Share

บทที่ 5 บังเอิญ

Author: AngelBell
last update Last Updated: 2025-04-13 00:36:41

บทที่ 5

บังเอิญ

การทำงานท้าทายสภาพร่างกายจบสิ้นลง เมื่อตอนที่เข็มนาฬิกาบ่งบอกว่าเข้าสู่ช่วงสายของวันแล้ว

ฉันหอบพาร่างกายอันแสนหนักอึ้งให้ออกมาจากร้านสะดวกซื้อที่รับหน้าที่เป็นพนักงานพาร์ทไทม์ในช่วงกะเช้า ระหว่างทางเดินตามฟุตพาทตรงไปยังบ้านก็ใช้มือเล็ก ๆ คอยตบคอยบีบนวดตามบ่าไหล่ไปด้วย ส่วนมืออีกข้างที่ว่างก็กดจิ้มไปยังหน้าจอโทรศัพท์ เพื่อต่อสายโทรหาพี่สาวที่ตอนนี้หลงเหลือเป็นที่พึ่งในชีวิตเพียงคนเดียว

“ฮัลโหลพี่ด้าย ฮัลโหลได้ยินป่านไหม” โทรหาพี่สาวได้ไม่นานก็เห็นว่าปลายสายกดรับ นั่นจึงทำให้ฉันรีบกรอกเสียงออกไปทันที

[ได้ยิน แกโทรมามีอะไรหรือเปล่า]

“ก็พี่ด้ายเล่นหายไปหลายวันแบบนี้ป่านก็ต้องโทรตามสิ นี่พี่อยู่ไหนเนี่ย รู้ไหมว่าป่านโทรหาหลายสายแต่พี่ไม่รับเลย แล้ววันนี้พี่จะกลับบ้านหรือเปล่า พี่ไม่ได้กลับบ้านหลายวันเลยนะ งานยังไม่เสร็จอีกเหรอ”

คนที่กำลังสนทนาด้วยนั่นก็คือพี่สาวแท้ ๆ ของฉันที่ชื่อ ‘เส้นด้าย’ ที่ตอนนี้เดินทางไปทำงานเป็นไกด์ให้กับนักท่องเที่ยวที่ต่างจังหวัด หลังจากที่เราสองคนแยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ของตัวเองซึ่งก็คือการทำงานหาเงินเลี้ยงชีพ จวบจนตอนนี้ก็เข้าวันที่สี่ได้แล้วมั้งที่ฉันไม่ได้พูดคุยกับพี่สาวคนนี้เลย

ความจริงแล้วฉันเองก็ทั้งโทรหาและส่งข้อความไปทุกวันนั่นแหละ แต่พี่ด้ายไม่ตอบกลับอะไรมาเลยสักอย่าง นั่นจึงทำให้ฉันปล่อยคำถามมากมายออกไปกับคนปลายสายแบบนั้น

[พี่ยังทำงานอยู่เลย]

“อีกแล้วเหรอ...” เสียงของฉันอ่อนกำลังลงเมื่อรู้ว่าวันนี้ต้องอยู่บ้านคนเดียวอีกตามเคย

มันคงเป็นความเคยชินไปแล้วที่เราสองคนพี่น้องไม่ได้อยู่ด้วยกัน ด้วยภาระหน้าที่ที่แตกต่าง รวมถึงโชคชะตาที่บีบคั้นให้เราสองคนต้องดิ้นรนสู้ชีวิต หากแต่การได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตามันก็ย่อมดีกว่าการอยู่ตัวคนเดียวแบบนี้

[ทำไม มีอะไรหรือเปล่าป่าน]

“เมื่อวานป่านโชคร้ายมาก ๆ เลยพี่ด้าย ป่านเจอแต่อะไรก็ไม่รู้ นี่ป่านยังคิดเลยว่าถ้าป่านตายไปคงไม่ได้มาคุยโทรศัพท์กับพี่ด้ายแบบนี้” ความสั่นเครือแสดงออกชัดพร้อมกับหยาดน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอ

หวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่พบเจอก็ทำให้ฉันหวาดกลัวขึ้นมาอีกครั้ง ยอมรับเลยว่าสิ่งเดียวที่อยู่ในหัวสมองตอนนั้นก็คือความตายที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อม

ไหนจะเหตุการณ์ฝ่าดงกระสุนกับคนแปลกหน้า ไหนจะกระบอกปืนที่เตรียมจ่อยิงเพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นสายสืบ ทุกอย่างในค่ำคืนล้วนแต่เป็นภาพเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดในชีวิต

[เกิดอะไรขึ้นป่าน! แกเป็นอะไร บอกพี่มา!]

“เป็นห่วงป่านล่ะสิ คิก ๆ ไม่มีอะไรหรอกพี่ด้าย ป่านก็แค่โชคร้ายเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ควรน่ะ แต่ตอนนี้ก็ปลอดภัยแล้ว ป่านแค่อยากเล่าให้ฟังเฉย ๆ ป่านเหงา” ฉันฉีกยิ้มกว้างก่อนจะพยายามรีบปรับเปลี่ยนน้ำเสียงให้ร่าเริงและเป็นปกติมากที่สุด

ใจจริงอยากจะระบายและงอแงกับพี่สาวให้มากกว่านี้ แต่พอได้ยินน้ำเสียงที่ดูร้อนรนกระวนกระวายก็อดที่จะทำให้ฉันเลือกโกหกไม่ได้

แค่งานที่ต้องรับผิดชอบก็นับว่าหนักมากพอแล้ว ฉันไม่อยากเพิ่มความกังวลให้พี่ด้ายต้องคิดมากเพิ่มไปอีก

[แน่ใจนะ อย่าโกหกพี่นะ]

“แน่ใจสิ แล้วนี่พี่ด้ายว่างอยู่เหรอ หรือป่านโทรมารบกวนอ่า”

[พี่คงต้องวางแล้วล่ะ ยังไงก็อย่าลืมปิดบ้านล็อกบ้านให้ดี ๆ ดูแลตัวเองด้วยนะรู้ไหม]

ฉันพูดคุยกับพี่สาวอีกไม่กี่ประโยคก็วางสายไปเนื่องจากอีกฝ่ายต้องไปจัดการภาระงานของตัวเองต่อ ฉันจึงละโทรศัพท์ออกจากข้างแก้ม หากแต่ในจังหวะนั้นกลับมีสายที่โทรสวนเข้ามาพอดิบพอดี พลันเมื่อดูรายชื่อบุคคลที่โทรเข้ามาแล้วก็ทำให้ฉันฉีกยิ้มและเบิกตากว้าง โดยที่นิ้วมือก็รีบกดรับสายด้วยความร้อนรน

“เจ๊สวย! ป่านคิดถึงเจ๊สวยที่สุดเลย! เหมือนนางฟ้ามาโปรดสุด ๆ ป่านรอสายจากเจ๊ทุกวินาทีเลยนะ!”

[โอ๊ย! หนวกหูมาก! แกช่วยลดเสียงหน่อยได้ไหมยะชะนี แก้วหูฉันแตกหมดแล้วมั้ง!]

“ก็ป่านดีใจอ่า” ฉันลดระดับน้ำเสียงลงตามที่คนปลายสายบอก แต่ก็ยังส่งเสียงขำขันพร้อมกับรอยยิ้มฉีกกว้างที่ปรากฏบนใบหน้าอยู่ไม่หาย

[เจ๊จะพูดเลยนะจะได้ไม่เสียเวลา นี่ก็ต้องโทรหาเด็กอีกหลายคน คืองี้ มันมีงานเปิดตัวรถใหม่...]

เจ๊สวยอธิบายถึงเนื้อหางานที่ฉันจะได้รับรวมไปถึงวันและเวลานัดหมาย ซึ่งแน่นอนว่าฉันเองก็ตอบตกลงไปทันที เพราะอย่างที่บอกไปว่าฉันรอสายจากเจ๊สวยมาตั้งแต่แรก

ฉันพูดคุยกับคนปลายสายในระหว่างที่กำลังเดินกลับบ้าน จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ทางม้าลายสำหรับการข้ามถนน สายตากวาดมองดูรถพร้อมกับสัญญาณไฟ ครั้นเห็นว่าปลอดภัยก็ตัดสินใจก้าวเดินหวังจะเดินข้ามไปยังทางฟุตพาทอีกฝั่ง โดยที่มือก็ยังคงถือโทรศัพท์ให้แนบกับหูไปด้วย

แต่ทว่า...

“ได้เลยค่ะเจ๊ ป่านจะตั้งใจทำงาน ป่านจะ...กรี๊ด!!!”

ปรี๊ด!

การตอบโต้บทสนทนายังไม่ทันจบประโยคมันถูกแทนที่ด้วยเสียงกรีดร้องของฉัน เมื่อพบว่ามีรถยนต์คันหนึ่งกำลังขับแล่นพุ่งตรงมายังจุดที่ฉันยืนอยู่ด้วยความเร็วสูงสุด โดยไม่มีท่าทีว่าจะผ่อนกำลังลงแม้แต่น้อย

ความตกใจโลดแล่นส่งผลให้ขาสองข้างชะงักงันราวกับถูกสาปไปดื้อ ๆ ในหัวขบคิดจินตนาการไปไกลแสนไกลว่าอีกเสี้ยววินาทีต่อจากนี้ ร่างกายของฉันคงไม่เหลือชิ้นดีจากการถูกรถชนประสานอย่างแน่นอน

“ถ้าอยากตายก็ไปตายที่อื่น อย่ามาทำให้คนเขาเดือดร้อน!”

เสียงตะคอกแผดลั่นทำให้สติที่เตลิดกระเจิงกู่กลับเข้าที่ จากดวงตาที่หลับแน่นรอคอยชะตาเป็นต้องที่เปิดออกและหันขวับไปองยังต้นเสียงทันที

ทว่าสิ่งแรกที่เห็นนั้นคือรถตู้สีขาวที่จอดประชิดร่างกายซึ่งมีระยะห่างเพียงไม่ถึงหนึ่งเมตร ครั้นมองถัดไปยังเจ้าของเสียงที่อยู่ในความกรุ่นโกรธเป็นต้องเบิกตากว้างและรีบขยับเท้าหนีไปด้านหลังพัลวัน

“นี่เธอ!”

เสียงเข้มร้องขึ้นพร้อมกับนิ้วที่ชี้มาทางฉันด้วยท่าทางตกใจไม่ต่างกัน ร่างสูงที่ยืนอยู่ฝั่งประตูคนขับกำลังมองฉันด้วยดวงตาวาวโรจน์ ความจริงแล้วไม่น่าจะทำให้ฉันตกใจได้ขนาดนี้เลยถ้าหากเขาคนนั้นไม่ใช่คนที่เอาปืนเค้นถามความจริงจากฉันเมื่อคืน!

“เวรแล้ว!” ฉันสบถคำด่าออกมาสุดเสียงก่อนจะรีบสับฝีเท้าเพื่อหาหนทางหนีจากเขาคนนี้ให้เร็วที่สุด

แต่ก็ดูเหมือนว่าการกระทำของฉันจะช้ากว่ามือใหญ่ของเขาไปมาก เพราะตอนนี้คอเสื้อกำลังถูกกระชากรั้งเอาไว้ ทั้งยังถูกดันร่างกายให้ชิดติดกับตัวรถที่จอดสนิทอีกต่างหาก

“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าเจออีกครั้งเธอจะไม่โชคดีอีกแน่!”

“อึก...มันบังเอิญนะ ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย ฉันก็ข้ามถนนของฉันมาดี ๆ แต่ทำไม...”

“ใครส่งเธอมาวะ!”

คนตรงหน้าไม่สนใจกับคำอธิบาย ทั้งยังตวาดเสียงคำรามตอกหน้าจนร่างกายของฉันสั่นสะท้านด้วยความหวาดหวั่น

“ไอ้รุต! ทำอะไรของมึง!”

ทว่าเสียงเข้มทรงพลังที่เอ่ยแทรกขึ้นกลับกลายเป็นเหมือนเสียงจากสรวงสวรรค์ที่เข้ามาช่วยเหลือได้ทันเวลา แรงมือขยุ้มผ่อนคลายลงไปจากเดิมก่อนที่จะปล่อยให้เป็นอิสระ นั่นจึงทำให้ฉันรีบขยับตัวหนีก่อนจะหันสายตาไปมองยังต้นเสียง ซึ่งเป็นคนที่เพิ่งเดินลงมาจากตัวรถคันที่เกือบชนฉันเมื่อครู่

และใช่...เขาคือคุณไตร คนที่ลวนลามและคนที่บาดเจ็บในเหตุการณ์เมื่อคืน!

“นายครับ ผมว่าเธอคนนี้จะต้องเป็นคนของพวกนั้นแน่นอนเลยครับ เมื่อคืนนี้เธออยู่กับนายในที่เกิดเหตุแต่คุณตุลย์สั่งให้ผมปล่อยตัวเธอไป แถมวันนี้ยังมาดักหน้ารถสร้างสถานการณ์อีก”

“บ้าไปกันใหญ่! ฉันไม่ใช่สายสืบ! ฉันกำลังจะเดินกลับบ้าน นี่ก็ข้ามถนนอยู่เนี่ย รถของคุณต่างหากที่ขับไม่ดูสัญญาณไฟ!” ฉันรีบแผดเสียงในระดับที่ค่อนข้างดังพอสมควรตอบกลับไป

พยายามข่มความกลัวให้อยู่ในส่วนลึก เพราะตอนนี้ฉันกำลังถูกกล่าวหาให้ตกอยู่ในสถานะเลวร้ายนั้นอีกครั้ง โดยที่ตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วยเลยแม้แต่น้อย

“ให้จับตัวไปเลยไหมครับนาย มันคงไม่บังเอิญติดกันถึงสองครั้งหรอกครับ ผมมั่นใจ!” ผู้ชายคนนั้นไม่ได้สนใจกับคำพูดของฉันเลยสักนิด เขาหันไปถามหาความเห็นจากผู้เป็นนาย โดยที่มือก็คว้าหมับบีบรัดที่ข้อมือของฉันเอาไว้แน่นราวกับกลัวว่าจะหลบหนี

“เธอคือคนเมื่อคืนสินะ”

“คะ...คุณไตร ฉันไม่ใช่สายสืบอย่างที่ถูกกล่าวหา นี่ฉันกำลังจะเดินกลับบ้านจริง ๆ ส่วนเมื่อคืนคุณเองก็น่าจะรู้ดีว่าฉันเป็นพนักงานที่ร้านของคุณเวย์ ฉันบังเอิญเปิดประตูไปเจอคุณเท่านั้น ทุกอย่างมันคือเรื่องบังเอิญ!”

สายตาคมดุดันกดมองฉันด้วยความเรียบนิ่งโดยไม่มีคำพูดใดเอ่ยออกมา ในขณะนั้นมุมปากของเขาก็หยัดโค้งขึ้น หากแต่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกว่ามันคือรอยยิ้มอย่างที่ควรเป็นเลยสักนิด

มันเป็นเหมือนการกระทำที่กำลังเย้ยหยันกันมากกว่า!

“ไปไอ้รุต! อย่าเสียเวลา กูต้องเข้าประชุมสำคัญ”

ทว่าคำสั่งนั้นกลับทำให้ฉันเบิกตากว้างไปพร้อมกับลมหายใจที่ผ่อนออกมาเมื่อรอดพ้นจากสถานการณ์เลวร้าย ถึงสายตาของเขาจะไม่ดูเป็นมิตร แต่การที่ถูกปล่อยตัวอย่างง่ายดายก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับวันแย่ ๆ แบบนี้แล้ว

“แต่นายครับ ผมว่า...”

“ถ้าบังเอิญเจอกันครั้งที่สามมึงก็จัดการยัยนี่ได้เลย ไปได้แล้วกูรีบ!”

SAIPAN’ S PART ; END

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   ตอนพิเศษใส่ไข่

    ตอนพิเศษใส่ไข่[ มารุต & เส้นด้าย ]งานเลี้ยงสังสรรค์ฉลองปีใหม่ถูกจัดขึ้นที่ร้านอาหารสุดหรูริมแม่น้ำ โดยผู้สนับสนุนหลักก็คือไตรพัฒน์ผู้บริหารสูงสุดเนื่องจากต้องการให้เหล่าพนักงานภายใต้การปกครองได้พักผ่อนจากการทำงานหนักมาตลอดทั้งปีที่ผ่านมามารุตและเส้นด้ายก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนี้เหมือนกัน มารุตเองก็ทำงานให้ไตรพัฒน์ไม่ต่างจากเลขาคนหนึ่ง นอกจากเขาจะเก่งกาจเรื่องการต่อสู้แล้ว เรื่องเอกสารและงานบริหารเขาก็ไม่เป็นสองรองใครเลย ส่วนเส้นด้ายเองแม้ว่าจะเพิ่งเข้าทำงานที่นี่ได้ไม่ถึงครึ่งปี แต่ความสามารถของเธอก็สร้างผลงานและรายได้เข้าบริษัทมหาศาล เธอเก่งในเรื่องภาษา แถมยังมีแนวคิดใหม่ ๆ มานำเสนออยู่ตลอด ไอเดียการตลาดและการบริหารย่อมเกิดจากการตัดสินใจของเธอทั้งนั้นการทำงานอย่างดีเยี่ยมส่งผลให้บริษัทไทรอัมพ์ที่ไตรพัฒน์ถือครองนั้นมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ ในวงการธุรกิจต่างก็จับตามองและให้ความสนใจ อีกทั้งผู้ร่วมลงทุนใหม่ ๆ ก็ต่อแถวรอคอยด้วยกันทั้งนั้นงานเลี้ยงที่จัดขึ้นในวันนี้ไม่สามารถตอบแทนสิ่งที่ทุกคนลงมือลงแรงช่วยกันได้เลย หากแต่มันเป็นความตั้งใจเล็กน้อยของไตรพัฒน

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   ตอนพิเศษส่งท้าย ที่แรก

    ตอนพิเศษส่งท้ายที่แรกช่วงเข้าฤดูหนาวไตรพัฒน์ก็พาสายป่านและเด็กชายเตชน์มาเที่ยวที่ฮ่องกงเพื่อพักผ่อน หลังจากที่ช่วงก่อนหน้านั้นเขาเอาแต่โหมทำงานเนื่องจากต้องการหาวันหยุดยาวให้ครอบครัวถึงแม้จะเป็นเจ้าของธุรกิจ ซ้ำยังมีเงินมหาศาลที่ใช้ทั้งปีทั้งชาติก็ไม่มีวันหมด หากแต่คนที่เคยลำบากมาก่อนอย่างเขาย่อมเกลียดขยาดความรู้สึกนั้น นั่งจึงทำให้ไตรพัฒน์เลือกที่จะทำงานอยู่ตลอด เหตุผลก็เพื่อความสุขสบายของครอบครัวอันเป็นที่รักไตรพัฒน์เลือกมาที่ฮ่องกงอีกครั้งเพราะเป็นที่ที่ตัวเองคุ้นชิน เขามีภาพความทรงจำมากมายกับที่แห่งนี้ อีกทั้งตัวภรรยาอย่างสายป่านเองก็เห็นพ้องต้องกันว่าเธออยากมาที่นี่อีกครั้งเพราะตั้งใจจะมาไหว้เทพเจ้าแชกงเช่นเมื่อตั้งท้องเจ้าเตชน์ตอนนี้เด็กชายเตชน์เองก็อายุครบสองปีแล้ว อยู่ในช่วงกำลังซนกำลังมึน พูดจาฉอเลาะร่าเริง บ้างก็เผลอทำตัวเกินวัยจนคนเป็นพ่อและแม่แอบกุมขมับ“เอ...มันน่าจะอยู่แถวนี้สิ” ไตรพัฒน์เอ่ยในลำคอพลางกวาดสายตามองหาร้านอาหารที่ตั้งใจจะพาลูกเมียมากินโดยเฉพาะหลังจากออกจากโรงแรมที่พัก สถานที่แรกที่เขาอยากพาเมียและลูกมาก็คือร้านอาหารร้านเด็ดของฮ่องกง จากการเซิร์ซดูแผนที

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   ตอนพิเศษ 7 น้องเตชน์จะเอาของเล่น

    ตอนพิเศษ 7น้องเตชน์จะเอาของเล่นหนึ่งปีผ่านไปเด็กชายเตชน์อายุได้หนึ่งขวบห้าเดือนก็เริ่มวิ่งไล่จับกับคนในบ้านแล้ว โดยผู้ถูกไล่ก็คงไม่พ้นเหล่าลูกชายหน้าโหดของไตรพัฒน์ที่มีหน้าที่เสริมก็คือการเป็นเพื่อนเล่นของนายน้อยไปโดยปริยายเสียงหัวเราะดังลั่นไปทั่วทั้งตัวบ้าน เช่นเดียวกับเสียงฝีเท้าหนักที่วิ่งสลับขวักไขว่เพื่อหาพื้นที่หนีจากการจับกุมจากเจ้าตัวน้อย“นายน้อยทางนั้นค่ะ วิ่งเร็ว ไปจับโจรให้ได้” เสียงของแม่บ้านวัยกลางคนออกปากเชียร์พลางหัวเราะยกใหญ่ที่ได้เห็นภาพนายน้อยตัวจิ๋วของบ้านที่กำลังวิ่งไล่จับชายชุดดำหน้าโหด“จับ ๆ หยุดนะ พ้มจะจับ” เด็กชายเตชน์สับเท้าและพูดเสียงขึงขัง ตั้งหน้าวิ่งหมายไปจับโจรผู้ร้ายที่สวมบทบาท แม้คำพูดจะเจือจางไม่ชัดอยู่บ้างแต่พอจับใจความได้ว่าเจ้านายตัวน้อยนั้นกำลังพูดคำว่าอะไร“เอ้า นายน้อยจะจับพวกเอ็งแล้วนะโว้ย วิ่งหนีเร็ว” เป็นเสียงแม่บ้านอาวุโสที่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งแรงขำขันมันเป็นกิจกรรมเพียงอย่างเดียวที่เห็นมาตลอดหลายเดือน หากแต่มันกลับไม่ได้ทำให้เบื่อหน่ายเลยสักนิด หนำซ้ำยังเรียกเสียงหัวเราะและสร้างความสุขให้บ้านหลังใหญ่ได้มากขึ้นเป็นกอง“น้องเตชน์ทางนี้ครั

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   ตอนพิเศษ 6 คุณพ่อมือโปร

    ตอนพิเศษ 6คุณพ่อมือโปรเวลาเพียรผ่านไปอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นรอบตัวและเปลี่ยนแปลง รวมถึงหนึ่งชีวิตอย่างลูกตัวน้อยของไตรพัฒน์และสายป่านก็ได้ถือกำเนิดขึ้น กลายเป็นสีสันและความรักที่เติมเต็มบ้านหลังใหญ่ให้มีความสุขมากยิ่งขึ้นก่อนที่สายป่านจะคลอดเหล่าลูกน้องและแม่บ้านต่างก็ลงพนันแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันยกใหญ่ถึงเพศเจ้าตัวน้อยที่ยังไม่ลืมตาดูโลก แบ่งสัดส่วนแล้วเพศชายสี่สิบเปอร์เซ็นต์และเพศหญิงหกสิบเปอร์เซ็นต์ การคาดการณ์เกิดขึ้นกับความต้องการทางจิตใจล้วน ๆ ไม่ได้อ้างอิงตามหลักวิทยาศาสตร์ฝ่ายที่ลงพนันลูกชายให้เหตุผลว่าหากมีนายน้อยตัวจ้อยเป็นทายาทคนแรกก็คงมีผู้สืบตระกูล และแน่นอนว่าบ้านที่เต็มไปด้วยเหล่าชายฉกรรจ์ย่อมมีวิธีเล่นมากมายกับเด็กชายมากกว่าผู้หญิงในส่วนฝ่ายที่ลงเพศหญิงก็ให้เหตุผลตามมาว่าหากทายาทคนแรกเป็นผู้หญิงก็คงทำให้บ้านหลังใหญ่อ่อนหวานและสดใสขึ้น ได้ยินเสียงพูดคะพูดขา ได้รับยิ้มหวาน ๆ ที่น่าจะมาจากทางคนเป็นแม่เกินร้อย หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็คงได้เห็นภาพมาเฟียหนุ่มผู้โหดเหี้ยมอ่อนระทวยให้กับลูกสาวเป็นครั้งแรกแน่นอนว่าหลังจากที่ไตรพัฒน์และสายป่านรับรู้ว่าคนใ

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   ตอนพิเศษ 5 เจอลูก

    ตอนพิเศษ 5เจอลูก“อะ...อื้อ! ฮื่อ...คุณไตร เดี๋ยว...อื้อ!” คำพูดขาดห้วงก่อนที่มันจะหายลับกลืนกลับลงสู่ลำคอ เมื่อริมฝีปากร้ายฉกฉวยลงมาอย่างเอาแต่ใจหลังจากที่เดินเข้ามาในห้องแล้วจัดการล็อกประตูลงกลอนเสร็จสรรพไตรพัฒน์และสายป่านใช้เวลาในการเดินเล่นข้างนอกและทานอาหารร้านดังไม่กี่ชั่วโมงก็พากันกลับมาที่โรงแรม ครั้นเมื่อขาก้าวเข้ามาในห้องและประตูปิดสนิท คนที่รอคอยเวลานี้ก็รีบดันร่างกายเล็กของคนรักให้ชิดติดกับกำแพงเพื่อทวงคำสัญญาในทันทีอาจจะเรียกคำสัญญาไม่ได้เพราะสายป่านไม่ได้ตกลงกับเขา...“อ๊ะ...คุณไตรใจเย็นก่อน อะ...” เมื่อริมฝีปากเป็นอิสระก็ทำให้สายป่านพยายามเอ่ยห้ามคนเอาแต่ใจที่ตอนนี้แทบแปลงร่างเปลี่ยนเป็นคนละคนต้นคอขาวถูกลากไล้ด้วยลิ้นจากนั้นก็รู้สึกถึงแรงดูดดึงเบา ๆ ที่เธอมั่นใจว่าผิวกายของเธอจะต้องเกิดรอยแดงเด่นชัดแน่นอนรอยเก่ายังไม่ทันหายเลย...ไตรพัฒน์คลอเคลียกับต้นคอขาวก่อนจะเคลื่อนต่ำลงมายังเนินอก เขาเปิดเสื้อไหมพรมแขนยาวของสายป่านขึ้น เผยให้เห็นอกอวบขาวเนียนใต้บราเซียจนอดที่จะก้มเข้ามาขบงับและครอบครองด้วยปากไม่ได้“อื้อ...อะ...คุณไตรอย่าดูดแรง” สายป่านพยายามยกมือปิดปากตัวเองเ

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   ตอนพิเศษ 4 ขอพรต่อเทพเจ้า

    ตอนพิเศษ 4ขอพรต่อเทพเจ้าณ เมืองฮ่องกงหลังจากผ่านพ้นงานวิวาห์ไปได้สองเดือน ไตรพัฒน์ก็พาสายป่านมาฮันนีมูนโดยเลือกสถานที่ใกล้ ๆ ใช้เวลาในการเดินทางไม่กี่ชั่วโมงอย่างเมืองฮ่องกง เนื่องจากตอนนี้เธอกำลังตั้งท้อง เขาอยากพาเธอมาเปิดหูเปิดตา อีกทั้งก็ยังกังวลถึงความปลอดภัย ท้ายที่สุดจึงเลือกที่แห่งนี้เป็นที่แรกสำหรับการฮันนีมูนของคู่รักเมื่อเดินทางมาถึงโรงแรมที่จองล่วงหน้า ไตรพัฒน์ก็จัดการเก็บข้าวของและรวมถึงจัดการสั่งอาหารที่ฟร้อนท์มาทานเพราะข้างนอกฝนกำลังตกหนัก จึงไม่สามารถออกไปเดินเล่นหรือแวะร้านอาหารได้ ในส่วนคุณแม่มือใหม่เองก็นอนพักเอาแรงในระหว่างที่สามีกำลังดูแลความเรียบร้อยแม้จะเป็นทริปที่เดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมง และตัวเธอแทบจะไม่ได้ย่ำเดินเพราะไตรพัฒน์เรียกใช้บริการรถเข็นจากสนามบินตลอดทั้งทาง หากแต่ความเหนื่อยล้าก็ทำให้ร่างกายเธออ่อนกำลังได้เหมือนกัน“ป่าน...อาหารมาแล้ว จะกินเลยหรือเปล่าหืม” เสียงทุ้มนุ่มหูเอ่ยแนบชิดอย่างอ่อนโยนพานทำให้คนที่เพิ่งหลับใหลรู้สึกตัว ก่อนจะได้รับจูบหวาน ๆ ที่ประทับอยู่บนเรือนผม ทำเอาเธอแทบไม่อยากจะลืมตาหรือขยับเขยื้อนเลยสักนิด“คนดี...ตื่นแล้วแต่ทำไมไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status