‘ฉันรักเธอนะใบข้าว’
สิ้นสุดคำบอกรักแสนหวาน ใบหน้าหล่อเหลามีเสน่ห์ก็โน้มต่ำลงมา ดวงตาสีเทาเข้มตราตรึงจนเผลอยืนนิ่ง ปล่อยให้ริมฝีปากหยักร้ายที่มีจิวสีดำประดับอยู่มุมขวา กดแนบลงมาบนความอวบอิ่ม ลิ้นใหญ่กวาดลากไปมาช้าๆ ไม่นานก็แทรกผ่านเข้ามาข้างในได้สำเร็จ ไล่ต้อนลิ้นเล็กของเธอไปทั่วโพลงปาก และไม่นาน เขาก็สามารถเกี่ยวเอาลิ้นของเธอไปดูดได้สำเร็จ จ๊วบ! “กะ กรี๊ด!” เสียงกรีดร้องดังระงมลั่นห้องนอนสี่เหลี่ยม ขนาดสามคูณสี่เมตร ดวงตาคู่หวานปิดทับด้วยแพรขนตาหนา เบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจเพราะความฝันที่เสมือนจริงเมื่อครู่ เอื้อมมือขวาไปหยิกแขนด้านซ้ายเพื่อเช็คให้แน่ใจว่ามันเป็นแค่ฝันจริงๆ ความเจ็บปวดลามจากจุดที่ลงน้ำหนัก แผ่ซ่านไปถึงกลางแผ่นหลังรวมกันเป็นความสยดสยอง หนังผีที่เปิดดูเมื่อคืน ยังเทียบไม่ได้กับความสยองของฉากจูบเมื่อครู่นี้เลย “บรื้อ! ฉะ ฉันจูบกับ อะ ไอ้ ไอ้บ้าครามเนี่ยนะ! ฮือ โลกคงจะถึงกาลอวสานแล้วแน่ๆ” ใบข้าว นักศึกษาสาวชั้นปีสุดท้ายของคณะนิเทศศาตร์ สาขาการสื่อสารการตลาด ที่พ่วงตำแหน่งประธานสภานักศึกษาของมหาวิทยาลัยมาด้วย ทำท่าขนลุกขนพองประกอบคำพูดของตัวเอง เมื่อนึกถึงใบหน้าของ เขตคราม หนุ่มหล่อสุดฮอตของคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเครื่องกลเรือ ที่พ่วงหลังมาด้วยตำแหน่งต่างๆ ทั้งเฮดว๊ากเอย เดือนคณะเอย และตำแหน่งล่าสุด หัวหน้าชมรมดนตรีประจำมหาวิทยาลัย ซึ่งเธอจะไม่แสดงท่าทีรังเกียจเขาแบบนี้เลย ถ้าหากว่าเขาไม่พ่วงตำแหน่งตัวปัญหามาด้วยอีกหนึ่งตำแหน่ง เขตครามถูกคนทั้งมหาวิทยาลัยโหวตให้เป็นผู้ชายที่หล่อที่สุด ดูดีที่สุด และร่ำรวยที่สุดในมหาวิทยาลัย แต่เป็นเพราะไอ้ฐานะลูกชายมหาเศรษฐีที่ใครสรรเสริญเยินยอต่อท้ายความหล่อของเขานั้นแหละ ที่ทำให้เธอกับเขากลายเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่เรียนอยู่ปีหนึ่ง เพราะเขตครามมีเงินทองหนุนอยู่เบื้องหลัง เขาจึงกลายเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีแต่สันดารเน่าเสีย เสียแบบแก้ไม่ได้ และเธอคิดว่าสันดารเน่าๆของเขาน่าจะติดตัวไปจนตาย ในอนาคตใครได้เขาเป็นผัวถือว่าซวยสุดๆ ‘เธอจะแต่งงานกับฉันใช่ไหมใบข้าว’ ‘อื้อ! ตกลง ฉันจะแต่งงานกับนาย เขตคราม’ ใบหน้าคนตอบเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข ดวงตาฉายแววความรักออกมาชัดเจน มันเป็นภาพของเธอกับเขตคราม ในช่วงวัยที่โตกว่าตอนนี้มากๆ ภาพที่อยู่ดีๆก็ผุดเข้ามาในโสตประสาท ทำเอาใบข้าวที่กำลังขนลุกขนพองเพราะฉากจูบเร่าร้อนในความฝัน แทบจะซ่อนตัวเองไว้ในห้องพัก ไม่อยากก้าวออกไปเผชิญหน้ากับเขตครามที่มหาวิทยาลัยเลย แต่เธอต้องไป! วันนี้เธอมีภารกิจทวงคืนห้องซ้อมดนตรี ที่เขตครามกับคนของเขายึดไปเป็นห้องซ้อมส่วนตัว กลับคืนมาให้เหล่านักศึกษาคณะของเธอใช้ทำกิจกรรม ถึงแม้กระบวนการต่างๆ จะทำให้ห้องซ้อมนั้นอยู่ในความดูแลของเขาอย่างถูกต้องแล้วก็ตาม แต่เธอมีวิธีเอามันกลับคืนมาจากคนอย่างเขาแน่ แค่คิดถึงใบหน้าของเขตคราม ที่สูญเสียความมั่นใจหลังจากนี้ เธอรู้สึกมีแรงฮึดไปมหาวิทยาลัยขึ้นมาเลยแฮะ12 : 45 น. โรงแรม XXX ผลสรุปคือฉันกับเขตครามมาสายเกือบครึ่งชั่วโมง แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกโล่งใจ เพราะเขาบอกว่าจริงๆแล้ว พวกผู้ใหญ่เลื่อนนัดไปเป็นบ่ายโมง และคนทำให้ฉันเป็นกังวลมาตลอดก็โดนลงโทษไปตามระเบียบ แม้ฉันจะง้อด้วยจูบหวานๆ เขตครามก็ยังไม่หยุดทำหน้าบึ้ง ง้อยากนักฟาดหลังอีกสักรอบดีไหม “นี่คราม! เลิกทำหน้าแบบนั้นได้ยัง ฟาดอีกสักรอบดีไหมเนี่ย”ร่างสูงในชุดสูทสีกรมท่าถอยกรูดไปด้านหลัง ท่าทางหวาดกลัวปลอมๆนั่น ทำให้ฉันปรี่เข้าไปใกล้ ยกมือขึ้นหมายจะฟาดหัวไหล่ เสียงใครบางคนก็ขัดการกระทำของฉัน ลดมือลงข้างลำตัว หัวคิ้วขมวดเข้าหากันจนเกือบชน “สวัสดีค่ะอาจารย์ ไม่ใช่สิ คุณหมอคริส มิน”“สวัสดีใบข้าว”“สวัสดีจ๊ะข้าว”แปลกใจที่เจอคุณหมอคริสกับมินตราที่นี่ แต่ที่น่าแปลกใจมากกว่าก็คือความใกล้ชิดของคนทั้งสอง แม้ไม่ได้อยู่ในระดับที่มองออกว่าเป็นคู่รัก แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามีความสัมพันธ์บางอย่างแอบแฝงอยู่ “มากันแล้วเหรอ ยัยหนู”“คุณย่า ทำไมไม่รอข้างในล่ะครับ”เขตครามเดินเข้าไปช่วยพยุงผู้หญิงที่เขาเรียกว่าย่า ทว่าท่านยังดูอ่อนเยาว์เหมือนผู้หญิงวัยสี่สิบปลายๆ ฉันเดินเข้าไปใกล้ท่าน ยกมือไห
วันต่อมา “ข้าว ใบข้าว ตื่นได้แล้ว”เสียงนุ่มนวลรบกวนห้วงนิทราหวาน ฉันปรือตาขึ้นมองไปทางที่ตั้งของนาฬิกา เมื่อพบว่ามันเพิ่งจะเก้าโมงเช้า ก็ปิดเปลือกตาลงเหมือนเดิม แอบด่าคนที่ใช้แรงฉันทั้งคืนจนเกือบรุ่งสาง ไม่รู้จะรีบปลุกทำไม จำไม่ได้หรือไงว่าวันนี้วันเสาร์ “ข้าว! ตื่น”ครั้งนี้เขตครามไม่ได้ทำเพียงแค่เรียก เขาดึงรั้งผ้าห่มไปจากตัวฉัน ยิ่งเขาดึงฉันยิ่งออกแรงยื้อ เมื่อเห็นว่าผลแพ้ชนะมันกำลังจะเอนเอียงไปทางเขา ก็ส่งตาขวางไปให้ “ฉันเหนื่อย! ง่วงด้วย ร่างเหมือนจะแหลกเลย”ไอ้คนหื่นกามไม่หลงกล สุดท้ายผ้าห่มนุ่มสบายก็ร่วงหล่นอยู่ปลายเตียง คนที่นุ่งเพียงกางเกงนอนขาสั้นขยับขึ้นมาคร่อมทับทันที สายตาหื่นห่ามเกิดขึ้นอีกแล้ว ฉันที่เหนื่อยสายตัวแทบขาดรีบยกมือขึ้นฟาดหน้าอกเขาสุดแรง เพี๊ยะ! “ก็บอกว่าเหนื่อยไง!”“ชิ! ก็อยากให้นอนต่ออยู่หรอก แต่เธอลืมหรือไง ว่าต้องไปทานมื้อกลางวันกับพ่อแม่ฉันอะ”“เห้ย! จริงด้วย!”“เห้อ! ให้ช่วยอาบไหม?”“ไม่ต้องย่ะ! นายมานั่นแหละมันจะยิ่งช้า”ฉันลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท จึงหอบร่างกายร้าวรานลงไปจากเตียง จากนั้นก็เดินไปคว้าผ้าเช็ดตัว ตอบโต้กับเขตครามขณะที่เดินไ
สัปดาห์ต่อมา ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนให้ความสนใจข่าวลือเรื่องการคบหากันระหว่างฉันกับเขตครามอย่างล้นหลาม จนกระทั่งข่าวการลาออกจากตำแหน่งของอาจารย์คริสหลุดออกมา ข่าวลือของฉันถึงได้ซาลง แต่ถึงอย่างนั้นผู้คนก็ยังให้ความสนใจอยู่ จนฉันไม่เป็นอันทำอะไรเลย “เธอเองเหรอที่คนเขาลือกันให้แซ่ดว่าเป็นตัวจริงของครามอะ ฉันว่าข่าวมั่วมากกว่ามั้ง หรือไม่ก็คงเอาตัวไปประเคนใส่ปากให้เขาเคี้ยวจนได้เป็นตัวจริง” นินิวพูดจาค่อนขอดใส่ หลังจากวางเอกสารเกี่ยวกับงานของเธอลงบนโต๊ะเพื่อให้ฉันตรวจสอบ ยัยนี่เพิ่งจะรู้หรือไงว่าฉันเป็นผู้หญิงในข่าวลือ ก็นะ คงจะเพิ่งรู้นั่นแหละว่าเป็นฉัน ก็เธอมัวแต่ไปปลอบใจพราวฟ้านี่นา คงคิดว่าขอดไม้ผุๆอันนั้น จะพาเธอไปถึงฝังฝันได้อยู่“ก็ดีกว่าคนที่ล้างตัวเองใส่พานไปถวายถึงปาก แต่เขาไม่ยอมเคี้ยว ไม่ใช่หรือไง”“แก! ปากดีขึ้นเยอะนี่ใบข้าว!”“อืม ก็ไม่ต่างจากเธอที่ปากเน่ามากกว่าเดิม แปรงฟันด้วยนะ กลิ่นหึ่งจนจะอ้วกเลยเนี่ย”“แก! อีข้าว!”“อย่าคิดว่าฉันสู้เธอได้แค่ปากนะนินิว”ผู้หญิงหุ่นสะบึมน่าอิจฉาหยุดฝีเท้า จากนั้นก็เต้นเร่าๆอยู่บนส้นสูงแหลมปรี๊ด แต่งตัวมาแบบหวังไปทำค
“ถ้าต้องมานั่งรู้สึกผิดต่อกัน ก็ไม่ควรทำมันตั้งแต่แรกไหม”“นั่นสิ บอกตัวเองใช่ไหม”“ฉันยอมรับว่าหลบหน้านาย ฉันแค่อยากจัดการความรู้สึกของฉัน ไม่ได้บอกว่าจะเลิกคบกันสักหน่อย นายบอกว่านายรู้จักฉันมานานนี่นา นายน่าจะรู้อยู่แล้วไหมว่าฉันเป็นคนนิสัยยังไง ถ้าฉันได้ตัดสินใจอะไรไปแล้ว ฉันไม่มีทางเปลี่ยนใจ เรื่องของเราก็เช่นเดียวกัน”อาจจะสับสนไปบ้าง อาจจะรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวัง แต่ฉันก็จะพยายามทำมันให้สำเร็จให้ได้ การถีบตัวเองขึ้นไปโดยไม่พึ่งแรงส่งจากเขา มันคงทำให้ฉันรู้สึกภาคภูมิได้บ้าง อย่างน้อยๆฉันก็อยากพยายาม อยากให้คนรอบข้างมองว่าฉันมีคุณค่า และคู่ควรกับคนสูงส่งเช่นเขา “ … เธอควรจะพูดแบบนี้กับฉัน ก่อนที่จะทำมันนะ รู้ไหมว่าหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันเหมือนหมาบ้ามากแค่ไหน”“ก็บ้าๆบอๆตลอดอยู่แล้วปะ?”“นี่! ฉันยังไม่หายโกรธเธอนะ”เขตครามทำหน้าเหมือนหมาป่าโดนนายพรานดุ พอคนตัวโตๆทำหน้าแบบนั้น สมองมันอดคิดหาสิ่งเปรียบเทียบไม่ได้ เมื่อเห็นว่าฉันไม่ตอบโต้อะไร หมาป่าตัวใหญ่ก็แปลงกายไปเป็นหมาบ้าน “รู้แล้วน่าว่าฉันทำให้เธอโกรธเหมือนกัน อย่าทำหน้าแบบนั้นเลยนะ เดี๋ยวฉันอุ้มกลับ”เข้าใจว่าการคุ
“ฮึก! อือ”ฉันหลับตาลงยอมรับความพ่ายแพ้ ทั้งทางร่างกาย ทั้งความรู้สึก เป็นฉันนั่นแหละที่ผิด ถ้าเปิดใจคุยกับเขาไม่หนีหน้า ระหว่างเราคงไม่บาดหมาง เขาคงไม่โกรธจนตัดสินใจทำเรื่องระยำ แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คนขี้ขลาดอย่างฉันจะกล้าพูดมันจริงๆเหรอ “ฮึก! ไม่มีอะไรจะพูดกับฉันแล้วใช่ไหม ไม่คิดจะขอโทษฉันเลย”น้ำเสียงเจ็บปวดดังชิดแผ่นหลัง ท่อนลำที่กำลังสอบเข้าออกด้วยความรุนแรง ค่อยๆลดระดับความเร็วลง คงไว้เพียงความหนักหน่วง และสะโพกที่บดโยกไปซ้ายทีขวาที เมื่อไร้ซึ่งถ้อยคำตอบโต้ คนข้างหลังก็ฝังคมเขี้ยวลงบนหัวไหล่ โยกบั้นท้ายถี่รัว หนักหน่วง รวดเร็ว และเข้าสุดออกสุดเกือบทุกครั้ง “ฮึก! ฮือ! อือ อ๊า!”เมื่อร่างกายสุดจะกลั้นมันก็หดเกร็งตัว บีบรัดตัวตนด้านในให้ปริแตก แก่นเนื้ออวบใหญ่ปลดปล่อยสายธารหลั่งไหลเข้ามา มากมายจนมันเอ่อล้นออกไปตามการถอดถอนท่อนลำ “อึก! อย่าคิดว่ามันจะจบแค่นี้ล่ะใบข้าว”เขตครามสอดความใหญ่โตเข้ามาอีกครั้ง ครั้งนี้รุนแรงน้อยลง แต่ก็ยังเข้าสุดออกสุดหมือนเดิม ฉันหมดแรงจะต่อต้าน ร่างกายมันไม่ฟังคำสั่งตั้งแต่แรก โหยหาสัมผัสของเขา อยากได้อยากเอาในสิ่งที่เขาทำ อยากครอบครองทุกอย่
“อึก! แม่ง! รีบประชุมเหอะ!”เขตครามจับสะโพกฉันขึ้นและวางลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ ฉันรู้ว่าอะไรทำให้เขาพูดและทำแบบนั้น ไอ้ท่อนลำที่มันเหยียดขยายเพราะการทาบทับของบั้นท้ายฉันนะสิ แต่มันดีแล้วแหละ ฉันอยากรีบประชุมให้มันเสร็จ อยากหนีหน้าเขา ไม่พร้อมเผชิญหน้ากับเขาจริงๆ กลัวทุกสิ่งที่ตัวเองเก็บซ่อนไว้ พรั่งพรูออกมาให้เขารับรู้ การประชุมเป็นไปด้วยความราบรื่น แม้จะมีความขัดแย้งระหว่างนักศึกษาทั้งสองคณะเกิดขึ้นบ้าง แต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดี หลงเหลือเพียงเรื่องเดียวที่เป็นปัญหาในขณะนี้ ก็คือตัวพระนางของแสดงละครเวทีนั่นเอง กิจกรรมที่คณะของฉันกับคณะวิศวกรรมจะทำร่วมกันในปีนี้ก็คือละครเวที เนื้อหาเรื่องราวเกี่ยวข้องกับลานเกียร์คณะวิศวะกรรม ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือจนกลายเป็นตำนาน ยิ่งได้ความสัมพันธ์ที่เริ่มมาจากความไม่ลงรอยกับคณะของฉันเข้าไป เนื้อหาละครมันจึงดูมีอะไรซ่อนอยู่มาก คนเขียนบทก็ฉลาด ขาดก็แต่คนสวมบทบาทนั่นแหละ โดยเฉพาะตัวเอกของเรื่อง “เอ่อ … ขออนุญาตเสนอรายชื่อได้ไหมคะ?”วีนาคือคนเสนอบทละครเวที จนมันได้รับเลือกให้เป็นกิจกรรมที่พวกเราจะทำร่วมกัน เธอยกมือขึ้นอีกครั้ง พร้อมทั้งขอเสนอรายชื่อด้