แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าตกกระทบผิวกายสีเข้ม หยาดน้ำเกาะพราวตามกล้ามท้องเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากหญิงสาวที่คอยเชียร์อยู่บนฝั่งได้อย่างดี ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดโดยมีชายชุดดำยืนประจำการอยู่ตามจุดต่างๆ
โรซาลินอาศัยช่วงเวลานี้งีบเพื่อเอาแรง เพราะเมื่อเซ็กส์ดุเดือดเมื่อคืนสูบเรี่ยวแรงเธอไปจนหมด เธอไม่มีเวลาสนใจการแข่งขันของชายหนุ่มเหล่านั้นถ้ามีเวลาก็ของีบเก็บแรงไว้ดีกว่า “คุณลินคะ รับน้ำผลไม้สักหน่อยไหมคะ จะได้สดชื่นขึ้น” เสียงเจนนิเฟอร์เอ่ยเบาๆ อยู่ข้างหลังมือบางเปิดหมวกออกก่อนจะพยักหน้า “ขอบคุณค่ะ” เธอรับแก้วน้ำผลไม้มาวางข้างตัว ก่อนจะเอาหมวกปิดหน้าไว้ตามเดิม ร่างบางสมส่วนในชุดกระโปรงยาวสีขาวพริ้วไหวและเสื้อสายเดี่ยวบางเบาข้างในเป็นบิกินี่คอลเลคชั่นล่าสุดที่เธอเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ส่วนใหญ่แล้วเสื้อผ้าราคาแพงที่เธอสวมใส่นั้นมีสปอนเซอร์ส่งมาให้แทบทั้งสิ้น เธอแทบไม่ใช้เงินตัวเองซื้อเลยแม้กระทั่งนาฬิกาหรูที่ข้อมือตอนนี้ก็เป็นของที่สปอนเซอร์ส่งมาให้ใส่ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เธอหาได้ ก็เก็บไว้สำหรับค่าเทอมของน้องชายและนำไปลงทุนสร้างโรงแรมเล็กๆ ย่านท่องเที่ยวในประเทศนอร์เวย์ซึ่งเป็นบ้านเกิดของมารดาเธอ ครืด~~ เสียงโทรศัพท์สั่นครืดคราด ดวงตากลมโตชะเง้อมองหน้าจอโทรศัพท์ของแซฟเฟอร์ที่เขาวางทิ้งไว้บนโต๊ะริมหาดสั่นไม่หยุด โรซาลินมองหาโจนาร์ดลูกน้องคนสนิทของเขา “คุณโจนาร์ดคะ ดูเหมือนว่าจะมีคนโทรมาหาเจ้านายคุณนะคะ” โรซาลินตะโกนบอก โจนาร์ดวิ่งเหยาะเข้ามาพร้อมกับนำโทรศัพท์ลงไปให้เจ้านายหนุ่มที่เพิ่งจบการแข่งขันพอดี คล้อยหลังโจนาร์ดเธอเปลี่ยนอิริยาบถกลับมานั่งกึ่งนอน ดวงตากลมโตจับจ้องมองชายหนุ่มที่ยืนคุยโทรศัพท์มืออีกข้างอุ้มกระดานโต้คลื่น คิ้วหนาขมวดยุ่งเสยผมลวกๆ ก่อนจะส่งโทรศัพท์ให้ลูกน้องแล้วเดินกลับลงทะเล ตกเย็นมีปาร์ตี้เล็กๆ บนเตาปิ้งบาร์บีคิวเป็นเนื้อนุ่มที่กำลังสุกเสียงดังซ่ากลิ่นเครื่องเทศลอยเตะจมูกและสเต็กส่งกลิ่นหอมกรุ่นอบอวลทั่วบริเวณ ตึก ตึก ตึก เสียงรองเท้าส้นสูงดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอมาหยุดอยู่ใกล้ๆ ในขณะที่เสียงเฮฮาก็หยุดชะงักลงโดยอัตโนมัติ ทุกสายตาต่างหันไปจับจ้องผู้มาใหม่ มือบางถอดแว่นตาดำออกเผยใบหน้าเนียนใส “สวัสดีค่ะทุกคน ขอสนุกด้วยได้ไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับปรายตามองทุกคนก่อนจะหยุดจ้องไปทางแซฟเฟอร์ที่มองอยู่ก่อนแล้วด้วยใบหน้าเรียบเฉย หล่อนเดินถลาเข้าไปกอดร่างสูงใหญ่ที่กำลังยืนปิ้งบาร์บีคิวอยู่กับอีแวนส์ พร้อมกับหอมแก้มสากฟอดใหญ่ “คิดถึงคุณจังเลยค่ะ” เอ่ยบอกก่อนจะหันมาอีกทาง ร่างบางที่กำลังนั่งหั่นเครื่องเคียงอยู่ที่โต๊ะปิกนิค “สวัสดีจ้ะโรซาลิน ไม่คิดว่าจะมาเจอเธอที่นี่ บังเอิญจังเลยนะ” ‘แมดดี้’ ดาราสาวผู้โด่งดังอีกคนในวงการฮอลลีวู้ดและขึ้นแท่นนางร้ายหน้าสวยแห่งปีปรากฏตัวขึ้น ร่างอวบอัดสัดส่วนนางแบบในชุดกระโปรงแบรนด์ดังเรียกสายตาจากบรรดาหนุ่มๆ ให้จับจ้องไปทางเดียวกัน โรซาลินเงยขึ้นมองก่อนจะคลี่ยิ้มให้โดยไม่เอ่ยอะไร แมดดี้แสยะยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกลับไปสนใจชายหนุ่มที่เธออุตส่าห์เคลียร์ตารางงานเพื่อบินตามมาถึงที่นี่ทันทีที่รู้ “เจอกันอีกแล้วนะครับคุณแมดดี้ สบายดีใช่ไหม” ไบรอันเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ “สวัสดีค่ะคุณไบรอัน แมดสบายดี ขอบคุณที่ถามไถ่นะคะ” “เชิญตามสบายเลยนะครับ” “ขอบคุณค่ะ” ท่ามกลางปาร์ตี้รอบกองไฟ แมดดี้นั่งตัวติดกับแซฟเฟอร์ไม่ห่างมือคอยเกาะแขนกำยำเอาไว้ตลอดเวลาและซบหน้าลงไหล่แกร่งอย่างออดอ้อน โดยที่แซฟเฟอร์ไม่ว่าอะไรเขานั่งดื่มสังสรรค์พูดคุยเรื่องธุรกิจและอื่นๆไปเรื่อยกับเพื่อน ส่วนโรซาลินนั่งทานอาหารเงียบๆ ฟังพวกเขาพูดคุยสนทนากันโดยไม่ได้ออกความเห็น “ได้ข่าวมาว่าเธอกำลังจะเริ่มถ่ายหนังใหญ่ใช่ไหมล่ะ ประกบคู่กับพระเอกเบอร์หนึ่งซะด้วย” แมดดี้หันมาสนทนากับเธอโดยจงใจเน้นคำว่า พระเอกเบอร์หนึ่งให้แซฟเฟอร์ได้ยิน “อืม” โรซาลินขานรับสั้นๆ เธอไม่ชอบสนทนาให้มากความนักกับคนอย่างแมดดี้ “หึ ว่าแต่กับผู้กำกับคนนั้นน่ะ จริงรึเปล่านะโรซาลิน” แมดดี้จงใจเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับแสยะยิ้มร้ายกาจมองเหยียดตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะตอนนี้พวกนักข่าวในวงการกำลังจับจ้องนางเอกคนดังอยู่เนื่องจากเป็นช่วงขาขึ้นและแบรนด์ต่างๆ วิ่งเข้าหาไม่ขาดสาย ใบหน้าหวานเข้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินถ้อยคำที่จงใจแฉเธอซึ่งๆหน้า แต่ด้วยความมืออาชีพจึงยังคงเก็บสีหน้าได้ดี “ขอบใจที่อยากรู้นะแมดดี้ แต่ฉันคงไม่ได้เสน่ห์แรงเท่าเธอหรอก ที่ได้กินผู้ชายทั้งวงการ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นดังพอที่จะได้ยินกันทุกคน ร่างบางลุกขึ้นท่ามกลางปาร์ตี้ที่กำลังดำเนินไปพร้อมกับสะบัดกระโปรงปัดฝุ่นจงใจให้ฟุ้งเข้าหน้าใครบางคนด้วยความหงุดหงิด “นี่! โอ้ย! ไปไกลๆ หน่อย! ยัยบ้าเอ้ย!” แมดดี้โวยวายพร้อมกับลุกขึ้นยืนประจันหน้า สองสาวยืนจ้องตากันโดยไม่มีใครยอมใคร “อุ้ย ขอโทษด้วยนะ คิก..คิก” โรซาลินเอ่ยจบก็เผยรอยยิ้มหวานที่แฝงไปด้วยความยั่วยุออกมาจนอีกฝ่ายกำหมัดแน่น ก่อนหมุนตัวเตรียมจะเดินหนีได้สองสามก้าวก็หยุดชะงักแล้วหันกลับมายิ้มกว้างให้แมดดี้ที่กำลังสบถสาปตามหลัง ก่อนจะก้าวยาวๆ ผ่านหน้าหล่อนไปและโน้มกายก้มลงจูบริมฝีปากหยักหนักหน่วงและผละออกมามุ่งหน้ากลับห้องพักโดยที่แซฟเฟอร์นั่งมองตามหลังด้วยสีหน้าเย็นชาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “อี..!! หึ้ย!!” แมดดี้เตรียมจะพ่นคำด่าแต่เมื่อเจอเข้ากับสายตาคมกริบของเขาก็ต้องสงบปากสงบคำยอมนั่งลงที่เดิม “พอได้แล้ว” เสียงห้าวทุ้มเอ่ยขึ้น เขาอดทนมาสักพักแล้วเพราะเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนเคยชิน ในสายตาเขาพวกผู้หญิงมักจะชอบโวยวายโดยไม่สนใจใคร งี่เง่า และนั่นสร้างความเบื่อหน่ายให้แก่เขาอย่างมากไม่ว่าใครเข้ามาหากเขาเบื่อเมื่อไหร่ก็จะถูกเขี่ยทิ้งไปพร้อมเงินก้อนหนึ่ง และนั่นก็เป็นอีกสาเหตุที่เขาไม่คิดจะผูกพันธ์กับผู้หญิงหน้าไหนทั้งนั้น “แซฟคะ คุณต้องไล่แม่นั่นกลับไปนะ ติดใจอะไรมันนักหนาคะ” น้ำเสียงกระเง้ากระงอดไม่พอใจทำเอาแซฟเฟอร์ถอนหายใจ อีแวนส์กับไบรอันลอบส่ายหัวพวกเขาเห็นบรรดาหญิงสาวรุมแย่งมันจนเป็นภาพชินตาเสียแล้ว โรซาลินกลับเข้าห้องมาพร้อมกับลงกลอนประตู เธอปิดไฟเข้านอนอย่างรวดเร็ว ในสมองไม่อยากจะคิดเรื่องไร้สาระให้ฟุ้งซ่านเสียเปล่าๆ ยัยแมดดี้อะไรนั่นมาก็ดีแล้ว คืนนี้เธอจะได้นอนหลับพักผ่อนเต็มตาเสียที เป็นไปอย่างที่คิด คืนนั้นแซฟเฟอร์ไม่ได้กลับมาที่ห้อง โรซาลินเผลอหลับไปจนถึงเช้าร่างบางเดินลงมายังล็อบบี้ชั้นล่างเห็นเพียงเจนนิเฟอร์กำลังช่วยเชฟจัดเตรียมมื้อเช้า เมื่อเห็นโรซาลินเดินลงมาเธอจึงหันมาเอ่ยทักทาย “สวัสดีค่ะคุณลิน ตื่นแต่เช้าเลยนะคะ” “สวัสดีค่ะ” โรซาลินทักทายกลับพร้อมกลับมองสอดส่ายหาใครบางคน “นายท่านออกไปประชุมกับหุ้นส่วนในเมืองค่ะ น่าจะกลับเย็นๆ ท่านสั่งไว้ว่าหากคุณลินจะอยู่ต่อก็ได้หรือถ้าอยากกลับแล้วท่านก็สั่งให้คนเตรียมเครื่องบินส่วนตัวไว้พร้อมค่ะ” คิ้วเรียวเลิ่กขึ้นด้วยความแปลกใจ แม้ในใจจะลิงโลดแต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ คงเป็นเพราะแมดดี้ที่มาทำหน้าที่แทนเธอแล้วในทริปนี้ “งั้นเหรอคะ ท่านสั่งไว้แบบนั้นเหรอคะ” “ค่ะ คุณลินสะดวกแบบไหนก็ได้ค่ะ” “ถ้างั้นฉันกลับเลยแล้วกันค่ะ ฝากคุณเจนแจ้งท่านด้วยแล้วกัน” “รับทราบค่ะ ถ้างั้นให้เจนช่วยอะไรไหมคะ” เจนนิเฟอร์อาสาอย่างใจดี “ดีเลยค่ะ รบกวนด้วยนะคะ” เวลาต่อมาไม่นานเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวขนาดกลางก็บินขึ้นสู่ท้องฟ้ามุ่งหน้ากลับอิตาลีทันที....“คุณแจ๊คเกลไม่ไหวค่ะ..แฮ่ก..แฮ่ก” เสียงหวานเอ่ยบอกเมื่อชายหนุ่มเร่งตอกอัดตัวตนเข้าใส่รัวเร็วจนร่างบางกระเพื่อมไหวไปตามแรงกระแทก “เกล อดทนอีกหน่อยนะที่รัก จะแตกแล้ว..ซี้ด” เสียงห้าวทุ้มเอ่ยบอกพร้อมกับเร่งกระแทกถี่รัว “อร๊าย..อ๊าส์...คุณแจ๊คคะ ถ้าลินรู้เข้าจะทำไง” แอบิเกลเอ่ยถามด้วยความกังวล “ลินรู้แล้วทำไมเหรอเกล บอกไปสิว่าเราเป็นอะไรกัน เมื่อกี้สองคนนั้นก็มาดูแสงเหนือเหมือนกัน” ตั่บ ตั่บ ตั่บ “ห้ะ! ว่าไงนะ ลินกับคุณแซฟน่ะเหรอ” แอบิเกลเอ่ยด้วยความตกใจ ลินจะโกรธรึเปล่านะถ้ารู้ว่าเธอแอบกินกับแจ๊คสันเพื่อนสนิทของโรซาลิน “เธอเป็นเมียฉันนะเกล มันไม่สำคัญว่าเราเพิ่งรู้จักกันไม่นาน แค่เราเข้ากันได้ดีแค่นั้นก็พอแล้วไม่ใช่รึไง” แจ๊คสันเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะก้มลงมากดจูบดุเดือดในขณะที่ช่วงล่างยังคงตอกอัดกันอย่างดุเด็ด ตั่บ ตั่บ ตั่บ กลีบอวบอูมปลิ้นยุบตามท่อนลำอันใหญ่ที่ผลุบเข้าออกรัวเร็ว “เกล..ซี้ด..รัดค..จนปวดไปหมด” “อร๊ายส์..คุณแจ๊ค..เกลไม่ไหวแล้ว” ร่างบางเกร็งสะท้านไปทั้งร่างก่อนจะกระตุกสองสามครั้งเสร็จสมรุนแรง กลีบอวบอูมสั่นระริกตอดรัดลำกายจนใบหน้าหล่อเหลา
สัปดาห์ต่อมาแซฟเฟอร์พาเธอนั่งเครื่องส่วนตัวบินไปนอร์เวย์เพื่อฮันนีมูนหลังแต่งงาน อากาศเย็นลงจนมีหิมะตกประปราย ระหว่างทางพื้นที่สีเขียวเริ่มปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน บรรยากาศสวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย มันสวยงามแบบนี้เองสินะเมียเขาถึงอยากจะมาที่นี่นักหนา มือใหญ่กระชับผ้าพันคอให้คนตัวเล็กก่อนจะก้าวลงจากรถ“พี่ลิน พี่เขย มาถึงเร็วจัง” เลโอวิ่งออกมารับหน้าบ้านเมื่อเห็นรถแวนคันหรูขับลุยหิมะเข้ามาจอดเทียบท่าสามคัน“ไอ้น้องชาย สบายดีรึเปล่า” แซฟเฟอร์ทักทายเด็กหนุ่มที่โตขึ้นเล็กน้อยอย่างเป็นกันเอง“สบายดีมากครับพี่เขย ว่าแต่ดูแลพี่สาวผมดีรึเปล่า ไม่งั้นผมทวงคืนนะ” เลโอที่เริ่มโตเป็นหนุ่มและเริ่มกวนประสาทเก่งขึ้น“เด็กเปรต ฉันดูแลโรซาลินดีอยู่แล้วล่ะ” เสียงห้าวทุ้มเอ่ยขึ้นทำเอาป้ามาเรียกับโรซาลินขำกันใหญ่“มากันแล้วเหรอลูก พากันเข้าบ้านก่อนเดี๋ยวจะไม่สบายเอา คุณแซฟสบายดีใช่ไหมคะ” พิมประภาเอ่ยถามหลานเขย ป้ามาเรียยกชุดน้ำชาร้อนๆมาฝาก โรซาลินมองร่างท้วมที่เริ่มชราลงทั้งยายและป้ามาเรียก็อดใจหายไม่ได้“คุณแซฟคะ ลินอยากหาแม่บ้านที่ไว้ใจได้สักคนมาช่วยป้ามาเรียดีไหมคะ” โรซาลินหันไปคุยเบาๆ กับสามี
งานแต่งเรียบง่ายถูกจัดขึ้นที่โบสถ์เก่าแก่ประจำตระกูลเฮมเวิร์ทซึ่งเคยเป็นที่จัดงานของสตีเฟ่นกับภรรยาผู้ล่วงลับมาก่อนแซฟเฟอร์ในชุดทักซิโด้สีดำเรียบหรูที่ถูกสั่งตัดขึ้นมาเป็นพิเศษยืนมองเจ้าสาวที่ควงแขนเลโอเข้ามาในโบสถ์ด้วยหัวใจที่กำลังเต้นโครมคราม บรรดาแขกเหรื่อต่างชื่นชมความสวยของเจ้าสาวไม่ขาดปาด แม้งานจะถูกจัดอย่างเป็นส่วนตัวแต่สื่อบางสำนักก็พาดหัวข่าวออกไปจนเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกแดเนียลยืนมองโรซาลินที่สวมชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ขณะเดินผ่านเธอหันมาส่งยิ้มให้เขาอย่างมีความสุข พิมประภา ป้ามาเรียและเลโอนั่งมองโรซาลินเข้าพิธีแต่งงานอย่างมีความสุข เธออวยพรแก่ทั้งคู่ยาวเหยียดจนโรซาลินถึงกับน้ำตาซึม แจ๊ค แอบิเกล บิลลี่และซินดี้นังถัดไปจากเลโอและเป็นเพื่อนฝ่ายเจ้าสาวที่ได้รับการเชิญมาเป็นแขกในงานเมื่อถึงแท่นพิธี บาทหลวงให้ทั้งคู่กล่าวคำสาบานจากนั้นก็สวมแหวนให้กันแล้วจดทะเบียนสมรสภายในวันนั้นเป็นอันเสร็จพิธี ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในสัปดาห์เดียวด้วยเม็ดเงินมหาศาลของแซฟเฟอร์ อีกทั้งแหวนแต่งงานของทั้งคู่นั้นสตีเฟ่นสั่งให้คนนำเพชรเก่าแก่ของตระกูลไปเจียระไนใหม่เพื่อทำแหวนพิเศษขึ้นมาให้แก่ลู
สัปดาห์ต่อมาโรซาลินและแซฟเฟอร์เดินทางกลับอิตาลีพร้อมกันท่ามกลางกระแสข่าวที่ตอกย้ำเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเขา อีกทั้งข่าวเรื่องการยกเลิกงานหมั้นอย่างกระทันหันนั้นทำเอาโรซาลินกลายเป็นที่จับตามองส่งผลให้หนังที่กำลังเปิดตัวกลายเป็นที่สนใจมากขึ้นไปอีกเท่าตัว “ลิน! ดูนี่สิพาดหัวแต่เช้าเชียวอีพวกบ้าเนี่ย คนมีแฟนมันผิดยังไงยะ! เดี๋ยวแม่ตบหน้าหันเลย” บิลลี่บ่นพล่ามเมื่อเห็นข่าวที่กำลังพาดพิงถึงเพื่อนหล่อนแต่เช้ารถตู้คันหรูแล่นมาจอดในงานเปิดตัวภาพยนต์เรื่องดังที่เธอแสดงนำ ร่างบางในชุดเดรสสีกรมระยิบระยับสวยงาม เมื่อก้าวลงจากรถแสงแฟลชก็รัวสาดเข้าใส่ทันที ดวงตากลมโตหรี่ลงแม้จะแสบตาแต่ใบหน้าหวานก็เปื้อนยิ้มอยู่ตลอดเวลาสมกับเป็นมืออาชีพ ร่างบางขึ้นเวทีพร้อมกับนักแสดงคนอื่น งานเปิดตัวภาพยนต์ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ สื่อให้ความสนใจกันอย่างล้นหลามโดยเฉพาะนักแสดงนำอย่างโรซาลินที่เพิ่งมีข่าวฉาวก่อนหน้านี้ หลังจบงานบนเวที นักข่าวตั้งป้อมดักรอสัมภาษณ์อยู่หน้างานกันอย่างคับคั่ง“คุณโรซาลินคะ หยุดวงการไปพักผ่อนตั้งเดือนนึงช่วยอัปเดตให้ฟังหน่อยค่ะ” “จากภาพเห็นว่าคุณลินเดินทางกลับพร้อมกับคนที่เป็นข่
“เดี๋ยวนะคะ เราคงคุยกันไม่เข้าใจแล้วล่ะ มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงคะ ลินเป็นแค่คู่นอนเท่านั้นไม่ได้คิดจะเป็นเมียคุณ อย่ามาเสียเวลาเลยค่ะ”“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ที่เอากันอยู่ทุกวันนี้ยังคิดว่าฉันเห็นเธอเป็นคู่นอนอยู่อีกรึไง”“คุณก็ทำแบบนี้กับผู้หญิงอีกหลายคน อย่ามาปั่นหัวลินเลยค่ะ ปล่อยนะคะเดี๋ยวคนเข้ามาเห็น!”“ลิน..ฉันไม่ได้ปั่นหัว เธอยังโกรธเรื่องที่ปารีสอยู่ใช่ไหม” เขาเอ่ยถามพร้อมกับรวบเอวคอดในขณะที่มือเล็กก็พยายามผลักและต่อต้านเขาสุดกำลัง“ใช่ค่ะ เรื่องวันนั้นมันทำให้ลินคิดได้ว่าลินไม่เหมาะกับคุณ ลินเป็นแค่ผู้หญิงที่ขายตัวให้คุณ เมื่อไหร่ที่คุณเบื่อคุณก็สามารถไล่ลินได้ตลอดเวลา” น้ำเสียงหวานเอ่ยสั่นพยายามบังคับไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในแววตาคู่สวยด้วยความรู้สึกวูบไหวก่อนจะเอ่ยออกมา“ฉันขอโทษ..มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ฉันจัดการไปหมดแล้วจะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นอีกแล้ว..ลิน อย่าดิ้น” เสียงห้าวทุ้มเอ่ยกระเส่า เมื่อร่างบางนุ่มนิ่มกำลังดิ้นขลุกขลั่กในอ้อมแขนแข็งแรง กลิ่นหอมคุ้นเคยคลุ้งอบอวลอีกทั้งเต้าอวบอิ่มที่กำลังบดเบียดแผงอกแกร่งอยู่นั้นมันกระตุ้นสัญชาตญาณของชายหนุ่ม
“ไหนมึงบอกอีกนาน” คริสโตเฟอร์เอ่ยถามแวฟเฟอร์ก่อนจะส่งแก้วบรั่นดีให้ คาร์ลิมัสที่เพิ่งเดินเข้ามายักคิ้วทักทายพี่ชายทั้งสองคนก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงสามหนุ่มนั่งพูดคุยกันที่ระเบียงกว้างขวางภายในคฤหาสน์ของตระกูลที่นานครั้งถึงจะมาใช้งาน ส่วนใหญ่พวกเขาจะอยู่ที่เพ้นเฮ้าส์ส่วนตัวและยังมีตึกส่วนตัวแยกออกไปอีกคนละหลังซึ่งอยู่ภายในอาณาบริเวณคฤหาสน์หลังนี้“กูมาให้ปากคำตำรวจ” “ป่านนี้ไอ้แฮชานคงหลบออกนอกประเทศไปแล้ว แล้วเคลียร์กันลงตัวรึยังกับเมียน่ะ” “......” แซฟเฟอร์ไม่เอ่ยตอบอะไร แต่ในหัวคิดไปถึงใบหน้าหวานที่มักจะมองเขาด้วยสายตาเย็นชาตลอดเวลาตั้งแต่ลงเครื่องมานี่หล่อนยังไม่คิดจะรับสายเขาสักครั้ง“อ่า..จะง่ายขนาดนั้นเชียวหรือวะ ดูหน้ามันสิเหมือนคนแบกอะไรไว้ที่คอเลย” คาร์ลิมัสเอ่ยขึ้นพร้อมกับจิบบรั่นดี“นั่นสินะ เธอโดนเบลล่ากลั่นแกล้งซะขนาดนั้นคงเข็ดไม่กล้าเข้าใกล้มึงแล้วล่ะ แล้วมึงก็ยังจะทำตัวงี่เง่าใส่เธออีก แล้วจะทำยังไงต่อ” คริสโตเฟอร์เอ่ยถามปมปัญหาที่ผู้เป็นพี่ชายกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้“นั่นแหล่ะที่กูกำลังคิดอยู่” แซฟเฟอร์เอ่ยบอกเสียงเรียบ ทั้งสามหนุ่มดื่มกันจนดึกก่อนจะแยกย้ายกันกลับพื