เพราะคิดว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์จะช่วยให้เธอผ่อนคลายขึ้น หลังจากนั้นน้ำหวานจึงหันไปขอให้พี่สาวฝาแฝดช่วยผสมเครื่องดื่มให้เธอด้วย คนที่ไม่เคยเห็นน้องสาวดื่มแอลกอฮอล์ก็รีบสนองให้
"เอ้าชนนน!"
เสียงของผักบุ้งเรียกให้สมาชิกทุกคนยกแก้วขึ้นมาชนกันตรงกลางโต๊ะ ไฟท์เตอร์เดินลงมาจากชั้นสามถึงกับขมวดคิ้วเมื่อเห็นสภาพสี่สาวนั่งโอนเอนทรงตัวไม่ได้ ดวงตาเยิ้มฉ่ำบ่งบอกถึงฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่มีในร่างกาย
"ทำไมอยู่สภาพนี้วะ"
ร่างสูงทิ้งตัวนั่งข้างอาคินพลางกวาดสายตามองทุกคนก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าเพื่อนสนิทของตัวเองด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ
"กูไม่ได้ทำอะไร"
"ไอเฮียยยย~ ชนๆๆ"
เสียงหวานจากคนที่ไฟท์เตอร์ไม่คาดคิดว่าจะเมาเอ่ยเรียก ใบหน้าสวยส่งยิ้มหวานเยิ้มมาให้ นิ้วแกร่งยกขึ้นขยี้ตาอีกครั้งเพราะคิดว่าตัวเองน่าจะตาฝาดมองน้ำปั่นเป็นน้ำหวาน
"หวานตัวจริงป่ะเนี้ย"
"หวานดิ! เฮียตาบอดอ่อ!"
สามสาวส่งเสียงหัวเราะขึ้นพร้อมกันเมื่อเห็นไฟท์เตอร์หน้าถอดสีจากเสียงตวาดของน้ำหวาน
อาคินหัวเราะในลำคอเบาๆกับอาการของหญิงสาวตรงหน้า เธอรู้สึกประหม่าเพราะสายตาของเขาจนยกแก้วขึ้นกระดกไม่หยุดและสุดท้ายผลจึงออกมาเป็นแบบนี้
น้ำหวานเวลาเมากลายร่างเป็นน้ำปั่น!
"เออ น้องกูพูดถูกไอ้เฮีย"
น้ำปั่นช่วยเสริมก่อนสองสาวจะหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน เล่นเอาไฟท์เตอร์ถึงกับส่ายศีรษะอย่างอ่อนใจ
"แล้วตั้งสี่คนกูจะพากลับยังไงวะเนี้ย"
ผักบุ้งผงกศีรษะขึ้นมามองรอบๆโต๊ะอีกครั้งก่อนจะยกนิ้วขึ้นชี้หน้าคนพี่อย่างออกคำสั่ง
"เฮียไปส่งหนู! พี่คินเก็บไอ้สามตัวนี้ไปด้วย"
"ห๊ะ? ทำไมต้องไอ้คิน"
"หวานจะไปกับพี่หมอคนหล่อออ~"
ร่างอรชรพูดพลางลุกขึ้นยืนเธอพยายามประคองสติเดินตรงไปยังอาคินก่อนจะทิ้งตัวนั่งบนตักแกร่ง เขารีบตวัดวงแขนโอบรับคนน้องเอาไว้เพราะกลัวว่าเธอจะตก ความนุ่มนิ่มที่เบียดชิดเข้ามาทำให้เขาถึงกับต้องข่มตาตั้งสติ
"น้องสาวกูโคตรเริ่ด"
น้ำปั่นเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยชมพลางยกนิ้วโป้งชูขึ้นให้ทั้งสองนิ้ว ก่อนจะหันไปมองส้มจี๊ดซึ่งนั่งสัปหงกอยู่
"เออ น้องๆกูอยู่คอนโดเดียวกับมึงอ่ะ"
ไฟท์เตอร์นึกขึ้นได้ว่าอาคินมีเพนท์เฮ้าส์อยู่ที่คอนโด Essent 7 คอนโดที่แฝดสาวอาศัยอยู่ส่วนส้มจี๊ดคงนอนกับน้ำปั่นเพราะทางกลับบ้านของผักบุ้งและเขาอยู่ทางเดียวกัน น่าจะเดินทางได้สะดวกกว่า
"กูฝากได้ป่ะ"
"ด้ายๆๆๆ"
น้ำเสียงยานคางเอ่ยตอบแทน น้ำหวานยกแขนขึ้นคล้องคออาคินพลางจ้องใบหน้าหล่อเหลาด้วยสายตาหวานเยิ้ม ตอนนี้เธอไม่กลัวสายตาคมทรงเสน่ห์ของเขาอีกแล้ว กล้าที่จะมองกันอย่างไม่ละสายตา
อาคินมองเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปของสาวน้อยในอ้อมแขน ความซุกซนในดวงตาประกายทำให้เขารู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว
'อะไรวะ! แอลกอฮอล์ในร่างกายเขาเพิ่งทำงานเหรอวะ'
น้ำหวานซบหน้าลงหนุนแขนตัวเองอีกครั้ง คนถูกถามตัวจริงจึงหันไปพยักหน้ารับก่อนจะปรายตามองไปยังสองสาวที่นอนทับกันอยู่บนโซฟา คนบนตักน่ะอุ้มไปได้แต่อีกสองคนจะพาไปยังไง
"กูไว้ใจมึงได้ใช่มั้ย"
เห็นสายตาที่เพื่อนมองน้องสาวเขาแล้วก็เริ่มระแวงแต่ดูจากสภาพน้ำหวานที่กอดคออาคินเอาไว้แน่น ไฟท์เตอร์เริ่มไม่แน่ใจว่าควรจะระแวงใครก่อน
อาคินช้อนอุ้มน้ำหวานลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินตรงไปยังบันไดโดยไม่สนใจสองสาวที่นั่งโอนเอนไปมาอยู่บนโซฟาจนไฟท์เตอร์ต้องตะโกนตามหลัง
"เห้ย! อีกสองคนเว้ย"
@Essent 7
สุดท้ายสามสาวก็มาถึงคอนโดอย่างปลอดภัย การได้นอนพักบนรถทำให้พวกเธอพอมีสติขึ้นมาบ้าง
"อยู่ชั้นไหนครับ"
"ยี่ฉิบค่าา~"
ส้มจี๊ดตอบกลับพลางชูนิ้วขึ้นมาสองนิ้ว ก่อนจะเดินนำเข้าไปในลิฟต์ตามด้วยน้ำปั่น ส่วนน้ำหวานยังคงยืนกอดแขนอาคินราวกับต้องการที่พึ่ง
"ไปค่า เดินๆๆ"
นิ้วเรียวชี้ไปข้างหน้าแต่ขาของเธอกลับไม่ขยับเลยสักนิด น้ำหวานเงยขึ้นมองหน้าคนพี่ราวกับต้องการขอความช่วยเหลือให้เขาช่วยประคองเธอไปหน่อย
อาคินกระตุกยิ้มมุมปากพลางช่วยประคองคนน้องเดินตามเข้าไปในลิฟต์และก็ยังรับหน้าที่ประคองเดินต่อไปยังหน้าห้องของสองสาว
"ถึงแย้วววว~"
น้ำปั่นหยุดยืนหน้าห้องของตัวเองก่อนจะแตะคีย์การ์ดแล้วเปิดเข้าไปโดยไม่สนใจใครอีกเลย ส้มจี๊ดเดินตามเข้าไปก่อนจะปิดประตูห้องโดยไม่สนใจน้ำหวานและอาคินที่เพิ่งเดินมาถึงหน้าห้อง
ปึง!
อาคินหยุดชะงักก่อนจะหันไปมองคนตัวเล็กที่กำลังยืนส่งยิ้มหวานมาให้ คนอื่นเข้าห้องกันไปหมดแล้ว แล้วคนยิ้มหวานคนนี้เขาต้องเอาไปไว้ไหนล่ะเนี้ย
"รู้รหัสเข้าห้องมั้ยครับ"
"ห้องหวานไม่ได้อยู่นี่ค่าาา~"
"แล้วห้องอยู่ไหนครับ"
น้ำหวานยกแขนขึ้นหมุนข้ามศีรษะอาคินไปยังห้องฝั่งตรงข้าม น้ำปั่นอยู่ห้องหมายเลขสองศูนย์ศูนย์เก้าส่วนห้องของเธอคือสองศูนย์หนึ่งเก้า
"คีย์การ์ดอยู่ไหนครับ"
"อยู่~" มือเรียวเปิดกระเป๋าสะพายพร้อมกับค้นหาคีย์การ์ดของตัวเองแต่กลับหาไม่เจอ "บ๋อแบ๋"
เธอตอบพร้อมเงยขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของคนพี่ คนอะไรทำไมเกิดมาหล่อขนาดนี้
"ขอไปอยู่กับพี่หมอคนหล่อก่อนได้มั้ยคะ คิกๆ"
"ครับ?"
คิ้วหนาขมวดเข้ากัน สายตาคมจ้องมองหน้าคนน้องอย่างพิจารณาหรือว่าเขาจะมองเธอผิดไป ความจริงแล้วเธออาจจะกำลังแสดงเป็นสาวใสถ้าเป็นแบบนั้นเขาขอนับถือเลย เธอแสดงได้เก่งมาก
"ห้องพี่หมออยู่ไหนค่าา~ อุ๊ป!"
มือหนายกขึ้นปิดปากคนตัวเล็กเมื่อเธอเริ่มส่งเสียงดัง ไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่เรียบร้อยเมื่อช่วงค่ำจะเป็นคนเดียวกัน
สุดท้ายอาคินก็ต้องหอบร่างบางขึ้นไปยังเพนท์เฮ้าส์ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของคอนโดนี้ น้ำหวานยังคงหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดีในขณะที่คนพี่พาเธอเดินไปนั่งยังโซฟาตัวยาวในห้องนั่งเล่น
อาคินกลับออกมาจากห้องน้ำพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กที่ชุบน้ำมาเรียบร้อยแล้ว
"อื้ออ…เย็นอ่ะ"
ความเย็นบนใบหน้าทำให้คนที่เพิ่งฟุบไปเงยขึ้นมาบ่นพึมพำอีกครั้ง
"เช็ดหน้าก่อนครับ จะได้ดีขึ้น"
เสียงของเขาเหมือนมนต์สะกดทำให้เธอหยุดนิ่ง น้ำหวานยอมให้เขาช่วยเช็ดหน้าแต่โดยดี ดวงตาคู่สวยไม่ละไปใบหน้าของอาคินเลย
คนเราต้องทำบุญมาด้วยอะไรนะถึงได้เกิดมาหล่อขนาดนี้ เธอไม่เคยรู้สึกหัวใจเต้นแรงมากๆกับใครมาก่อนหรืออาจจะเป็นเพราะเธอไม่เคยมองหน้าผู้ชายคนไหนใกล้ๆ
จู่ๆมือเรียวก็ยกขึ้นแตะตรงกลีบปากของอาคิน น้ำหวานขยับเข้าใกล้เขาขึ้นเรื่อยๆโดยที่เธอไม่รู้ตัว ทำไมรู้สึกเหมือนปากนุ่มๆของเขามันอยู่ใกล้สายตาของเธอจังนะหรือว่าเธอเมาจนตาพร่าเลือน
ด้านหมอหนุ่มถึงกับนิ่งเหมือนถูกสาป มือที่ถือผ้าขนหนูผืนเล็กชะงักอยู่ตรงซอกคอของน้ำหวาน เขาไม่ใช่คนชอบฉวยโอกาสคนเมาแต่เธอไม่รู้หรือไงว่าสิ่งที่ทำอยู่มันอันตรายมากแค่ไหน
และที่สำคัญเขาเป็นคนที่มีความอดทนต่ำซะด้วยสิ
"ปากนุ่มจัง"
น้ำเสียงยานคางเอ่ยพลางเหลือบตาหยาดเยิ้มขึ้นมองคนพี่ อาคินลอบกลืนน้ำลายอยู่หลายครั้งไม่ใช่เพราะเขาไม่เคยถูกผู้หญิงแตะเนื้อต้องตัว แต่มันเพราะเคยไงเขาถึงรู้ว่าร่างกายของตัวเองกำลังมีปฏิกิริยาแบบนี้เพราะอะไร
"ปากชมพูขนาดนี้ นมจะชมพูด้วยมั้ยคะ"
เอ่ยถามพลางเงยขึ้นมองหน้าเขาตาใส ให้ตายเถอะ! ไม่คิดเลยว่าแมวเหมียวตัวน้อยเวลาเมาจะกลายร่างเป็นนางแมวยั่วสวาท แล้วดูเรื่องที่เธอสงสัยสิ!
"ถ้าอยากเห็นก็ลองเปิดดู แต่ต้องบนเตียงนะ"
"เราโอเคใช่มั้ย"อาคินเอ่ยถามหลังจากที่ทั้งคู่ขึ้นมาอยู่บนเพ้นท์เฮ้าส์เรียบร้อยแล้ว ร่างสูงยืนซ้อนคนตัวเล็กที่กำลังเท้าคางมองท้องฟ้าอยู่ตรงระเบียงห้อง"โอเคค่ะ หวานแค่คิดอะไรนิดหน่อย"น้ำหวานตอบกลับพลางเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มบางๆให้คนพี่ เธอยังจำสายตาของพริ้งพลอยที่มองมาได้ดี สายตาของความมุ่งมั่นแต่ปิดซ่อนความเสียใจเอาไว้ไม่มิด ได้แต่หวังว่าบทเรียนราคาแพงครั้งนี้จะทำให้พริ้งพลอยเลือกที่จะรักตัวเองมากขึ้น"คิดอะไรครับ บอกพี่ได้มั้ย""ก็กำลังคิดว่า..." เว้นวรรคประโยคก่อนจะหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับคนพี่ ดวงตาคู่สวยซุกซนจนอาคินเกิดอาการมันเขี้ยว "คุณพริ้งพลอยเค้าปักใจรักอะไรพี่หมอมากขนาดนี้"เธอไม่รู้หรอกว่าพริ้งพลอยปักใจรักอะไรในตัวหมออาคิน แต่ถ้าถามเธอใช้เวลาสามวันก็คงจะบรรยายไม่หมด น้ำหวานกวาดสายตามองใบหน้าหล่อเหลาอย่างพินิจพิจารณา ใบหน้าที่ไม่ว่าเธอจะมองกี่ครั้งก็ยังหาข้อติติงไม่เจอ"เรื่องนั้นพี่ตอบไม่ได้หรอกครับ แล้วหวานไม่อยากรู้บ้างเหรอว่าอะไรที่ทำให้พี่ปักใจรักหวานมากขนาดนี้"อาคินจ้องมองคนในอ้อมแขนด้วยสายตากรุ้มกริ่ม เขาไม่อยากจะสนใจเรื่องของคนอื่นอีกแล้ว หลังจากนี้เขาอยากจะโฟกัสแค่เ
บ้านสินธปกรณ์บรรยากาศในห้องอาหารเต็มไปด้วยความชื่นมื่น วันนี้อาคินพาครอบครัวเข้ามารับประทานมื้อเย็นกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวสินธปกรณ์เพื่อจะได้คุยเรื่องการหมั้นหมายอย่างเป็นทางการชยทัตและแทนคุยกันเรื่องตลาดทองในช่วงสัปดาห์นี้ น้ำหอมกับธีรยากำลังคุยกันเรื่องสีมงคลที่ควรจะใช้ในงานหมั้นส่วนน้ำหวานกำลังเริ่มสอบสวนหมออาคิน"พวกเค้าสนิทกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"เธอขึ้นดอยไปแค่ไม่กี่เดือนทำไมดูเหมือนอะไรๆจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วเหลือเกิน ยิ่งภาพที่แทนคุยกันอย่างสนิทสนมกับชยทัตเป็นอะไรที่หาดูได้ยากมาก"ไม่รู้สิครับ พี่ก็ขึ้นไปอยู่บนดอยกับเรานะ""ไม่ค่อยน่าไว้ใจเลยค่ะ""เดี๋ยวนี้ไม่ไว้ใจพี่แล้วเหรอ""เมื่อก่อนก็ไม่ไว้ใจค่ะ แค่ไม่ได้บอก"น้ำหวานหลุดหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นสีหน้าของคนพี่ที่มองมาทางเธออย่างคาดโทษ ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆโต๊ะก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ ถ้าถามว่าใครคือผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก เธอก็อยากจะส่งชื่อตัวเองเข้าชิงรางวัลเพราะนอกจากจะมีแฟนดี ครอบครัวแฟนดีแล้ว ทั้งสองครอบครัวยังเข้ากันได้ดีอีกด้วย"กับข้าวยังอร่อยเหมือนเดิมเลยนะคะ"ธีรยาเอ่ยชมหลังจากที่ทานอาหารเสร็
"หม่าม้าคะ หวานมีเรื่องจะปรึกษาค่ะ"น้ำหวานเดินเข้าไปหาน้ำหอมที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่น เธอนั่งคิดนอนคิดเรื่องนี้มาตลอดทั้งคืน"เรื่องอะไรลูก"ผู้เป็นแม่หยิบรีโมตขึ้นมากดปิดโทรทัศน์ ดูเหมือนละครเรื่องนี้ของเธอจะดูไม่จบสักที กดเปิดดูปุ๊บลูกสาวก็มีเรื่องปั๊บตั้งแต่เมื่อวาน"เรื่องพี่หมอค่ะ"มองหน้าผู้เป็นแม่ด้วยสายตามุ่งมั่น ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องที่หมออาคินโทรมาเมื่อคืนให้ฟัง เขาทำให้เธอฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ อยากจะรู้ความจริงแต่ก็ยังไม่พร้อมที่จะคุยกับเขา"ม้าขอถามอะไรหน่อย เค้าเคยบอกรักหวานมั้ย นอกจากการกระทำต่างๆ ที่ผ่านมา ม้ายังไม่ได้ยินหวานเล่าให้ฟังเลยว่าเค้าบอกรักหวานตอนไหน"คำถามจากน้ำหอมทำให้เด็กสาวชะงักไป มากสุดก็คงผู้ว่าชอบเธอ แต่ไม่เคยมีคำสารภาพรักตรงๆ"ไม่เคยค่ะ""จากที่ม้าดูนะ ที่เค้าไม่บอกไม่ใช่เพราะว่าเค้าปากหนักหรอก แต่ก่อนหน้านี้เค้าไม่รู้ตัวต่างหากว่ามันเรียกว่าความรักตั้งแต่เมื่อไหร่""ทำไมม้าถึงคิดแบบนั้นคะ"คนที่ดูแพรวพราวและช่ำชองในเรื่องความรักอย่างเขาน่ะเหรอที่จะไม่รู้ใจตัวเอง แต่จะว่าไปตัวเธอก็ไม่ได้มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองเท่าไหร่นักจนเกิ
วิชัยรับคำอย่างว่าง่าย เขาเปิดไฟเลี้ยวพลางส่องกระจกมองหลังแล้วเลี้ยวรถเข้าไปรถข้างๆ รถกระบะ 4 ประตู ISUZU D-Max Hi-Lander สีดำ"พี่หมอมีธุระเหรอคะ""แค่แป๊บเดียวครับ"ทันทีที่รถจอดสนิทอาคินก็ลงจากรถเดินเข้าไปหาพนักงานผู้ชายสองคนซึ่งนั่งรออยู่ข้างๆรถกระบะคันดังกล่าว"สวัสดีครับ ผมอาคินที่สั่งรถเอาไว้""อ่อ สวัสดีครับคุณลูกค้า" พนักงานหนุ่มทั้งสองคนรีบยกมือไหว้ทันที "ผมรบกวนคุณลูกค้าตรวจเช็ครถและเซ็นเอกสารตรงนี้ให้หน่อยนะครับ"อาคินเดินสำรวจรถคร่าวๆก่อนจะเซ็นเอกสารท่ามกลางความสงสัยของน้ำหวานกับวิชัยและความจริงก็กระจ่างเมื่อหมอหนุ่มเดินกลับมาพร้อมยื่นกุญแจรถให้ลุงวิชัย"รถคันใหม่ครับ ไว้ใช้งานในหมู่บ้านน่าจะสะดวกกว่า""มะ มะ หมอให้ลุงเหรอ"วิชัยเกิดอาการติดอ่างขึ้นมาทันที ไม่คิดว่าอาคินจะซื้อรถยนต์คันใหม่ป้ายแดงให้เขา มันมากเกินกว่าจะเขาจะรับไว้"ใช่ครับ คันที่ลุงขับอยู่นี่เลิกใช้ไปเถอะครับ มันไม่ปลอดภัยเลย"น้ำหวานมองคนตรงหน้าด้วยความอึ้งไม่แพ้กัน ก่อนจะระบายยิ้มออกมาบางๆ ถึงเขาจะดูเหมือนกับไม่ค่อยสนใจอะไรแต่จริงๆแล้วหมอหนุ่มเป็นคนที่ค่อนข้างจะใส่ใจคนรอบตัว"ลุงรับไว้ไม่ไหวหรอกครับ มันแ
ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้าไปจูบปากที่บวมเจ่ออย่างอดใจไม่ไหว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเธอจุดไฟในตัวเขาได้เสมอ“แบบนี้ชอบไหม”อาคินกระซิบถามพลางยื่นมือลงไปจับล็อกเอวบางก่อนจะกระแทกท่อนเอ็นยักษ์เสยขึ้นไปจนมิดลำ หมอหนุ่มขยับกระชั้นถี่ตามความปรารถนาที่พุ่งขึ้นสูง เขาตอกอัดใส่เธออย่างเร่าร้อน สายตาคมเลื่อนขึ้นสบตากับดวงตาคู่สวยที่ตอนนี้ดูเลื่อนลอยพอๆกับสติ“แรงๆ แบบนี้ชอบมั้ยครับ”ถามพลางกระแทกกระทั้นตอกอัดใส่ร่องรักที่ฉ่ำแฉะ น้ำหวานที่ได้ยินคำถามก็หน้าแดงซ่านแต่ก็ยอมตอบกลับเขามาอย่างเอาอกเอาใจ“ชอบค่ะ...ชะ...ชอบมาก”ตอนนี้ความเสียวซ่านถาโถมใส่จนเธอไม่ทันตั้งรับ สัมผัสอันเกิดจากความรู้สึกซึ่งประสานเป็นหนึ่งเดียวกันนั้นสร้างความสุขได้อย่างล้นหลามปึก ปึก ปึก!เขาแทบจะบ้าคลั่งจนทนไม่ไหว!“อ๊า~...พี่หมอ”น้ำหวานครางเสียงหลงเมื่อมือใหญ่ช้อนลงใต้ก้นกลมกลึงแล้วจับเธอหมุนตัวกลับไปอีกฝั่งก่อนจะรั้งขาเธอขึ้นแนบอกจนตัวลอย อาคินเร่งจังหวะตอกอัดท่อนเอ็นใส่ร่องรักอย่างรุนแรง ดิบเถื่อนร่างบางจิกลงบนแขนแกร่งของเขาทั้งสองข้าง เพียงต้องการหาทางระบายความกระสันจากการกระทำที่รุนแรงของเขา “สะ...เสียวเกินไป”เมื่อร่า
"ว๊าย!"มือหนาสอดเข้าใต้รักแร้ร่างบางก่อนจะอุ้มขึ้นมานั่งบนตักของตัวเอง อาคินจัดการเลื่อนเบาะรถถอยหลังไปจนสุดก่อนจะรั้งท้ายทอยของน้ำหวานลงมาจูบจูบที่เริ่มต้นช้าๆ ปลุกเร้าความต้องการด้วยลิ้นที่แทรกเข้ามา ริมฝีปากนุ่มของทั้งสองแนบชิดคลอเคลียไม่ห่าง เธอพยายามแทรกปลายลิ้นไล้ไปตามส่วนต่างๆ ราวกับจะเอาคืนลิ้นของชายหนุ่มร่างกายของน้ำหวานสั่นเทิ้มด้วยความปรารถนาระหว่างที่ริมฝีปากแนบประกบ สัมผัสของเขามักจะทำให้หัวใจของเธออ่อนยวบลงทุกครั้ง"จูบกี่ครั้งก็ยังหวานเหมือนเดิมเลย"เสียงแหบพร่ากระซิบชิดใบหู ปลายลิ้นเล็มเลียติ่งหูแผ่วเบา ก่อนจะวกกลับมาที่ริมฝีปากอวบอิ่มจูบเร่าร้อนเริ่มขึ้นอีกครั้ง เรียวลิ้นอุ่นชื้นของทั้งคู่เกี่ยวกระหวัดรัดรึงอย่างไม่มีใครยอมใคร มือหนาเริ่มฟ้อนเฟ้นไปทั่วเรือนร่างเย้ายวน อุณหภูมิในร่างไต่ระดับขึ้นตามแรงกระตุ้น จนคนน้องรู้สึกวูบวาบขึ้นสมองปลายจมูกของเขาค่อยๆ ซุกไซ้ลงมาที่ซอกคอพร้อมกับลมหายใจถี่กระชั้น ฝ่ามือใหญ่ไล้ไปตามผิวเนื้อที่สั่นเทาน้อยๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปตามสีข้าง เอว จนถึงระหว่างขา"อื้มมมม~"เสียงหวานครางในลำคอพลางยกแขนเรียวขึ้นคล้องคอแกร่ง น้ำหวานเคลิบเคลิ้มไป