สาวน้อยผู้น่ารักน่าทะนุถนอมอย่างน้ำหวาน เมื่อแอลกอฮอล์เข้าปากกลับกลายร่างเป็นอีกคน เมาแล้วเหมือนพี่สาวฝาแฝดอย่างน้ำปั่นเข้าสิง แถมยังลากคุณหมอสุดหล่อกลับไปกินอีกต่างหาก "ลูกช้างขอสาบานต่อหน้าต้นไทรศักดิ์สิทธิ์ จะไม่เอาเครื่องดื่มมึนเมาเข้าปากอีกแล้วเจ้าค่ะ"
View More"วันนี้ไม่อยากกินหมอแล้วเหรอครับ"
น้ำหวาน กานต์พิชชา สินธปกรณ์หยุดชะงัก เธอกำลังเดินก้มหน้าก้มตาหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าผ้าของตัวเอง เมื่อได้ยินเสียงทุ้มแสนคุ้นหูของใครบางคนดังขึ้นตรงหน้า ดวงตาคู่สวยหลับปี๋พร้อมกับเอ่ยภาวนาในใจเป็นพันๆคำ
'ขอให้ไม่ใช่เขา ไม่ใช่เขา อย่าเป็นเขาเลยเถ๊อะ'
หญิงสาวที่กำลังก้มหน้าค่อยๆหรี่ตาขึ้นจนมองเห็นรองเท้าหนังสีดำมันวาว ไล่สายตาขึ้นมายังกางเกงสแล็คสีน้ำตาลเปลือกไม้ เสื้อเชิ้ตสีครีมและปะทะกับใบหน้าหล่อคมคายของบุคคลที่เธอทำกำลังภาวนาขออย่าให้เจอกันอีก
อาคิน ตั้งเจริญกิจสกุล นิสิตแพทย์ออร์โธปิดิกส์ ปี6 จากมหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดังที่ขึ้นชื่อว่าสอบเข้ายากมากที่สุดกำลังยืนมองคนตัวเล็กตรงหน้าด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
"คะ...คุณหมอพูดเรื่องอะไรคะ"
ในเมื่อหนีไม่พ้นก็แกล้งทำเป็นจำไม่ได้ก็แล้วกัน!
เขารู้ได้ยังไงว่าเธอเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยนี้แถมยังรู้แม้กระทั่งคณะและสาขาที่เธอเรียนอีกด้วย หรือเขาจะถามจากเฮียไฟท์กันนะ โอ๊ย! เรื่องนั้นช่างมัน จัดการเรื่องตรงหน้าให้ได้ก่อนเถอะน้ำหวาน
อาคินสาวเท้าเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น สายตาคมกริบจับจ้องอยู่ที่ร่างอวบอิ่มจนน้ำหวานก้มหน้าหนี เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเขาด้วยซ้ำ
"ทำไมเมื่อเช้าถึงออกมาไม่ปลุกกันล่ะครับ หรือว่า...เมื่อคืนไม่สนุก"
น้ำหวานรีบหันมองซ้ายมองขวากลัวว่าจะมีใครมาได้ยินเข้าเพราะตอนนี้ทั้งคู่กำลังยืนอยู่หน้าสาขาปฐมวัย สาขาเอกของเธอ
นักศึกษาส่วนใหญ่เลิกเรียนกลับบ้านกันไปแล้วแม้จะมีบางส่วนนั่งจับกลุ่มกันอยู่ที่ลานกิจกรรมก็เถอะ เธอคิดว่าเสียงของเขาไม่น่าจะดังไปถึงตรงนั้น
"ว่าไงครับ หรืออยากให้ผมทวนมันตรงนี้จริงๆเหรอ"
อาคินเอื้อมมือมาจับคางของคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบาก่อนจะออกแรงดันให้เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา
แสงแดดยามบ่ายแก่ๆสาดส่องเข้ามากระทบกับใบหน้าหล่อเหลายิ่งทำให้ชายหนุ่มดูออร่าราวกับแสงนั่นเปล่งประกายออกมาจากตัว ดวงตาทรงเสน่ห์เป็นประกายวาววับเมื่อเห็นสีหน้าของน้ำหวานที่เริ่มแดงระเรื่อ
ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนที่อาคินพูดถึงฉายชัดขึ้นมาในสมองของน้ำหวานเป็นฉากๆ ภาพชัดระดับFull HDแบบไม่ต้องรอให้เขาช่วยทบทวนความจำ ทำให้ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงก่ำด้วยความเขิน
"คือ..." เธอมองไปทางลานกิจกรรมอีกครั้ง ตอนนี้สายตาเกือบทุกคู่กำลังมองมา แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้สนใจเธอแต่กำลังสนใจในความหล่อชนิดที่ต่อให้อยู่ไกลสักสิบกิโลเมตรก็ยังมองเห็นของคนตรงหน้าเธอต่างหาก "เราไปคุยกันที่อื่นได้มั้ยคะ"
น้ำหวานตัดสินใจพูดออกไป การที่เขามาดักรอเธอถึงหน้าอาคารเรียนขนาดนี้เขาคงไม่ยอมถอยกลับไปง่ายๆแน่ เธอจึงเลือกไปคุยเรื่องเมื่อคืนที่อื่นจะดีกว่า
"ได้ครับ"
อาคินถือวิสาสะคว้ามือเรียวมาจับไว้ก่อนจะเดินนำไปยังรถยนต์ของเขาซึ่งจอดเยื้องกับอาคารเรียนไม่ไกลนัก น้ำหวานก้มลงมองมือของตัวเองแต่ก็ไม่กล้าดึงกลับ เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกจับตามองทุกย่างก้าว
ร่างสูงหยุดยืนอยู่ข้างรถยนต์ของตัวเองก่อนจะยื่นมือข้างที่ว่างเปิดประตูให้กับเธอ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นรถที่จอดอยู่ตรงหน้าอย่างเต็มตา อาคินขับ Porsche 911 Carrera GTS Cabriolet มารับเธอ
ถ้าจำไม่ผิดคันนี้น่าจะราคาสิบเก้าล้าน นักศึกษาแพทย์จำเป็นต้องรวยขนาดนี้ด้วยเหรอ
"เชิญครับ"
"ขอบคุณค่ะ"
น้ำหวานตอบกลับก่อนจะรีบเข้าไปนั่งในรถเพราะตอนนี้บรรยากาศรอบๆก็รู้สึกกดดันไม่ต่างกัน
อาคินเดินอ้อมไปขึ้นรถฝั่งคนขับ เขาส่งยิ้มบางๆให้กับหญิงสาวที่กำลังมองมาด้วยสายตาเป็นกังวล นิ้วแกร่งกดปุ่มสตาร์ทเพื่อให้ระบบภายในรถทำงานโดยไม่มีเสียงรบกวนใดๆดังขึ้นเลยเนื่องจากรถคันนี้เป็นเครื่องยนต์ระบบไฮบริด
"คือ...คุณหมอคะ เมื่อคืนหนู เอ่อ หวาน เอ่อ..ฉัน" ไม่รู้ว่าจะใช้สรรพนามอะไรแทนตัวเอง สมองอันน้อยนิดของเธอมันรวนไปหมด "เมื่อคืนฉันเมามากๆเลยค่ะ ทำอะไรไปไม่ทันคิด คือ...หมอช่วยลืมๆมันไปได้มั้ยคะ"
น้ำหวานตัดสินใจพูดออกไปในที่สุด เหตุการณ์เมื่อคืนมันเป็นเรื่องผิดพลาดอย่างมหันต์แต่เธอก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว การปล่อยให้เรื่องที่ผ่านมาแล้วผ่านไปน่าจะดีที่สุด
"ลืม?" อาคินหัวเราะเบาๆในลำคอ ดวงตาเป็นประกายระยับ "อยากให้ผมลืมเรื่องเมื่อคืนจริงๆเหรอ"
แขนแกร่งที่วางพาดอยู่บนพวงมาลัยยื่นเข้าไปหาคนตัวเล็กก่อนจะเชยคางให้คนที่เอาแต่นั่งก้มหน้าเงยขึ้นมาสบตากับเขา มือหนาเลื่อนขึ้นลูบไล้แก้มเนียนเบาๆ พร้อมกับโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้น้ำหวานมากขึ้น
"แต่ผมจำได้ดีเลยนะ ว่าคุณน่ะ...ร้อนแรงขนาดไหน"
ความเงียบเข้าปกคลุมภายในรถมีเพียงเสียงลมหายใจที่ไม่สม่ำเสมอของทั้งสองคน อาคินมองคนตรงหน้าด้วยสายตาเย้ายวนในขณะที่น้ำหวานนั่งตัวแข็งทื่อ จังหวะหัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าสวยร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงความเร่าร้อนของเขาจนเธอเผลอกัดปากตัวเองแน่น
อาคินยกยิ้มมุมปาก ดวงตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์ก่อนจะแสร้งถอนหายใจออกมาเบาๆในขณะที่ร่างสูงขยับกลับไปทิ้งตัวพิงเบาะรถ
"เฮ้อ~ ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้ไม่ได้" ปรายตากลับมามองหน้าน้ำหวานอีกครั้ง "ผมดันเป็นคนที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ด้วยสิ"
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน จากที่กังวลอยู่แล้วเธอยิ่งรู้สึกมากขึ้นกว่าเดิมอีก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเธอกำลังต่อสู้กับความปรารถนาที่พลุ่งพล่านในใจ
"อยากได้? หมายถึงอยากได้อะไรคะ"
เธอไม่มีอะไรจะให้เขาหรอกนะ ถ้าจะหมายถึงตัว เอ่อ...เมื่อคืนเขาก็ได้ไปแล้วนี่ ได้ไปเยอะด้วยให้ตายเถอะ!
"ก็อยากได้คุณไงครับ" ใบหน้าหล่อเหลาตอบเธอด้วยรอยยิ้ม "อยากได้ทั้งตัวและหัวใจ"
น้ำหวานรู้สึกเหมือนตัวเองหูอื้อไปชั่วขณะ ดวงตาคู่สวยสอดประสานกับดวงตาทรงเสน่ห์ที่ค่อยๆขยับเข้ามาหา เธอไม่สามารถละสายตาไปไหนได้เลย
"หรือว่าอยากให้ผมทบทวนความจำให้อีกครั้ง" อาคินโน้มใบหน้าเข้ามากระซิบข้างหูคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงแหบพร่า "ประกอบการพิจารณาดีมั้ยครับ" เป่าลมร้อนใส่ใบหูจนอีกฝ่ายสะดุ้ง
"ทบทวนตรงนี้ไม่ได้นะคะ!" ตอบกลับด้วยความตกใจ "มะ...หมายถึงไม่ต้องทบทวนค่ะ ฉันจำได้"
เธอเขินจนพูดผิดพูดถูกและรอยยิ้มของคนตรงหน้าก็ทำให้เธอเสียอาการมากกว่าเดิม น้ำหวานหลับตาลงแล้วหันกลับมาก้มหน้ามองมือตัวเองอีกครั้ง
"อ้าว จำได้ซะแล้ว น่าเสียดายจัง"
อาคินหัวเราะเบาๆอย่างชอบใจพลางมองน้ำหวานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู ก่อนจะยกมือขึ้นลูบผมของเธอเบาๆแต่ไม่วายได้รับค้อนวงใหญ่ส่งกลับมา
เสียดาย? นี่เขาคิดจะทำแบบนั้นกับเธอบนรถจริงๆเหรอ แถมตอนนี้เราก็ยังจอดอยู่ในมหาวิทยาลัยเหมือนเดิมไม่ได้ขับออกไปไหนเลยนะ แม้รถคันนี้จะฟิล์มดำสนิทเลยก็เถอะ
"ผมมีที่ที่อยากพาคุณไป"
"ไปไหนคะ"
"เดี๋ยวก็รู้ครับ"
ขยิบตาส่งให้น้ำหวานอย่างขี้เล่น ก่อนจะดึงมือกลับไปจับพวงมาลัยและขับรถออกจากมหาวิทยาลัย
ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มอมชมพู แสงสุดท้ายของวันสาดส่องลงบนร่างของทั้งสองคน น้ำหวานไม่รู้ว่าอาคินกำลังจะพาเธอไปที่ไหนแต่เธอรู้สึกว่าเขามีแรงดึงดูดบางอย่างที่เธอไม่อาจต้านทานได้
ดึงดูดตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ....
"เราโอเคใช่มั้ย"อาคินเอ่ยถามหลังจากที่ทั้งคู่ขึ้นมาอยู่บนเพ้นท์เฮ้าส์เรียบร้อยแล้ว ร่างสูงยืนซ้อนคนตัวเล็กที่กำลังเท้าคางมองท้องฟ้าอยู่ตรงระเบียงห้อง"โอเคค่ะ หวานแค่คิดอะไรนิดหน่อย"น้ำหวานตอบกลับพลางเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มบางๆให้คนพี่ เธอยังจำสายตาของพริ้งพลอยที่มองมาได้ดี สายตาของความมุ่งมั่นแต่ปิดซ่อนความเสียใจเอาไว้ไม่มิด ได้แต่หวังว่าบทเรียนราคาแพงครั้งนี้จะทำให้พริ้งพลอยเลือกที่จะรักตัวเองมากขึ้น"คิดอะไรครับ บอกพี่ได้มั้ย""ก็กำลังคิดว่า..." เว้นวรรคประโยคก่อนจะหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับคนพี่ ดวงตาคู่สวยซุกซนจนอาคินเกิดอาการมันเขี้ยว "คุณพริ้งพลอยเค้าปักใจรักอะไรพี่หมอมากขนาดนี้"เธอไม่รู้หรอกว่าพริ้งพลอยปักใจรักอะไรในตัวหมออาคิน แต่ถ้าถามเธอใช้เวลาสามวันก็คงจะบรรยายไม่หมด น้ำหวานกวาดสายตามองใบหน้าหล่อเหลาอย่างพินิจพิจารณา ใบหน้าที่ไม่ว่าเธอจะมองกี่ครั้งก็ยังหาข้อติติงไม่เจอ"เรื่องนั้นพี่ตอบไม่ได้หรอกครับ แล้วหวานไม่อยากรู้บ้างเหรอว่าอะไรที่ทำให้พี่ปักใจรักหวานมากขนาดนี้"อาคินจ้องมองคนในอ้อมแขนด้วยสายตากรุ้มกริ่ม เขาไม่อยากจะสนใจเรื่องของคนอื่นอีกแล้ว หลังจากนี้เขาอยากจะโฟกัสแค่เ
บ้านสินธปกรณ์บรรยากาศในห้องอาหารเต็มไปด้วยความชื่นมื่น วันนี้อาคินพาครอบครัวเข้ามารับประทานมื้อเย็นกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวสินธปกรณ์เพื่อจะได้คุยเรื่องการหมั้นหมายอย่างเป็นทางการชยทัตและแทนคุยกันเรื่องตลาดทองในช่วงสัปดาห์นี้ น้ำหอมกับธีรยากำลังคุยกันเรื่องสีมงคลที่ควรจะใช้ในงานหมั้นส่วนน้ำหวานกำลังเริ่มสอบสวนหมออาคิน"พวกเค้าสนิทกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"เธอขึ้นดอยไปแค่ไม่กี่เดือนทำไมดูเหมือนอะไรๆจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วเหลือเกิน ยิ่งภาพที่แทนคุยกันอย่างสนิทสนมกับชยทัตเป็นอะไรที่หาดูได้ยากมาก"ไม่รู้สิครับ พี่ก็ขึ้นไปอยู่บนดอยกับเรานะ""ไม่ค่อยน่าไว้ใจเลยค่ะ""เดี๋ยวนี้ไม่ไว้ใจพี่แล้วเหรอ""เมื่อก่อนก็ไม่ไว้ใจค่ะ แค่ไม่ได้บอก"น้ำหวานหลุดหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นสีหน้าของคนพี่ที่มองมาทางเธออย่างคาดโทษ ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆโต๊ะก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ ถ้าถามว่าใครคือผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก เธอก็อยากจะส่งชื่อตัวเองเข้าชิงรางวัลเพราะนอกจากจะมีแฟนดี ครอบครัวแฟนดีแล้ว ทั้งสองครอบครัวยังเข้ากันได้ดีอีกด้วย"กับข้าวยังอร่อยเหมือนเดิมเลยนะคะ"ธีรยาเอ่ยชมหลังจากที่ทานอาหารเสร็
"หม่าม้าคะ หวานมีเรื่องจะปรึกษาค่ะ"น้ำหวานเดินเข้าไปหาน้ำหอมที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่น เธอนั่งคิดนอนคิดเรื่องนี้มาตลอดทั้งคืน"เรื่องอะไรลูก"ผู้เป็นแม่หยิบรีโมตขึ้นมากดปิดโทรทัศน์ ดูเหมือนละครเรื่องนี้ของเธอจะดูไม่จบสักที กดเปิดดูปุ๊บลูกสาวก็มีเรื่องปั๊บตั้งแต่เมื่อวาน"เรื่องพี่หมอค่ะ"มองหน้าผู้เป็นแม่ด้วยสายตามุ่งมั่น ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องที่หมออาคินโทรมาเมื่อคืนให้ฟัง เขาทำให้เธอฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ อยากจะรู้ความจริงแต่ก็ยังไม่พร้อมที่จะคุยกับเขา"ม้าขอถามอะไรหน่อย เค้าเคยบอกรักหวานมั้ย นอกจากการกระทำต่างๆ ที่ผ่านมา ม้ายังไม่ได้ยินหวานเล่าให้ฟังเลยว่าเค้าบอกรักหวานตอนไหน"คำถามจากน้ำหอมทำให้เด็กสาวชะงักไป มากสุดก็คงผู้ว่าชอบเธอ แต่ไม่เคยมีคำสารภาพรักตรงๆ"ไม่เคยค่ะ""จากที่ม้าดูนะ ที่เค้าไม่บอกไม่ใช่เพราะว่าเค้าปากหนักหรอก แต่ก่อนหน้านี้เค้าไม่รู้ตัวต่างหากว่ามันเรียกว่าความรักตั้งแต่เมื่อไหร่""ทำไมม้าถึงคิดแบบนั้นคะ"คนที่ดูแพรวพราวและช่ำชองในเรื่องความรักอย่างเขาน่ะเหรอที่จะไม่รู้ใจตัวเอง แต่จะว่าไปตัวเธอก็ไม่ได้มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองเท่าไหร่นักจนเกิ
วิชัยรับคำอย่างว่าง่าย เขาเปิดไฟเลี้ยวพลางส่องกระจกมองหลังแล้วเลี้ยวรถเข้าไปรถข้างๆ รถกระบะ 4 ประตู ISUZU D-Max Hi-Lander สีดำ"พี่หมอมีธุระเหรอคะ""แค่แป๊บเดียวครับ"ทันทีที่รถจอดสนิทอาคินก็ลงจากรถเดินเข้าไปหาพนักงานผู้ชายสองคนซึ่งนั่งรออยู่ข้างๆรถกระบะคันดังกล่าว"สวัสดีครับ ผมอาคินที่สั่งรถเอาไว้""อ่อ สวัสดีครับคุณลูกค้า" พนักงานหนุ่มทั้งสองคนรีบยกมือไหว้ทันที "ผมรบกวนคุณลูกค้าตรวจเช็ครถและเซ็นเอกสารตรงนี้ให้หน่อยนะครับ"อาคินเดินสำรวจรถคร่าวๆก่อนจะเซ็นเอกสารท่ามกลางความสงสัยของน้ำหวานกับวิชัยและความจริงก็กระจ่างเมื่อหมอหนุ่มเดินกลับมาพร้อมยื่นกุญแจรถให้ลุงวิชัย"รถคันใหม่ครับ ไว้ใช้งานในหมู่บ้านน่าจะสะดวกกว่า""มะ มะ หมอให้ลุงเหรอ"วิชัยเกิดอาการติดอ่างขึ้นมาทันที ไม่คิดว่าอาคินจะซื้อรถยนต์คันใหม่ป้ายแดงให้เขา มันมากเกินกว่าจะเขาจะรับไว้"ใช่ครับ คันที่ลุงขับอยู่นี่เลิกใช้ไปเถอะครับ มันไม่ปลอดภัยเลย"น้ำหวานมองคนตรงหน้าด้วยความอึ้งไม่แพ้กัน ก่อนจะระบายยิ้มออกมาบางๆ ถึงเขาจะดูเหมือนกับไม่ค่อยสนใจอะไรแต่จริงๆแล้วหมอหนุ่มเป็นคนที่ค่อนข้างจะใส่ใจคนรอบตัว"ลุงรับไว้ไม่ไหวหรอกครับ มันแ
ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้าไปจูบปากที่บวมเจ่ออย่างอดใจไม่ไหว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเธอจุดไฟในตัวเขาได้เสมอ“แบบนี้ชอบไหม”อาคินกระซิบถามพลางยื่นมือลงไปจับล็อกเอวบางก่อนจะกระแทกท่อนเอ็นยักษ์เสยขึ้นไปจนมิดลำ หมอหนุ่มขยับกระชั้นถี่ตามความปรารถนาที่พุ่งขึ้นสูง เขาตอกอัดใส่เธออย่างเร่าร้อน สายตาคมเลื่อนขึ้นสบตากับดวงตาคู่สวยที่ตอนนี้ดูเลื่อนลอยพอๆกับสติ“แรงๆ แบบนี้ชอบมั้ยครับ”ถามพลางกระแทกกระทั้นตอกอัดใส่ร่องรักที่ฉ่ำแฉะ น้ำหวานที่ได้ยินคำถามก็หน้าแดงซ่านแต่ก็ยอมตอบกลับเขามาอย่างเอาอกเอาใจ“ชอบค่ะ...ชะ...ชอบมาก”ตอนนี้ความเสียวซ่านถาโถมใส่จนเธอไม่ทันตั้งรับ สัมผัสอันเกิดจากความรู้สึกซึ่งประสานเป็นหนึ่งเดียวกันนั้นสร้างความสุขได้อย่างล้นหลามปึก ปึก ปึก!เขาแทบจะบ้าคลั่งจนทนไม่ไหว!“อ๊า~...พี่หมอ”น้ำหวานครางเสียงหลงเมื่อมือใหญ่ช้อนลงใต้ก้นกลมกลึงแล้วจับเธอหมุนตัวกลับไปอีกฝั่งก่อนจะรั้งขาเธอขึ้นแนบอกจนตัวลอย อาคินเร่งจังหวะตอกอัดท่อนเอ็นใส่ร่องรักอย่างรุนแรง ดิบเถื่อนร่างบางจิกลงบนแขนแกร่งของเขาทั้งสองข้าง เพียงต้องการหาทางระบายความกระสันจากการกระทำที่รุนแรงของเขา “สะ...เสียวเกินไป”เมื่อร่า
"ว๊าย!"มือหนาสอดเข้าใต้รักแร้ร่างบางก่อนจะอุ้มขึ้นมานั่งบนตักของตัวเอง อาคินจัดการเลื่อนเบาะรถถอยหลังไปจนสุดก่อนจะรั้งท้ายทอยของน้ำหวานลงมาจูบจูบที่เริ่มต้นช้าๆ ปลุกเร้าความต้องการด้วยลิ้นที่แทรกเข้ามา ริมฝีปากนุ่มของทั้งสองแนบชิดคลอเคลียไม่ห่าง เธอพยายามแทรกปลายลิ้นไล้ไปตามส่วนต่างๆ ราวกับจะเอาคืนลิ้นของชายหนุ่มร่างกายของน้ำหวานสั่นเทิ้มด้วยความปรารถนาระหว่างที่ริมฝีปากแนบประกบ สัมผัสของเขามักจะทำให้หัวใจของเธออ่อนยวบลงทุกครั้ง"จูบกี่ครั้งก็ยังหวานเหมือนเดิมเลย"เสียงแหบพร่ากระซิบชิดใบหู ปลายลิ้นเล็มเลียติ่งหูแผ่วเบา ก่อนจะวกกลับมาที่ริมฝีปากอวบอิ่มจูบเร่าร้อนเริ่มขึ้นอีกครั้ง เรียวลิ้นอุ่นชื้นของทั้งคู่เกี่ยวกระหวัดรัดรึงอย่างไม่มีใครยอมใคร มือหนาเริ่มฟ้อนเฟ้นไปทั่วเรือนร่างเย้ายวน อุณหภูมิในร่างไต่ระดับขึ้นตามแรงกระตุ้น จนคนน้องรู้สึกวูบวาบขึ้นสมองปลายจมูกของเขาค่อยๆ ซุกไซ้ลงมาที่ซอกคอพร้อมกับลมหายใจถี่กระชั้น ฝ่ามือใหญ่ไล้ไปตามผิวเนื้อที่สั่นเทาน้อยๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปตามสีข้าง เอว จนถึงระหว่างขา"อื้มมมม~"เสียงหวานครางในลำคอพลางยกแขนเรียวขึ้นคล้องคอแกร่ง น้ำหวานเคลิบเคลิ้มไป
Comments