ก๊อกๆ
ส่งสัญญาณเสร็จใบข้าวก็ถือวิสาสะเปิดประตู อาจารย์หมอลูกครึ่งไทย-อังกฤษมองผู้มาเยือนอยู่แล้ว เมื่อเห็นว่าเป็นประธานนักศึกษาหน้าตาสะสวยอย่างใบข้าว มุมปากก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม “สวัสดีค่ะอาจารย์คริส” ใบข้าวยกมือไหว้ “มาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?” อาจารย์หมอหนุ่มหล่อวัยสามสิบสาม ที่พ่วงตำแหน่งทายาทผู้บริหารมหาวิทยาลัยมาด้วย เอ่ยถามนักศึกษามากความสามารถ ซ้ำยังสวยมากด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ใบข้าวไม่เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว เธอบอกธุระของตัวเองให้อาจารย์หนุ่มทราบ และท่านสามารถแก้ไขปัญหาให้เธอได้ทันที ยอมยกห้องว่างในตึกของคณะแพทย์ ให้คณะของเธอใช้เป็นห้องซ้อม สำหรับงานมหาวิทยาลัยซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนหน้า “ขอบคุณอาจารย์มากๆเลยค่ะ ถ้าอย่างนั้นข้าวไม่รบกวนเวลาของอาจารย์แล้วนะคะ สวัสดีค่ะ” อาจารย์หนุ่มมองตามแผ่นหลังของเด็กสาว ที่รีบร้อนออกไปทันที หลังจากได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้ว ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดอย่างอื่นเลย รวมถึงไม่เปิดช่องว่างให้เขาได้แสดงความรู้สึกอื่นในฐานะผู้ชายคนหนึ่งด้วย แต่ถึงอย่างนั้นความสนใจในตัวเธอก็ไม่ยอมลดน้อยลงเลย เมื่อโอกาสอีกเมื่อไหร่ เขาจะลองเผยความรู้สึกของตัวเองให้เธอรู้ ทางด้านของใบข้าว เธอเดินออกมาจากห้องทำงานของอาจารย์แพทย์ ด้วยความดีใจปะปนไปกับความรู้สึกผิด ความทรงจำทั้งในอดีต ทั้งที่เกิดขึ้นไปแล้วในอนาคต ทำให้ความหวังดีของอาจารย์หนุ่มรายนี้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อาจารย์คริสก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่หลงรักเธอ เธอไม่เคยอยากใช้วิธีง่ายดายแบบนี้เลย แต่ครั้งนี้มันจำเป็นจริงๆ คงจะเป็นครั้งแรกและเป็นครั้งสุดท้ายด้วย ตกเย็น เพราะเรื่องของห้องซ้อมคลี่คลายลงไปแล้ว ใบข้าวจึงไม่ไปวุ่นวายกับชมรมดนตรีอีก ร่างสมส่วนในชุดไปรเวทก้าวเดินเชื่องช้าเพื่อไปทำงาน เมื่อมาถึงทางเข้าด้านหน้าของผับ คิ้วเรียวสวยก็มุ่นเข้าหากัน เพราะการ์ดที่ทำงานอยู่ตรงนี้เดินมาขวางทางเธอ ไม่ยอมให้ผ่านเข้าไปด้านใน “มีอะไรหรือเปล่าคะพี่?” “ …? ข้าวไม่รู้เหรอว่าเจ้านายไล่ข้าวออกแล้ว” การ์ดที่คุ้นหน้ากันดีทำหน้าสงสัย คำพูดของเขาทำเอาเส้นเลือดในสมองของใบข้าวแทบแตก คำขู่ของเขตครามเมื่อวาน เธอไม่คิดว่ามันจะส่งผลในทันที ไม่คิดว่าเขาจะกล้าตัดช่องทางทำมาหากินของเธอรวดเร็วขนาดนี้ ไอ้บ้านั่น ให้สมองเธอได้พักสักวันก็ไม่ได้เลยหรือไง “อ่า ข้าวว่าน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะคะพี่ ข้าวขอเข้าไปคุยกับผู้จัดการหน่อยได้ไหม” ใบข้าวยิ้มสู้ พยายามขอเข้าไปคุยกับผู้จัดการผับ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบจากการ์ด ผู้จัดการก็เดินหน้าเครียดออกมาจากด้านใน เธอรีบเดินไปหาเขา ยังไม่ทันได้อ้าปากพูดอะไร เขาก็รีบส่ายหน้าไปมา “ขอโทษนะข้าว ครั้งนี้พี่ช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ” อนุชารู้สึกสงสารใบข้าวมาก แต่ถ้าหากเขาไม่ทำตามคำสั่งของคุณเขตคราม เขาจะตกงานและเป็นคนที่เดือดร้อนซะเอง ถึงแม้ตอนนี้ใบข้าวจะเดือดร้อนเรื่องงาน ไม่นานเธอก็จะได้รับความช่วยเหลือ และคนๆนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นคนที่เอ่ยปากไล่เธอออกนั่นแหละ “อ่า ค่ะ” ใบข้าวแทบหาเสียงตัวเองไม่เจอ หมุนตัวเดินออกมาพลางก่นด่าคนที่ไล่เธอออก ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ แต่ไม่มีเวลาให้ความรู้สึกเหล่านั้นมากนัก เดินหน้าหางานใหม่ในทันที โชคชะตาช่างเล่นตลกกับเธอเหลือเกิน ส่งเธอข้ามเวลากลับมาทั้งที ทำไมไม่ส่งเงินที่เธอมีในอนาคตกลับมาด้วย โอ้ย! ตอนนี้เธอโกรธจนลามปามไปถึงเทวดาฟ้าดินแล้วเนี่ย ใบข้าวหยุดยืนอยู่หน้าทางเข้าผับอีกแห่ง ซึ่งอยู่ถัดมาจากอาคารเดิมไม่มากนัก การ์ดของสถานที่มองเธอพลางยกยิ้มกรุ้มกริ่ม ใบข้าวยกมือไหว้แสร้งยิ้มเอาใจ จากนั้นก็เอ่ยถามในสิ่งที่ตัวเองต้องการ “หนูอยากสมัครงานที่นี่ค่ะพี่ มีตำแหน่งว่างไหมคะ” การแทนตัวด้วยหนูของเธอ เพื่อเรียกคะแนนสงสารล้วนๆ “สวยๆอย่างน้อง มีตำแหน่งว่างให้อยู่แล้ว ว่าแต่เราชื่ออะไรเหรอ?” การ์ดวัยฉกรรจ์ถาม ก่อนจะมายืนทำหน้าที่ของตัวเอง เขาได้รับการสั่งงานมาว่า ให้คัดคนที่จะมาสมัครงานด้วย ถ้าหากชื่อใบข้าวห้ามรับเข้ามาทำงานเด็ดขาด ถ้าไม่ฟังคำสั่งจะถูกไล่ออกแบบไม่มีการยกเว้น “ใบข้าวค่ะ” “อ่า พอดีพี่เพิ่งนึกได้ ว่าไม่มีตำแหน่งว่าง ขอโทษนะน้อง” การ์ดนึกเสียดายสาวสวยหุ่นดีตรงหน้า แต่ก็ต้องจำใจบอกปัดว่าไม่มีตำแหน่งงานว่างแล้ว “ไม่เป็นไรค่ะ” ใบข้าวหอบเอาความผิดหวังเดินจากไป ร้านที่สองพลาดไป ร้านที่สามอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้นี่นา ถ้าไม่ได้ก็ยังมีร้านที่สี่ ร้านที่ห้า ร้านที่หก ย่านนี้เป็นย่านเศรษฐกิจ ซึ่งมันไม่ได้มีแค่ผับบาร์ด้วย “ขอโทษนะ ไม่มีตำแหน่งว่างเลย” “ขอโทษนะ ร้านเราไม่รับ” “ป้ายรับสมัครงานเหรอ ยังไม่ได้แกะออกน่ะ” นั่นคือประโยคที่สมองของใบข้าวจดจำมันได้ เธอโดนปฏิเสธจนนับไม่ไหวว่ามันกี่สถานที่แล้ว โดนปฏิเสธจนท้อ ท้อจนอยากจะร้องไห้ โกรธคนที่ไล่ตัวเองออกสุดใจ ทำไมเขาถึงใจร้ายกับเธอได้ขนาดนี้ “ฮึก! ไอ้คนใจร้ายใจดำ ไอ้บ้าคราม ไอ้เผด็จการ ไอ้ชั่ว!” ใบข้าวด่าเสร็จก็รีบยกมือขึ้นปาดน้ำตา และหยาดเหงื่อที่ไหลท่วมใบหน้าออกไป เส้นทางกลับหอยาวไกลเหลือเกิน แต่เส้นทางชีวิตของเธอกลับยาวไกลกว่า ท้อและเหนื่อยจนหมดแรง แต่ก็ยังคาดหวังกับสถานที่ทำงานแห่งสุดท้าย ตรงหน้าเธอคือผับที่คนลื่อว่าอันตรายที่สุดในย่านนี้ Demon “สวัสดีค่ะพี่ หนูมาสมัครงาน พอจะมีตำแหน่งว่างไหมคะ” “อืม” พนักงานวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วมลากสายตาสำรวจ แม้แสงไฟค่อนข้างจะสลัว แม้ว่าเส้นผมบางส่วนจะเปียกชุ่มจนแนบไปกับใบหน้า แต่ก็เห็นชัดเลยว่าเด็กคนนี้สวยมาก “มีสิ พร้อมจะทำวันนี้เลยไหม?” “ค่ะ หนูทำวันนี้เลยค่ะพี่” ใบข้าวตอบรับออกไป รู้สึกหวั่นใจกับข่าวลื่อของที่นี่ แต่เธอมีตัวเลือกอื่นที่ไหนล่ะ งานปกติเขาก็ไม่อยากรับพนักงานพาร์ทไทม์ ถ้าหากไม่ต้องจ่ายค่าเช่าหอของเทอมหน้าสิ้นเดือนนี้ เธออาจจะมีเวลาให้เลือกหางานที่ดีกว่าที่นี่ก็ได้ เป็นไงเป็นกัน มันคงไม่ต่างไปจากที่เดิมนักหรอกชั่วโมงต่อมา รถยนต์หรูสามารถฝ่ารถติดของเมืองใหญ่มาถึงที่หมายได้สำเร็จ คำพูดที่ว่าจะให้เธอลงก่อนจะถึงมหาวิทยาลัย ตอนนี้กลายเป็นเพียงแค่ลมผ่านปาก ใบข้าวมองไปทางอาจารย์ที่ไม่ยอมหยุดรถ สลับกับมองเส้นทางด้านหน้า ภาวนาว่าครั้งนี้ เขาจะไม่ใช้ข้ออ้างแบบเดิมกับเธออีก “ให้ข้าวลงตรงนี้เถอะค่ะอาจารย์”“ไปลงที่เดียวกับผมดีกว่านะ ตรงนั้นเงียบกว่าที่นี่เยอะเลย”“อ่า แบบนั้นก็ได้ค่ะ”ใบข้าวก่นด่ารถที่ขับตามหลังรถยนต์คันนี้มา ถ้าหากไม่มีรถคันนั้น เธอได้ลงจากรถคันนี้ไปตั้งนานแล้ว ไม่ต้องเสี่ยงถูกเข้าใจผิด เห้อ! แต่จะว่าไป ไอ้รถคันที่ขับตามหลังมา ก็ดูคุ้นๆตาแฮะ “ขอบคุณที่ให้ข้าวติดรถมาด้วยค่ะ”“อื้อ ยินดีครับ”ใบข้าวรีบร้อนลงจากรถเพราะทางข้างนอกสะดวกแล้ว เธอเพิ่งจะผลักหลังเพื่อนให้สู้เรื่องของอาจารย์คริสไปเมื่อวาน วันนี้กลับอาศัยรถของเขามามหาวิทยาลัย ถ้ามีใครเห็นเขาแล้วเอาไปลือแปลกๆ แล้วถ้ามันไปถึงหูมินตรา เธอกลัวว่าเพื่อนที่มีอยู่เพียงไม่กี่คน จะเลือกหันหลังให้เธอ เธอไม่อยากสูญเสียใครไป เพราะเท่าที่มีอยู่ก็น้อยนิดเหลือเกิน “ไปทำอีท่าไหนถึงได้นั่งรถเขามา”ในขณะที่ใบข้าวกำลังจะเดินพ้นตึกคณ
วันต่อมา ร่างสมส่วนในชุดนักศึกษาก้าวออกมาจากห้องนอนด้วยความระมัดระวัง มองไปรอบๆห้องโถงขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ใช้สอยในส่วนของครัว ห้องนั่งเล่น และอื่นๆ เมื่อไม่เห็นเงาลูกชายเจ้าของอาคาร ลมหายใจก็ถูกพรูออกมาเบาๆ จากนั้นมันก็หนักหน่วงขึ้น และยอมรับกับตัวเองในที่สุดว่าเธอ น้อยใจที่ถูกเขาทิ้งให้จัดการชาบูที่เหลือเพียงลำพัง เมื่อวาน ในขณะที่เธอกับเขากำลังนั่งสู้กับหมูสไลด์ และของสดจากท้องทะเลแถวอ่าวไทย เขตครามรับสายโทรศัพท์จากบุคคลหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ทิ้งเธอไว้ที่นั่น กับอาหารที่ตักมาแล้วและเหลืออยู่มากกว่าครึ่ง ถึงแม้เขาจะทิ้งเงินสองหมื่นไว้ให้เธอจ่ายค่าอาหาร แต่เธอต้องจัดการอาหารที่เหลือเหล่านั้นคนเดียว แน่นอนว่าเธอกินมันไม่หมด และต้องจ่ายค่าปรับไปตามกฎของร้านถึงหนึ่งพัน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นของความน้อยใจ เขาไปไหน ไปกับใคร แล้วทำไมถึงไม่กลับมานอนบ้าน “โอ้ย! ช่างเขาสิ ช่างเขา”เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ใบข้าวก็ร้องออกมา เหมือนกับว่าเพิ่งจะได้สติ เธอเป็นแค่คนอาศัยชายคาบ้านเขาอยู่ ยังไม่ใช่แฟน และไม่ใช่เมียของเขาด้วย จะรอทำไม เขาจะไปที่ไหนกับใครก็ช่างสิ เขาจะไม่กลับมาเลยก็ได้ เพราะนั่นม
ก๊อกๆ เขตครามดึงตัวเองออกมาจากความทรงจำ มองที่นั่งข้างตัวซึ่งเหลือไว้เพียงความว่างเปล่า พราวฟ้าลงจากรถไปตอนไหนเขายังไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ ลมหายใจหนักหน่วงถูกพรูออกมา เลื่อนกระจกรถฝั่งที่ถูกเคาะลง ใบข้าวยืนทำหน้าเคร่งเครียดอยู่ด้านนอก “เธอมาช้า”“ฉันมาถึงตั้งนานแล้วเถอะ แต่ … พราวฟ้าอยู่บนรถของนายนี่นา ฉัน … ฉันกลัวยัยนั่นเข้าใจผิด”ใบข้าวแอบหลบมุมรออยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง จนกระทั่งมั่นใจว่าพราวฟ้าไม่ได้ไปกับเขา และรถของเขายังจอดนิ่งอยู่กับที่ เธอถึงได้ออกมาจากที่ซ่อน และยืนอยู่ตรงนี้ข้างรถเขา ในฝั่งที่จะมองเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดที่สุด แต่มันไม่ฉายอะไรอย่างที่ใจเธอกลัว ใบหน้าของเขาตอนที่มองเห็นเธอ แสดงออกชัดว่ากำลังดีใจ “ทำไมต้องกลัว คนที่เป็นอะไรกับฉันคือเธอไม่ใช่หรือไง”เมื่อทิศทางข้างหน้าชี้ชัดแล้วว่าต้องเดินแบบไหน เขาก็ไม่มีความลังเลอีกเลย ถึงแม้ใบข้าวจะยังคงทิ้งระยะห่างไม่ต่างจากเดิม แต่เขาเชื่อว่าสักวัน เธอจะเปิดใจยอมรับเขาเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ยอมให้ผู้ชายร้ายกาจอย่างเขากางปีกปกป้อง ระหว่างนั้นก็ … ปล่อยให้เธออวดเก่งไปก่อน “ฉันไปเป็นอะไรกับนายตอนไหน จำไม่เห
“ให้มินไปส่งไหมข้าว?” “อ่า ไม่เป็นไรๆ มินกลับบ้านดีๆนะ ปิ่นก็ด้วย อย่าเถไถลล่ะ”ใบข้าวปฏิเสธมินตรา จากนั้นก็หันมาบอกน้องเล็กบ้าง ยืนรอจนกระทั่งมินตรากับปิ่นมุกแยกย้ายไปยังรถของพวกเธอ จริงๆเธอก็อยากกลับบ้านแบบสบายๆอยู่หรอก แต่เป็นเพราะว่าเธอไม่ได้พักอยู่ที่หอเดิมแล้ว ขืนให้มินตราไปส่งความลับเธอก็แตกนะสิ “เพื่อนไปไหนแล้วล่ะ?”ในขณะที่ใบข้าวกำลังเดินไปบริเวณทางเข้าด้านหน้าของมหาวิทยาลัย การเดินของเธอก็ถูกฉุดรั้งไว้ด้วยคำถาม จากผู้ชายที่มีน้ำเสียงคุ้นหู ไม่นานใบหน้าคุ้นเคยก็ปรากฏอยู่ในสายตา ดวงตาสีเข้มกว่าฉายแววสนุกสนาน เมื่อเห็นว่าเธอทำสีหน้าไม่พอใจส่งไป “ฉันบอกนายไปแล้วไม่ใช่หรือไง อย่ามาทำเหมือนสนิทกันได้ไหม เวลาอยู่มหาวิทยาลัยก็ต่างคนต่างอยู่หน่อยสิ”“เห้อ! อย่าเอาแต่ใจให้มันมากนักนะใบข้าว ฉันไม่ได้ใจดีขนาดนั้นหรอกนะ”เขาพยายามจะไม่ทำนิสัยเหมือนตอนยังเป็นวัยรุ่น เพราะตอนนั้นนิสัยเขาแย่มาก แต่เธอก็ขยันในการดึงตัวตนนั้นกลับมา มันไม่ดีกับตัวเขา และไม่ดีต่อตัวเธอมากกว่าใคร เขาใจร้ายกับเธอสุดๆ นั่นก็เพราะเขารู้สึกตัวช้าไป “ก็ ก็รู้”ใบข้าวลดระดับใบหน้าลง รู้สึกน้อยใจที่โดนตำ
หลังเลิกเรียน ห้องสภานักศึกษา “พี่ข้าว~ วันนี้จะไปตรวจสอบการลงโทษชมรมดนตรีใช่เปล่า ปิ่นขอไปด้วยนะ นะคะพี่ข้าวคนสวย”ปิ่นมุกเอ่ยรั้งประธานคนสวยไว้ พร้อมขอติดสอยห้อยตามไปตรวจสอบการลงโทษชมรมดนตรีด้วย ใบข้าวพยักหน้าขึ้นลงเพราะไม่มีเหตุผลให้ต้องปฏิเสธ ถึงจะรู้สึกเจ็บปวดเล็กๆ เพราะความรู้สึกของปิ่นมุกที่มีต่อเขตคราม แต่เธอไม่เห็นปิ่นมุกพยายามทำอะไรที่มากไปกว่าการติ่งเลย ไม่รู้ว่ารักชอบจริงๆ หรือแค่หลงใหลได้ปลื้มเขาเท่านั้นไม่กี่นาทีต่อมา ไม่เพียงแค่ปิ่นมุกที่ได้ไปด้วย สุดท้ายมินตราก็ขอตามไปด้สยอีกคน สามสาวหน้าตาโดดเด่นกลายเป็นจุดสนใจของเหล่านักศึกษาที่ยังไม่เดินทางกลับ รวมไปถึงอาจารย์แพทย์หนุ่มหล่อขวัญใจนักศึกษา ที่ตั้งใจมารอใบข้าวด้วยธุระส่วนตัว “สวัสดีค่ะอาจารย์”สามสาวกล่าวคำทักทายอาจารย์หนุ่ม ยกมือขึ้นไหว้อย่างพร้อมเพียงกัน มุมปากหยักสวยเผยรอยยิ้มเป็นมิตร ดวงตาสีเทาอ่อนหลุบลงต่ำ ซุกซ่อนแววตาผิดหวังไว้ เสียดายจังที่ใบข้าวไม่ได้อยู่คนเดียว“กำลังจะไปไหนกันเหรอครับ?”“ไปตรวจสอบการทำงานของชมรมดนตรีค่ะ”ใบข้าวตอบพลางแอบสังเกตสีหน้าของเพื่อนต่างคณะไปด้วย เธอรู้มานานแล้วว่ามิน
วันจันทร์ หลังจากใช้ชีวิตในช่วงวันหยุดครั้งแรกหมดไปกับการนอน และมีผู้ชายปากร้ายอย่างเขตครามอยู่ป่วนในวันสุดท้ายของวันหยุด ใบข้าวก็กลับเข้าสู่ไลน์ชีวิตเดิม ที่ต่างไปจากเดิมเพียงเล็กน้อย นั่นก็คือการมีสารถีขับรถหรูมาส่งถึงหน้ามหาวิทยาลัย“บอกให้จอดตั้งแต่ซอยที่แล้ว จะดื้อดึงมาจอดตรงนี้ทำไมอะ คนเยอะนะเห็นไหม ถ้าเกิดมีใครเห็นเข้าจะทำยังไงละทีนี้”ใบข้าวบ่นคนที่ทำหูทวนลม เขตครามมองออกไปนอกรถ ไม่เคยแคร์ว่าคนอื่นจะมองตัวเองยังไง เพราะตัวตนของเขา ถูกเข้าใจผิดจนคนคิดว่าเขาเป็นแบบนั้นจริงๆไปแล้ว “ช่างสิ ไม่เห็นจะแคร์”“นายไม่แคร์ แต่ฉันแคร์ เราไม่ได้คบหากันอยู่ การที่ฉันลงไปจากรถของนาย รู้ไหมว่าคนพวกนั้นจะคิดแบบไหนกับฉัน ของเล่นนายไงเขตคราม คนพวกนั้นให้ค่าฉันแค่นั้นแหละ”“เปิดตัวเลยไหมล่ะ?”“นะ นาย! พูดง่ายเกินไปไหมย่ะ!”“แล้วมันยากตรงไหน เธอไม่อยากเป็นเมียฉันทั้งที่เป็นไปแล้ว?”“นะ ไหนนายบอกว่าไม่อยากได้ฉันเป็นเมียเหมือนกันไง”“นั่นมันคำพูดก่อนที่ฉันจะนอนกับเธอ ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว”เขาเปลี่ยนใจแล้วจริงๆ ในเมื่อเธอกลายมาเป็นผู้หญิงของเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาจะหาวิธียืดอายุขัยเธออ