"ไปค่ะ!"
มือเรียวคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของคนพี่แล้วลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางโอนเอนไปมา ใบหน้าสวยหันซ้ายหันขวาเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่างก่อนจะสายตาจะไปหยุดยังบันไดภายในห้อง
"อุ้ย" อาคินย่อตัวลงอุ้มร่างบาง น้ำหวานรีบยกแขนขึ้นคล้องคอก่อนจะชี้นิ้วไปทางบันได "ไปกันน"
"ถ้าขึ้นไป ลงมาไม่ได้แล้วนะครับ"
แม้จะรู้ว่าสติสัมปชัญญะของอีกฝ่ายไม่ครบถ้วนแต่เขาก็ยังเลือกถามออกไปอยู่ดีและคำตอบของเธอคือตัวตัดสินทิศทางในการเดินของเขาด้วย ถ้าคำตอบคือไม่ เขาจะอุ้มเธอไปยังห้องนอนแขกข้างล่าง
แต่ถ้าใช่! เขาก็จะเดินขึ้นไปห้องนอนของตัวเองข้างบน
"ก็ไม่ต้องลงค่ะ Let's go!!"
แผ่นหลังบางถูกวางบนเตียงขนาดคิงไซซ์อย่างแผ่วเบา อาคินค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออกอย่างใจเย็น สายตาคมจ้องมองสาวน้อยอย่างซ่อนความหื่นกระหายไว้ไม่มิด
ร่างอรชรร้อนผ่าวไปทั้งตัวแต่ความรู้สึกแตกต่างจากตอนที่เธอดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปครั้งแรก มันมีความวูบวาบในช่องท้องมากกว่านั้น น้ำหวานนอนมองร่างสูงที่กำลังถอดเสื้อเชิ้ตออก แผงอกแกร่งปรากฏต่อสายตาคู่สวยก่อนจะไล่ลงมองลอนซิกแพคที่เรียงกันราวกับก้อนขนมปัง
และสายตาของเธอก็โฟกัสไปยังยอดอกสีอมชมพูไม่ต่างไปจากริมฝีปากหยักของเขา
'ชมพูจริงๆ ด้วย'
เพียงเสี้ยววินาทีร่างบางก็ตกอยู่ใต้อาณัติของอาคิน ดวงตาคู่คมวาววับสื่อความหมาย เมื่อไม่มีคำคัดค้านใดเอ่ยขึ้นกลีบปากอิ่มจึงถูกทาบทับลงทันที
แขนเรียวยกขึ้นคล้องคอแกร่งอัตโนมัติ น้ำหวานเผยอปากสูดอากาศเข้าปอดจึงเป็นโอกาสให้ลิ้นร้อนๆ ซอกซอนเข้าเสาะแสวงหาความหวาน
เธอหวานสมชื่อจริงๆ ความหวานในปากของเธอโคตรถูกใจเขา แม้การจูบจะดูไม่ประสีประสาแต่การที่เธอยอมขึ้นมานอนอยู่บนเตียงกับเขาง่ายๆ มันทำเขาเข้าใจไปแล้วว่าเธอคงจะเคยผ่านเรื่องแบบนี้มาบ้าง
แต่ให้ตายเถอะ! พอนึกว่าเคยมีใครแตะต้องปากอวบอิ่มน่าขยี้ของเธอ อารมณ์โมโหก็ก่อตัวขึ้นในใจทั้งๆ ที่เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน
"พี่หมอ...อื้อ"
น้ำหวานยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรต่อเขาก็ก้มลงจูบปิดปากเธออีกครั้ง ชุดมินิเดรสถูกดึงรั้งออกไปทางปลายเท้าอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงบราเซียกับแพนตี้สีชมพูน่ารัก อาคินหยัดตัวขึ้นเล็กน้อยจ้องมองความงดงามของหญิงสาว
ทรวดทรงองค์เอวของเธอประหนึ่งนาฬิกาทราย ไม่ผอมบางจนเกินไปดูอวบอิ่มน่าฟัด น่าขยี้จนเขากัดฟันแน่นเพราะความแข็งขึงที่ยังถูกจองจำอยู่ในกางเกงกำลังปวดหนึบ
"ดะ...เดี๋ยว อ๊ะ"
มือหนาปลดตะขอบราเซียออก ภายในเสี้ยววินาทีเต้าอวบอิ่มก็ได้รับอิสระ ดวงตาคมเป็นประกายวาววับขึ้นมากกว่าเดิม เขาคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าร่างกายของเธอจะต้องสวยแต่ไม่คิดว่าจะสวยใสไร้ที่ติขนาดนี้
"พี่..อื้อ"
นาทีนี้ถ้าจะห้ามเขาก็หาค้อนมาทุบหัวเลยแล้วกันเพราะต่อให้มีใครฆ่ากันตายตรงหน้าเขาก็ไม่มีทางหยุด
ยอดอกสีระเรื่อถูกปากร้อนๆ ดูดดึงสลับขบเม้มทั้งสองข้าง มือหนาบีบขยำดันเต้าอวบอิ่มเข้าปาก เขาอ้าปากครอบครองราวกับไม่เคยพบไม่เคยเห็น ดวงตาสีน้ำตาลเหลือบมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้แดงระเรื่อมากกว่าเดิม เธอกำลังหลับตาพริ้มและกัดปากแน่น
น้ำหวานรู้สึกว่าเธออยากกรีดร้อง อยากเปล่งเสียงบางอย่างแต่ก็เม้มปากต่อต้าน เธอทั้งรู้สึกกลัวแต่ก็อยากลองเหมือนฤทธิ์แอลกอฮอล์จะช่วยเพิ่มความกล้าหาญข้างในและทุบทำลายความคิดด้านผิดชอบชั่วดีไปจนหมดสิ้น
"หวานจริงๆ"
หมอหนุ่มเสียงพร่าสั่น เหลือบมองใบหน้าเนียนปรือตาวาววับอย่างร้ายกาจ เขาขบเม้มผิวของเธอพร้อมกับจับเรียวขาแยกออกแล้วดึงแพนตี้ออกไปให้พ้นทาง เท่ากับว่าตอนนี้ร่างกายของเธอเปลือยเปล่าล่อนจ้อน
มือเรียวอยากจะผลักคนบนอาณัติ ทว่าร่างกายสวนทางไม่ฟังคำสั่งจากสมอง เธอแอ่นอกขึ้นเสนอเนื้อตัวให้เขาได้ตักตวงความสุขและเหมือนว่าร่างกายของเธอมันก็โหยหาทั้งที่อีกฝ่ายเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกันเท่านั้น
"พะ..พี่หมอ"
"ครับคนสวย"
ตอบกลับในขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ แกล้งปล่อยไอร้อนผะผ่าวกับแผ่นท้องเนียนนุ่มที่เกร็งเขม่ว ปัดป้ายลิ้นร้อนราวกับต้องการฉกชิมเธอไปทั้งตัว
"คือ..อ๊ะ"
น้ำหวานสะดุ้งเมื่อเขาแกล้งขบกัดข้างสะดือ เผลอกัดริมฝีปากแน่นส่งผลให้ใบหน้าหวานสวยยั่วยวนจนอาคินอดใจไม่ไหว ไอ้สีหน้าท่าทางแบบนี้ไงที่มันทำให้เขาตัดสินใจเดินหน้าต่อ อะไรจะเกิดก็ช่างมัน เธอตื่นมาแล้วโวยวายถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้เขาขอกินของหวานให้หนำใจก่อน
ฝ่ามือไต่ลงไปกุมความอ่อนนุ่ม ร่างเล็กสะดุ้งเมื่อเจอการร่ายมนตร์จากนิ้วแกร่ง ยิ่งเธอแอ่นยกเข้าหาขนาดนี้ใครมันจะไปอดใจไหว นี่มันปฏิกิริยาของการเร่งเร้าให้เขากระทำตามใจชัดๆ
อาคินขยับขึ้นมาประกบจูบกลีบปากนุ่มอีกครั้งในขณะที่มือหนาจัดการถอดกางเกงปลดปล่อยแท่งรักอวบหนาเป็นอิสระและแม้จะอยากแค่ไหนแต่เขาก็ไม่เคยลืมสิ่งสำคัญ หมอหนุ่มคว้ากล่องคอนด้อมจากโต๊ะข้างเตียงมาจัดการแกะออกและฉีกซองอย่างรีบร้อน
กายแกร่งที่แข็งชันพร้อมรบทำให้เขาสามารถสวมเกราะป้องกันได้อย่างรวดเร็ว อาคินหยัดกายจดจ่อแท่งร้อนยังปากทางร่องรัก ถูไถกวักเรียกน้ำหวานจากกลีบกุหลาบที่ปิดสนิทแล้วค่อยๆ สอดตัวผลึกรวม
"นะ...น้ำหวาน"
ดวงตาคมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ความคับแน่นที่ทำให้เขาดันตัวเข้าไปอย่างยากลำบากบวกกับหลักฐานที่ไหลเคลือบถุงยางทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าตัวเองคือคนแรก
"อ๊ะ เจ็บ ฮืออ~ หวานเจ็บ"
หยดน้ำสีใสซึมออกจากหางตาครั้งแรกของเธอมันเกิดจากความเมาผสมความอยากรู้อยากลอง ตอนนี้เธอไม่ได้เสียใจเพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้วเธอก็ไม่รู้จะทำยังไง คิดเสียว่าอย่างน้อยชาตินี้ก็ไม่เสียชาติเกิดที่ได้รู้จักกับอารมณ์วาบหวาม
แต่ไม่คิดว่าครั้งแรกมันจะเจ็บขนาดนี้!
"ทำไมไม่บอกก่อน"
การที่เธอขึ้นมานอนอยู่บนเตียงกับเขาง่ายๆ เขาก็คิดว่าเธอจะ....เฮ้อ~ เขาไม่ได้ให้ค่าใครที่ประสบการณ์บนเตียงแต่เธอกลับทำให้เขารู้สึกถึงความภูมิใจที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างท่วมท้น
อาคินจัดการเบียดตัวตนเข้าไปใหม่เพิ่มความเจ็บให้กับน้ำหวานจนเธอนิ่วหน้า มือบางยันหน้าท้องแกร่งอีกมือจิกบนต้นแขน แต่ยังไงคนพี่ก็บังคับตัวเองไม่ไหว มอบตัวตนเข้าไปจนหมดมิด
"อื้อ เจ็บ!"
"เจ็บแป๊บเดียวนะครับคนสวย"
อาคินกัดฟันตอบเพราะเขาก็รู้สึกถึงความคับแน่นที่บีบรัดตัวตนจนเขาเจ็บไม่ต่างกัน น้ำหวานไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงเมื่อคนพี่เริ่มขยับตัวอีกครั้ง
ตอนนี้ความเจ็บพอๆ กับความทรมานเสียวสะท้านไปทั้งตัวเมื่อเขาเริ่มขับเคลื่อนร่างกายจากเบาไปหาหนัก ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซ้ดอมดมกลิ่นหอมรัญจวนจากซอกคอขาว
"อื้ออ พี่หมอคะ"
"คนก็หวาน เสียงก็หวาน"
การดูดรัดตัวตนของเขายิ่งทำให้พละกำลังฮึกเหิมบ้าคลั่ง ดวงตาคู่คมจ้องมองใบหน้าเนียนสลับมองจุดเชื่อมผสานที่ลำกายอวบหนากำลังแทรกผ่านความอ่อนนุ่ม สติของน้ำหวานหลุดลอยจากร่างเกินจะไขว่คว้า ยอมรับเลยว่าร่างกายโหยหาปรารถนาเขามากที่สุด ทุกอย่างเกิดขึ้นต้องดำเนินต่อไปจนสุดทาง
"มันดีใช่มั้ย"
"อึก อื้ออ"
"ตอบเป็นคำพูดสิครับ"
"อื้อ ดีค่ะ ดีมากๆ"
คำตอบที่เป็นเหมือนยาชูกำลังส่งผลให้เขากระแทกกระทั้นจนโยกคลอนไปทั้งตัว มือหนาตรึงสะโพกผายไว้แล้วหวดสะโพกระรัวเร็วจนความสุขสมมาเยือน ร่างของเขาและเธอต่างบิดเร้าเกร็งกระตุก
"อ๊ะ กรี๊ดด!"
"อ่าห์"
อาคินทิ้งร่างหอบหายใจซบหน้าลงกับซอกคอหอมกรุ่น เขาชอบกลิ่นของเธอ กลิ่นเฉพาะตัวที่มีแรงดึงดูด ให้ตายเถอะ! เขารู้สึกตื่นตัวอีกแล้วสิ ขอฟัดเธออีกสักรอบเถอะนะ
"เราโอเคใช่มั้ย"อาคินเอ่ยถามหลังจากที่ทั้งคู่ขึ้นมาอยู่บนเพ้นท์เฮ้าส์เรียบร้อยแล้ว ร่างสูงยืนซ้อนคนตัวเล็กที่กำลังเท้าคางมองท้องฟ้าอยู่ตรงระเบียงห้อง"โอเคค่ะ หวานแค่คิดอะไรนิดหน่อย"น้ำหวานตอบกลับพลางเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มบางๆให้คนพี่ เธอยังจำสายตาของพริ้งพลอยที่มองมาได้ดี สายตาของความมุ่งมั่นแต่ปิดซ่อนความเสียใจเอาไว้ไม่มิด ได้แต่หวังว่าบทเรียนราคาแพงครั้งนี้จะทำให้พริ้งพลอยเลือกที่จะรักตัวเองมากขึ้น"คิดอะไรครับ บอกพี่ได้มั้ย""ก็กำลังคิดว่า..." เว้นวรรคประโยคก่อนจะหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับคนพี่ ดวงตาคู่สวยซุกซนจนอาคินเกิดอาการมันเขี้ยว "คุณพริ้งพลอยเค้าปักใจรักอะไรพี่หมอมากขนาดนี้"เธอไม่รู้หรอกว่าพริ้งพลอยปักใจรักอะไรในตัวหมออาคิน แต่ถ้าถามเธอใช้เวลาสามวันก็คงจะบรรยายไม่หมด น้ำหวานกวาดสายตามองใบหน้าหล่อเหลาอย่างพินิจพิจารณา ใบหน้าที่ไม่ว่าเธอจะมองกี่ครั้งก็ยังหาข้อติติงไม่เจอ"เรื่องนั้นพี่ตอบไม่ได้หรอกครับ แล้วหวานไม่อยากรู้บ้างเหรอว่าอะไรที่ทำให้พี่ปักใจรักหวานมากขนาดนี้"อาคินจ้องมองคนในอ้อมแขนด้วยสายตากรุ้มกริ่ม เขาไม่อยากจะสนใจเรื่องของคนอื่นอีกแล้ว หลังจากนี้เขาอยากจะโฟกัสแค่เ
บ้านสินธปกรณ์บรรยากาศในห้องอาหารเต็มไปด้วยความชื่นมื่น วันนี้อาคินพาครอบครัวเข้ามารับประทานมื้อเย็นกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวสินธปกรณ์เพื่อจะได้คุยเรื่องการหมั้นหมายอย่างเป็นทางการชยทัตและแทนคุยกันเรื่องตลาดทองในช่วงสัปดาห์นี้ น้ำหอมกับธีรยากำลังคุยกันเรื่องสีมงคลที่ควรจะใช้ในงานหมั้นส่วนน้ำหวานกำลังเริ่มสอบสวนหมออาคิน"พวกเค้าสนิทกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"เธอขึ้นดอยไปแค่ไม่กี่เดือนทำไมดูเหมือนอะไรๆจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วเหลือเกิน ยิ่งภาพที่แทนคุยกันอย่างสนิทสนมกับชยทัตเป็นอะไรที่หาดูได้ยากมาก"ไม่รู้สิครับ พี่ก็ขึ้นไปอยู่บนดอยกับเรานะ""ไม่ค่อยน่าไว้ใจเลยค่ะ""เดี๋ยวนี้ไม่ไว้ใจพี่แล้วเหรอ""เมื่อก่อนก็ไม่ไว้ใจค่ะ แค่ไม่ได้บอก"น้ำหวานหลุดหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นสีหน้าของคนพี่ที่มองมาทางเธออย่างคาดโทษ ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆโต๊ะก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ ถ้าถามว่าใครคือผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก เธอก็อยากจะส่งชื่อตัวเองเข้าชิงรางวัลเพราะนอกจากจะมีแฟนดี ครอบครัวแฟนดีแล้ว ทั้งสองครอบครัวยังเข้ากันได้ดีอีกด้วย"กับข้าวยังอร่อยเหมือนเดิมเลยนะคะ"ธีรยาเอ่ยชมหลังจากที่ทานอาหารเสร็
"หม่าม้าคะ หวานมีเรื่องจะปรึกษาค่ะ"น้ำหวานเดินเข้าไปหาน้ำหอมที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่น เธอนั่งคิดนอนคิดเรื่องนี้มาตลอดทั้งคืน"เรื่องอะไรลูก"ผู้เป็นแม่หยิบรีโมตขึ้นมากดปิดโทรทัศน์ ดูเหมือนละครเรื่องนี้ของเธอจะดูไม่จบสักที กดเปิดดูปุ๊บลูกสาวก็มีเรื่องปั๊บตั้งแต่เมื่อวาน"เรื่องพี่หมอค่ะ"มองหน้าผู้เป็นแม่ด้วยสายตามุ่งมั่น ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องที่หมออาคินโทรมาเมื่อคืนให้ฟัง เขาทำให้เธอฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ อยากจะรู้ความจริงแต่ก็ยังไม่พร้อมที่จะคุยกับเขา"ม้าขอถามอะไรหน่อย เค้าเคยบอกรักหวานมั้ย นอกจากการกระทำต่างๆ ที่ผ่านมา ม้ายังไม่ได้ยินหวานเล่าให้ฟังเลยว่าเค้าบอกรักหวานตอนไหน"คำถามจากน้ำหอมทำให้เด็กสาวชะงักไป มากสุดก็คงผู้ว่าชอบเธอ แต่ไม่เคยมีคำสารภาพรักตรงๆ"ไม่เคยค่ะ""จากที่ม้าดูนะ ที่เค้าไม่บอกไม่ใช่เพราะว่าเค้าปากหนักหรอก แต่ก่อนหน้านี้เค้าไม่รู้ตัวต่างหากว่ามันเรียกว่าความรักตั้งแต่เมื่อไหร่""ทำไมม้าถึงคิดแบบนั้นคะ"คนที่ดูแพรวพราวและช่ำชองในเรื่องความรักอย่างเขาน่ะเหรอที่จะไม่รู้ใจตัวเอง แต่จะว่าไปตัวเธอก็ไม่ได้มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองเท่าไหร่นักจนเกิ
วิชัยรับคำอย่างว่าง่าย เขาเปิดไฟเลี้ยวพลางส่องกระจกมองหลังแล้วเลี้ยวรถเข้าไปรถข้างๆ รถกระบะ 4 ประตู ISUZU D-Max Hi-Lander สีดำ"พี่หมอมีธุระเหรอคะ""แค่แป๊บเดียวครับ"ทันทีที่รถจอดสนิทอาคินก็ลงจากรถเดินเข้าไปหาพนักงานผู้ชายสองคนซึ่งนั่งรออยู่ข้างๆรถกระบะคันดังกล่าว"สวัสดีครับ ผมอาคินที่สั่งรถเอาไว้""อ่อ สวัสดีครับคุณลูกค้า" พนักงานหนุ่มทั้งสองคนรีบยกมือไหว้ทันที "ผมรบกวนคุณลูกค้าตรวจเช็ครถและเซ็นเอกสารตรงนี้ให้หน่อยนะครับ"อาคินเดินสำรวจรถคร่าวๆก่อนจะเซ็นเอกสารท่ามกลางความสงสัยของน้ำหวานกับวิชัยและความจริงก็กระจ่างเมื่อหมอหนุ่มเดินกลับมาพร้อมยื่นกุญแจรถให้ลุงวิชัย"รถคันใหม่ครับ ไว้ใช้งานในหมู่บ้านน่าจะสะดวกกว่า""มะ มะ หมอให้ลุงเหรอ"วิชัยเกิดอาการติดอ่างขึ้นมาทันที ไม่คิดว่าอาคินจะซื้อรถยนต์คันใหม่ป้ายแดงให้เขา มันมากเกินกว่าจะเขาจะรับไว้"ใช่ครับ คันที่ลุงขับอยู่นี่เลิกใช้ไปเถอะครับ มันไม่ปลอดภัยเลย"น้ำหวานมองคนตรงหน้าด้วยความอึ้งไม่แพ้กัน ก่อนจะระบายยิ้มออกมาบางๆ ถึงเขาจะดูเหมือนกับไม่ค่อยสนใจอะไรแต่จริงๆแล้วหมอหนุ่มเป็นคนที่ค่อนข้างจะใส่ใจคนรอบตัว"ลุงรับไว้ไม่ไหวหรอกครับ มันแ
ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้าไปจูบปากที่บวมเจ่ออย่างอดใจไม่ไหว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเธอจุดไฟในตัวเขาได้เสมอ“แบบนี้ชอบไหม”อาคินกระซิบถามพลางยื่นมือลงไปจับล็อกเอวบางก่อนจะกระแทกท่อนเอ็นยักษ์เสยขึ้นไปจนมิดลำ หมอหนุ่มขยับกระชั้นถี่ตามความปรารถนาที่พุ่งขึ้นสูง เขาตอกอัดใส่เธออย่างเร่าร้อน สายตาคมเลื่อนขึ้นสบตากับดวงตาคู่สวยที่ตอนนี้ดูเลื่อนลอยพอๆกับสติ“แรงๆ แบบนี้ชอบมั้ยครับ”ถามพลางกระแทกกระทั้นตอกอัดใส่ร่องรักที่ฉ่ำแฉะ น้ำหวานที่ได้ยินคำถามก็หน้าแดงซ่านแต่ก็ยอมตอบกลับเขามาอย่างเอาอกเอาใจ“ชอบค่ะ...ชะ...ชอบมาก”ตอนนี้ความเสียวซ่านถาโถมใส่จนเธอไม่ทันตั้งรับ สัมผัสอันเกิดจากความรู้สึกซึ่งประสานเป็นหนึ่งเดียวกันนั้นสร้างความสุขได้อย่างล้นหลามปึก ปึก ปึก!เขาแทบจะบ้าคลั่งจนทนไม่ไหว!“อ๊า~...พี่หมอ”น้ำหวานครางเสียงหลงเมื่อมือใหญ่ช้อนลงใต้ก้นกลมกลึงแล้วจับเธอหมุนตัวกลับไปอีกฝั่งก่อนจะรั้งขาเธอขึ้นแนบอกจนตัวลอย อาคินเร่งจังหวะตอกอัดท่อนเอ็นใส่ร่องรักอย่างรุนแรง ดิบเถื่อนร่างบางจิกลงบนแขนแกร่งของเขาทั้งสองข้าง เพียงต้องการหาทางระบายความกระสันจากการกระทำที่รุนแรงของเขา “สะ...เสียวเกินไป”เมื่อร่า
"ว๊าย!"มือหนาสอดเข้าใต้รักแร้ร่างบางก่อนจะอุ้มขึ้นมานั่งบนตักของตัวเอง อาคินจัดการเลื่อนเบาะรถถอยหลังไปจนสุดก่อนจะรั้งท้ายทอยของน้ำหวานลงมาจูบจูบที่เริ่มต้นช้าๆ ปลุกเร้าความต้องการด้วยลิ้นที่แทรกเข้ามา ริมฝีปากนุ่มของทั้งสองแนบชิดคลอเคลียไม่ห่าง เธอพยายามแทรกปลายลิ้นไล้ไปตามส่วนต่างๆ ราวกับจะเอาคืนลิ้นของชายหนุ่มร่างกายของน้ำหวานสั่นเทิ้มด้วยความปรารถนาระหว่างที่ริมฝีปากแนบประกบ สัมผัสของเขามักจะทำให้หัวใจของเธออ่อนยวบลงทุกครั้ง"จูบกี่ครั้งก็ยังหวานเหมือนเดิมเลย"เสียงแหบพร่ากระซิบชิดใบหู ปลายลิ้นเล็มเลียติ่งหูแผ่วเบา ก่อนจะวกกลับมาที่ริมฝีปากอวบอิ่มจูบเร่าร้อนเริ่มขึ้นอีกครั้ง เรียวลิ้นอุ่นชื้นของทั้งคู่เกี่ยวกระหวัดรัดรึงอย่างไม่มีใครยอมใคร มือหนาเริ่มฟ้อนเฟ้นไปทั่วเรือนร่างเย้ายวน อุณหภูมิในร่างไต่ระดับขึ้นตามแรงกระตุ้น จนคนน้องรู้สึกวูบวาบขึ้นสมองปลายจมูกของเขาค่อยๆ ซุกไซ้ลงมาที่ซอกคอพร้อมกับลมหายใจถี่กระชั้น ฝ่ามือใหญ่ไล้ไปตามผิวเนื้อที่สั่นเทาน้อยๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปตามสีข้าง เอว จนถึงระหว่างขา"อื้มมมม~"เสียงหวานครางในลำคอพลางยกแขนเรียวขึ้นคล้องคอแกร่ง น้ำหวานเคลิบเคลิ้มไป