หลังจบกิจกามอันเร่าร้อน แซฟเฟอร์ขับรถพาเธอมายังสนามบินส่วนตัว ท่ามกลางสายฝนที่เริ่มปรอยลงมา รถคันหรูจอดเทียบท่าที่หน้าบันไดขึ้นเครื่องส่วนตัว มีเหล่าบอดี้การ์ดหลายสิบชีวิตที่ยืนรออยู่หน้าเครื่อง เขาหันมาจูงมือเธอก่อนจะพาขึ้นเครื่อง
“เชิญครับนาย” โจนาร์ด ลูกน้องคนสนิทและเจนนิเฟอร์ เลขาประจำตัวยืนรอต้อนรับอยู่บนเครื่อง โรซาลินยิ้มทักทายทั้งสองคนอย่างเป็นมิตร ทั้งคู่ต่างก้มโค้งคำนับให้เธอเฉกเช่นเดียวกับที่ปฏิบัติกับแซฟเฟอร์ “รับของว่างเลยไหมคะท่าน” เจนนิเฟอร์ที่เดินตามเข้ามาคอยอำนวยความสะดวก “เธอหิวไหม” เขาหันมาถามโรซาลิน “เป็นน้ำผลไม้ก็พอค่ะ” โรซาลินเอ่ย “สักครู่นะคะ” เจนนิเฟอร์รับคำสั่ง “เดี๋ยว! เอายาคุมมาให้ลินด้วย” เขาเอ่ยสั่ง โรซาลินรู้สึกหน้าเห่อร้อนขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเขาสั่งราวกับเป็นเรื่องธรรมดา เจนนิเฟอร์เหลือบมองโรซาลินแวบหนึ่งก่อนจะรีบรับคำสั่งไปจัดเตรียม เครื่องบินส่วนตัวทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าในยามค่ำคืน โรซาลินที่หาวแล้วหาวอีกเพราะความเหน็ดเหนื่อยจากงาน เธอเหลือบมองไปที่นั่งฝั่งข้างๆ แซฟเฟอร์เปิดแท็บเล็ตตรวจงานโดยไม่มีท่าทีง่วงเลยสักนิดเหมือนเขาจะรู้ว่าเธอแอบมองอยู่ ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองเธอจนโรซาลินสะดุ้งรีบหลบตาเขาทันทีแล้วกระชับผ้าห่มแล้วหลับตา “คุณลินคะ คุณลินคะ ถึงแล้วค่ะ” เสียงของเจนนิเฟอร์ปลุกให้เธอตื่นจากความเมื่อยล้า ร่างบางงัวเงียขยับตัวนั่งตรงเมื่อมองไปรอบๆ เหลือเธออยู่คนเดียวบนเครื่อง เขาหายไปแล้ว “ถึงแล้วเหรอคะ” โรซาลินเอ่ยถามทั้งที่งัวเงียหันมองรอบๆ ตัว “นายท่านออกไปก่อนหน้านี้สักสิบนาทีแล้ว มีงานด่วนต้องรีบน่ะค่ะเลยให้ฉันมาปลุกคุณ” เจนนิเฟอร์ยิ้มให้เธอก่อนจะนำข้าวของและเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้เธอเปลี่ยน ร่างบางลงจากเครื่องมาขึ้นรถคันหรูสีดำสนิทที่จอดรออยู่ โดยมีเจนนิเฟอร์นั่งข้างหน้าคู่คนขับมาด้วย รถคันหรูแล่นมาถึงโรงแรมขนาดกลางแต่สวยงามระดับไฮคลาสอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่อุดมสมบูรณ์ พื้นดินเป็นทรายสีขาวสะอาด “เชิญทางนี้ค่ะ” เจนนิเฟอร์เดินนำไปยังด้านในล็อบบี้ ก่อนจะพาขึ้นไปชั้นห้าซึ่งทั้งชั้นเป็นห้องพักแบบส่วนตัว มีสระน้ำขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยต้นไม้หลากชนิด “ที่นี่เป็นเกาะส่วนตัวของตระกูลเฮมเวิร์ทค่ะ สัปดาห์นี้นายท่านกับเพื่อนมีนัดแข่งกระดานโต้คลื่นกันที่นี่” เจนนิเฟอร์อธิบายพร้อมกับช่วยจัดแจงข้าวของ “เดี๋ยวนะคะ นี่เราอยู่ที่ไหนกันเหรอ” โรซาลินเอ่ยถามออกไป เธอหลับลึกมาตลอดทางจนไม่รู้ว่าตัวเองมาอยู่ที่ไหนแล้ว ก่อนหน้านี้แซฟเฟอร์ไม่เคยพาเธอออกมานอกสถานที่มาก่อน หากเขาเรียกเธอแค่ไปหาเขาที่คอนโดหรู หลังจากมีอะไรกันเธอก็กลับบ้านตัวเอง เป็นแบบนี้มาตลอดสามปี “ฮาวายค่ะ” เจนนิเฟอร์เอ่ยยิ้มๆ โรซาลินอึ้งไปนี่เขาพาเธอมาถึงฮาวายเชียวหรือ “ฮาวาย!” โรซาลินทวนซ้ำแล้วก็ถอนหายใจ ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ เพียงแต่เธอไปทำงานและก็กลับเข้าโรงแรมแต่นี่เขาเลื่อนงานเธอออกไปเพื่อลากเธอมาดูเขาโต้คลื่นที่ฮาวายน่ะเหรอ ให้ตายสิ! “ใช่ค่ะ ฮาวาย นี่เป็นเสื้อผ้าทั้งหมดของคุณลินค่ะ เดี๋ยวดิฉันขอตัวนะคะ ขาดเหลืออะไรก็เรียกได้เลยค่ะ กดปุ่มนี้นะคะนายท่านน่าจะกลับมาช่วงค่ำๆ คาดว่าจะมีปาร์ตี้ คุณลินเตรียมตัวรอนายท่านนะคะ” เอ่ยจบเจนนิเฟอร์ก็ออกจากห้องไป โรซาลินมองสำรวจรอบๆ ห้องก่อนจะเดินไปเปิดประตูกระจกบานใหญ่ที่เป็นระเบียงมองเห็นทิวทัศน์กว้างขวางและความสวยงามของเกาะนี้ ครืด~~~โทรศัพท์สั่นครืดคราดในกระเป๋าถือ มือบางล้วงหยิบออกมา เป็นบิลลี่ที่โทรมานั่นเอง “ว่าไงบิลลี่” เสียงหวานเอ่ยกรอกลงไปตามสาย ‘โรซาลิน! นี่เธอหายไปไหนเนี่ย โทรไปก็ไม่รับสาย ฉันหัวใจจะวายเป็นห่วงแทบแย่ ผู้กำกับบอกว่ามีคำสั่งให้เลื่อนงานของเธอ เกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือเปล่า’ เสียงปลายสายแหลมออกมาจนโรซาลินต้องเอาออกห่างจากหู “ฉันไม่เป็นไรหรอกบิลลี่ ขอโทษนะที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง ตอนนี้ฉันอยู่ฮาวาย” โรซาลินตอบไปตามความจริงเพราะไม่มีอะไรต้องปิดบัง ‘ฮาวาย! ตายแล้วววว นี่ฝีมือคุณแซฟเฟอร์ใช่ไหมเนี่ย’ “อืม..ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไง เดี๋ยวถ้าจะกลับเมื่อไหร่จะโทรไปบอกแล้วกันนะ ฝากซื้อของไปให้เลโอกับคุณยายด้วยล่ะ” โรซาลินไม่ลืมบอกให้บิลลี่จัดการเรื่องที่บ้านเธอ ‘อืม. ได้สิเดี๋ยวจัดการให้..ดูแลตัวเองด้วยนะ’ ปลายสายรับปาก “เค..แค่นี้นะ” หลังจากวางสาย เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เธอเดินมาเปิดประตูเป็นเจนนิเฟอร์ที่ยืนถือถาดรออยู่ ในถาดมีแผงยากับแก้วน้ำ “ดิฉันเอายามาให้คุณลินค่ะ แล้วก็อีกแผงนึงคุณลินเก็บไว้แล้วทานตามเวลาด้วยนะคะ” โรซาลินยิ้มให้ก่อนจะรับถาดยานั้นมา “ขอบคุณค่ะ” “ปกตินายท่านไม่เคยต้องให้ใครกินยาเลยค่ะ เพราะท่านจะระมัดระวังอย่างมาก สงสัยว่านายท่านอาจจะเมาด้วยน่ะค่ะ คุณลินคงไม่คิดมากใช่ไหมคะ” เจนนิเฟอร์เอ่ยถามโรซาลินตรงๆ คิ้วเรียวเลิ่กขึ้นด้วยความแปลกใจเมื่อเจอคำถามที่ไม่คาดคิดว่าจะมีใครมาถาม เพราะมีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ “คะ? เอ่อ..พอดีลินไม่สะดวกที่จะตอบค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ” โรซาลินเอ่ยปัดไป “ขอโทษนะคะที่ดิฉันถามอะไรที่ไม่ควรออกไป คุณลินอย่าถือสาเลยนะคะ” เจนนิเฟอร์โค้งคำนับขอโทษเมื่อคิดขึ้นได้ว่าไม่ควรถามเรื่องอะไรแบบนี้ “ไม่เป็นไรค่ะ คุณเจนคงไม่ตั้งใจ” ใบหน้าสวยยิ้มให้ฝืดๆ แต่กลับรู้สึกไม่สบายใจแปลกๆ คล้อยหลังเลขาของแซฟเฟอร์ โรซาลินรีบกินยาทันที ไม่คิดเลยว่าต้องมากินยาคุมอะไรแบบนี้ หวังว่าคราวต่อไปเขาจะไม่สดกับเธออีก หลังจากอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อย เธอเผลอหลับไปจนมารู้สึกตัวอีกทีตอนเย็นเจนนิเฟอร์มาปลุกให้เธอไปร่วมงานปาร์ตี้ที่ชายหาด เสียงเฮฮาของบรรดาชายหนุ่มมหาเศรษฐีที่มักจะหาเวลารวมตัวกันมาปาร์ตี้และเล่นเซิร์ฟบอร์ดที่ฮาวายอยู่เสมอ เหล้าราคาแพงระยับถูกนำมาเสิร์ฟไม่ขาดบนเกาะส่วนตัวหรูหราแห่งนี้เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ถูกออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติอย่างลงตัว “เฮ้ย! ๆ ๆ นั่นแฟนใครวะ เดินมาโน่น” อีแวนส์ผู้ที่เห็นเป็นคนแรกในกลุ่มส่งเสียงขึ้นพร้อมกับจ้องตาค้าง ทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียวกัน “โอ้วแม่เจ้า! ไอ้แซฟ! นี่มึงลากดาราเบอร์หนึ่งมากินถึงนี่เลยเหรอวะ ไอ้เชี่ย” ไบรอัน เอ่ยบ้างพร้อมกับจ้องมอง โรซาลินที่หยุดชะงักเมื่อเห็นสายตาทุกคู่จ้องมองมาทางเธอเป็นตาเดียวกัน ร่างบางสะโอดสะองในชุดกระโปรงยาวสีขาวสะอาดตา พริ้วไหวตามลมเข้ากับเสื้อกล้ามสียาวแบบสาวฮาวายสะกดสายตาบรรดาชายหนุ่มเอาไว้ได้อยู่หมัด “เอ่อ..มีอะไรแปลกไปหรือเปล่าคะคุณเจน” โรซาลินหันมาถามเจนนิเฟอร์ที่เดินตามเธอมา เจนนิเฟอร์ยิ้มให้ก่อนจะเอ่ยตอบ “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คุณลินสวยจนหนุ่มๆมองกันตาค้างไปเลยน่ะค่ะ” โรซาลินถอนหายใจโล่งก่อนจะเดินไปตามทางเรื่อยๆ เธอมองหาแซฟเฟอร์ที่นั่งรวมอยู่ในกลุ่มนั้น ชายหนุ่มราวห้าคนพร้อมกับหญิงสาวอีกสี่คนที่นั่งดื่มอยู่ด้วยกัน เจนนิเฟอร์นำเธอเดินไปนั่งข้างแซฟเฟอร์ เธอยิ้มทักทายทุกคนในกลุ่มด้วยความเป็นมิตรโดยไม่ประหม่า เพราะชินกับการอยู่ท่ามกลางคนหมู่มากแล้ว“คุณแจ๊คเกลไม่ไหวค่ะ..แฮ่ก..แฮ่ก” เสียงหวานเอ่ยบอกเมื่อชายหนุ่มเร่งตอกอัดตัวตนเข้าใส่รัวเร็วจนร่างบางกระเพื่อมไหวไปตามแรงกระแทก “เกล อดทนอีกหน่อยนะที่รัก จะแตกแล้ว..ซี้ด” เสียงห้าวทุ้มเอ่ยบอกพร้อมกับเร่งกระแทกถี่รัว “อร๊าย..อ๊าส์...คุณแจ๊คคะ ถ้าลินรู้เข้าจะทำไง” แอบิเกลเอ่ยถามด้วยความกังวล “ลินรู้แล้วทำไมเหรอเกล บอกไปสิว่าเราเป็นอะไรกัน เมื่อกี้สองคนนั้นก็มาดูแสงเหนือเหมือนกัน” ตั่บ ตั่บ ตั่บ “ห้ะ! ว่าไงนะ ลินกับคุณแซฟน่ะเหรอ” แอบิเกลเอ่ยด้วยความตกใจ ลินจะโกรธรึเปล่านะถ้ารู้ว่าเธอแอบกินกับแจ๊คสันเพื่อนสนิทของโรซาลิน “เธอเป็นเมียฉันนะเกล มันไม่สำคัญว่าเราเพิ่งรู้จักกันไม่นาน แค่เราเข้ากันได้ดีแค่นั้นก็พอแล้วไม่ใช่รึไง” แจ๊คสันเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะก้มลงมากดจูบดุเดือดในขณะที่ช่วงล่างยังคงตอกอัดกันอย่างดุเด็ด ตั่บ ตั่บ ตั่บ กลีบอวบอูมปลิ้นยุบตามท่อนลำอันใหญ่ที่ผลุบเข้าออกรัวเร็ว “เกล..ซี้ด..รัดค..จนปวดไปหมด” “อร๊ายส์..คุณแจ๊ค..เกลไม่ไหวแล้ว” ร่างบางเกร็งสะท้านไปทั้งร่างก่อนจะกระตุกสองสามครั้งเสร็จสมรุนแรง กลีบอวบอูมสั่นระริกตอดรัดลำกายจนใบหน้าหล่อเหลา
สัปดาห์ต่อมาแซฟเฟอร์พาเธอนั่งเครื่องส่วนตัวบินไปนอร์เวย์เพื่อฮันนีมูนหลังแต่งงาน อากาศเย็นลงจนมีหิมะตกประปราย ระหว่างทางพื้นที่สีเขียวเริ่มปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน บรรยากาศสวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย มันสวยงามแบบนี้เองสินะเมียเขาถึงอยากจะมาที่นี่นักหนา มือใหญ่กระชับผ้าพันคอให้คนตัวเล็กก่อนจะก้าวลงจากรถ“พี่ลิน พี่เขย มาถึงเร็วจัง” เลโอวิ่งออกมารับหน้าบ้านเมื่อเห็นรถแวนคันหรูขับลุยหิมะเข้ามาจอดเทียบท่าสามคัน“ไอ้น้องชาย สบายดีรึเปล่า” แซฟเฟอร์ทักทายเด็กหนุ่มที่โตขึ้นเล็กน้อยอย่างเป็นกันเอง“สบายดีมากครับพี่เขย ว่าแต่ดูแลพี่สาวผมดีรึเปล่า ไม่งั้นผมทวงคืนนะ” เลโอที่เริ่มโตเป็นหนุ่มและเริ่มกวนประสาทเก่งขึ้น“เด็กเปรต ฉันดูแลโรซาลินดีอยู่แล้วล่ะ” เสียงห้าวทุ้มเอ่ยขึ้นทำเอาป้ามาเรียกับโรซาลินขำกันใหญ่“มากันแล้วเหรอลูก พากันเข้าบ้านก่อนเดี๋ยวจะไม่สบายเอา คุณแซฟสบายดีใช่ไหมคะ” พิมประภาเอ่ยถามหลานเขย ป้ามาเรียยกชุดน้ำชาร้อนๆมาฝาก โรซาลินมองร่างท้วมที่เริ่มชราลงทั้งยายและป้ามาเรียก็อดใจหายไม่ได้“คุณแซฟคะ ลินอยากหาแม่บ้านที่ไว้ใจได้สักคนมาช่วยป้ามาเรียดีไหมคะ” โรซาลินหันไปคุยเบาๆ กับสามี
งานแต่งเรียบง่ายถูกจัดขึ้นที่โบสถ์เก่าแก่ประจำตระกูลเฮมเวิร์ทซึ่งเคยเป็นที่จัดงานของสตีเฟ่นกับภรรยาผู้ล่วงลับมาก่อนแซฟเฟอร์ในชุดทักซิโด้สีดำเรียบหรูที่ถูกสั่งตัดขึ้นมาเป็นพิเศษยืนมองเจ้าสาวที่ควงแขนเลโอเข้ามาในโบสถ์ด้วยหัวใจที่กำลังเต้นโครมคราม บรรดาแขกเหรื่อต่างชื่นชมความสวยของเจ้าสาวไม่ขาดปาด แม้งานจะถูกจัดอย่างเป็นส่วนตัวแต่สื่อบางสำนักก็พาดหัวข่าวออกไปจนเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกแดเนียลยืนมองโรซาลินที่สวมชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ขณะเดินผ่านเธอหันมาส่งยิ้มให้เขาอย่างมีความสุข พิมประภา ป้ามาเรียและเลโอนั่งมองโรซาลินเข้าพิธีแต่งงานอย่างมีความสุข เธออวยพรแก่ทั้งคู่ยาวเหยียดจนโรซาลินถึงกับน้ำตาซึม แจ๊ค แอบิเกล บิลลี่และซินดี้นังถัดไปจากเลโอและเป็นเพื่อนฝ่ายเจ้าสาวที่ได้รับการเชิญมาเป็นแขกในงานเมื่อถึงแท่นพิธี บาทหลวงให้ทั้งคู่กล่าวคำสาบานจากนั้นก็สวมแหวนให้กันแล้วจดทะเบียนสมรสภายในวันนั้นเป็นอันเสร็จพิธี ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในสัปดาห์เดียวด้วยเม็ดเงินมหาศาลของแซฟเฟอร์ อีกทั้งแหวนแต่งงานของทั้งคู่นั้นสตีเฟ่นสั่งให้คนนำเพชรเก่าแก่ของตระกูลไปเจียระไนใหม่เพื่อทำแหวนพิเศษขึ้นมาให้แก่ลู
สัปดาห์ต่อมาโรซาลินและแซฟเฟอร์เดินทางกลับอิตาลีพร้อมกันท่ามกลางกระแสข่าวที่ตอกย้ำเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเขา อีกทั้งข่าวเรื่องการยกเลิกงานหมั้นอย่างกระทันหันนั้นทำเอาโรซาลินกลายเป็นที่จับตามองส่งผลให้หนังที่กำลังเปิดตัวกลายเป็นที่สนใจมากขึ้นไปอีกเท่าตัว “ลิน! ดูนี่สิพาดหัวแต่เช้าเชียวอีพวกบ้าเนี่ย คนมีแฟนมันผิดยังไงยะ! เดี๋ยวแม่ตบหน้าหันเลย” บิลลี่บ่นพล่ามเมื่อเห็นข่าวที่กำลังพาดพิงถึงเพื่อนหล่อนแต่เช้ารถตู้คันหรูแล่นมาจอดในงานเปิดตัวภาพยนต์เรื่องดังที่เธอแสดงนำ ร่างบางในชุดเดรสสีกรมระยิบระยับสวยงาม เมื่อก้าวลงจากรถแสงแฟลชก็รัวสาดเข้าใส่ทันที ดวงตากลมโตหรี่ลงแม้จะแสบตาแต่ใบหน้าหวานก็เปื้อนยิ้มอยู่ตลอดเวลาสมกับเป็นมืออาชีพ ร่างบางขึ้นเวทีพร้อมกับนักแสดงคนอื่น งานเปิดตัวภาพยนต์ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ สื่อให้ความสนใจกันอย่างล้นหลามโดยเฉพาะนักแสดงนำอย่างโรซาลินที่เพิ่งมีข่าวฉาวก่อนหน้านี้ หลังจบงานบนเวที นักข่าวตั้งป้อมดักรอสัมภาษณ์อยู่หน้างานกันอย่างคับคั่ง“คุณโรซาลินคะ หยุดวงการไปพักผ่อนตั้งเดือนนึงช่วยอัปเดตให้ฟังหน่อยค่ะ” “จากภาพเห็นว่าคุณลินเดินทางกลับพร้อมกับคนที่เป็นข่
“เดี๋ยวนะคะ เราคงคุยกันไม่เข้าใจแล้วล่ะ มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงคะ ลินเป็นแค่คู่นอนเท่านั้นไม่ได้คิดจะเป็นเมียคุณ อย่ามาเสียเวลาเลยค่ะ”“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ที่เอากันอยู่ทุกวันนี้ยังคิดว่าฉันเห็นเธอเป็นคู่นอนอยู่อีกรึไง”“คุณก็ทำแบบนี้กับผู้หญิงอีกหลายคน อย่ามาปั่นหัวลินเลยค่ะ ปล่อยนะคะเดี๋ยวคนเข้ามาเห็น!”“ลิน..ฉันไม่ได้ปั่นหัว เธอยังโกรธเรื่องที่ปารีสอยู่ใช่ไหม” เขาเอ่ยถามพร้อมกับรวบเอวคอดในขณะที่มือเล็กก็พยายามผลักและต่อต้านเขาสุดกำลัง“ใช่ค่ะ เรื่องวันนั้นมันทำให้ลินคิดได้ว่าลินไม่เหมาะกับคุณ ลินเป็นแค่ผู้หญิงที่ขายตัวให้คุณ เมื่อไหร่ที่คุณเบื่อคุณก็สามารถไล่ลินได้ตลอดเวลา” น้ำเสียงหวานเอ่ยสั่นพยายามบังคับไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในแววตาคู่สวยด้วยความรู้สึกวูบไหวก่อนจะเอ่ยออกมา“ฉันขอโทษ..มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ฉันจัดการไปหมดแล้วจะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นอีกแล้ว..ลิน อย่าดิ้น” เสียงห้าวทุ้มเอ่ยกระเส่า เมื่อร่างบางนุ่มนิ่มกำลังดิ้นขลุกขลั่กในอ้อมแขนแข็งแรง กลิ่นหอมคุ้นเคยคลุ้งอบอวลอีกทั้งเต้าอวบอิ่มที่กำลังบดเบียดแผงอกแกร่งอยู่นั้นมันกระตุ้นสัญชาตญาณของชายหนุ่ม
“ไหนมึงบอกอีกนาน” คริสโตเฟอร์เอ่ยถามแวฟเฟอร์ก่อนจะส่งแก้วบรั่นดีให้ คาร์ลิมัสที่เพิ่งเดินเข้ามายักคิ้วทักทายพี่ชายทั้งสองคนก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงสามหนุ่มนั่งพูดคุยกันที่ระเบียงกว้างขวางภายในคฤหาสน์ของตระกูลที่นานครั้งถึงจะมาใช้งาน ส่วนใหญ่พวกเขาจะอยู่ที่เพ้นเฮ้าส์ส่วนตัวและยังมีตึกส่วนตัวแยกออกไปอีกคนละหลังซึ่งอยู่ภายในอาณาบริเวณคฤหาสน์หลังนี้“กูมาให้ปากคำตำรวจ” “ป่านนี้ไอ้แฮชานคงหลบออกนอกประเทศไปแล้ว แล้วเคลียร์กันลงตัวรึยังกับเมียน่ะ” “......” แซฟเฟอร์ไม่เอ่ยตอบอะไร แต่ในหัวคิดไปถึงใบหน้าหวานที่มักจะมองเขาด้วยสายตาเย็นชาตลอดเวลาตั้งแต่ลงเครื่องมานี่หล่อนยังไม่คิดจะรับสายเขาสักครั้ง“อ่า..จะง่ายขนาดนั้นเชียวหรือวะ ดูหน้ามันสิเหมือนคนแบกอะไรไว้ที่คอเลย” คาร์ลิมัสเอ่ยขึ้นพร้อมกับจิบบรั่นดี“นั่นสินะ เธอโดนเบลล่ากลั่นแกล้งซะขนาดนั้นคงเข็ดไม่กล้าเข้าใกล้มึงแล้วล่ะ แล้วมึงก็ยังจะทำตัวงี่เง่าใส่เธออีก แล้วจะทำยังไงต่อ” คริสโตเฟอร์เอ่ยถามปมปัญหาที่ผู้เป็นพี่ชายกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้“นั่นแหล่ะที่กูกำลังคิดอยู่” แซฟเฟอร์เอ่ยบอกเสียงเรียบ ทั้งสามหนุ่มดื่มกันจนดึกก่อนจะแยกย้ายกันกลับพื