ปัจจุบัน
"คิดอะไรอยู่ครับ" อาคินเหลือบมองน้ำหวานที่หันมองนอกหน้าต่างพักใหญ่ คำถามของเขาทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาในรถ "เบื่อเหรอ?"
"เปล่าค่ะ ตกลงว่าเราจะไปไหนกันเหรอคะ"
"ถ้าบอกตอนนี้...มันก็ไม่สนุกสิครับ"
คนพี่ตอบปนขำแต่สายตาที่มองมาทางน้ำหวานเต็มไปด้วยความลึกลับ เธอไม่เคยมองออกเลยว่าสายตาของเขากำลังสื่อสารอะไร
สำนวนไทยที่บอกว่า ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ สงสัยจะใช้ไม่ได้ผลกับคนตรงหน้าเธอ
"อดทนรออีกนิดไหวมั้ย" มือหนายกขึ้นวางบนศีรษะเล็กอย่างเอ็นดู เขาทำราวกับว่ากำลังสอนเด็กน้อยอย่างเธอให้รู้จักรอคอย "แต่ก่อนที่จะไปถึงที่นั่น...ผมมีเรื่องอยากจะถามคุณ"
"เรื่องอะไรคะ"
น้ำหวานเอียงคอถามด้วยความสงสัยในขณะที่เขาเลื่อนมือออกจากศีรษะลงมาจับมือเรียวของเธอเอาไว้แทน หัวใจดวงน้อยเริ่มเต้นผิดจังหวะอีกครั้ง
"คุณคิดยังไงกับเรื่องเมื่อคืน" สายตาจริงจังของเขาทำให้น้ำหวานนั่งนิ่งไม่กล้าขยับ มือที่จับกันกระชับแน่นมากกว่าเดิม "คุณอยากให้มันเป็นแค่ความผิดพลาด...หรือมากกว่านั้น"
ในสมองคิดทบทวนถึงฉากเร่าร้อนเมื่อคืนอีกครั้ง แน่นอนว่าครั้งแรกที่เจอเธอไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเขา แค่เขาสะดุดตาและทำให้เธอรู้สึกแปลกๆเท่านั้น แต่เมื่อเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้จึงทำให้เธอเกิดความสับสน
"คือ...ฉันไม่รู้ว่าจะต้องตอบยังไงดีค่ะ"
"ผมอยากรู้...ความรู้สึกของคุณจริงๆ"
สำหรับเขาแล้วตอนนี้น้ำหวานเธอเป็นผู้หญิงที่เขาสนใจมาก จะเรียกว่าชอบเธอมากกว่าที่เคยรู้สึกกับใครเลยก็ว่าได้แต่เขาบอกกับตัวเองว่ามันยังคงเป็นแค่ความชอบเหมือนเวลาที่เขาเห่อของใหม่ก็เท่านั้น
"แล้วคุณหมอคิดยังไงเหรอคะ ถึงเราจะเมาแต่หวานคิดว่าหมอน่าจะมีสติมากกว่า ทำไมหมอถึงเอ่อ..." อ้ำอึ้งเล็กน้อย เธอไม่แน่ใจว่าควรจะพูดออกไปดีหรือเปล่า "ถึงทำแบบนั้นต่อ"
ความเงียบเข้าปกคลุมภายในรถอีกครั้งระหว่างที่อาคินกำลังจอดติดไฟแดง เขาถอนหายใจเบาๆก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่ก็แฝงไปด้วยความจริงจัง
"ผมขอโทษที่ทำอะไรโดยไม่ได้ถามความสมัครใจของคุณก่อน แต่ผมไม่ได้รู้สึกเสียใจ"
เขาตอบกลับไปตามตรงเพราะต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้เขาก็มั่นใจว่าตัวเองจะทำเหมือนเดิมแม้สายตาของเขาจะเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดโดยไม่รู้ตัว
"เพราะผม...ชอบคุณ"
ก็ตอนนี้เขาชอบเธอจริงๆ แต่ในอนาคตจะพัฒนาไปได้มากแค่ไหนเขาก็ไม่รู้เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยชอบใครได้เกินสามเดือนเลยสักคน เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าความรู้สึกของตัวเองมันจะไปสุดที่ตรงไหน
คำสารภาพของเขาทำให้น้ำหวานชะงักไป ในสมองของเธอมีแต่ความสับสนวุ่นวายเต็มไปหมดไม่คิดว่าเขาจะพูดความรู้สึกออกมาตรงๆแบบนี้ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะตอบกลับไป
"งั้น...ฉันขอเวลาทำความรู้จักตัวตนจริงๆของคุณหมอได้มั้ยคะ คิดว่าน่าจะใช้เวลาไม่นานหรอกค่ะ"
น้ำหวานมองอีกฝ่ายด้วยสายตาจริงจังไม่ต่างกัน สัญญาณไฟเขียวทำให้อาคินละสายตาจากเธอหันกลับไปมองถนนหนทางข้างหน้าอีกครั้ง
คำตอบของเธอทำให้เขาค่อนข้างแปลกใจ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น แล้วเขาเปิดโอกาสให้ใกล้ชิดขนาดนี้คงจะรีบเรียกร้องให้เขารับผิดชอบแต่น้ำหวานกลับขอเวลาทำความรู้จักกับตัวตนของเขาก่อน
แม้จะดูเป็นผู้หญิงอ่อนโยนแต่ก็มีความเด็ดขาดในตัวเองไม่น้อย
"ได้ครับ ผมจะรอวันที่คุยเปิดใจให้ผม"
อาคินส่งยิ้มกว้างพลางบีบมือที่จับกันอยู่เบาๆ ยิ่งเธอตอบแบบนี้มันยิ่งทำให้เขารู้สึกอยากเอาชนะใจเธอให้ได้
"เราควรจะเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้คุยกันดีมั้ย"
"เปลี่ยนเป็นอะไรคะ"
"ผมจะแทนตัวเองว่าพี่ แล้วคุณอยากแทนว่าอะไร"
"เอ่อ...หวานค่ะ น่าจะถนัดที่สุดแล้ว"
"แล้วพี่เรียกว่าเราได้มั้ย"
"เอาที่พี่หมอถนัดเลยค่ะ"
น้ำหวานส่งยิ้มให้บางๆ ความเงียบเข้าปกคลุมรถอีกครั้งแต่คราวนี้เธอไม่ได้รู้สึกอึดอัดเหมือนแรกๆ เขาทำให้บรรยากาศในรถดูผ่อนคลายลง
"ใกล้จะถึงแล้ว พร้อมมั้ยครับ"
รอยยิ้มบางๆของเขาทำให้เธอเผลอยิ้มตามไปด้วย ดวงตากลมโตก้มลงมองมือที่จับกันไม่ยอมปล่อยของเขา
เอาวะ! ลองดูสักตั้ง
"ตัวพร้อม ใจพร้อมค่ะ"
น้ำหวานตอบปนขำพลางส่งยิ้มให้ ในเมื่อเธอตั้งใจจะศึกษาเขา เธอก็อยากให้เขาได้เรียนรู้ตัวตนจริงๆของเธอเช่นกัน
คนพี่หลุดหัวเราะเบาๆอย่างชอบใจ เขาชะลอรถก่อนจะเลี้ยวเข้าไปในทางลูกรังเล็กๆที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ น้ำหวานหันมองรอบๆด้วยความแปลกใจ หวังว่าคุณหมอคงจะไม่หลอกให้เธอตายใจแล้วฆ่าหมกป่าหรอกนะ
"เรามาถึงแล้วครับ Welcome to my world"
แสงไฟจากหน้ารถสาดส่องไปยังบ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ น้ำหวานมองด้วยความตื่นตะลึงไม่คิดว่าชานเมืองจะมีบ้านสวยขนาดนี้ตั้งอยู่แถมยังหลบสายตาผู้คนอีกด้วย
"สวยจังค่ะ บ้านพี่หมอเหรอคะ"
เอ่ยถามโดยที่ดวงตาเป็นประกายยังคงจดจ้องไปยังบ้านหลังใหญ่ ในสมองมีแต่คำว่าสวยเต็มไปหมด ทั้งดีไซน์ โทนสีและการจัดแต่งสวนเล็กๆบริเวณบ้าน
"ใช่ครับ เป็นที่ที่พี่ชอบมาพักผ่อน เวลาที่ต้องการหนีจากความวุ่นวาย"
อาคินตอบกลับไปตามตรงเพราะนอกจากจะเรียนหมอแล้วบางครั้งเขายังต้องเข้าประชุมร่วมกับพี่สาว แพทย์หญิงเอญา ตั้งเจริญกิจสกุล มือหนาดับเครื่องยนต์ก่อนจะหันมามองคนน้อง
"ลงไปกันครับ อากาศข้างนอกดีมากๆ" ร่างสูงเปิดประตูลงจากรถก่อนจะเดินอ้อมไปอีกฝั่งแล้วเปิดประตูให้น้ำหวาน "พี่รับรองว่าเราต้องชอบที่นี่"
แสงจันทร์สาดส่องลงมายังบ้านพักตากอากาศ ทำให้สถานที่แห่งนี้ดูโรแมนติกขึ้นมาทันที หญิงสาวรู้สึกเหมือนตัวองหลุดเข้าไปในโลกอีกใบ โลกที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวของเขา
"พี่หมออยู่ที่นี่กับใครเหรอคะ"
เสียงหวานเอ่ยถามในขณะที่เจ้าตัวกวาดสายตามองไปรอบๆอีกครั้ง จู่ๆก็รู้สึกชอบที่นี่จนอยากจะอยู่ตรงนี้นานๆ
"จริงๆเป็นบ้านของครอบครัวครับ ส่วนใหญ่พี่อยู่คนเดียวแต่บางทีก็มีแมวจรผ่านมาบ้าง"
อาคินหัวเราะเบาๆก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือเรียวอีกครั้งและพาเดินไปตามทางเดินที่ปูด้วยหิน
"คืนนี้ก็มีแค่เราสองคนครับ" ร่างสูงชะงัก ก่อนจะหันมองหน้าน้ำหวานด้วยสายตาที่ซ่อนความซุกซนเอาไว้ไม่มิด "หรือว่าเราอยากให้มีคนอื่นอยู่ด้วย"
ถ้าตอบว่าใช่! เขาจะตลกเธอไหมนะ อย่างน้อยถ้ามีแม่บ้านหรือใครอยู่บ้างเธอจะได้ไม่ฟุ้งซ่านถึงเรื่องเมื่อคืน
"ที่นี่เห็นดาวชัดจัง"
น้ำหวานเลี่ยงที่จะตอบคำถามโดยการเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแทน แสงดาวระยิบระยับทำให้เธอส่งเสียงพึมพำออกมาเบาๆอีกครั้ง
"สวยมากๆเลย"
แม้จะรู้ว่าเธอหลบเลี่ยงคำถามแต่เขาก็ยังคงยิ้มก่อนจะก้าวเข้าประชิดร่างบาง ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงจนลมหายใจอุ่นๆ เป่ารดต้นคอของเธอ ก่อนจะกระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบา
"สวยจริงๆ...แต่ไม่สวยเท่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพี่หรอก"
"เราโอเคใช่มั้ย"อาคินเอ่ยถามหลังจากที่ทั้งคู่ขึ้นมาอยู่บนเพ้นท์เฮ้าส์เรียบร้อยแล้ว ร่างสูงยืนซ้อนคนตัวเล็กที่กำลังเท้าคางมองท้องฟ้าอยู่ตรงระเบียงห้อง"โอเคค่ะ หวานแค่คิดอะไรนิดหน่อย"น้ำหวานตอบกลับพลางเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มบางๆให้คนพี่ เธอยังจำสายตาของพริ้งพลอยที่มองมาได้ดี สายตาของความมุ่งมั่นแต่ปิดซ่อนความเสียใจเอาไว้ไม่มิด ได้แต่หวังว่าบทเรียนราคาแพงครั้งนี้จะทำให้พริ้งพลอยเลือกที่จะรักตัวเองมากขึ้น"คิดอะไรครับ บอกพี่ได้มั้ย""ก็กำลังคิดว่า..." เว้นวรรคประโยคก่อนจะหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับคนพี่ ดวงตาคู่สวยซุกซนจนอาคินเกิดอาการมันเขี้ยว "คุณพริ้งพลอยเค้าปักใจรักอะไรพี่หมอมากขนาดนี้"เธอไม่รู้หรอกว่าพริ้งพลอยปักใจรักอะไรในตัวหมออาคิน แต่ถ้าถามเธอใช้เวลาสามวันก็คงจะบรรยายไม่หมด น้ำหวานกวาดสายตามองใบหน้าหล่อเหลาอย่างพินิจพิจารณา ใบหน้าที่ไม่ว่าเธอจะมองกี่ครั้งก็ยังหาข้อติติงไม่เจอ"เรื่องนั้นพี่ตอบไม่ได้หรอกครับ แล้วหวานไม่อยากรู้บ้างเหรอว่าอะไรที่ทำให้พี่ปักใจรักหวานมากขนาดนี้"อาคินจ้องมองคนในอ้อมแขนด้วยสายตากรุ้มกริ่ม เขาไม่อยากจะสนใจเรื่องของคนอื่นอีกแล้ว หลังจากนี้เขาอยากจะโฟกัสแค่เ
บ้านสินธปกรณ์บรรยากาศในห้องอาหารเต็มไปด้วยความชื่นมื่น วันนี้อาคินพาครอบครัวเข้ามารับประทานมื้อเย็นกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวสินธปกรณ์เพื่อจะได้คุยเรื่องการหมั้นหมายอย่างเป็นทางการชยทัตและแทนคุยกันเรื่องตลาดทองในช่วงสัปดาห์นี้ น้ำหอมกับธีรยากำลังคุยกันเรื่องสีมงคลที่ควรจะใช้ในงานหมั้นส่วนน้ำหวานกำลังเริ่มสอบสวนหมออาคิน"พวกเค้าสนิทกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"เธอขึ้นดอยไปแค่ไม่กี่เดือนทำไมดูเหมือนอะไรๆจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วเหลือเกิน ยิ่งภาพที่แทนคุยกันอย่างสนิทสนมกับชยทัตเป็นอะไรที่หาดูได้ยากมาก"ไม่รู้สิครับ พี่ก็ขึ้นไปอยู่บนดอยกับเรานะ""ไม่ค่อยน่าไว้ใจเลยค่ะ""เดี๋ยวนี้ไม่ไว้ใจพี่แล้วเหรอ""เมื่อก่อนก็ไม่ไว้ใจค่ะ แค่ไม่ได้บอก"น้ำหวานหลุดหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นสีหน้าของคนพี่ที่มองมาทางเธออย่างคาดโทษ ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆโต๊ะก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ ถ้าถามว่าใครคือผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก เธอก็อยากจะส่งชื่อตัวเองเข้าชิงรางวัลเพราะนอกจากจะมีแฟนดี ครอบครัวแฟนดีแล้ว ทั้งสองครอบครัวยังเข้ากันได้ดีอีกด้วย"กับข้าวยังอร่อยเหมือนเดิมเลยนะคะ"ธีรยาเอ่ยชมหลังจากที่ทานอาหารเสร็
"หม่าม้าคะ หวานมีเรื่องจะปรึกษาค่ะ"น้ำหวานเดินเข้าไปหาน้ำหอมที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่น เธอนั่งคิดนอนคิดเรื่องนี้มาตลอดทั้งคืน"เรื่องอะไรลูก"ผู้เป็นแม่หยิบรีโมตขึ้นมากดปิดโทรทัศน์ ดูเหมือนละครเรื่องนี้ของเธอจะดูไม่จบสักที กดเปิดดูปุ๊บลูกสาวก็มีเรื่องปั๊บตั้งแต่เมื่อวาน"เรื่องพี่หมอค่ะ"มองหน้าผู้เป็นแม่ด้วยสายตามุ่งมั่น ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องที่หมออาคินโทรมาเมื่อคืนให้ฟัง เขาทำให้เธอฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ อยากจะรู้ความจริงแต่ก็ยังไม่พร้อมที่จะคุยกับเขา"ม้าขอถามอะไรหน่อย เค้าเคยบอกรักหวานมั้ย นอกจากการกระทำต่างๆ ที่ผ่านมา ม้ายังไม่ได้ยินหวานเล่าให้ฟังเลยว่าเค้าบอกรักหวานตอนไหน"คำถามจากน้ำหอมทำให้เด็กสาวชะงักไป มากสุดก็คงผู้ว่าชอบเธอ แต่ไม่เคยมีคำสารภาพรักตรงๆ"ไม่เคยค่ะ""จากที่ม้าดูนะ ที่เค้าไม่บอกไม่ใช่เพราะว่าเค้าปากหนักหรอก แต่ก่อนหน้านี้เค้าไม่รู้ตัวต่างหากว่ามันเรียกว่าความรักตั้งแต่เมื่อไหร่""ทำไมม้าถึงคิดแบบนั้นคะ"คนที่ดูแพรวพราวและช่ำชองในเรื่องความรักอย่างเขาน่ะเหรอที่จะไม่รู้ใจตัวเอง แต่จะว่าไปตัวเธอก็ไม่ได้มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองเท่าไหร่นักจนเกิ
วิชัยรับคำอย่างว่าง่าย เขาเปิดไฟเลี้ยวพลางส่องกระจกมองหลังแล้วเลี้ยวรถเข้าไปรถข้างๆ รถกระบะ 4 ประตู ISUZU D-Max Hi-Lander สีดำ"พี่หมอมีธุระเหรอคะ""แค่แป๊บเดียวครับ"ทันทีที่รถจอดสนิทอาคินก็ลงจากรถเดินเข้าไปหาพนักงานผู้ชายสองคนซึ่งนั่งรออยู่ข้างๆรถกระบะคันดังกล่าว"สวัสดีครับ ผมอาคินที่สั่งรถเอาไว้""อ่อ สวัสดีครับคุณลูกค้า" พนักงานหนุ่มทั้งสองคนรีบยกมือไหว้ทันที "ผมรบกวนคุณลูกค้าตรวจเช็ครถและเซ็นเอกสารตรงนี้ให้หน่อยนะครับ"อาคินเดินสำรวจรถคร่าวๆก่อนจะเซ็นเอกสารท่ามกลางความสงสัยของน้ำหวานกับวิชัยและความจริงก็กระจ่างเมื่อหมอหนุ่มเดินกลับมาพร้อมยื่นกุญแจรถให้ลุงวิชัย"รถคันใหม่ครับ ไว้ใช้งานในหมู่บ้านน่าจะสะดวกกว่า""มะ มะ หมอให้ลุงเหรอ"วิชัยเกิดอาการติดอ่างขึ้นมาทันที ไม่คิดว่าอาคินจะซื้อรถยนต์คันใหม่ป้ายแดงให้เขา มันมากเกินกว่าจะเขาจะรับไว้"ใช่ครับ คันที่ลุงขับอยู่นี่เลิกใช้ไปเถอะครับ มันไม่ปลอดภัยเลย"น้ำหวานมองคนตรงหน้าด้วยความอึ้งไม่แพ้กัน ก่อนจะระบายยิ้มออกมาบางๆ ถึงเขาจะดูเหมือนกับไม่ค่อยสนใจอะไรแต่จริงๆแล้วหมอหนุ่มเป็นคนที่ค่อนข้างจะใส่ใจคนรอบตัว"ลุงรับไว้ไม่ไหวหรอกครับ มันแ
ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้าไปจูบปากที่บวมเจ่ออย่างอดใจไม่ไหว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเธอจุดไฟในตัวเขาได้เสมอ“แบบนี้ชอบไหม”อาคินกระซิบถามพลางยื่นมือลงไปจับล็อกเอวบางก่อนจะกระแทกท่อนเอ็นยักษ์เสยขึ้นไปจนมิดลำ หมอหนุ่มขยับกระชั้นถี่ตามความปรารถนาที่พุ่งขึ้นสูง เขาตอกอัดใส่เธออย่างเร่าร้อน สายตาคมเลื่อนขึ้นสบตากับดวงตาคู่สวยที่ตอนนี้ดูเลื่อนลอยพอๆกับสติ“แรงๆ แบบนี้ชอบมั้ยครับ”ถามพลางกระแทกกระทั้นตอกอัดใส่ร่องรักที่ฉ่ำแฉะ น้ำหวานที่ได้ยินคำถามก็หน้าแดงซ่านแต่ก็ยอมตอบกลับเขามาอย่างเอาอกเอาใจ“ชอบค่ะ...ชะ...ชอบมาก”ตอนนี้ความเสียวซ่านถาโถมใส่จนเธอไม่ทันตั้งรับ สัมผัสอันเกิดจากความรู้สึกซึ่งประสานเป็นหนึ่งเดียวกันนั้นสร้างความสุขได้อย่างล้นหลามปึก ปึก ปึก!เขาแทบจะบ้าคลั่งจนทนไม่ไหว!“อ๊า~...พี่หมอ”น้ำหวานครางเสียงหลงเมื่อมือใหญ่ช้อนลงใต้ก้นกลมกลึงแล้วจับเธอหมุนตัวกลับไปอีกฝั่งก่อนจะรั้งขาเธอขึ้นแนบอกจนตัวลอย อาคินเร่งจังหวะตอกอัดท่อนเอ็นใส่ร่องรักอย่างรุนแรง ดิบเถื่อนร่างบางจิกลงบนแขนแกร่งของเขาทั้งสองข้าง เพียงต้องการหาทางระบายความกระสันจากการกระทำที่รุนแรงของเขา “สะ...เสียวเกินไป”เมื่อร่า
"ว๊าย!"มือหนาสอดเข้าใต้รักแร้ร่างบางก่อนจะอุ้มขึ้นมานั่งบนตักของตัวเอง อาคินจัดการเลื่อนเบาะรถถอยหลังไปจนสุดก่อนจะรั้งท้ายทอยของน้ำหวานลงมาจูบจูบที่เริ่มต้นช้าๆ ปลุกเร้าความต้องการด้วยลิ้นที่แทรกเข้ามา ริมฝีปากนุ่มของทั้งสองแนบชิดคลอเคลียไม่ห่าง เธอพยายามแทรกปลายลิ้นไล้ไปตามส่วนต่างๆ ราวกับจะเอาคืนลิ้นของชายหนุ่มร่างกายของน้ำหวานสั่นเทิ้มด้วยความปรารถนาระหว่างที่ริมฝีปากแนบประกบ สัมผัสของเขามักจะทำให้หัวใจของเธออ่อนยวบลงทุกครั้ง"จูบกี่ครั้งก็ยังหวานเหมือนเดิมเลย"เสียงแหบพร่ากระซิบชิดใบหู ปลายลิ้นเล็มเลียติ่งหูแผ่วเบา ก่อนจะวกกลับมาที่ริมฝีปากอวบอิ่มจูบเร่าร้อนเริ่มขึ้นอีกครั้ง เรียวลิ้นอุ่นชื้นของทั้งคู่เกี่ยวกระหวัดรัดรึงอย่างไม่มีใครยอมใคร มือหนาเริ่มฟ้อนเฟ้นไปทั่วเรือนร่างเย้ายวน อุณหภูมิในร่างไต่ระดับขึ้นตามแรงกระตุ้น จนคนน้องรู้สึกวูบวาบขึ้นสมองปลายจมูกของเขาค่อยๆ ซุกไซ้ลงมาที่ซอกคอพร้อมกับลมหายใจถี่กระชั้น ฝ่ามือใหญ่ไล้ไปตามผิวเนื้อที่สั่นเทาน้อยๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปตามสีข้าง เอว จนถึงระหว่างขา"อื้มมมม~"เสียงหวานครางในลำคอพลางยกแขนเรียวขึ้นคล้องคอแกร่ง น้ำหวานเคลิบเคลิ้มไป