مشاركة

บทที่ 6

مؤلف: Phat_sara
last update آخر تحديث: 2025-06-23 15:16:16

เสียงเอะอะโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นหลังจากที่หมาบ้าออกไปแล้ว เขาตะโกนลั่นบ้านตั้งแต่ยังไม่ทันปิดประตูสั่งให้แม่บ้านขนกระเป๋าของฉันขึ้นมา

แอด~

"เอ่อคือ..." พลอยใสยกกระเป๋าฉันเข้ามาในนี้ เอามาทำไม?

"ยกกระเป๋าฉันเข้ามาในนี้ทำไมพลอยใส"

"คือว่า...คุณแม็คสั่งให้เอามาเก็บห้องนี้ค่ะ"

"เก็บห้องนี้? เอาออกไปเลยพลอยใส ถ้าเขาไม่ให้ฉันไปก็ยกไปเก็บที่ห้องฉัน"

"ห้องนี้นั่นแหละไหน ๆ ก็เก็บของแล้วแม่บ้านจะได้ไม่ต้องวุ่นวายขนอีกรอบ" เขาเดินเข้ามาแล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ไม่มีเสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายเหมือนเมื่อกี้

"หมายความว่ายังไงคะ?" จะให้ฉันอยู่ห้องนี้เนี่ยนะ

"ก็หมายความว่าสามีกลับมาแล้วภรรยาก็ควรย้ายมาอยู่ห้องเดียวกันกับสามีสิที่รัก" ฉันเกลียดรอยยิ้มมุมปากของเขาจริง ๆ ถ้าฉันเกิดมานิสัยถ่อยกว่านี้สักนิดฉันจะเดินไปตบปากเขาไม่ยั้งเลย

"ใครที่รักของคุณ!"

"หึ ๆ หุบปากแล้วก็อยู่เฉย ๆ ถ้าไม่อยากโดนดี เก็บของคุณข้าวให้เรียบร้อย เสื้อผ้าจัดใส่ตู้ให้หมด" เขามัน...โอ้ย!

"ค่ะคุณแม็ค"

"ฉันไม่อยู่ห้องนี้เด็ดขาด!"

"อีกครึ่งชั่วโมงลงไปข้างล่าง​ด้วยล่ะ" เขามองหน้าแล้วก็ยิ้มกับการที่ฉันตะโกนใส่แล้วก็เปลี่ยนเป็นพูดเรื่องอื่นแทน เหมือนคำพูดฉันมันไม่มีความหมายเลยสักนิด

"นี่ฟังฉันบ้างรึเปล่า? ฉันไม่อยู่ห้องนี้ แล้วฉันก็จะย้ายออกจากบ้านหลังนี้ค่ะ" ฉันเริ่มจะมีอารมณ์แล้ว แต่ก็พยายามควบคุมน้ำเสียง ไม่อยากทำตัวโหวกเหวกโวยวายแบบเขา

"ออกไปก่อนพลอยใส" เขาสั่งเสร็จพลอยใสก็รีบออกไปเลย เป็นฉันก็รีบวิ่งนะเพราะกลัวฟ้าผ่า

"เธอไม่มีสิทธิ์ออกไปจากบ้านหลังนี้ได้ยินไหมข้าวแกง"

"เพราะอะไรคะ พิศวาสฉันขึ้นมาเหรอคะ" ฉันปรับน้ำเสียงให้มันปกติถึงในใจจะร้อนเป็นไฟแล้วเพราะรู้ว่าไฟใช้กับไฟแล้วมันไม่ได้อะไร เหมือนอย่างเมื่อกี้ไงตะโกนแข่งไปก็เปล่าประโยชน์

"ถ้าพิศวาสฉันคงไม่ทิ้งให้เธอนอนกอดทะเบียนสมรสคนเดียวตั้งเกือบแปดปีหรอกข้าวแกง"

"แล้วจะให้คนเอาของฉันมาที่นี่ทำไม"

"กันเธอแอบพาชู้มาเสพสมในบ้านฉันไง" ปัญญาอ่อน นี่ความคิดของคนที่จบปริญญาโทมาจากอเมริกาเหรอ สถาบันไม่ได้การันตีคุณภาพของคุณธรรมในสมองเลย คิดเก่งแต่คิดเลว

"ฉันไม่โง่พาใครมาให้คนอื่นเห็นหรอกค่ะ แอบกินข้างนอกตื่นเต้นกว่าเยอะเลย"

"ข้าวแกง!" คนเราพอถึงจุดหนึ่งที่พยายามอธิบายให้ตายสุดท้ายก็ได้ผลลัพธ์เหมือนเดิมพอโดนบ่อย ๆ มันก็เบื่อนะคะ ตามน้ำความคิดไปเลยก็แล้วกันจะได้จบ

"ทำไมคะ จะเสียงดังทำไมฉันก็ยอมรับแล้วไงไม่พอใจอะไรอีก หึงเหรอคะ?" เขาน่ะตะคอกแล้วเดินเข้ามาเหมือนจะทำร้ายฉัน ฉันก็เลยเชิดหน้าสู้

"โธ่โว้ย!"

ตุ๊บ!

"ออกไปจากห้องฉัน! กลับไปเก็บของให้เรียบร้อย อย่าให้เห็นว่าหอบผ้าหอบผ่อนหนีไปกับผู้ชายอีกไม่งั้นฉันจะฆ่าเธอ!" เขาไม่ทำร้ายฉันแต่ถีบกระเป๋าเดินทางจนมันล้มลงไป

"จะให้ฉันอยู่เพื่อ? ไปให้ไกลตาไม่ดีกว่าเหรอคะ"

"หึ! อยากได้อิสระเหรอ เธอทำฉันหมดอิสระฉันก็จะขังเธอไว้เป็นนกในกรงเหมือนกันข้าวแกง อย่าหวังว่าชาตินี้ฉันจะให้เธอไปมีความสุข ถ้าต้องทุกข์ก็อยู่ทุกข์กันทั้งสองคน!"

"ถ้างั้นก็เอาตามที่คุณเห็นสมควรก็แล้วกันนะคะ ขอตัวก่อนก็แล้วกัน"​ เขาสั่งให้ทำยังไงก็ต้องทำตามอยู่แล้วล่ะค่ะ ไม่ทำก็ไม่จบหรอก

-สองชั่วโมงต่อมา-

"สวัสดีค่ะคุณอา" ฉันเดินลงมาด้านล่างเพราะมีแม่บ้านขึ้นไปตาม ว่าจะไม่มานั่งรู้เห็นแล้วเชียวเพราะกลัวหมาบ้าจะกัดแต่ก็ต้องลงมาเพราะผู้ใหญ่อย่างคุณอาวิวัฒน์ให้คนไปเรียก

"สวัสดีหนูข้าว นั่งลงสิลูกใกล้เวลาเปิดพินัยกรรมแล้ว"

"ค่ะ" ฉันพยักหน้ารับแล้วก็จำใจนั่งข้างเขา นั่งหน้าบึ้งตึงอยู่ได้อะไรนักหนา

"อย่าดีใจล่ะถ้าสมบัติทั้งหมดตกเป็นของฉัน เพราะถึงเธอจะได้จดทะเบียนแต่ฉันไม่มีทางให้เธอมายุ่งกับเงินของฉันเด็ดขาด" เฮ้อ! งก นั่งรอฟังพินัยกรรมเฉย ๆ ไม่ต้องอยากคุยกับฉันได้ไหมเนี่ย

"ฉันมีงานทำค่ะ และงานของฉันก็ได้เงินเดือน" ฉันหันไปอธิบายด้วยรอยยิ้ม

"หึ!"

"เอาล่ะครับตอนนี้สมาชิกในครอบครัวก็พร้อมหน้าแล้วนะครับ ถึงเวลาตามที่ระบุไว้ในการเปิดพินัยกรรมพอดี ถ้าอย่างนั้นผมขออนุญาตอ่านพินัยกรรมเลยนะครับ" ทนายประจำตระกูลเอ่ยขึ้นก็เลยทำให้สงครามย่อม ๆ ที่เขาตั้งใจก่อมันจบลงได้

"เชิญครับ" คุณอาวิวัฒน์เอ่ยขึ้น ทนายก็เลยเปิดซองพินัยกรรม อันที่จริงไม่ต้องมานั่งฟังหรอกค่ะ สมบัติของคุณป้ายังไงก็ต้องตกเป็นของลูกชายคนเดียวอยู่แล้ว

"ข้าพเจ้านางอัจฉรา พัชรการต์กุล อายุห้าสิบเก้าปี อยู่บ้านเลขที่... ได้ทำพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นไว้เพื่อแสดงเจตนาว่า เมื่อข้าพเจ้าถึงแก่กรรมให้ทรัพย์สินของข้าพเจ้าทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะมีต่อไปในอนาคตอันได้แก่ บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ หุ้นในตลาดหลักพรัพย์ เครื่องเพรช เงินสดในบัญชี ตกเป็นของ นายมนัสภาส พัชรการต์กุล บุตรชายของข้าพเจ้า"

ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาและทุกคนคิดนั่นแหละค่ะ ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นหรอก สมบัติมูลค่าน่าจะหลักหมื่นล้านตกเป็นของเขาที่เป็นลูกชายคนเดียว

"และ..."

"อะไรนะครับ? และ หมายความว่าไม่ได้มีแค่ผมงั้นเหรอ" ทนายประจำตระกูลอ่านต่อแค่ประโยคเดียวเขาก็พูดแทรกแถมขมวดคิ้มเป็นปม

"ผมขออ่านต่อให้จบนะครับ" ฉันว่าพายุต้องถล่มหนักแน่เลยค่ะ ไม่เกินสิบนาทีนี้หรอก อยู่ดี ๆ ก็มีคนอื่นด้วย

"และนางสาวกณิศรา พัชรการต์กุล ภรรยาของนายมนัสภาส พัชรการต์กุล ให้เป็นผู้ถือครอง มีสิทธิทุกประการในสมบัติร่วมกัน"

"ว่าไงนะ!" เสียงเขาตะโกนลั่นเส้นเลือดปูดขึ้นมาอีกแล้ว ฉันทำอะไรไม่ถูกที่รู้ว่าคุณป้าเขียนพินัยกรรมแบบนี้ และเหนือสิ่งอื่นใดฉันรู้สึกว่าหายนะมันกำลังมาเยือนฉัน

"ใจเย็น ๆ ก่อนแม็ค แม่เราท่านเขียนเอาไว้แบบนี้ก็ต้องเป็นไปตามนี้"

"หึ! ใจเย็นเหรอครับอา อยู่ดี ๆ ก็ให้ผู้หญิงคนนี้มาได้สมบัติครึ่งหนึ่งของผมไปงั้นเหรอครับ เอายาอะไรกล่อมประสาทแม่ฉันท่านถึงยอมเขียนพินัยกรรมแบบนี้ ฮะ?" เขายิ้มเยาะแล้วก็หันมามองเหยียดฉัน มองเหมือนฉันเป็นขยะแบบที่ชอบมองประจำนั่นแหละ

"ฉันไม่ได้ต้องการค่ะ ฉันขอไม่รับค่ะ ถ้ายังไม่มั่นใจจะหย่าวันนี้เลยก็ได้" ฉันก็คนรึเปล่าคะ ต้องทนให้เขาดูถูกไปถึงไหน ต้องทนไปตลอดชีวิตเลยรึไงทั้งที่ภายในใจของฉันแค่วินาทีเดียวก็ไม่อยากทน

"หึ! ต้องการหย่าเอาสินสมรสแล้วมันต่างกันตรงไหนวะ"

"ก็ทำสัญญาก่อนหย่าสิคะ ระบุไปเลยว่าการหย่าครั้งนี้ฉันจะไม่เอาสินสมรสหรือค่าเลี้ยงดูแม้แต่บาทเดียว ทำตรงนี้เลยก็ได้ต่อหน้าคุณอากับคุณอาทนายไปเลยจะได้มั่นใจสักทีว่าฉันไม่อยากได้เงินของคุณ"

"อย่าท้า" เขาทำเสียงข่มขู่ ทำเหมือนว่าฉันแค่ท้าเรียกร้องความสนใจอย่างนั้นแหละ

"ก็ทำตอนนี้เลยสิคะจะได้รู้ว่าท้าหรือไม่ท้า" ฉันไม่อยากได้ ที่พูดมาทั้งหมดก็พร้อมทำเพราะวันนี้ก็ตั้งใจจะไปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

"เอ่อ ผมยังอ่านพินัยกรรมไม่จบเลยนะครับ ขออนุญาตอ่านต่อให้จบทีเดียวเลยนะครับแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะทำยังไงต่อไป"

"เชิญครับคุณทนาย แม็ค ข้าวแกง อาขอร้องช่วยฟังให้จบก่อน" คุณอาวิวัฒน์ขอแกมดุทำให้เขายอมสงบลง สงบแค่ปากนะแต่ใจคงลุกโชน

"หากนายมนัสภาส และนางสาวกณิศรา พัชรการต์กุล หย่าร้างกันภายในห้าปี ข้าพเจ้าขอให้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดตกเป็นของสาธารณะทั้งหมด..." ทนายความอ่านพินัยกรรมจนจบ ข้อความที่ระะบุเอาไว้บีบบังคับให้เราสองคนแยกจากกันในตอนนี้ไม่ได้ เหมือนคุณป้าจะรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าเลยนะคะท่านถึงได้มีข้อแม้เรื่องการหย่า แล้วแบบนี้ฉันจะทำยังไงดี

"หึ! คุณแม่นี่ฉลาดดีนะครับ รู้วิธีผูกมัดผมไว้กับสมบัติมีชีวิตของท่าน" เขาแค่นยิ้มก่อนที่จะเซ็นเอกสารที่ระบุเอาไว้ เสร็จแล้วก็ยกมือไหว้ลาคุณอาวิวัฒน์กับทนายความจากนั้นก็ลุกขึ้นเดินออกไปแต่ก็ไม่วายมองฉันด้วยสายตาดูถูกตบท้าย มันจะอะไรนักหนาไม่เข้าใจ

-20.00 น.-

แอด~

"กรี๊ด!!!" ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เดินออกมาจากห้องอาบด้วยสภาพที่เปลือยทั้งตัวแต่เขายืนกอดอกยิ้มพิงอ่างล้างหน้าอยู่ในนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

"คุณเข้ามาทำไม!" ฉันรีบหันหลังคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันร่างกายเอาไว้ก่อนที่จะหันไปตะโกนถามเขา ตอนนี้ฉันโกรธมากจริง ๆ ไม่เคยรู้สึกโกรธเขามากเท่านี้มาก่อนเลย

"อายเหรอ?" เกลียด! ถามมาได้ยังไง!

"ออกไป" ฉันต้องข่มอารมณ์ทั้งที่ตัวกำลังสั่น แต่เขาก็ยังอยู่ในท่าทางเดิมแถมยังมองฉันหัวจรดเท้า

"เธอนี่...สวยดีนะ" เขาทำเสียงเหมือนคนโรคจิต! แถมยังเลียริมฝีปากตัวเองเบา ๆ ทุเรศที่สุดเลย!

"พูดบ้าอะไรของคุณ ออกไปเดี๋ยวนี้นะคุณแม็ค"

"เมื่อก่อนก็สวยมากแล้วนะ แต่พอยิ่งโตเป็นสาวเต็มที่...เห็นแล้วมีอารมณ์เลยว่ะ" สายตาเขาที่มองมามันมีแต่ความจาบจ้วงกับความสกปรก!

"ออกไป" ฉันกำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วจริง ๆ มันมากเกินไปไหมกับการเสียมารยาทเข้ามาในห้องน้ำ ทั้งที่ฉันก็กำลังอาบน้ำอยู่ ฉันคนนะไม่ใช่สิ่งของที่อยากจะทำอะไรยังไงกับฉันก็ได้

"จุ๊ ๆๆ อย่าวีนสิครับที่รัก แค่เข้ามาดูเมียอาบน้ำเอง ของมัน...เคยทำมาหมดแล้ว"

เพล้ง!

ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันกำลังควบคุมตัวเองไม่ได้ คนเราจะต้องทนให้คนอื่นมาหยาบคายไปถึงไหนฉันก็เลยคว้าขวดน้ำหอมที่มันอยู่ในชั้นวางข้าง ๆ ปาไปทางเขา โชคร้ายที่มันเฉียดไปนิดเดียวความซวยเลยตกไปอยู่ที่กระจกแทนที่จะเป็นหน้าของเขา!

"หึ ๆ โกรธจริงหรือเรียกร้องความสนใจ?" เขาตาแข็งกร้าวขึ้นมาแล้วก็หันไปมองกระจก แต่สุดท้ายก็หันมาดูถูกฉันไม่จบไม่สิ้น

"แต่ละคำที่ปากพูดออกมามันวัดระดับสูงต่ำในสมองได้นะคะ"

"เหรอ? ก็ถ้าการที่ฉันพูดตรง ๆ เพราะแอ๊บไม่เป็นตอแหลไม่เก่งแล้วถูกคนอย่างเธอมองว่าต่ำ ฉันก็ยินดีต่ำว่ะข้าวแกง"

"ออกไป!" ฉันไม่อยากคุยกับคนอย่างเขา จิตใจต่ำตมสกปรกโสโครก คิดแต่ว่าความคิดกูเนี่ยถูกต้อง สิ่งที่กูคิดมันครอบจักรวาล

"นี่บ้านฉันแล้วห้องนี้มันก็...ห้องหอของเรา ฉันจะเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้"

"แต่ตอนนี้ฉันอยู่ห้องนี้ค่ะและคุณเองก็มีห้องส่วนตัวของคุณ กรุณากลับห้องของคุณได้แล้วคุณแม็ค" เส้นเลือดในสมองจะแตก ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ

"แล้ว? แล้วไงนี่ก็ห้องฉัน ฉันจะเข้าเมื่อไหร่ก็ได้ ส่วนเธอ..." เขาพูดเสียงเบาแต่ฟังดูชั่ว! แล้วก็ย่างสามขุมเข้ามาช้า ๆ

"จะทำอะไร ออกไปนะ!" เขาเดินมาหยุดตรงหน้าฉันแล้วก็จับไหล่ทั้งสองข้างของฉันบีบจนเจ็บถึงกระดูก ก่อนที่จะโน้มหน้าลงมาใกล้ ๆ

"ส่วนเธอเป็นเมียฉัน ฉันจะ...เอาเมื่อไหร่ก็ได้ เอาตอนนี้ตรงนี้ยังได้เลย"
استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • So Hot หลอมไฟร้ายละลายหัวใจ   บทที่ 115

    “ตกลง อื้อ~ จะเร่งกับขยันอะไรคะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!” เพราะยังไม่ได้คำตอบฉันก็เลยวกกลับมาถามเขาอีกครั้ง“หึ ๆๆ อยากรู้เหรอคะ” พี่แม็คหัวเราะในลำคอแล้วก็ขยับตัวนั่งคุกเข่าเอาแขนมาเกี่ยวขาทั้งสองข้างของฉันไว้อีกครั้งแล้วก็กดกระแทกท่อนเอ็นใหญ่เข้ามารัวเร็วพั่บ พั่บ พั่บ!“ค่ะ อ๊ะ!” ​“พี่จะเสร็จ โอ้ว~ โคตรมัน

  • So Hot หลอมไฟร้ายละลายหัวใจ   บทที่ 114

    “ข้าว อื้อ~ ข้าวเสียว~” จากหนึ่งนิ้วถูกสอดเพิ่มเข้าไปเป็นสองนิ้วทำให้ฉันเสียวจนเผลอยกสะโพกขึ้นส่ายร่อนรับนิ้วร้อนของเขา แต่มันอึดอัดเพาะเขาสอดเข้าไปในกางเกงและมันก็ค่อนข้างจะเข้ารูปพอสมควร“พี่ชอบเวลาข้าวเสียวที่สุด”​“อื้อ~ ถอดกางเกงให้หน่อยข้าวอึดอัด” ฉันหลับตาพริ้มกับคำพูดของเขาเมื่อกี้ ก่อนที่จะ

  • So Hot หลอมไฟร้ายละลายหัวใจ   บทที่ 113

    “พี่ขอโทษนะครับข้าวแกง เกิดมาพี่ก็ไม่เคยคิดจะลักหลับใครเลยสักครั้งแต่ข้าวก็ยั่วพี่เหมือนกันจะให้พี่ทำยังไง” เขาขอโทษเสียงหงอยแต่ประโยคสุดท้ายกลับบ่นอุบอิบเหมือนจะโทษฉัน“ยั่วอะไรคะ ข้าวหลับไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ พี่แม็คแอบทำอะไรข้าวยังไม่รู้ตัวเลยแล้วข้าวจะยั่วพี่ได้ยังไง พูดดี ๆ นะ”“หึ! ไม่ยั่วอะไรพี

  • So Hot หลอมไฟร้ายละลายหัวใจ   บทที่ 112

    -วันต่อมา-“พี่แม็คคะตื่นได้แล้วค่ะ”“พี่แม็คมันจะเย็นแล้วนะคะ” ฉันพยายามเขย่าตัวคนขี้เซาที่นอนหลับสนิทชนิดที่ว่าไม่แม้แต่จะขยับตัว เมื่อช่วงสายฉันตื่นขึ้นมาเห็นพี่แม็คนอนท่าไหนผ่านมาเกือบสี่ชั่วโมงเขาก็ยังคงนอนอยู่ท่าเดิม บอกตรง ๆ ว่าตอนแรกตอนฉันเดินเข้ามาเมื่อห้านาทีที่แล้วฉันขาสั่นมากเพราะคิดว่าพ

  • So Hot หลอมไฟร้ายละลายหัวใจ   บทที่ 111

    #KWOGANG END#MAX TALKพุทโธ พุทโธ พุทโธ...ผมต้องพยายามท่องคำนี้ในสมองอยู่ตลอดเวลาที่จับผ้าเช็ดตัวผืนเล็กชุ่มน้ำค่อย ๆ เช็ดหน้าอกให้ข้าวแกง“อ่าส์~ ปลุกเมียมาอาบน้ำเองมันจะดูเหี้ยไหมวะ” ผมบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ แล้วพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองด้วยการหันหน้าหนีข้าวแกงที่หลับสนิทไปแล้วผมเล่นสงครามสวา

  • So Hot หลอมไฟร้ายละลายหัวใจ   บทที่ 110

    “หึ ๆๆ พี่ชอบเวลาที่รักร้องขอที่สุด” พี่แม็คยิ้มออกมาด้วยความพอใจก่อนที่จะถอนท่อนเอ็นออกจนหมดทั้งลำ“อื้อ!” ฉันร้องประท้วงด้วยความรู้สึกไม่พอใจที่เขาออกไปแต่เขาก็จับฉันนอนคว่ำทันที“เปลี่ยนท่าที่รัก” เขาโน้มลงมากระซิบบอกข้างหูแล้วก็จับสะโพกฉันยกขึ้นฉันเองก็พอจะเข้าใจว่าเขาต้องการทำอะไรก็เลยรีบขยับตั

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status