로그인“เมื่อความจนตรอก บีบให้เธอเลือกเดินในทางที่ไม่เคยคิดจะก้าวเข้าไป…” ‘อลิซ‘นักศึกษาฝึกงานปี 3 ผู้แบกรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดของครอบครัวด้วยตัวคนเดียว เมื่อแม่ป่วยหนัก เงินที่มีอยู่ไม่พอแม้แต่จะซื้อยา เธอจึงตัดสินใจ… ยื่นข้อเสนอขอเป็น เด็กเลี้ยง ของเขา“ภูวินทร์ ” ประธานหนุ่มเจ้าของบริษัทที่เธอฝึกงานอยู่—เย็นชา มีเสน่ห์ และอันตรายต่อหัวใจ จากเจ้านาย กลายเป็นผู้ชายที่ครอบครองชีวิตเธอทุกด้าน แต่สิ่งที่ปาลินไม่รู้คือ… เขาเองก็สนใจในร่างกายเธอ กลิ่นกายที่แสนหอม เรือนร่างที่เขาใช้ปลดปล่อย เมื่อความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นด้วยการแลกเปลี่ยน กลับกลายเป็นพันธะที่ซับซ้อนระหว่างหัวใจ และในวันที่เธออยากจะถอนตัว มันกลับสายไปเสียแล้ว…
더 보기17.00น. “อลิซ ขึ้นรถไปกับฉันเลยมั้ย เดี๋ยวเมลล์จะไปรอที่ร้าน” ทับทิมเดินมาถาม หลังจากเลิกงานตึก ตึก ตึก ”จะไปไหนกัน“ ได้ยินเสียงเดินมาจากด้านหลังทั้งสองคนก็หันไปมองพร้อมกัน พรึบ ”ก็ไปกินข้าวไงคะอาภู จะไปด้วยกันมั้ยคะ“ ทับทิมถามอาอย่างกวนๆ ส่วนอลิซหลบหน้าไม่กล้าสบตาเขา”ไร้สาระ“ เขาพูดแล้วเดินไปยังลิฟต์ ติ๊ง ”ป้ะ ฉันไปกับแกนี่แหละ“ อลิซตัดสินใจ แล้วตกลงกับทับทิม”โอเค ไปกัน“ ทับทิมยิ้มสดใสแล้วลากแขนอลิซลงไป อลิซที่วิ่งตามอย่างช้าๆก็ยิ้มออกมาเบาๆณ ร้านชาบู“นั่นไงเมลล์“ อลิซเห็นเพื่อนนั่งอยู่ในร้านเลยบอกทับทิม”โอเคไปกันเถอะ“ ทั้งคู่เดินไปยังโต๊ะที่เมลล์จองไว้ก่อนหน้านี้แล้ว”โอ้ย ไม่เจอพวกแกนานคิดถึงมาก“ เมลล์ยิ้มทักทายขึ้น”วันนี้ใครมีเรื่องจะเล่าป้ะ“ อลิซถามเพื่อนทั้งสองคนอย่างรู้กัน”ฉันมี/ฉันมี!!“ เมลล์และทับทิมพูดขึ้นพร้อมกัน โดยไม่ได้นัดหมาย ”ฮ่า ฮ่า ฮ่า“ ทั้งสามสาวหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุขเมื่อชาบูมาเสริฟ ทั้งสามคนก็ได้กลิ่นหอมที่ลอยออกมาจากหม้อชาบู “หื้มม หอมจัง” อลิซสูดดมแล้วหันไปหัวเราะกับเพื่อน“โอ้ย หอมมากแก ไม่ได้กินนานเลยแหละ ช่วงนี้ไม่ว่างเลย” ทับทิมพูดเชิงดราม
ภูวินทร์ให้เฟยหนูชอบถุงกระโปรงตามตัวเองขึ้นมายังห้องทำงาน ผ่านโต๊ะที่ทำงานของแพรววา “บอสคะ ถุงอะไรหรอคะทำไมมันของเยอะขนาดนั้น ให้พี่ช่วยมั้ย“ ”อ๋อไม่ต้องครับ จะถึงแล้ว“เขาเลี่ยงที่จะตอบคำถามว่าในถุงนั้นคืออะไร ”วางไว้ตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันถือเข้าไปเอง“เขากลัวว่าคนอื่นจะเห็นอลิซในสภาพนั้น เปิดประตูเข้าไปในห้อง ”โห คุณซื้ออะไรมาเยอะแยะขนาดนี้คะ“ อลิซถามด้วยความตกใจ ”ก็ผมไม่รู้นิ่ ว่าคุณให้ซื้อแบบไหน เอาไปให้หมดนี่เลย” เขาวางถุงไว้ที่โซฟาแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานต่อ -ซื้อมาเยอะขนาดนี้กะจะให้ฉันใส่ถึงปีหน้าเลยหรอ- แล้วเธอก็เปิดถุงออกดู หยิบดูตัวนั้นตัวนี้ “โห ตัวนี้สวยจัง” เธอเลือกดูไปมา “ตัวนี้สวยมาก ตัวนี้คอลเลคชั่นใหม่นิ่ ตัวนี้แพงมาก คุณซื้อหมดกี่บาทเนี่ย“ เธอเลือกไปยิ้มไป ด้วยความตื่นเต้น แล้วหันไปถามเขา ทั้งคู่ก็สบตากันพอดี เธอเห็นเขายิ้มมุมปากเล็กๆ ก่อนจะหุบยิ้มลงเมื่อเธอจับได้ ”อ๋อก็ไม่เท่าไหร่หรอก แค่นี้เองเธอชอบฉันซื้อให้ได้อีกเป็นสิบ“ แล้วหน้าหล่อก็ก้มลงเขียนงานต่อ ”คุณภูวินทร์คะ ตัวนี้สวยมั้ย“ เธอใส่แล้วยืนขึ้นให้เขาดู -โหสวยมาก ตัวนี้เหมาะกับเธอจริงๆ- ”ก็งั้นๆ
”รู้สึกยังไง เมื่อวานดื้อนักไม่ใช่หรอ ทำไมต้อนนี้ทำท่าเหมือนคนจะตา-“ ภูวินทร์สะใจที่วันนี้แกล้งเธอสำเร็จ หัวเราะแล้วกำลังหันไปมอง พบว่าเธอกำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างลุกลี้ลุกลน “เอ้า อย่าทำแบบนี้” เขารีบวิ่งไปห้ามเธอไว้ แต่ก็ห้ามไม่อยู่ เมื่อยาออกฤทธิ์แล้วไม่มีอะไรแก้ได้ นอกจากหาคู่นอนเท่านั้น ”ช่วยฉันแก้พิษยาหน่อยนะคะ คุณภูวินทร์“ เธอทำเสียงออดอ้อน แล้วปลดเสื้อตัวเองออกจนหมด มองเห็นแต่เต้าอวบนั่นที่ล้นทะลักออกมาจากชุดชั้นในราคาแพงตัวสีดำ แล้วอลิซก็โน้มตัวเข้ามาจูบภูวินทร์ ชายหนุ่มตกใจเล็กน้อย ก่อนที่ตัวเองก็เคลิบเคลิ้มตามอารมณ์ แล้วจูบตอบเธออย่างเร่าร้อน อลิซผละเขาออก ”หืมมม~ คุณวางยาอลิซเองนะคะ วันนี้คุณต้องรับผิดชอบ” ก่อนจะจูบต่ออย่างดูดดื่ม ทั้งคู่แลกลิ้นกันครั้งแรก -ทำไมลิ้นของเธอมันหวานจัง- สองมือของชายหนุ่มจับไปที่ท้ายทอยของเธอ ล็อกไว้ไม่ให้ขยับหัวออกไปไหน หลังจากทั้งคู่หลุดจากพันธะแล้ว อลิซก็ถอดกางเกงภูวินทร์ออก แล้วคุกเข่าลงไป รวบผมตัวเองไว้อย่างหลวมๆ แล้วยื่นให้ภูวินทร์เป็นคนจับไว้ “จับไว้ค่ะ” จากนั้นเธอก็อ้าปากเล็ก งับเอาแท่งเอ็นลำใหญ่ แทงลึกลงไปจนสุดลำ
เช้าวันต่อมา ณ บริษัทภูทัชชัยกรุ๊ป ภูวินทร์ที่ตื่นสายเลยมาช้ากว่าปกติ“สวัสดีค่ะคุณภูวินทร์/สวัสดีครับประธาน” เสียงเอ่ยสวัสดีดังขึ้นตามหลังมาตลอดทางที่เดินเข้าบริษัท ชายหนุ่มที่กำลังเดินไปยังห้องทำงานด้วยความเร่งรีบก็ตกใจมาก“คุณพ่อ!!” เมื่อเห็นว่าชายที่นั่งอยู่บนรถวีลแชร์ในทางที่ไปห้องทำงานคือพ่อของตนเอง ที่มีคนรับใช้หนึ่งคนคอยเข็นให้“ตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมวันนี้มาสาย ฉันให้แกมาดูแลบริษัทไม่ได้ให้มาทำตัวเหลวไหล” ภูวินทร์ทำหน้าเจื่อนเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขอโทษ“ผมขอโทษครับ เมื่อคืนผมแค่…”“ไม่ต้องมาแก้ตัว” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร พ่อของเขาก็พูดตัดบทขึ้นมาซะงั้น “ฉันเป็นพ่อแก รู้หมดนั่นแหละว่าแกทำอะไรลงไปบ้าง ไป!! รีบไปเอาแผนงานของบริษัทในเดือนนี้มาอ่านให้พ่อฟัง”– เหมือนจะดุแต่ก็ไม่ใช่ เพราะคนที่เข้าใจผมมากที่สุดก็คือพ่อ“ครับคุณพ่อ ผมจะรีบรายงานเดี๋ยวนี้เลย” เขายิ้มแล้วรีบเดินไปหยิบแผนงานของบริษัทมาพูดให้พ่อฟังแอ๊ด~ เสียงเปิดประตูดังขึ้น“คุณปู่!! คิดถึงหนูมั้ยยย” ทับทิมรีบวิ่งมาแต่ไกลก่อนจะโผล่เข้ากอดปู่ ซึ่งเธอรักปู่ของเธอมากที่สุด เพราะปู่เป็นคนใจดีแล้วตามใจเธอที่สุด“คิดถึงสิ ห
리뷰