แชร์

บทที่ 5 บังเอิญ

ผู้เขียน: AngelBell
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-13 00:36:41

บทที่ 5

บังเอิญ

การทำงานท้าทายสภาพร่างกายจบสิ้นลง เมื่อตอนที่เข็มนาฬิกาบ่งบอกว่าเข้าสู่ช่วงสายของวันแล้ว

ฉันหอบพาร่างกายอันแสนหนักอึ้งให้ออกมาจากร้านสะดวกซื้อที่รับหน้าที่เป็นพนักงานพาร์ทไทม์ในช่วงกะเช้า ระหว่างทางเดินตามฟุตพาทตรงไปยังบ้านก็ใช้มือเล็ก ๆ คอยตบคอยบีบนวดตามบ่าไหล่ไปด้วย ส่วนมืออีกข้างที่ว่างก็กดจิ้มไปยังหน้าจอโทรศัพท์ เพื่อต่อสายโทรหาพี่สาวที่ตอนนี้หลงเหลือเป็นที่พึ่งในชีวิตเพียงคนเดียว

“ฮัลโหลพี่ด้าย ฮัลโหลได้ยินป่านไหม” โทรหาพี่สาวได้ไม่นานก็เห็นว่าปลายสายกดรับ นั่นจึงทำให้ฉันรีบกรอกเสียงออกไปทันที

[ได้ยิน แกโทรมามีอะไรหรือเปล่า]

“ก็พี่ด้ายเล่นหายไปหลายวันแบบนี้ป่านก็ต้องโทรตามสิ นี่พี่อยู่ไหนเนี่ย รู้ไหมว่าป่านโทรหาหลายสายแต่พี่ไม่รับเลย แล้ววันนี้พี่จะกลับบ้านหรือเปล่า พี่ไม่ได้กลับบ้านหลายวันเลยนะ งานยังไม่เสร็จอีกเหรอ”

คนที่กำลังสนทนาด้วยนั่นก็คือพี่สาวแท้ ๆ ของฉันที่ชื่อ ‘เส้นด้าย’ ที่ตอนนี้เดินทางไปทำงานเป็นไกด์ให้กับนักท่องเที่ยวที่ต่างจังหวัด หลังจากที่เราสองคนแยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ของตัวเองซึ่งก็คือการทำงานหาเงินเลี้ยงชีพ จวบจนตอนนี้ก็เข้าวันที่สี่ได้แล้วมั้งที่ฉันไม่ได้พูดคุยกับพี่สาวคนนี้เลย

ความจริงแล้วฉันเองก็ทั้งโทรหาและส่งข้อความไปทุกวันนั่นแหละ แต่พี่ด้ายไม่ตอบกลับอะไรมาเลยสักอย่าง นั่นจึงทำให้ฉันปล่อยคำถามมากมายออกไปกับคนปลายสายแบบนั้น

[พี่ยังทำงานอยู่เลย]

“อีกแล้วเหรอ...” เสียงของฉันอ่อนกำลังลงเมื่อรู้ว่าวันนี้ต้องอยู่บ้านคนเดียวอีกตามเคย

มันคงเป็นความเคยชินไปแล้วที่เราสองคนพี่น้องไม่ได้อยู่ด้วยกัน ด้วยภาระหน้าที่ที่แตกต่าง รวมถึงโชคชะตาที่บีบคั้นให้เราสองคนต้องดิ้นรนสู้ชีวิต หากแต่การได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตามันก็ย่อมดีกว่าการอยู่ตัวคนเดียวแบบนี้

[ทำไม มีอะไรหรือเปล่าป่าน]

“เมื่อวานป่านโชคร้ายมาก ๆ เลยพี่ด้าย ป่านเจอแต่อะไรก็ไม่รู้ นี่ป่านยังคิดเลยว่าถ้าป่านตายไปคงไม่ได้มาคุยโทรศัพท์กับพี่ด้ายแบบนี้” ความสั่นเครือแสดงออกชัดพร้อมกับหยาดน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอ

หวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่พบเจอก็ทำให้ฉันหวาดกลัวขึ้นมาอีกครั้ง ยอมรับเลยว่าสิ่งเดียวที่อยู่ในหัวสมองตอนนั้นก็คือความตายที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อม

ไหนจะเหตุการณ์ฝ่าดงกระสุนกับคนแปลกหน้า ไหนจะกระบอกปืนที่เตรียมจ่อยิงเพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นสายสืบ ทุกอย่างในค่ำคืนล้วนแต่เป็นภาพเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดในชีวิต

[เกิดอะไรขึ้นป่าน! แกเป็นอะไร บอกพี่มา!]

“เป็นห่วงป่านล่ะสิ คิก ๆ ไม่มีอะไรหรอกพี่ด้าย ป่านก็แค่โชคร้ายเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ควรน่ะ แต่ตอนนี้ก็ปลอดภัยแล้ว ป่านแค่อยากเล่าให้ฟังเฉย ๆ ป่านเหงา” ฉันฉีกยิ้มกว้างก่อนจะพยายามรีบปรับเปลี่ยนน้ำเสียงให้ร่าเริงและเป็นปกติมากที่สุด

ใจจริงอยากจะระบายและงอแงกับพี่สาวให้มากกว่านี้ แต่พอได้ยินน้ำเสียงที่ดูร้อนรนกระวนกระวายก็อดที่จะทำให้ฉันเลือกโกหกไม่ได้

แค่งานที่ต้องรับผิดชอบก็นับว่าหนักมากพอแล้ว ฉันไม่อยากเพิ่มความกังวลให้พี่ด้ายต้องคิดมากเพิ่มไปอีก

[แน่ใจนะ อย่าโกหกพี่นะ]

“แน่ใจสิ แล้วนี่พี่ด้ายว่างอยู่เหรอ หรือป่านโทรมารบกวนอ่า”

[พี่คงต้องวางแล้วล่ะ ยังไงก็อย่าลืมปิดบ้านล็อกบ้านให้ดี ๆ ดูแลตัวเองด้วยนะรู้ไหม]

ฉันพูดคุยกับพี่สาวอีกไม่กี่ประโยคก็วางสายไปเนื่องจากอีกฝ่ายต้องไปจัดการภาระงานของตัวเองต่อ ฉันจึงละโทรศัพท์ออกจากข้างแก้ม หากแต่ในจังหวะนั้นกลับมีสายที่โทรสวนเข้ามาพอดิบพอดี พลันเมื่อดูรายชื่อบุคคลที่โทรเข้ามาแล้วก็ทำให้ฉันฉีกยิ้มและเบิกตากว้าง โดยที่นิ้วมือก็รีบกดรับสายด้วยความร้อนรน

“เจ๊สวย! ป่านคิดถึงเจ๊สวยที่สุดเลย! เหมือนนางฟ้ามาโปรดสุด ๆ ป่านรอสายจากเจ๊ทุกวินาทีเลยนะ!”

[โอ๊ย! หนวกหูมาก! แกช่วยลดเสียงหน่อยได้ไหมยะชะนี แก้วหูฉันแตกหมดแล้วมั้ง!]

“ก็ป่านดีใจอ่า” ฉันลดระดับน้ำเสียงลงตามที่คนปลายสายบอก แต่ก็ยังส่งเสียงขำขันพร้อมกับรอยยิ้มฉีกกว้างที่ปรากฏบนใบหน้าอยู่ไม่หาย

[เจ๊จะพูดเลยนะจะได้ไม่เสียเวลา นี่ก็ต้องโทรหาเด็กอีกหลายคน คืองี้ มันมีงานเปิดตัวรถใหม่...]

เจ๊สวยอธิบายถึงเนื้อหางานที่ฉันจะได้รับรวมไปถึงวันและเวลานัดหมาย ซึ่งแน่นอนว่าฉันเองก็ตอบตกลงไปทันที เพราะอย่างที่บอกไปว่าฉันรอสายจากเจ๊สวยมาตั้งแต่แรก

ฉันพูดคุยกับคนปลายสายในระหว่างที่กำลังเดินกลับบ้าน จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ทางม้าลายสำหรับการข้ามถนน สายตากวาดมองดูรถพร้อมกับสัญญาณไฟ ครั้นเห็นว่าปลอดภัยก็ตัดสินใจก้าวเดินหวังจะเดินข้ามไปยังทางฟุตพาทอีกฝั่ง โดยที่มือก็ยังคงถือโทรศัพท์ให้แนบกับหูไปด้วย

แต่ทว่า...

“ได้เลยค่ะเจ๊ ป่านจะตั้งใจทำงาน ป่านจะ...กรี๊ด!!!”

ปรี๊ด!

การตอบโต้บทสนทนายังไม่ทันจบประโยคมันถูกแทนที่ด้วยเสียงกรีดร้องของฉัน เมื่อพบว่ามีรถยนต์คันหนึ่งกำลังขับแล่นพุ่งตรงมายังจุดที่ฉันยืนอยู่ด้วยความเร็วสูงสุด โดยไม่มีท่าทีว่าจะผ่อนกำลังลงแม้แต่น้อย

ความตกใจโลดแล่นส่งผลให้ขาสองข้างชะงักงันราวกับถูกสาปไปดื้อ ๆ ในหัวขบคิดจินตนาการไปไกลแสนไกลว่าอีกเสี้ยววินาทีต่อจากนี้ ร่างกายของฉันคงไม่เหลือชิ้นดีจากการถูกรถชนประสานอย่างแน่นอน

“ถ้าอยากตายก็ไปตายที่อื่น อย่ามาทำให้คนเขาเดือดร้อน!”

เสียงตะคอกแผดลั่นทำให้สติที่เตลิดกระเจิงกู่กลับเข้าที่ จากดวงตาที่หลับแน่นรอคอยชะตาเป็นต้องที่เปิดออกและหันขวับไปองยังต้นเสียงทันที

ทว่าสิ่งแรกที่เห็นนั้นคือรถตู้สีขาวที่จอดประชิดร่างกายซึ่งมีระยะห่างเพียงไม่ถึงหนึ่งเมตร ครั้นมองถัดไปยังเจ้าของเสียงที่อยู่ในความกรุ่นโกรธเป็นต้องเบิกตากว้างและรีบขยับเท้าหนีไปด้านหลังพัลวัน

“นี่เธอ!”

เสียงเข้มร้องขึ้นพร้อมกับนิ้วที่ชี้มาทางฉันด้วยท่าทางตกใจไม่ต่างกัน ร่างสูงที่ยืนอยู่ฝั่งประตูคนขับกำลังมองฉันด้วยดวงตาวาวโรจน์ ความจริงแล้วไม่น่าจะทำให้ฉันตกใจได้ขนาดนี้เลยถ้าหากเขาคนนั้นไม่ใช่คนที่เอาปืนเค้นถามความจริงจากฉันเมื่อคืน!

“เวรแล้ว!” ฉันสบถคำด่าออกมาสุดเสียงก่อนจะรีบสับฝีเท้าเพื่อหาหนทางหนีจากเขาคนนี้ให้เร็วที่สุด

แต่ก็ดูเหมือนว่าการกระทำของฉันจะช้ากว่ามือใหญ่ของเขาไปมาก เพราะตอนนี้คอเสื้อกำลังถูกกระชากรั้งเอาไว้ ทั้งยังถูกดันร่างกายให้ชิดติดกับตัวรถที่จอดสนิทอีกต่างหาก

“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าเจออีกครั้งเธอจะไม่โชคดีอีกแน่!”

“อึก...มันบังเอิญนะ ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย ฉันก็ข้ามถนนของฉันมาดี ๆ แต่ทำไม...”

“ใครส่งเธอมาวะ!”

คนตรงหน้าไม่สนใจกับคำอธิบาย ทั้งยังตวาดเสียงคำรามตอกหน้าจนร่างกายของฉันสั่นสะท้านด้วยความหวาดหวั่น

“ไอ้รุต! ทำอะไรของมึง!”

ทว่าเสียงเข้มทรงพลังที่เอ่ยแทรกขึ้นกลับกลายเป็นเหมือนเสียงจากสรวงสวรรค์ที่เข้ามาช่วยเหลือได้ทันเวลา แรงมือขยุ้มผ่อนคลายลงไปจากเดิมก่อนที่จะปล่อยให้เป็นอิสระ นั่นจึงทำให้ฉันรีบขยับตัวหนีก่อนจะหันสายตาไปมองยังต้นเสียง ซึ่งเป็นคนที่เพิ่งเดินลงมาจากตัวรถคันที่เกือบชนฉันเมื่อครู่

และใช่...เขาคือคุณไตร คนที่ลวนลามและคนที่บาดเจ็บในเหตุการณ์เมื่อคืน!

“นายครับ ผมว่าเธอคนนี้จะต้องเป็นคนของพวกนั้นแน่นอนเลยครับ เมื่อคืนนี้เธออยู่กับนายในที่เกิดเหตุแต่คุณตุลย์สั่งให้ผมปล่อยตัวเธอไป แถมวันนี้ยังมาดักหน้ารถสร้างสถานการณ์อีก”

“บ้าไปกันใหญ่! ฉันไม่ใช่สายสืบ! ฉันกำลังจะเดินกลับบ้าน นี่ก็ข้ามถนนอยู่เนี่ย รถของคุณต่างหากที่ขับไม่ดูสัญญาณไฟ!” ฉันรีบแผดเสียงในระดับที่ค่อนข้างดังพอสมควรตอบกลับไป

พยายามข่มความกลัวให้อยู่ในส่วนลึก เพราะตอนนี้ฉันกำลังถูกกล่าวหาให้ตกอยู่ในสถานะเลวร้ายนั้นอีกครั้ง โดยที่ตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วยเลยแม้แต่น้อย

“ให้จับตัวไปเลยไหมครับนาย มันคงไม่บังเอิญติดกันถึงสองครั้งหรอกครับ ผมมั่นใจ!” ผู้ชายคนนั้นไม่ได้สนใจกับคำพูดของฉันเลยสักนิด เขาหันไปถามหาความเห็นจากผู้เป็นนาย โดยที่มือก็คว้าหมับบีบรัดที่ข้อมือของฉันเอาไว้แน่นราวกับกลัวว่าจะหลบหนี

“เธอคือคนเมื่อคืนสินะ”

“คะ...คุณไตร ฉันไม่ใช่สายสืบอย่างที่ถูกกล่าวหา นี่ฉันกำลังจะเดินกลับบ้านจริง ๆ ส่วนเมื่อคืนคุณเองก็น่าจะรู้ดีว่าฉันเป็นพนักงานที่ร้านของคุณเวย์ ฉันบังเอิญเปิดประตูไปเจอคุณเท่านั้น ทุกอย่างมันคือเรื่องบังเอิญ!”

สายตาคมดุดันกดมองฉันด้วยความเรียบนิ่งโดยไม่มีคำพูดใดเอ่ยออกมา ในขณะนั้นมุมปากของเขาก็หยัดโค้งขึ้น หากแต่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกว่ามันคือรอยยิ้มอย่างที่ควรเป็นเลยสักนิด

มันเป็นเหมือนการกระทำที่กำลังเย้ยหยันกันมากกว่า!

“ไปไอ้รุต! อย่าเสียเวลา กูต้องเข้าประชุมสำคัญ”

ทว่าคำสั่งนั้นกลับทำให้ฉันเบิกตากว้างไปพร้อมกับลมหายใจที่ผ่อนออกมาเมื่อรอดพ้นจากสถานการณ์เลวร้าย ถึงสายตาของเขาจะไม่ดูเป็นมิตร แต่การที่ถูกปล่อยตัวอย่างง่ายดายก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับวันแย่ ๆ แบบนี้แล้ว

“แต่นายครับ ผมว่า...”

“ถ้าบังเอิญเจอกันครั้งที่สามมึงก็จัดการยัยนี่ได้เลย ไปได้แล้วกูรีบ!”

SAIPAN’ S PART ; END

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   บทที่ 6 บังเอิญ…อีกแล้ว!?

    บทที่ 6บังเอิญ…อีกแล้ว!?หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปงานเปิดตัวรถนำเข้าถูกจัดขึ้นที่ฮอลล์ของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง โดยมีแขกมาร่วมงานไม่ต่ำกว่าพันชีวิต เนื่องจากงานในวันนี้เป็นที่จับตามองของกลุ่มลูกค้ากระเป๋าหนัก รวมไปถึงวงการข่าวมากมายที่ต่างก็ให้ความสนใจไม่ต่างจากวันรวมตัวคนดังระดับประเทศรถยนต์คันหรูราคาแปดหลักจอดเรียงรายอยู่ในพื้นที่ ซึ่งการจัดงานในวันนี้อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท Triumph Auto Service โดยผู้บริหารผู้รังสรรค์และเนรมิตทุกอย่างนั่นก็คือไตรพัฒน์ไตรพัฒน์เดินเข้ามาในงานพร้อมลูกน้องติดตามด้านหลังจำนวนสามคน หนึ่งในนั้นมีมารุตมือขวาคนสนิทที่คอยตรวจสอบความเรียบร้อยของงาน เช่นเดียวกับความปลอดภัยของผู้เป็นนายจวบจนภารกิจในวันนี้จะจบสิ้นไปได้ด้วยดีการรวมตัวผู้คนมากมายภายในงานแห่งนี้ย่อมมีความเสี่ยงกับผู้ทรงอิทธิพลอย่างไตรพัฒน์มาก นอกจากจะไม่สามารถควบคุมแขกร่วมงานได้แล้ว ความเสี่ยงต่อการถูกทำร้ายก็มีมากกว่าปกติหลายเท่าตัว หากแต่งานที่ถูกจัดขึ้นย่อมก็เป็นกิจกรรมสำคัญที่ทำให้ไตรพัฒน์หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะออกจากที่มืดและกลายเป็นจุดล่อเป้ากับศัตรูที่หวังพรากชีวิต“ตอนนี้ทุกอย่างปกติดีครับ ผม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-13
  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   บทที่ 7 กระสุนปริศนา

    บทที่ 7กระสุนปริศนาSAIPAN’S PART ;เวร!เวรแล้วไงไอ้ป่าน!คำคำนี้เป็นคำเดียวที่กำลังวนเวียนอยู่ในหัวสมองของฉันตอนนี้เวร เวร แล้วก็เวร!ฉันกดใบหน้าให้หันตรงไปยังกล้องนับสิบที่กำลังจับภาพ แต่สติและจิตวิญญาณกลับว้าวุ่นจนแทบไม่รับอะไรเข้าสู่สมองได้อีกแล้วการปรากฏตัวของเขาคุณไตรทำให้ฉันตกใจจนแทบสลบ ทั้งการยืนประชิดจนต้นแขนชิดกับแผ่นหลังของฉัน ทั้งสายตาที่จดจ้องราวกับจะฆ่าแกงกันให้ตาย ไหนจะคำพูดทิ้งท้ายของเขาก่อนจะหันไปส่งยิ้มกรีดกรายให้กับกล้องนั้นอีกทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนแต่ทำให้ฉันช็อกสติแตกจนไม่สามารถเรียกคืนได้อีกแล้ว“ยิ้มสิ ไม่เห็นเหรอว่ากล้องจับอยู่” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นอีกครั้งพลันทำให้ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจพร้อมกับจังหวะการหันใบหน้าไปมองไม่รู้เลยว่าเขามาที่นี่ในสถานะอะไร แต่ถ้าจะให้เดินหนีหรือผลักไสก็คงต้องบอกตามตรงว่าใจไม่กล้าพอที่จะทำแบบนั้นแม้จะไม่รับรู้ตัวตน แต่ฉันก็รู้ว่าเขาโหดเหี้ยมและน่ากลัวเพียงใดจากเหตุการณ์ที่พบเจอ รวมถึงถูกลูกน้องของเขาจับตัวฉันเข้าไปเค้นถาม มันก็พอจะคาดเดาได้แล้วว่าเขาคงมีอิทธิพลไม่น้อยเลยทีเดียว“ขอบคุณมากเลยครับคุณไตร แหมเจ้าของงานเดินเข้ามาถ่ายร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-15
  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   บทที่ 8 หน้าด้าน

    บทที่ 8หน้าด้านสติอันน้อยนิดยังพอประคับประคองให้อยู่รอดจวบจนถึงที่หมายอันพิศวง รถยนต์คันหรูจอดที่หน้าตัวบ้านหลังใหญ่ก่อนที่ร่างกายของฉันจะถูกตวัดโอบอุ้มด้วยวงแขนแกร่งของคุณไตร ซึ่งฉันเองก็จับใจความได้ว่าเขากำลังพาฉันเข้ามาด้านในตัวบ้านหลังนั้น และวางฉันลงบนเตียงนุ่มภายในห้องห้องหนึ่ง“รออยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวหมอก็มาแล้ว”เสียงเข้มเอ่ยบอกใกล้ ๆ ทำให้ฉันหันใบหน้าไปมองก็พบว่าคุณไตรได้ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงข้าง ๆ กัน ก่อนที่เขาจะบรรจงใช้สำลีปาดเช็ดบาดแผลที่ตอนนี้มีเลือดไหลหลั่ง“ที่นี่ที่ไหนคะ”“บ้านฉัน”“ฉันไม่รู้เรื่องกับคนที่ต้องการยิงคุณในวันนี้นะคะ ฉันมาทำงานจริง ๆ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นฉันก็ไม่ได้สร้างสถานการณ์ให้ตัวเองเจ็บตัวด้วย” ฉันข่มความเจ็บปวดเอาไว้และพยายามเอ่ยอธิบายความจริงออกไป แม้ว่าน้ำเสียงจะเบาบางจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์ก็ตาม“นอนเฉย ๆ ไปเถอะ ทำแผลเสร็จค่อยว่ากัน”“เดี๋ยวสิ อ๊ะ!” ร่างกายที่หยัดขึ้นจากเตียงเป็นต้องชะงักก่อนที่ฉันจะทิ้งตัวนอนลงดังเดิม เนื่องด้วยความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบริเวณบาดแผลถูกยิง“นอนลงไป จะลุกขึ้นมาทำไมวะ!”“ก็ฉัน...”ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!เสียงดังแทรกขึ้นก่อนที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-15
  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   บทที่ 9 อย่าได้เจอกันอีก

    บทที่ 9อย่าได้เจอกันอีก“ฉันไม่ได้สร้างสถานการณ์เรื่องงานในวันนี้นะคะ”ทันทีที่เดินตามเขาเข้ามาในห้องฉันก็รีบพูดอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เป็นไป เนื่องจากรู้ดีว่าตอนนี้สถานะของตัวเองนั้นตกอยู่ในกำมือของเขาโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้“เธอเป็นอะไรกับไอ้ตุลย์”“หะ...ฮะ?” เสียงเข้มของเขาทำเอาฉันถึงกับหลุดเสียงในลำคอออกมาเบา ๆครั้นลองทบทวนถึงคำพูดของเขาซ้ำ ๆ ถึงได้เข้าใจว่าสิ่งที่เขาถามนั้น คงจะหมายถึงความสัมพันธ์ของฉันและน้องชายของเขาเป็นแน่“ถามก็ตอบ”“อะ...เอ่อ คือเราเรียนมหา’ลัยเดียวกันค่ะ” ฉันให้คำตอบอ้อม ๆก็อย่างที่เคยบอกว่าฉันรู้จักตุลย์นั้นก็เพราะเขาค่อนข้างมีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัย แถมเพื่อนของตุลย์เองก็เคยตามจีบฉันอยู่สักพักเหมือนกัน แต่ด้วยไลฟ์สไตล์และความแตกต่าง ความสัมพันธ์กับเพื่อนของตุลย์จึงไม่ได้พัฒนาไปมากกว่านั้น“รู้จักมันได้ยังไง”“ก็เป็นเพื่อนที่มหา’ลัยไง แต่คนละคณะ รู้จักกันก็เพราะเพื่อนของน้องชายคุณเคยคุย ๆ กับฉัน แถมน้องชายคุณเองก็ไม่ธรรมดา พูดง่าย ๆ ก็เกือบทั้งมหา’ลัยรู้จักตุลย์กันหมดนั่นแหละ!”ความหงุดหงิดส่งผลให้ฉันพูดเรื่องราวทั้งหมดออกมา โดยน้ำเสียงที่ตอบกลับล้วนเต็มไปด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-15
  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   บทที่ 10 วางยา (1)

    บทที่ 10วางยา (1)หลายวันผ่านไปการดีลสินค้าล็อตใหญ่เกิดขึ้นที่ดาร์กไนต์บาร์ตามความต้องการของไตรพัฒน์ ที่ตั้งใจอยากหาที่เจรจาบวกกับการดื่มสังสรรค์ ซึ่งสถานที่แรกที่เขานึกถึงก็คงไม่พ้นที่แห่งนี้เนื่องจากเป็นร้านของน้องชายคนสนิท และภายในร้านก็มีโซนที่ถูกจัดแบ่งให้ความเป็นส่วนตัวเจ้าของร้านจัดเตรียมสถานที่และเลือกปิดโซนร้านชั้นบนให้มาเฟียหนุ่มทั้งหมด รวมถึงพนักงานดูแลที่คิดว่าไว้ใจได้อย่างสายป่าน และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ก็คือผู้หญิงคอยบริการ เวย์คินรู้ว่าการเจรจาหากจะผ่านพ้นไปโดยง่ายนั้นก็ต้องมีของกำนัลมาแลกเปลี่ยนเป็นธรรมดา“ฮ่า ๆ ผมเอาทั้งหมดเลยคุณไตร คุณเสนออะไรมาผมก็รับไว้ทั้งหมดนั่นแหละ ก็อย่างที่บอกว่าผมน่ะไว้ใจคุณ ผมรู้ว่าของจากบริษัทคุณมันดีทั้งนั้น”เสียงพูดคุยเคล้าไปด้วยเสียงหัวเราะกังวานเป็นตัวบ่งบอกได้ว่าการเจรจาดีลสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่น ไตรพัฒน์ยิ้มรับบาง ๆ พลางโน้มตัวหยิบวิสกี้สีอำพันมาเติมให้กับคู่ค้าคนสำคัญเองกับมือ เมื่อเห็นว่าของเหลวภายในแก้วทรงเตี้ยนั้นพร่องไปจนเกือบครึ่งแล้ว“ขอบคุณครับเสี่ยยศ เสี่ยโอนเงินมาเมื่อไหร่ อีกสองวีคก็เตรียมรับสินค้าไปได้เลยครับ แล้วก็ไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-15
  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   บทที่ 11 วางยา (2)

    บทที่ 11วางยา (2)“ผมเซ็นครบหมดแล้วใช่ไหมครับคุณไตร ขาดตกตรงไหนไปหรือเปล่า” เสี่ยยศเอ่ยถามหลังจากส่งหนังสือสัญญาการสั่งซื้อให้กับไตรพัฒน์ได้ตรวจสอบ“เรียบร้อยครับเสี่ย ขอบคุณมากครับที่ไว้วางใจ หลังจากนี้ก็รอรับของสบาย ๆ ได้เลย” ไตรพัฒน์กวาดสายตามองเร็ว ๆ ก่อนจะเก็บพับเอกสารแล้ววางลงที่โซฟาข้างตัวเมื่อเสร็จสิ้นการเจรจา วิธีส่งท้ายคู่ค้าก็คือการจับมือแล้วจึงแยกย้าย ซึ่งจังหวะนั้นมารุตลูกน้องคนสนิทก็เดินเข้ามาพอดิบพอดี สายตาคมเข้มมองไปยังลูกน้อง เห็นการโค้งศีรษะรับน้อย ๆ ที่แม้แต่ไม่ต้องเอ่ยเอื้อนคำใดก็เป็นอันเข้าใจ“อ้าวไอ้รุต ไปไหนมาวะเนี่ย ไม่อยู่กินเหล้าด้วยกัน”“ผมไปจัดการงานให้นายมาน่ะครับ แล้วนี่เสี่ยจะกลับแล้วเหรอครับ” มารุตค้อมศีรษะลงเมื่อถูกมือใหญ่ตบเบา ๆ ที่บ่าแกร่ง“จะกลับแล้วล่ะ กูจะไปขึ้นสวรรค์ ไว้เจอกันนะ ผมไปนะครับคุณไตร” ทิ้งท้ายคำพูดเป็นเสียงหัวเราะชอบใจที่ดังกึกก้องไปทั่วทั้งร้านเสี่ยยศเดินออกไปพร้อมกับลูกน้องสองคนที่ตามติด สีหน้าแช่มชื่นรื่นเริงเหมือนว่าจะได้ขึ้นสวรรค์ดั่งคำพูดจริง ๆ และการกระทำนั้นกลับทำให้มารุตถึงกับอดที่จะขำออกมาไม่ได้ เพราะล่วงรู้การณ์ข้างหน้าว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-16
  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   บทที่ 12 ไม่ใช่ฝัน

    บทที่ 12ไม่ใช่ฝันความเมื่อยขบตามร่างกายและอาการวิงเวียนของศีรษะ ทำให้คนบนเตียงที่นอนหลับตาพริ้มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ครั้นขยับตัวเหยียดแขนขาเล็กน้อยเป็นต้องชะงักและรีบเปิดเปลือกตาโพลง เนื่องจากสัมผัสความอ่อนนุ่มและกลิ่นหอมผ่อนคลายที่เข้าสู่โสตประสาทนั้นมันไม่ใช่สัมผัสจากห้องนอนส่วนตัวของตัวเอง“ทะ...ที่นี่ที่ไหน!” สายป่านดีดตัวขึ้นจากเตียงอย่างไม่สนใจกับอาการวิงเวียนศีรษะ เหตุเพราะสภาพห้องที่ไม่คุ้นตากลับทำให้เธอหวาดหวั่นจนหวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เกิดขึ้น“เมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้น...” เสียงเล็กพึมพำเบา ๆ พลางขบคิดนึกย้อนไปยังค่ำคืนที่หัวสมองน่าจะยังพอจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ้าง“มึงมาช่วยกูประคองอีนี่ไปที่ห้อง เบา ๆ นะเว้ย เสี่ยสั่งมาว่าห้ามช้ำห้ามมีแผล!” เสียงเข้มดังกังวานก่อนที่ร่างแบบบางจะถูกตวัดช้อนและตรงปรี่ไปยังรถตู้สีดำเงาที่จอดรออยู่ไม่ไกล ชายร่างยักษ์ตัวใหญ่ช่วยประคองหญิงสาวให้ขึ้นไปบนรถตู้ หากแต่เสียงดุดันของใครคนหนึ่งกลับดังแทรกขึ้น ครั้นหันไปก็พบว่าเป็นชายคนหนึ่งที่กำลังจ่อกระบอกปืน โดยมีจุดหมายก็คือกลางกบาลของคนตัวโต“ปล่อยผู้หญิงซะ” “มึงเป็นใครวะ ถ้าไม่อยากตายก็ถอยไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-16
  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   บทที่ 13 ผู้หญิงของฉัน

    บทที่ 13ผู้หญิงของฉันSAIPAN’S PART ;ข้อมือของฉันถูกฉุดรั้งให้เข้ามาในห้องห้องหนึ่งซึ่งดูเหมือนว่าเป็นห้องที่คุณไตรใช้มันเป็นที่ทำงาน เนื่องจากฉันเห็นว่าภายในห้องนี้มีทั้งโต๊ะและชั้นวางเอกสารมากมาย ไม่ต่างจากสำนักงานขนาดย่อมเลยสักนิดทันทีที่เข้ามาในห้องคนตัวใหญ่ก็ผลักให้ฉันนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะ ส่วนเจ้าตัวก็เดินอ้อมแล้วนั่งประจำที่เก้าอี้หนังสีดำฝั่งตรงข้าม ราวกับเป็นการสัมภาษณ์งานระหว่างเจ้านายและลูกน้องไม่มีผิดถ้าจะผิดก็คือฉันไม่ใช่ลูกน้อง และคุณไตรเองก็ไม่ใช่เจ้านายของฉันเช่นกัน!“ป่านนี้คุณหมอคงโกรธแย่เลยนะคะ” ฉันเปิดประโยคออกมาเป็นคนแรก เนื่องจากเห็นว่าบรรยากาศภายในห้องเริ่มเกิดความอึดอัดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก“แล้วไง”“ก็คุณกับคุณหมอ...”“หมอรินเป็นแค่หมอ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรมากกว่านั้น”“อ้อ...” ฉันยิ้มรับบาง ๆ พลางพยักหน้าเมื่อได้ยินคำพูดหนักแน่นจนต้องรีบหลบสายตาหนี“จำได้ใช่ไหม เรื่องเมื่อคืน”“อึก...” ฉันถึงกับกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ เมื่อได้ยินหัวข้อสนทนาใหม่นั่นก็คือเรื่องเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ทั้งที่ในตอนแรกตั้งใจจะถามเขาให้รู้แล้วรู้รอด แต่พอเห็นสายตาดุ ๆ บวกกับภาพแนบชิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-17

บทล่าสุด

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   บทที่ 45 พลาด

    บทที่ 45พลาด“กล่อมเด็กเข้านอนเรียบร้อยแล้วเหรอครับ”เมื่อไตรพัฒน์เดินเข้ามาในห้องทำงาน เสียงของมือขวาคนสนิทก็ไม่วายเอ่ยแซวอย่างขบขัน นัยน์ตาพราวเป็นประกาย จนคนที่ถูกถามเป็นต้องรีบปั้นหน้านิ่งขรึมพร้อมกับกดสายตาดุส่งไปให้“ไอ้ตุลย์ไปถึงหรือยัง”“อ้าว นายยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะครับ” มารุตเลือกที่จะถามต่อ น้ำเสียงหยอกเย้าไม่เกรงกลัวในอำนาจของผู้เป็นนาย เพราะทำงานด้วยกันมานานหลายปี การได้เห็นนายตัวเองกล่อมเด็กสาวคนโปรดเข้านอนก็นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าเก็บภาพเป็นที่ระลึกไว้มากที่สุด“ไอ้รุต!” ไตรพัฒน์ตวัดสายตาดุดันให้กับมือขวา ทั้งที่เปลี่ยนเรื่องเข้าสู่งานในค่ำคืนนี้แล้วก็ยังไม่วายไล่ต้อนเขาถึงสิ่งที่ไม่เคยทำอย่างการง้องอนเด็กในปกครองแต่เขาก็ทำมันไปแล้วจริง ๆ นั่นแหละ...“โอเคครับ ไม่พูดแล้วครับ ตอนนี้คุณตุลย์ไปรอยังจุดนัดหมายแล้วครับนาย คนของเรารายงานว่าอีกสิบนาทีลูกค้าก็จะเดินทางมาถึง” มารุตยกมือปิดปากตัวเองเมื่อได้ยินน้ำเสียงเข้ม ๆ ของนายที่แสดงออกว่าไม่มีทีท่าจะเล่นด้วย จากนั้นถึงได้วกกลับเข้าเรื่องการส่งสินค้าที่เขาได้มอบหมายให้ตุลธรผู้เป็นน้องชายจัดการ“แล้วเรื่องหนอนมึงคิดว่าใคร”

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   บทที่ 44 เลี้ยงส่ง

    บทที่ 44เลี้ยงส่งวันสุดท้ายของการเป็นนักศึกษาฝึกงานไม่มีภาระความรับผิดชอบใด ๆ นอกเหนือจากการเลือกร้านอาหารให้กับหัวหน้าสาวเลี้ยงอำลาก่อนจะแยกจากกันเมื่อถึงเวลาเลิกงานเหล่าพนักงานออฟฟิศก็รวมตัวกัน โดยมีการนัดหมายและจุดหมายปลายทางเป็นสถานที่เดียวกันก็คือร้านอาหารไม่ใกล้ไม่ไกลจากบริษัท จุดประสงค์ก็เพื่อเป็นการเลี้ยงส่งน้องเล็กสุดอย่างสายป่านที่จะไม่ได้มาทำงานที่บริษัทอีกต่อไปแล้ว“โห พี่นุ้ย...สั่งอาหารไว้รอแล้วเหรอคะเนี่ย”ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องอาหารที่ถูกจองไว้ล่วงหน้าก็เป็นต้องตกตะลึงเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าหัวหน้าสาวที่สนิทสนมกันจะเลือกจองห้องรับรองพิเศษเพื่อความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังสั่งอาหารไว้ล่วงหน้าที่ตอนนี้กำลังวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะจนเธอตาลายไปหมด“ระดับพี่นุ้ยไม่ธรรมดาอยู่แล้วแหละป่าน” เสียงจากทางด้านหลังซึ่งเป็นของหนึ่งในพี่ที่ทำงานที่เธอเองก็สนิทสนมด้วยเช่นกัน“ใช่จ้ะ เลี้ยงส่งป่านทั้งทีนี่นา ป่านน่ะเป็นเด็กฝึกงานคนแรกของบริษัทเราเลยนะ แถมพี่เองก็ทั้งรักทั้งเอ็นดู นี่ยังเสียดายเลยที่ครบกำหนดฝึกงานแล้ว ไม่งั้นพี่จะขอให้บอสทำสัญญาว่าจ้างต่อนะเนี่ย”“โอ๊ย อย่าเพิ่งพูดกันเลย

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   บทที่ 43 ระบายอารมณ์

    บทที่ 43ระบายอารมณ์ฉันเดินไปเดินมาภายในตัวบ้านเนื่องจากเป็นห่วงและไม่รู้ว่าคุณไตรจะเป็นยังไงบ้าง หลังจากที่เขาเก็บตัวอยู่ในห้องทำงานหลายชั่วโมง ก็มีเพียงพี่มารุตคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ ลองสอบถามจากพี่มารุตตอนที่เขาเดินออกมาก็ได้รับเพียงการส่ายหน้า นั่นเลยทำให้ฉันเลือกที่จะรอคอยเขาอยู่ด้านล่าง และหวังให้เขากลับมาเป็นตัวของตัวเองได้ในไม่ช้าเหตุการณ์ในวันนี้นับว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบริษัทไทรอัมพ์มาก นอกจากจะพลาดการร่วมหุ้นกับนักธุรกิจคนสำคัญแล้ว เขายังถูกหยามหน้ากับบริษัทคู่แข่งที่หวังแย่งชิงพื้นที่ทางธุรกิจอีกด้วยแล้วสิ่งที่เจ็บช้ำที่สุดที่ทำให้คุณไตรเดือดดาลมากขนาดนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ออกไป พอรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเรื่องนี้กับใคร หากแต่มันหลุดรอดถึงอีกฝ่ายจนถูกตัดหน้าแก่งแย่งแบบนี้ มันเลยทำให้คิดเป็นอื่นไม่ได้เลยว่าเขากำลังถูกหักหลังจากคนที่เป็นหนอนแฝงตัวและสิ่งที่ทำให้ฉันสะท้อนใจก็คือเรื่องนี้...หากฉันคิดร่วมมือเป็นนางนกต่อหวังพรากชีวิตของเขา ฉันก็ไม่ต่างจากหนอนบ่อนไส้ดี ๆ นี่เอง!“ผมว่าคุณไปหาอะไรรองท้องสักหน่อยน่าจะดีนะครับ นั่งรอแบบนี้มันก็ไม่มีอะไรดีข

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   บทที่ 42 ปาดหน้าเค้ก

    บทที่ 42ปาดหน้าเค้กSAIPAN’S PART ;บรรยากาศตอนเช้าของบ้านหลังใหญ่ตกอยู่ในความวุ่นวายที่มีกำลังชายชุดดำมากกว่าเดิมสองเท่า เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่คุณไตรจะต้องออกไปดีลกับหุ้นส่วนคนใหม่ที่จะร่วมหุ้นกันในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า“หล่อแล้วค่ะ” ฉันเอ่ยพร้อมรอยยิ้มหลังจากที่จัดแจงสวมใส่ชุดสูทราคาแพงให้กับคุณไตร เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับนัดหมายในไม่ช้า“ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” เสียงทุ้มเอ่ยถามกันอย่างอ่อนโยน ขณะที่มือใหญ่ก็ค่อย ๆ ประคองสัมผัสที่ผ้าพันแผลจากการถูกยิงบริเวณต้นแขนของฉันอย่างเบามือหลังจากที่คุณไตรพาฉันกลับมาที่บ้านหลังใหญ่ของเขา เขาก็เรียกหาหมอรินให้มารักษาเป็นการด่วน แต่โชคดีมากที่กระสุนไม่ได้ฝังเข้าสู่เนื้อกาย บาดแผลแค่ฉีกเล็ก ๆ เท่านั้น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นล้วนแต่เป็นความตั้งใจของคนอีกฝ่ายทุกอย่าง“นิดหน่อยค่ะ” ฉันตอบและหลบสายตาลงเพราะไม่อาจหาญพอที่จะมองหน้าเขาได้ตอนนี้รู้สึกอับอายไม่กล้าสู้หน้า ทั้งยังสับสนวุ่นวายจนไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของตัวเองความจริงที่ถูกเปิดเผยว่าพี่สาวที่หลงเหลืออยู่ในชีวิตนั้นเป็นมือปืนหวังพรากชีวิตคนที่ฉันเผลอมอบควา

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   บทที่ 41 เหยื่อล่อ (2)

    บทที่ 41เหยื่อล่อ (2)พลั่ก!“อ๊ะ!” สายป่านร้องขึ้นเมื่อร่างสูงใหญ่ของชายชุดดำผลักให้เข้ามาด้านในโกดังมืดทึบ จนร่างกายล้มลงกระแทกกับพื้น“เฮ้ย เบาหน่อยสิวะ เดี๋ยวน้องเขาก็ระบมหมด” ผู้เป็นนายที่เดินตามมาเอ่ยปราม หากแต่แท้จริงกลับยิ้มหยันพอใจ และไม่ได้มีท่าทีตำหนิคนของตัวเองเลยสักนิด“อย่ามายุ่งกับน้องสาวฉัน!” เส้นด้ายรีบวิ่งเข้ามาผลักคนตัวใหญ่ออกห่าง ก่อนจะตรงปรี่เข้ามาประคองรั้งร่างกายน้องสาวของตัวเองเอาไว้ เพราะไม่ต้องการให้ใครหน้าไหนมาแตะต้องทั้งนั้น“อ้อ...พี่สาวของหวงซะด้วย มึงก็ระวังหน่อยสิวะ ผลักเขาล้มแบบนั้นเกิดผัวน้องเขามาเล่นงานกูจะทำยังไง” เรย์ยียวน รอยยิ้มเหยียดหยันเมื่อเห็นสองพี่น้องมองเขาด้วยความจงเกลียดจงชัง และคนที่พูดถึงก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากไตรพัฒน์ที่หวงแหนผู้หญิงคนนี้ยิ่งกว่าอะไร“ต้องการอะไรคุณเรย์ ทำไมต้องเอาน้องสาวของฉันเข้ามาเกี่ยวด้วย!” เส้นด้ายหันไปประจันหน้า น้ำเสียงตวาดกร้าวดังแผดลั่นทั้งหยาดน้ำตาที่ไหลหลั่งหมับ!“ก็เพราะน้องของเธอมันเป็นเหยื่อล่ออย่างดีน่ะสิ!” ร่างสูงให้คำตอบและเดินเข้ามาดึงรั้งเส้นด้ายให้แนบชิด มือใหญ่คว้าหมับที่ใบหน้าสะสวยของเธอ ออกแรง

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   บทที่ 40 เหยื่อล่อ (1)

    บทที่ 40เหยื่อล่อ (1)“เจ็บหรือเปล่า ถ้าเจ็บบอกฉันนะป่าน” เสียงทุ้มนุ่มหูเอ่ยบอกอย่างอ่อนโยน ขณะที่มือใหญ่ก็บรรจงกดสำลีชุบยาแนบไปกับแผลถลอกตามขาเรียว“ไม่เจ็บเลยค่ะ” สายป่านส่ายหน้าพลางยิ้มออกมาบาง ๆเธอไม่ได้เจ็บกับบาดแผลเลยสักนิด กลับกันเธอเจ็บปวดในหัวใจเสียมากกว่า…หลังจากที่ไตรพัฒน์พาเธอกลับมาที่บ้าน เขาก็จัดการทำแผลให้เธอเองกับมือ ทั้งยังบอกกับนุ้ยหัวหน้างานให้แล้วด้วยว่าสายป่านเกิดอุบัติเหตุจนต้องขอตัวกลับก่อนด้วยเหตุนั้นสายป่านถึงต้องรีบส่งข้อความไปขอโทษขอโพย ทั้งยังถ่ายรูปบาดแผลเล็ก ๆ ไปยืนยันอีกแรง เนื่องจากกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่พอใจที่ไม่ยอมบอกโดยตรง แต่สิ่งที่นุ้ยตอบกลับมาล้วนแต่มีความเป็นห่วงเป็นใย ทั้งยังอนุญาตให้ลางานได้ในวันพรุ่งนี้ สายป่านเลยคลายกังวลไปได้อีกหนึ่งเรื่อง“ทำไมเธอถึงไปเจอกับมันได้ล่ะ คนของฉันบอกว่าเธอเดินเข้าไปหามันเอง” มาเฟียหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองด้วยความแปลกใจ นัยน์ตาคมเข้มแต่ไม่มีการตำหนิใด ๆ เลยสักนิด ทว่ามันกลับทำให้สายป่านร้อนรุ่มจนแสดงท่าทีกังวลออกมา“อึก! ปะ...ป่าน ป่าน...”“ตอนแรกคนของฉันมันรายงานว่าเธอน่าจะรู้จักกับมัน เพราะเห็นจับมือพูดคุยกันด้วย

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   บทที่ 39 ผิดแผน

    บทที่ 39ผิดแผน“พี่นุ้ยจะเอาอะไรคะ เดี๋ยวป่านไปสั่งให้ค่ะ” สายป่านถามหลังจากที่เดินเข้ามาด้านในร้านกาแฟพร้อมกับหัวหน้าที่ดูแลการฝึกงาน“อืม...เอาอะไรดีนะ เอาเลมอนโซดาดีกว่า เบื่อพวกกาแฟแล้ว อะนี่จ้ะ เอาเงินนี่จ่ายนะ ป่านเองก็สั่งมาด้วยเลย” ครุ่นคิดรายการที่จะสั่งไม่นานก็ตัดสินใจได้ เธอหยิบธนบัตรส่งให้กับเด็กสาว พร้อมกับกำชับให้สั่งเครื่องดื่มมาด้วยกัน เนื่องจากรู้ดีว่าจะต้องได้รับการปฏิเสธกลับมาเช่นทุกครั้ง“เลี้ยงป่านอีกแล้วง่า พี่นุ้ยอย่าใจดีนักสิคะ ถ้าป่านฝึกงานเสร็จแล้วป่านคงใจหายแย่ที่จะไม่ได้เจอหัวหน้าใจดีแบบพี่นุ้ยอีก” สายป่านส่งสายตาอ้อน หากแต่คำพูดที่เอื้อนเอ่ยล้วนออกมาจากหัวใจทั้งสิ้น“พี่ต่างหากที่ใจหาย นี่ก็เหลืออีกไม่ถึงเดือนแล้วด้วย เฮ้อ...ฝึกงานเสร็จแล้วก็มาสมัครที่นี่ได้นะป่าน บริษัทเรายินดีต้อนรับเสมอ”“โหย ป่านนี่เด็กเส้นดี ๆ นี่เอง”“แน่นอนสิ บอกไปเลยนะว่าเป็นเด็กพี่นุ้ย ไม่มีใครกล้าแหย็มแน่!”“คิก ๆ ป่านไปสั่งเครื่องดื่มดีกว่า พี่นุ้ยไปนั่งรอที่โต๊ะก่อนนะคะ เดี๋ยวป่านเอาไปเสิร์ฟให้ถึงที่เลย” หญิงสาวส่งยิ้มร่าก่อนจะเดินแยกไปยังเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม และเลือกสั่งตามร

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   บทที่ 38 หุ้นส่วน

    บทที่ 38หุ้นส่วนหลายวันผ่านไปหลังจากที่รักษาตัวจนร่างกายหายเป็นปกติ ไตรพัฒน์ก็ให้ความสนใจกับเนื้อหางานต่อทันที ซึ่งในวันนี้เขาได้นัดหมายให้น้องชายเข้ามาหาที่บริษัท เนื่องจากมีธุระสำคัญที่จะต้องพูดคุยกันโดยด่วน รวมถึงมารุตเองก็เป็นหนึ่งในคนสำคัญที่มีส่วนเกี่ยวข้องในวันนี้ด้วยเช่นกันไตรพัฒน์เข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับมือขวา กระทั่งเห็นว่าตุลธรได้มานั่งรอที่ห้องแห่งนี้ก่อนแล้วเรียบร้อย แม้ว่าเนื้อหางานในวันนี้จะเป็นงานสำคัญ อีกทั้งตุลธรเองก็ไม่มีหน้าที่ใด ๆ กับส่วนนี้ แต่ไตรพัฒน์เองก็ยังคงหวังในภายภาคหน้าว่าเขาจะดันตุลธรขึ้นนั่งในตำแหน่งสำคัญแทนตัวเอง“มึงทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง” ไตรพัฒน์นั่งลงบนโซฟาพลางกดสายตามองไปยังน้องชาย ที่ตอนนี้ทำหน้าเหนื่อยหน่ายราวกับแบกโลกไว้ทั้งใบก็ไม่ปานคนเป็นพี่ชายย่อมรู้ดีว่ามันเกิดจากสิ่งใด แต่ที่เขาต้องถามออกไปนั้นก็เหมือนเป็นการติเตียนและย้ำชัดในสถานะว่าต่อให้แสดงอารมณ์ในรูปแบบไหน เขาก็ไม่มีวันตามใจได้เหมือนเรื่องอื่นตุลธรไม่มีหน้าที่กับงานของบริษัท เหตุเพราะเกลียดขยาดจนแทบไม่อยากเข้าใกล้ คงจะมีก็แต่เรื่องเดียวที่ทำงานได้ดีจนออกปากชมอยู่หลายครั้งนั

  • RISK LOVE ร้ายเสี่ยงรัก   บทที่ 37 ไม่เคยพอ

    บทที่ 37ไม่เคยพอ“คุณไตร...” ฉันพยายามเปล่งเสียงเรียกรั้งให้เขาหยุด หากแต่มันบางเบาและถูกกลืนกลับลงสู่ลำคอดังเดิมเมื่อริมฝีปากฉกฉวยทาบทับซ้ำแล้วซ้ำเล่าสติของฉันถูกพรากให้ดำดิ่งอยู่ในห้วงปรารถนา ลอยล่องไปกับสัมผัสรสจูบไหวหวามของเขาจนไม่อาจกู่กลับได้อีกต่อไปฉันหลับตาพริ้มตอบรับและตอบสนอง ปล่อยตัวปล่อยใจและส่งมอบให้เขาทั้งหมด มือสองข้างยกขึ้นคล้องที่ต้นคอหนา บดเบียดร่างกายให้แนบชิดคลอคลึงหวังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันริมฝีปากของเราบดคลึงกันเนิ่นนานจนไม่รู้เลยว่าเวลาล่วงเลยไปมากเท่าไร กระทั่งรู้ตัวอีกทีเสื้อผ้าบนร่างกายของตัวเองและเขาได้หลุดหายไปจนหมดแล้วความเปลือยเปล่าถูกกระทบด้วยลมแอร์เย็นฉ่ำ ครั้นสติดวงน้อย ๆ อันเลือนรางถึงได้ย้อนคืนกลับมา จนมันประมวลได้ว่าตอนนี้คุณไตรกำลังเริ่มต้นบทบรรเลงขึ้นแล้ว“คุณไตรไม่ใส่ถุงเหรอคะ” ฉันเอ่ยถามเสียงบางเบา ตอนที่ผงกหัวมองถึงได้เห็นว่าเขากำลังชักรูดลำกายอวบก่อนจะกดจ่อพร้อมสอบกระทั้นที่ปากทาง“อยากสด ได้ไหม?”“ดะ...ได้ค่ะ ป่านกินยาคุมอยู่”“ก็ดี” สิ้นคำตอบเอวหนาก็สอบเข้าหาจนฉันสะดุ้งโหยงแม้ว่าช่องทางจะฉ่ำเยิ้มพร้อมพรักเป็นอย่างดี แต่ด้วยขนาดที่แตกต

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status