิงอ๋องทำสิเพคะ! ทำร้ายบุตรชายของหม่อมฉันนั้นเกือบถึงตาย!” ซู่ไท่เฟยบันดาลโทสะ กระทั่งเซียวฮองเฮาต้องเตือนเบาๆ“ไท่เฟย โปรดทรงระวั
“พระองค์มาคราวนี้ก็ดี หม่อมฉันจะได้จบปัญหาความแค้นของหม่อมฉันสักที!” นางกัดฟันกล่าว แต่ทว่าพระพักตร์ที่สงบของเทียนตี้ทำให้นางรู้สึกร้อนรุ่มในอกด้วยไฟโทสะ เทียนตี้จึงกล่าวว่า“เรื่องทั้งหมดนั้นข้าจะพาเจ้าขึ้นไปตัดสินความผิดบนแดนสวรรค์ ให้เหล่าเทพเซียนทั้งหลายเป็นพยานในความผิดครั้งนี้...เฟยเซียง หากเจ้าแค้นข้ากับเทียนโฮ่ว ก็ควรลงมือกับคนที่ทำร้ายเจ้า แต่หรั่นเอ๋อร์นางดีกับเจ้ามาตลอด นางเคารพเจ้ามาตลอด นึกไม่ถึงว่าวันหนึ่งเจ้าจะทำร้ายนางได้ขนาดนี้” คำพูดของเทียนตี้ทำให้เฟิ่งหรั่นพอมีสตินึกขึ้นมาบ้าง ในแดนสวรรค์นางดีกับเฟยเซียง ไม่เคยทำให้อีกฝ่ายต้องรู้สึกตกต่ำแค่เพราะเป็นนางกำนัลที่รับใช้มารดา แต่บัดนี้ความแค้นทั้งหมดล้วนไม่เกี่ยวข้องกับนางเลยทั้งสิ้น เฟยเซียงต้องการสิ่งใดกันแน่ถึงทำเช่นนี้“ฮ่าๆ” เฟยเซียงหัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งนางกล่าวขึ้นมาว่า “สิ่งที่ทำให้ทรงเจ็บปวดที่สุด ยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็นคือการเห็นคนที่พระองค์รักมากที่สุด ต้องทุกข์ทรมาน และหม่อมฉันต้องการให้เป็นเช่นนั้น”“ท่านแม่...&